สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สธ. เดินหน้าภารกิจ “Never Stop to Burn ทำลาย มั่นใจ ไม่เวียนขาย ไปทำลายสังคม” เผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 60 น้ำหนักรวม 44 ตัน /AOT เดินหน้าดูแลชุมชมปีที่ 8 มอบเครื่องช่วยฟัง รอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

แชร์เนื้อหานี้

สธ. เดินหน้าภารกิจ “Never Stop to Burn ทำลาย มั่นใจ ไม่เวียนขาย ไปทำลายสังคม” เผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 60 น้ำหนักรวม 44 ตัน
กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดปฏิบัติการ “Never Stop to Burn ทำลาย มั่นใจ ไม่เวียนขาย ไปทำลายสังคม” เผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 60 จากคดีรวม 55,876 คดี น้ำหนักรวมหีบห่อ 44 ตัน มากที่สุด ได้แก่ ยาบ้า ไอซ์ คีตามีน ไซบูตรามีน เฮโรอีน คลอรัลไฮเดรต และฝิ่น ส่วนภารกิจด้านการบำบัดฟื้นฟู ในปี 2568 ได้นำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษากว่า 2.47 แสนคน และส่งกลับคืนสู่สังคมแล้วกว่า 1.5 แสนคน

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 60 โดยมี นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พลตำรวจตรีสมบูรณ์ เทียนชาว รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพอากาศ กองทัพเรือ กองทัพบก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด กรมศุลกากร กรมประชาสัมพันธ์ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายพัฒนา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินการเผาทำลายยาเสพติดของกลางอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 60 ภายใต้ปฏิบัติการ “Never Stop to Burn ทำลาย มั่นใจ ไม่เวียนขาย ไปทำลายสังคม” มียาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจรับและอนุมัติให้เผาทำลายจาก 55,876 คดี น้ำหนักรวมหีบห่อ 43,643 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักตัวยาเสพติด 34,655 กิโลกรัม 680 กรัม 416 มิลลิกรัม มากที่สุดคือ เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) 24,095 กิโลกรัม รองลงมา เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) 7,208 กิโลกรัม คีตามีน 1,642 กิโลกรัม ไซบูทรามีน 554 กิโลกรัม เฮโรอีน 478 กิโลกรัม คลอรัลไฮเดรต 306 กิโลกรัม ฝิ่น 160 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่น ๆ

การเผาทำลายใช้เตาเผาขยะอันตรายด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ประกอบด้วย เตาเผาชุดที่ 1 แบบหมุน (Rotary Kiln) อุณหภูมิมากกว่า 850 องศาเซลเซียส และเตาเผาชุดที่ 2 แบบทรงกลมตั้ง อุณหภูมิมากกว่า 1,200 องศาเซลเซียส เพื่อให้มั่นใจว่าสารประกอบอินทรีย์อันตรายถูกทำลายมากกว่า 99.99996% ไม่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตรวจสอบควบคุมสารมลพิษทุก 3 ชั่วโมง โดยจะเผาต่อเนื่อง 36–38 ชั่วโมง

นายพัฒนา กล่าวต่อว่า นอกจากภารกิจด้านการเก็บรักษา การทำลาย การนำไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้รับผิดชอบหลักแล้ว กระทรวงสาธารณสุขยังรับผิดชอบด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดปี 2568 ได้นำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดทั้งในรูปแบบผู้ป่วยบำบัดโดยชุมชนเป็นฐาน (CBTX) มินิธัญญารักษ์ สถานฟื้นฟูภายใต้สถานพยาบาล และการบำบัดในผู้ต้องขัง รวม 247,000 คน ได้รับการบำบัดครบกระบวนการและกลับคืนสู่สังคมแล้ว 150,000 คน


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

AOT เดินหน้าดูแลชุมชนต่อเนื่องปีที่ 8 มอบเครื่องช่วยฟังแก่ประชาชนรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ห่วงใยใส่ใจคุณภาพชีวิตชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จัดพิธีมอบเครื่องช่วยฟังแก่ผู้บกพร่องทางการได้ยิน ประจำปี 2568 ตอกย้ำนโยบายการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องช่วยฟังตามโครงการตรวจสมรรถภาพการได้ยินและสนับสนุนเครื่องช่วยฟังให้กับประชาชนที่อยู่โดยรอบ ทสภ. ประจำปี 2568 โดยมี นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าร่วมพิธีด้วย ณ ห้องจัดเลี้ยง 1 ชั้น 5 อาคารสำนักงาน ทสภ.


โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ AOT ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยฝ่ายสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สูญเสียการได้ยินสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ เพิ่มคุณภาพชีวิตด้านการได้ยินที่ผิดปกติให้ดีขึ้นหรือใกล้เคียงกับบุคคลทั่วไป รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ทอท.กับประชาชนและชุมชนโดยรอบ ทสภ. อย่างยั่งยืน


สำหรับปี 2568 จากการตรวจสมรรถภาพการได้ยินอย่างละเอียด โดย โสต ศอ นาสิกแพทย์ พบมีผู้บกพร่องทางการได้ยินที่สมควรได้รับเครื่องช่วยฟัง จำนวน 12 ราย โดยมี 4 ราย ที่ได้รับคนละ 1 เครื่อง และมี 8 ราย ที่ได้รับคนละ 2 เครื่อง รวมจำนวนเครื่องช่วยฟังที่มอบในครั้งนี้ 20 เครื่อง มูลค่ารวมทั้งสิ้น 700,000.-บาท (ราคาเครื่องละ 35,000 บาท) จนถึงปัจจุบัน AOT ได้มอบเครื่องช่วยฟังให้กับประชาชนที่สูญเสียการได้ยินไปแล้วรวมทั้งสิ้น 83 ราย รวม 139 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ารวม 4,470,000 บาท


การดำเนินงานในครั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบายของ AOT ที่ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบท่าอากาศยานให้ดีขึ้น และส่งเสริมให้ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบทั้ง 6 แห่ง คือ ทสภ. ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิดการเป็นสนามบินที่เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและเพื่อนบ้านที่ดีของชุมชน (Corporate Citizenship Airport)


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ