เรื่องทั้งหมดโดย admin

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รถบรรทุกพ่วงพลิกตะแคงกลางวงเวียนยักษ์มุกดาหาร คาดสาเหตุถนนไม่ได้มาตรฐาน​ความปลอดภัย

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 06.13 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 นายอดุลย์ ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วงพลิกคว่ำบริเวณวงเวียนทางเข้าสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต) จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันฯ พร้อมรถกู้ภัยและรถดับเพลิงเร่งเข้าตรวจสอบและเฝ้าระวังเหตุซ้ำซ้อน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการเก็บกู้

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วงยี่ห้อวอลโว่ หมายเลขทะเบียน 73-9898 สมุทรปราการ พลิกตะแคงอยู่บริเวณขอบถนนเลนด้านนอกของวงเวียน มุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครพนม สภาพรถได้รับความเสียหาย กระจกบังลมหน้าหลุดออกมาทั้งแผ่น

จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากถนนบริเวณรอบวงเวียนดังกล่าวมีระดับไม่เท่ากัน โดยเลนด้านในซึ่งติดกับเกาะกลางวงเวียนมีความสูงกว่าด้านนอก ทำให้เมื่อรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าโค้งและเตรียมเลี้ยวออกจากวงเวียน จึงเสียสมดุลและพลิกคว่ำในที่สุด

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณใกล้เคียงจุดที่เคยเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงพลิกตะแคงเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านและผู้ใช้ถนนต่างแสดงความกังวล พร้อมทั้งเรียกร้องให้กรมทางหลวงชนบท หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางถนนเข้าตรวจสอบและปรับปรุงถนนโดยด่วน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

รถบรรทุกพลิกคว่ำ #วงเวียนยักษ์มุกดาหาร #ถนนไม่ได้ระดับ #อุบัติเหตุซ้ำซ้อน #มุกดาหาร #ความปลอดภัยทางถนน #สะพานมิตรภาพไทยลาว2 #กรมทางหลวงชนบท #กระทรวงคมนาคม

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รมว.ท่องเที่ยวฯ ลงพื้นที่น่าน ร่วมหารือแนวทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พร้อมรับฟังข้อเสนอสร้างแลนด์มาร์คใหม่

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่โรงบ่มปัว คาเฟ้ แอนด์ อีทเทอรี่ อำเภอปัว จังหวัดน่าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและหารือแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด โดยมีนายแพทย์ชนน่าน ศรีแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายนพรัตน์ ถาวงศ์ นายก อบจ.น่าน ให้การต้อนรับ

ในการประชุมครั้งนี้ มีภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว อาทิ พ.อ.วัฒนา จันทร์ไพจิตต์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดน่าน ผู้แทนสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอปัว เข้าร่วมรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวและเสนอแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ภาคีเครือข่ายได้เสนอให้เร่งรัดโครงการระบบรถไฟรางคู่เชื่อมเส้นทาง เด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ และยกระดับจังหวัดน่านให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค พร้อมเสนอแนวคิดโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ อาทิ

  • Iconic Tourism Hub Sky Walk แลนด์มาร์คใหม่สำหรับจัดกิจกรรมท่องเที่ยว
  • โครงการกระเช้าลอยฟ้า เชื่อมต่ออุทยานแห่งชาติขุนสถาน และอุทยานแห่งชาติศรีน่าน (ดอยเสมอดาว) โดยมีศูนย์กลางที่อำเภอนาน้อย เพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
    นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวเน้นย้ำถึงการสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดน่านบนพื้นฐานของอัตลักษณ์ท้องถิ่น ทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างรายได้และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รวมพลังคนปรางค์กู่ ศรีสะเกษ ให้กำลังใจ น้ำใจ สู่แนวหน้า ปกป้องปราสาทตาเมือนธม

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันเสาร์ที่17พฤษภาคม 2568 นาย ทองสุข คำมานายกองค์การบริหารส่วนตำบลพิมายเหนือ นายสมบัติกอกหวาน ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอปรางค์กู่ นายทวีชัย คำแพง รองประธานสภาวัฒนธรรมฯชมข้าราชการบำนาญอำเภอปรางค์กู่ นายวรวิทย์ เสริมศรี คหบดี ดร.วิลดา

อินฉัตร ส.ส.เขต7จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกันบริจาคสิ่งของ อาหาร อาหารเสริม เครื่องดื่ม น้ำดื่ม.ฯ นำไปมอบให้ทหารที่ปราสาทตาเมือนธม โดยมี ร้อยโท
ไวคิด ศรีพรหม ผบ.กองร้อย ร.พัน 4

พร้อมเหล่าหาร หาญรอการต้อนรับ โดยมีนายทองสุข คำมา กล่าวแสดงความรู้สึกเป็นห่วงชาติแผ่นดินและเป็นห่วงทหาร หาญ ที่เป็นรั้วของชาติอยู่แนวหน้า และได้ย้ำว่าคนปรางค์กู่ ที่อยู่แนวหลังจะให้กำลังใจ พร้อมให้การสนับสนุนตลอดเวลา

การรวมพลัง เดินทางไปคราวนี้ไปด้วยรถปิ๊คอัพ ส่วนตัว พร้อมบรรทุกสิ่งของที่รวบรวมได้จากการบริจาค เป็นจำนวนมาก เพ่ื่อนำไปมอบ โดยมี ร้อยโทไวคิด ศรีพรหม เป็นผู้รับมอบ หลังจากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมปราสาท ภายในภายนอกบริเวณปราสาท พบทหารต่างชาติ อยู่ร่วมปะปนกับทหารไทยเป็นจำนวนมาก

ทั้งที่พื้นที่นี้เป็นของประเทศไทย ไทยได้ครอบครองและทำกิจกรรมอยู่นี่มาเป็นเวลานานแล้วทำไมต้องให้ทหารต่างชาติมาอยู่ในผืนแผ่นดินไทยได้อย่างไรหรือปล่อยให้เป็นประเด็น อย่างนี้อยูร่าไป ตลอดอดไปไช่ไหม จึงฝากฝากความเห็นไปยังผู้รับผิดชอบไปยังผู้นำระดับประเทศ นั่งอยู่สุขได้อย่างไร ไม่ร้อนไม่หนาว ไม่มีความเป็นห่วงบ้างหรือ

อยากให้ไปดูด้วยตนเอง ว่าสถานการณ์เบ้านเมืองแนวเขตแดนป็นอย่างไร รอบปราสาทก็ไม่มีแนวเขตกั้น กอร์ปกับมีช่องทาง ให้คนต่างชาติ ขึ้นเข้ามาในตัวปราสาทได้อย่างไร หรือจะปล่อยให้คนต่างชาติขี้นมายึดครองก่อนหรือจึงจะ

แก้ไข จะเข้าทำนอง วัวหายแล้วล้อมคอก เช่นนั้นหรือ การเดินทางไปครั้งนี้จำนวน10 คัน 30 คน เป็นตัวแทนของ คนปรางค์กู่.ไม่ทิ้งแนวหน้า พร้อมที่จะต่อสู้ เคียงข้างกับเหล่าทหาร หาญ อย่างไม่มีถอยครับ
นายทองสุข คำมา/เขียน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เสาไฟฟ้าล้มทับ นายธนภัทร แก้วกาญจน์ ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ขณะปฎิบัติหน้าที่ ถามหาคนรับผิดชอบ

แชร์เนื้อหานี้

ร.ต.อ. สมนึก ฉิมมี รอง สวย. ( สอบสวน ) สภ. เคียนซา แจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ16.00น.
ขณะปฏิบัติหน้าที่เวรสอบสวนได้รับแจ้งจากศูนย์สื่อสารของสถานีตำรวจภูธรเคียนซาเหตุเสาไฟฟ้าล้มทับคนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางไปดูผู้ตายและบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเคียนซา

พบศพนายธนภัทร แก้วกาญจน์ อายุ 24ปี สัญชาติไทย ที่อยู่ 107 หมู่ที่ 4 ตาย.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา และนายณัฐวรรธน์ นิ่มนุ้ย อายุ 29 ปี สัญชาติไทย ที่อยู่80/8 หมู่ที่ 3 ต.ตะปาน อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บ อยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์จากนั้นร่วมกับแพทย์และญาติทำการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย และมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา

จากนั้นเดินทางมาที่เกิดเหตุ ซึ่งที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนซอยแสงธรรม เป็นดินลูกรัง ข้างถนนมีรอยเซาะของน้ำ มีเสาไฟฟ้าแรงสูงปักเป็นแนวอยู่ทางด้านขวาของถนนซอย จุดที่พบว่าเป็นจุดปักเสาไฟฟ้าขนาด14 เมตร ข้างขวามีรอยเซาะดิน และเสาไฟฟ้าได้ล้มมาทางสวนยางพาราอยู่ด้านซ้ายของถนนซอย สอบถามนายบุญธรรม รามขาว หัวหน้าคุมงาน ได้ความเบื้องต้นว่าตามเวลาเกิดเหตุผู้ตายและ

นายรัฐวรรธน์ นิ่มนุ้ย ได้ขึ้นไปปรับปรุงสายไฟฟ้าที่เกิดเหตุ และเสาไฟฟ้าเกิดล้มมาทางสวนยางพาราอยู่ทางด้านซ้ายของถนนซอย ทำให้ผู้ตายเสียชีวิตในเวลาต่อมาและนายณัฐวรรธน์ นิ่มนุ้ย ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะได้ดำเนินการต่อไป

ที่พบศพ โรงพยาบาลเคียนซา หมู่ที่2 ตาย.เคียนซา อยู่.เคียนซา จะ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 15.36น. เอกสารฉบับนี้แสดงว่า ร.ต.อ. สมนึก ฉิมมี ได้รับคำแจ้งความของท่านไว้แล้ว ( ติดต่อพนักงานสอบสวน โทร 0969821534 หรือ สถานีตำรวจ/กองกำกับการ โทร. 077387111 )
เลขคำแจ้งความที่ CC7105526801227G

เนื่องจาก ผู้รับเหมาเดินเสาไฟฟ้ากล่าวว่า การไฟฟ้าสุราษฯ เป็นผู้ปักเสาร์ไฟฟ้าเอง น่าจะเป็นสาเหตุให้เสาไฟฟ้าล้มทับนายธนภัทร แก้วกาญจน์ จนเสียชีวิต แล้วหน่อยงานไหนจะออกมารับผิดชอบ ต้องติดตามตอนต่อไป

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ชาวสวรรคโลกจัดผ้าป่าสามัคคีมอบโรงพยาบาลสวรรคโลกจัดซื้อครุภัณฑ์ตึกใหม่

แชร์เนื้อหานี้

ชาวสวรรคโลกจัดผ้าป่าสามัคคีมอบโรงพยาบาลสวรรคโลกจัดซื้อครุภัณฑ์ตึกวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 พระวัชรสิริคุณ (หลวงน้าเสน่ห์ สิริวฑฺฒโน) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย พระครูสุขุมธรรมนิเทศก์ เจ้าคณะอำเภอสวรรคโลก เจ้าอาวาสวัดท่าเกษม

นายเอนก วิทยาพิรุณทอง นายอำเภอสวรรคโลก หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวอำเภอสวรรคโลก ได้ร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนจัดซื้อครุภัณฑ์รองรับการเปิดให้บริการอาคารผู้ป่วยนอก 6 ชั้น ของโรงพยาบาลสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พุทธศักราช 2568ตรงกับวันแรม 6 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง

โดยมีนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ราชสมณะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรคโลก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย (ด้านเวชกรรมป้องกัน คนที่ 3) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสวรรคโลก ให้การต้อนรับคณะสงฆ์ แขกผู้มีเกียรติ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา

ณ ห้องประชุมพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร (อาคารหลวงน้าเสน่ห์ ชั้น 3) ภายในงานมีการเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพล และประกอบพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีอย่างพร้อมเพรียง บรรยากาศเป็นไปด้วยความปลื้มปีติและจิตเมตตา ในการร่วมสืบสานบุญกุศลเพื่อสนับสนุนการพัฒนางานบริการของโรงพยาบาล

สำหรับยอดเงินที่ได้รับจากการทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ โรงพยาบาลสวรรคโลกได้รับเงินสดรวมทั้งสิ้น 811,094 บาท แยกเป็นจาก คณะสงฆ์ 392,711บาท และจากฝ่ายฆราวาส 418,383 บาท โดยยังไม่รวมยอดที่มีการโอนเข้าบัญชี ซึ่งยังคงทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลจะได้สรุปยอดรวมสุทธิอีกครั้งในวันที่ 31พฤษภาคม 2568และจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดงาน สืบสานวัฒนธรรมไตลื้อโลก ประจำปี 2568 ณ จังหวัดน่าน

แชร์เนื้อหานี้

ที่สนามที่ว่าการอำเภอปัว จังหวัดน่าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน เปิดงานสืบสานวัฒนธรรมไตลื้อโลก ประจำปี 2568 โดยมีนายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายกสมาคมไตลื้อต่างประเทศทั้ง 3 ประเทศ นายกสมาคมไตลื้อจาก 7 จังหวัดภาคเหนือ และจาก 7 อำเภอของจังหวัดน่าน

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ให้การต้อนรับ โดยมี ร้อยเอกอดุลย์ อานุภาพบรรเจิด ประธานชมรมไตลื้ออำเภอปัว รักษาการประธานชมรมไตลื้อจังหวัดน่าน กล่าวรายงาน

งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชนศึกษาประวัติชาติพันธุ์ไตลื้อ อนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมไตลื้อ ให้คงไว้กับสังคมหมู่บ้านอย่างเข้มแข็ง ส่งเสริมพัฒนาความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของคนไตลื้อให้ดีขึ้น สานสัมพันธ์ชาติพันธุ์ไตลื้อ ระหว่าง ตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอปัว จังหวัดน่าน ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

กลุ่มชาติพันธุ์ไตลื้อกระจายอยู่ใน 7 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดน่าน มีชาติพันธุ์ ชาวไตลื้อกระจายอยู่ ทั้งหมด 33 หมู่บ้าน นับเป็นกลุ่มที่เข้มแข็ง มีความหลากหลายของวัฒนธรรมประเพณีไตลื้อ โดยในปีนี้ ได้มีการสืบสานสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องไตลื้อ จากต่างประเทศ ต่างจังหวัด และต่างอำเภอ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อสืบสานให้เข้มแข็งคู่กับจังหวัด และประเทศไทยต่อไป

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปีนี้ รัฐบาลได้มีนโยบาย “ปีทองแห่งการท่องเที่ยว” ปรับรูปแบบเมืองรองการท่องเที่ยวเป็น “เมืองน่าเที่ยว” ทั่วไทย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเป็นเรือใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และการจัดงานไตลื้อโลก ในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี

ในการนี้ได้มีการเชื่อมสายสัมพันธ์กับพี่น้องไตลื้อจากสิบสองปันนา ประเทศจีน, ประเทศเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมทั้งพี่น้องไตลื้อจาก 7 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง, แพร่ และน่าน ได้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่นในรูปแบบขบวนแห่วิถีชีวิต การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมของประเพณีไตลื้อ

สำหรับการจัดงานไตลื้อโลก ได้รับสนับสนุนงบประมาณจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน และภาคีเครือข่าย จัดขึ้นระหว่าง 16-18 พ.ค.นี้/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมมอบของกินของใช้ให้ผู้ป่วยติดเตียงบริเวณชุมชนย่านวัดอรุุณราชวราราม /ร่วมสร้าง “หอระฆังทรงนาคปรก ” ณ วัดพรานนกจ.พระนครศรีอยุธยา

แชร์เนื้อหานี้

16 พค 2568 เวลา 14.30 น โดยประมาณ บริเวณชุมชนย่านวัดอรุุณราชวรารามมูลนิธิพุทธภูมิธรรม นำโดย อาจารย์วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิฯ ร่วมมอบของกินของใช้ให้ผู้ป่วยติดเตียงและผู้มีความจำเป็นด้วยความเมตตาของ ทางวัดอรุณราชวราราม และคณะสงฆ์ ขอส่งพลังบุญและมงคลอธิษฐานให้แด่ทุกท่าน อย่าเจ็บ อย่าจน อย่าอด อย่ายาก ให้มากให้มี สุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน ตราบถึง พระนิพพาน เทอญ…

ชื่อเสียงก้องกังวาน ประกาศชัยมงคล #ร่วมสร้างหอระฆัง #วัดสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ #เสริมสิริมงคลชีวิตมั่นคง

อานุภาพแห่งศรัทธา ก้องกังวานนาม ประกาศชัยมงคล ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง “หอระฆังทรงนาคปรก” ณ วัดพรานนก จ.พระนครศรีอยุธยา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งสัตยาธิษฐานต่อหน้า “หลวงพ่อแดง” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพระบารมีนำชัยชนะมาสู่การกู้ชาติ ซึ่งเป็น “ชัยชนะแรก” ของพระองค์อันสำคัญยิ่ง ก่อนที่พระองค์จะนำทัพตีฝ่าวงล้อมข้าศึก

กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ร่วมกับ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วม “ทอดผ้าป่าสามัคคี” เพื่อสืบสานปณิธานแห่งความกตัญญูต่อแผ่นดิน และร่วมสร้างหอระฆังอันเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความเจริญรุ่งเรืองวันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน 2568 ณ วัดพรานนก ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 7.00 – 12.00น.ร่วมสร้างบุญบารมีได้ที่ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาสนามเสือป่า [ttb] ชื่อบัญชี: พล.1รอ. เพื่อรองรับเงินการกุศล
เลขที่: 046 – 2 – 88043 – 6

วัดพรานนก: ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จารึกประวัติศาสตร์ชาติไทย สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2300 เป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงจุดประกายแห่งความหวังและนำทัพ 500 นาย “ชนะศึก 2,000” ทหารพม่าได้อย่างน่าอัศจรรย์ ก่อเกิดขวัญและกำลังใจอันยิ่งใหญ่ในการกอบกู้เอกราชอานิสงส์

  • ชื่อเสียงก้องกังวาล: ดุจเสียงระฆังที่ดังก้องกังวานไปทั่วสารทิศ เกียรติคุณและความดีงามของท่านจะขจรขจาย เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนทั้งหลาย
  • ชีวิตมั่นคง: ฐานะความเป็นอยู่จะมั่นคง ร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากอุปสรรคและภัยอันตราย ดุจความแข็งแกร่งของแผ่นดินที่ได้รับการกอบกู้
  • เสริมสร้างบารมีแห่งชัยชนะ: จิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ เอาชนะอุปสรรคทั้งปวงในชีวิต ดุจวีรกรรมอันเกรียงไกรของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
  • ความเป็นสิริมงคล: นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ความโชคดี และความเป็นสิริมงคลในทุกด้านของชีวิต
  • ความภาคภูมิใจ: ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความกตัญญูและประวัติศาสตร์ชาติไทย

โปรดส่งชื่อ-สกุล และหลักฐานการร่วมบุญมาที่ Line Official Account : มูลนิธิพุทธภูมิธรรม กดเลย 👇 https://lin.ee/VDGS28Xเพื่อนำไปอธิษฐานจิตในพิธีทอดผ้าป่าฯ ต่อหน้า “หลวงพ่อแดง” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งสัตยาธิษฐานจนได้รับชัยชนะ ได้ที่ไลน์มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และบุญกุศลที่ท่านได้ร่วมสร้าง จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง ก้องกังวานด้วยชื่อเสียง และมีชีวิตที่มั่นคงตลอดไปเทอญ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / วช.เลือกพัทยา เปิดเวิร์กช็อปสร้างสรรค์ศิลปะ “นีโอศิลปะพัทธยา” คณะศิลปินแห่งชาติแห่ร่วมงานคับคั่ง

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 17 พ.ค.68 ที่ศูนย์แสดงศิลปะ Flipper Art Space Pattaya โรงแรมฟลิปเปอร์ ลอร์ด พัทยา จ.ชลบุรี สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการสร้างสรรค์ศิลปะ ภายใต้โครงการสีสันสุนทรียะใหม่ชายฝั่ง EEC : นีโอศิลปะพัทธยา

โดยได้รับเกียรติจากนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ซึ่งมีนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร ผู้บริหารโรงแรมฯ นายฉัตร จะยะวงศ์ ภัณฑารักษ์ศูนย์แสดงศิลปะ Flipper Art Space Pattaya

และนายมานะ ยาประคำ ประธานสภาวัฒนธรรมเมืองพัทยา ร่วมให้การต้อนรับ คณะศิลปินแห่งชาติ นำโดย ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติอาวุโส ให้เกียรติเข้าร่วมงาน

สำหรับงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการสร้างสรรค์ศิลปะ ภายใต้โครงการสีสันสุนทรียะใหม่ชายฝั่ง EEC : นีโอศิลปะพัทธยา จัดขึ้นโดยมุ่งหวังให้เยาวชน และนักเรียนในสถานศึกษาได้มีความรู้องค์ความรู้ด้านงานศิลปะมากขึ้น

โดยได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนเมืองพัทยา 11 (สาธิตพัทยา) นำนักเรียนที่มีความสนใจเข้าร่วมอบรมสัมมนา ระหว่างวันที่ 16-17 พ.ค.68 ก่อนนำผลงานศิลปะของนักเรียนที่ร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการมาจัดแสดงที่ ศูนย์แสดงศิลปะ Flipper Art Space Pattaya แห่งนี้

ด้าน นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า โครงการสีสันสุนทรียะใหม่ชายฝั่ง EEC : นีโอศิลปะพัทธยา ถือเป็นโครงการวิจัยงานศิลปะที่มีความน่าสนใจ และมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการต่อยอดองค์ความรู้ให้กับนักเรียนนักศึกษาได้ศึกษาและเรียนรู้งานด้านศิลปะสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น อันจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเยาวชนที่ชื่นชอบศิลปะได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้โดยตรงจากศิลปินแห่งชาติ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / คุมประพฤติประจวบมอบทุนสงเคราะห์การศึกษาผู้ถูกคุมพร้อมจับมือ สกร.ยกระดับความรู้ ส่งเสริมต่อยอดจนสำเร็จการศึกษา

แชร์เนื้อหานี้


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 พ.ค.2568 ที่สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.)อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานประพฤติ จ.ประจวบฯ พร้อมด้วย นางวิภาภรณ์ ภัทรภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ระดับอำเภอเมืองประจวบฯ นายปิยชาติ ไฮ้คง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์การคุมประพฤติ คณะครู กศน. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติฯ ร่วมมอบทุนสงเคราะห์ด้านการส่งเสริมการศึกษา เพื่อไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนและชุดนักศึกษา

รวมเป็นจำนวนเงิน 1,200 บาท ให้แก่ผู้กระทำผิดในคดีในคดีขับรถประมาทหวาดเสียว ซึ่งได้สมัครเรียนในระดับชั้น ม.ต้น ในปีการศึกษา2568 ซึ่งบุคคลดังกล่าว เป็นผู้ซึ่งผ่านการอบรมการส่งเสริมการศึกษา ที่ทางสำนักงานคุมประพฤติ จ.ประจวบฯได้จัดอบรมให้ความรู้ ให้แก่ผู้กระทำผิดมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองประจวบฯ ได้สนับสนุนวิทยากรมาให้ความรู้ดังกล่าวแก่ผู้กระทำผิดด้วย โดยทำให้ผู้กระทำผิดมีความสนใจที่จะสมัครศึกษาต่อในระดับ ม.ต้น ตามที่กรมคุมประพฤติมีนโยบายในการส่งเสริมและยกระดับการศึกษาแก่ผู้กระทำผิด ในระบบบงานคุมประพฤติ

ด้าน นายวสันต์ เภรีวิค ผอ.สนง.คุมประพฤติฯ กล่าวว่า ตามที่กรมคุมประพฤติ มีนโยบายในการส่งเสริมและยกระดับการศึกษา แก่ผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติ โดยได้มีการจัดทำบันทึกตกลงความร่วมมือ ( MOU ) การจัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ( ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ ) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 เพื่อยกระดับการศึกษาให้แก่ผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติ โดยได้ส่งเสริมการศึกษาให้กับผู้กระทำผิดที่เข้ารับการศึกษา ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ซึ่งในวันนี้ ได้มีผู้กระทำผิดในคดีในคดีขับรถประมาท หวาดเสียว ซึ่งได้สมัครเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในปีการศึกษา 2568 ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ซึ่งผ่านการอบรมการส่งเสริมการศึกษาที่ทางสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ ได้จัดอบรมให้ความรู้ ให้แก่ผู้กระทำผิดในวันที่ 10 เมษายน 2568 ณ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ โดยได้ประสานงานกับ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ ( สกร.) อำเภอเมืองประจวบฯ ซึ่งได้สนับสนุนวิทยากรมาให้ความรู้ดังกล่าวแก่ผู้กระทำผิด โดยทำให้ผู้กระทำผิดมีความสนใจที่จะสมัครศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยในวันนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยกลุ่มยุทธศาสตร์การคุมประพฤติได้ประสานบูรณาการความร่วมมือ กับศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองฯ โดยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองฯ

ได้ร่วมเป็นสักขีพยาน และให้คำแนะนำ พร้อมกับให้กำลังใจกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ ได้สงเคราะห์ทุนในการส่งเสริมการศึกษา อุปกรณ์การศึกษาและชุดนักศึกษา ให้กับบุคคลดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ ในการ ส่งเสริมด้านการการศึกษา และให้กำลังใจแก่ผู้กระทำผิดดังกล่าวอีกด้วย////////

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / รถบรรทุกโคขุนดึงเวลาเจ้าหน้าที่ความมั่นคงนาน3ชั่วโมงอ้างเอกสารกำลังเดินทางพร้อมติดเบอร์หูโคขุนโชว์หน้าด่านกักสัตว์

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา16.00น.วันที่17พ.ค.68เจ้าหน้าที่ชุดความมั่นคงนำโดย ฉ.ก.จงอางศึก เจ้าหน้าที่สำนักการข่าว กอ.รมน.ลงพื้นที่ตรวจสอบรถบรรทุก20ล้อสีฟ้า ทะเบียน 70-8683 เพชรบุรี บรรทุกโคเพศผู้มาจำนวน47ตัว จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามข้อร้องเรียนกรณีมีการเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ ไม่มีใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์การจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 บริเวณริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องหน้า ด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ จากการเข้าตรวจสอบพบรถบรรทุกคันดังกล่าวไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ขณะเข้าด่านตรวจ โดยคนขับรถบรรทุกได้เเจ้งกับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบว่า เอกสารกำลังเดินทางมาโดยเจ้าหน้าที่ได้รอเอกสารนานเป็นเวลาเกือบ3ชม.ต่อได้ มีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้าย นักธุรกิจ อ้างว่าเป็นกำนัน รายหนึ่งในพื้นที่ จังหวัดประจวบฯมีพักพวกเป็นนายทหาร ยศ ร.อ.จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นเป็นที่ตั้งข้อสังเกตุได้ว่าอาจมีการแก้ไขเอกสารหลายจุดเพื่อให้พ้นการจับกุมในครั้งนี้ ซึ่งเอกสารประกอบไปด้ว        1. ใบอนุญาตให้หรือเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ เข้า ออก ผ่าน หรือ ภายในเขตโรคระบาดชั่วคราว เขตโรคระบาด หรือเขตเฝ้าระวังโรคระบาด ร.5
        2.หนังสือมอบอำนาจ จากบริษัท เคเคโอเวอร์ซี เทรดดิ้นแอนด์ลอเฟิร์ม จำกัด
       3.เบอร์ติดหู โค แบบพลาสติกสีเหลือง จำนวนมาก
       ทั้งนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงได้บันทึกภาพถ่ายพร้อมคลิปVDOไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำเข้าในที่ประชุมต่อไป
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781