เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ประเพณีแข่งเรือ ชิงถ้วยพระราชทาน วันออกพรรษา ตานก๋วยสลาก วัดบุญยืน พระอารามหลวง อ.เวียงสา จ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้


16/10/2567 จังหวัดน่าน จัดงานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสา ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567

วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ณ สะพานข้ามแม่น้ำน่าน (ท่าน้ำบ้านป่ากล้วย) อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณี แข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสาชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567

โดยมี นายอำเภอเวียงสา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกสมาคมเรือแข่งจังหวัดน่าน ประธานชมรมเรือแข่งอำเภอเวียงสา คณะกรรมการจัดงาน ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมพิธีฯ

งานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสาชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567 ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาในวันออกพรรษาเป็นระยะเวลายาวนานนับร้อยปี มีเอกลักษณ์เป็นลักษณะเรือขุดจากไม้ท่อนแกะสลักหัวเป็นรูปพญานาค อ้าปาก ชูคอ มีเขี้ยวโง้งอน สง่างาม การแข่งเรือและทานสลากภัตจึงถือเป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวจังหวัดน่าน และเป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอเวียงสา ที่ได้จัดให้มีขึ้นทุกๆ ปี

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความมีวินัย ในหมู่คณะ ส่งเสริมและปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดี และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ซนะ รู้อภัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเสริมสร้างเอกลักษณ์ของอำเภอเวียงสา ตลอดจนจังหวัดน่าน ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปและชาวต่างชาติ

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งมีหมู่บ้านในเขตอำเภอเวียงสาและอำเภอใกล้เคียง ได้ส่งเรือยาวเข้าร่วมแข่งขันรวมทั้งสิ้น 18 ลำ โดยแยกประเภทการแข่งขันออกเป็น ประเภทเรือเล็ก 5 ลำ ประเภทเรือกลาง จำนวน 4 ลำ ประเภทเรือใหญ่ จำนวน 5 ลำ และประเภทเรือเอกลักษณ์น่าน จำนวน 4 ลำ นอกจากนี้ ยังมีการโชว์เรือสวยงาม จำนวน 4 ลำ และกองเชียร์ 3 หมู่บ้าน

โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงาน เทศบาลตำบลเวียงสา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สสส. และพ่อค้า ประชาชน หน่วยงานอื่นๆ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,000,000 บาท/บุญยวค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมข่าวรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฉก.ตร.นราธิวาส 93 ร่วมทำบุญถวายสังฆทาน เนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ / รองผอ.ศรชล.นราธิวาส เยี่ยมลูกเรือประมง สัญชาติเมียนมา “เรือเพชรมงคล 15” ประสบอุบัติเหตุ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.ทศม ม่วงเกษม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในการประกอบพิธีทำบุญเนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2566 และร่วมกันประกอบพิธีสงฆ์

โดยได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดพรหมนิวาสจำนวน 5 รูป นำโดยพระครูวิสิฐพรหมคุณ (สมชาย โชติวโร) เจ้าอาวาสวัดพรหมนิวาส มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเพล ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลให้แก่หน่วยงานรวมถึงผู้เกี่ยวข้อง และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

รวมถึงเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้แห่งนี้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ เนื่องในงานวันตำรวจแห่งชาติ โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัด ไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

สำหรับวันตำรวจ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2458 โดยเป็นวันประกาศรวม กรมพลตระเวนกับกรมตำรวจภูธเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า กรมตำรวจซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตำรวจจึงได้ยึดถือเอาวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็น วันตำรวจ และได้มีการประกอบพิธี วันตำรวจ อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2492 ซึ่งในขณะนั้น พล.ต.อ. หลวงชาติ ตระการโกศล เป็นอธิบดีกรมตำรวจและ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีกระทั่งเมื่อปี 2560 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ให้เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม

ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์ จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงวันตำรวจเป็นวันที่ 17 ตุลาคมของทุกปี โดยยึดตามวันที่มีการเปลี่ยนแปลงจากกรมตำรวจเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

//////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดนราธิวาส เยี่ยมให้กำลังใจลูกเรือประมง สัญชาติเมียนมา “เรือเพชรมงคล 15” หลังประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ 16 ต.ค.67 นาวาเอก กาจ บุญวิทยา รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดนราธิวาส พร้อมผู้เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปเยี่ยมนายมิน มิน อู อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา ลูกเรือประมง “เรือเพชรมงคล 15” ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขาเข้าเครื่องโม้น้ำแข็ง ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส

โดยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจประมงปัตตานีได้รับแจ้งจากเจ้าของเรือเพชรมงคล 15 (ทบ. 220918673) ประเภทเครื่องมืออวนลากคู่ ว่า มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ ขาเข้าเครื่องโม้น้ำแข็ง ขณะเกิดอุบัติเหตุเรือกำลังทำการประมง ห่างจาก ศรชล.จังหวัดนราธิวาส ประมาณ 10 ไมล์ทะเล ทาง ศรชล.จังหวัดนราธิวาส จึงได้ประสานขอสนับสนุนเรือตรวจประมง 226 จากหน่วยปราบปรามประมงทะเลจังหวัดนราธิวาส

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเมตตาธรรมนราธิวาส ได้ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลฯ นายชาติชาย ลิ้มกุล ผู้จัดการ บริษัทเรือเพชรมงคล กล่าวว่า ในนามตัวแทนบริษัทฯ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมจะเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ นายมิน มิน อู อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา หมายเลขประจำตัว 009401 128172 7 ไปรักษาต่อที่จังหวัดปัตตานี

เนื่องจากมีเพื่อนแรงงานสัญชาติเมียนให้การดูแล และสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ จะสะดวกกับการดูแลรักษา ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้ใช้สิทธิประกันสังคม และทางบริษัทฯ พร้อมดูแลในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
//////////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / การประชุม สรุปสถานการณ์น้ำ เตรียมพร้อมรับน้ำในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา / โครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 ลพบุรี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่ ห้องประชุมพระปรางค์สามยอด ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นำส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม การประชุมสรุปสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมจังหวัดในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม จาก ห้องประชุม 108 ชั้น 1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

โดยจังหวัดลพบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลืออุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ว่าต้องการทราบข้อมูลอุทกภัยและการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 9 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพฯ เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดรายงานต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 14.30 น.

โดยนายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า สำหรับในส่วนของจังหวัดลพบุรี มีแม่น้ำสาขาที่แยกออกแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ 2 เส้น ได้แก่ แม่น้ำลพบุรีและคลองชัยนาท – ป่าสัก ซึ่งจากสถานการณ์น้ำภาพรวมของจังหวัดอยู่ในสภาวะปกติ ทั้ง 11 อำเภอไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขังในพื้นที่ ทั้งนี้ก็ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยจังหวัดได้บูรณาการทุกภาคส่วนในการร่วมกันกำจัดวัชพืชสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำลพบุรี เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลผ่านสะดวก โดยกำหนด Kick off พร้อมกัน ในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 (พรุ่งนี้) โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 นี้

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน

ลพบุรี- บรรยากาศการรับเสื้อวันแรก โครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 จังหวัดลพบุรี คึกคักผู้รักสุขภาพรอคิวรับเสื้อหนาแน่น

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 บรรยากาศการรับเสื้อวันแรก ในโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดลพบุรี เป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนและส่วนราชการต่าง ๆ ผู้รักสุขภาพรอคิวรับเสื้อกันอย่างหนาแน่น โดยจังหวัดลพบุรีได้กำหนดรับเสื้อในวันที่ 15 และ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00- 16.000 น. ณ. เต้นท์บริการด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดลพบุรี ฝั่งธนาคารกรุงเทพ โดยนำสำเนาบัตรประชาชน และตั๋วสมัครเดินวิ่ง ปั่น มายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ มีข้อสงสัยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดลพบุรี กลุ่มงานอำนวยการ โทร. 0 3677 0150

โดย นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า ด้วยคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โดยศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราชร่วมกับศิริราชมูลนิธิ ได้จัดโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นดังแสงนำใจ

และทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย รวมทั้งสร้างความตระหนักและให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมองแก่ประชาชน ตลอดจนรณรงค์เชิญชวนคนไทยทั้งประเทศให้หันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกาย และสุขภาพสมองที่แข็งแรง โดยมีกิจกรรมต่างๆประกอบด้วย 1. กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 2. กิจกรรมให้ความรู้โลกหลอดเลือดสมอง และ 3. กิจกรรมออกกำลังกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตเฉลิมพระเกียรติ

โดยจังหวัดลพบุรี พร้อมกัน ทั้ง 11 อำเภอ กำหนดจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05.30 น. สถานที่ประกอบด้วย 1. อำเภอเมืองลพบุรี จัดกิจกรรมที่สนามกระโดดร่มพัชรกิติยาภา 2. อำเภอบ้านหมี่ จัดกิจกรรมที่สนามกีฬาเทศบาลเมืองบ้านหมี่ 3. อำเภอโคกสำโรง จัดกิจกรรมที่สนามกีฬาโรงเรียนโคกสำโรงวิทยา 4. อำเภอพัฒนานิคมจัดกิจกรรมที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 5. อำเภอชัยบาดาล

จัดกิจกรรมที่ลานอเนกประสงค์หน้าที่ว่าการอำเภอชัยบาดาล 6. อำเภอท่าวุ้งจัดกิจกรรมที่ลานอเนกประสงค์หน้าที่ว่าการอำเภอท่าวุ้ง 7. อำเภอหนองม่วงจัดกิจกรรมที่ สนามที่ว่าการอำเภอหนองม่วง 8. อำเภอสระโบสถ์จัดกิจกรรมที่สนามที่ว่าการอำเภอสระโบสถ์. 9. อำเภอโคกเจริญจากกิจกรรมที่สนามที่ว่าการอำเภอโคกเจริญ 10. อำเภอท่าหลวงจัดกิจกรรมที่สันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และ11. อำเภอลำสนธิจัดกิจกรรมที่อ่างเก็บน้ำกุตตาเพชร ทั้งนี้ประชาชนผู้สนใจร่วมงานวิ่งในครั้งนี้สามารถสวมเสื้อเหลืองเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยพร้อมเพรียงกัน

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯมุกดาหาร.​เปิดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา เชื่อมความสัมพันธ์ไทย-ลาว​ 2 ฝั่งโขง มุกดาหาร-สะหวันนะเขต

แชร์เนื้อหานี้

จังหวัดมุกดาหารเปิดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา เชื่อความสัมพันธ์ 2 ฝั่งโขง (ตีช้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกะจู้) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 08.30 น. นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน แข่งเรือยาวออกพรรษาชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2567 ภายใต้วลี “ตีช้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกระจู้”

ที่ ณ บริเวณลานหน้าท่าเทียบเรือ ท่าข้ามเทศบาลเมืองมุกดาหาร โดยมีคณะจากแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนำโดย ท่านนางหลิงทอง แสงตาวัน รองเจ้าแขวงสะหวันนะเขต นายปัฐม์ ปัทมจิตร กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตพร้อมคณะ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน

นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า ประเพณีแข่งเรือออกพรรษา เป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญอันดับหนึ่งของจังหวัดมุกดาหาร ที่เทศบาลเมืองมุกดาหารได้จัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำนุบำรุงศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและกีฬาเรือพายของจังหวัดมุกดาหาร และที่สำคัญยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวแขวงสะหวันนะเขต สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกับชาวจังหวัดมุกดาหารให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในพิธีเปิดงาน (15 ตุลาคม 2567) ยังมีพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานทางบก โดยประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารชาวเรือและชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร และพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อันได้แก่ศาลหลักเมืองมุกดาหารศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องและพระเจ้าองค์หลวง และพิธีเบิกน่านน้ำ

ทั้งนี้การแข่งเรือยาวประเพณีออกพรรษาจังหวัดมุกดาหาร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 -17 ตุลาคม 2567 นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนให้คึกคัก และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์จังหวัดชายแดนสองฝั่งโขงให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สโมสรฟุตบอลซีเนียร์ไทยแลนด์ VIP SENIOR THAILAND เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาฟุตบอล เกาหลีโลกครั้งที่ 17 ณ เมืองฮงชอนกุน คังวอนโดเกาหลีใต้

แชร์เนื้อหานี้


วันที่ 1-6 ตุลาคม 2567 นายบุญเลิศ ผลอุดม ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลซีเนียร์ Thailand ได้นำคณะนักกีฬาฟุตบอล ไทยเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาฟุตบอล พร้อมคณะ โดยมี นายยรรยง ทองประยูร อดีตนักบอลทีมชาติไทย เป็นเฮทโค้ช ในรายการ แข่งขันฟุตบอล VIP เกาหลีโลก ครั้งที่ 17

กำหนดเดินทาง วันที่ 1 ตุลาคม 2567 นำคณะโดยมิสเตอร์คิม นัดพบรับตั๊วเครื่องบิน เช็คเอกสารพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 21.00 น ขึ้นเครื่อง เวลา 01.20 น สายการบิน.ทีดับเบิลยู ทีเวย์แอร์ ช่อง G ถึงอินชอน เช้า เวลา 08.30 นตามเวลาเกาหลี วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ทานอาหารเช้า ขึ้นรถทัวร์ที่มารอรับที่สนามบินอินชอนเดินทางไปยัง ที่พักAlps Motel ในฮงชอน จังหวัดคังวอนโด ทานอาหารเย็นเสร็จ

เข้าร่วมชมการแสดงพิธีเปิดการต้อนรับนักกีฬาทุกประเทศ เช้าวันที่ 3 ตุลาคม ทานอาหารเช้า ขึ้นรถทัวร์เดินทาง เข้าสนามทำการแข่งขันฟุตบอล World Overseas Korean Football Federaation2024 WORLD FOOTBALL FESTIVAL “2024” 전 세계 한민족 축구대회 대회기간 : 2024, 10.3 ~ 10.6 (4일간)장 소 : 강원도 종합운동장 외4개 구장
참가국 : 35 개

주최:사)세계한민족축구협회
후 원 : 문화체육관광부. 국민체육진흥공단.
강원도 홍천군.대한체육회 WKFA2024 ฟุตบอลโลก งานเทศกาล “2024” ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเกาหลีทั่วโลก ระยะเวลาการแข่งขัน: 2024, 10.3 ~ 10.6 (4 วัน) สถานที่: สนามกีฬาคังวอนโด และสนามกีฬาอื่นอีก 4 สนาม
ประเทศที่เข้าร่วม: 35 ประเทศ เจ้าภาพ : สมาคมฟุตบอลเกาหลีโลก
ผู้สนับสนุน: กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว มูลนิธิส่งเสริมกีฬาเกาหลี ฮงชอนกุน คังวอนโด สภากีฬาเกาหลี

ทำการแข่งขันทั้งหมด 3 รุ่นอายุ รุ่นประชาชนทั่วไป จำนวน 8 ทีม รุ่นอายุ 40 ปี จำนวน 16 ทีม ขึ้นรุ่นอายุ 50 ปีขึ้น จำนวน 8 ทีม วัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ ไทยเกาหลี และประเทศสมาชิก ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการออกกำลังกายมีประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมทำการแข่งขันทั้งโซนเอเซียและยุโรป ทำการแข่งขันพร้อมกันสี่สนาม ระหว่างวันที่ 3-6 ตุลาคม 2567

สรวัชร สรรเพ็ชร์
รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ROYAL PLUS ผู้ผลิตน้ำผลไม้รายใหญ่ จัดกิจกรรม CSR พี่ให้น้อง ร.ร.บ้านพุเข็ม มอบอุปกรณ์โซล่าเซลล์ และสื่อการเรียน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 13 ตุลาคม 2567 ที่โรงเรียนบ้านพุเข็ม หมู่ที่ 10 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี น.ส.น้ำทิพย์ แสงหิรัญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านพุเข็ม ดร.ดวงพร กรับทอง ฮิตซ์คอกช์ พัฒนาการอำเภอแก่งกระจาน น.ส.ละเอียด เรืองเทศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านพุเข็ม พร้อมคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมด้วยชาวบ้านในชุมชนบ้านพุเข็ม ร่วมรับมอบสิ่งของและอุปกรณ์โซล่าเซลล์

ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรม CSR 2024 “โครงการ PLUS GO SOLAR จากคณะผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท โรแยลพลัส จำกัด ( มหาชน ) ผู้ผลิตน้ำมะพร้าว และน้ำผลไม้ส่งออกทั่วโลก จัดกิจกรรม CSR พี่ให้น้อง โรงเรียนบ้านพุเข็ม โดยมอบอุปกรณ์โซล่าเซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในการเรียนคอมพิวเตอร์ และสื่อการเรียนการสอน พร้อมทั้งอุปกรณ์กีฬา ทุนการศึกษาให้น้องๆ รวมทั้งจัดเลี้ยงอาหาร ให้ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง

นายประดิษฐ์ รุ่งเจริญ หน.งานฝ่ายผลิต บ.โรแยลพลัส จก.มหาชน ผู้ผลิดน้ำมะพร้าว และน้ำผลไม้ส่งออก กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้ทำมาเป็นปีที่ 10 แล้ว โดยเริ่มแรกทำกับเพื่อนๆ พอเข้ามาทำงานที่บริษัทก็ได้นำเสนอผู้บริหารบริษัท พร้อมเขียนโครงการนำเสนอซึ่งทางผู้บริหารเห็นด้วยว่าเป็นกิจกรรมที่ดีและมีประโยชน์ต่อชุมชน และโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร จึงหาโรงเรียนที่อยู่ในข่าย จึงตกลงมาที่โรงเรียนบ้านพุเข็ม โดย มามอบอุปกรณ์โซล่าเซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ และสื่อการเรียนการสอนพร้อมทั้งอุปกรณ์กีฬา ทุนการศึกษาให้น้องๆ รวมทั้งจัดเลี้ยงอาหาร เล่นเกมส์มอบของรางวัล ให้น้องๆ

น.ส.น้ำทิพย์ แสงหิรัญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านพุเข็ม กล่าวว่า โรงเรียนบ้านพุเข็มตั้งอยู่ หมู่ 10 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สังกัด สพป.เพชรบุรี เขต 2ปัจจุบันให้บริการนักเรียนในระดับอนุบาล 3 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนมารับบริการ 28 คน บุคลากรทางการศึกษา 8 คน โดยทางโรงเรียนบ้านพุเข็มไม่มีระบบไฟฟ้าใช้ ใช้เป็นระบบโซล่าเซลล์ เพื่อให้น้องๆ นักเรียนได้ใช้

ประโยชน์ในการศึกษาด้านระบบคอมพิวเตอร์และการเรียนการสอน นอกจากนี้นักเรียนที่บ้านพุเข็ม จะมีปัญหาอุปสรรคด้านการเดินทางมาโรงเรียนร่วม 20 ราย ซึ่งนักเรียนอาศัยอยู่ตามเกาะแก่งต่างๆ ด้านป่าต้นน้ำของเขื่อนเก่งกระจาน จะต้องเดินทางโดยเรือมาโรงเรียนโดยต้องตื่นตั้งแต่ ตี 5 เพื่อรอเรือของทางโรงเรียนไปรับมาโรงเรียนจะมาถึงโรงเรียนประมาณ 8 โมงเช้า ส่วนช่วงเย็นก็จะเลิกเรียนประมาณ 15.30 น.หรือดูสภาพอากาศในการเดินทางด้วยเรือเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน

นอกจากนี้ การเรียนการสอนหรือเรื่องทักษะวิชาการ ทางโรงเรียนจะให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ด้านการทักษะอาชีพและทักษะชีวิต เพราะว่าเด็กเมื่อจบจากที่นี่แล้วบางคนไม่ได้ศึกษาต่อก็จะช่วย พ่อ แม่ ทำงาน ในไร่ในสวนและทำประมง ช่วยทางบ้าน โดยอยากให้นักเรียนเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ทักษะปัญญาชีวิตเขาจะได้เรียนรู้และใช้จริง

สำหรับค่าน้ำมันการรับส่งนักเรียน ก็จะได้รับการจัดสรรจาก สพป.เพชรบุรี เขต 2 ส่วนหนึ่ง แต่ไม่เพียงพอ เนื่องจากน้ำมันก็ราคาแพง …สำหรับผู้ที่จะเข้าไปสนับสนุนสื่อการเรียน การสอนโรงเรียนบ้านพุเข็ม สามารถติดต่อได้ที่ …น.ส.น้ำทิพย์ แสงหิรัญ ผอ.โรงเรียน หมายเลขโทรศัพท์ ..0965946354
///////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “ปชป.”สร้างคนรุ่นใหม่ส่ง“ดร.รัชดา”ร่วมอบรมการพัฒนาผู้ประกอบการที่เยอรมัน ส่งเสริมอาชีพกลุ่มสตรี

แชร์เนื้อหานี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยวันนี้ว่า ตามยุทธศาสตร์เปิดพรรคกว้างสร้างคนรุ่นใหม่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ดร.รัชดา ธนาดิเรก อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร กรุงเทพมหานคร เข้าร่วมการอบรมเพิ่มศักยภาพหัวข้อ ”การส่งเสริมและพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ”(Entrepreneurship Development Program)

สถาบันพัฒนาผู้นำระหว่างประเทศ เมืองกัมเมอสบาร์ค ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 13 -25 ตุลาคม 2567 จัดโดยมูลนิธิฟรีดริช เนามัน ซึ่งเป็นองค์กรส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน ความเข้าใจในระบบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และเศรษฐกิจแบบเสรี อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรกับพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การทำงานการเมืองตามแนวทางเสรีนิยมประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมอบรมเป็นตัวแทนจากแต่ละประเทศ ที่มาจากต่างสาขา อาทิ ภาคการเมือง ภาครัฐ และภาคประชาสังคม โดยเนื้อหาหลักสูตรจะเป็นการนำเสนอแนวทางการสร้างผู้ประกอบการและการส่งเสริมด้านต่างๆจากภาครัฐและองค์กรเกี่ยวข้องที่จะทำให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และจะมีการเยี่ยมชมผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเกษตร เครื่องจักร และเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จในหลายๆเมือง

ดร.รัชดากล่าวว่า การไปอบรมครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะจะนำมาต่อยอดโครงการส่งเสริมอาชีพในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ริเริ่มไว้ ทั้งใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี อาทิ กลุ่มสตรีทำฟาร์มเห็ด กลุ่มปลูกต้นกาแฟ ที่ผ่านมาเป็นการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมและตัวแทนพรรคในพื้นที่ สรรหาวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพแต่ขาดโอกาส และเมื่อได้เข้าไปสนับสนุน ก็จะเห็นได้ว่าชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นจริง

มจร.วัดไร่ขิง มุ่งพัฒนาผู้เรียน ภายใต้แนวคิด “Buddhist Social Lab”“Buddhist Social Lab”

พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรบัณฑิตศึกษา วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มจร. วัดไร่ขิง กล่าวว่า ตามที่วิทยาสงฆ์ฯ ได้เปิดสอนระดับปริญญาโท ปริญญาเอก สาขาวิชาพระพุทธศาสนา ตอนนี้ได้เปิดรับสมัครนิสิตใหม่ ประจำปีการศึกษา 2568 แล้ว ท่านยังได้ย้ำว่าหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาพระพุทธศาสนา ได้ออกแบบมาเพื่อสร้าง “พุทธนวัตกร” คนรุ่นใหม่ที่สามารถนำหลักพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาปัญญาและคุณธรรมของชุมชนเพื่อสร้างสังคมแห่งสันติสุขได้

เรามุ่งเน้นสร้างผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง สามารถนำไปปฏิบัติจริงในการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติให้มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านจิตใจและคุณธรรม ผู้เรียนจะได้มีโอกาสศึกษาวิจัยในด้านพระพุทธศาสนากับการพัฒนาเชิงพื้นที่ ภายใต้แนวคิด “Buddhist Social Lab” มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้สามารถเป็นผู้นำทางความคิดในการพัฒนาชีวิตและสังคมบนพื้นฐานแห่งความเมตตา ปัญญา และความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจและมีความปรารถนาที่จะพัฒนาตนเองและสังคมให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่การเป็นพุทธนวัตกร มาร่วมกันสร้างสรรค์สังคมอุดมด้วยปัญญาและคุณธรรมจากหลักพระพุทธศาสนาไปพร้อมกัน เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0641452996 พระเจริญพงษ์ ธมฺมทีโป, ผศ.ดร.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เต้ มงคลกิตติ์ ฮีโร่ พรรคสีฟ้า ลงพื้นที่มอบข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำดื่มให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.ลำปาง

แชร์เนื้อหานี้

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายให้
เต้ มงคลกิตติ์ ฮีโร่ พรรคสีฟ้า ลงพื้นที่มอบข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำดื่มให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาลงพื้นที่จังหวัดลำปาง หลังน้ำลดโดยมอบ ข้าวสาร น้ำดื่ม ไข่ไก่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม
ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้มี ทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ จากหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ

ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย อาทินางสาวภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะ ประธานคณะทำงานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคคณะทำงานฯนายสรกฤช จันทรคณานายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตนางสาวกฤษยากร สรชัยนายประสิทธิ์ คลังสีดา อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ.อุตรดิตถ์ เขต 2

นายสุรกิจ ศิริวาท อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ.แพร่ เขต 1นายธนิตศักดิ์ ทวีพรจิรภาคย์ อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ. ลำปาง เขต 1นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ.พะเยา เขต 1น.ส.ถนอมจิต แสงงาม จ.ตาก เขต 2
น.ส.อรทัย ฮงประยูร อดีต นายกเทศมนตรีตำบลเวียง จ.เชียงรายนายสว่าง เปรมประสิทธิ์ นายก อบต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่านโดยจุดที่ 1 นำไปมอบที่บ้านนาแก้ว อำเภอเกาะคา จำนวน 35 ครัวเรือน จุดที่ 2 ตลาดท่าหลวง อำเภอเถิน จำนวน 40 ครัวเรือน จุดที่ 3 อำเภอแม่พริก จำนวน 82 ครัวเรือน

จากการลงพื้นในครั้งชาวบ้านต่างชื่นชมเต้ พร้อมคณะที่มามอบข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำดื่มในวันนี้ นับเป็นนักการเมืองหนุ่ม สายเลือดใหม่และเป็นฮีโร่ ของพรรคสีฟ้า ประชาธิปัตย์/บุญยงค์ สดสอาด รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทหารเรือ นรข.แถลงตรวจยึดยาบ้ากว่า 3.9 หมื่นเม็ด ริมน้ำโขง / บึงกาฬก้าวสู่ยุคดิจิทัล เสริมระบบป้องกันภัยพิบัติด้วยเทคโนโลยี AI (CCTV-based)

แชร์เนื้อหานี้


เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 11 ต.ค. ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย สถานีเรือบึงกาฬ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข.มอบหมายให้ น.อ.สุชาติ อุดมนาค รอง ผบ.นรข. เป็นผู้แทนในการแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 39,951 เม็ด ภายใต้อำนวยการของ พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข และ น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย โดยว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ประกอบไปด้วย นายธีรพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ว่าที่พ.ต.อ.จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ โคตรศรีวงษ์ ผบ.ร้อย ตชด.244 พ.ต.ต.ประชานารถ แดงเนียม สว.หน.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ และผู้แทน บก.อส.จ.บึงกาฬ ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ต.ค. เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ แจ้งว่ามีสายรายงานสืบทราบมาว่าจะมีการขนลักลอบยาเสพติดข้ามฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่ บริเวณริมแม่น้ำโขงระหว่างบ้านท่าโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ คาดว่าจะเป็นป่าสวนยาง ได้รายงาน น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้ทราบ จึงสั่งการให้ ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ ร.ท.เพชรนคร ผิวขำ และ ร.ท.ไชยา เนียมแสง พร้อมเจ้าหน้าที่ นรข.ได้จัดชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ ออกวางกำลังเข้าตรวจในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านท่าโพธิ์ ตลอดแนวคาดว่าจะมีการกระทำผิด

กระทั่งเวลา 19.00 น.ขณะที่แบ่งกำลังซุ่มอยู่ริมโขงบริเวณพื้นที่ป่าสวนยางบ้านท่าโพธิ์ ชุดปฏิบัติติการได้ใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนตรวจพบเรือกลีบเพลายาวเครื่องยนต์ติดท้ายต้องสงสัยแล่นข้ามน้ำโขงมาจากฝั่ง สปป.ลาว ภายในเรือมีบุคคลนั่งมาด้วย 1 คน ขับเรือมายังฝั่งบริเวณสวนยางริมฝั่งแม่น้ำโขงตามที่สายลับแจ้งมาโดยเมื่อเรือจอดชายคนดังกล่าวได้ยกถังสีขาว จำนวน 1 ถังขึ้นมาจากเรือ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ จึงเข้าแสดงตัวเข้าตรวจค้นเมื่อชายต้องสงสัยเห็นเป็นเจ้าหน้าที่จึงทิ้งถังสีขาวที่ถือมาแล้วรีบขับเรือกลีบเพลายาวที่จอดไว้กลับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงลงไปตรวจดูเปิดดูด้านในถังสีขาวพบว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 4 แพ็คๆ รวมเป็นยาบ้าจำนวนประมาณ 39,951 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ก่อนจะทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เชียงของดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายธีระพล ขุนพานเพลิง นอภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า ทุกวันนี้ในพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬ มีการระบาดของยาบ้าอย่างหนัก บางพื้นที่ราคายาบ้า เม็ดละ 20 บาท หรือ 5 เม็ดร้อย ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย เป็นต้นเหตุของการเกิดอาชญากรรมลักเล็กขโมยน้อย รวมไปถึงการเมายาบ้าอาละวาด สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ในบทบาทฝ่ายปกครองเองมี 3 ส่วน มาตรการในการป้องกัน มาตรการในการปราบปราบ และมาตรการในการบำบัด ซึ่งฝ่ายปกครองเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับพื้นที่ยังมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็นมือเป็นไม้ในพื้นที่มีโอกาสได้ส่งข้อมูลต่างๆให้กับหน่วยงานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญในส่วนมาตรการป้องกันที่ได้ดำเนินการคือการป้องกันระดับกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน เยาวชน ให้มีโอกาสห่างใกลจากยาเสพติด

ด้าน น.อ.สุชาติ อุดมนาค รอง ผบ.นรข. กล่าวเพิ่มเติมว่า นรข.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานบูรณาการร่วมกันในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ในการแก้ปัญหาอีกส่วนหนึ่งจะนำกำลังพลหน่วย นรข.พบปะประชาชน เยาวชน มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจปัญหายาเสพติด และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบคือครอบครัว โดยจะกลับไปให้ข้อมูลที่ดีกับประชาชนให้ความร่วมมือลดละเลิกยาเสพติด
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล //บึงกาฬ 0645960906

จังหวัดบึงกาฬก้าวสู่ยุคดิจิทัล เสริมระบบป้องกันภัยพิบัติด้วยเทคโนโลยี AI (CCTV-based)
.
วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมสิรินธรวัลลี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดระบบป้องกันและจัดการภัยพิบัติโดยใช้ระบบเทคโนโลยี CCTV-based (AI) ระหว่าง จังหวัดบึงกาฬ บริษัท ลาว พีเพิล จำกัด และบริษัท เอเดน แลป จำกัด

CCTV-based (AI) หรือระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายด้าน รวมถึงการจัดการภัยพิบัติ โดยระบบนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ประโยชน์ของการใช้ระบบ CCTV-based (AI) ในการจัดการภัยพิบัติ การตรวจจับภัยพิบัติล่วงหน้า ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น พายุ ฝนตกหนัก หรือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติ

ระบบ CCTV-based (AI) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือในการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ โดยสามารถตรวจจับภัยพิบัติได้ล่วงหน้า ประเมินความเสียหาย ติดตามสถานการณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดบึงกาฬในการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และเป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯลพบุรี จัดกิจกรรม คล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ร.9

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 09.0 น. ที่ อ่างเก็บน้ำห้วยซับเหล็ก อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 13 ตุลาคม 2567 โดยมี นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนภาคจิตอาสา ทหารจิตอาสา ตลอดจนผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ กว่า 400 คนได้

ร่วมกันปลูกต้นไม้และปรับภูมิทัศน์ ตัดแต่งกิ่งไม้ ทำควสมสะอาดพื้นที่โดยรอบ บริเวณอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระราชทานโครงการ จิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความสมัครสมานสามัคคี ประกอบกิจสาธารณะโดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน

ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระองค์ทรงดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรมเสมอมา ตลอดระยะเวลาของการครองราชย์ ได้ทรงอุทิศพระองค์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยมาโดยตลอด ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ

โครงการในพระราชดำริน้อยใหญ่ จำนวน 4,741 โครงการ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ ทั้งได้พระราชทาน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแนวทางให้อาณาประชาราษฎร์ ได้ดำเนินชีวิต โดยใช้ความรู้และสติปัญญา เป็นภูมิคุ้มกันอีกทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์ แก่ประชาชนของประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ปวงชนชาวไทย จะเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ตลอดกาล

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน