สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดโปรไฟล์ “หนูน้อยต้นอ้อ-รวิ หอมชื่น“ แข้งจิ๋วโต๊ะเล็กเมืองฉลาม ดาวจรัสแสงอนาคตไกล”เฮิร์บแลนด์“ เล็งปลุกกระแส “ต้นสาคู” พืชมากสรรพคุณแดนใต้ หวั่นถูกโลกยุคใหม่ลืมเลือน/ ระเบิดศึกชิงชัย “BGC Powerboat Grand Prix 2025” สนามที่ 2 ที่หาดบางเสร่ อัพสกิลนักกีฬาไทยสู่เวทีสากล

แชร์เนื้อหานี้

”ฟุตซอล“ เป็นอีกประเภทกีฬาหมากแข้งที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลายไม่แพ้ฟุตบอล จนในปัจจุบันมีผู้สนใจหันมาเอาจริงเอาจังกับกีฬาประเภทนี้มากมายทั่วโลก ทั้งชายหญิง หนุ่มสาว รวมทั้งเด็กและเยาวชน จนมีการจัดการแข่งขันมากมายทั้งในระดับชุมชน ระดับโรงเรียน ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศ ความน่าสนใจคือมีนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่ผุดขึ้นราวดาวเห็ด หนึ่งในนั้นคือ ”ต้นอ้อ-รวิ หอมชื่น” นักกีฬาฟุตซอลหญิง อายุไม่เกิน14 ปี ประจำทีมโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ แข้งจิ๋วโต๊ะเล็กดาวจรัสแสงดวงใหม่จากจังหวัดชลบุรี

ด.ญ.รวิ หอมชื่น ชื่อเล่น น้องต้นอ้อ เกิดวันที่ 7 เมษายน 2556 อายุ 12 ปี อยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ปัจจุบันเป็นนักฟุตซอล รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ของโรงเรียน โดยเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า หรือ สไตรเกอร์ (Striker) มีพี่ชาย 1 คน คือ นายวีรภัทร หอมชื่น (เอิร์ธ) อยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนหัวถนนวิทยา อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และเป็นนักฟุตซอลรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ของโรงเรียนเช่นกัน โดย เริ่มเล่นฟุตซอลตั้งแต่อายุ 10 ปี หรือตอน ป.4 จากอดีตที่ไม่เคยสนใจกีฬาฟุตบอลเลย แต่ด้วยเห็นพี่ชายเป็นนักกีฬาฟุตซอล และบิดาชื่นชอบกีฬานี้เป็นพิเศษมักเล่นฟุตบอลและมีแข่งขันออกกำลังกายอยู่บ่อยครั้ง จึงเกิดความซึมซับ ก่อนเริ่มหัดเล่นจนชื่นชอบ และมุ่งมั่นจนได้เป็นนักกีฬาฟุตซอลประจำโรงเรียนในที่สุด

ทั้งนี้ มีผลงานที่เป็นเกียรติแก่ครอบครัวตนเองและโรงเรียนมากมาย อาทิ ที่ 2 เหรียญเงิน รองแชมป์การแข่งขันฟุตซอลประเภทหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี รายการกีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น (อปท.) ระดับภาคตะวันออก ประจำปี 2566 ก่อนได้สิทธิ์เป็นตัวแทนไปแข่งขันระดับประเทศ, ที่ 2 เหรียญเงิน รองแชมป์การแข่งขันฟุตซอลประเภทหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี รายการกีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น (อปท.) ระดับภาคตะวันออก ประจำปี 2567 ก่อนได้สิทธิ์เป็นตัวแทนไปแข่งขันระดับประเทศ (เป็นรองแชมป์สองปีซ้อน ในรายการระดับภาค),

ที่ 3 เหรียญทองแดง การแข่งขันฟุตซอลประเภทหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี กีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น (อปท.) ระดับประเทศ ประจำปี 2566, ที่ 3 เหรียญทองแดง การแข่งขันฟุตซอลประเภทหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี กีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น( อปท.) ระดับประเทศ ประจำปี 2567 (ได้ที่ 3 สองปีซ้อนเช่นกัน ในรายการระดับประเทศ) ,ที่ 3 เหรียญทองแดง การแข่งขันฟุตซอลประเภทหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี รายการกีฬานักเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี (อบจ.ชลบุรี) ประจำปี 2568 และเหรียญทอง ชนะเลิศการแข่งขันฟุตซอลประเภทหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี รายการชิงแชมป์เยาวชนเมืองพัทยา ประจำปี 2568

ขณะนี้ หนูน้อยต้นอ้อ-รวิ หอมชื่น กำลังเก็บตัวเพื่อไปสู้ศึกร่วมการแข่งขันรายการนักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น (อปท.) ระดับภาคตะวันออก ประจำปี 2568 ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ที่จังหวัดระยอง โดยตลอดวันจันทร์-อาทิตย์ ได้เข้าแคมป์เก็บตัวนักกีฬากับทางโรงเรียน ที่มีนายวิศรุต เย็นฉ่ำ (ครูบาส) และนายอาคม แจ่มจำรัส (โค้ชตุ๋ม) เป็นผู้ฝึกสอน และจะได้กลับบ้านเฉพาะช่วงหลังซ้อมเสร็จตอนเย็นเท่านั้น เพื่อรับประทานอาหารและเตรียมสิ่งของส่วนตัว ก่อนจะกลับมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมที่โรงเรียนในเวลา 20.3

ระเบิดศึกชิงชัย “BGC Powerboat Grand Prix 2025” สนามที่ 2 ที่หาดบางเสร่ อัพสกิลนักกีฬาไทยสู่เวทีสากล

มีรายงานว่า นายอนุศักดิ์ พิริยอมร นายอำเภอสัตหีบ และนางสาวรัตน์ฤดี ปิ่นแก้ว ผู้จัดการส่วนสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดในการแข่งขันเรือเร็วครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในรายการ “BGC Powerboat Grand Prix 2025” สนามที่ 2 ที่ชายหาดบางเสร่ จังหวัดชลบุรี

สิงห์ วอเตอร์สปอร์ต (Singha Watersports) ได้จัดการแข่งขันเรือเร็วครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในรายการ “BGC Powerboat Grand Prix 2025” สนามที่ 2 โดย บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ในเครือกลุ่มบริษัทบางกอกกล๊าส หรือ BG ร่วมสนับสนุนการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

ในพิธีได้รับเกียรติจาก นายสมหวัง เอี่ยมดี นายกเทศบาลตำบลบางเสร่, นายนัฐพงษ์ คงข่าน สมาชิกเทศบาลตำบลบางเสร่ และ นายเชาวลิต ละอองขวัญ ผู้จัดการฝ่ายดูแลอาคารและสถานที่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด พร้อมด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจร่วมงานกันอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ การแข่งขันแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ รุ่น F1 (Formula 1), F5s (Formula 5s), F5 (Formula 5), SPORT 40HP, F30HP (Formula 30HP) และ F3 (Formula 3) โดยผลการแข่งขันในรุ่น Formula 1 นายสราวุธ ขำดี นักแข่งจากทีม BGC สามารถคว้าชัยชนะอันดับ 1 ไปครอง โดยมี นางสาวภัณฑิดา วิทยาภาเลิศ ผู้อำนวยการสำนักกิจการเพื่อสังคมและสื่อสารองค์กร บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติมอบรางวัล

การสนับสนุนของ BGC ในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ BGC ในการยกระดับกีฬาทางน้ำไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล พร้อมสร้างเวทีให้นักกีฬาไทยได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาและก้าวสู่การแข่งขันในเวทีนานาชาติในอนาคต นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของ BGC ยังตอกย้ำบทบาทองค์กรในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬาและการพัฒนาชุมชน ภายใต้แนวทางการเติบโตที่เคียงคู่กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน

”เฮิร์บแลนด์“ เล็งปลุกกระแส “ต้นสาคู” พืชมากสรรพคุณแดนใต้ หวั่นถูกโลกยุคใหม่ลืมเลือน

น.ส.ณัฏฐ์นลิน เชี่ยวชาญธนกิจ ผู้บริหาร บจก.เฮิร์บแลนด์ โปรดักส์ และคณะ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับต้นสาคูกับนายชาญวิทย์ ดารามิตร ปราชญ์ท้องถิ่นและกูรูเรื่องต้นสาคูจากจังหวัดพัทลุง ที่ได้เดินทางมาออกบูธนำเสนอและจำหน่ายเม็ดสาคูต้น “สาคูใต้พัทลุง ของแท้ หาทานยาก” ในงานของดีชาวแดนใต้ OTOP ทั่วไทย และ SMEs ร่วมใจสู่เมืองระยอง ที่โดมแอร์สนามกีฬาจังหวัดระยอง ซึ่งจัดขึ้นโดยโอท็อปเพื่อสังคม และกรมการพัฒนาชุม กระทรวงมหาดไทย

โดยทาง ผู้บริหาร บจก.เฮิร์บแลนด์ โปรดักส์ ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าและคุณประโยชน์ของต้นสาคู พืชมากประโยชน์และมากสรรพคุณ ที่ปัจจุบันกำลังจะถูกลืมเลือนไปจากคนรุ่นใหม่และกระแสสังคม จึงมีแนวคิดจุดประกายในการส่งเสริม ต่อยอด สร้างมูลค่าช่วยเหลือชุมชนที่มีแหล่งป่าต้นสาคู และชาวบ้านที่สร้างรายได้จากประโยชน์ของต้นสาคูให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งสร้างความยั่งยืนในระบบนิเวศป่าต้นสาคูให้ขยายมากขึ้นและคงอยู่สืบไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้บริหาร บจก.เฮิร์บแลนด์ โปรดักส์ และคณะ ได้แลกเปลี่ยนความรู้กับทางกูรูเรื่องต้นสาคูจากจังหวัดพัทลุง ที่ได้เดินทางมาออกบูธในครั้งนี้พร้อมภรรยา ด้วยมิตรภาพและอัธยาศัยไมตรีที่ดีแล้ว ทั้งหมดจึงได้ร่วมกันถ่ายภาพที่ระลึก ก่อนที่ทางคณะเฮิร์บแลนด์ ได้เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าเม็ดสาคูต้น พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อสื่อสารร่วมกันเพื่อพูดคุยรายละเอียดเชิงลึกในการต่อยอดเรื่องต้นสาคูดังกล่าวร่วมกันในอนาคต

อนึ่ง ต้นสาคู เป็นพืชตระกูลปาล์มขนาดกลางถึงใหญ่ ความสูงประมาณ 10–15 ม. ลำต้นตั้งตรงเส้นผ่านศูนย์กลาง 30–50 ซม. ใบยาวคล้ายใบมะพร้าวและใบจากใช้มุงหลังคา เส้นใบและก้านใช้จักสาน ลำต้นบางส่วนใช้เป็นฟืน รากช่วยยึดดินในพื้นที่ชุ่มน้ำ ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะที่ที่มีน้ำขังตลอดทั้งปี ริมน้ำ หนองคลองบึง และป่าพรุ พบมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปาปัวนิวกินี และเป็นพืชเฉพาะถิ่นทางภาคใต้ของไทย

ในส่วนของการใช้ประโยชน์จากต้นสาคู หลักๆ นั้น จะมีการนำไส้ต้นหรือแกนในของลำต้นสาคู ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 8-10 ปี มาทำเป็นแป้งสาคู เมื่อตัดต้นลงมาจะขูดแกนในออกมาล้างและร่อนจนเป็นเม็ดกลม ก่อนนำไปตากจนแห้ง จะได้แป้งสาคู หรือ “สาคูต้น” ซึ่งต้นสาคูแต่ละต้นจะให้สาคูต้นที่มีสีแตกต่างกันออกไป ทั้ง สีน้ำตาล สีชมพู หรือว่าส้มอมเหลือง ตามตามความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งที่ขึ้น โดยแป้งนี้สามารถนำไปทำขนม หรือเป็นอาหารหลักแทนข้าว

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับในท้องถิ่นบางแห่งของบางประเทศนั้น ต้นสาคูยังถือได้ว่าเป็นแหล่งอาหารหลักที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะแป้งจากต้นสาคูหนึ่งต้นสามารถเลี้ยงดูแลคนในครอบครัวหนึ่งได้หลายเดือน แต่ปัจจุบันนี้หา “สาคูต้น” หรือ ”แป้งสาคูแท้“ ได้ยากและค่อนข้างน้อยมาก เพราะมีการนำแป้งจากแหล่งอื่นหรือพืชอื่นมาทดแทน ซึ่งสามารถหาได้ง่ายกว่าและสะดวกมากกว่า อาทิ แป้งจากมันสำปะหลัง หรือแป้งจากข้าวเจ้า ดังที่ได้เห็นอยู่มากมาย

นอกเหนือจากประโยชน์ดังกล่าวแล้ว ต้นสาคูยังมีสรรพคุณมากมาย โดยเมล็ดสามารถนำมาบดใช้พอกรักษาอาการปวดหัว, หัวสามารถนำมาต้มน้ำใช้ดื่มแก้อาการท้องเสีย หรือนำมาตำให้ละเอียดรับประทานแก้โรคคุดทะราด หรือนำมาต้มเคี่ยวก่อนดื่มช่วยแก้โรคตับอักเสบ หรือนำหัวสดมาตำให้ละเอียดก่อนใช้ทาพอกรักษาแผล หรือนำหัวมาต้มดื่มใช้เป็นยาขับปัสสาวะ รวมถึงนำมาแช่น้ำ และตำให้ละเอียดใช้อุดจมูกเพื่อหยุดเลือดกำเดาได้ เป็นต้น