สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว จัดกิจกรรม “ปั่นขึ้นภู ดูหินสามวาฬ บึงกาฬพาเลาะ” โดยชมรมจักรยานทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 500 คน

แชร์เนื้อหานี้

ชมรมจักรยานจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ “ปั่น

ขึ้นภู ดูหินสามวาฬ บึงกาฬพาเลาะ มีจุดเริ่มต้นที่ถนนข้าวเม่าริมโขง ถึงแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัด คือ หินสามวาฬ รวมระยะทางไปกลับ 63 กิโลเมตร

โดยมีนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ, รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ, หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมปล่อยตัวนักปั่นจากชมรมจักรยานของ

จังหวัดต่าง ๆ กว่า 500 คน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพสร้างความรักในธรรมชาติ และกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในจังหวัดบึงกาฬ ในช่วงวันหยุดยาวนี้ด้วย

นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า กิจกรรม “ปั่นขึ้นภู ดูหินสามวาฬ บึงกาฬพาเลาะ” เป็นมากกว่าการปั่นจักรยาน เพราะเป็นการเชื่อมโยงผู้คนกับพื้นพื้นที่

เชื่อมหัวใจกับภูเขา เชื่อมวิถีชุมชนกับโลกภายนอก ผ่านเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามบนพื้นฐานของความยั่งยืน สู่จุดหมายปลายทางที่เปี่ยมด้วยพลังอย่าง “หินสามวาฬ” หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งศรัทธาและความภาคภูมิใจของชาวบึงกาฬ

การรวมพลังของนักปั่นจากทุกสารทิศ จึงเป็นภาพสะท้อนของความร่วมมือที่เข้มแข็ง ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาจังหวัด และความห่วงใยในสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของพี่น้องประชาชน ซึ่งล้วนสอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อน Soft Power ด้านการท่องเที่ยว และเป้าหมายของแผนพัฒนาจังหวัดบึงกาฬ

จึงขอขอบคุณชมรมจักรยานจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ และหัวหน้าส่วนราชการทุกท่านที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ ตลอดจนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันทำให้กิจกรรมนี้เกิดขึ้นอย่างสร้างสรรค์ และงดงาม

สำหรับหินสามวาฬ เป็นกลุ่มหินอายุกว่า 75 ล้านปี ซึ่งอยู่ภายในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู จังหวัดบึงกาฬ เป็นหน้าผาหินทรายขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายกับวาฬสามตัว พ่อแม่ลูก จึงได้ชื่อว่า หินสามวาฬ เป็นจุดแลนด์มาร์กที่สำคัญของจังหวัด

และถือเป็นสัญลักษณ์ของครอบครัวด้วย นอกจากนี้ จะมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยหากมองจากหินสามวาฬ เราจะเห็นสวนยาพารา แม่น้ำโขง ภูเขาควายฝั่ง สปป.ลาว รวมถึงหากมาเที่ยวในช่วงเช้า จะได้ชมดวงอาทิตย์ขึ้น และรับแสงแรกของวันจากที่นี่ด้วย

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล/บึงกาฬ