
วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางลมหวน คลื่นสูงเนิน อายุ 62 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา พร้อมครอบครัว หอบเอกสารยื่นขอความเป็นธรรมกับ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กรณีถูกกำนันรางวัลแหนบทองคำนายหนึ่ง ร่วมขบวนการกับผู้หญิงที่อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ระดับด๊อกเตอร์ และเจ๊ใหญ่ หลอกลวงเงินรวม 220000 บาท อ้างว่าสามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. (ใบจริง) เพื่อเป็นเจ้าของที่ดิน สปก. โดยสมบูรณ์ จากนั้นจะสามารถนำใบจริง สปก. ที่เป็นชื่อของป้าลมหวน ไปดำเนินการทำเรื่องลงทะเบียนเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินตามนโยบายรัฐบาลได้ แต่สุดท้ายไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ต้องสูญเสียเงินเปล่า จึงมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกำนัน และผู้ร่วมขบวนการ รวม 3 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง

โดยมีปลัดอาวุโส ปฏิบัติหน้าที่หน้าห้อง รับเรื่องเพื่อเสนอให้ผู้ว่าฯทราบ
เหตุการณ์เริ่มต้นตั้งแต่ นางลมหวน ใช้เงินเก็บหอมรอมริบมาตลอดชีวิต ซื้อที่ดิน 13 ไร่ ต่อจากเจ้าของเดิม ในราคาไร่ละ 90000 บาท รวมเป็นเงิน 1170000 บาท แต่เป็นที่ดินเอกสารสิทธิ์ สปก. ต่อมามีกำนันแหนบทองคำรายหนึ่งมาติดต่ออ้างว่า สามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. จากชื่อของเจ้าของเดิม เป็นชื่อของนางลมหวนได้ โดยมีผู้ร่วมขบวนการ ทั้งอาจารย์ด๊อกเตอร์และเจ๊ใหญ่ อ้างตัวว่า รู้จักสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ สปก.โคราช ช่วยทำเรื่องให้ แต่มีค่าดำเนินการทำเอกสารใหม่ทั้งหมดเป็นเงิน 120000 บาท จึงตกลงทำพร้อมกับจ่ายเงินก้อนแรก เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566

ต่อมาวันที่ 5 ตุลาคม 2566 มีผู้หญิงอ้างว่าเป็นอาจารย์ระดับด๊อกเตอร์ ถือเอกสารใบ สปก.ตัวจริง (ใบแข็ง) ที่ยังเป็นชื่อของเจ้าของเดิม (ยังเปลี่ยนชื่อไม่ได้) มาหานางลมหวน อ้างว่า มีคนนำใบ สปก.ฉบับนี้ เอาไปกู้เงิน 100000 บาท ถ้าอยากได้ใบ สปก.(ใบแข็ง)คืน ก็ให้จ่ายเงินมา 100000 บาท นางลมหวนกลัวว่าจะไม่ได้ใบ สปก.คืน จึงยอมจ่ายเงินให้ เพราะกลัวจะไม่ได้อะไรเลย เพราะลงทุนซื้อที่ดินในราคา 1170000 บาท และจ่ายเงินไปครบแล้ว

สุดท้ายมารู้ว่า กำนันแหนบทองคำ อาจารย์ด๊อกเตอร์ และเจ๊ใหญ่ ผู้ร่วมขบวนการรวม 3 คน มาหลอกเอาเงินรวมทั้งสิ้น 220000 บาท ซ้ำยังไม่สามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในใบ สปก.ได้ จึงนำหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ที่ สภ.หนองบุญมาก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566
ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ตำรวจสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง จนสรุปสำนวนคดีส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องศาล ขณะที่ทางอำเภอหนองบุญมาก หน่วยงานปกครอง มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกำนันแหนบทองคำรายนี้ เพราะเป็นตัวการสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน และน่าเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ มีชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายราย

ก่อนหน้านี้ นายพงษ์เทพ จันทร์นอก นายอำเภอหนองบุญมาก ชี้แจงว่า ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้พบว่า มีมูลความผิด กำนันรายนี้มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายหลอกลวงชาวบ้านจริง อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ก่อนเสนอเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพิจารณาบทลงโทษตามขั้นตอนแล้ว
ด้าน กำนันรางวัลแหนบทองคำ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว แต่ได้แจ้งทางโทรศัพท์ว่า ขอรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมจะคืนเงินทั้งหมดแก่ นางลมหวน ผู้เสียหาย แต่อยู่ระหว่างการหารวบรวมเงินก่อน.
กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน