เรื่องทั้งหมดโดย admin

ผอ.เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มั่นใจน้ำไม่กระทบประชาชนท้ายเขื่อน 100% เพียงพออุปโภค บริโภค

แชร์เนื้อหานี้

นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ เปิดเผยว่า จากการประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ที่พยากรณ์ไว้ว่าฝนจะเริ่มเบาบางลงในวันที่ 4 , 5 และ 6 ตุลาคม 2567 ซึ่งปัจจุบันนี้แม่น้ำป่าสักช่วงวิเชียรบุรีก็ยังถือว่ามีปริมาณน้ำค่อนข้างสูงซึ่งอยู่เหนือเขื่อนป่าสักโดยน้ำเหล่านี้ก็จะไหลเข้าสู่เขื่อนป่าสัก ณ ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักมีความจุอยู่ประมาณ 600 กว่าล้าน ลูกบาศก์เมตร ยังสามารถรับได้อีกอยู่ประมาณ 300 กว่าล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นประมาณ 67%ความจุของอ่างที่สามารถเก็บกักได้ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรของเขื่อน ในส่วนของการระบายน้ำปัจจุบัน รับน้ำด้านเหนือไหลเข้าอ่าง วันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และระบายออกอยู่ที่ 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน คิดเป็นระบายออกไป 30 ล้านลูกบาศก์เมตร เก็บไว้ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับใน

วันที่ 4 จากการคาดการณ์ภูมิอากาศปริมาณน้ำฝนอาจจะลดลงเนื่องจากความกดอากาศที่แผ่ลงมาจากประเทศจีน จะทำให้ฝนลดน้อยลง ตั้งแต่วันที่ 4 , 5 และ 6 เป็นต้น ซึ่งในลักษณะเช่นนี้เขื่อนก็จะลดการระบายเพื่อให้สอดคล้องกับน้ำที่อยู่ด้านเหนือ ที่จะเข้าเขื่อน โดยจะเริ่มลดการระบายตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม จาก 350 เหลือ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 5 ตุลาคม ลดจาก 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และในวันที่ 6 ตุลาคม เหลือระบาย 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามลำดับ เพื่อให้สอดคล้องกับน้ำที่ยังคงมีช่องว่างเหลืออยู่ ก็คาดว่าสิ้นสุดฤดูฝน ในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ตามปฏิทินของกรมชลประทานก็จะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือมีน้ำเต็ม 100% ความจุของเขื่อน ซึ่งในปีนี้การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งจะมีน้ำให้เกษตรกรเพื่ออุปโภค บริโภค และผลักดันน้ำเค็ม การรักษาระบบนิเวศ การอุตสาหกรรม ตลอดจนการเพาะปลูกด้านการเกษตรต่างๆ ในตลอดช่วงตลอดฤดูแล้งเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังเราต้องติดตามสภาวะภูมิอากาศเป็นหลักก็คือน้ำที่อยู่บนฟ้าซึ่งไม่มีความแน่นอน จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศค่อนข้างมาก จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา เราก็จะต้องติดตามทุกวัน ในส่วนของพายุที่จะเกิดหรือไม่เกิดนั้น เราก็ไม่นิ่งนอนใจในส่วนของเขื่อนป่าสักก็จะติดตามทั้งน้ำบนฟ้า และน้ำที่ลงมาเป็นน้ำท่าจากสถานีวัดน้ำต่าง ๆ ตั้งแต่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มาจนถึงเขื่อนป่าสักเราจะมีสถานีวัดน้ำติดตามสถานการณ์น้ำตลอดเส้นทาง เพื่อที่จะวางแผนการจัดการน้ำได้เป็นรายสัปดาห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

แต่อย่างไรก็ตาม หากอาจต้องมีการระบายน้ำเพิ่มเติมด้านท้ายเขื่อนเพื่อให้การเก็บกักน้ำหน่วงน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจะดำเนินการระบายตามแผนในปริมาณที่เหมาะสมไม่ให้น้ำล้นตลิ่งและจะแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนก่อนการระบายน้ำทุกครั้ง ตลอดจนไปถึงพี่น้องที่อยู่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้านท้ายเขื่อนพระราม 6 ก็จะได้รับการแจ้งเตือน ก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน โดยน้ำจากเขื่อนป่าสักจะไปถึง พระราม 6 ที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะใช้เวลาเดินทาง 1 วัน ทั้งนี้คาดว่าถ้าไม่มีพายุฝนก็จะสามารถที่จะผ่านฤดูฝนในปีนี้ไปได้โดยที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบทั้งพี่น้องประชาชนคนลพบุรี คนสระบุรี ตลอดจนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานครอีกด้วย

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ร้อย.ฉก.ทพ.2107 เร่งช่วยเหลือประชาชนที่โดนน้ำป่าไหลหลาก ซัดบ้านเรือนข้าวของเสียหาย / ​แก๊งยาบ้าตีเนียน ใช้รถตู้ขนยาบ้า 4 แสนเม็ด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่​ 3 สิงหาคม​ 2567​ โดย ร.ท.พิชิตพล เคนดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2107 ฉก.ทพ.21 จัดกำลังพล ร่วมกับ สภ.ภูเรือ,ตชด.247,ผู้นำชุมชน และ ราษฎรในพื้นที่ บ.แก่งม่วง ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ จ.เลย ให้การช่วยเหลือประชาชนที่โดนน้ำป่าไหลหลากซัดบ้านเรือนข้าวของเสียหาย

เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ โดยเร่งช่วยนำรถยนต์ของราษฎรขึ้นจากโคลน และทำความสะอาดบริเวณบ้านพักอาศัยของราษฎร พร้อมเข้าพบปะพัฒนาสัมพันธ์บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับราษฎร โดยการมอบของบริโภคให้กับผู้ประสบอุทกภัย เพื่อใช้ดำรงชีพเบื้องต้นและเป็นการช่วยเหลือให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยที่มีทหารคอยช่วยเหลือเมื่อภัยมา

​แก๊งยาบ้าตีเนียนใช้รถตู้ขนยาบ้า 4 แสนเม็ด แต่สุดท้ายไปไม่รอด

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2567​ ร.ท.วัชรสรณ์ เชื้อไพบูลย์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2105 มุกดาหาร ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบนำยาบ้ามาพักไว้ในพื้นที่ ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร วางกำลังตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่ากลุ่มผู้ลักลอบจะใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด

กระทั่งเวลา 02.30 น. ชุดปฏิบัติการร่วมได้ตรวจพบรถตู้ต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า สีบอร์นเงิน ทะเบียน นข 2157 มุกดาหาร วิ่งเข้ามายังพื้นที่จุดพักยาเสพติดในบ้านภูผาเทิบ ต.นาสีนวน จึงได้คอยเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว จนกระทั่งเวลา 03.00 น. รถตู้คันดังกล่าวก็วิ่งกลับออกมา ชุดปฎิบัติการร่วมจึงได้นำรถยนต์เข้าสกัดเพื่อขอตรวจค้น แต่รถตู้คันดังกล่าวได้พยายามจะหลบหนีโดยได้ขับรถพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่

เพื่อเปิดทางหลบหนีจนทำให้รถเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย 2 คัน จากนั้นคนขับรถตู้ก็ได้เปิดประตูรถและวิ่งหลบหนีไป จากการตรวจสอบในรถตู้พบถุงดำขนาดใหญ่จำนวน 2 ถุง เมื่อเปิดออกดูพบห่อยาบ้า 200 มัด จำนวน 400,000 เม็ด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนคนขับรถที่หลบหนีไปเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วว่าคือ นายวีรพันธ์ ซาเสน อายุ 50 ปี ที่อยู่เลขที่ 89 หมู่ 9 ต.นาสะเม็ง อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการขอให้ศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร​ #ทหารพรานที่2105 #ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร​ #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี #กองทัพภาคที่2

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทำบุญอายุวัฒนมงคลครบ 5 รอบ 60 ปี พระเทพวชิรปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชัยมงคล พระอารามหลวง / ผวจ.ชลบุรี เป็นประธานพีธีสาธยายมงคลคาถาคำภีร์ปั๊กเต้าเก็ง รับกินเทศกาลเจปี 67

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 3 ต.ค.67 ที่วัดชัยมงคล พระอารามหลวง พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ได้มีการจัดงานทำบุญอายุวัฒนมงคลครบ 5 รอบ 60 ปี พระเทพวชิรปัญญาภรณ์ (อนันต์ ธัมมโชโต) รองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เจ้าอาวาสวัดชัยมงคล (พระอารามหลวง) และพิธีมอบทุนการศึกษาสงเคราะห์แก่นักเรียนโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยา ประจำปี 2567 ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อาทิ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา, นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง, นายสุรัตน์ เมฆะวรากุล ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอบางละมุง โดยมีนายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย

สำหรับพระเทพวชิรปัญญาภรณ์ หรือพระอาจารย์อนันต์ ธัมมโชโต รองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เจ้าอาวาสพระรามหลวง วัดชัยมงคล อายุ 60 ปี พรรษา 40 อดีตชื่อ นายอนันต์ บุญช่วยเหลือ เกิดวันที่ 1 ตุลาคม 2507 บุตรของนายเตือน นางขวัญ บุญช่วยเหลือ เริ่มบรรพชาวันที่ 22 มิถุนายน 2522 ณ วัดชากขุนวิเศษ ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง เมื่อเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์ก็มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยและจริยวัตรอย่างเหมาะสม เป็นพระนักพัฒนา ถือเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนและพุทธศาสนิกชนเมืองพัทยามาอย่างยาวนาน

และเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตร ตั้งสมณศักดิ์ พัดยศ พระราชาคณะ ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ทรงพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ ให้พระราชสารโสภณ (อนันต์ ธมมโชโต) เป็น “พระเทพวชิรปัญญาภรณ์” พระราชาคณะชั้นเทพ เนื่องด้วยวัดชัยมงคล (พระอารามหลวง) ถือเป็นศาสนสถานคู่บ้านคู่เมืองพัทยาทำให้มีผู้เข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก

ภายในพิธียังได้จัดมอบทุนการศึกษาสงเคราะห์แก่นักเรียนโรงเรียนเมืองพัทยา 8 และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดชัยมงคล ประจำปี 2567 รวม 250 ทุน แบ่งเป็นทุนการศึกษาสำหรับชั้นอนุบาลจำนวน 50 ทุน ทุนละ 1,000 บาท ทุนการศึกษาสำหรับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จำนวน 200 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท และทุนการศึกษาต่อเนื่องจำนวน 3 ทุน ๆ ละ 10,000 บาท พร้อมกันนี้ยังได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อสมทบทุนสร้างห้องผู้ป่วยสำหรับพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 30 เตียง

ผวจ.ชลบุรี เป็นประธานพีธีสาธยายมงคลคาถาคำภีร์ปั๊กเต้าเก็ง รับกินเทศกาลเจปี 67

วันที่ 3 ต.ค.67 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพีธีสาธยายมงคลคาถาคำภีร์ปั๊กเต้าเก็ง โดยนักพรตศาสนาเต๋า จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2567 ณ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

 ด้วยมูลนิธิรัศมีมณีรัตน์ (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ) กำหนดจัดงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 1 – 12 ตุลาคม 2567 ณ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ) ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นเวลา 12 วัน 11 คืน 

โดยในกิจกรรมเทศกาลกินเจ ประจำปี 2567 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เชิญชวนศิษยานุศิษย์ และสาธุชนทุกท่าน มาร่วมปฏิบัติธรรมถือศีลกินเจ ในเทศกาลกินเจ ประจำปี 2567 นี้เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตร่วมกันด้วย

ระดมสมองประชุมคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานส่วนตำบลจังหวัดชลบุรี

วันที่ 3 ต.ค.67 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานส่วนตำบลจังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 4/2567 โดยมี น.ส.สุดินา แก้วดี ท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั่วทั้งจังหวัดชลบุรี ในฐานะอนุกรรมการฯ ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี

โดยการประชุมในครั้งนี้ มีระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญ อาทิ ประกาศรับสมัครสรรหาพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร รายงานการคัดเลือกหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายเพื่อช่วยเหลือในการสรรหา แผนดำเนินการสรรหาสายงานผู้บริหารที่ว่าง พิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลของผู้สมัครให้ถูกต้อง

ตลอดจนพิจารณาร่างประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานส่วนตำบลจังหวัดชลบุรี เรื่อง รายชื่อพนักงานส่วนตำบลผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร และเรื่องกำหนดวัน เวลา สถานที่สรรหา และระเบียบเกี่ยวกับการสรรหาพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พิจารณาขอบเขตเนื้อหาวิชาความรู้ที่ใช้ในการทดสอบภาคความรู้เฉพาะตำแหน่งต่อไป

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /“สัปเหร่อ” สุดเจ๋ง คว้า 7 รางวัล “สุพรรณหงส์ครั้งที่ 32 ประจำปี 2567

แชร์เนื้อหานี้


“สัปเหร่อ” สุดเจ๋ง คว้า 7 รางวัล “สุพรรณหงส์ครั้งที่ 32 ประจำปี 2567
ถือเป็นงานประกาศรางวัลทรงคุณค่าของวงการภาพยนตร์ไทยที่จัดต่อเนื่องยาวนานถึง 32 ปี สำหรับงานประกาศรางวัล “สุพรรณหงส์ครั้งที่ 32 ประจำปี 2566” จัดขึ้นโดย สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และ บริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด (ทรูโฟร์ยู ช่อง 24) ปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ “แสงแห่งกันและกัน” ซึ่งไอเดียมาจาก “แสงแห่งศรัทธา” ที่ผู้สร้างหนังและผู้ชมภาพยนตร์ต่างร่วมกันรักษาและสอดส่องดูแล เปรียบได้ดั่ง “ความร่วมมือร่วมใจในกันและกัน” เพื่อก้าวไปสู่ “ยุคทอง” ครั้งใหม่ของหนังไทยต่อไป โดยจัดขึ้นในวันที่ 29 กันยายน 2567 ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์เธียเตอร์ ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
เปิดฉากงานด้วยพาเหรดเดินพรมแดงจากเหล่า ผู้กำกับ นักแสดง จากค่ายภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ได้แก่ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์, ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยากรณ์, มุกดา นรินทร์รักษ์, โตโน่-ภาคิน คำวิไลศักดิ์, โต้ง-บรรจง ปิสันธนะกูล (ผู้อำนวยการสร้าง), โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ (ผู้กำกับ), วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ (ผู้กำกับ), อัตตา เหมวดี (ผู้กำกับ), มุก-ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ (ผู้กำกับ), แหลม-สมพล รุ่งพาณิชย์,อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล จี๋-สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร, สหัสชัย ชุมรุม, ทราย-อินทิรา เจริญปุระ, แม็กซ์-ณัฐวุฒิ เจนมานะ, ณัฏฐ์ กิจจริต, วันเดอร์เฟรม, ลุค อิชิคาว่า, เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราะห์, ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน, ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์, โทนี่ บุยเซอเรท์, จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ, ต้องเต-ธิติ ศรีนวล, ตาต้า-ชาติชาย ชินศรี, คิมม่อน-วโรดม เข็มมณฑา, รัฐบาล พรหมสาขา ณ สกลนคร, เมเบิ้ล-สิริวลี สิริวิบูลย์, ลิลลี่ เหงียน, รัก-สุลักษมิ์ ศิริภัทรพงศ์, มู่หลาน-เสกพร สุพรรณธนพงษ์, แนส-นภิสรา สนธิขันธ์, บาส-อัศวภัทร์ ผลพิบูลย์ และ ต๋อง-ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา
จากนั้นสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติร่วมรับชมวิดิโอเพื่อระลึกถึงบุคคลในวงการภาพยนตร์ผู้ล่วงลับ ก่อนที่พิธีกรกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ พร้อมนำเข้า VTR รวมหนังไทยทั้งหมดในปี 2566 ที่เข้าชิงรางวัลในปีนี้ทั้ง 54 เรื่อง “สะพานรักสารสิน 2216”, “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์”, “ทิดน้อย”, “ปรากฏการณ์”, “เธอกับฉันกับฉัน”, “ปลายทางฝัน ฉัน..มีเธอ”, “Me and The Magic Door”, “บังเอิญรัก ข่อยฮักเจ้า”, “เกม/ล่า/ตาย”, “รักได้แรงอก” , “ขุนพันธ์ 3”, “แสงกระสือ 2, “บ้านเช่า…บูชายัญ”, “เสือเผ่น๑”, “อาตมาฟ้าผ่า”, “หุ่นพยนต์” , “รักแรกโคตรลืมยาก”, “ผีฮา คนเฮ”, “เซียนหรั่งเดอะมูฟวี่”, “เด็กกว่าแล้วไง ก็หัวใจมัน I Rock You”, “ผู้บ่าวไทบ้าน อวสานอินดี้ ทองคำ+ปราณี”, “The Last Breath of Sam Yan”, “อีหนูอันตราย”


“ลอง ลีฟ เลิฟว์”, “ดับแสงรวี”, “คุณตูบสายดาร์ก ปิดเมืองกัด”, “มอนโด รัก I โพสต์ I ลบ I ลืม”, “นะหน้าทอง”, “แมนสรวง”, “ไปรษณีย์ 4 โลก”, “100 วัน เกมอาฆาต”, “ปราณี”, “บินล่าฝัน”, “ธีซิส อมตะพันธุ์สยอง”, “กุมาร”, “ของแขก”, “สัปเหร่อ”, “นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์”, “14 อีกครั้ง”, “อยากตาย อย่าตาย มรณาค่าเฟ่”, “ธี่หยด”, “เพื่อน (ไม่) สนิท”, “เรดไลฟ์ รักละเลย”, “นาค เรื่องเล่าจากชาวบ้าน, “มนต์ดำสั่งตาย”, “อานนเป็นนักเรียนตัวอย่าง”, “ลับแลคำชะโนด”, “4 Kings2”, “สลิธ โปรเจกต์ล่า”, “สมมติ”, “ทะเลของฉัน มีคลื่นเล็กน้อย ถึงปานกลาง”, “อีสาน ซอมบี้”, “อวสาน เนตรนารี” และ “แฟนฉัน ความทรงจำสีจาง”
ในปีนี้ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ได้มอบรางวัล สุพรรณหงส์เกียรติยศ (Lifetime Achievement Award) .ให้กับ รองศาสตราจารย์บรรจง โกศัลย์วัฒน์ บิดาแห่งวิชาภาพยนตร์สมัยใหม่ไทย มอบโดย คุณธนกร ปุลิเวคินทร์ ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ, รางวัลผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ อินทิรา เจริญปุระ จาก 4Kings2, รางวัลผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ได้แก่ พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ จาก เพื่อน (ไม่) สนิท , รางวัลเทคนิคการสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม ได้แก่ ขุนพันธ์ 3 จาก บริษัท ฮิวแมน ฟาร์ม วีเอฟเอ็กซ์ สตูดิโอ จำกัด, บริษัท เซอร์เรียล สตูดิโอ จำกัด, บริษัท ดาร์ค อาร์มี่ สตูดิโอ จำกัด, รางวัลเทคนิคพิเศษการแต่งหน้ายอดเยี่ยม ได้แก่ “ธี่หยด” โดย มีนา จงไพบูลย์, อัยมี่ อิสลาม, ศิวกร สุขลังการ, อาภรณ์ มีบางยาง และ รุจิระ ไชยภัฏ, รางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม ได้แก่ “แมนสรวง” โดย กิจจา ลาโพธิ์ และ นักรบ มูลมานัส, รางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ได้แก่ “แมนสรวง” โดย นักรบ มูลมานัส และ สุประสิทธิ์ ภูตะคาม

รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ได้แก่ “เธอกับฉันกับฉัน” โดย ชัพวิชญ์ เต็มนิธิกุล, รางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ “สัปเหร่อ” เพลง ‘ยื้อ’ : ปรีชา ปัดภัย, เซิ้ง มิวสิก, รางวัลบันทึกเสียงและผสมเสียงยอดเยี่ยม ได้แก่ “ธี่หยด” โดย เอลวิน ที และ บริษัท กันตนา ซาวด์ สตูดิโอ จำกัด, รางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยม ได้แก่ “เพื่อน(ไม่)สนิท” โดย ชลสิทธิ์ อุปนิกขิต, รางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยม ได้แก่ “เรดไลฟ์” โดย บุญยนุช ไกรทอง , รางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ได้แก่ “The Last Breath of Sam Yan” จาก ยัง ฟิล์ม เมกเกอร์ ออฟ ไทยแลนด์ และ บริษัท ฟองเมฆ จำกัด, สามย่านฟิล์ม, รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ “สัปเหร่อ” โดย ธิติ ศรีนวล
และยังมีรางวัลพิเศษ คือ รางวัลภาพยนตร์ไทย ยอดนิยมประจำปี 2566 ได้แก่ ลอง ลีฟ เลิฟว์ มอบโดย คุณพรชัย ว่องศรีอุดมพร เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ, รางวัลภาพยนตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ มอบโดย คุณประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
รางวัลผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ ธิติยา จิระพรศิลป์ จาก “เธอกับฉันกับฉัน”, รางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ ชาติชาย ชินศรี จาก “สัปเหร่อ” ,รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ ธิติ ศรีนวล จาก “สัปเหร่อ” มอบโดย คุณสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม, ภาพยนตร์ไทยรายได้สูงสุดประจำปี 2566 ได้แก่ สัปเหร่อ ” จาก บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด และ บริษัท มูฟวี่ พาร์ทเนอร์ มอบโดย นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี, รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ “สัปเหร่อ” จาก บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด และ บริษัท มูฟวี่ พาร์ทเนอร์ ประกาศและมอบโดย คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

จากนั้น คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี, คุณยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม, คุณประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, คุณธนกร ปุลิเวคินทร์ ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ, คุณพรชัย ว่องศรีอุดมพร เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ, คุณวิชัย กุลธวัชชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน),คุณสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และผู้ที่ได้รับรางวัลทุกคนขึ้นเวทีถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน เรียกว่าทุกรางวัลในปีนี้ เป็นการสร้างความภาคภูมิใจและส่งเสริมอุตสาหกรรมวงการภาพยนตร์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังโดยแท้จริง

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/กองทัพอากาศ จัดพิธีแสดงความยินดี..พระราชทานยศทหาร ชั้นยส ทหารอากาศ วาระตุลาคม 2567

แชร์เนื้อหานี้

ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานยศทหารชั้นนายพลอากาศ ให้แก่นายทหารสัญญาบัตร สังกัดกองทัพอากาศ โดยแบ่งเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานยศทหารสูงขึ้น วาระตุลาคม 2567 จำนวน 81 คน ดังนี้
พลอากาศเอก จำนวน 13 คน
พลอากาศโท จำนวน 27 คน
พลอากาศตรี จำนวน 39 คน
และพลอากาศตรีหญิง จำนวน 2 คน

ผู้ที่ได้รับพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 17 คน ดังนี้
พลอากาศโท จำนวน 1 คน
พลอากาศโทหญิง จำนวน 1 คน
พลอากาศตรี จำนวน 9 คน
และพลอากาศตรีหญิง จำนวน 6 คน

วันนี้ (วันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567) เวลา 10.00 น. พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีแก่นายทหารสัญญาบัตรที่ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานยศทหาร ชั้นนายพลอากาศ ในวาระตุลาคม 2567 ณ ห้องรับรองจักรพงษ์ กองบัญชาการกองทัพอากาศ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ

ได้กล่าวแสดงความยินดีและให้โอวาทตอนหนึ่งว่า “เกียรติประวัติและความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นกับท่านและวงศ์ตระกูลในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากท่านได้ใช้ความรู้ความสามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความวิริยะอุตสาหะและมุ่งมั่นทุ่มเท ทำให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ เป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชา ผมขอให้ทุกท่านรักษาคุณงามความดี

ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในคุณธรรม ตลอดจนดำรงไว้ซึ่งความรักและความสามัคคี ร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาหน่วยงานให้มีความเจริญก้าวหน้า เพื่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์สืบไป”

กองทัพอากาศ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯมุกดาหารสั่งตรวจสอบความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ

แชร์เนื้อหานี้

   วันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายวรญาณ  บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดมุกดาหารออกตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ เพื่อความมั่นใจในการใช้บริการของประชาชน
โดยนายสมพงษ์ เทียนชัยเกิดศิลป์ ขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการดูแลความปลอดภัยของรถโดยสารผ่านรายการ”ผู้ว่าพบประชาชน”ว่าจังหวัดมุกดาหารมีผู้ประกอบการรถโดยสารขนาดใหญ่ จำนวน 39 ราย มีรถโดยสาร 20 กว่าคัน ซึ่งมีการตรวจสภาพตามระเบียบปีละ 2 ครั้ง

สำหรับการลงพื้นที่ปฎิบัติการตามมาตรการเชิงรุก สำนักงานขนส่งจังหวัดได้ ปฎิบัติการมาตรการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลโดยประสานผู้ประกอบการรถโดยสารทุกรายให้เตรียมความพร้อมของรถก่อนออกเดินทาง ,ออกตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการให้คำแนะนำการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ ระบบเบรค

ความพร้อมของยาง และอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในรถและอื่นๆ,ออกตรวจความพร้อมของรถและคนขับรถโดยสารประจำทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร,กำชับช่างตรวจสภาพรถเข้มข้นเรื่องการตรวจสภาพรถโดยสารโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตัวรถเพื่อให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก และเกิดความมั่นใจในการโดยสารรถ

ภาพ/ข่าว วันวิภา แพงแก้ว
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

มุกดาหาร​ -​หนุ่มวัย 34 นอนตายปริศนาในรถ หน้าผับดังโฟร์คพระนครมุกดาหาร

เมื่อ เวลา 03.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ร.ต.อ.อลงกรณ์ แวงวรรณ รอง สว.(สอบสวน)ได้รับแจ้งมีชายไทยนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์กระบะสี่ประตู หมายเลขทะเบียน 35718 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถของร้านโฟร์คพระนคร ต.มุกดาหาร อ. เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงได้พร้อมกับแพทย์เวรของโรงพยาบาลมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สายสืบร่วมกันชันสูตรพลิกศพผู้ตายเมื่อไปถึงพบศพนายสันติ โคชขึง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 4 ต.บ้านแก้ง อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร

นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะนั่งด้านหลัง มีนายทิวากรณ์ สีทา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ที่ 3 ต. โพธิ์ไทรย์ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร เจ้าของรถให้การว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกับผู้ตายก่อนเกิดเหตุได้พากันมาเที่ยวดื่มกิน ผู้ตายได้ดื่มสุราและเมาหนักกระทั่งเวลาประมาณ 22.00น.ของวันที่ 2 ตุลาคม ก็บอกว่าต้องการพักผ่อน นายทิวากรณ์ กับเพื่อนจึงพามานอนพักผ่อนภายในรถโดยเปิดประตูรถไว้ทุกบานและไม่ได้ติดเครื่องยนต์ แล้วได้เข้าไปดื่มกินภายในร้านต่อ เมื่อถึงเวลาร้านปิดจึงมาที่รถเห็นนายสันติ นอนอ้าปากค้างอยู่ และไม่รู้สึกตัว จึงเรียกให้คนมาช่วยเหลือแต่ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากนายสันติได้เสียชีวิตแล้วจึงได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยก ารต่อสู้และบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด

จากการสอบถาม นายเกียรติศักดิ์ โคชขึง บิดาของนายสันติ ให้การว่านายสันติ.มีอาการเป็นตระคิวบ่อยครั้งและเป็นคนชอบดื่มสุราเป็นประจำ และเมื่อดื่มสุราเมาแล้วมักจะมีอาการเป็นตระคิว ต้องช่วยเหลือโดยการบีบนวดเป็นประจำ ซึ่งนายสันติ เคยช็อคเนื่องจากดื่มสุราแล้วเป็นตระคิวและได้ช่วยเหลือมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่ติดใจสาเหตุการตายของนายสันติ เชื่อว่านายสันติดื่มสุราจนเมาหนักแล้วเป็นตระคิวเสียชีวิตเอง ไม่มีผู้ใดทำร้ายหรือปองร้ายทำให้นายสันติเสียชีวิตแต่อย่างใด

อนึ่ง มีประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า บริเวณที่ตั้งของผับ โฟล์คพระนคร อยู่ติดถนนพิทักษ์พนมเขตกลางใจเมืองมุกดาหาร เพิ่งเริ่มเปิดบริการเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา และไม่อยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) แต่เหตุใดจึงสามารถเปิดได้อย่างโจ่งแจ้ง และผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบได้อย่างไร

มุกดาหาร​ -​ฉก.ทหารพรานที่2105​ ตรวจยึดเนื้อหมูเถื่อน 1.5 ตัน พร้อมรถที่ใช้ขน​ คนขับทิ้งรถหลบหนี

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ร้อยโท วัชรสรณ์ เชื้อไพบูลย์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2105 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารพราน ออกลาดตระเวนในพื้นที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ครั้นเมื่อเวลา 22.45 น. ชุดลาดตระเวนได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่ออกมาจากถนนเรียบริมแม่น้ำโขง บ.บางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร ลักษณะท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่เมื่อคนขับรถยนต์ดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งเครื่องยนต์ขับรถหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตาม จนกระทั่งเวลา 23.00 น. พบรถยนต์คันกล่าวซึ่งเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน บม 5088 ศรีสะเกษ จอดอยู่บนถนนบ้านป่าหวาย ม.9 ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยคนขับได้ทิ้งรถยนต์และอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจพบเนื้อสุกรแช่แข็งบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยจำนวน 1,500 กก. ที่บริเวณท้ายกระบะจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางแล้วส่งมอบให้ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #ทหารพรานที่2105​ #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี #กองทัพภาคที่2

ภาพ/ข่าว​ พวงเพชร​ จันทร์ดี
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /โครงการเมืองพร้าวสดใส เราไม่ทิ้งกัน ณ บ้านห้วยกันใจ , บ้านแม่ทรายขาว ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ..

แชร์เนื้อหานี้

3 ตุลาคม 2567 โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย ผกก.สภ.หางดง ,พร้อม พ.ต.ท.ณัฐวรรธน์ บุญมา รอง ผกก.ป.ฯ,พ.ต.ท.ศุภทัศน์ กิตติวรยศ สว.จร.,พ.ต.ต.เอนก ศรีโพธิ์ สวป.(ชส.)ฯ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมอำนวยความสะดวกเส้นทางจราจร ปิดกั้นเส้นทางเดินรถที่มีน้ำท่วมสูง

ออกประชาสัมสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ระวังและป้องกันเหตุน้ำท่วมเฉียบพลัน ร่วมกับแขวงการทางเคลียร์เส้นทางจราจร และเข้าช่วยเหลือดูแลบ้านเรือนที่น้ำท่วม รวมทั้งออกตรวจสอบพื้นที่ป้องกันการก่ออาชญากรรมต่างๆ ในช่วงอุทกภัย และขอสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหางดง ประจำวันที่ 3 ต.ค.67 รายละเอียดดังนี้

  1. ถนนทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) บริเวณหน้ากาดฝรั่ง มีน้ำท่วมมาจากลำน้ำแม่ท่าช้าง ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ได้ประสานสั่งการให้ปิดการจราจรและ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. ทีมกู้ชีพกู้ภัย อปพร. ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นทางดังกล่าว
  1. น้ำท่วมและดินสไลด์ ตำบลบ้านปง จำนวน 3 หมู่บ้าน
  2. หมู่ที่ 1 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร ปัจจุบันน้ำเริ่มลดลงแล้ว อยู่ระหว่างการเก็บล้างทำความสะอาด
  3. หมู่ที่ 5 บ้านแม่ฮะะเหนือ ดินสไลด์ ทำความเสียหายบ้าน 2 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เทศบาลตำบลบ้านปง ตรวจสอบความเสียหาย อพยพ ผู้อยู่อาศัยไปอยู่ที่อยู่ชั่วคราว และให้ความช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประสบภัย
  1. หมู่ที่ 7 บ้าน ปางยาง กรณี ดิน สไลด์ ปิดถนนทางเข้าหมู่บ้าน การไฟฟ้าอำเภอหางดง ได้ตัดไฟฟ้าชั่วคราว เทศบาลตำบลบ้านปงนำ รถแม็คโคร เปิดทาง ถนนที่ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ใกล้จะเปิดทางให้ราษฎรได้สัญจรได้เป็นปกติ
  2. น้ำท่วมตำบลบ้านแหวน 13 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1 – 13
  3. น้ำท่วมตำบลน้ำแพร่ 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1 2 3 และ 11
  4. น้ำท่วมหนองควาย 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 2 และ 3
  5. น้ำท่วมตำบลสบแม่ข่า 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 3 – 5
  1. น้ำท่วมตำบลขุนคง 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 2 และ 4
  2. น้ำท่วมตำบลหางดง 9 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1 – 9
  3. น้ำท่วมตำบลหนองแก๋ว 6 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1 3 5 7 8 และ 9
  4. รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 48 หมู่บ้าน…

3 ตุลาคม 2567 คุณวันเพ็ญ ปัญญาทิพย์ ปธ.กต.ตร.สภ.พร้าว พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์ธรรศ เจริญปรีชญาพงษ์ ผกก.สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ , ร.ต.ท.นคร ปัญญาทิพย์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงพร้าว , คุณชุณห์พิมาณ สุภิราช กต.ตร.สภ.พร้าว , พ.ต.ท.นพดล ตันมาดี รอง ผกก.ป.สภ.พร้าว , พ.ต.ต.ประดิษฐ์ ปิยะจันทร์ สวป.สภ.พร้าว

พ.ต.ต.ธีระศักดิ์ ธัญธราดล สว.สส.สภ.พร้าว , พ.ต.ท.ชานนท์สถิต วราสงวนศิลป์ สว.อก.สภ.พร้าว และ ข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โครงการ ”เมืองพร้าวสดใส เราไม่ทิ้งกัน“ ณ บ้านห้วยกันใจ , บ้านแม่ทรายขาว ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ..

สมจิตร แสงบันลังค์ รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าฯจ.น่าน พาสื่อมวลชนชมความคืบหน้าการก่อสร้างหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน

แชร์เนื้อหานี้


เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ที่ บริเวณจุดก่อสร้าง หอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะสื่อมวลชน และหน่วยงานต่าง ๆ เยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก โดยมี นายพรชัย ยงนพกุล ตัวแทนมูลนิธิรักษ์ป่าน่าน มอบหมายให้เข้ามาช่วยดูแลบริหารงานโครงการฯ ได้อธิบายพร้อมให้ข้อมูลการก่อสร้างโครงกาาร


สำหรับโครงการหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก ตั้งอยู่บนพื้นที่จำนวน 9 ไร่ 1 งาน 11 ตารางวา ประกอบด้วย หอศิลปวัฒนธรรม อาคารหอประชุมอเนกประสงค์ อาคารบริการ สวนพฤกษศาสตร์ และลานกิจกรรม คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2568 ซึ่งมูลนิธิรักษ์ป่าน่าน ในพระราชูปถัมภ์ฯ สนับสนุนงบประมาณ การก่อสร้างทั้งหมดรวมถึงงบประมาณ ในการบริหารจัดการตลอดอายุสัญญา มีวัตถุประสงค์การดำเนิน โครงการภายใต้หลัก “การพัฒนาที่ยั่งยืนของพลเมืองน่าน ผ่านการรับรู้ เรียนรู้ และนำไปใช้อย่างเข้าใจ” บุคลากรเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จะส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่ สร้างโอกาสความเสมอภาคเพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบสำคัญของประเทศไทยต่อไป

หอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก มีพื้นที่อาคารและสิ่งก่อสร้างในโครงการ ได้แก่ อาคารหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่านและส่วนบริการ อาคารหอศิลปฯ มีพื้นที่ 4600 ตรม. ภายในประกอบด้วย ห้องพิพิธภัณฑ์ในรัชการที่ 9 , ห้องประวัติศาสตร์ศาลากลางหลังเก่า, ห้องนิทรรศการหมุนเวียน และพื้นที่สร้างสรรค์ทางปัญญาที่นำเสนอในรูปแบบดิจิทัล , ห้องสมุดดิจิทัล , พื้นที่ co working space , อาคารหอประชุมพื้นที่ 3400 ตรม. ที่มีที่นั่ง 267 ที่ และชั้นบนประกอบไปด้วยห้องซ้อมดนตรีไทยเดิม ดนตรีไทยสากล และห้องซ้อมดนตรีย่อยอีก 9 ห้อง และยังมีห้องแสดงสิ่งของมีค่าที่แสดงผลงานชิ้นเอกเช่น เครื่องเงินน่าน ,ผ้าทอมือ , เงินตราโบราณ ทั้งยังมีอาคารจอดรถ มีที่จอดรถชั้นใต้ดินซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ 27 คัน นอกจากนี้ ยังแบ่งพื้นที่สำหรับอาคารศูนย์เรียนรู้เมืองน่าน ลานกิจกรรมหน้าพระบรมรูปฯ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์เรียนรู้ สวนวัฒนธรรม

การก่อสร้างในโครงการดังกล่าวได้คำนึงถึงและให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของโครงสร้างอาคาร และรองรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ซึ่ง จ.น่าน อยุูในบริเวณที่ 3 ที่ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาคารอาจได้รับผลกระทบ มีการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย มาตรฐาน NFPA และรองรับ universal design อีกทั้ง ยังยึดมาตรฐานสถาบันอาคารเขียวไทย ( Trees) โดยตั้งเป้าต้องได้รับระดับ platinum
นายพรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างดำเนินการหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก คืบหน้าประมาณ 30% เร็วกว่ากำหนดเวลา 5 วัน เมื่อแล้วเสร็จ สถานที่แห่งนี้ยังมีหลักสูตรรองรับให้กับ เยาวชนจังหวัดน่าน ที่สนใจเรียน ใน 4 หลักสูตรต่าง ๆ อาทิ หลักสูตรดนตรีทั้งดนตรีพื้นเมือง ดนตรีไทยเดิม ดนตรีไทยสากล ดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตรา หลักสูตรสอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาล้านนา

หลักสูตรการทำธุรกิจ และหลักสูตรการเป็นพลเมืองดีเพื่อสังคม โดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย กระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามสัญญาอนุญาตให้มูลนิธิรักษ์ป่าน่านฯ เป็นผู้สนับสนุนการดำเนินโครงการฯ และงบประมาณในการก่อสร้างอาคารใหม่ การรื้อถอน การบริหารจัดการงบบุคลากร, ค่าสาธารณูปโภค, ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยไม่ใช้งบประมาณของราชการแม้แต่บาทเดียว ทั้งนี้ จะไม่มีการเก็บค่าใช้บริการ ค่าสมาชิก ค่าเข้าร่วมกิจกรรม ค่าประชุม หรือค่าตอบแทนอื่นๆ จากผู้ใช้บริการใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการนำพื้นที่ทั้งหมดหรือบางส่วนให้บุคคลอื่นใช้ประโยชน์ส่วนตน รวมถึงไม่มีการปล่อยเช่าพื้นที่ว่างเปล่า

ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวทิ้งท้าย จังหวัดน่าน ยังมีโครงกาพัฒนาไปพร้อมๆ กับการก่อสร้างฯ อีกหลายโครงการ เช่น การเอาเสาไฟฟ้าลงดิน การพัฒนาสวนศรีเมือง เพิ่มเลนจักรยานและช่องทางวิ่ง ตลอดช่วงเมืองเก่าน่าน ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดด้วย/

บุญยงค์ สดสอาด ทีมงานสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มือทำรวย หวยทำจนนะโยม สายมู ชาวอ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ แก้บน ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 4.

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 2 ตุลาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดคลองกะพั้ว ต.บ้านโคน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ สายมูแห่กราบไหว้ขอพรองค์ท้าวเวสสุวรรณ์ ขนาดความสูง 19 เมตรรวมฐาน สีทอง ที่มีความสูงที่สุดในเขตภาคเหนือตอนล่าง ตั้งเด่นสง่า อยู่ภายในวัดคลองกะพั้ว และกราบสักการะท้าวเวสสุวรรณ ขนาดความสูง 5 เมตร สีดำน้ำมันปู กันอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ได้มีนายชัยสุรพัส สินธนัชพุทธิกร และนางกุลณี นากแก้วเทศ ชาวอำเภอพิชัย ได้นำเครื่องสักการะพร้อมน้ำแดง น้ำมันตะเกียง พวงมาลัย ดอกกุหลาบสีแดงมาถวายและแก้บนแก่องค์ท้าวเวสสุวรรณ เนื่องจากตนเอง ได้ถูกเลอตเตอรี่รางวัลที่ 4 เพราะได้ตั้งจิตอธิฐานขอให้ได้ถูกรางวัลลอตเตอรี่พร้อมกันนี้ยังได้นำเงินจำนวน 2 พันบาท ใส่ตู้เพื่อถวายเป็นเครื่องสักการะท้าวเวสสุวรรณในการทอดกฐินสามัคคีสร้างองค์ท้าวเวสสุวรรณ ขนาด 12 เมตร ที่ระหว่างดำเนินการสร้าง

นางกุลณี นากแก้วเทศ ชาวอำเภอพิชัย เปิดเผยว่า ตนเองได้ตั้งจิตอธิฐานระลึกถึงองค์ท้าวเวสสุวรรณที่วัดคลองกะพั้ว หากท้าวเวสสุวรรณที่วัดคลองกะพั้ว ศักดิ์สิทธิ์จริง ขอให้ตนเองถูกรางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาลกับเขา ซักครั้ง
เมื่อผลปรากฏว่า ตนเองถูกลอตเตอรี่ จริง เป็นรางวัลที่ 4 ตนเองพร้อมสามีจึงตั้งใจที่จะไปกราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณที่วัดคลองกะพั้วให้ได้ ซึ่งในวันนี้ ได้มีโอกาศจึงชวนสามีมากราบสักการะท้าวเวสสุวรรณพร้อมกับนำดอกกุหลาบ พวงมาลัย น้ำมันตะเกียง เพื่อถวายแด่องค์ท้าวเวสสุวรรณ ที่มีความสูง 19 เมตรรวมฐาน โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวก็ได้เดินทางมาร่วมขอโชคขอลาภด้วยจากนั้นได้มีการจุดธูปเสี่ยงทายซึ่งปรากฏเป็นเลข 235

พร้อมกันนี้ชาวบ้านที่ติดตามมาเพื่อลุ้นโชค ยังได้มีการล้วงลูกปิงปองในไหที่วางอยู่ด้านหน้าท้าวเวสสุวรรณองค์สีดำมันปูขนาดความสูง 5 เมตร ผลปรากฎเลขที่ล้วงได้จากลูกปิงปองคือ 12 ซึ่งต่างก็พากันนำโทรศัพท์ถ่ายรูปไว้และบางคนก็นำกระดาษมาจด เพื่อนำไปเสี่ยงโชคในงวด วันที่ 16 ตุลาคม ที่จะมาถึง

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / วันประมงฯ 2567 รณรงค์ให้ประชาชนนึกถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์

แชร์เนื้อหานี้

ที่ริมแม่น้ำน่าน เชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2567 เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ และเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยมีนายคฑาวุธ ปานบุญ ประมงจังหวัดน่าน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการเจ้าหน้าที่สังกัดกรมประมงเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 กำหนดให้วันที่ 21 กันยายน ของทุกปีเป็นวันประมงแห่งชาติ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างเพียงพอ และมีความยั่งยืน โดยจัดให้มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำทั่วประเทศ และขอความร่วมมือจากประชาชน งดจับสัตว์น้ำทุกชนิด ในวันที่ 21 กันยายน ของทุกปี จังหวัดน่านโดนักงานประมงจังหวัดน่าน ได้จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดน่าน จำนวน 200,000 ตัว จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ ปลาตะเพียนขาว และบ้า เพื่อนำไปปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อให้สัตว์น้ำที่ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ได้เจริญเติบโตแพร่ขยายพันธุ์ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับแหล่งน้ำ และยังเป็นการฟื้นฟูและเพิ่มผลผลิตทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำในธรรมชาติ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพประมงและเป็นแหล่งอาหารของชุมชน นำไปสู่ความมั่นคงทางด้านอาหารที่ยั่งยืนต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาตมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน