สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พิธีปิดโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติประจำปีงบประมาณ 2568

วันที่ 19 ส.ค.2568 ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำบลยั่งยืน ฯ หมู่ 1 บ้านไร่ใน ตำบลแสงอรุณอำเภอทับสะแกจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นายสิทธิพร คงหอม
นายอำเภอทับสะแกเป็นประธานในพิธีปิดโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2568

โดยมี พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.สหธัญ กำบิลดีลิราช รองผกก.ป.สภ.ห้วยยางพ.ต.ท.กฤษดา เหนี่ยวพึ่ง สวป.สภ.ห้วยยางพ.ต.ท.ทรงศักดิ์ รัศมีสว.อก.สภ.ห้วยยางน.ส.ณุกานดา จันทราภรณ์ สาธารณสุขอำเภอทับสะแก

นายสุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแสงอรุณ นายชาตรี วนิชวรสกุล ประธาน กต.ตร.สภ.ห้วยยางนาย บุญช่วย โพธิ์ทองผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านไร่ใน นาย ทิวา สุขอวบอ่องผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2บ้านแสงทอง

พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนจาก ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยาง กต.ตร.สภ.ห้วยยาง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านอาสาสมัครสาธารณสุข ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ประชาชนชุมชนบ้านไร่ใน และบ้านแสงทอง พร้อมผู้กล้า

ร่วมพิธีปิดโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2568 พร้อมมอบป้ายคุ้มสีขาว สมุดประจำตัวผู้บำบัด แฟ้มข้อมูล พร้อมมอบพื้นที่ส่งต่อความยั่งยืนให้กับชุมชนบ้านไร่ในหมู่ 1 และบ้านแสงทอง หมู่ 2 ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก

///////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รองผู้ว่าโคราช เร่งฟื้นฟูผู้ผ่านการบำบัดยาเสพให้มีรายได้ ตามแผนนโยบาย No Drugs No Dealers ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด

เมื่อวันที่(19ส.ค.68)นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีนำผู้ที่ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดในพื้นที่อำเภอบ้านเหลื่อม จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรมโครงการบำนาญประชาชน ปลูกต้นไม้เป็นเงิน

ออม ชีวิตใหม่เริ่มได้ทุกวัน ตามนโยบาย No Drugs No Dealers ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด เพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด ได้มีงานทำ มีรายได้ ต่อยอดอาชีพที่ได้รับการฝึกฝน จนสามารถหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้

นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการนำ 2 นโยบาย หลักของผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนโยบายบำนาญประชาชน ปลูกต้นไม้เป็นเงินออม และนโยบาย No Drugs No Dealers ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด มาต่อยอดเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูและฝึกอาชีพให้กับกับผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด

โดยยึดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การปลูกต้นไม้เศรษฐกิจ เพื่อให้มีรายได้ ซึ่งไม่เพียงแต่การปลูกต้นไม้เพื่อเป็นรายได้ ทางจังหวัดนครราชสีมาได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ดูแลผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติดทุกราย อย่างใกล้ชิด

โดยวางแนวทางในการช่วยเหลือผู้ทั้งการฝึกฝนอาชีพและการได้รับการศึกษา เพื่อที่บุคคลเหล่านั้นจะสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขไม่หันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป นายกิตติศักดิ์ กล่าว

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อลังการงานดีไซน์ “ชุดประจำชาติ” มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025

ยิ่งใหญ่เกินต้านจริงๆสำหรับเวทีการประกวด Miss Universe Thailand 2025 : The New Era (มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025 : เดอะ นิว เอร่า) รอบ National Costume (เนชั่นแนล คอสตูม) หรือรอบชุดประจำชาติ โดย บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ผู้ถือสิทธิ์ในการจัดประกวด Miss Universe Thailand โดย คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด MIss Universe Thailand & Vice President of Miss Universe Asiana จัดเต็มเพื่อแฟนนางงาม นอกจากจะได้เห็นความอลังการของชุดประจำจังหวัดที่เหล่าดีไซเนอร์สายเลือดไทยเนรมิตให้ผู้เข้าประกวด 77 จังหวัด ได้สวมใส่และนำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยที่งดงาม การตัดเย็บที่สุดแสนปราณีต การเลือกสรรผ้าและลวดลายเอกลักษณ์ไทยอันทรงคุณค่า ผ่านการนำเสนอของผู้เข้าประกวดที่ต้องถ่ายทอดออกมาให้เห็นถึงแก่นแท้และรากเหง้าของประเทศไทย เพื่อช่วงชิงตำแหน่ง Best National Costume หรือชุดประจำชาติยอดเยี่ยม สนับสนุนรางวัลโดย Numju Vitamin Whitening lotion & Rachi Body Bright UV Protection

งานนี้แฟนนางงามไม่มีพลาด ตามชมตามเชียร์แน่น MGI Hall ชั้น 6 ศูนย์การค้า Bravo BKK พระราม 9 และที่รับชมทาง Youtube Live : Grand TV เปิดเวทีด้วยพิธีกร ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และผู้สนับสนุน ก่อนจะเปิดตัวด้วยแฟชั่นโชว์ชุดประจำจังหวัดของ 77 สาวงามผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand 2025 ท่ามกลางแสง สี เสียง ที่กลายเป็น Talk Of The Town ทันทีเพราะเวที อลังการมาก! เสียงเชียร์ดังกระหึ่ม นางงามและดีไซเนอร์ทำดี ทำถึง ทำเกินกว่าที่คาด บอสณวัฒน์ เปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมกด Like และ Share ผ่านทาง Facebook และ IG : Miss Universe Thailand เพื่อร่วมคัดเลือก TOP 20 National Costume โดย 10 ชุดจะมาจากคะแนนโหวตสูงสุด 10 อันดับ และ 10 ชุดมาจากคณะกรรมการ ก่อนจะประกาศผลผู้ชนะ Best National Costume และรองอีก 4 คำแหน่ง ในรอบตัดสิน Final Competition ค่ำคืนวันตัดสิน 23 สิงหาคมนี้ เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง Grand TV

ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยการประกวด Inspire U To The Universe : Final round โดยผู้ที่เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายในรอบนี้ ได้แก่ 1. MUTกรุงเทพมหานคร แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง 2. MUTขอนแก่น ศศินันท์ กุหลาบ 3. MUTนครพนม วริศยา แสวงการ4. MUTนครศรีธรรมราช กมลพร ทองพล 5. MUTปทุมธานี อมองดีน กลาสเซต์ 6. MUTพัทลุง แวเนสซ่า เดเซเร ทิมเฮเด7. MUTระยอง ดวงเดือน คอลลินส์ 8.MUTราชบุรี ธารา ดิษฐะ-มาร์ชอลล์ 9. MUTสระบุรี ปวีนา ซิงห์ 10. MUTสุราษฎร์ธานี ชุติกาญจน์ สุวรรณโคตร โดยทุกคนมีเวลา 3 นาที ในการพูด Speech หัวข้อที่กำหนด พร้อมตอบคำถามพิเศษจาก บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล โดยผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวในรอบนี้จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท และผ่านเข้าสู่รอบ 18 คนสุดท้ายโดยอัตโนมัติทันที….

สำหรับการประกวด Miss Universe Thailand 2025 : The New Era (มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 : เดอะ นิว เอร่า) มุ่งเน้นตามหา The New Era Of Miss Universe Thailand ที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปเฉิดฉายอยู่บนเวทีจักรวาล กับการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 74 ที่ประเทศไทยได้สิทธิ์เจ้าภาพจัดการประกวดปลายปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่านางงาม The New Era ในยุคของ MGI ต้องไม่ธรรมดา นอกจากความสวยในระดับ 4B นั่นคือ Beauty Body Brain และ business ที่มีอย่างเพียบพร้อมแล้ว พวกเธอต้องมีแสง และแรงสนับสนุนที่ท่วมท้น ร่วมกันค้นหาผู้หญิงที่พร้อมที่สุด มีคุณค่ามากที่สุด รวมถึงมีความสำคัญ สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้คนในประเทศไทยและโลกใบนี้ ภายใต้ 3E ได้แก่ Elegance (ความสง่างาม) Empowering (สร้างแรงบันดาลใจ) และ Entertainment

นอกจากการช่วงชิงคะแนนจากคณะกรรมการในทุกรอบการแข่งขันแล้ว แฟนนางงามทุกคนสามารถร่วมโหวตให้กับนางงามที่ชื่นชอบ เพื่อมุ่งสู่ตำแหน่ง Miss Popular Vote ที่จะนำพาสู่ Fast Track ผ่านเข้ารอบ 18 คนสุดท้าย โดยอัตโนมัติ โดยกองประกวดเริ่มทำการเปิดโหวตแล้วตั้งแต่วันนี้ทาง สำหรับการประกวดรอบสำคัญอื่นๆมีดังนี้วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 : Preliminary Competition (การแข่งขันรอบอุ่นเครื่อง)วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 : รอบ Final Battle ของ Best Seller Award Top 3 MUTกรุงเทพมหานคร MUTเพชรบุรี และ MUTสระบุรีวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568 รอบ Final Competition

ทุกรอบเริ่มเวลา 19.00 น. ณ MGI Hall ชั้น 6 ศูนย์การค้า Bravo BKK พระราม 9ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของกองประกวดฯ ที่จะพาทุกท่านไปเฟ้นหาดาวดวงใหม่เป็นตัวแทนประเทศไทยบนเวทีจักรวาล ได้ในช่องทาง Facebook : Miss Universe ThailandInstagram @missuniversethailand / X : @missu_thailand / TikTok : @officialmuth

ภาพ/ข่าว RIN Online Media

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปศุสัตว์ จ.ชุมพร ตรวจประเมินระบบมาตรฐานฮาลาล โรงเชือดเพื่อการส่งออก ปี 2568 / ตร.ทล.ชุมพรจับยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 19 สิงหาคม 2568 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร โดยนายสัตวแพทย์เดชา จิตรภิรมย์ ปศุสัตว์จังหวัดชุมพร ได้มอบหมายให้ นายสัตวแพทย์พิชัย โพธิ์กระสังข์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ เข้าร่วมการตรวจประเมินระบบมาตรฐานฮาลาล โรงเชือดเพื่อการส่งออก ประจำปี 2568 ของ บริษัท ดีแอนด์แซด คอนซัลแตนท์ จำกัด

นายสัตวแพทย์พิชัยฯ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 และพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 รวมถึงเป็นพนักงานตรวจโรคสัตว์ประจำโรงงานเพื่อการส่งออก

การตรวจประเมินจัดขึ้น โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร และ ฝ่ายกิจการฮาลาล คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (CICOT) มีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาเข้าร่วม ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์จากกรมปศุสัตว์,ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหาร,ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาลาล จากสำนักคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และจากสำนักคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชุมพร

โดยมีรายชื่อคณะผู้ตรวจประเมิน ดังนี้ 1. นายคทาวุธ เลาะหมุด หัวหน้างานต่างประเทศฝ่ายกิจการฮาลาล สกอท. — หัวหน้าคณะตรวจประเมิน 2. น.สพ.มาลิก อับดุลบุตร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมปศุสัตว์ — กรรมการคณะตรวจประเมิน 3. น.สพ.ประยูร ลีลางามวงศา ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหาร — กรรมการคณะตรวจประเมิน 4. สกอจ.ชุมพร ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาลาล สกอจ.ชุมพร — กรรมการคณะตรวจประเมิน

5. นายเสกสันต์ แสงศรี ผู้เชี่ยวชาญการตรวจประเมินโรงเชือดฮาลาล ฝ่ายกิจการฮาลาล สกอท. — เลขานุการคณะตรวจประเมิน 6. น.สพ. รฐนนท์ เข็มแก้วนายสัตวแพทย์ กรมปศุสัตว์ — ผู้ช่วยคณะกรรมการตรวจประเมิน 7.นายอานัศ มะมิน นักศึกษาฝึกงาน — สังเกตการณ์

วัตถุประสงค์ของการตรวจประเมินครั้งนี้เพื่อยกระดับมาตรฐานโรงเชือดให้เป็นไปตามหลัก ศาสนาบัญญัติอิสลามและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอาหาร เพื่อรองรับการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

ตร.ทล.ชุมพรจับยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด

ธนากร โกศลเมธี 0818923514 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นของวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร (ตร.ทล.ชุมพร)

สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 ปฏิบัติหน้าที่บนถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้สกัดจับรถเก๋งต้องสงสัยคันหนึ่ง หลังสังเกตเห็นว่าท้ายรถคันดังกล่าวมีการบรรทุกสิ่งของที่น้ำหนักมากผิดปกติ

เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณขอให้รถต้องสงสัยจอดรถเพื่อขอตรวจค้น พบร่องรอยการดัดแปลงในส่วนของท้ายของกระโปรงรถด้านหลัง เมื่อรื้อและตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบกระสอบบรรจุยาบ้าอัดแน่นเต็มพื้นที่

รวมจำนวนกว่า 1,000,000 เม็ด คิดเป็นมูลค่ามหาศาล จึงควบคุมตัวคนขับและผู้โดยสารที่มากับรถ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลเพื่อขยายผล)

ไปสอบสวนขยายผลที่สถานีตำรวจทางหลวง เพื่อหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยคาดว่ายาเสพติดล็อตนี้มีปลายทางที่จังหวัดทางภาคใต้ตอนล่าง

ก่อนจะถูกลำเลียงเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านในที่สุด การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการสกัดกั้นยาเสพติดล็อตใหญ่ที่พยายามจะลักลอบผ่านจังหวัดชุมพร

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมศิลปินเพลงไทยสากล จัดงานเปิดตัว single ใหม่เพลงไทยสากลและ MV แนววาย พร้อมเปิดตัว “เอ-ปิ๊ก” คู่จิ้นเป็นครั้งแรกของวงการเพลงไทย

สมาคมศิลปินเพลงไทยสากล เครือข่ายทางวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดย พลโท ม.ร.ว. วโรรส บริพัตร นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย

คุณณัฐคัลป์ –ทัตจิรา หมายพาณิชย์ ประธานอุปถัมภ์โครงการ และ อาจารย์วิภาส รวิภาส ที่ปรึกษาสมาคม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว SINGLE ใหม่เพลงไทยสากล และ MV เพลงไทยสากลแนววาย ณ ลานกิจกรรมชั้น 3 โครงการฟีนิกซ์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ

โดย 3 นักร้องคุณภาพ ได้แก่ ศุภาชัย ผ่องสวัสดิ์ นักร้องระดับรางวัลพระราชทาน และศิลปินยอดนิยม นักร้องเพลงไทยสากลรางวัลพระราชทาน กับบทเพลง “อีกกี่วัน” ผลงานการประพันธ์ อาจารย์ชัยรัตน์ วงศ์เกียรติ์ขจร เรียบเรียงเสียงประสานโดย จเร อับดุลราฮิม (นักดนตรีวงพิ้งค์แพนเตอร์)

พร้อมกับการเปิดตัว MV ซีรีส์วาย นำแสดงโดย ศุภาชัย ผ่องสวัสดิ์ และ ปิ๊ก-ธีรราช วงศ์มุสิทธิ์ พระเอกใหม่กับงานแสดงครั้งแรก ดีกรีอดีตนักวอลเล่ย์บอล สโมสรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ เต้-ปฏิพัทธ์ กันฉาย ซึ่งคาดว่ากลายเป็น “คู่จิ้น” “เอ-ปิ๊ก” อีกคู่ในวงการเพลงไทยบ้านเรา

นอกจากนี้ยังมีนักร้องเสียงคุณภาพอีก 2 ท่านได้แก่ ภูริช ปริวิสุทธิ์ ผู้ประกวดแข่งขันจากรายการ THE GOLDEN SONG ในบทเพลง “ขวัญใจมโนรมย์” ผลงานการประพันธ์ของ อาจารย์วิภาส รวิภาส และเพลง “สมน้ำหน้าตัวเอง” ขับร้องโดย จรวยพร จิตรีญาติ นักร้องดังยุค90

การเปิดตัวในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ วงการเพลงไทยสากลที่ไม่มีผลงานใหม่ๆ ออกมาสู่วงการ เพื่อร่วมกันส่งเสริม อนุรักษ์และพัฒนาบทเพลงไทยสากลสืบไป โดยมีการปรับการนำเสนอในแนวทางใหม่ๆ เพื่อได้รับฐานผู้ฟังคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีพิธีแต่งตั้ง “ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศิลปิน“ ของ สมาคมศิลปินฯ ได้แก่ ดร.วโรดม ศิริสุข โดย พลโท ม.ร.ว. วโรรส บริพัตร นายกสมาคมฯ เป็นผู้มอบเกียรติบัตร รวมทั้งสองนักแสดงหนุ่มซีรีส์วายสุดฮิต “ลอยแก้ว” ได้แก่

เล้ง-ณัฐพล นิลดอนหวาย และ แสตมป์-พรวศิน เรืองนุกูล มาร่วมแสดงความยินดี และเตรียมพร้อมที่จะขับร้องเพลงเพราะๆ ให้กับสมาคมฯ ในชื่อเพลง “สิ้นเยื่อขาดใย” ซึ่งจะเข้าห้องอัดในเร็วๆ นี้

ผลงานเพลง “อีกกี่วัน” และผลงานเพลงอื่นๆ สามารถติดตามชมได้ช่อง youtube สมาคมศิลปินเพลงไทยสากล

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ จ.นครสวรรค์ยื่นเรื่อง ให้ สส.บัญชา เดชเจริญศิริกุล และคณะ สส. เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 25 68  กลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดนครสวรรค์  เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพด  อำเภอตากฟ้า  อำเภอตาคลี  อำเภอไพศาลี  อำเภอท่าตะโก  และจังหวัดสุพรรณบุรี จากหลายตำบล ประมาณ  500 คน มารวมตัวกัน ณ ที่ว่าการอำเภอตากฟ้า เพื่อแสดงพลัง สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนให้รัฐบาล โดย ยื่นหนังสือต่อ นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัคนครสวรรค์ แบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย  นายพีระเดช  ศิริวันสาณฑ์  
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขต 5 พรรคภูมิใจไทย  นายเศวต  เพชรนุ้ย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครคสวรรค์  นางพนิดา  วานิชรัตน์  พาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์  นายคมกฤช  อุทะโก  เกษตรจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับเรื่องร้องเรียน   ซึ่งกลุ่มเกษตรกร ได้ทำหนังสือร้องเรียนใน  เรื่อง ข้าวโพดจีเอ็มโอนำเข้าเสี่ยงจะบ่อนทำลายเศรษฐกิจท้องถิ่นเกษตรไร่นาไทย     โดยเนื้อหาว่าจากการที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบชพ.) เมื่อวัน

อังคารที่ 10 มิถุนาขน 2568 เวลา 13.00 น. มีมติส่วนใหญ่ให้นำเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรม จากอเมริกาได้ในกรอบ 1.0 ล้านต้น ให้อยู่ในมาตรการ 3:1 โดยให้เอกชนเป็นผู้นำเข้าได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และข้าว ที่กระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และเป็นผู้สร้างรายได้ต้นน้ำทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งที่ผลผลิตวัตถุดิบหมวดพลังงานในประเทศทั้งหมดมีเพียงพอและอยู่ในสภาวะลิ้นตลาดในปัจจุบัน แต่หลังจากมีการเจรจามาตรการทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ผลปรากฏว่าเกิดเงื่อนไขที่เลวร้ายมากขึ้น โดยจะมีการเปิดโอกาศให้นำเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรมเข้ามาได้ถึง 3.0 ล้านต้น และขังจะให้นำเข้ากากข้าวโพด (DDDGS) อัตราอากรนำเข้าเป็น 0% ในปริมาณ 1.0 ล้านต้น

ซึ่งเป็นเงื่อนไขข้อตกลงโดยไม่สนใจถึงผลกระทบอย่างไร้ความปราณี ไร้ความเท่าเทียมในสังคม แถมด้อยค่าในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชาวไร่ชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติและผู้เป็นรากฐานทางเศรษฐกิจ ผู้สร้างความมั่นคงทางอาหาร และเป็นผู้ก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่องทางเศรษฐกิจท้องถิ่นมานับตั้งแต่มีประวัติศาสตร์ประเทศไทย และเป็นประเทศที่มีพื้มีพื้นที่และภูมิศาสตร์เหมาะกับเกษตรกรรม สุดท้ายเสี่ยงที่จะทำลายความั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว จากสร้างความเหลื่อมลำทางรายได้ การเติบโตของ GDP ที่ไม่เสมอภาคกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มผลประโยชน์ไม่กี่กลุ่มการวางแผนอย่างเป็นระบบมากกว่า 10 ปี ที่ทำให้เกิดการตัดสินใจเปิดโอกาสให้นำเข้าเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรมจากอเมริกาและวัตถุดิบทดแทนในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่สวนทางกับรัฐบาลของกลุ่มประเทศมหาอำนาจหลายประเทศ ตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย และออสเตรเลีย ทุกประเทศต่างพยายามปกป้อง ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาอาชีพทำไร่ทำนา รวมถึงเสริมด้านการตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงกับอุดหนุนทางการเงินเพื่อให้ส่งออกไปเข่งขันในตลานตลาดได้ เพราะ ถึงแม้ GDP จากภาคเกษตรไร่นาจะไม่สูง แต่มันคือความมั่นคงของประเทศ เพราะเป็นช่วยรองรับแรงกระแทกจากวิกฤติเศรษฐกิจที่มีต่อภาคอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ สมาคมการค้าพืชไร่และเกษตรกรชาวไร่ขาวนาไทย ขอให้ผู้ที่ทำกับดูแลตามแนวทางดังต่อไปนี

  1. ยับยั้งการนำเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรมและ DDGS จากประเทศอเมริกา หรือชะลอ
    ไม่ให้มีการรนำเข้าวัตถุดิบทดแทนจากต่างประเทศ ในสการที่วัตถุดิบหนาดพลังหลัง
    ไทยทั้งหมดยังล้มตลาดอยู่ ไม่ควรนำเข้าวัดถุดิบทดแทนต่างๆในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว
  2. กำหนดมาตรการยกระดับราคาผลผลิต ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และจากพื้นที่ไร่นาภายในประเทศ ให้เกษตรกรพอมีกำไรในการดำรงชีพเพียงพอต่อการชำระหนี้

  1. สนับสนุนให้โรงงานอาหารสัตว์ไทยพึ่งพาวัตถุดิบอาหารสัตว์ภายในประเทศเป็นหลัก เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจองถิ่นและภูมิภาคมากยิ่งขึ้งขึ้น
  2. ไม่เป็นเครื่องมือในการสร้างการค้าผูกขาดให้กับธุรกิจ ปกป้องอธิปไตยทางอาหารและอธิปไตยทางการตลาดพืชวัตถุดิบหมวดพลังง
  3. ให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) มีการสำรวจปริมาณข้าวโพดต่อไร่อย่าง โปร่งใส
  4. ให้โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อในช่วงเวลาผลผลิตกายในประเทศออก และควรรับซื้อมากกว่ากำลังการผลิต 2-3 เท่า
    ซึ่งเบื้องต้น วันพุธ 20 ส.ค. 2568 ทางคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ จะขอคิวปรึกษาหารือในเรื่องนี้ต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทหารผ่านศึกมอบทุนการศึกษาบุตรทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 2,3 และ4

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 18 สิงหาคม 2568 ณ.สโมสรนายทหารสัญญาบัตรค่ายเขตอุดมศักดิ์ พลตรีสมคิด ชูเผือกผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 หัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชุมพรให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาบุตรทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 2,3 และ4 ร่วมกับผู้แทนโรงเรียนสะอาดประเดิมวิทยาผู้แทนวิทยาลัยเทคนิคชุมพรนายกสมาคมทหารผ่านศึกจังหวัดระนองประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกอำเภอเมืองชุมพรนักเรียนทุนที่จบการศึกษาและผู้มีเกียรติทุกท่าน

พันเอกชาญยุทธ แคล้วปลอดทุกข์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชุมพรขออนุญาตเรียนถึงความเป็นมาของการมอบทุนการศึกษาดังนี้ตามที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ดำเนินการให้มีการสอบชิงทุน การศึกษาบุตรทหารผ่านศึกนอกประจำการบัตรชั้นที่สองบัตรชั้นที่สามและบัตรชั้นที่สี่ประจำปีการศึกษา 2568 ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชุมพร จำนวนสามจังหวัดได้แก่จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เพื่อขอรับทุนการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศไทย โดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกมีทุนการศึกษาจำนวน 900 ทุนทุนละ 10,000 บาทต่อปีการศึกษานั้นสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชุมพรได้ทำการสอบชิงทุนการการศึกษาขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกมีบุตรทหารผ่านศึกนอกประจำการ สมัครสอบชิงทุนจำนวน 38 ราย ใน วันที่ 22 มีนาคม 2568 ณ สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกชุมพร มีผู้เข้าสอบผ่านเกณฑ์ได้รับทุนการศึกษาจำนวน 33 ราย แยกเป็นประเภทดังนี้ หนึ่งทุนการศึกษาประเภทต่อเนื่องเพื่อการศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า

จนจบปริญญาตรีในประเทศ เป็นทุนการศึกษา องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจำนวน 30 ทุน สองทุนการศึกษาประเภทเฉพาะหนึ่งปีการศึกษาเพื่อศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ซึ่งเป็นทุนการศึกษาของผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้แก่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจำนวนสามทุน
ในโอกาสนี้ได้เชิญ นาย เอกวุฒ คงคาภิรมย์นักเรียนทุนที่จบการศึกษาแล้วมาถ่ายทอดประสบการณ์และความภาคภูมิใจเพื่อเป็นแนวทางให้แก่น้องที่ได้รับทุน หลังจากจบการศึกษาได้มาทำงานที่ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์ช่วยเหลือทางกฎหมาย

จากที่ได้รับทุนการศึกษานี้เป็นเพราะว่าคุณพ่อเคยรับราชการทหารตอนปีพุทธศักราช 2524 ต่อมาท่านได้เข้าไปร่วมรบกับผู้ก่อการไม่สงบในช่วงปีพุทธศักราช 2525 บริเวณช่องช้างบ้านนาสารจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากที่คุณพ่อปลดประจำการ ยังผูกพันกับองค์การทหารผ่านศึกจนกระทั่ง ตนเรียนอยู่ชั้นม.สาม คุณพ่อแนะนำให้มาสอบชิงทุนการศึกษาขององค์การทหารผ่านศึกแล้วก็เป็นผู้ที่ได้รับโอกาสให้ได้รับทุนนี้ในสมัยนั้นก็ให้ผู้ที่สอบชิงทุนของมัธยมปลายได้รับปีละ 5000 บาท

ซึ่งในช่วงแรกก็ยอมรับว่าก็ได้ใช้ทุนไปในทางที่ไม่ค่อยถูกต้อง ช่วงแรกได้เงินมาก็เอาไปเอาไปซื้อหนังสือการ์ตูน เอาไปเล่นเกมออนไลน์ ยอมรับว่าใช้ทุนโดยที่ไม่เกิดประโยชน์จนกระทั่งเรียนจบมอปลาย ณ เวลานั้นที่บ้านก็ประสบปัญหาทางการเงินคุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่า ไม่สามารถส่งให้เรียนต่อมหาวิทยาลัยทางกรุงเทพได้เพราะว่าทางบ้านขัดสนเรื่องเงินทองก็เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจว่าเราจะทำยังไงในอนาคตการเรียน

จึงคิดได้ว่ามีเงินจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งในระดับมหาวิทยาลัยนั้นองค์การสมทบช่วยปีละ 10,000 บาทจึงตัดสินใจเรียนต่อ มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกในการเรียนจึงตัดสินใจเรียนต่อโดยเรียนอยู่ที่บ้านเต็มรูปแบบแล้วก็ไปสอบที่โรงเรียนสอาดประเดิมวิทยา สมัยนั้นมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ค้าสมัครนักศึกษาต้องใช้เงิน 3000 บาทค่าหน่วยกิตหน่วยกิตละ 50 บาท ตกแล้วปีการศึกษาก็ไม่เกิน 10,000 บาทซึ่งทุนขององค์การทหารผ่านศึก ก็สามารถที่จะเรียนได้และจบการศึกษาปริญญาตรีมาได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินจากทางบ้านเลยซึ่งเป็นทุนที่มีประโยชน์มากๆจึงอยากฝากให้น้องน้องที่ได้รับทุนการศึกษาในวันนี้อย่าทำผิดพลาดเหมือน

กับพี่ให้ใช้ทุนนี้ให้เกิดประโยชน์เพื่อพัฒนาตนเองเพื่อพัฒนาครอบครัว ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเมื่อจบแล้วก็สามารถที่จะออกมาพัฒนาสังคมและชาติต่อไปได้สุดท้ายนี้ก็ขอขอขอบคุณแทนตนเองแล้วก็แทนน้องน้องต่อองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกที่มีโครงการทุนนี้ขึ้นมาขอบพระคุณมากๆครับผม

พลตรีสมคิดชูเผือกกล่าว กระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ให้กับบุตรหลานทหารผ่านศึกนอกประจำการบัตรชั้นที่สองบัตรชั้นที่สามและบัตรชั้นที่สี่ในวันนี้การมอบทุนการศึกษาถือเป็นการตอบแทนคุณงามความดีของทหารผ่านศึกที่ท่านทั้งหลายได้เคยรับใช้ประเทศชาติซึ่งองค์การส่งเสริมทหารผ่านศึกไม่ได้ทอดทิ้งท่านนอกจาก

ให้การสงเคราะห์ตัวท่านแล้วยังช่วยเหลือไปถึงบุตรหลานของท่านที่เรียนดีสามารถสอบจริงทุนเพื่อการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าจนจบระดับปริญญาตรีในประเทศ ขอให้นักเรียนนักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาในวันนี้จงตั้งใจศึกษาเล่าเรียนประพฤติตนเป็นคนดีเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่เป็นสิทธิ์ที่ดีของครูอาจารย์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุขทั้งหลายประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคมเพื่อจะได้เป็นกำลังของชาติในอนาคตต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปชช. ร้องสะพานข้ามห้วยบังอี่ “ไร้มาตรฐาน” ขอให้ตรวจสอบผู้รับเหมา-ผู้ควบคุม-ตรวจรับงานบกพร่องหรือไม่

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า ประชาชนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ได้ร้องเรียนและขอให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามห้วยบังอี่ ระหว่างบ้านโนนสะอาด หมู่ที่ 8 ตำบลหนองแวง ไปบ้านนาสองเหมือง หมู่ที่ 4 ตำบลนากอก อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร

ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดมุกดาหาร เริ่มสัญญา วันที่ 9 ตุลาคม 2567 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 5 มิถุนายน 2568 งบประมาณ 4,839,000 บาท โดยพบความชำรุดทรุดโทรมอย่างรวดเร็วหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างที่น่าจะไม่เป็นไปตามมาตรฐานและกำหนดในสัญญาจ้าง

โดยปรากฏสภาพความเสียหายขอของงานก่อสร้างอย่างชัดเจน ทั้งรอยแตกร้าวขนาดใหญ่บนพื้นผิวคอนกรีต ซึ่งบ่งชี้ถึงคุณภาพของวัสดุและการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ ยังพบการทรุดตัวของดินบริเวณทางขึ้นลงสะพาน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้ใช้เส้นทางสัญจรไปมา

ก่อนหน้านี้ ได้มีที่ปรึกษาและกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมุกดาหาร ลงพื้นที่สอดส่องโครงการดังกล่าว และพบความชำรุดบกพร่องของงานก่อสร้างเช่นกัน

ชาวบ้านในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตว่า งานก่อสร้างดังกล่าวไม่น่าจะได้รับการตรวจสอบและควบคุมอย่างใกล้ชิดจากผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจรับงาน เนื่องจากสภาพความชำรุดที่ปรากฏขึ้นเป็นสิ่งที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย และไม่ควรเกิดขึ้นกับสิ่งปลูกสร้างที่เพิ่งสร้างเสร็จ

“เห็นรอยแตกมานานแล้ว แต่ก็คิดว่าคงเป็นเรื่องปกติ แต่พอเห็นดินทรุดลงไปเป็นหลุมขนาดใหญ่แบบนี้ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ราวกับว่าผู้รับเหมาทำแบบขอไปที และผู้คุมงานก็ไม่ได้มาดูงานอย่างจริงจังตามหลักวิชาการ”ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว

จึงขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช. , ป.ป.ท. สตง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบคุณภาพของงานก่อสร้างดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมทั้งให้มีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้รับเหมาและผู้ที่เกี่ยวข้องที่อาจบกพร่องต่อหน้าที่ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายและอาจเกิดอันตรายต่อประชาชนสะพานข้ามห้วยบังอี่ #ก่อสร้าง

ไม่ได้มาตรฐาน #คอนกรีตแตกร้าว #ดินทรุด #อันตราย #นิคมคำสร้อย #มุกดาหาร #Mukdahan #ร้องเรียน #โกงหรือไม่ #ทุจริตหรือไม่ #ผู้รับเหมา #ผู้ควบคุมงาน #กรรมการตรวจรับงาน #บกพร่องต่อหน้าที่ #ตรวจสอบ #ความปลอดภัยของประชาชน #กรมโยธาธิการและผังเมือง #กระทรวงมหาดไทย #ปปช #ปปท #สตง #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / คณะกรรมการ ประเมินผล โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศิล 5 ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.00 น. พระครูสุธีวชิรธรรม เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น (ฝ่ายธรรมยุต)เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และ นายคารม คำ

พิทูรย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่นให้เกียรติเป็นประธาน โครงการขับเคลื่อนสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศิล 5(ตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี) ประธานขับเคลื่อนระดับหน กล่าวเปิดการลงพื้นที่ เลขา

คณะกรรมกาารขับเคลื่อนระดับหนแนะนำคณะกรรมการประจำหน ประธานฝ่ายสงฆ์จุดธูปเทียนกล่าวนำบูชาพระรัตนตรัยเปิดกรวยถวายหน้าพระพุทธรูป

สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ประธานฝ่ายฆราวาสเปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยมีพุทธศาสนิกชนร่วมงาน นายสิงหภณ ดีนาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 6 ขอนแก่น นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ

พ.ต.ท.ชาญศักดิ์ สุนทะโรจน์ รองผู้กำกับการ(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรชุมแพ นายนคร สุพรรณ์ ปลัดอาวุโส นางเนตรทิพย์ เจริญวัย

ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น นายทินกร น้อยตำแย ผู้แทนวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารท้องถิ่น คหบดี

กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและพุทธศาสนิกชนร่วมประกอบพิธี ณ.วัดแจ้งสว่างนอก เขตเทศบาลตำบลโนนหัน อำเภอชุมแพ ขังหวัดขอนแก่น.

ภาพ/ข่าว กบ ชุมแพ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อดีต ผช.ผบช.ทบ. ห่วงใยกำลังพล ประสานเสี่ยตัน และเฮิร์บแลนด์ ‘ส่งหัวใจไปแนวหน้า’ ด้าน ส.นักข่าวพัทยาไม่พลาดส่งทีมนำเสนอข่าวดีๆ สู่สังคม

เนื่องด้วยที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน เกิดเหตุการณ์สถานการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เกี่ยวกับดินแดนและอำนาจอธิปไตย ส่งผลให้เกิดการสู้รบบริเวณชายแดนอย่างตึงเครียด ทหารบริเวณแนวชายแดนจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยและประเทศชาติอย่างเหน็ดเหนื่อยและมีความเสียสละเป็นอย่างมาก ประชาชนคนไทยและทุกฝ่ายหวังว่าเหตุสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นี้จะดีขึ้นตามลำดับ

ทางบริษัท เฮิร์บแลนด์ โปรดักส์ จำกัด ได้รับความอนุเคราะห์จาก พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก คุณกชพร เวโรจน์ หัวหน้าพรรคก้าวอิสสระ (อดีตพรรครวมแผ่นดิน) และนายตัน ภาสกรนที โดยมอบหมายให้นายณัฐพล ทองคำ และ น.ส.ณัฏฐ์นลิน เชี่ยวชาญธนกิจ เป็นผู้ดำเนินการทำหน้าที่แทน รวมทั้งการสนับสนุนของสมาคมนักข่าวพัทยา โดย นายอัมพร แสงแก้ว นายกสมาคมนักข่าวพัทยา

      ซึ่งได้จัดเตรียมสิ่งของอุปโภค-บริโภคจำนวนหนึ่ง นำไปมอบให้แก่ทหารกล้า เพื่อสนับสนุนและเป็นขวัญกำลังใจที่ดีให้แก่กำลังพล และเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนบริเวณกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยในกิจกรรมช่วยเหลือพี่น้องทหารในครั้งนี้ ได้รวมน้ำใจจากหลายภาคส่วน และสมาคมนักข่าวพัทยา โดย นายอัมพร แสงแก้ว นายกสมาคมนักข่าวพัทยา ได้จัดส่งทีมงานผู้สื่อข่าวลงพื้นที่รายงานข่าวในกิจกรรมอันเป็นประโยชน์เพื่อให้กำลังใจกำลังพล และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนในครั้งนี้

ซึ่งได้มีการมอบข้าวสารเป็นข้าวหอมมะลิจำนวน 500 กิโลกรัม น้ำดื่มจำนวนกว่า 1,000 ขวด เครื่องยังชีพ และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ส่วนตัวที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์สื่อสาร รวมทั้งยารักษาโรคเบื้องต้น โดยแพทย์แผนจีนจิตอาสา ที่ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องทหารในครั้งนี้เช่นกัน

ด้าน นาวาเอก ทนงศักดิ์ จันทร์งาม หัวหน้ากองกิจการพลเรือน กองบัญชาการป้องกันขายแดนจันทบุรีและตราด ผู้แทนรับมอบ ได้กล่าวว่า ต้องขอบคุณในน้ำใจของทุกคนที่มีให้ทหารในวันนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของมากมายและยิ่งใหญ่ แค่เป็นสิ่งเล็กน้อยที่ทุกท่านนำมามอบให้ ก็ถือเป็นการแสดงออกถึงน้ำใจที่ดีให้พวกเรามากมายแล้ว

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง