เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กระบะเฉียวชนจักรยานยนต์ คุณปู 85ปี เสียชีวิตที่เกิดเหตุ

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธี 0818923514 เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 11 กันยายน 2568 ร.ต.อ. กรัณย์พล เพชรวงค์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านวิสัยเหนือ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามี มีเหตุรถกระบะเฉียวชนรถจักรยานยนต์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.พิน อินมาก ผกก.สภ.บ้านวิสัยเหนือ และประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์ลงพื้นที่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุรับแจ้ง บริเวณใกล้เคียงพฤกษารีสอร์ท หมู่ที่ 1 ตำบลวิสัยเหนือ อำเภอเมือง ชุมพร ถนนเอเชีย 41 ขาล่องใต้ มีผู้บาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่บนถนน อาสากู้ภัยสายชลชุมพร เขตวิสัย จึงเร่งรัดไปยังจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตเป็นเพศชายอายุ 85 ปี ทรายชื่อภายหลัง นาย ชื่น ขาววิมล เป็นชาวตำบลวิสัยเหนือ อำเภอเมือง ชุมพร

เสียชีวิตที่เกิดเหตุ จึงประสานตำรวจและแพทย์เวร ร่วมชันสูตรที่เกิดเหตุ ก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ส่งให้ทางญาติประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ นายชื่นฯได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อที่จะไปงานศพเพื่อนบ้าน ก่อนจะถึงที่กลับรถ

\ได้เฉียวชนกับรถกระบะสีขาวก่อนจะเสียหลักมาชนกับรถกระบะโตโยต้าสีดำ หมายเลขทะเบียน ก ท 8790 ชุมพรโดยมีนาย จารุวิทย์ (สงวนนามสกุล) ชาว ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่ขับตามมา จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

นาย จารุวิทย์ เล่าว่า กลับจากพาญาติพี่น้องไปเยี่ยมคนป่วยที่โรงพยาบาลในตัวเมืองชุมพร และกำลังจะกลับบ้าน ที่ อ.หลังสวน  ขณะที่ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็น   รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน  ข ก ธ 72 ชุมพร เฉียวชนกับรถกระบะสีขาวไม่เห็นป้ายทะเบียน อยู่ด้านหน้าก่อน ทีจะมีการเฉียวชนกับรถของตน และยังรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ

ร.ต.อ. กรัณย์พล เพชรวงค์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านวิสัยเหนือ จ.ชุมพร ตรวจสอบและรวบร่วมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจะติดตามตัวผู้ขับรถกระบะสีขาว มาสอบสวน จะ ประสานญาติและผู้เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามรายละเอียดและดำเนินการตามขบวนการของขั้นตอน กฎหมาย ต่อไป.

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว”

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันพฤหัสบดี ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น.นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธาน เปิด โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบ นักท่องเที่ยว” ณ หาดทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร กล่าว โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว” จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการให้บริการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส เป็นธรรม และปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร

๒. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวมี จิตสำนึกในการประกอบธุรกิจอย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว และ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว ๓. เพื่อสร้างความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดชุมพร ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เป็นมิตร และมีความรับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ได้รับการสนับสนุน งบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ แผนงาน : บูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว หมวดงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการดำเนินโครงการของสำนักงานการ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ได้เล็งเห็น ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว

โดยเน้นการ สื่อสารเชิงบวกและการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ผ่านกิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว” ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัด กระตุ้น จิตสำนึกและมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้าง ความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความ เป็นธรรม

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าว่า โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญห
ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบ นักท่องเที่ยว”
ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิด โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการ ท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว”

ในวันนี้จากการกล่าวรายงานของท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ทำให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญยิ่งในทางเศรษฐกิจที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจช่วงทศวรรษที่ผ่านมา องค์กรและหน่วยงานต่างๆ มุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานบริการ

ในพื้นที่ พัฒนาแนวทางการบริหาร จัดการท่องเที่ยวในระดับจังหวัด เสริมสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่น และ สนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนและมีความรับผิดชอบตามแนวทางของ เศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจสีเขียว อันจะนำไปสู่การยกระดับขีด ความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรในระยะยา

ผมขอชื่นชมคณะทำงานและเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้ร่วมกัน จัดโครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาด้าน การท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว” และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัด กิจกรรมในครั้งนี้ จะบรรลุประสงค์ทุกประการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 25 จัดแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง เจ้าแห่งสายน้ำ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 วันนี้ (11 ก.ย. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีเปิดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ประจำปี 2568

ร่วมกับ ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร , สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร

ร่วมในพิธี ณ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง

ธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชน และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อปวงชนชาวไทย

นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร จัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง จังหวัดชุมพร ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 10 – 14 กันยายน 2568

ณ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมืองชุมพร ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในประเภท 32 ฝีพายผู้นำ และประเภท 16 ฝีพายทั่วไป, ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ในประเภทเรือยาว 32 ฝีพายทั่วไปภายในจังหวัดชุมพร, และถ้วยพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางวัฒน วรขัตติยราชนารี ในประเภทเรือยาว 8 ฝีพาย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการแสดงถึงพระราชกรณียกิจ

ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,การประกวดกองเชียร์แข่งขันเรือยาว, การแสดงลานวัฒนธรรม, การแสดงศิลปวัฒนธรรม, การแสดงถึงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร

ได้จัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง ณ คลองหัววัง – พนังตัก มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ซึ่งนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีอันงดงามของไทยให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแก่รุ่นหลังแล้ว

ยังถือเป็นกิจกรรมสำคัญของชาวจังหวัดชุมพร ที่ได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงพระเมตตาและความห่วงใยพสกนิกรชาวชุมพรมาโดยตลอด

โดยเฉพาะในด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งในอดีตพื้นที่ตัวเมืองชุมพรต้องประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แต่ด้วยพระราชดำริในการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ และการขุดคลองหัววัง – พนังตัก ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ปัญหาดังกล่าวจึงค่อย ๆ บรรเทาเบาบางลง นับเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันแสดงพลังแห่งความสามัคคี

พร้อมส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้คงอยู่คู่ชุมพรสืบไป ภายใต้เสียงกลอง เสียงพาย และแรงเชียร์ที่ดังกระหึ่มเหนือสายน้ำแห่งศรัทธา ซึ่งไม่เพียงเป็นการแข่งขัน หากยังเป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณของชาวชุมพรที่พร้อมใจเทิดทูนสถาบัน ชื่นชมรากเหง้าทางวัฒนธรรม และร่วมสร้างความภาคภูมิใจให้บ้านเกิดอย่างแท้จริง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ ภ.จว.ลำปาง

แชร์เนื้อหานี้

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน 2568 เวลา 11.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติคดีรายสำคัญ ของ สภ.สบปราบ จว.ลำปางกรณีเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 16.40 น. ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จับผู้ต้องหา 1 คน รถบรรทุกพ่วง 1 คัน ยาเสพติดของกลาง ยาไอซ์ ประมาณ 100 กิโลกรัม

โดยมี นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผบ.มทบ.32, นายฉัตรชัย วงศ์ปริยากร นายอำเภอสบปราบ, ผู้แทน กอ.รมน. จังหวัดลำปาง, ศพฐ.5, ปส.ภาค 5, ผกก.สภ.สบปราบ ร่วมแถลงผลการจับกุม

ณ ลานแถลงข่าวตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ถ.ลำปาง – แจ้ห่ม ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จว.ลำปางสรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจฎธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – 10 ก.ย.68

จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 25,695
คดีรายสำคัญ 249 คดี
ยึดของกลางยาเสพติด

  • ยาบ้า 260 ล้านเม็ดเศษ
  • ไอซ์ 11,900 กิโลกรัมเศษ
  • เฮโรอีน 211 กิโลกรัมเศษ
  • เคตามีน 1,840 กิโลกรัมเศษ
  • ฝิ่น 160 กิโลกรัมเศษ

ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด
ประมาณ 1,246 ล้านบาทเศษ…
//สมจิตรแสงบัลลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กฟผ.จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ด้านความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า และซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคาร โรงเรียนน่านประชาอุทิศ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ณ โรงเรียนน่านประชาอุทิศ ต.กองควาย อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายเวธิต ยะติ ผู้อำนวยการโรงเรียนน่านประชาอุทิศ ได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณคณะบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)

คณะบริหารเทศบาลตำบลกองควาย รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน รองผอ.คณะอาจารย์ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคน่าน ทีมข่าวสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ผู้นำท้องที่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนน่านประชาอุทิศ

โดยมี ดร.ธงชัย ดิษยเดช วิศวกรระดับ 9 ทำหน้าที่หัวหน้าแผนกบำรุงรักษา สถานีไฟฟ้า 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกล่าวรายงานวัตถประสงค์ต่อคุณโสภา ชวนวัน รองผอ.สพม.น่าน ประธานในพิธีเปิดโครงการEgat together2025 กิจกรรมเสริมสร้างความรู้

ด้านความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคารซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับ วิทยาลัยเทคนิคน่าน ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ด้านความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า และซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคารโรงเรียน
น่านประชาอุทิศ ระหว่างวันที่ 8-11กันยายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้


1.เพื่อให้นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ
ไฟฟ้า รวมถึงระบบไฟฟ้าภายในอาคารมีความปลอดภัย และประหยัดพลังงาน
2.เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตระหนักถึงอันตราย และใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยความปลอดภัย

3.เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิต และทรัพย์สินได้ อีกทั้ง
สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกวิธี ตลอดจนถึงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน ต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/วิสุทธิ์ ศรีเมือง/ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.มุกดาหาร สุดฉาว! ร.ต.ท.ปราบยาดีเด่น ผันตัวเป็นผู้ค้า ถูก ตชด. จับพร้อมของกลางยาบ้า 30,000 เม็ด / ตร.กาฬสินธุ์–มุกดาหาร ขยายผลจับกุมขบวนการลักลอบค้ากระสุนปืนสงครามจาก สปป.ลาว กว่า 2,000 นัด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ต.ท.วัฒนพล ดาแก้ว ผบ.ร้อย ตชด.234 มุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายลับว่า สามารถติดต่อล่อซื้อยาเสพติดในพื้นที่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.วิชาญ ตนุมาตร หน.ชุด ชปข.ร้อย ตชด.234 พร้อมกำลังพลรวม 15 นาย ร่วมวางแผนจับกุม กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายเกรียงศักดิ์ หรือ”ปื้ด” พิกุลศรี อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 227 ม.2 ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านศูนย์ไหม อ.เมืองมุกดาหาร

จากการขยายผลนายปื้ด รับว่าได้นำยาเสพติดทั้งหมดมาจาก ร.ต.ท.โทรจิตร แข็งแรง อายุ 57 ปี รอง สว.สส.สภ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร และได้นำยาเสพติดดังกล่าวมาขายให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจริง จากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดดังกล่าวไปมอบให้ ร.ต.ท.โทรจิตร เจ้าหน้าที่จึงได้จึงได้วางแผนนัดหมายการรับมอบเงินที่บ้านนายปื๊ด ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดหมาย ร.ต.ท.โทรจิตร ได้เดินทางมารับเงินจำนวนดังกล่าว และนายปื้ดจึงได้ส่งมอบเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดให้ ร.ต.ท.โทรจิตร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการแสดงตัวเข้าจับกุม และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมตรวจยึดยาบ้าจำนวนประมาณ 30,000 เม็ด และอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อสมิทแอนเวสสัน พร้อมเครื่องกระสุน 13 นัด ไว้เป็นของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ร.ต.ท.โทรจิตร เพิ่งเข้ารับใบประกาศเกียรติคุณผู้มีผลการ ปฏิบัติงานดีเด่นด้านการปราบปรามยาเสพติดของตํารวจภูธรภาค 4 ที่ห้องประชุมศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

ตร.กาฬสินธุ์–มุกดาหาร ขยายผลจับกุมขบวนการลักลอบค้ากระสุนปืนสงครามจาก สปป.ลาว กว่า 2,000 นัด

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้ตั้งจุดตรวจบนถนนกาฬสินธุ์–กุฉินารายณ์ ช่วงบ้านคอนเรียบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ จนพบและควบคุมตัว นายวิชัย ใจช่วง อายุ 24 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3223/2568 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ในคดีเกี่ยวกับการเปิดหรือยินยอมให้ใช้บัญชี/โทรศัพท์เพื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีระหว่างการสอบสวน นายวิชัยฯ ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการติดต่อกับชาวลาว เพื่อรับกระสุนปืนสงครามอาก้า หรือ AK-47 ขนาด 7.62 มม. จำนวน 2,000 นัด ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร

ตำรวจชุดจับกุมจึงประสาน พ.ต.ต.มนัส บุตรวงศ์ สว.กก.สส.ภ.จว.มุกดาหาร วางแผนล่อซื้อ ก่อนนัดหมายที่ถนนหน้าท่าทรายดาวเลิงนกทา ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร กระทั่งพบ นายสาคอน ไชยะมุงคุน อายุ 21 ปี ชาวแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ถือกระสอบต้องสงสัย เมื่อเห็นตำรวจแสดงตัวได้พยายามหลบหนี แต่ถูกจับกุมไว้ได้ตรวจสอบภายในกระสอบพบ กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. รวม 2,214 นัด นายสาคอนฯ รับสารภาพว่า ได้รับกระสุนมาจากชายลาวชื่อ “น้อย” เพื่อนำมาส่งให้ผู้ซื้อ โดยจะได้รับค่าจ้าง 9,000 บาท

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “มีกระสุนปืนสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เทศกาลวัฒนธรรมหมิ่นหนาน ปี 2025 เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ ณ กรุงเทพมหานคร โดย “ท่าเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งบูรพาทิศ” ในสมัยราชวงศ์ซ่งและหยวน

แชร์เนื้อหานี้

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอย สำหรับ “เทศกาลวัฒนธรรมหมิ่นหนาน ปี 2025” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดย สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, สมาคมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติฝูเจี้ยน, สมาคมการส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฝูเจี้ยน โดยมี สมาคมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติเฉวียนโจว และ สมาคมจีนเฉวียนโจว–จินเจียงแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพ

ดำเนินงานโดย สำนักงานวัฒนธรรม วิทยุ โทรทัศน์และการท่องเที่ยวเมืองเฉวียนโจว, สหพันธ์อุตสาหกรรมชุมชนเมืองและชนบทเฉวียนโจว, สหพันธ์ชาวจีนโพ้นทะเลเมืองเฉวียนโจว, ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมหมิ่นหนานเฉวียนโจว และ สำนักเลขาธิการเทศกาลวัฒนธรรมหมิ่นหนานโลก เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย งานนี้ไม่เพียงแต่มีพันธกิจในการสืบสานมิตรภาพอันดั้งเดิมระหว่างสองประเทศและส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างอารยธรรมเท่านั้น แต่ยังมุ่งยกระดับการเผยแพร่วัฒนธรรมหมิ่นหนาน วัฒนธรรมทางทะเล

และวัฒนธรรมชาวจีนโพ้นทะเลในเวทีนานาชาติ และส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ใหม่ของการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของสองประเทศ โดยจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 8-11 ก.ย. ที่ ไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร เป้าหมายของเทศกาลวัฒนธรรมหมิ่นหนานคือการส่งเสริมการสืบสาน

การนำเสนอ การแลกเปลี่ยน และความสัมพันธ์ฉันท์มิตรทางวัฒนธรรม โดยในปีนี้ เทศกาลฯ มุ่งเน้นการสร้าง “ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมหมิ่นหนานโลก” ร่วมกับเซียะเหมิน จางโจว เฉวียนโจว ชุมชนสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และชุมชนหมิ่นหนานในต่างประเทศ ได้มีการวางแผนจัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย อาทิ

พิธีเปิดและการแสดงวัฒนธรรมเวทีเสวนาวัฒนธรรมหมิ่นหนานการแข่งขันประกวดเพลงนานาชาติ ครั้งที่ 2 “Chinese Sentiment, Global Hearts” จัดโดย KuGou Musicการประชุมส่งเสริมการลงทุนด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเฉวียนโจวนิทรรศการงานหัตถกรรมดั้งเดิมหมิ่นหนานและผลงานสร้างสรรค์งานชิมผลิตภัณฑ์แบรนด์เก่าแก่ของหมิ่นหนานกิจกรรม “Caring for the Chinese Diaspora · Cross-border E-commerce Training for Overseas Chinese Youth from Small-language-speaking Countries (Thailand Special Session)” ครั้งที่ 5

ภายในเทศกาลจะมีการจัดพื้นที่นิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมาจู่, การชิมอาหารสมุนไพรจีน, การสวมดอกไม้และจัดแสดงชุดประจำชาติจีน–ไทย และนิทรรศการภาพถ่ายศิลปะ “ท่าเรือยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งบูรพาทิศในสมัยราชวงศ์ซ่งและหยวน”, นิทรรศการ “ความทรงจำเส้นทางสายไหมทางทะเล · ประวัติศาสตร์ชาวจีนโพ้นทะเลในตุนหวง”, นิทรรศการ “สืบรากเหง้า” เกี่ยวกับสกุลวงศ์ และการจัดแสดงภาพแทงคาขนาดใหญ่ชื่อ “ท่าเรือยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งบูรพาทิศในสมัยราชวงศ์ซ่งและหยวน” (ขนาด 7.2 เมตร × 1.6 เมตร) อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะพาผู้ชมสัมผัสอย่างลึกซึ้งถึงรากเหง้าประวัติศาสตร์อันยาวนานและเสน่ห์วัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของฝูเจี้ยนตอนใต้


ในโอกาสนี้ยังตรงกับการเปลี่ยนผ่านผู้นำของสมาคมจีนเฉวียนโจว–จินเจียงแห่งประเทศไทย โดยหอการค้าแห่งนี้ได้ยึดมั่นในจิตวิญญาณหมิ่นหนานที่ว่า “กล้าสู้ กล้าชนะ และสามัคคีเกื้อกูล” อุทิศตนเพื่อการบริการชาวจีนโพ้นทะเล ส่งเสริมมิตรภาพระหว่างชาวจีนท้องถิ่น และตอบแทนถิ่นกำเนิด อีกทั้งยังเป็นเวทีการสื่อสารที่สำคัญสำหรับชุมชนหมิ่นหนานในประเทศไทย และมีบทบาท

ในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนมิตรภาพจีน–ไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เทศกาลวัฒนธรรมหมิ่นหนานโลกได้จัดขึ้นสำเร็จมาแล้วในไถหนัน, เฉวียนโจว, มาเก๊า, จินเหมิน, มะละกา, ดูไบ, ฮ่องกง, มะนิลา และ จาการ์ตา นับตั้งแต่ปี 2012 และในปี 2017 ได้มีการจัดสัมมนาว่าด้วยการพัฒนาเทศกาลวัฒนธรรมหมิ่นหนานโลกที่เมืองโบราณจื่อถง–เฉวียนโจว โดยผู้แทนที่เข้าร่วมได้ร่วมกันบรรลุ “共识เฉวียนโจว” (ฉวนโจว คอนเซนซัส) เพื่อผลักดันให้มีการจัดเทศกาลวัฒนธรรมหมิ่นหนานโลกอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / Goodwill Games 2025 ไทย–มาเลย์ เสริมสัมพันธ์สองแผ่นดิน Soft Power สู่สายตาโลก คาดเงินสะพัดกว่า 9 ล้านบาท 13–15 ก.ย.นี้ ที่สุไหงโก-ลก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 10 กันยายน 2568 ที่โรงแรมเก็นติ้ง อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายสิโรตม์ มียศ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬากรมพละศึกษา YB ZAMAKHSHARI BIN MUHAMAD รองมุขด้านกีฬาและกิจการเยาวชน ผู้แทนฝ่ายประเทศมาเลเซีย

นายณรงค์ สังประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส นายซูปียัน แดเมาะเล็ง นายอำเภอสุไหงโกลก และนายสันติ บินยะโกะ รองนายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโกลก ร่วมแถลงข่าวโครงการกีฬาและนันทนาการสร้างเสริมความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซียประจำปี 2568 (Goodwil Games 2025จังหวัดนราธิวาส โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพลศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดงานใหญ่ “โครงการกีฬาและนันทนาการสร้างเสริมความสัมพันธ์ไทย–มาเลเซีย (Goodwill Games 2025)”

ระหว่างวันที่ 13–15 กันยายน 2568 ณ สนามกีฬามหาราช อำเภอสุไหงโก-ลก และสถานที่สำคัญในพื้นที่ เพื่อสานสัมพันธ์สองแผ่นดินผ่านพลังของกีฬาและกิจกรรมเชื่อมโยงวัฒนธรรม
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นเวทีเชื่อมความสัมพันธ์ไทย–มาเลเซีย ผ่านพลังของกีฬาและกิจกรรมนันทนาการ หวังสร้างความสามัคคี เสริมสร้างความเข้าใจอันดี และเผยแพร่วัฒนธรรมทั้งสองประเทศ ตลอดจนใช้กีฬาเป็น Soft Power กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวชายแดนใต้

ทั้งนี้นี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการผลักดัน Soft Power ของประเทศไทย โดยใช้กีฬา ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชายแดนใต้เป็นเครื่องมือเชื่อมมิตรภาพ เสริมสร้างความเข้าใจ และเปิดโอกาสให้ทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศมิตรภาพที่อบอุ่น

โดยพิธีเปิดจะมีขึ้นในวันที่ 14 กันยายน 2568 โดยมีนักกีฬาเยาวชนและทีมจากไทย–มาเลเซียเข้าร่วมแข่งขันกว่า 1,000 คนจากทั้งสองประเทศ ในหลากหลายประเภทกีฬา อาทิ ฟุตบอล, มวยไทย,ฟุตบอล Alstar,เปตอง,วอลเลย์บอล,ปันจักสีลัต,ยิงธนู,กีฬาเซปักตะกร้อ และกีฬาพื้นบ้าน พร้อมโชว์แมตช์พิเศษฟุตบอล All Star ไทย–มาเลย์ ที่ดึงนักเตะชื่อดังมาสร้างสีสันจากไม่เพียงเป็นการประลองฝีมือ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพที่ก้าวข้ามพรมแดน

ซึ่งไฮไลต์ของงาน นอกจากการแข่งขันกีฬา ยังมีกิจกรรมด้านวัฒนธรรม การแสดงศิลปะพื้นบ้าน และงานเลี้ยงมิตรภาพ ที่เปิดโอกาสให้ชาวไทยและมาเลย์ได้ร่วมสานสัมพันธ์อย่างอบอุ่น
Goodwill Games 2025” ไม่ใช่เพียงงานกีฬา แต่คือเทศกาลแห่งมิตรภาพไทย–มาเลเซีย ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้ร่วมเชียร์

ร่วมสัมผัส ร่วมสร้างความทรงจำ และเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดัน Soft Power ไทยสู่เวทีโลก ระหว่างวันที่ 13–15 กันยายน 2568 ณ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ร่วมชมการแข่งขันกีฬา การแสดงวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน กระตุ้นการท่องเที่ยวอีกด้วย
//////////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มุกดาหารสะเทือน! 🚨 บุกบ้านยึดยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ซุกห้องน้ำ ผู้ต้องหาหนีรอด!”

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 10 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 4, กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2, กอ.รมน., ร้อย ทพ.2105 ฉก.ทพ.21, นสร.กร., ชุดสืบสวน สภ.ผึ่งแดด และสายตรวจ สภ.ผึ่งแดด รวมกว่า 20 นาย สนธิกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ ต.ผึ่งแดด อ.เมือง จ.มุกดาหาร

ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า 1,600,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องน้ำ บ้านเลขที่ 123 ม.4 บ้านคำผึ้งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ซ่อนในตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนบ้านเลขที่ 140 ม.4 กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 3 นัด รถยนต์เก๋ง มิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กษ 3649 อุดรธานี และเงินสด 39,040 บาท

อย่างไรก็ตาม ขณะเข้าตรวจค้นผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดนำส่งสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 4 เพื่อดำเนินการสืบสวน ขยายผล และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มุกดาหาร #บ้านคำผึ้ง #ผึ่งแดด #ยาบ้า #ปปส #ทลายเครือข่ายยาเสพติด #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เทศบาล ต.ท่าข้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ มอบหมวกนิรภัย สวมใส่ปลอกภัย 100 %

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ณ เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังนครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ผ่านพี่น้องประชาชนประสบอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะการขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ซึ่งมีจำนวนมากทางจังหวัดมีนโยบายรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หมวกนรภัยตามที่กฎหมานกำหนด จังหวัดจึงเป็นห่วงพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้ซ้อนท้ายหากไม่สวมหมวกนิรภัยจะมีบทลงโทษจับปรับ

ซึ่งมีอัตราค่าปรับสูงถึง 2,000 บาท ทางจังหวัดจึงมีความเป็นห่วง จึงได้มีการรณรงค์ให้สวมหมวกนิรภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีภาคเอกชนร่วมกับสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมา นำหมวกนิรภัยมอบให้เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติแจกหมวกนิรภัยให้กับชาวบ้านที่ไม่มีหมวกได้สวมใส่แบบฟรี สำหรับประชาชนที่ไม่ได้มารับแจกหมวกนิรภัย สามารถ ยืนหมวกนิรภัยได้ที่บ้านกำนัน อำเภอ และสถานีตำรวจ สวมใส่ขับขี่เพื่อความปลอดภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันอุบัติเหตุ นายสุรพันธ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายราชัน เศวตอมรกุล นายกเทศบาลตำบลท่าช้าง กล่าวต่อว่า เทศบาลตำบลท่าช้าง จัดทำ โครงการสวมหมวกนิรภัย แบบ100 เปอร์เซนต์ เทศบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนหมวกนิรภัยจากสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมาและภาคเอกชนจำนวน 300 ใบ อย่างไรก็ดี นายกราชัน จึงขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการสวมใส่หมวกนิรภัยอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันอย่างเข้มงวด จึงอยากให้มีการตับปรับให้เป็นมาตรฐานชาวบ้านจึงได้เล็งเห็นถึงควาปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะการปรับ มรโทษการจับปรับสูงถึง 2,000 บาท จึงอยากให้พี่น้องขาวตำบลท่าข้างสวมใส่หมวกนิรภัยตามกฎหมายกำหนด

นายพุฒิ พงศ์รพีพร นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่าในห้วงที่ผ่านมาทางราชการได้รับการสนับสนุนหมวกนิรภับกับทางคณะสงฆ์และเอกชน มาททำเป็นธนาคารหมวกกันน็อคซึ่งแต่ละตำบลมีหมวกนิรภัยตำบลละ 10ใบ ให้ประชาชนได้ยืมสวมใส่ ทาางสถานีตำรวจ มีให้ยืม จำนวน 30 ใบและอำเภอ อีก 20 ใบ ซู่งอำเภเฉลิมพระเกียรติให้ประชาชนที่ไม่มีหมวกนิรภัยยืมสวมใส่ กับธนาคารหมวกสวมใส่เพื่อความปลอดภั ยผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ทางสถานีตำรวจอำเภอเฉบิมพระเกียรติได้มีการจัดตั้งธนาคราให้ยืมหมสกนิรภัยให้กับกับประชาชนที่ไม่มีสวมใส่ เพราะกฎหมายได้ออกมามห้ผู้ขับขี่และผู้ซัอนสวมใส่หมวกนิรภัย หากไม่สวมใส่ตะมีการจับปรับจริง ซึ่งมีโทษจัยปรับสูงถึง 2,000 บาท ยึงมีความเป็นห่วงประชาชน ให้ประชาชนเคารพกฎหมายโดยการสวมใส่หมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัย ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าว

นางจุรีพร เศวตอมรกุล นายกสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมา กล่าว่าทางสโมสรไหลอ้อน ได้เล็งเห็นความปบอดภัยของชาวบ้าน ทางสโมสรไบอ้อนจึงรวมกับภาคเอกชนนำหวกกนิรภัยจำนวน 300 ใบมอบให้โครงการขับขี่ปลอดภัยสวมหมวกกันน็อคอย่างปลอดภัยกับเทศบาลตำบลท่าช้าง เพื่อมอบให้พี่น้องประชาชนได้สวมใส่และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน