
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะทิว ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ธเนศ มีทอง ผกก.สภ.ปะทิว และ พ.ต.ท.ณรงค์ธรรม พันธ์พฤกษ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปะทิว สนธิกำลังชุดสืบสวน เปิดปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมเชิงรุก ไล่ล่าคนร้ายก่อเหตุงัดตู้หยอดเหรียญในพื้นที่อย่างอุกอาจ สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการจำนวนมากการจับกุมครั้งนี้นำโดย พ.ต.ต.ธรรมรักษ์ ศรีสังข์ สว.สส.สภ.ปะทิว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือนายนัทธพล หรือเอก ( สงวนนามสกุล ) อายุ 25 ปี ชาวตำบลชุมโค อำเภอปะทิวตรวจยึดของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1นายอาทร หรือ ต่าย ( สงวนนามสกุล )อายุ 31 ปี ชาวตำบลชุมโค อำเภอปะทิวตรวจปัสสาวะพบสารเมทแอมเฟตามีน

แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการสอบสวนเชิงลึกพบว่า นายนัทธพล เป็นตัวการสำคัญ ขโมยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 แล้วนำรถที่ได้มาใช้ตระเวนก่อเหตุ งัดตู้ซักผ้า ตู้เติมเงิน ตู้เติมน้ำมัน และตู้หยอดเหรียญ ในพื้นที่ สภ.ปะทิว ไม่น้อยกว่า 8 จุด รวมถึงในเขตเมืองและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเลือกก่อเหตุในจุดเปลี่ยว ไม่มีคนสัญจร และไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด หากพบกล้องภายหลังก็จะรีบลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีทันที
ตำรวจระบุพฤติกรรมผู้ต้องหา ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง ทำตัวเป็น “นกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำไหนนอนนั่น” อาศัยศาลาริมทาง ใต้สะพาน หรือพื้นที่รกร้างเป็นที่ซ่อนตัว ก่อนตระเวนก่อเหตุซ้ำซาก สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างนางสุจิตรภัณฑ์ เพชรคีรี ผู้เสียหาย ชาวหมู่ 6 ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว หลังทราบว่าผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวได้ตระเวนก่อเหตุงัดตู้หยอดเหรียญในพื้นที่ใกล้เคียงบ้านตนเป็นจำนวนมาก

แม้ตู้หยอดเหรียญของตนจะได้รับความเสียหายไม่มาก เนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้เปิดตู้เก็บเงินออกไปแล้ว แต่ก็ถือเป็นการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนและหวาดผวาให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่งผู้เสียหายระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีตู้หยอดเหรียญของชาวบ้านและผู้ประกอบการรายย่อยถูกงัดโจรกรรมหลายจุด มีผู้เสียหายจำนวนมากทยอยเข้าแจ้งความ ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด และหวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีกในพื้นที่ พ.ต.อ.ธเนศ มีทอง ผกก.สภ.ปะทิว เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามคดีงัดตู้หยอดเหรียญมาตั้งแต่ปลายปี หลังมีผู้ประกอบการร้องเรียนจำนวนมาก จนสามารถรวบตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด พร้อมย้ำชัดว่า ตำรวจจะไม่ปล่อยให้กลุ่มอาชญากรฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และจะขยายผลดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดี ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ทำอันตรายสิ่งกีดกั้น และลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด พร้อมย้ำเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมเข้มข้น เพื่อคืนความสงบสุขให้ประชาชนในพื้นที่ต่อไป.

ผู้ตรวจการอัยการลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการ สำนักงานอัยการในพื้นที่จังหวัดชุมพร ภาค 8

วันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายสัญจัย จันทร์ผ่อง ผู้ตรวจการอัยการ เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานอัยการในพื้นที่ภาค 8 ประกอบด้วย สำนักงานอัยการจังหวัดชุมพร สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชุมพร

ในการนี้ มีนายณัฐพงษ์ บุญทอง อัยการจังหวัดชุมพร นายขวัญชัย ขุมไชยรักษ์ อัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร และนายยศสรัล พัศระ อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยข้าราชการและบุคลากรในสังกัด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมร่วม

รายงานผลการปฏิบัติราชการและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการพัฒนางานด้านกระบวนการยุติธรรม ผู้ตรวจการอัยการได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการ พ.ศ. 2569 พร้อมกำชับให้ข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด โดยเน้นย้ำการบันทึกข้อมูลในระบบ e-survey และระบบสารบบคดีอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังได้รับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ เรื่องอัตรากำลังบุคลากร อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อาคารสถานที่ ยานพาหนะราชการ รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ซึ่งจะได้นำข้อมูลดังกล่าวสรุปเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขต่อไป พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของ

โครงการก่อสร้างในความรับผิดชอบของสำนักงานอัยการโอกาสนี้ นายสัญจัย จันทร์ผ่อง ผู้ตรวจการอัยการ ได้กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจแก่บุคลากรทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานอัยการสูงสุด ภายใต้แนวคิด “ซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงธรรม สร้างความยุติธรรมแก่ประชาชน”

ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ปล่อยแถว “กวาดล้างอาชญากรรม” พร้อมรับเทศกาลคริสต์มาส–ปีใหม่ 2569

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมอย่างเข้มข้น ก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยกำหนดปฏิบัติการต่อเนื่องในห้วงวันที่ 17 – 25 ธันวาคม 2568 รวม 9 วันเต็ม เพื่อสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่

ในการนี้มี พ.ต.ท.สุรศักดิ์ พนัสนาชี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชุมพร, พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร, พ.ต.ท.ปฏินันท์ จันทร์หนองไทร สว.จร.สภ.เมืองชุมพร และ พ.ต.ท.ประคอง แก้วประสม สวป.(ชส.)สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อส. และ อส.ตร.สภ.เมืองชุมพร เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณหน้าที่ทำการ สภ.เมืองชุมพร

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ได้ชี้แจงภารกิจและข้อสั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด โดยมุ่งเป้ากวาดล้างความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 อาชญากรรมทั่วไป รวมถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นอกจากนี้ยังเน้นปราบปรามการจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ทั้งในพื้นที่ (On Ground) และผ่านระบบออนไลน์ (Online) การติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ กลุ่มผู้มีอิทธิพล ผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ตลอดจนคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ การแข่งรถในทาง และการตรวจแหล่งมั่วสุมต่าง ๆ โดยเพิ่มวงรอบการตรวจตรา กำชับสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ขณะเดียวกัน ได้สั่งการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด บนถนนสายหลักและสายรอง ตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะอย่างเข้มงวด พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ทุกนายให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหลักยุทธวิธีตำรวจ (SOP) อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดช่วงเทศกาลสำคัญ
