คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.สันติบาล จัดโครงการสร้างจิตสำนึก” รุ่นที่ 4 ประจำปี 2568 ณ รร.ยางชุมวิทยา ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (18 มิ.ย. 2568) เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.กฤษฎา จิณะไชย รองสารวัตร กก.4 บก.ส.1 และหัวหน้าสถานีตำรวจจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดกิจกรรมอบรม “โครงการสร้างจิตสำนึก” รุ่นที่ 4 ประจำปี 2568

ณ โรงเรียนยางชุมวิทยา ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมี นายนพพล เสียงกล่อม ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายก อบต.หาดขาม, กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่

เข้าร่วมกิจกรรม มีนักเรียนเข้าร่วมอบรมจำนวน 120 คน เนื้อหาการอบรมเน้นให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ มีวินัย และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความรับผิดชอบ

กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เคลื่อนที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข แก่ประชาชน และกิจกรรมปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์

แชร์เนื้อหานี้

วันที่( 18 มิ.ย.68 ) เวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนบ้านนาดง ตำบลนาดง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดโครงการ ปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการจังหวัดบึงกาฬเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

โดยมีนายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ นายภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วย นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด ฝ่ายปกครองอำเภอปากคาด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ และพี่น้องประชาชนชาวอำเภอปากคาด เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ได้รวมพลังกล่าวคำปฏิญาณถวายความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จังหวัดบึงกาฬ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอนุญาตจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัติยราชนารี ให้เป็นจังหวัด พอ.สว. ลำดับที่ 54 ในปี พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จังหวัดบึงกาฬ

จึงได้จัดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการจังหวัดบึงกาฬเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ โรงเรียนบ้านนาดง ตำบลนาดง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ เพื่อให้ความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลป้องกันโรค ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัย รวมถึงการนำบริการต่าง ๆ

จากภาครัฐและภาคเอกชน ไปให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ให้ได้รับบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และทั่วถึง โดยมีกิจกรรม เช่น การมอบสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค และทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส การออกหน่วยบริการแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. หน่วยบริการของส่วนราชการ/หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน การออกเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและฐานะยากจนในพื้นที่

นายภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ในนามของหัวหน้าชุดหน่วยแพทย์ พอ.สว. กล่าวว่า การปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ในวันนี้ เป็นการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เพื่อให้บริการประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ ที่ห่างไกลสถานบริการสาธารณสุข ได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยให้บริการ ด้านการรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค บริการทันตกรรม และการแพทย์แผนไทย การเข้าถึงบริการสาธารณสุข

ประชาชนในพื้นที่ตำบลดงบัง และหมู่บ้านใกล้เคียงเมื่อมีการเจ็บป่วย จะเดินทางไปรับบริการที่โรงพยาบาลปากคาด และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาดง ปัญหาด้านสุขภาพส่วนใหญ่ของประชาชน พบว่า ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไข้หวัด โรคเบาหวาน โรคผิวหนัง ปัญหาสุขภาพช่องปาก และฟัน เป็นต้น ซึ่งการออกปฏิบัติงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนสนใจรับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป 17 ราย บริการทันตกรรม 23 ราย บริการแพทย์แผนไทย 27 ราย และกายภาพบำบัด 25 ราย

บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก(self test) 10 ราย บริการคัดกรองภาวะซึมเศร้าและให้คำปรึกษา 9 ราย และรับผู้ป่วยเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 1 ราย รวมผู้รับบริการทั้งหมด 111 ราย และมีเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย ประชาชนทุกคน มีความซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตาให้ปวงประชามีสุขภาพดี ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎร โดยทรงจัดให้มีหน่วยแพทย์ พอ.สว.ไปบำบัดความทุกข์จากโรคภัยและดูแลสุขภาพของประชาชน ในท้องถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการออกบูธประชาสัมพันธ์และการจำหน่าย สินค้า OTOP สินค้าการเกษตรจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคในราคาที่เป็นธรรมอีกด้วย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล ผู้สื่อข่าวบึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดแล้ว! น้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ เล่นสไลเดอร์ธรรมชาติสนุก บรรยากาศดี สัมผัสธรรมชาติสีเขียว เล่นน้ำตกเย็น ๆ ถ่ายรูปชิค ๆ ได้หลายมุม

แชร์เนื้อหานี้

ชวนเที่ยวบึงกาฬจะพลาดน้ำตกถ้ำพระไม่ได้เลย โดยเฉพาะใครที่ยังไม่เคยมาที่นี่ แนะนำเลย อยากให้มาสัมผัสธรรมชาติที่นี่สักครั้ง มานั่งเล่นก็ได้ มาถ่ายรูปหรือจะมาเล่นน้ำตก อ้ายฉิงมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกก็นานมากแล้ว เลยมาเยือนอีกครั้งกับคุณเพื่อนสนิทเช่นเดิม

พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศเล็ก ๆ น้อย ๆ มารีวิวให้ทุกท่านได้ตามรอยกัน ความโดดเด่นของน้ำตกนี้คือมีสไลเดอร์ธรรมชาติด้วย เล่นได้จริง สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ว่าที่อ้ายฉิงไปล่าสุดมันก็ต้นหนาวแล้ว น้ำค่อนข้างน้อยแต่ยังสวยอยู่

การมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ จะไม่สามารถขับรถไปถึงได้เลย จะต้องนั่งเรือเข้าไป ซึ่งจะต้องไปขึ้นเรือตามท่าเรือต่าง ๆ จะมีท่าเรือ 1 ท่าเรือ 2 จะขึ้นท่าไหนก็ได้ตามสะดวกเลย ในบริเวณท่าเรือจะมีที่จอดรถฟรี มีบริการห้องน้ำฟรี และถ้าหิวก็มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม กินก่อนค่อยนั่งเรือเข้าน้ำตกก็ได้

สำหรับครั้งนี้บ่าวบึงกสฬขึ้นที่ท่าเรือ 2 จะมีค่าขึ้นเรือ คนละ 50 บาท จะไม่รวมกับค่าเข้าอุทยาน ฯ นะ จะต้องไปจ่ายอีกรอบเมื่อเข้าสู่เขตอุทยาน ฯ

เนื่องจากน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ มีอีกชื่อคือน้ำตกถ้ำพระภูวัว ตั้งอยู่ในเขตของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว นั่นเอง ค่าเข้าก็ไม่แพงอะไร เด็ก 20 บาท/คน ผู้ใหญ่ 30 บาท/คน เด็กชาวต่างชาติ 200 บาท/คน และ ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 400 บาท/คน ตามป้ายเลย

การเตรียมตัวเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ จ.บึงกาฬ หาข้อมูล ณ วันที่จะไปก่อนว่าน้ำตกเปิดให้เข้าเที่ยวชมได้หรือไม่ เพราะอาจมีบางช่วงเวลาที่ทางอุทยานปิดเพื่อความปลอดภัยและฟื้นฟูธรรมชาติ เตรียมงบค่าใช้จ่าย เช่น ค่านั่งเรือ ค่าเข้าอุทยาน ฯ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ วางแผนให้พร้อม

หากจะเล่นน้ำตก ควรเตรียมชุดให้พร้อมและเล่นในจุดที่เจ้าหน้าที่อนุญาตเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย อยากจะมีภาพความประทับใจกลับไป ก็หามุมถ่ายภาพได้ตามสะดวกเลย ควรปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของอุทยาน ฯ ให้ดี ห้ามอะไรก็ไม่ควรทำ เช่น ห้ามก่อไฟ ห้ามพกอาวุธ ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง ห้ามเข้าเที่ยวหลังเวลากำหนด ฯ เป็นต้น

กินข้าวให้อิ่มท้องก่อนเข้าไป ในน้ำตกไม่มีร้านขาย แต่พกน้ำเข้าไปด้วย เวลาหิวจะได้จิบได้ บางวันแดดร้อนมาก ๆ ทากันแดดให้เพียงพอ เพราะแดดแรงไม่เบาเหมือนกัน และใช้กันแดดที่ไม่เป็นภัยต่อธรรมชาติด้วยจะดีมาก
หากมีขยะติดตัวเข้าไปในน้ำตกควรถือติดตัวออกมาทิ้งข้างนอกที่ถังขยะทุกครั้ง

การเดินทางมาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ เวลาจะมาเที่ยวปักหมุดท่าเรือก็ได้ เพราะถ้าหากปักหมุดน้ำตกเลย รถก็เข้าไปไม่ถึงอยู่ มันจะต้องนั่งเรือก่อน เดี๋ยวบ่าวบึงกาฬจะปักหมุดท่าเรือไว้ให้ด้วย เผื่อใครจะตามรอยจะได้ไม่ยากเลย วิ่งตาม GPS ไปเลย ถึงแน่นอน ไม่มีหลงทาง

GPS น้ำตก: https://maps.app.goo.gl/SRMkMcC1g2MUPVoTAGPS ท่าเรือ: https://maps.app.goo.gl/wNDu6Ew1id8xT9u4Aเวลาทำการ : 08.00 – 17.00 น.ที่ตั้ง : อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ.ถ้ำพระ ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬสอบถามข้อมูล ท่าเรือ 2
– คุณน้อย 087-9511717
– คุณจิ๋ว 098-6468808

ข่าว/ภาพ ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล จ.บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / น่านเปิดบ้านต้อนรับคาราวานตามรอยตำนาน 17 จังหวัดภาคเหนือ

แชร์เนื้อหานี้

น่าน–วันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 18.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเทวราช จังหวัดน่าน ได้มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะ “คาราวานตามรอยตำนาน 17 จังหวัดภาคเหนือ” โดยมีนางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการกล่าวต้อนรับและเป็นตัวแทนจากนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ภายในงานมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, หัวหน้าส่วนราชการ, นายสาธิต บุญทอง นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวน่าน, คณะคาราวาน และสื่อมวลชนจากหลายพื้นที่

นางวิไลวรรณ กล่าวต้อนรับด้วยความยินดี พร้อมแนะนำจังหวัดน่านว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์จากธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตเรียบง่าย โดยเฉพาะในช่วง Green Season ซึ่งเหมาะแก่การท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติที่เขียวชอุ่มและงดงามทั้งนี้ จังหวัดน่านยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองสร้างสรรค์ เมืองเก่าที่มีชีวิต สู่การเป็นเมืองมรดกโลก และยังได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ เช่น Green Destination Gold Award 2024 และ Best Tourism Village 2024


รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้กล่าวปิดท้ายด้วยความหวังว่าผู้ร่วมคาราวานจะได้รับความประทับใจจากการเดินทางครั้งนี้ และจะกลับมาเยือนเมืองน่านอีกในอนาคต บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง สะท้อนถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวน่านในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศคณะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดน่าน

ครั้งนี้ได้มาที่วัดภูมินทร์ซึ่งเป็นตำนานของปู่ม่านย่าม่านกระซิบรักบันลือโลก ทุกคนมาจะต้องามถ่ายรูปกับภาพของปู่ม่านย่าม่านกระซิบรัก พร้อมกับนั่งรถรางชมเมืองยามค่ำคืนที่มีสีสันยามค่ำคืนที่สวยงามและเยี่ยมชมสินค้า OTOP โรงงานผลิตเครื่องเงินดอยซิลเวอร์ที่อำเภอปัว ที่เป็นโรงงานผลิตเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดน่านเป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตเครื่องเงินและเป็นสินค้าส่งออกต่างประเทศสร้างรายได้อีกด้วย/ข่าว/พ.อ.พยอม บุญทร/ บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กฟผ.จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้า สู่ครู นักเรียน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ที่โรงเรียนบ้านอ่างทอง ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวัชระ ถาวรวงศ์ หัวหน้ากองพัฒนาศักยภาพชุมชน ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์โครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้ากับนักเรียน คณะครู โรงเรียนบ้านอ่างทอง

โรงเรียนบ้านสีดางาม โรงเรียนบ้านทุ่งตาแก้ว และโรงเรียนบ้านหินเทิน รวม 20 คน โดยมี นางสาวศิริพร โพธิ์งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านอ่างทอง เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม นายมหยศ โกศิน ตัวแทนจากศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียน ให้การต้อนรับ

ตามที่ กฟผ. มีภารกิจด้านการผลิตไฟฟ้าควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพชุมชนซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของ กฟผ. จึงได้มีแนวทางในการพัฒนาส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชน ร่วมกับหน่วยงานท้องที่ ท้องถิ่น เครือข่ายภาครัฐ และภาคประชาสังคมในพื้นที่

การจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการผูกผ้าและจับจีบผ้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้คณะครู และนักเรียน มีความรู้ในการผูกผ้า และจับจีบผ้าในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้คณะครู และนักเรียนนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ ประดับตกแต่งงานกิจกรรมของโรงเรียน

งานประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่น อาทิ งานรัฐพิธี งานมงคล และงานอวมงคลในพื้นที่ เพื่อลดรายจ่ายของหน่วยงาน และหากพัฒนาทักษะจนชำนาญจะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับตนเองได้ ทั้งยังเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ และ กฟผ. อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 12-13 มิถุนายน 2568

/////////////////

ข่าว. ณัฐธภพ พันสาย. / จ.ประจวบคีรีขันธ์. 0649646443 ฅนเหล็กมินิมาราธอนมอบรายได้ศิริราชมูลนิธิ สนับสนุนบริการการแพทย์เพื่อผู้ป่วยยากไร้

นายผดุงศักดิ์ ปราณอุดมรัตน์ (กลาง) ผู้จัดการทั่วไป สำนักการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารกลุ่ม บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เป็นตัวแทนองค์กรร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลฅนเหล็กมินิมาราธอน 2024 (SSI, TCRSS NS BlueScope, NS-SUS, JSGT, G Steel, GJS) มอบเงินรายได้จากการจัดกิจกรรมฯ แก่นางสาวโสพิศ ชัยเรือง รองหัวหน้าสำนักงาน ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนภารกิจการให้บริการการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ พัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการบริการการแพทย์ของโรงพยาบาล และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้พอเพียงและทันสมัย ณ ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็วๆนี้
    
กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอน จัดขึ้นในรูปแบบจิตอาสาและการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และประชาชนทั่วไป เพื่อนำรายได้จากการจัดกิจกรรมมอบช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับการพัฒนาความสามารถ และดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างแข็งแกร่ง มีองค์กรร่วมจัดประกอบด้วยพันธมิตรในอุตสาหกรรมเหล็ก 7 องค์กร ได้แก่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) บริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ็นเอส-สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด บริษัท เจเอฟอี สตีล กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) และบริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน)
    
จากการดำเนินกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 รวมจำนวน 16 ครั้ง สามารถนำรายได้จากการจัดงานช่วยเหลือองค์กรการกุศลที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสแล้ว 40.5 ล้านบาท

////////////////

ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงาน 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อำเภอยิ้มเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน / กฟก.น่าน โอนโฉนดที่ดินและมอบโฉนดที่ดินให้เกษตรกร อ.เมืองน่าน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 10 มิถุนายน 2568 สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อย นำโดยนางสาวน้ำทิพย์ สิทธิ เกษตรอำเภอนาน้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อย เข้าร่วมอำเภอยิ้มเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน เพื่อพัฒนาการใช้บริการเชิงรุกของอำเภอให้มีคุณภาพตามมาตราฐานการบริการประชาชน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข

และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ทั้งนี้สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อยได้ดำเนินการชี้แจงข้อราชการต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ และสอบถามปัญหาความต้องการของประชาชน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานร่วมกัน

พร้อมทั้งจัดบูธประชาสัมพันธ์การขึ้นทะเบียนเกษตรกร แจกเมล็ดพันธุ์ผัก รวมถึงสารชีวภัณฑ์บริการให้แก่ประชาชนที่มาเข้าร่วมงานดังกล่าว ณ โรงเรียนประกิตเวชศักดิ์ ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน

เรื่องและเรียบเรียง /นางสาวบัณฑิตา เผือทะนา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ภาพ/ข่าว/เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อย
/บุญยงค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

กฟก.น่าน โอนโฉนดที่ดินและมอบโฉนดที่ดินให้เกษตรกร อ.เมืองน่าน วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. นางณัติกานต์ บุญเจริญ หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟู​และพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดน่าน ได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมอบโฉนดที่ดินคืนให้เกษตรกรอำเภอเมืองน่าน จำนวน 1 ราย เป็นโฉนดที่ดิน จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 58.4 ตารางวา ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดน่า ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดน่าน ได้ชำระหนี้แทนเกษตรกรให้กับสถาบันเจ้าหนี้ สหกรณ์​การเกษตรเมืองน่าน จำกัด

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2556 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 125,796.23 บาท โดยทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันได้โอนตามกฎหมาย เป็นของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เกษตรกรได้ทำสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สินคืนจากกองทุนฯ ระยะเวลา 10 ปี ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรได้ชำระเงินคืนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรตามสัญญาและปิดบัญชีขอไถ่ถอนหลักประกันคืนจากกองทุนฯ ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว สนง.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดน่าน จึงได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและมอบหลักประกันคืนให้กับเกษตรกร เพื่อเก็บรักษาไว้ต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดน่านรายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ครบุรีจัดใหญ่งานทุเรียน ครั้งที่ 3เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและหาช่องทางให้เกษตรกร

แชร์เนื้อหานี้

อำเภอครบุรีกำหนดจัดงานทุกเรียนครบุรี @ต้นน้ำมูลครั้งที่ 3 ขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอครบุรี ดึง อบจ.นครราชสีมา ร่วมงาน สนับสนุนจัดงานด้านกลุ่มชุมชนผู้ปลูกทุเรียนเฮได้จุดจำหน่ายทุเรียนดังของอำเภอครบุรี พร้อมย้ำจุดยืนรวมตัวเพื่อต่อรองกับพ่อค้า-ลังไม่กดราคา
นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน “ทุเรียนต้นน้ำมูลโคราช@ครบุรี ครั้งที่ 3”

เปิดเผยว่าอำเภอครบุรีเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานและบึงเป็นที่ของสายน้ำสำคัญของต้นน้ำมูล ที่ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก ภายใต้ชื่อกลุ่ม ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ปัจจุบันในพื้นที่มีเกษตรกรปลูกทุเรียนหลากสายพันธุ์กว่า 3,500 ไร่ และเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก เพราะทุเรียนครบุรีมีรสชาติกลิ่นอ่อน เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น” มีเส้นใยน้อย ปลูกในพื้นที่ดินแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของอำเภอครบุรี ซึ่งสายพันธ์ที่ปลูกจะมีหมอนทอง ก้านยาว มูซีนคิงส์ นกหยิบ พวงมณี และชะนีไข่

นายอำเภอครบุรี กล่าวต่อไปอีกว่า ดังนั้นทางอำเภอจึงได้ร่วมมือกับเกษตรกร องค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น ได้กำหนดการจัดงาน “ทุเรียนต้นน้ำมูลโคราช@ครบุรีขึ้น ในระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอครบุรี ซึ่งจะมีกิจกรรมอาทิ การประกวดทุเรียนคุณภาพ การแข่งขันการกินทุเรียน การแข่งขันส้มตำลีลา การจำหน่ายทุเรียนจากชาวสวน กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน การออกร้านจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรของอำเภอครบุรี ตนจึงอยากเรียนเชิญพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง

ได้มาร่วมชมงานและเลือกซื้อทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่อำเภอครบุรีที่ความอร่อยที่ไม่เหมือนที่ใดๆ ได้มาลองชิมภายในงานครั้งนี้นายพีรวัฒน์กล่าว
ทางด้าน นายชัยวัฒน์ ชู้กระโทก รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่าตนในนามของ ดร.ยลลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่อำเภอครบุรีที่มีการทำสวนทุเรียนเป็นจำนวนมากจึงช่วยสนับสนุนงบประมาณกว่า 200,000 บาท มาช่วยการจัดงานทุเรียนครบุรีในครั้งนี้เพื่อให้ชาวสวนทุเรียนได้มีตลาดจัดจำหน่ายทุเรียนคุณภาพของดีของจังหวัดนครราชสีมา

ด้าน สจ.สุชชีพ ชีระชลสุข สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา อำเภอครบุรีเขต 2 กล่าวว่าตนในฐานะผู้ประสานในพื้นที่อำเภอครบุรีเล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนและพืชอื่นๆ อาทิ มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย ขนุน มะม่วง และพืชผักอื่นๆ อีกมากมายเพราอำเภอครบุรีมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์พืชผลทางการเกษตรมีหลากหลาย การส่งเสริมการจัดงานของดีครบุรีกับการจัดงานทุเรียนครบุรี@ต้นน้ำมูลในครั้งนี้ตนได้ของบประมาณกว่า 200,000 บาท เพื่อมาสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ จาก ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตนเล็งเห็นว่าจะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนจะได้มีพื้นที่จำหน่ายทุเรียนคุณภาพดี สร้างรายได้เข้าอำเภอและเข้าจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

นายประยูร ทองบอน กำนันตำบลสระว่านพระยาและประธานชมรมผู้ปลูกทุเรียนอำเภอครบุรีกล่าวว่าตนได้รวมกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนจำนวนหลายร้อยสวนตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนอำเภอครบุรีเพื่อช่วยเหลือกับให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันพร้อมทั้งหาตลาดและจุดจัดจำหน่ายทางการตลาดสู่ตลาดทั่วประเทศอีกทั้งยังเป็นการร่วมตัวกัน เพื่อไม่ได้ “ล้ง” หรือกลุ่มพ่อค้านายหน้ามากดราคาทุเรียนหน้าสวนและการจัดงานในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการหาลู่ทางจำหน่ายทุเรียนของอำเภอ ครบุรีที่มีคุณภาพดีสู่สายตาพี่น้องประชาชนทั่วประเทศนายประยูร กล่า

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โครงการเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา เขตที่ 16

แชร์เนื้อหานี้

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้มอบหมายให้ศูนย์ประสานงานเขตตรวจราชการที่ 16 โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน

โครงการเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา เขตตรวจราชการที่ 16 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษาในด้านความปลอดภัย การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลนักเรียนและส่งเสริมให้ครูสามารถถ่ายทอดความรู้ไปยังนักเรียน เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

การอบรมครั้งนี้มีครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเข้าร่วม จำนวน 180 คน จาก 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ครอบคลุม 14 เขตพื้นที่การศึกษา โดยการอบรมแบ่งออกเป็น 2 รุ่น
ได้แก่ รุ่นที่ 1 วันที่ 1 มิถุนายน 2568 จำนวน 90 คน
และรุ่นที่ 2 วันที่ 2 มิถุนายน 2568 จำนวน 90 คน

โดยนางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน ผู้อำนวยการเขตตรวจราชการที่ 16 ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นประธานในพิธีเปิด ณ ห้องประชุมโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน การอบรมครอบคลุมตั้งแต่การปฐมพยาบาลเบื้องต้นการกู้ชีพพื้นฐาน และการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังมีการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จำลอง

เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้ารับการอบรม จะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น โครงการนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในสถานศึกษาของไทย ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง

เรียนดีมีความสุข #สพฐ #สพม #น่าน #สพมน่าน #SESAONAN #ทีมน่านการศึกษา #NanOneTeam/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ข้าวแกงปักษ์ใต้“ครัวนายหนัง”ประกาศไม่ปรับราคาแม้เศรษฐกิจดิ่งเหว

แชร์เนื้อหานี้

ร้านข้าวแก้งครัวนายหนัง จังหวัดนครราชสีมา สู้กับพิษเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง วัตถุดิบปรับราคา แต่ร้านตนขอประกาศว่าไม่ขอปรับราคายังขายข้าวแกงจานละ 40 บาท และต้มจืดถ้วยละ 10-20 บาท เท่านั้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนคนมีรายได้น้อย

นายสุรพล จันทรชูเดช เจ้าของร้านครัวนายหนัง 4 สาขา ที่จังหวัดนครราชสีมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนเปิดร้านขายข้าวแกงปักใต้มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ที่จังหวัดนครราชสีมา

โดยชื่อ “ครัวนายหนัง” มาจากการเอาชื่อของพ่อตาที่เป็นชาวจังหวัดชุมพร มาตั้งแต่ทำอาชีพฉายหนังตะลุง ซึ่งสาขาแรกเปิดที่ตำบลหมื่นไวย สาขาที่ 2 ในโรงพยาบาลมหาราช สาขาที่ 3 ที่ปั้มบางจากติดกับตลาดเซฟวันและสาขาที่ 4 ภายในศูนย์ป่าไม้ติดกับสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษานครราชสีมา

นายสุรพลกล่าวต่อไปว่าในสภาวะเศรษฐกิจแย่และตกต่ำกับค่าครองชีพที่สูง แต่ตนขอขายข้าวแกงในราคาเดิมคือจานละ 40 บาท และต้มจืดถ้วยละ 10 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและบุคคลทั่วไปที่มีกำลังซื้อน้อยทั้งๆ ที่ค่าวัตถุดิบมี

ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ตนและครอบครัวว่าช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเอาแต่รายได้น้อยๆ ก็เพียงพออยู่ได้ในสภาวะเศรษฐกิจถดถ้อยแบบนี้ แต่คุณภาพยังเหมือนเดิมทุกประการ เพราะที่นี่คัดแต่วัตถุดิบดีๆ มีคุณภาพ สะอาดปลอดภัย พิถีพิถันในการปรุงทุกๆ ขั้นตอน ทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมากทุกๆ วัน

เจ้าของร้านครัวนายหนังกล่าวต่อไปอีกว่า ข้าวแกงที่ทางร้านทำส่วนหนึ่งจะเป็นอาหารทางภาคใต้ และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นอาหารทางภาคกลาง อาทิเช่น หล่นปูทะเล คั่วกลิ้ง น้ำพริกกะปิ แกงส้ม แกงเขียวหวาน ต้มยำขาหมู ไก่คั่วพริกเกลือ

ผัดวุ่นเส้น ผัดคะน้าหมูกรอบ หมูพะโล้ แกงแพนงหมู และอื่นๆ อีกมากมาย ที่นี่รับรองความอร่อยปรุงรสชาติจัดจ้าน ขอเชิญมารับชิมรสได้ที่สาขาปั้มบางจากเลยตลาดเซฟวันมาเพียง 300 เมตรเท่านั้น นายสุรพลกล่าว

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ขนส่งน่าน จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เชิญชวนร่วมประมูลทะเบียนรถเลขสวย หมวดอักษร “กท”

แชร์เนื้อหานี้

สำนักงานขนส่งจังหวัดน่าน นำโดย นางสาวรัชนี ศรีชัยตัน ขนส่งจังหวัดน่าน จัดกิจกรรมขบวนแห่รถรางประชาสัมพันธ์รอบเมืองน่าน เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมประมูล ทะเบียนรถเลขสวย หมวดอักษร “กท” ซึ่งมีความหมายมงคล “การงาน

ก้าวหน้า การค้ามั่งมี เศรษฐีทวีทรัพย์” สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รวมทั้งสิ้น 301 หมายเลข ที่การประมูลจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรม น่านตรึงใจ โดยรายได้จากการประมูลจะนำเข้าสมทบ กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้พิการที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุทางถนน


โดยนางสาวรัชนี ศรีชัยตัน ขนส่งจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า แผ่นป้ายทะเบียนรถเลขสวย จำนวน 301 หมายเลข ถือเป็นแผ่นป้ายทะเบียนแห่งความเป็นสิริมงคล เนื่องจากสำนักงานขนส่งจังหวัดน่านได้นำแผ่นป้ายประมูลทะเบียนรถเลขสวย 301 หมายเลขเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์หลวง (สวดมนต์ตั๋น) เสริมสิริมงคล

ณ พระวิหารหลวง ตลอดเจ็ดวันเจ็ดคืน ในงานสมโภชประเพณีหกเป็งนมัสการพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง และรายได้จากการประมูลจะนำเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน ช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน และสมทบกองทุนการวิจัยการใช้รถใช้ถนนเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน

ทั้งนี้ได้เปิดประมูลผ่านระบบ ไฮบริด คือจัดการประมูลทางวาจาร่วมกับการประมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ท่านที่สนใจร่วมประมูลผ่านอินเทอเน็ต ระบบเปิดให้ลงทะเบียนร่วมประมูลได้ทุกวันตลอด 24ชั่วโมง ลงทะเบียนออนไลน์เข้าร่วมประมูลทาง www.tabienrod.com ลงทะเบียนด้วยตัวเองที่สำนักงานขนส่ง ทั้ง 3 แห่ง กำหนดจัดงานปิดประมูล ในวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่โรงแรมน่านตรึงใจ

สำนักงานขนส่งจังหวัดน่านขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลทะเบียนรถเลขสวยในครั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน พร้อมรับทะเบียนเลขมงคลที่มีความหมายดี เป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำนักงานขนส่งจังหวัดน่านโทรศัพท์ 054-716047 สาขาอำเภอปัวโทรศัพท์ 054-791251 สาขาอำเภอเวียงสา โทรศัพท์ 054-719321 กปถ.น่านโทรศัทพ์หรือไลน์ ID LINE : 0992946599 เพจ FACEBOOK : ประมูลทะเบียนรถเลขสวยน่าน /บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน