สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมุทรปราการ ส่ง อส.ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน หาดใหญ่ จ.สงขลา / รอง นายก อบจ. ลงพื้นที่ตรวจประตูน้ำ เตรียมเดินหน้าโครงการก่อสร้างประตูน้ำใหม่

จังหวัดสมุทรปราการ ส่งกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสมุทรปราการ ปล่อย

แถวกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 12 นาย เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ให้โอวาทแก่ สมาชิก อส.ที่ไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของจังหวัดสมุทรปราการว่า ขอปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ เพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด และปฏิบัติภารกิจด้วย

ความระมัดระวังคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและของตนเอง และขอให้การเดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ของสมาชิก อส.จังหวัดสมุทรปราการมีความปลอดภัย และขอให้การเดินทางกลับมีความปลอดภัยเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น

นอกจากนี้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ โดยนางสาวอรวรรณ ชิณศรี นายกล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ ได้ตั้งจุดรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ โดยมี หน่วยงานราชการ ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินและสิ่งของ อาทิ น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง

อาหารพร้อมรับประทาน นม นมผงสำหรับเด็ก แพมเพอร์ส สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่ไม่สะดวกบริจาคเป็นสิ่งของ สามารถบริจาคเป็นเงิน ผ่านบัญชีสภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ประเภทบัญชี กระแสรายวัน เลขที่บัญชี 045 3 04637 0 โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

รอง นายก อบจ. ลงพื้นที่ตรวจประตูน้ำ เตรียมเดินหน้าโครงการก่อสร้างประตูน้ำใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ สองรองนายก อบจ. ลงพื้นที่ ตรวจสอบประตูระบายน้ำคลองบางโปรง ปัจจุบันเป็นระบบมือหมุนไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบายน้ำเพียงพอจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ ทดแทนประตูเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 นายสุนทร ปานแสงทอง นายกองค์บริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้มอบหมายให้ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายต่อศักดิ์ อัศวเหม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อม นายณรงค์ อินทร์พันธุ์ ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.สมุทรปราการ ตรวจดูแผนผังคลองต่างๆ ที่เชื่อมต่อคลองบางโปรง และประตูระบายน้ำ ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบประตูระบายน้ำคลองบางโปรง ตำบลบางโปรง อำเภอเมืองฯ

จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับนายเชาว์ สมใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางโปรง นายชโยดม นาคะปักษิณ รองนายก อบต.บางโปรง นายสัญญา ศุภรัตน์ ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.บางโปรง เพื่อเตรียมพร้อมในการรองรับและระบายน้ำในพื้นที่ตำบลบางโปรงและพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับ ประตูระบายน้ำคลองบางโปรงถือว่าเป็นอีกหนึ่งประตูน้ำที่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นประตูระบายน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างคลองบางโปรงกับคลองบางนางเกรง และคลองบางฝ้าย คลองบางหมูเชื่อมต่อมออกคลองบางด้วน

เพื่อช่วยในการระบายน้ำ ไม่ให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลบางโปรง ตำบลบางด้วน อำเภอเมืองสมุทรปราการ ตำบลบางหัวเสือ และถนนเส้นปู่เจ้าสมิงพราย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากประตูระบายน้ำคลองบางโปรงปัจจุบันนี้เป็นระบบมือหมุน

ไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบายน้ำเพียงพอจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำพร้อมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 5 เครื่องโดยมีอัตราการสูบน้ำเครื่องละ 4 ลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที ทดแทนประตูเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ “รวมใจช่วยภาคใต้” ส่งมอบน้ำดื่ม-อาหารแห้ง ขึ้นเที่ยวบินพิเศษ ส่งต่อกำลังใจและความห่วงใยถึงพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน


วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00 น. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน ร่วมส่งมอบน้ำดื่มตราสัญลักษณ์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จำนวน 834 แพ็ค (10,008 ขวด) พร้อมอาหารแห้ง ได้แก่ มาม่าคัพ 90 ลัง (6,480 ถ้วย) และยูโร่คัสตาร์ดเค้ก 37 ลัง (5,328 ชิ้น)

ณ บริเวณคลังสินค้าภายในประเทศการบินไทย ทสภ. ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเที่ยวบินพิเศษจากบริษัท พัทยา แอร์เวย์ จำกัด เพื่อลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง
ทสภ. ขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่อุทกภัย และพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสนับสนุนภารกิจบรรเทาสาธารณภัยต่อไป


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “มิสเตอร์เอทานอล-อลงกรณ์”เปิดพิมพ์เขียว10 เทคโนโลยีอุตสาหกรรมพลังงานใหม่แห่งอนาคตในเวที CHINA-THAI New Energy Forum ย้ำแผนพัฒนาพลังงานชาติเพิ่มเป้าพลังงานสะอาด 51%

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailandและผู้ก่อตั้งมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย ผู้ได้รับฉายา”มิสเตอร์เอทานอล”กล่าวปาฐกถาพิเศษในฟอรั่ม”พลังงานใหม่ จีน-ไทย“(China-Thai New Energy Forum) ณ TVA Hall สวนเสียงไผ่ โดย TVA China Venture ในเครือ TVA Corporation (สถาบันทิวา) ภายใต้การนำของ คุณชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธาน TVA ซึ่งมุ่งผลักดันบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนด้านพลังงานใหม่ของอาเซียน ผ่านเวทีการหารือเชิงลึกระหว่างภาคธุรกิจไทยและจีน ร่วมกับ New Energy Huangpu (ประเทศจีน) ที่มี Julia Zhu Lina เป็นประธาน โดยได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการเชื่อมโยงธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต

ในการนำเสนอของนายอลงกรณ์ ภายใต้หัวข้อ”อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ :โอกาส ความท้าทาย และความร่วมมือของบริษัทพลังงานใหม่ในประเทศไทย” ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (BIG TRANSFORMATION) โดยระบุว่าอุตสาหกรรมพลังงานใหม่จะเป็น “เครื่องยนต์ใหม่” (NEW GROWTH ENGINE) ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ เน้นย้ำเป้าหมายพลังงานสะอาดลดโลกเดือด

นายอลงกรณ์ ได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายระดับชาติของไทยในการรับมือกับภาวะโลกเดือด(Global warming)โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อย 40% ภายในปี 2030 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (CARBON NEUTRALITY) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (NET ZERO EMISSIONS) ภายในปี 2065
ปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนเป้าหมายนี้คือ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP ฉบับร่างใหม่)ต้องกำหนดเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้า 51% ภายในปี 2037

พิมพ์เขียว10 เทคโนโลยีพลังงานใหม่ประธานสถาบัน FKII Thailand ได้ชี้ถึง “โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น” (EMERGING OPPORTUNITIES) ในอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของไทย ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนที่น่าจับตามอง ได้แก่
1.ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และโครงสร้างพื้นฐาน การผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาค (EV HUB OF ASEAN) ภายใต้นโยบาย “30@30” พร้อมการลงทุนในสถานีชาร์จสาธารณะที่ปัจจุบันมีหัวชาร์จรวมกว่า 11,467 หัวชาร์จ
2.ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (BESS) เทคโนโลยีสำคัญที่มีเป้าหมายในร่าง PDP 2024 สูงถึง 10,485 เมกะวัตต์ (MW)
3.พลังงานแสงอาทิตย์ การสนับสนุนโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) รวมถึงการผลักดัน Direct PPA สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสะอาดเพื่อการส่งออก (RE100)
4.พลังงานไฮโดรเจน โดยกำหนดให้มีการเริ่มใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนผสมกับก๊าซธรรมชาติ (CO-FIRING) ตั้งแต่ปี 2030 เพื่อลดคาร์บอนในโรงไฟฟ้าเดิม
5.เทคโนโลยี Smart Grid และ VPP การอัปเกรดโครงข่ายไฟฟ้าให้รองรับการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ และโมเดล Virtual Power Plant (VPP)
6.เชื้อเพลิงชีวภาพ(Biofuel)และ SAF ไทยมีความพร้อมในการผลิตไบโอดีเซลและเอทานอล รวมถึงเชื้อเพลิงการบินยั่งยืน (SAF) จากวัตถุดิบ เช่น น้ำมันพืชใช้แล้ว (UCO)
7.อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
เปิดโอกาสในการลงทุนผลิตชิ้นส่วน POWER SEMICONDUCTORS ที่จำเป็นสำหรับอินเวอร์เตอร์ของ BESS และสถานีชาร์จเร็ว
8.เทคโนโลยีรีไซเคิลแบตเตอรี่
ประเทศไทยต้องการเทคโนโลยีและเงินลงทุนจากต่างประเทศเพื่อจัดตั้งโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ (BATTERY RECYCLING PLANTS)
9.เทคโนโลยี Fuel Cell เป็นโอกาสสำคัญในการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ และการใช้งานในภาคการขนส่งหนัก เช่น รถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่

  1. เทคโนโลยีประหยัดพลังงานอัจฉริยะ (Energy-saving Technologies)
    เช่นระบบระบายความร้อน (Cooling Systems) ใน Data Center และระบบควบคุมอัจฉริยะด้านความร้อน (Thermal Field Intelligent Control)และโซลูชัน AI และ IoT เพื่อควบคุมและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
    “ประเทศจีนพัฒนาก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมพลังงานใหม่อย่างมากโดยมีบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความเชื่อมั่นที่จะร่วมลงทุนและประกอบธุรกิจในประเทศไทยในสาขาต่างๆเช่น ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) โซเดียมแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ เทคโนโลยีประหยัดพลังงานอัจฉริยะเทคโนโลยี Fuel Cell พลังงานไฮโดรเจน ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่(BESS) ลิเธียมแบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์ Biofuel SAF Nanoscience&Nanomanufacturing รีไซเคิลแบตเตอรี่ Wet Electronic Hazardous Waste Thermal Field Intelligent Control ฯลฯโดยการนำของสถาบัน New Energy Huangpu (ประเทศจีน) ซึ่งได้ตกลงความร่วมมือกับเอฟเคไอไอ.และสถาบันทิวาเพื่อส่งเสริมการลงทุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคคลากรด้านพลังงานใหม่ระหว่าง2ประเทศในวาระ50ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน“
    นายอลงกรณ์ สรุปในตอนท้ายว่า
    กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการสร้างระบบนิเวศพลังงานใหม่มั่นคงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่วยลดก๊าซเรือนกระจกคือ “การร่วมมือ การมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน และการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง” ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของไทยและหุ้นส่วนทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ.

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่สำรวจยุทธศาสตร์แก่งผาได-บ้านดอนที่ แนวชายแดนเชียงราย

สืบเนื่องจากวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด และ พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 5 ได้ลงพื้นที่ สปป.ลาว เพื่อประสานความร่วมมืิอกับคณะผู้แทนระดับสูงของ สปป.ลาว ในการร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติด และตรวจเยี่ยมด่านน้ำเกิ๋ง และด่านปากทา ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการสกัดกั้นยาเสพติดในเส้นทางคมนาคมของ สปป.ลาว.

ในวันนี้ (22 พฤศจิกายน 2568) เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ได้ลงพื้นที่ แก่งผาได ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านปากทา สปป.ลาว เพื่อสำรวจสภาพภูมิประเทศ และหารือกับหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น พล.ต.สาธิต ไวยนนท์ ผบ.กกล.ผาเมือง พ.อ.ธนพันธ์ ขำทวี รอง ผอ.รมน.ภาค3 สย.2 พ.อ.สุพรรณ ร้อยพุทธ ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี ผบ.ฉก.ทพ.31 และ พ.ต.ณรงค์เวทย์ รัศมี หน.ฝขว. ให้การต้อนรับ และร่วมให้ข้อมูล

สำหรับ แก่งผาได มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางน้ำ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลักที่เชื่อมโยงแหล่งผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเพื่อเข้าสู่ประเทศไทย โดยหากกลุ่มขบวนการสามารถขึ้นฝั่งไทยได้แล้วจะเชืี่อมต่อถนนสายหลักที่มุ่งสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้ ที่ผ่านจึงพบกลุ่มขบวนการพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดอย่างต่อเนื่องผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยอาศัยความเอื้ออำนวยของสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่ารกทึบริมฝั่ง และในลำน้ำมีเกาะแก่ง โขดหิน ที่สามารถซ่อนเร้นจากการเฝ้าตรวจของเจ้าหน้าที่

จากนั้น เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ได้ลงพื้นที่ บ้านดอนที่ ม.3 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านน้ำเกิ๋ง สปป.ลาว โดยได้สำรวจสภาพภูมิประเทศ และหารือร่วมกับ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอุดม ปกป้อง นายอำเภอเชียงของ พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 31 นายเกษม ปันทะยม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง และนายเดชดำรง แก้วดำ ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนที่

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปัจจุบัน สปป.ลาว ได้ดำเนินการตามข้อตกลงในความร่วมมือสกัดกั้นยาเสพติด โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดเรียบร้อยแล้ว และมีผลปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมาก จึงมีข้อกังวลว่ากลุ่มขบวนการจะหลบเลี่ยงโดยลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงแม่น้ำโขงก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดเพื่อข้ามมาฝั่งไทย จึงผลักดันการดำเนินการ ดังนี้

  1. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุน ป.ป.ส. เพื่อทำการติดตั้งไฟส่องสว่างตามแนวลำน้ำโขงฝั่งตรงข้ามด่านน้ำเก๋ง เสริมประสิทธิภาพการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย
  2. ให้หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน ป.ป.ส. เพื่อก่อสร้างจุดตรวจจุดสกัดบริเวณดังกล่าว คู่ขนานกับ สปป.ลาว
  3. ให้ ปปส.ภาค 5 ร่วมกับจังหวัดเชียงรายและอำเภอเชียงของ สนับสนุนกิจกรรมการเดินเวรยามของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บริเวณริมแม่น้ำโขง เพื่อเสริมการดำเนินงานของหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน
    .
    ทั้งนี้ หากการดำเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จ การสกัดกั้นยาเสพติดตามลำน้ำโขงชายแดนภาคเหนือจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /“เทศกาลอาหารย่าง โคราช ครั้งที่ 18 Thailand BBQ FESTIVAL@KORAT 2025” ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน 5 วัน 5 คืน

“เทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 18 Thailand BBQ FESTIVAL@KORAT 2025” จัดยิ่งใหญ่กว่าเดิม พร้อมยกศิลปินดัง ระดับประเทศมาไว้ที่นี่ ฟรี! คอนเสิร์ต ตลอด 5 วัน 5 คืน ในรูปแบบใหม่ ในคอนเซ็ปต์ “ปิ้ง ม่วน ก๊วน ย่าง”

เมื่อวันที่ (26 พ.ย.68) หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จัดงาน เทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 18 (Thailand BBQ FESTIVAL@KORAT 2025) โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานใน พิธีเปิด พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และแขกผู้มีเกียรติจาก หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมงานอย่างคับคั่ง

นายไพจิตร มานะศิลป์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดงานเทศกาล อาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 18 จัดขึ้นเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคกลางคืนและต้องการให้เกิดเงิน หมุนเวียนในจังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้สนับสนุน จากบริษัท ห้าง ร้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก ผู้ให้การสนับสนุนหลัก ทั้งจังหวัดนครราชสีมา, การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย,ตำรวจ

ภูธรภาค 3,องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, เทศบาลนครนครราชสีมา, บริษัท ป้อมกิจ จำกัด,บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท ตลาดเซฟวัน จำกัด, และผู้ให้การสนับสนุนภาครัฐ และภาคเอกชนหลายหน่วยงานที่พร้อมใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนในจังหวัดนครราชสีมา ที่ให้ ความสำคัญของการจัดงานในครั้งนี้ รวมทั้งพี่น้องสื่อมวลชนทุกแขนง และที่ขาดไม่ได้คือความร่วมมือจากบรรดา ร้านค้า ผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมกิจกรรมทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดทุกท่าน

นายธงชัย ขอเพิ่มทรัพย์ ประธานจัดงานเทศกาลอาหารย่างครั้งที่ 18 กล่าวว่า การจัดงานประจำปี เทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 18 Thailand BBQ FESTIVAL@KORAT 2025 มาในรูปแบบใหม่ “ปิ้ง ม่วน ก๊วน ย่าง” (ZERO WASTE LOW CARBON) ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน และในการ จัดงานในครั้งนี้ทั้งผู้จัดและผู้เข้าร่วมงานจะได้มีส่วนร่วมในการช่วยการลดขยะ โดยการลดตั้งแต่ต้นทางเน้นการใช้ ทรัพยากรโดยไม่จำเป็น การใช้ซ้ำ และการคัดแยก เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่หรือการทำให้ของเหลือใช้หรือขยะ เหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยภายในงานมีให้ร่วมกิจกรรม ZERO WASTE LOW CARBON ให้ทุกคนมีส่วน ร่วม กิจกรรมร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัลต่างๆ

ในปีนี้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2568 ณ ตลาดเซฟวัน ขอเชิญทุกท่านมาชิม ขนม เครื่องดื่ม ฟังเพลง คาดว่า จะมีผู้เข้าชมงาน เกิดเงินสะพัดกว่า 50 ล้านบาท การแสดงบนเวที มีศิลปินชื่อดังระดับประเทศ อาทิ โพลิแคท จ๊ะ นงผณี ฟักกิ้งฮีโร่ Chamook Bom Siayer Purenessiy The Voice เป็นต้น นักท่องเที่ยวลุ้นรับรางวัล เช่น แจก บัตรภาพยนต์จากเครือเมเจอร์ บัตรที่พักจากโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ ต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา และรางวัลอื่นๆ มูลค่ามากกว่า 1 แสนบาท นายธงชัย กล่าว

กันตินันท์ เรืองประโคน/ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กกต.บึงกาฬ จัดประชุมชี้แจงการเลือกตั้ง อบต.-เทศบาล (กรณียกฐานะ) ผู้เข้าร่วม 39 แห่ง

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬ นำโดยนายไพรัต คัณทักษ์ ผู้อำนวยการฯ และนายดุลยวัฒน์ เสียงหวาน รองผู้อำนวยการฯ พร้อมคณะ

จัดประชุมชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง เฉพาะการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาล (กรณียกฐานะ)

การประชุมจัดขึ้นที่ห้องประชุมเดอะวันคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ โดยมีผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลเข้าร่วมรวม 39 แห่ง

สำหรับพิธีเปิดนายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้ นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดการประชุม

ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ภาพ/ข่าว ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชมรมโฮปฯ–วัดมหาวงษ์ ผนึกกำลังสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ ส่งต่อสิ่งของ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยสงขลา

ดร.ปิยนุช(หรือแนนซี่) พาณิชย์พิศาล นำทีมชมรมโฮปฯ พร้อมพระครูปลัดจริยวัฒน์ และภาคีเครือข่ายจิตอาสา รวมพลังส่งต่อสิ่งของจำเป็นกว่า 350 แพ็ค ช่วยชาวสงขลาที่กำลังเผชิญวิกฤตน้ำท่วม หวังบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ที่สำนักงานชมรมโฮป สะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา ภายในวัดมหาวงษ์ (ปากน้ำ) ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ดร.ปิยนุช(หรือแนนซี่)

พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปฯ พร้อมด้วยพระครูปลัดจริยวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ (ปากน้ำ) และเจ้าหน้าที่ชมรมโฮปฯ ร่วมเป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธา ส่งมอบสิ่งของเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลา

สำหรับสิ่งของที่นำมามอบให้แก่สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ ประกอบด้วย น้ำดื่มจำนวน 350 แพ็ค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง และผ้าอนามัย โดยทางสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการจะลำเลียงสิ่งของทั้งหมดไปยังพื้นที่ประสบภัยในวันเสาร์ที่จะถึงนี้

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในหลายอำเภอของจังหวัดสงขลาที่ยังคงเผชิญปัญหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง
การส่งต่อความช่วยเหลือในครั้งนี้ สะท้อนถึงพลังน้ำใจจากภาคประชาชนและเครือข่ายจิตอาสา ที่ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ

พระครูปลัดจริยวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ (ปากน้ำ) กล่าวว่า วัดร่วมกับชมรมโฮปฯ ร่วมกันบริจาคสิ่งของ อุปโภค บริโภค ไปช่วยผู้ประสบภัยในภาคใต้ ซึ่งเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ทำ
ดร.ปิยนุช(หรือแนนซี่) พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปฯ กล่าวว่า วันนี้ทางวัดมหาวงษ์ปากน้ำร่วมกับชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา และสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ\

ได้รับมอบของเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของจำเป็นต่าง ๆ เครื่องอุปโภค บริโภค จากประชาชนที่มาร่วมบริจาค และน้ำจากชมรมโฮปฯ 350 แพ็ค เราได้ส่งต่อให้ทางสมาคมกู้ภัยที่จะลงพื้นที่จังหวัดสงขลาภายในอาทิตย์นี้อย่างเร่งด่วนก็ส่งไปล็อตแรก เราก็ยังรอรับบริจาคเรื่อย ๆ เพื่อไว้สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่หาดใหญ่ และภาคใต้ ต่อไป


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โครงการขุดลอกแม่น้ำน่าน ตลอดลำน้ำ ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ บริเวณริมแม่น้ำน่าน บ้านแสงดาว ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงโครงการขุดลอกลำน้ำน่านเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง โดยวิธีการต่างตอบแทนไม่มีการใช้งบประมาณจากทางราชการ ซึ่งมี บริษัทผู้รับเหมา ห้างหุ้นส่วนจำกัด สรรเสริญการสร้าง เป็นผู้ดำเนินการโครงการขุดลอกลำน้ำน่าน

โดยใช้วิธีการต่างตอบแทน ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ แก้ไขปัญหาลำน้ำตื้นเขินและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่เมืองและชุมชนริมลำน้ำ โดยโครงการมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องทั้งในระยะที่ 1 และระยะที่ 2

สำหรับการดำเนินงานใน ระยะที่ 1 จังหวัดน่าน ได้จัดประชุมคณะทำงานเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 เพื่อกำหนดภารกิจและสำรวจพื้นที่ลำน้ำที่จำเป็นต้องขุดลอก ก่อนจะดำเนินการสำรวจแล้วเสร็จในวันที่ 20 มีนาคม 2568 ต่อมา กรมทางหลวงชนบทและกรมเจ้าท่าได้อนุมัติให้ดำเนินงานในวันที่ 12 และ 18 มิถุนายนตามลำดับ จากนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าของโครงการและเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ก่อนลงนามในสัญญากับผู้รับจ้างเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568

ขณะที่การดำเนินงานใน ระยะที่ 2 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในเขตเทศบาล มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยจังหวัดน่านได้ประชุมร่วมกับเทศบาล 11 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 21 แห่ง เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เพื่อรวบรวมข้อมูลปัญหาลำน้ำตื้นเขินและพิจารณาพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในเขตเมือง โดยแต่ละพื้นที่

ได้เสนอจุดที่มีปัญหาและแนวทางแก้ไข ทั้งด้านการระบายน้ำ จุดคับแคบของลำน้ำ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบซ้ำซาก ซึ่งจะถูกนำไปจัดทำแบบสำรวจและออกแบบโครงการอย่างละเอียด เทศบาลที่มีความพร้อมด้านข้อมูลจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันทีเมื่อได้รับงบประมาณสนับสนุน ทั้งนี้ จังหวัดน่านกำหนดประชุมติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เพื่อสรุปแนวทางดำเนินงานให้เป็นไปตามหลักวิชาการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

จังหวัดน่าน ยืนยันว่าโครงการขุดลอกลำน้ำน่าน โดยวิธีการต่างตอบแทน ทั้งสองระยะจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ลดความเสี่ยงจากอุทกภัย เสริมความปลอดภัยให้ประชาชน รวมถึงฟื้นฟูสภาพลำน้ำให้มีความสมบูรณ์และเป็นระเบียบมากขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐทุกระดับ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำของจังหวัดน่านอย่างยั่งยืนในระยะยาว/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/วิสุทธิ์ ศรีเมือง/ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปลัดอำเภอนำทีมบุกยึดไม้พะยูง 14 ท่อน ริมโขงหว้านใหญ่ มูลค่านับล้าน เตรียมลอบขนข้ามไปลาว

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 นายหมวดเอกวิชัย ทาธร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร

นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมกับ อส.อ.หว้านใหญ่ ร้อย.ร.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร้อย.ทพ.2105

และ สน.เรือมุกดาหาร นรข.เขตนครพนม เปิดปฏิบัติการตรวจค้นบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง บ้านบางทรายน้อย ตำบลบางทรายน้อย

อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร หลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงไม้พะยูงส่งข้ามไปยัง สปป.ลาว

เจ้าหน้าที่พบเรือเหล็กขนาดใหญ่ติดเครื่องยนต์จอดทิ้งไว้ เมื่อตรวจสอบภายในพบไม้พะยูงจำนวนหลายท่อนวางอยู่กลางลำเรือ นอกจากนี้บริเวณริมตลิ่งใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ 1 คัน

ถูกทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังตรวจค้นโดยรอบ ก่อนตรวจยึดไม้พะยูงรวม 14 ท่อน มูลค่านับล้านบาท ซึ่งคาดว่าถูกซุกซ่อนเตรียมลำเลียงข้ามแม่น้ำโขง แต่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าขัดขวางได้ทันเวลา

ยึดไม้พะยูง #ลอบขนข้ามโขง #มุกดาหาร #หว้านใหญ่ #ฝ่ายความมั่นคง #ปราบปรามตัดไม้ทำลายป่า #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////เดวิท – ธวัชชัย โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “มนพร” นำทัพเพื่อไทยบุกดงหลวง! เปิดตัว “นายกปุ๋ย” สู้ศึก ส.ส.มุกดาหาร เขต 2 มั่นใจคนรุ่นใหม่ครองใจชาวบ้าน สานต่อนโยบายพรรค

สนามการเมืองมุกดาหารระอุอีกครั้ง “มนพร เจริญศรี” อดีต รมช.คมนาคม นำทีมเพื่อไทยขึ้นเวทีโรงเรียนดงหลวงวิทยา เปิดตัว “นายกปุ๋ย-ปิยธิดา” เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางผู้สนับสนุนคับคั่ง

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารว่ามีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยที่โรงเรียนดงหลวงวิทยา อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร

นางมนพร เจริญศรี ส.ส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาเป็นประธานขึ้นเวทีปราศรัยพบปะพี่น้องประชาชน พร้อมทำพิธีเปิดตัว

นางสาวปิยธิดา บุตรกาล หรือ “นายกปุ๋ย” นายก อบต.โชคชัย เป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดมุกดาหาร เขต 2 ในนามพรรคเพื่อไทย

บนเวทีปราศรัย นางมนพร ได้กล่าวฝากฝัง “นายกปุ๋ย” กับพี่น้องชาวดงหลวงและเขต 2 มุกดาหาร โดยย้ำถึงความตั้งใจของพรรคที่ต้องการผลักดันคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามา

เป็นตัวแทนในการแก้ไขปัญหาปากท้องและพัฒนาพื้นที่ ซึ่งนางสาวปิยธิดา ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมทั้งวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ทำงานท้องถิ่น เป็นลูกหลานชาวมุกดาหารโดยกำเนิด

ด้าน นางสาวปิยธิดา บุตรกาล ได้กล่าวแนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ โดยระบุว่าตนจบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

และเคยผ่านงานบริหารท้องถิ่นมาแล้ว พร้อมยืนยันความตั้งใจที่จะเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนในฐานะ ส.ส. เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้เกิดผลจริงในพื้นที่

ทั้งนี้ การได้รับแรงสนับสนุนจากแกนนำพรรคคนสำคัญอย่างนางมนพร ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับฐานเสียงในพื้นที่เขต 2 (นิคมคำสร้อย, คำชะอี, หนองสูง, ดงหลวง) มากยิ่งขึ้น

เพื่อไทย #มุกดาหารเขต2 #นายกปุ๋ย #ปิยธิดาบุตรกาล #มนพรเจริญศรี #ข่าวมุกดาหาร #การเมืองมุกดาหาร #เลือกตั้ง2569 #ข่าววันนี้ #เมืองมุกดาหาร////ภาพ/ข่าว เดวิท – ธวัชชัย โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / MBK เซ็นเตอร์ ชู Musical Joyride แต่งต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลานสุดน่ารักที่หมุนรอบๆ ตัว สร้างรอยยิ้มให้คนไทยและทัวริสต์

เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาส บรรยากาศแห่งความสุขเริ่มอบอวลไปทั่วกรุงเทพฯ ด้วยแสงวิบวับของไฟประดับต้นคริสต์มาสและผู้คนที่ออกมาถ่ายรูปเช็คอินสัมผัสสีสันของฤดูกาล “ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์” ก็พร้อมเนรมิตพื้นที่แห่งความสุขร่วมสร้างช่วงเวลาพิเศษให้ผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เก็บเกี่ยวโมเมนต์แห่งความประทับใจกลับไปด้วยรอยยิ้ม ภายใต้กิจกรรม MBK Center Sparkling Happiness ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นในคอนเซปต์ Musical Joyride มีการตกแต่ง ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน สีสันสดใสน่ารัก สื่อถึง “ความสุขที่หมุนอยู่รอบๆ ตัวของทุกคน เต็มไปด้วยความสนุกแสนอบอุ่นโอบกอดทุกคนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี สร้างแรงบันดาลใจและความหวังในการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในปีใหม่ที่กำลังมาถึง”

โดยในปีนี้ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ ศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ นางสาววิยดา อมรวัฒนคุณชัย หรือ Jumbo Jan ที่มีเอกลักษณ์ลายเส้นน่ารักทันสมัย มีผลงานปรากฏบนโซเชียลมีเดียและงานแสดง Illustration Fair ต่าง ๆ มาร่วมรังสรรค์ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน ในคอนเซ็ปต์ Musical Joyride สูงตระหง่านกลางลาน Sky Walk ด้านล่างของต้นคริสต์มาสเป็น เครื่องเล่นม้าหมุนไขลาน สีสันสดใสที่หมุนไปมาอย่างมีชีวิตชีวา เสมือนกล่องดนตรีขนาดใหญ่แห่งความสุข ม้าบางตัวเคลื่อนไหวโยกขึ้นลงได้ราวกับมีชีวิต รายล้อมด้วยม้าที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน โน้ตดนตรี และคำอวยพรที่เปี่ยมไปด้วยความหมายดี ๆ เช่น Happiness, Blissful, Merry เพื่อส่งต่อความปรารถนาดีให้แก่ผู้มาเยือน ยังมีตัวอักษร “MBK” ขนาดใหญ่ ติดตั้งอย่างโดดเด่น สื่อถึงความเป็นแลนด์มาร์กแห่งความสุขใจกลางกรุงเทพฯ ส่วนด้านบนของต้นคริสต์มาสประดับด้วย แกนไขลานขนาดใหญ่หมุนไปมาอย่างนุ่มนวล สื่อถึงพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่และความสุขที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ยอดของต้นคริสต์มาสประดับด้วยดวงดาวเรืองแสง ที่หมุนได้รอบด้าน สะท้อนแสงระยิบระยับงดงามในยามค่ำคืน เพิ่มเสน่ห์และชีวิตชีวาให้กับแลนด์มาร์กแห่งนี้

ในพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสสุดตระการตา MBK Center Sparkling Happiness Light Up Ceremony ผสมผสานศิลปะ แสง สี เสียง และจังหวะดนตรีอย่างกลมกล่อม ไฮไลต์ของการแสดงสุดพิเศษของ วงดนตรีออเคสตร้า ที่บรรเลงบทเพลงแห่งความสุขอย่างอ่อนโยนและสง่างาม สร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความอบอุ่นหัวใจ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากพันธมิตรภาครัฐร่วมเปิดไฟต้นคริสต์มาสอย่างเป็นทางการ นำโดย นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร นางสาวพุทธชาด ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ดร.เกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอภิชาติ กมลธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายกฎหมาย บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ว่าที่ร้อยตรี ปราโมทย์ เลิศจิตรการุณ ผู้อำนวยการสำนักนันทนาการกรมพลศึกษา นางศุภพิชญาณ์ ชาวบางรัก ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และ นางสาวพิมลพันธุ์ ฤทธิบุญไชย หัวหน้าฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ หอศิลปกรุงเทพฯ ร่วมพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ยังมีเหล่าศิลปินคนดังร่วมส่งมอบความสุข นำโดย ภูมิ – เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ พระเอกหนุ่มมากความสามารถจากช่อง 7HD พิ้งค์พลอย – ปภาวดี ชาญสมอน นางเอกดาวรุ่งจากช่อง 7HD ที่เป็นที่รู้จักจากบทบาทหลากหลาย เล้ง – ณัฐพล และ แสตมป์ – พรวศิน จากซีรีส์ฮิต “ลอยแก้ว” และ “วัยซ่าส์ท้ามิติ” มาร่วมเฉลิมฉลองและสร้างสีสันภายในงาน เพิ่มความพิเศษให้ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นปีใหม่เปี่ยมด้วยความสุข ความอบอุ่น และความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมงาน

นางสาวพุทธชาด ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูกาลแห่งความสุขอีกครั้ง ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ขอต้อนรับทุกท่านด้วยผลงานสุดสร้างสรรค์ถ่ายทอดความสุขและความสนุกที่อยู่รอบ ๆ ตัว กับ ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน ในคอนเซปต์ Musical Joyride เพื่อส่งมอบความสุขและความอบอุ่นให้กับผู้มาเยือนในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งปีนี้ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้ร่วมงานกับศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณวิยดา อมรวัฒนคุณชัย หรือ Jumbo Jan เจ้าของลายเส้นสุดน่ารักและทันสมัย มาร่วมถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านงานออกแบบตกแต่งต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลาน ที่หมุนได้อย่างมีชีวิตชีวา ไม่เพียงแต่ความสดใสน่ารักให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงความสุขที่ไม่สิ้นสุดและพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่ หมุนเวียนพาความสุขกลับมาอีกครั้งในทุกปี เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จะเป็น “ใจกลางความสุข” ของผู้คนที่มาชมงาน จุดรวมพลังแห่งรอยยิ้มและความสุขที่หมุนรอบ ๆ ตัวของทุกท่าน ขอให้ม้าหมุนแห่งความสุขนี้หมุนเรื่องราวดี ๆ เข้ามาในชีวิตและให้ปีใหม่ที่กำลังจะถึงเป็นปีแห่งรอยยิ้มของทุกท่าน ก็ขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสและสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน และสร้างบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักในฤดูกาลท่องเที่ยวและเทศกาลส่งท้ายปีค่ะ”

ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จัดเต็มของขวัญส่งท้ายปีกับกิจกรรม SPARKLING HAPPINESS ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 ยกขบวนความสุข ดังนี้
LUCKY CHRISTMAS TREE ต้นคริสต์มาสไขลาน มอบของขวัญสุดพิเศษ เพียงกดรับสิทธิ์ผ่าน MBK PLUS พร้อมแสดงใบเสร็จใช้จ่ายตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569

CULTURAL SHOW ตื่นตากับศิลปวัฒนธรรมไทยที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนี้ วันที่ 25 ธันวาคม บริเวณลาน Sky Walk ตระการตาการแสดง “โขน” นาฏยศาสตร์แห่งแผ่นดิน วันที่ 29 – 31 ธันวาคม ชมเพลินเชียร์มันส์กับศิลปะแม่ไม้มวยไทย การแข่งขันของมวยคู่เอก เดือดทุกคู่ในกิจกรรม MBK Center Muay Thai Fight Night

MUSICAL JOYRIDE ความสุขผ่านเสียงเพลงและความบันเทิงทั่วศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พบกับซานต้ากับผองเพื่อนที่จะนำความสุขไปส่งมอบให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยว ในกิจกรรม Orchestra & Santa ระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคม และ ความบันเทิงขั้นสุดกันแบบข้ามปีกับกิจกรรม Musical Troop ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 – วันที่ 1 มกราคม 2569 นอกจากนี้ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และ ศูนย์การค้าในเครือ (พาราไดซ์ พาร์ค, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์) จัดโปรโมชันฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี “SPARKLING HAPPINESS” #เทศกาลแห่งความสุขช้อปสนุกรับปีใหม่ เมื่อช้อปหรืออิ่มในศูนย์ฯ ลุ้นรางวัลรวมกว่า 7.6 ล้านบาท* ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 – วันที่ 4 มกราคม 2569 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ช้อปลุ้นโชค เพียงสะสมใบเสร็จช้อป-อิ่มในศูนย์ฯ ผ่าน LINE Official Account @mbkplus หรือจุดประชาสัมพันธ์ ครบทุก 1,000 บาท* รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 ที่พัก Dusit Thani Krabi Beach Resort (3 วัน 2 คืน) จำนวน 2 รางวัล (มูลค่า 34,000 บาท/ รางวัล) รางวัลที่ 2 บัตรกำนัลศูนย์ฯ มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท จำนวน 4 รางวัล

ช้อปรับเลย รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ รวมสูงสุด 300 บาท* รับฟรี บัตรกำนัลศูนย์ฯ มูลค่า 100 บาท* เมื่อช้อป-อิ่มในศูนย์ฯ ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด และ รับฟรี Sparkling Joyride Travel Set Exclusive by JUMBO JAN 1 เซต จำนวน 4 ใบ* (มูลค่า 3,500 บาท) เมื่อช้อป – อิ่ม ในศูนย์ฯ ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด
พิเศษเฉพาะศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และ พาราไดซ์ พาร์ค สำหรับสมาชิก Ocean Life ใช้ 1,000 OCHI COIN แลกรับบัตรกำนัลศูนย์ฯ 100 บาท (จำกัด 2 สิทธิ์ / หมายเลขบัตร / ตลอดรายการ, จำกัดรวม 100 สิทธิ์ / ตลอดรายการ)
สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ อาทิ พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ttb รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ สูงสุด 500 บาท* เมื่อใช้จ่ายครบตามเงื่อนไข* สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต GSB, KTC, ttb แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13 %*
โปรโมชันเฉพาะสมาชิก MBK PLUS เท่านั้น!! เมื่อสมัครสมาชิก MBK PLUS เพื่อรับสิทธิ์ใช้โปรโมชัน เพียงแค่เพิ่มเพื่อน LINE Official Account @mbkplus

ด้านศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ นางสาววิยดา อมรวัฒนคุณชัย หรือ Jumbo Jan ผู้ร่วมรังสรรค์ต้นคริสต์มาสกล่องดนตรีม้าหมุนไขลานกล่าวถึงความรู้สึกว่า “การได้ร่วมงานกับ MBK ถือเป็นความฝันของชีวิตเลยค่ะ เพราะแจนและครอบครัวผูกพันกับ MBK มาตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกวันอาทิตย์จะมาดูหนังและทานข้าวที่ MBK เสมอ พอวันนี้ได้มีโอกาสสร้างสรรค์งานตกแต่งต้นคริสต์มาสกับทางศูนย์ฯ ก็รู้สึกมีความสุขมาก ๆ และทางทีมงาน MBK ทุกคนก็น่ารักและใจดีมาก สามารถแปลงจากลายเส้นของแจนให้กลายเป็นผลงานชิ้นใหญ่ได้อย่างน่าประทับใจ ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ”
“ในปี 2569 เป็นปีนักษัตรม้า (มะเมีย) เลยใช้ theme เป็นม้าหมุนแห่งความสุข ต้นคริสต์มาสมีม้าที่มีลายแตกต่างกันอยู่ 8 ตัว ซึ่งนับเป็นเลขมงคล ม้า 8 ตัวเป็นตัวแทนของความสุขทั้ง 8 อย่าง ได้แก่ ความร่ำรวยมีสุข สุขภาพมั่งคั่ง การงานมั่นคง ครอบครัวสุขสันต์ มิตรภาพดีงาม ความรักบริบูรณ์ จิตใจสงบเย็น และ การเติบโตไม่หยุดนิ่ง รวมถึงการนำพาความเจริญทั้ง 8 ทิศมาสู่ลูกค้า ผู้ค้า และ ศูนย์การค้า MBK ในงานเทศกาลครั้งนี้ขอส่งมอบความสุขและความหวังดีให้ทุกคนนะคะ ขอให้ม้าหมุนแห่งความสุขนี้ หมุนเรื่องราวดี ๆ เข้ามาในชีวิตของทุกคนจากรอบทิศทางเลยนะคะ”

ห้ามพลาด!! สัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขแสนอบอุ่นเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ชมไฟประดับต้นคริสต์มาส Musical Joyride ที่เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ทั้งพาราไดซ์ พาร์ค เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 และ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ พร้อมของขวัญส่งท้ายปีกับโปรโมชันแคมเปญมากมาย สุดเอ็กซ์คลูซีฟดีไซน์น่ารักที่มีกลิ่นอายผลงานของ Jumbo Jan ศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศกับ Sparkling Joyride Travel Set Exclusive by JUMBO JAN
ติดตามกิจกรรมและโปรโมชันดี ๆ ของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้ที่ https://www.mbk-center.co.th/ หรือ เฟซบุ๊กเพจ mbkcenterth อินสตาแกรม mbkcenter

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง