สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานขับรถโดยสาร (Safety Bus Thailand) รุ่น 2 และพิธีมอบหนังสือรับรองสมรรถนะ รุ่นที่1

งานการอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานขับรถโดยสารด้านความปลอดภัย (Safety Bus Thailand) รุ่น 2 และพิธีมอบหนังสือรับรองสมรรถนะ รุ่นที่1 โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ
สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย ณ โรงแรมเมเปิล บางนา กรุงเทพ วันที่ 1 เมษายน 2568

โดยมี ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ / คุณจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ / คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power

ด้านการท่อง เที่ยว /คุณปิยะ โยมา รองอธิบดี กรมการขนส่งทางบก / คุณชัย อรุณานนท์ชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และดร.วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย

โครงการอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานขับรถโดยสารด้านความปลอดภัย (Safety Bus Thailand) ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย เพื่อเพิ่มเติมสมรรถนะในการปฏิบัติงานในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่รถทัวร์โดยสาร ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ส่งผลให้ผู้สำเร็จการอบรมสามารถสะสมจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

การตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินต่างๆ บนรถโดยสารและการฝึกปฏิบัติอย่างเข้มข้นในสถานการณ์สมมติ การฝึกอบรมภายใต้โครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนคณะวิทยากรและเจ้าหน้าที่สอบซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จากอีเมอเจนซี เมดิคอลเซอร์วิส เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ และสถาบันฝึกอบรม เทรนนิ่ง อิน ไทย

ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการในรุ่นที่ 1 ได้แก่ พนักงานขับรถทัวร์โดยสาร ผู้บริหารสถานประกอบการสมาชิกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย จำนวน 233 คน จาก 30 สถานประกอบการรถโดยสารไม่ประจำทาง ชั้นนำของประเทศ ซึ่งในทั้ง 2 รรมแล้วกว่า 700 คน

ความสำเร็จของโครงการนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะของพนักงานขับรถโดยสาร แต่ยังสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้ประกอบการรถขนส่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งการยกระดับคุณภาพการให้บริการรถโดยสารที่มีความปลอดภัย นับเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ

ส่งเสริมความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เป็นการสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยให้ก้าวหน้าและยั่งยืน (Safety and Sustainability) นอกจากนี้ ในการใช้บริการรถทัวร์โดยสารของนักเรียน นักศึกษา ในการเดินทางไปทัศนศึกษา กิจกรรมภาคสนาม และการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งพนักงานขับรถทัวร์โดยสารที่ได้รับการอบรมและผ่านการประเมินอย่างเข้มงวดนั้น จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง และนักเรียนทุกคนว่า การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / SISMA !! บิน ขึ้นโชว์สเตจไกลถึงเวียดนามในงาน Thai Festival in Hanoi2025

4 สาว SISMA เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ จากค่าย Monwichit Music ภายใต้การดูแลของ คุณเกรียงไกร มณวิจิตร อย่าง วาเลน-พรสวรรค์ ญาณวโร , เมซี-นภัสวรรณ วรรธนะอนันต์ , ซินเธีย-พนัชกร ภิรมย์ และ มิมิว-มินทร์ลิตา วรรณธนิตศิลป์ ออร่าเข้าตาทีมผู้จัดกับพลังเสียงของ 4สาวที่น่าหลงใหล ถูกเทียบเชิญให้ไปขึ้นโชว์บนสเตจไกลถึง ฮานอย ประเทศเวียดนาม

ในงาน THAI FESTIVAL IN HANOI 2025 ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าป้อมปราการเก่า (Imperial Citadel of Thang Long) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา

โดยนำเพลง Dreamer เพลงพรีเดบิวต์ของวงที่ยังไม่เคยเผยเเพร่ที่ไหนมาก่อน และเพลงอื่นๆ อาทิ Low=Key , Feeling Good , รักฉันดิ ซึ่งเป็นผลงานเพลงในอัลบั้มแรก รวมถึง ผลงานเพลง เงามืด ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ ของแขก ประเดิมโชว์จัดเต็มให้ผู้ชมในงานได้ฟังกัน

ในงาน THAI FESTIVAL IN HANOI 2025 จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เเละ SISMA ยังได้รับการสนับสนุนในการเดินทางโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) CEA เพื่อแนะนำศิลปินไทยให้ชาวเวียดนามได้รู้จัก รวมไปถึงการสร้าง T-pop ซอฟต์พาวเวอร์สำคัญของไทยให้อยู่ในความสนใจบนเวทีโลก

SISMA เผยว่า “พวกเรา SISMA ดีใจมาก ตื่นเต้นมากๆ ที่ได้มีโอกาสออนทัวร์ในต่างประเทศ นี่ถือว่าเป็นประเทศที่ 2เเล้ว ที่พวกเราได้มีโอกาสขึ้นเเสดงก่อนพวกเราจะเดบิวต์ซะอีก รู้สึกตื่นเต้น ไปเเต่ละประเทศก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆแต่ละประเทศอย่างดีค่ะ แฟนๆมีบอกว่า

โดนตก เพราะชื่นชอบในเสียงของพวกเรา SISMA ค่ะ สำหรับผลงานเพลงของพวกเรา มีเเพลนกำลังจะปล่อยเพลงเเรก Dreamer เพลงพรีเดบิวต์ในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ให้เเฟนๆได้ฟังเเละติดตามกันในปีนี้เเน่นอน ฝากรอติดตามผลงานของวง SISMA เร็ว ๆ นี้ด้วยนะคะ“

ติดตาม SISMAIG https://www.instagram.com/official_sisma/TikTok https://www.tiktok.com/@official.sisma?lang=enTwitter https://x.com/OFFICIAL_SISMAFB https://www.facebook.com/official.sisma/


สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร. ภ.3 เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการจราจรป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 3 กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 3 พลตำรวจโท วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 /ประธานการประชุม พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วิวัฒน์ สีลาเขตต์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมหน่วยงาน ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 และหน่วยงานภาคีเครือข่ายจำนวน 12 หน่วย ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา, องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ ๑, ๒ และ ๓, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๕ นครราชสีมา, สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 3, สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา,ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา, สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จว.นครราชสีมา และมูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่ จว.นครราชสีมา

ได้เข้าร่วมประชุมบูรณาการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.256๘ โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่าย ด้านจราจรและความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ทั้ง 8 จังหวัด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง) และตำรวจภูธรจังหวัดที่มีพื้นที่เส้นทางติดต่อกับตำรวจภูธรภาค 3 ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี, สระบุรี, ปราจีนบุรี, สระแก้ว และขอนแก่น เข้าร่วมประชุมเพื่อสรุปมาตรการปฏิบัติแบบบูรณาการในการอำนวยความสะดวกการเดินทางของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.๒๕๖๘ โดยหน่วยงานภาคี ทุกหน่วยได้รายงานต่อที่ประชุมแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ ที่เตรียมไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพตำรวจภูธรภาค 3

ได้เตรียมการบริหารจัดการ โดยช่วงการควบคุมเข้มข้น ๗ วัน ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 256๘ จะเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด และกำหนดเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.256๘ ของตำรวจภูธรภาค 3 ระหว่างวันที่ 10 – 18 เมษายน 256๘ เพื่อกำกับ ดูแล และติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยในสังกัด ในการอำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลความปลอดภัย และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ให้กับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 256๘ นี้ ตามนโยบายรัฐบาล “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ”

ในทุกพื้นที่ โดยวางแผนตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรและจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จำนวน 278 จุด เตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 301 ชุด มีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จำนวน 858 เครื่อง และเครื่องตรวจจับความเร็ว จำนวน 101 เครื่อง ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติ ทั้งสิ้น 4,614 นาย นอกจากนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครอง ในการปรับรูปแบบจากจุดบริการประชาชนมาเป็นการตั้งด่าน ชุมชนแทน โดยบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ได้แก่ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่

กำหนดแผนการตั้งด่านชุมชนจำนวนทั้งสิ้น จำนวน 3,971 แห่ง เพื่อป้องปรามคนที่ดื่มสุราไม่ให้ขับขี่รถออกจากหมู่บ้าน ชุมชน ไปเกิดอุบัติเหตุหากเกิดอุบัติเหตุทางถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถที่เกิดเหตุทุกรายและหากพบว่ามีการดื่มสุราแล้วขับรถ จะดำเนินคดีโดยไม่มีละเว้น ในมาตรการเชิงรุก ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ ออกตรวจและขอความร่วมมือร้านจำหน่ายสุราในชุมชน หมู่บ้าน ทุกแห่ง ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เช่น ห้ามจำหน่ายสุราในเวลาห้าม, ห้ามไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี, ห้ามไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลที่มีอาการมึนเมา จนครองสติไม่ได้ เป็นต้น
คาดการณ์จากกรมทางหลวง

จะเปิดให้บริการใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ M6 ช่วงหินกอง – ปากช่อง – นครราชสีมา ทั้งขาไปและขากลับ ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะทาง 163 กิโลเมตร โดยกำหนดจุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ดังนี้
จุดที่ 1 ด่านหินกอง ทล.33 กม.33+100
จุดที่ 2 ด่านสระบุรี ทล.1 กม.38+700
จุดที่ 3 ด่านแก่งคอย ทล.3222 กม.110+500
จุดที่ 4 ด่านปากช่อง ทล.2090 กม.110+500
จุดที่ 5 ด่านสีคิ้ว ทล.201 กม.154+960
จุดที่ 6 ด่านขามทะเลสอ ทล.290 กม.185+125
จุดที่ 7 ทล.204 กม196+000 (ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา)

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ข้าราชการพลเรือน จ.ประจวบฯ เข้าพิธีรับมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติ จากนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2568

วันที่ 1 เมษายน 2568 ที่หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ กทม. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบเกียรติบัตร และเข็มเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2567 จำนวน 624 ท่าน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการจัดงานวันข้าราชการพลเรือน มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการครองตน ครองคน และครองงาน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบสารแก่ข้าราชการพลเรือน โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งดังนี้ “เนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน วันที่ 1 เมษายน 2568 ดิฉันขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังข้าราชการพลเรือนทุกท่าน และขอแสดงความยินดีแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช 2567 ทุกคน ข้าราชการมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล โดยนำนโยบายไปสู่การๅปฏิบัติเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน”

“ข้าราชการที่ดีจึงต้องเป็นผู้ที่มีความสง่างาม เพียบพร้อมไปด้วยความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความชื่อสัตย์สุจริต โดยยึดมั่นในหลักคุณธรรมและจริยธรรมอันเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นข้าราชการที่ดี เกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติข้าราชการพลเรือนดีเด่นที่ท่านได้รับเป็นผลจากความวิริยอุตสาหะในการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์อันเป็นคุณประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ดิฉันขอให้ข้าราชการพลเรือนดีเด่นทุกคนรักษาคุณงามความดีและเกียรติภูมิอันสง่างามยิ่งที่ท่านได้รับในวันนี้ พร้อมทั้งดำรงตนเป็นแบบอย่างแห่งความดีให้ข้าราชการรุ่นหลังได้ดำเนินรอยตามสืบไป”

สำหรับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีข้าราชการพลเรือนที่ได้เข้ารับ มอบเกียรติบัตร และเข็มเชิดชูเกียรติ จากนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ได้แก่ พันตำรวจเอกวีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเชิดชาย ชยวัฑโฒ ผอ.โรงพยาบาลบางสะพาน และนางสาวเบญจพร มีจิตร ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนปากน้ำปราณวิทยา อำเภอปราณบุรี

////////////

ณัฐธภพ พันสาย / ผู้สื่อข่าวพิเศษจ.ประจวบคีรีขันธ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีบรรพชาสามเณร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568

วันนี้ 1 เมษายน 2568 ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน มีการจัดพิธีบรรพชาสามเณร ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำปี 2568

เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568

โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ครอบครัวผู้บรรพชาและพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี
จังหวัดน่าน

โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน จัดโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำปี 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568

โดยจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ศึกษา ฝึกฝน และอบรมหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดค่านิยมเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัย มีจิตสาธารณะ และมีความกตัญญู ซึ่งจะส่งผลให้เป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมบรรพชาในครั้งนี้ จำนวน 43 คน

วันที่ 1 เมษายน 2568 สำนักงานเกษตรอำเภอเวียงสา โดยการนำของ นางสาวฐิติกาญจน์ ชะนะมาร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทน เกษตรอำเภอเวียงสา พร้อมด้วย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จัดเวทีวิเคราะห์ศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่

การลดต้นทุนการการผลิต การเพิ่มมูลค่าสินค้า การพัฒนาคุณภาพผลผลิต การตลาด และการบริหารจัดการ ให้กับสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ผักตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ตามโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อเก็บข้อมูล

รวบรวมประมวลผล และวิเคราะห์ศักยภาพกลุ่ม พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์เร่งรัดการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ข้าวนาปรัง, ไม้ผล, ไม้ยืนต้น และเน้นย้ำการถือปฏิบัติตามประกาศจังหวัดน่าน เรื่อง ห้ามเผาเด็ดขาดทุกพื้นที่

ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม –30 เมษายน 2568 และตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาตรการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ภาคการเกษตร

โดยห้ามเผาในพื้นที่การเกษตรทุกกรณีตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม –31 พฤษภาคม 2568 และแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังภัยพิบัติด้านพืช โดยมีสมาชิกแปลงใหญ่เข้าร่วมจำนวน 15 ราย ณ บ้านสถาน หมู่ที่ 1 ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ”เปิดงานเทศกาลไก่ย่างโลกและของดีห้วยทับทัน” ตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ของจังหวัดศรีสะเกษ


เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 68 ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ อนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลไก่ย่างโลก และของดีห้วยทับทัน

ซึ่งอำเภอห้วนทับทัน ร่วมกับ องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนต่างจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 30 มี.ค. 68 ถึง วันที่ 4 เมษายน 68 การจัดงานไก่ย่างโลกขึ้นตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ของดีจังหวัด ศรีสะเกษ

ในครั้งนี้ ภายในงาน มีการจัดจำหน่ายสินค้า OTOP หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สินค้า พืชผล ทางการเกษตร ของคนในชุมชนอำเภอห้วยทับทัน โดยในพิธีเปิด นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ใช่มีดสับไก่ พร้อมพาหัวหน้าส่วนราชการ และเขยฝรั่ง ชิมไก่ย่างไม้มะดัง อย่างเอร็ดอร่อย

นายนายตระการ ชาลี นายอำเภอห้วยทับทัน ได้จัดงานไก่ย่างโลกขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล Soft Power ในการขับเคลื่อนศรษฐกิจไทยและสร้างมูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นั่นก็คือ FOOD อาหาร (ไก่ย่างไม้มะดัน) และ FESTIVAL คือ การจัดงานประเพณีในพื้นที่

และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การพาณิชย์ สนับสนุนผลผลิตทางการเกษตร กร เศรษฐกิจ ในชุมชนเสริมสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และสร้างความสมัครสามัคคีให้กับประชนชาวอำเภอห้วยทับทัน ตลอดจนขับเคลื่อนตามแนวทางการจังหวัด 1 + 10 วาระจังหวัด ซึ่งในการจัดกิจกรรม “งานเทศกาลไก่ย่างโลกและของดีห้วยทับทัน” ประจำปี 2568 ตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ของจังหวัดศรีสะเกษ ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก จังหวัดศรีสะเกษ

ภาพ /ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ส.ศิษย์เก่าฯ รร.หัวหินวิทยาคม จัดกอล์ฟการกุศลรายได้ปรับปรุงลานกีฬาโรงเรียนให้ได้มาตรฐาน

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.68 ที่สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน จ.ประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี นายกสมาคมศิษย์เก่า ครูและผู้ปกครองโรงเรียนหัวหินวิทยาคม เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมกอล์ฟการกุศล ครั้งที่ 1 มี ดร.รุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานกรรมการคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนหัวหินวิทยาคม นายวชิระ ศิริเทียนทอง ประธานกรรมการบริษัท ติยะ มาสเตอร์ ซิทเต็ม จำกัด นายอำนาจ ป่านแก้ว ผู้จัดการทั่วไป สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน นายรัสมิ์ชัย ศรีชาติ รองผู้อำนวยการ ร.ร.หัวหินวิทยาคม นายสุรสิทธิ์ ปัญญาพานิช อุปนายกสมาคมฯ น.ส.ณิชารี ทรัพย์มา เลขานุการสมาคมฯ และสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมประชุม

นายอติชาติ ชัยศรี กล่าวว่า วันนี้สมาคมฯ เราได้มาร่วมประชุมกันเพื่อเตรียมจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลให้แก่โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ที่สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ในวันที่ 3  พฤษภาคมนี้ เพื่อจัดหาทุนให้กับสมาคมฯ นำไปบูรณะลานกีฬาของโรงเรียน ให้นักเรียนได้มีลานกีฬาที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ถูกสุขอนามัย พร้อมรองรับการทำกิจกรรมทางการกีฬาของนักเรียนที่จะนำมาใช้ทำกิจกรรม การออกกำลังกาย การเรียนการสอน รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนความคืบหน้าของการขออนุญาตจัดตั้งสมาคมฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ท่านก็จะอนุมัติและแต่งตั้งสมาคมฯ เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

นายอำนาจ ป่านแก้ว กล่าวว่า สนามกอล์ฟหลวงหัวหินในนามของ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด มีความยินดีที่จะสนับสนุนสมาคมฯ เพื่อจัดการแข่งกอล์ฟ สร้างรายได้เพื่อนำรายได้ไปสู่ชุมชน ทางสนามกอล์ฟหลวงหัวหินมีความยินดีมากๆ ที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนในครั้งนี้ และคาดหวังว่าสนามกอล์ฟหลวงหัวหินจะได้ จัดกิจกรรมแบบนี้ให้กับชุมชนอีกในครั้งต่อไป
ด้านนายวชิระ ศิริเทียนทอง กล่าวว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมาร่วมสมาคมฯ เป็นโครงการที่ดีเพื่อสังคมและเยาวชน โดยเฉพาะการก่อตั้งสมาคมศิษย์เก่า ครูและผู้ปกครอง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ผมก็อยู่หัวหินมา 10 กว่าปี อดไม่ได้ที่ต้องสนับสนุนในสิ่งดีๆ เหล่านี้ ท่านนายกอติชาติเองก็มีวัตถุประสงค์ที่ทำเพื่อสังคมไม่ได้มีผลประโยชน์ส่วนตนแต่การใด หลังจากที่ฟังการประชุมแล้วก็มีความรู้ศรัทธาว่า ถ้าโครงการสมาคมฯ เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของสังคม ก็ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ครับ

ดร.รุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมประชุมกับทางสมาคมฯ ดีใจที่มีผู้ใหญ่ใจดีให้ทุนเริ่มต้น 100,000 บาท  มีการจัดกิจกรรมกอล์ฟโดย คุณอำนาจ ป่านแก้ว ผู้จัดการทั่วไป สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ท่านได้ดำเนินการไปแล้ว 30 ก๊วนๆ ละ 6 ท่าน คิดว่าคงจะสำเร็จด้วยดี ก็คงมีรายได้เข้ามาช่วยทนุบำรุงปรับลานสนามกีฬาให้ได้มาตรฐาน ผมในฐานะที่เป็นประธานกรรมการสถานศึกษาฯ ก็รู้สึกขอบคุณทุกๆ คนที่มาร่วมแรงร่วมใจ ก็ขอให้ท่านเจริญก้าวหน้าในการที่มาทำงานในการกุศลครั้งนี้ครับ.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว ประจวบฯ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / โครงการสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์เพื่อการพัฒนาการเด็กศูนย์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองคอง งบประมาณปี. 2568

วันที่ 1 เมษายน 2568 เวลา 09.10 น.นายนิโรจน์ แพ่งศรีสาร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนหัน ประธานในพิธีจุดเทียน บูชาพระรัตนตรัย
และชมการแสดงของระดับชั้นเตรียมอนุบาล 1

นางสาวณัฐริกา ทาเชาว์ ผู้อำนวยการกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลโนนหันกล่าวรายงาน

โดยมีส่วนราชการใน อบต โนนหัน ผู้ปกครอง ร่วมงาน เช่น นายสำเร็จ ใจซื่อ รองนายก อบต โนนหัน, นายสันติ แก้วมูลตรี รองนายก อบต.โนนหัน, นายกิตติพศ นามนัย เลขานุการนายก อบต.โนนหัน นายเรวัต หลาวมา ปลัด อบต โนนหัน

นายณรงค์ ตุ้มทอง ส.อบต.หมู่ 8 อบต โนนหัน ต่อมานายนิโรจน์ แพ่งศรีสาร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนหัน กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและศูนย์พัฒนาเด็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบล

พระครูอัมพวัน ภัทรคุณ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน จต นาหนองทุ่ม เขต 2 กล่าวถึงการอุปถัมภ์เด็ก เพื่อต่อยอดในการพัฒนาจิตใจและ

พิธีมอบวุฒิบัตรบัณฑิตน้อยประจำปี 2567 หลังเสร็จพิธี นางสาวดรุณี แนวประเสริฐ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองคอง กล่าวขอบคุณผู้ปกครอง แขกผู้มีเกียรติ

วินสื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์ /ศูนย์ข่าวขอนแก่น

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจภูธร ภ.3 แถลงข่าวปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ บก.สส.ภ.3 ต. จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตำรวจภูธรภาค ๓ โดย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 แถลงข่าวปฎิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ตามนโยบายรัฐบาลจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 1 ราย 3 คน พร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด พร้อมด้วย ผอ.ศอ.ปส.ภ.3 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบช.ภ.๓ /รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.3 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายมานพ แสงโสทร ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ กวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ โดยให้ร่วมกันบูรณาการด้านการข่าว การแลกเปลี่ยนข่าวสารรวมถึงการร่วมมือกันในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามพื้นที่แนวชายแดน และพื้นที่ตอนใน

โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผบก.สส.ภ.3 พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ รอง.ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง.ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ทศพร เพียรปรุ รอง ผบก.สส.ภ.๓ พ.ต.อ.นิเวชร์ งามลาภ ผกก.ฯ
พ.ต.อ.พรเทพ ทุ้ยแป ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ชวาลย์ วงษ์รอด ผกก.สภ.โชคชัย พ.ต.อ.อิทธิพัทน์ ศรีมั่น ผกก.สภ.พระทองคำ สั่งการให้
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 นำโดย พ.ต.ท.คำพู พลอยผักแว่น รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3, พ.ต.ท.ยุทธพล บุษบา รอง ผกก.สืบสวน 2, พ.ต.ท.ณัฐพร เขียวเกษม สว.กก.สืบสวน 2,ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง เพ็ญแข ชัยรัตน์กรกิจ, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.สาทิต คอกขุนทด รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.ท.ภทรธร ชญานันท์ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย นำโดย พ.ต.ท.สุชาติ ซ้อนพุดซา รอง ผกก.สส.สภ.โชคชัย และได้ร่วมบูรณาการสนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 นำโดย พ.อ.เยี่ยม ฤทธิ์น้ำคำ ร่วมสืบสวนจับกุมตัว

1.นายอัมพล หรือต้น ชิตรัตน์ อายุ 35 เลขประจำตัวประชาชน 1869900112718 ที่อยู่ 47/1 ม.7 ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร จว.ชุมพร
2.นายทนงศักดิ์ หรือต้า หรือเปี๊ยก มูลถวิล อายุ 34 ปี เลขประจำตัวประชาชน 3440900714451 ที่อยู่ 95 ม.12 ต.โพธิ์ชัย อ.วาปีปทุม จว.มหาสารคาม
3.พ.ต.ต.ชัยยะ มะลานาจ อายุ 49 ปี เลขประจำตัวประชาชน 3450800342926 ที่อยู่ 60/61 ม.4 ต.โป่ง อ.บางละมุง จว.ชลบุรี (ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่ง สวป.(ชส.)สภ.ศรีบุญเรือง จว.หนองบัวลำภู พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 2,000,000 เม็ด 2.โทรศัพท์ จำนวน 3 เครื่อง ตรวจยึดของกลาง -รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน (ราคาประเมิน 300,000 บาท) -รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน (ราคาประเมิน 700,000 บาท) โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุม สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดชาว สปป.ลาว จะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน จว.มุกดาหาร ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่พื้นที่ภาคกลางตอนในของประเทศไทย ผ่านพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 โดยเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวใช้ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อFORD รุ่นRANGER สีดำ หมายเลขทะเบียน 2ฒร1575 กรุงเทพมหานคร

ในการขนลำเลียงยาเสพติด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 , กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว จนกระทั่ง พบว่ารถยนต์กระบะ ยี่ห้อFORD รุ่นRANGER สีดำ หมายเลขทะเบียน 2ฒร 1575 กรุงเทพมหานคร มีการเคลื่อนตัวออกมาจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก จว.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว จะลำเลียงนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าไปยังพื้นที่ภาคกลางตอนในของประเทศไทย และเชื่อว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวจะใช้เส้นทางที่เคยวิ่งลำเลียงยาเสพติดมาก่อนหน้านี้ และพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อTOYOTA รุ่นCOROLLA AlTIS สีขาว หมายเลขทะเบียน 8กฒ5126 กรุงเทพมหานคร ซึ่งขับขี่ลักษณะวิ่งตามรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผนในการจับกุม โดยวางกำลังตามเส้นทางที่คาดว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวจะใช้เป็นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ โดยวางกำลังเฝ้าดู พร้อมทั้งสะกดรอยติดตาม และเพื่อให้ทราบถึงขบวนการเครือข่ายในการลำเลียงยาเสพติด โดยรถยนต์ทั้งสองคันใช้เส้นทางในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ จาก จว.มุกดาหาร ผ่าน จว.กาฬสินธ์ ผ่าน จว.มหาสารคาม ผ่าน สี่แยกทางผาด ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี จว.สุรินทร์ และขับขี่มุ่งหน้าเข้า อ.สตึก จว.บุรีรัมย์ ผ่าน อ.เมืองบุรีรัมย์ จว.บุรีรัมย์ ผ่าน อ.นางรอง จว.บุรีรัมย์ ผ่าน อ.หนองกี่ จว.บุรีรัมย์ และมุ่งหน้าเข้า อ.หนองบุญมาก จว.นครราชสีมา จนกระทั่งมาถึง ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จว.นครราชสีมา จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสกัดกั้นและจับกุมรถยนต์ทั้งสองคันได้ ผลการตรวจค้นพบ นายอัมพล หรือต้น ชิตรัตน์ เป็นผู้ขับขี่ จึงทำการตรวจค้นตัว และรถยนต์ ผลการตรวจค้นพบ
-โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อIPHONE รุ่น12ProMax สีขาว จำนวน 1 เครื่อง สอบถาม นายอัมพลฯ ให้การรับว่า โทรศัพท์ดังกล่าว นายอัมพลฯ เป็นผู้ใช้งาน
-ถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ จำนวน 2 ห่อใหญ่ ด้านในห่อด้วยกระสอบสีขาว วางอยู่บริเวณบริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง -ถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ จำนวน 3 ห่อใหญ่

ด้านในห่อด้วยกระสอบสีขาว วางอยู่บริเวณกระโปรงท้ายรถที่ใช้บรรทุกของ
และตรวจค้นจับกุมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อFORD รุ่นRANGER สีดำ หมายเลขทะเบียน 2ฒร1575 ที่บริเวณสี่แยกโชคชัย ถนนโชคชัย-เดชอุดม ต.โชคชัย อ.โชคชัย จว.นครราชสีมา ผลการตรวจค้นพบ นายทนงศักดิ์ หรือเปี๊ยก หรือต้า มูลถวิล และผู้โดยสารทราบชื่อว่า พ.ต.ต.ชัยยะ มะลานาจ จึงทำการตรวจค้นตัว และรถยนต์ ผลการตรวจค้นพบ -โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อSUMSUNG รุ่นGALAXY S8+ สีดำ จำนวน 1 เครื่อง สอบถาม นายทนงศักดิ์ฯ ให้การรับว่า โทรศัพท์ดังกล่าว นายทนงศักดิ์ฯ เป็นผู้ใช้งาน -โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อINFINIX X6711 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง สอบถาม พ.ต.ต.ชัยยะฯ ให้การรับว่า โทรศัพท์ดังกล่าว พ.ต.ต.ชัยยะฯ เป็นผู้ใช้งาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมจึงนำตัวผู้ต้อง พร้อมของกลาง มายัง กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 3 เพื่อตรวจเก็บพยานหลักฐาน จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อทราบถึงขบวนการและเครือข่ายยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลทราบว่า เครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว คือ เครือข่าย “ท้าวหิน”( ผู้สั่งการชาวลาว) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนติดตามจับกุม
ผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว : ตำรวจภูธร ภ.3 กันตินันท์ เรืองประโคน/ รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สลดปิดเทอม หนุ่มน้อยวัย17 ลงเล่นน้ำในแม่น้ำ พลาดลื่นลงในวังน้ำ จมน้ำดับ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 30 มีนาคม 68 พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ รักสกุล สว.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิต 1 ราย บริเวณบ้านคลองเงิน ม.5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสากู้ชีพกู้ภัย รพ.พะโต๊ะ


โดยที่เกิดเหตุอยู่พบศพนายธนกร แก้วเขียว อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.9 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ซึ่งนอนเสียชีวิตแล้วและถูกนำขึ้นมาจากแม่น้ำหลังสวน  ซึ่งห่างไปเพียงเล็กน้อย มาวางอยู่ใต้ต้นไม้ ภายในสวนผลไม้ของชาวบ้าน

สอบถามทราบว่า นายธนกร ซึ่งเป็นนักเรียนอยู่สถาบันแห่งหนึ่ง ใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยก่อเกิดเหตุนั้น นายธนกร ได้ขับรถ จยย.ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆกับกลุ่มเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกัน และระหว่างที่ขับรถเล่น บังเอิญโซ่รถ จยย.ของนายธนกร เกิดขาด จึงได้ช่วยกันซ่อมจนเสร็จ และหลังจากนั้น ก็ได้ชวนกันมาเล่นน้ำในแม่น้ำหลังสวน

เพื่อจะได้ชำระล้างตัวจากเหงื่อไคลจากการซ่อมรถ จยย.กลางแดด แต่หลังจากที่ทุกเล่นน้ำกันอยู่ตามริมแม่น้ำ ซึ่งทุกคนว่ายน้ำไม่เก่ง ถึงบางคนไม่เป็นเลยโดยเฉพาะนายธนกร จึงได้เล่นน้ำบริเวณที่ไม่ลึกมากอย่างสนุกสนาน โดยไม่คิดว่าใกล้กับจุดที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่นั้น มีวังน้ำ ซึ่งมีความลึกมาก  นายธนกร ไม่รู้และดำผุดดำว่าย จนพลาดเท้าเหยียบดินทรายลื่นไถลจมลงน้ำต่อหน้าต่อตามเพื่อนที่เล่นน้ำด้วยกัน จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ยินเสียงเอะอะ จึงวิ่งมาดู และทราบเรื่อง

จึงได้เรียกคนเก่งน้ำมาช่วยดำน้ำหา ซึ่งใช้เวลากว่า ครึ่งชั่วโมง กว่าจะพบนายธนกร ขัดติดอยู่กับกิ่งไม้ใต้น้ำ จึงนำร่างขึ้นมาในสภาพจมน้ำเสียชีวิตแล้ว ก่อนนำศพนายธนกร ส่ง รพ.พะโต๊ะ ทำการชันสูตรพลิกอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบศพให้กับทางแม่และญาติ ของนายธนกร ซึ่งไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ ได้นำศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป    

พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ รักสกุล สว.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์เด็กจมน้ำเสียชีวิตครั้งนี้เป็นเคสแรกของเขตรับผิดชอบ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ปกครองทุกท่านให้ใส่ใจดูแลบุตรหลานเป็นพิเศษในช่วงปิดเทอม อย่าปล่อยให้บุตรหลานไปเล่นน้ำเพียงลำพังกับเพื่อน โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล เพราะหากเกิดขึ้น เราจะไม่สามารถย้อนเวลาให้กลับคืนมาได้

สือรัฐ ทีวี บก.เอกสิทธ์ หมวดทอง