เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เทศบาล ต.ท่าข้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ มอบหมวกนิรภัย สวมใส่ปลอกภัย 100 %

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ณ เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังนครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ผ่านพี่น้องประชาชนประสบอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะการขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ซึ่งมีจำนวนมากทางจังหวัดมีนโยบายรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หมวกนรภัยตามที่กฎหมานกำหนด จังหวัดจึงเป็นห่วงพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้ซ้อนท้ายหากไม่สวมหมวกนิรภัยจะมีบทลงโทษจับปรับ

ซึ่งมีอัตราค่าปรับสูงถึง 2,000 บาท ทางจังหวัดจึงมีความเป็นห่วง จึงได้มีการรณรงค์ให้สวมหมวกนิรภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีภาคเอกชนร่วมกับสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมา นำหมวกนิรภัยมอบให้เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติแจกหมวกนิรภัยให้กับชาวบ้านที่ไม่มีหมวกได้สวมใส่แบบฟรี สำหรับประชาชนที่ไม่ได้มารับแจกหมวกนิรภัย สามารถ ยืนหมวกนิรภัยได้ที่บ้านกำนัน อำเภอ และสถานีตำรวจ สวมใส่ขับขี่เพื่อความปลอดภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันอุบัติเหตุ นายสุรพันธ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายราชัน เศวตอมรกุล นายกเทศบาลตำบลท่าช้าง กล่าวต่อว่า เทศบาลตำบลท่าช้าง จัดทำ โครงการสวมหมวกนิรภัย แบบ100 เปอร์เซนต์ เทศบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนหมวกนิรภัยจากสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมาและภาคเอกชนจำนวน 300 ใบ อย่างไรก็ดี นายกราชัน จึงขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการสวมใส่หมวกนิรภัยอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันอย่างเข้มงวด จึงอยากให้มีการตับปรับให้เป็นมาตรฐานชาวบ้านจึงได้เล็งเห็นถึงควาปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะการปรับ มรโทษการจับปรับสูงถึง 2,000 บาท จึงอยากให้พี่น้องขาวตำบลท่าข้างสวมใส่หมวกนิรภัยตามกฎหมายกำหนด

นายพุฒิ พงศ์รพีพร นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่าในห้วงที่ผ่านมาทางราชการได้รับการสนับสนุนหมวกนิรภับกับทางคณะสงฆ์และเอกชน มาททำเป็นธนาคารหมวกกันน็อคซึ่งแต่ละตำบลมีหมวกนิรภัยตำบลละ 10ใบ ให้ประชาชนได้ยืมสวมใส่ ทาางสถานีตำรวจ มีให้ยืม จำนวน 30 ใบและอำเภอ อีก 20 ใบ ซู่งอำเภเฉลิมพระเกียรติให้ประชาชนที่ไม่มีหมวกนิรภัยยืมสวมใส่ กับธนาคารหมวกสวมใส่เพื่อความปลอดภั ยผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ทางสถานีตำรวจอำเภอเฉบิมพระเกียรติได้มีการจัดตั้งธนาคราให้ยืมหมสกนิรภัยให้กับกับประชาชนที่ไม่มีสวมใส่ เพราะกฎหมายได้ออกมามห้ผู้ขับขี่และผู้ซัอนสวมใส่หมวกนิรภัย หากไม่สวมใส่ตะมีการจับปรับจริง ซึ่งมีโทษจัยปรับสูงถึง 2,000 บาท ยึงมีความเป็นห่วงประชาชน ให้ประชาชนเคารพกฎหมายโดยการสวมใส่หมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัย ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าว

นางจุรีพร เศวตอมรกุล นายกสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมา กล่าว่าทางสโมสรไหลอ้อน ได้เล็งเห็นความปบอดภัยของชาวบ้าน ทางสโมสรไบอ้อนจึงรวมกับภาคเอกชนนำหวกกนิรภัยจำนวน 300 ใบมอบให้โครงการขับขี่ปลอดภัยสวมหมวกกันน็อคอย่างปลอดภัยกับเทศบาลตำบลท่าช้าง เพื่อมอบให้พี่น้องประชาชนได้สวมใส่และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดแล้ว! ลานวัฒนธรรมในงานแข่งเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง 2568

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 18.30 น. นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรให้เกียรติมาเป็นประธานเปิด กิจกรรม “ลานวัฒนธรรม ประจำปี 2568”

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานแข่งเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธงจังหวัดชุมพร ณ เวทีกลาง คลองหัววังพนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพ

นางดวงใจ เสมแก้ว รองปลัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร กล่าว ลานวัฒนธรรมโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้มี โอกาสแสดงความสามารถด้านศิลปะต่าง ๆ และเชิญชวนผู้สนใจร่วมแต่งกาย ด้วยชุดไทยอันเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน

ลานวัฒนธรรมกำหนดจัด งานระหว่างวันที่ 10-14 กันยายน 2568 วันที่ 10 กันยายน 2568 การประกวดขับร้องเพลงลูกทุ่ง ประเภท ผู้สูงอายุ มีผู้สมัคร จำนวน 12 คน วันที่ 11 กันยายน 2568 ชมดนตรีโดยศิลปินผู้อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ คุณเอกชัย ศรีวิชัย วันที่ 12 กันยายน 2568

การประกวดขับร้องเพลง ประเภทเด็ก และเยาวชน รุ่นอายุระหว่าง 10-14 ปี และ อายุระหว่าง 15-18 ปี มีผู้สมัคร จำนวน 22 คน วันที่ 13 กันยายน 2568 การแสดงศิลปวัฒนธรรม จาก กลุ่มพลังสตรี จังหวัดชุมพร จำนวน 7 ชุดการแสดง สำหรับการเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ

ร่วมแต่งกายชุดไทย นั้น ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผ่านทางสื่อโซเชียลทุกช่องทาง อาทิ กลุ่มไลน์ เฟสบุ๊ค องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร โดยได้รับการสนับสนุนรางวัล จากผู้ใหญ่ใจดี จำนวน 12 รางวัล มูลค่ารวม24,000 บาท เพื่อมอบให้กับ ผู้ร่วมงานที่แต่งกายชุดไทย สวยงาม เหมาะสม และถูกใจกรรมการ ผู้มอบรางวัล ผู้จัดงาน มุ่งหวังให้การจัดงานครั้งนี้

สามารถสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์ ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย เพื่อร่วมสร้างความภาคภูมิใจ ในความเป็นไทย และส่งผ่านเอกลักษณ์ไทยที่ถูกต้อง ส่งต่อให้เยาวชนคนรุ่นหลัง ได้รักษา และต่อยอดสืบไปอย่างยั่งยืน

นายนพพร อุสิทธิ์ กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติมาเป็นประธาน ในพิธีเปิดลานวัฒนธรรม งานประเพณีแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวง หัววัง-พนังตัก ในวันนี้ ตามที่ท่านรองปลัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของ การจัดกิจกรรม ลานวัฒนธรรม

นับว่าเป็นการสนองพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่ พ.ศ. 2503 ทรงริเริ่มให้มีการศึกษาและปรับปรุงการแต่งกาย ชุดไทยให้มีความเหมาะสมกับกาลสมัย เพื่อความภาคภูมิใจในความ เป็นไทย อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำริเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงกลุ่ม LGBTQ ร่วมกันสวมใส่ ชุดไทยพระราชนิยม ทั้ง 8 แบบ อย่างภาคภูมิใจ เพื่อแสดง อัตลักษณ์ความเป็นไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก และนำเสนอต่อยูเนสโก

เพื่อประกาศเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ผมขอชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรม ลานวัฒนธรรมครั้งนี้ ตลอดจนการเชิญชวนให้แต่งกายชุดไทย เป็นการ สร้างสีสันของงาน ถือเป็นแนวคิดร่วมสมัย ส่งเสริมความเป็นไทย และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน สืบไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชลประทานที่ 1 เร่งตรวจสอบความเสียหายอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง หลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ”

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (8 กันยายน 2568) เวลา 16.00 น. #นายณัฐวุฒิ #นากสุก #ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม #สำนักงานชลประทานที่ 1 พร้อมด้วย #นายปารเมศ #การุณนราพร #ผู้อำนวยการโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน

และนายภมร เพชระบูรณิน หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อ่างเก็บน้ำได้รับความเสียหายบริเวณทำนบดินและอาคารระบายน้ำล้น หลังจากพื้นที่เกิดฝนตกหนักอย่าง

ต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อ่างเก็บน้ำไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ตามปกติ

เพื่อประเมินความเสียหายและหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ประสานไปยังฝ่ายจัดการความปลอดภัยเขื่อนและอาคารชลประทาน

เพื่อส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบรายละเอียดของความเสียหายในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อวางแผนการซ่อมแซมและแก้ไขปัญหาต่อไป
…#สมจิตร แสงบันลังค์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จับปืนพกสั้น(ประกอบขึ้นเอง) .38 พร้อม ยาไอซ์ ยาบ้า จำนวนหนึ่ง

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 ในช่วงระดมกวาดล้างยาเสพติด ระยะตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.68-30 ก.ย.68 ภายใต้อำนวยการและสั่งการนายอเนก ชำนาญนา นายอำเภอละแม, นายวิบูลย์ เกลี้ยงวงค์ ปลัดอำเภอละแม, พ.ต.อ.อนันท์ อนุตรเวสารัช ผกก.สภ.ละแม, พ.ต.ท.สุชาติ สิงหา รอง ผกก.สส.สภ.ละแม และ พ.ต.ท.พชร อ่วมทองดี รอง ผกก.ป.สภ.ละแม ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด No Drugs No Dealers วันที่ 9 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละแม นำโดย พ.ต.ต.โตษณ พันธุ์ทอง สว.สส.สภ.ละแม พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธนธัช ประเทียบอินทร์ รอง สว.สส.สภ.ละแม, ร.ต.ต.ธานินทร์ ทองแดง รอง สว.(สส.)สภ.ละแม, ด.ต.ทินกร ทองอ่อน และ ส.ต.ท.สุวพันธ์ ดำวรรณ ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด No Drugs No Dealers
ตรวจสอบพื้นที่ บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 14 ต.ละแม อ.ละแม จว.ชุมพร พบ นายวิศรุตหรือลิป (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สัญชาติ ไทย ชาว ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร มีพฤติกรรมเสพยาเสพติ

จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจ ทำการจับกุมได้พร้อมของกลาง 1.) ยาบ้า ลักษณะเม็ดกลมแบน สีส้ม มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ wy ตรงกลางเม็ด อีกด้านหนึ่งผิวเรียบ ใส่ไว้ในถุงพลาสติกใส ชนิดกดปิดดึงเปิด ขนาด 6×9 ซม.จำนวน 1 เม็ด จำนวน 1 ถุง 2.) ไอซ์ ลักษณะเกล็ดใส ใส่ไว้ในถุงพลาสติกใส ชนิดกดปิดดึงเปิด ขนาด 5×8 ซม.น้ำหนักรวมถุงประมาณ 0.72 กรัม น้ำหนักเฉพาะไอซ์ประมาณ 0.15 กรัม จำนวน 1 ถุง 3.) ไอซ์ ลักษณะเกล็ดใส ใส่ไว้ในถุงพลาสติกใส ชนิดกดปิดดึงเปิด ขนาด 4×6 ซม.น้ำหนักรวมถุง 0.73 กรัม น้ำหนักเฉพาะไอซ์ 0.28 กรัม จำนวน 1 ถุง 4.) ปืนพกสั้น(ประกอบขึ้นเอง) ใช้ยิงกับกระสุน ขนาด .38 ความยาวลำกล้องประมาณ 6 ซม. จำนวน 1 กระบอก 5.) กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 3 นัด 6.) ซองพกหนังสีดำ จำนวน 1 ซอง 7.) เครื่องชั่งดิจิตอล รูปทรงคล้ายกุญแจรีโหมดรถยนต์ จำนวน 2 เครื่อง 8.) กระเป๋าหนังสีน้ำตาล (กระเป๋าสตางค์) จำนวน 1 ใบ 9.) ถุงแบ่ง ขนาด 5×6 ซม. จำนวน 20 ถุง

จากการสอบสวน นายวิศรุตหรือลิป ฯ ให้การรับสารภาพว่าเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตรวจปัสสาวะ ใบรับรองผลการตรวจปัสสาวะจากโรงพยาบาลละแม ที่ 201/68 ลงวันที่ 9 กันยายน 2568 พบสารเมทแอมเฟตามีน จำนวน 1 ฉบับเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า โดยมีอาวุธปืนฯ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ละแม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หนีไม่รอด! หนุ่มหว้านใหญ่ซิ่ง จยย.ชนรถตำรวจ ค้นตัวเจอยาบ้า 200 เม็ด 🚔💊

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 ว่าที่ ร้อยตรี เอกวัฒนา คงคาน้อย นายอำเภอหว้านใหญ่ มอบหมายให้นายหมวดเอกวิชัย ทาธร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำลังพล อส.อ.หว้านใหญ่ ร่วมกับ พ.ต.ท.สนิท ภักดิ์วรรณสิทธิ์ สว.สส.สภ.หว้านใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ได้ออกปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามในพื้นที่ ระหว่างทางพบชายต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้าย

ทะเบียน ขับมาจากบ้านโพธิ์เจริญ มุ่งหน้าไปยังบ้านนามน ท่าทางมีพิรุธคล้ายซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเรียกตรวจ แต่ผู้ต้องหาคือนายยงยุทธ พาลึก อายุ 44 ปี ชาว ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ กลับเร่งเครื่องพยายามหลบหนี ก่อนเสียหลักพุ่งชนรถกระบะราชการตำรวจ สี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน ฎธ 7873 กรุงเทพฯ ที่จอดอยู่ริมถนน ทำให้รถราชการได้รับความเสียหาย และตัวนายยงยุทธกระเด็นตกลงทุ่งนาได้รับบาดเจ็บ

ตรวจค้นในตัวผู้ต้องหาพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน/ยาบ้า) จำนวน 200 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ดำเนินคดี พร้อมนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหว้านใหญ่เพื่อรักษาอาการ ก่อนที่จะนำส่ง พ.ต.ท.พงษ์สักก์ หงษ์เวียง สว.(สอบสวน) ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ด้าน พ.ต.อ.เจด็จ ปรีพูล ผกก.สภ.หว้านใหญ่ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งขยายผลการสืบสวนเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดในพื้นที่ต่อไป

มุกดาหาร #หว้านใหญ่ #ยาบ้า200เม็ด #หนีไม่รอด #ชุดสืบหว้านใหญ่ ////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ ​มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาคที่ 2 พบประชาชน บรรบายพิเศษเรื่อง “ปลูกจิตสำนึกรักความเป็นไทย” รร.สูงเนิน โคราช

แชร์เนื้อหานี้

ในการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ปลูกจิตสำนึกรักความเป็นไทย” เพื่อสร้างจิตสำนึกให้นักเรียนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นชนชาติไทย ความเสียสละของชนชาติไทย และเห็นคุณค่าพื้นแผ่นดินไทย

ในวันอังคารที่ 9 กันยายน 2568 ณ อาคารกตเวที 60 ปี โรงเรียนสูงเนิน เวลา 13.30 น. รับมอบรางวัลนักเรียนเขียนเรียงความและเข้าพบประชาชนที่มาส่งกำลังใจให้แนะนำสิ่งของมอบให้กับ

ท่านรองแม่ทัพ และให้นักเรียนถามคำถามท่านรองแม่ทับเกี่ยวกับชายแดน และมีประชาชนส่งกำลังใจและขอถ่ายรูปกับท่านแม่ทัพและนักเรียนจำนวนมากเข้าขอถ่ายรูปกับท่านแม่ทัพแล้วท่านแม่ทัพยังสอนน้องๆนักเรียนให้รักศาสนาพระมหากษัตริย์

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ทหารได้ป้องกันประเทศชาติและรักษาผืนแผ่นดินนี้ไว้ ให้กับพวกเราได้เรียนหนังสือ ให้กับคุณพ่อ คุณแม่ได้ทำมาค้าขาย พวกเราต้องสามัคคีกัน อย่าทะเลาะกัน

สร้างตัวเอง สร้างประเทศไทย ขอให้มีความรักสามัคคี มีความเคารพต่อบรรพบุรุษ พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ คำสอนของพ่อแม่ พระภิกษุสงฆ์ คำสอนของพระพุทธศาสนา คนนั้นจะเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ประสพผลสำเร็จ

ภาพ/เดชา ชัยวิฑูอนกูล
ข่าว/กันตินันท์ เรืองประโคน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดกิจกรรมสภากาแฟชุมพร พบปะพูดคุย เพื่อร่วมพัฒนาจังหวัดชุมพร

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้(วันที่ 8 กันยายน 2568)จังหวัดชุมพรจัดกิจกรรมสภากาแฟชุมพร นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ร่วมในกิจกรรมสภากาแฟชุมพร

ณ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจจังหวัดชุมพร (สวนผึ้ง) ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จัด

โดยหน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร สภากาแฟ ชุมพร ครั้งที่ 9/2568

มีผู้เข้าร่วม คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนในพื้นที่ ได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

และสร้างความสัมพันธ์อันดีร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาจังหวัดชุมพรในด้านต่างๆ

กระทรวงเกษตรฯ ชุมพร เป็นเจ้าภาพ “สภากาแฟ” จิบกาแฟ และรับประทานอาหารว่างยามเช้า พร้อมกับพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน สำหรับกิจกรรมสภากาแฟชุมพร

จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้จักซึ่งกันและกัน ระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานราชการในจังหวัดชุมพร

ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสานความร่วมมือ ซึ่งกันและกัน ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ด้วยแนวความคิดที่ต้องการให้หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน รวมไปถึงสื่อมวลชนในพื้นที่ได้พบปะพูดคุยกัน เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์ถึงข้อมูลข่าวสาร

ภารกิจหน้าที่ รวมไปถึงโครงการต่างๆ ให้หน่วยงานอื่นได้รับทราบ เพื่อง่ายต่อการประสานความร่วมมือ

ต่อมา ตัวแทน หน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร ส่งมอบ ป้ายสัญลักษณ์ ถ้วยกาแฟ ให้กับผู้แทน

หน่วยงาน สังกัด กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 10/2568 ต่อไป

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประเสริฐ เปิดงานเทกระจาด อ.สีคิ้ว โคราช/รถระเบิด เด็ก 3 ขวบ ถูกไฟคลอกดับ !

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 เวลา9.30 น. ณ อำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดงานเทกระจาดประจำปี 2568

ณ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมี นายพัชร จันทรรวงทอง สส. อ.สีคิ้ว เขต 12 จังหวัดนครราชสีมา นายสานิตย์ สินทวี นายอำเภอสีคิ้ว ผู้กำกับ สภ. สีคิ้ว และคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อเจ้าพระยาสีคิ้วชุดที่ 5 ร่วมกัน จัดงานในครั้งนี้

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอสีคิ้ว มีเด็กและผู้สูงอายุผู้พิการเข้ารับข้าวสารพร้อมกับของแจก และประชาชนอีกประมาณ 5000 ชีวิตที่ เดินทางมาร่วมในงานเทกระจาดในครั้งนี้เป็นงานประจำปีของมูลนิธิสีคิ้ว

ผมในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน ขอให้กำลังใจพี่น้องทุกคน ในปี 2568 และปีต่อๆไป อ.สีคิ้วของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง วันนี่ มีพี่น้องมาร่วมงานประมาณ 5000 คน

มาแจกข้าวสารอาหารแห้ง ประชาชน ถือว่าเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่พี่น้องประชาชน โดยได้รับความร่วมมือจากทุกองค์กร ได้มีส่วนร่วมสนับสนุน ข้าวสาร อาหารแห้ง

ภาพ/วิชัย เฉิดเมืองปัก
ข่าว/กันตินันท์ เรืองประโคน

รถระเบิด เด็ก 3 ขวบ ถูกไฟคลอกดับ !

วันที่ 8 กันยายน 68 เวลา 09.10น. รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์มีผู้เสียชีวิต จุดเกิดเหตุที่ บ้านน้อย5 หมู่ 5 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา รับแจ้งมาทั้งหมด 5 คน เป็นรถเก๋งเชฟ สี ดำ ทะเบียน งน 9562 นครราชสีมาในรถมีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นเด็กน้อย อายุ 3 ขวบ ร่างถูกไฟเผาไหม้ทั้งตัว

จากการสอบถามเบื้องต้น กลุ่มคนไปหาเห็ดได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จำนวน 4 ครั้ง จึงเดินกลับมาดูที่รถ พบว่ายางรถระเบิดและเกิดเหตุเพลิงไหม้โดยมี เด็ก อายุ3 ขวบ นอนหลับภายในตัวรถ ซึ่งไม่ได้ล็อค แต่ดับเครื่องยนต์ไว้ และกลุ่มบุคคลที่มาหาเห็ด ให้การช่วยเหลือดับไฟ แต่ เพลิงได้โหมกระหน่ำขึ้น ทำให้ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ติดภายในยานพาหนะได้ทันท่วงที จึงเกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้น

จึงประสาน รถดับเพลิง อบต.ห้วยบง และ หินดาด เข้าให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้ง เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หินดาด,ห้วยบงอย่างไรก็ตามทางเจ้าพนักงานตำรวจจะดำเนินการสอบสวนสาเหตุการเกิดเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขณะนี้รอทีม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และทีมแพทย์ ยืนยันการเสียชีวิต / ร.ต.อ วินัย สุขภิรมย์ ร้อยเวร สภ.หินดาดขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิตด้วยนะครับขอบคุณข้อมูล จากอาสาสมัครกู้ชีพ ตำบลหินดาด และ รชต รชต

ภาพ/วินัย เฉิดเมืองปัก
ข่าว/กันตินันท์ เรืองประโคน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ดงหลวงสะเทือน! ฝ่ายปกครองจับข้าราชการท้องถิ่นพร้อมเมียเสพยาบ้า

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 นายพิเชษฐ์ ศรีมารุต นายอำเภอดงหลวง (ผอ.ศป.ปส.อ.ดงหลวง) สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอดงหลวง

ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ ตำบลชะโนดน้อย อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร

ผลการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางสาวรุ่งนภา คำมุงคุณ อายุ 45 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2 เม็ด โดยเบื้องต้นตรวจพบว่าเป็นผู้เสพและครอบครองยาเสพติด

ทั้งนี้จากการขยายผลตรวจปัสสาวะของนายธนวัฒน์ คำมุงคุณ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการสังกัดเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งในอำเภอดงหลวง ดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผน พบผลตรวจเป็นบวก

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งสองรายนำมาสอบสวนเพื่อขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ยาเสพติด #มุกดาหาร #ดงหลวง #ข่าวด่วน #ปราบปรามยาเสพติด

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดการอบรมอาสาสมัครนำเที่ยวท้องถิ่น รุ่นที่ 1 เสริมศักยภาพต้อนรับเทศกาล Green Season ปลายฝนต้นหนาว

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 8 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ บึงงามรีสอร์ท อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ นายณรงค์ศักดิ์ คุรุพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ กล่าวต้อนรับอาสาสมัครนำเที่ยวท้องถิ่นที่เดินทางมารายงานตัวเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาคการท่องเที่ยวและบริการ อาสาสมัครนำเที่ยวท้องถิ่น รุ่นที่ 1 ภายใต้งบประมาณสนับสนุนตามแผนพัฒนาจังหวัดบึงกาฬ และนโยบายของนายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวชุมชนและการท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้มีคุณภาพและยั่งยืน

ต่อมาในเวลา 13.00 น. นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมอย่างเป็นทางการ พร้อมกล่าวว่า “การจัดอบรมในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นต่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดี สามารถดูแลและต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีมาตรฐาน พร้อมทั้งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่จังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬที่ต้องการยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การท่องเที่ยวบึงกาฬเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

  1. พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารจัดการและการบริการตามมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย
  2. เสริมสร้างทักษะอาชีพและความสามารถในการออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลายและสร้างสรรค์
  3. ส่งเสริมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว

การอบรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 10 กันยายน 2568 ณ บึงงามรีสอร์ท อำเภอบึงโขงหลง โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 60 คน ประกอบด้วยผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ อาทิ ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร การเป็นมัคคุเทศก์ที่มีคุณภาพ การตลาดเพื่อการท่องเที่ยว และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬให้สามารถแข่งขันได้ในระดับประเทศ

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ รายงาน