
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการและหารือกับส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน จ.บึงกาฬ

วันที่ (6 เม.ย. 68) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น2 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดบึงกาฬ

เพื่อหารือข้อราชการกับส่วนราชการ เพื่อรับฟังสภาพปัญหารายงานผลการเตรียมความพร้อมรับภัยแล้ง-ภัยพิบัติ รับฟังข้อเสนอแนะ หารือประเด็นด้านความมั่นคง และมอบนโยบาย

โดยมีจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ, นายสมหวัง อารีย์เอืัอ รองผวจ.บึงกาฬ, พลตรีสุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พลตรียงยุทธ ขันทวี ผบ.มทบ.29, นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ, นายพนมวัสส์ วุฒาพาณิชย์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ,

พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ จากนั้น เวลา 14.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านโพนทอง หมู่ที่ 3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ

โดยภายหลังการพบปะผู้นำชุมชนท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รองนายกรัฐมนตรีได้รับปากว่าจะผลักดันงบประมาณการก่อสร้างถนนเพิ่มเติมให้อีก 1.5 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาในการเดินทางและขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ของพี่น้องประชาชนใน 3 หมู่บ้าน ของตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย

เวลา 15.30 น. คณะได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “ค่ายคืนคนดีสู่สังคม” ศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ที่กองร้อย อส.อำเภอโซ่พิสัย ซึ่งเป็นค่ายฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ประกอบด้วยผู้บำบัดชาย 196 คน ผู้บำบัดหญิง 30 คน

โดยมีกระบวนการบำบัด 3 ระบบ คือ การล้างพิษโดยการใช้ยาจากจิตแพทย์ การเข้าค่ายมินิธัญญารักษ์ และการเข้าค่ายฟื้นฟู 120 วัน ซึ่งมีทั้งการฟื้นฟูสมอง และการฝึกอาชีพ เพื่อลดโอกาสการกลับไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

พื้นที่สุดท้ายลงพื้นที่โรงเรียนพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เพื่อประชุมบูรณาการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศป.ปส.อ.พรเจริญ) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการอำเภอพรเจริญ ผู้นำท้องถิ่น

และประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งนี้รองนายกฯภูมิธรรม พร้อมผลักดันงบประมาณในการเปิดค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดเพิ่มเติมให้อีก 1 ล้านบาท “ค่ายคืนคนดีสู่สังคม”

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จ.บึงกาฬ เป็นพื้นที่ที่มีทางเข้าออกของยาเสพติดค่อนข้างมาก เท่าที่ดูจากหลายอย่าง บึงกาฬก็มีจุดแข็งในการแก้ไขปัญหา เท่าที่ดูก็สามารถสืบค้นได้ จนกระทั่งรู้ว่ามีแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้เรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้มาดูคือ พื้นที่ในการฟื้นฟูบำบัด ยาเสพติดไม่ใช่ว่าเราต้องปราบอย่างเดียว มาตรการเหล่านี้เราต้องทำควบคู่กันไป “Seal Stop Safe” ก็คือ ครบวงจรอยู่แล้ว Seal ก็คือ เป็นภารกิจของ ตชด./ ทหาร

ในการระมัดระวังไม่ให้ยาเสพติดไหลทะลักเข้าประเทศ แต่เราก็รู้ว่า Seal อย่างไรก็คงมีการรั่วไหลเข้าประเทศบ้าง เพราะฉะนั้น เราจึงใช้อำเภอต่าง ๆ ทั้ง 51 อำเภอ เพราะยังไงก็ต้องมีจุดพักยา เรามีการบูรณาการทั้งหมด ทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครอง ฝ่ายปกครองมีจุดแข็งคือ

มีหน่วยในหมู่บ้านต่าง ๆ สามารถ X-Ray ได้ว่าบ้านไหนค้ายา หรือพักยา ถ้าบ้านไหนไม่มีการแก้ปัญหา ก็จะเจอกรณีลูกฆ่าพ่อ พ่อฆ่าแม่ ฯลฯ จึงมีความจำเป็นในการฟื้นฟูบำบัด จังหวัดบึงกาฬมีจุดเด่นในการสร้างศูนย์ในการฟื้นฟูบำบัด แต่จังหวัดเล็ก ทรัพยากรค่อนข้างน้อย

ตนตัดสินใจมาดูที่นี่เพราะเห็นว่าบึงกาฬเป็นตัวอย่างที่ดี เราได้มีการดำเนินการที่ท่าวังผาโมเดล จ.น่าน และธวัชบุรีโมเดล จ.ร้อยเอ็ด และมีโมเดลในการแก้ปัญหา มีโมเดลในการใช้โรงพยาบาลหรือสถานศึกษาเป็นฐาน

หลังจากนั้นเราได้มีการกำหนดไว้ 10 จังหวัด ก็คิดว่าจังหวัดบึงกาฬเป็นตัวอย่างในการบำบัดได้ ก็จะไปดูโรงเรียนที่มีความเหมาะที่จะรวมกันให้บูรณาการของหน่วยต่างๆ เข้าไปช่วย ส่วนงบประมาณต่างๆ ไม่ขัดข้องขอแค่แก้ปัญหาได้

นอกจากนี้ พบว่ามีปัญหาเรื่องกฎหมายกฎระเบียบบางข้อ ผู้บริหารบางหน่วยราชการคิดว่าการทำค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดจะผิด ผมคิดว่าต้องเอาเป้าหมายประชาชนเป็นหลัก ส่วนกฎระเบียบที่ผิดก็ไปแก้ให้ถูก ไม่ใช่นำสิ่งเหล่านี้มาคาดโทษผู้ปฏิบัติ

โดยรวมก็คิดว่าที่บึงกาฬเป็นตัวอย่างที่ดี จะมีการไปดูสถานที่ในการจัดทำค่ายฟื้นฟูเพิ่มเติม ตรงไหนที่เพิ่มงบประมาณให้ได้ก็จะให้เลย เพื่อพัฒนาให้แข็งแรง เป็นต้นแบบให้จังหวัดต่างๆ เอาไปใช้ได้อีก
