มีรายงานการแข่งขันกีฬาฟุตซอล ในการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 รอบคัดเลือกระดับภาคตะวันออก “ตากสินระยองเกมส์” จัดโดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เจ้าภาพจัดการแข่งขันที่อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนอนุบาลนานาชาติตากสินระยอง เป็นการแข่งขันฟุตซอลนักเรียนหญิงอายุไม่เกิน 12 ปี ทีมฟุตซอลเทศบาลเมืองหนองปรือ พบกับทีมฟุตซอล อบจ.ระยอง แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ครึ่งๆ ละ 15 นาที
สุดท้ายจบการแข่งขันไปสุดสนุก ทีมเทศบาลเมืองหนองปรือเอาชนะทีม อบจ.ระยองไป 1-0 ด้วยการยิงของหนูน้อยต้นอ้อ รวิ หอมชื่น สไตรค์เกอร์ตัวความหวังของทีม ทำให้เก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จก่อนแข่งขันกับทีมเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายในครั้งต่อไป
พัทยาจับมือภาคีเครือข่าย จัดงานแถลงข่าว “CPR on the Beach” ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเมืองท่องเที่ยว
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จ.ชลบุรี ดร.พิเรษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ, พญ.ปิยาภรณ์ ทิพยะรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา, นายประสิทธิ์ ทองทิตย์เจริญ ประธานมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา และ ดร.ศิวัช บุญเกิด รองปลัดเมืองพัทยา ร่วมงานแถลงข่าวโครงการอบรมจิตอาสากู้ชีพฉุกเฉิน “CPR on the Beach” ร่วมแถลงข่าวโครงการดังกล่าว ซึ่งมี ร.ต.อ.หญิงพรพนา โชคไทย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
สำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เมืองพัทยา ร่วมกับโรงพยาบาลเมืองพัทยา มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดงานแถลงข่าว ประชาสัมประสัมพันธ์โครงการอบรมจิตอาสากู้ชีพฉุกเฉิน “CPR on the Beach” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 15.00 – 19.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา เพื่อสร้างจิตอาสาด้านการช่วยชีวิตเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะภาวะหัวใจหยุดเต้นหรือหยุดหายใจเฉียบพลัน ซึ่งการทำ CPR จะช่วยรักษาการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังสมองและอวัยวะสำคัญได้อย่างทันท่วงที
การอบรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 2,000 คน จากหลากหลายกลุ่มอาชีพ รวมถึงนักเรียนและนักศึกษา เพื่อให้มีทักษะและความเข้าใจในการปฏิบัติจริง สามารถช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ทันเวลา เสริมภาพลักษณ์เมืองพัทยาในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่ “อุ่นใจ ปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง”
วิริยะประกันภัย มอบหมวกนิรภัยให้นักเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลหนองปลาไหล ส่งเสริมวินัยการใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลหนองปลาไหล จ.ชลบุรี นายยศพงศ์ ลินทอง นายกเทศมนตรีตำบลหนองปลาไหล พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับ ผู้แทนจากบริษัท วิริยะประกันภัย นำโดย นายพงษ์ทิวา กฤษณพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 3 ที่ในวันนี้นำคณะจากบริษัท วิริยะประกันภัย ร่วมกิจกรรม
ตามที่อุบัติเหตุจราจรประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤตที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ปัจจัยสำคัญเกิดจากพฤติกรรมของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรม เมาแล้วขับ และ พฤติกรรมการขับขี่ หรือ ซ้อนรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ถือเป็นพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการสูญเสีย โดยจากการสำรวจพบว่าปัจจุบันอัตราการสวมหมวกกันน็อคในกลุ่มเด็กและเยาวชนมีเพียงร้อยละ 7
ซึ่งมีสาเหตุมากจา 2 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1. พ่อแม่ผู้ปกครองเลยไม่ใส่ใจ มีความเชื่อที่ว่าการนำลูกนั่งรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัยเป็นสิ่งที่ไม่อันตรายอะไร 2.การบังคับใช้กฎหมายกับเด็กและเยาวชนที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัยเป็นเรื่องที่ยากในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ และในทางปฏิบัติหวั่นเกรงเกิดปัญหากับภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายและกระแสต่อต้านจากสังคม เพื่อเป็นการต่อยอดการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมูลนิธิเมาไม่ขับจึงได้ร่วมกับ บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด จัดโครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสวมหมวกนิรภัย 100% ส่งเสริมการรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางถนนขึ้น
โดยในวันนี้ทางบริษัทวิริยะประกันภัยได้นำหมวกนิรภัย กว่า 150 ใบมามอบให้กับนักเรียนระดับชั้นอนุบาลเพื่อนำไปใช้ในการใส่มาโรงเรียนเพื่อเสริมความปลอดภัยในการเดินทางมาโรงเรียนอีกด้วย สำหรับโครงการดังกล่าวทาง บริษัทวิริยะประกันภัย และ มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการขึ้นมากว่า 30 ปีแล้วด้วยกัน
สืบภาค 2 จับมือ สสจ.ชลบุรี บุกจับคลินิกเถื่อนกลางพัทยาสุดอันตราย
ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.สส.ภ.2 และ นพ.กฤษณ์ สกุลแพทย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ที่สั่งกวาดล้างสถานพยาบาลและคลินิกเถื่อนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะในเขตเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา ซึ่งอาจก่ออันตรายถึงชีวิตหากได้รับการรักษาโดยผู้ไม่มีใบอนุญาต
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ย. พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2 พร้อม นายจิระสันต์ มีรัตน์ธนวัต เภสัชกรชำนาญการพิเศษ นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจสอบ เซ็นเตอร์ พัทยา คลินิกเวชกรรม เลขที่ 202/109 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าเปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และมี “หมอเถื่อน” เป็นผู้ทำการรักษา
ชุดสืบสวนวางแผนส่งตำรวจปลอมตัวเป็นผู้ป่วยเข้ารักษาอาการปวดท้อง แต่หมอภายในคลินิกมีท่าทีระแวงและปฏิเสธการรักษาโดยอ้างว่า “หมอไม่อยู่” เจ้าหน้าที่จึงปรับแผนใหม่ ส่งสายลับหญิงปลอมตัวเป็นสาวทำงานกลางคืนเข้ารักษาอีกครั้ง คราวนี้เมื่อสายลับส่งสัญญาณ ทีมตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่หมอเถื่อนไหวตัวทัน ถอดเสื้อกาวน์ ถอดรองเท้าคัชชู วิ่งหนีออกหลังร้าน ก่อนขับรถยนต์เผ่นหนีอย่างรวดเร็ว
จากการตรวจค้นภายใน พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างถูกดัดแปลงเป็นคลินิกเวชกรรม มีเคาน์เตอร์พยาบาล ห้องตรวจโรค และป้ายแสดงราคาค่ารักษา เหมือนคลินิกทั่วไป โดยตำรวจตรวจยึดยาอันตราย ยากล่อมประสาท และเครื่องมือแพทย์จำนวนมาก รวมถึงปฏิทินตั้งโต๊ะที่จดบันทึกรายรับรายวัน-รายเดือน ยอดรวมต่อเดือนสูงหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท
สอบสวนพบว่า คลินิกดังกล่าวเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และหมอที่ทำการรักษาเป็น “หมอเถื่อน” ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ขณะเดียวกัน เจ้าของตึกให้การว่า มีชายคนหนึ่งมาเช่าชั้นล่างเปิดคลินิก รู้เพียงว่าเป็นหมอ แต่ไม่ทราบว่าเป็นหมอปลอม จนกระทั่งตำรวจบุกจับถึงรู้ความจริง
หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า เคยมารักษาอาการท่อปัสสาวะอักเสบที่คลินิกแห่งนี้ถึง 4 ครั้ง หมอทำการฉีดยา ตรวจเลือดและปัสสาวะ พร้อมจ่ายยากลับไปกิน โดยคิดค่ารักษากว่า 6,000 บาท แต่กลับไม่หาย จึงนำผลตรวจไปให้แพทย์โรงพยาบาลดู ก่อนถูกชี้ว่า “ผลตรวจมั่วมาก” จึงสงสัยและมาทราบภายหลังว่าคลินิกนี้เปิดโดยหมอเถื่อน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายพรหมเทพ อายุ 46 ปี เป็นผู้ลักลอบเปิดคลินิกและแอบอ้างเป็นแพทย์ โดยคลินิกจะเปิดให้บริการช่วงบ่ายถึงเย็น กลุ่มลูกค้าหลักคือสาวทำงานกลางคืนและชาวต่างชาติ ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พร้อมฝากเตือนประชาชน หากมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในคลินิก ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต และแพทย์ผู้รักษามีใบประกอบวิชาชีพถูกต้อง โดยสามารถตรวจดูได้จากป้ายรายชื่อแพทย์ที่ติดอยู่หน้าห้องตรวจ และหากพบเบาะแสคลินิกเถื่อน สามารถแจ้งได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ในวันและเวลาราชการ