เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ร.พ.น่านจัดกิจกรรม“ รพ.พบสื่อมวลชน” ประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชน ใช้บริการเชื่อมั่น ทางการแพทย์ 19/03/2568 | 151 |

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์การแพทย์รัตนนันทเวช อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลน่าน โดยมีนพ.ณัฐธร ดาราพงศ์สถาพร รองผู้อำนวยการด้านโครงสร้างสิ่งแวดล้อมและพลังงาน นำคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานศูนย์การแพทย์ รัตนนันทเวช โรงพยาบาลน่าน มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพคนในพื้นที่จังหวัดน่าน และพื้นที่ข้างเคียง ได้เริ่มต้นโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 โดยผู้บริหารของธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับคณะผู้บริหารโรงพยาบาลน่าน เล็งเห็นถึงข้อจำกัดของพื้นที่หน่วยงานอุบัติเหตุฉุกเฉิน และโอกาสในการพัฒนาจึงมีแนวคิดให้ปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัย รองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น

จึงได้จัดหางบประมาณจำนวน 1,400 ล้านบาท เข้ามาสนับสนุนในการพัฒนาศักยภาพของศูนย์การแพทย์ รัตนนันทเวช โรงพยาบาลน่าน ออกแบบให้เข้ากับสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อม นำเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ คงความเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมทางภาคเหนือ โดยเลือกใช้สถาปัตยกรรมล้านนา ผสมผสานกับการใช้วัสดุสมัยใหม่ ออกแบบพื้นที่สีเขียวระหว่างอาคาร เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้ใช้บริการรู้สึกผ่อนคลาย รวมถึงนำเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานมาประยุกต์ใช้ในอาคารด้วย รูปแบบภายนอกของอาคาร เป็นการนำลวดลายที่อ่อนช้อยของผ้าทอลายน้ำไหล ซึ่งเป็นผ้าทอพื้นถิ่นประจำจังหวัดน่านตกแต่งอยู่ภายนอกอาคาร

โดยจัดสร้างอาคารบริการผู้ป่วยและอาคารจอดรถ ซึ่งประกอบด้วยอาคาร 3 หลังคือ อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน อาคารรังสี และอาคารจอดรถ เป็นศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินครบวงจร ในชั้น 1 เป็นห้องฉุกเฉินที่ได้มาตรฐานโรงพยาบาลชั้นนำ ชั้น 2 ประกอบด้วย หอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมรองรับผู้ป่วยได้ 11 เตียง หอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมประสาท รองรับผู้ป่วยได้ 11 เตียง ชั้น 3 ประกอบด้วยหอผู้ป่วยอุบัติเหตุ รองรับ ผู้ป่วยได้ 32 เตียง ที่พักแพทย์ฝึกหัด ทำให้ใกล้ชิดผู้ป่วยและสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที หน่วยตรวจสอบเวชระเบียน และชั้น 4 ประกอบด้วย ห้องพักแพทย์รวม หรือองค์กรแพทย์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่สามารถเข้าถึงผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินผู้ป่วยผ่าตัดได้ทันทีและห้องประชุมส่วนอาคารจอดรถยนต์ สามารถรองรับรถยนต์จำนวน 301 คัน

ด้านนายแพทย์วสันต์ แก้ววี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน กล่าวว่า โรงพยาบาลน่านได้มีการเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 แบบเต็มรูปแบบโดยการจัดกิจกรรมพบสื่อในวันนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เป็นการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่จะเข้ามารับบริการโรงพยาบาลน่านว่าเรา

พร้อมบริการด้านใดบ้างและระบบการให้บริการที่เปลี่ยนไปและจุดบริการแผนกต่างๆได้ย้ายมาที่ตึกใหม่ ปัจจุบันนี้มีแพทย์เฉพาะทางประมาณ 99 คน และปีหน้าและปีต่อๆไปจะมีแพทย์ที่จบใหม่อีกเป็นจำนวนมาก เพื่อตอบสนองให้การตรวจรักษาบริการประชาชนได้เต็มที่ ทั้งนี้จากการที่โรงพยาบาลน่านต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง

โดยตอนนี้เรามีการพัฒนาเทคนิคการแพทย์เพิ่มมากขึ้นทำให้โรงพยาบาลน่านพร้อมรักษามากขึ้นการส่งต่อผู้ป่วยและผู้ป่วยวิกฤตกรณีฉุกเฉินก็จะน้อยลงซึ่งโรงพยาบาลน่านให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเรายังมีหมอผ่าตัดสมองและโรคภาวะฉุกเฉินโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและโรคหัวใจอุดดันที่ต้องใส่สายสวนหัวใจปัจจุบันเรามีบริการได้ทุกวัน

นอกจากนั้นยังมีการรักษารังสีรักษาในการรักษาโรคมะเร็ง อรทิ การรักษาด้วยการผ่าตัด เคมีบำบัด นอกเหนือจากนั้นทางโรงพยาบาลน่านได้มีความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงให้มีนักศึกษาแพทย์มาเรียนในชั้นปีที่4และกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลน่าน โดยคาดว่าปี 2575 – 2576 โรงพยาบาลน่านจะบัณฑิตแพทย์รุ่นแรก เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและทีมให้การดูแลที่มีองค์ความรู้ที่ทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้หลังจากเปิดเป็นทางการชั้นโถงชั้น1จะได้จัดเป็นนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เป็นโอกาสให้ศิลปินได้นำเสนอผลงานและชื่นชมความงามของศิลปะ เพื่อนำมาใช้ในการเยียวยาทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยที่มาใช้บริการ ได้สุนทรีย์กับงานศิลปะดังกล่าว/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สวนสัตว์นครราชสีมาเปิดตัวลูกมาร่า “Patagonian mara” สัตว์สุดแปลก

แชร์เนื้อหานี้

นายธนชน เคนสิง้ห์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา สวนสัตว์นครราชสีมา ได้เปิดตัวสมากชิกใหม่ ลูก “มาร่า” หรือ พาตาโกเนียนมาร่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเพศ โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงดูได้นำออกมาอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับมาร่าที่อยู่ในการดูแลภายในสวนสัตว์นครราชสีมา

มีจำนวนทั้งหมด 3 ตัว เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว และ ลูกมาร่าที่เกิดใหม่ อีก 1 ตัว ซึ่งตามธรรมชาตินั้น มาร่าพบได้ในแคว้นพาตาโกเนียน ประเทศอาเจนติน่าและประเทศปรากวัย อาศัยอยู่ในบริเวณทุ่งกว้างที่มีพุ่มไม้ขึ้นอยู่กระจัดกระจาย หรือในพื้นที่กึ่งทะเลทราย เป็นสัตว์ฟันแทะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากคาปิบาร่าและบีเวอร์ มีนิสัยอ่อนโยน รักสงบ ออกหากินในเวลากลางวัน โดยจะกินพืช หญ้า ผลไม้ เปลือกไม้ และรากไม้

ด้านนายสัตวแพทย์สุทธิพงศ์ รัตนะ นายสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์นครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับลูกมาร่าได้รับการตรวจสุขภาพ พบว่าสุขภาพแข็งแรงได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อและแม่มาร่าเป็นอย่างดี และสามารถนำออกมาหน้าส่วนแสดงให้น้องๆหนูๆ และนักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักของครอบครัวมาร่า
สำหรับ มาร่า หรือ พาตาโกเนียนมาร่า

นับว่าเข้าข่ายที่จะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากการไล่ล่าสัตว์ของมนุษย์หรือโดนล่าจากสัตว์อื่นๆ เช่น เสือ สุนัขจิ้งจอก และนกล่าเหยื่อ อีกทั้งจากการแข่งกับสัตว์กินพืชชนิดอื่นๆ เพื่อแย่งชิงอาหาร เช่น กระต่ายยุโรป แกะ จึงทำให้พาตาโกเนียนมารามีจำนวนประชากรที่ลดลง เราจึงต้องรณรงค์และอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กองทุนฟื้นฟูฯ จัดสัมมนาภาคเหนือ วางแผนยุทธศาสตร์-เสริมบทบาทอนุกรรมการจังหวัด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จัดโครงการสัมมนาจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด ปีงบประมาณ 2568 และสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรระดับจังหวัด ภาคเหนือ

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนา โดยมีนายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับ

พร้อมด้วยนายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร และคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมกว่า 395 คน เข้าร่วม

นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนดำเนินงานระดับประเทศ โดยแบ่งการสัมมนาออกเป็น 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่น ภาคใต้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคกลาง

ที่จังหวัดเพชรบุรี และภาคเหนือ ที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นเวทีสุดท้ายของโครงการ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้คณะอนุกรรมการฯ มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ตามระเบียบและประกาศที่เกี่ยวข้อง สามารถกำหนดแนวทางดำเนินงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ด้านนายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกมีเกษตรกรเป็นประชากรหลัก โดยมีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรกว่า 270,622 ครัวเรือน พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา

นอกจากนี้ ยังมีองค์กรเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 857 องค์กร และมีสมาชิกขึ้นทะเบียนหนี้สินเพื่อขอรับการแก้ไขปัญหากว่า 10,465 ราย รวมมูลหนี้กว่า 3,088 ล้านบาท ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยให้คณะอนุกรรมการฯ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในโอกาสนี้ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้ดำเนินการมอบเช็คชำระหนี้แทนเกษตรกร จำนวน 6 ราย จาก 6 สหกรณ์ รวมมูลค่ากว่า 5.2 ล้านบาท ช่วยรักษาที่ดินทำกินของเกษตรกรได้รวม 24 ไร่ 2 งาน 22.6 ตารางวา โดยเกษตรกรที่ได้รับการชำระหนี้แทนต่างกล่าวขอบคุณภาครัฐที่ช่วยเหลือและให้โอกาสได้กลับมาประกอบอาชีพต่อไป

การสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนากลไกการบริหารกองทุนฟื้นฟูฯ ระดับจังหวัด เพื่อให้การดำเนินงานมีทิศทางที่ชัดเจนและสามารถช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาหนี้สินได้อย่างเป็นระบบ/บุญยวึ์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยป่าไม้ นายอำเภอเวียงสา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เพื่อหารือแนวทาง ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 พื้นที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน หลังพบว่าปัจจุบันมีจุดความร้อนสะสมแล้ว 1,698 จุด ซึ่ง อำเภอเวียงสา เป็นพื้นที่ที่พบจุดความร้อนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง

ที่ประชุมจึงได้กำหนดมาตรการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหา ได้แก่
✅ นโยบาย “เคาะประตูบ้าน” โดยให้นายอำเภอ ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดเผา
✅ประกาศ “ปิดป่า” จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หากผู้ใดฝ่าฝืนย้ำลงโทษอย่างเด็ดขาด
✅ ตั้ง “ด่านสกัด” ร่วมกับชุมชน บริเวณทางเข้าอุทยานฯ เขตป่า เพื่อตรวจสอบ ควบคุม และป้องกันการลักลอบเผาอย่างเข้มงวด

จังหวัดน่าน ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาหากพบเห็นไฟป่าหรือการลักลอบเผาป่า สามารถแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ทันที เพื่อลดปัญหาไฟป่าและมลพิษทางอากาศ สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิตของทุกคน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.เมืองเชียงใหม่ ขานรับนโยบาย ผบช.ภ.5 เร่งระดมกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า จับกุมผู้ต้องหา 1 คนพร้อมของกลางมูลค่า 2 แสนบาท

แชร์เนื้อหานี้

19 มี.ค. 68 เวลา 16.30 น. สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบุคคลลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในเขตพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้ทำการสืบสวนหาข้อมูลพบว่ามีเป็นจุดที่มีการกักตุนสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สรรพสามิตและเจ้าหน้าที่ศุลกากร บูรณาการกำลัง นำกำลังเข้าตรวจสอบ อพาร์ทเมนต์ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตามที่สายลับได้แจ้ง

พบ นายธีรุตม์ อายุ 26 ปี ที่อยู่ ม.1 ต.ช้างเผือก อ.เมืองจ.เชียงใหม่ กำลังเดินลงมาจากห้องพักและมายืนสูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่บริเวณหน้าสถานที่เกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวให้นายธีรุตม์ฯ ทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่สูบเป็นของผิดกฎหมายและได้สอบถามนายธีรุตม์ฯ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าที่เหลือ นายธีรุตม์ฯ มีท่าทางพิรุธ อาการ ตัวสั่น มือสั่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นพิรุธจึงได้ขอทำการตรวจค้นห้องพักที่นายนาย ธีรุตม์ฯ พักอาศัยซึ่งน่าสงสัยว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าเก็บซุกซ่อนไว้

โดยนายธีรุตม์ฯ ได้พาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปตรวจค้นห้องพักโดยความสมัครใจ ผลการตรวจค้น พบบุหรี่ไฟฟ้าของกลางดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายธีรุตม์ฯ ยอมรับว่าเป็นของตนซึ่งเก็บซ่อนไว้เพื่อรอจำหน่ายให้วัยรุ่นที่ต้องการในชุมชนใกล้เคียงและในเมืองเชียงใหม่

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจยึดไว้ ซึ่งนายธีรุตม์ฯ ให้การรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าของกลางที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดนั้นเป็นของตนจริง และขณะเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมนั้นอยู่ในความครอบครองของตนจริง จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวมาที่ ห้องสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ จัดทำบันทึกการจับกุมไว้เป็นหลักฐานแล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง” ซึ่งนายธีรุตม์ หรือติน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ของกลางที่ตรวจยึด 1.บุหรี่ไฟฟ้าประเภทใช้แล้วทิ้ง 2.หัวบุหรี่ไฟฟ้าประเภทใช้แล้วทิ้ง 3.น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า รวมจำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 1,739 ชิ้น มูลค่าประมาณ 200,000 บาท นำตัวผู้ต้องหาและของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป .

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดเต็ม “เย็นทั่วหล้า รื่นเริง มหาสงกรานต์ 2568” Songkran Fastival Buengkan 2025

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 19 มี.ค.2568เวลา 18.00 น. ที่บริเวณถนนข้าวเม่าริมโขง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ และเทศบาลเมืองบึงกาฬ จัดแถลงข่าว “เย็นทั่วหล้า รื่นเริง มหาสงกรานต์ 2568” Songkran Fastival Buengkan 2025 โดยมีนายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธาน

พร้อมด้วย นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ มีนางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจัดหวัดบึงกาฬ นางสุมิตรา จารุกำเนิดกนก สมาชิกวุฒิสภา นายวาปี เณระสุระ ประธานสภาเทศบาลเมืองบึงกาฬ นายณรงค์ศักดิ์ คุรุพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ นายประชุม จตุเทน ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬนพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ และ พ.ต.อ.อารักษ์ มะสาธานัง รองผบก.ภจว.บึงกาฬ ผู้แทน ผบก.บึงกาฬ ร่วมแถลงข่าว และหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนแขกผู้มีเกียรติร่วมงานแถลงข่าว

นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า สงกรานต์ในประเทศไทยได้รับการประกาศจากองค์การ UNESCO ให้ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ดังนั้นงาน “Songkran Festival Buengkan 2025 เย็นทั่วหล้า รื่นเริง มหาสงกรานต์ 2568”
ในปีนี้จังหวัดบึงกาฬ จะมีขบวนแห่สงกรานต์ยิ่งใหญ่ นำเสนอวิจิตรตระการตา สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม Soft Power ของจังหวัดบึงกาฬ ระหว่างวันที่ 13-16 เม.ย.นี้ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ถึงคุณค่าสาระของประเพณีสงกรานต์ไทย หนุนสร้างพลังสร้างสรรค์ Soft Power ให้สร้างมูลค่าและรายได้กับจังหวัดบึงกาฬ

ด้านนางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีที่2 ที่จัดงานครั้งนี้เพื่อรองรับการกลับบ้านของชาวบึงกาฬ ประชาชนและนักท่องเที่ยวสู่จังหวัดบึงกาฬมากยิ่งขึ้น มีกิจกรรมทางประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นในจังหวัดบึงกาฬ รวมถึงกิจกรรมริ่นเริงมากมาย อาทิ คอนเสริต์หมอลำคณะ “รำไพ แสงทอง” คอนเสิร์ต “ธีร์ เร็กซ์” และคอนเสิร์ต “วงฮันแนว” กลองยาว ชุด “ชุดม่วนซื่นสงกรานต์ เครื่องเล่น สไลเดอร์ สระน้ำ

บ้านลม ปาร์ตี้โฟม อุโมงค์น้ำ เป็นต้น เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ไทยซึ่งทางรัฐบาลให้ความสำคัญในการต่อยอดเพื่อผลักดันไปสู่งานเทศกาลระดับโลก จังหวัดบึงกาฬจึงได้จัดงาน Songkran Festival BuengKan 2025 เย็นทั่วหล้ารื่นเริง มหาสงกรานต์ 2568 อย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีขบวนรถแห่สงกรานต์ทั้ง 24 ชุมชน ในเทศบาลเมืองบึงกาฬ Soft Power ที่จะมานำเสนอเอกลักษณ์ ท้องถิ่นของจังหวัดบึงกาฬ

วันที่ 13 เม.ย. 2568 ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์. ระหว่างวันที่ 13 – 16 เม.ย. 2568 จะมีการเดินทางอย่างคึกคักมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดและจังหวัดอื่น คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนจังหวัดบึงกาฬเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 10,000 คน-และใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านบาท

ขณะที่นายณรงค์ศักดิ์ สุระพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ คาดว่าประชาชนจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ ร่วมหมื่นกว่าคน การจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น ค รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดบึงกาฬอีกด้วย

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล///บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดยิ่งใหญ่! งาน Automation Expo 2025 งานแสดงเทคโนโลยีและโซลูชั่นระบบอัตโนมัติสำหรับภาคการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก/พรรคประชาชนเปิดตัว “นิยม” ว่าที่ผู้สมัคร นายก ทม.หนองปรือ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 19 มี.ค.68 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุช พัทยา จ.ชลบุรี นายสงวน แสงวงศ์กิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เป็นประธานเปิดงาน Automation Expo 2025 งานแสดงเทคโนโลยีและโซลูชั่นระบบอัตโนมัติสำหรับภาคการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม 2568 เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมอนาคต โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์  นายกเมืองพัทยา ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นางสาวกนกพร ดำรงกุล ฝ่ายการตลาดไมซ์ในประเทศ สสปน. และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีเปิด

งาน AUTOMATION EXPO เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและโซลูชั่นระบบอัตโนมัติที่พร้อมสนับสนุนภาคการผลิตยุคใหม่ภายใต้แนวคิด Smart Human for Smart Manufacturing ที่ให้ความสำคัญกับ ‘คน’ ในฐานะทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของธุรกิจ ด้วยการใช้ ‘เทคโนโลยี’

เพื่อยกระดับทุกมิติที่เกี่ยวข้องในงานได้มีการจัดแสดงเทคโนโลยีและอิเล็คโทรนิกส์อัจฉริยะที่ครอบคลุมความต้องการตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำในการผลิตตลอดทั้งซัพพลายเชน เติมเต็มความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐาน CPS และซอฟต์แวร์ตลอดจนแพลตฟอร์มสำหรับการผลิตยุคใหม่ในฐานะเครื่องมือที่สร้างความยั่งยืนและความมั่นคงให้กับธุรกิจ

โดยมีผู้ประกอบการกว่า 130 แบรนด์ชั้นนำจาก 9 หมวดเทคโนโลยีเข้าร่วม ได้แก่ INDUSTRIAL AUTOMATION & ROBOTICS, AUTOMATION & INVESTMENT CONSULTANTS, AUTOMATION SUPPLIES, CONTROL & SUPERVISION, DESIGN & SIMULATION, DIGITAL INFRASTRUCTURE, SMART HUMAN, SMART SENSOR และ FOOD TECHNOLOGY & SOLUTION

นอกจากนี้ในงานยังมีการให้ความรู้และเทรนด์ที่สำคัญของธุรกิจการผลิตด้วยหัวข้อที่ครอบคลุมการแข่งขันในธุรกิจยุคดิจิทัลตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน การบริหารซัพพลายเชน ไปจนถึงการวางแผนและต่อยอดเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการผลิตจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจให้กับผู้ร่วมงานเช่นกัน

พรรคประชาชนเปิดตัว “นิยม” ว่าที่ผู้สมัคร นายก ทม.หนองปรือ และ ว่าที่ผู้สมัคร สท. 3 เขต พร้อมสู้ศึกการเมืองท้องถิ่น

วันที่ 18 มีนาคม 2567 ที่บัวธารารีสอร์ท อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีรายงานว่า พรรคประชาชน ได้แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือ โดยพบว่าบรรยากาศในการแถลงข่าวประชาชน กลุ่มมวลชนต่างให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังกันจนแน่นทั้งนี้หลังได้เวลา นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ รองเลขาธิการพรรคประชาชน นายยอดชาย พึ่งพร สส.เขต 9 พรรคประชาชน ดร.มาย ไชยนิตย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมองหนองปรือ และนายนิยม เที่ยงธรรม ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ ได้ร่วมกันแถลงข่าว

โดยนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ รองเลขาธิการพรรคประชาชน ได้เป็นผู้กล่าวเปิดเวทีแถลงข่าวเปิดตัวคนแรกในนามผู้แทนของพรรคประชาชน พร้อมประกาศชัดเจนว่าพรรคประชาชนได้มีมติส่งนายนิยม เที่ยงธรรม ลงแข่งขันในนามของพรรคประชาชนอย่างเป็นทางการ พร้อมแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวหนองปรือทุกคนที่จะได้คนดีๆ เข้ามาบริหารเทศบาลเมืองหนองปรือ เนื่องจากจากการพูดคุยที่ผ่านมาของคณะกรรมการพรรค พบว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ มีความพร้อม และมีอุดมการณ์เดียวกันกับทางพรรค คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมือง และเห็นว่าประชาชนเป็นส่วนที่สำคัญ นโยบายทุกอย่างนั้นต้องออกมาจากประชาชน ออกมาจากความต้องการของประชาชน ยึดมั่นในการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม ในนามพรรคประชาชน นายนิยมจะเป็นนายกเทศมนตรีอย่างเป็นธรรม ทั่วถึง และเท่าเทียม

จากนั้นนายยอดชาย พึ่งพร สส.พรรคประชาชน เขต 9 ได้กล่าวว่า ส่วนตัวได้เจอกับ นายนิยมมานาน และได้เคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านการเมือง ซึ่งก็พบว่าเป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ที่ดี ให้เกียรติทุกคน และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความต้องการของตัวเองออกมา พอได้พูดคุยเรื่องของนโยบายก็พบว่ามีแนวทางเดียวกับพรรค คือเห็นความสำคัญของประชาชน ประชาชนสามารถกำหนดทิศทางของการพัฒนาท้องถิ่นได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้เรื่องการศึกษาก็สำคัญ นักเรียนที่จบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในเขตเมืองหนองปรือจะต้องมีที่เรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางพรรคได้เร่งเดินหน้าดำเนินการในสมัยนี้ ส่วนโรงพยาบาลชุมชนที่ถูกกยุบหรือหายไปก็ต้องมีกลับมาเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลเรื่องของสุขภาพอย่างดี เนื่องจากในพื้นที่เมืองหนองปรือนั้นมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงระบบสุขภาพที่ดี พร้อมจับมือร่วมกันปักธงสีส้มในพื้นที่เมืองหนองปรือให้ได้ และมีจุดหมายเดียวกัน จากเทศบาลเมืองหนองปรือ ให้เป็นเทศบาลนครหนองปรือในอนาคต และขอฝากประชานในพื้นที่ร่วมกันปักธงสีส้มในพื้นที่หนองปรือ จาก 1 ขอเป็น 10 และจาก 10 ขอเป็น 100

ขณะที่ ดร.มาย ไชยนิตย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ กล่าวว่า ตลอดระยะการทำงานด้านการเมืองกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวและทีมงานได้ร่วมกันฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคต่างๆเพื่อยกระดับเทศบาลเมืองหนองปรือให้น่าอยู่ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ได้พุดคุยกับทางด้าน สส.ยอดชาย ว่าเราจะพัฒนาเมืองหนองปรือให้เป็นไปในทิศทางไหน ตลอดเวลาที่ผ่านมาพบว่ามีการใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จในการบริหารเทศบาล ไม่ได้ใช้การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ด้านระบบการศึกษา ระบบสาธารณสุข ระบบสาธารณูปโภค ก็ยังรอคอยการพัฒนา ฝเราต้องเอาความต้องการของประชาชนเป็นโจทย์ แล้วนำมาแก้ไข หลายคนสงสัยว่าทำไมกลุ่มเรารักษ์หนองปรือถึงรวมกับพรรคประชาชนได้ ตรงนี้ต้องชี้แจงว่าเมื่อความคิดตรงกัน การเชื่อมโยงผสมผสานก็เกิดขึ้น มีความเห็นตรงกันในแนวความคิด จึงเกิดการรวมกันเพื่อเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด 4 ปีที่ผ่านมาทำให้ประชาชนมองเห็นแล้วว่า ความคาดหวังไม่มี เกิดการผิดหวังกับการพัฒนาที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม จากโครงสร้างเมืองหนองปรือที่พบว่าได้ถูกพัฒนาอย่างเข้มแข็ง แต่กลับไม่ได้รับความใส่ใจ ดูแล ทั้งหมดนี้รับรู้ได้จากการพูดคุยกับพี่น้องประชาชน และจากนี้ไป 4 ปี ข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น เมืองหนองปรือจะต้องเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนที่มีความสุข

ด้านนายนิยม เที่ยงธรรม ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ พรรคประชาชน กล่าวว่า การเข้ามาในครั้งนี้ ต้องการที่จะเข้ามาเปลี่ยนเมืองหนองปรือให้มีความน่าอยู่ มีการกระจายอำนาจให้กับประชาชน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เน้นการทำงาน 3 จริง ประกอบไปด้วย ลงพื้นที่จริง , รับฟังปัญหาจริง และ อยู่ในสถานการณ์จริง ทั้งนี้หากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน สิ่งที่จะทำอย่างแรกคือการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมและรับรู้ในการประชุมสภา ด้วยการจัดให้มีการถ่ายทอดสดในการประชุมสภาทุกครั้ง ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกอย่าง คืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการเพิ่มชุมชนให้เป็น 50 ชุมชน เพื่อที่จะได้รับการพัฒนาได้อย่างเข้าถึงทุกจุด ทุกพื้นที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม พร้อมส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนด้วยการเพิ่มโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลขนาดเล็ก 5-10 เตียยงในพื้นที่ ให้ประชาชนได้รับการดูแลด้านสุขภาพได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องไปกระจุกตัวที่โรงพยาบาลของรัฐ และต้องเดินทางไปใช้บริการได้สะดวกขึ้น ด้านการศึกษา 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าประชาชนต้องพบกับความผิดหวัง ที่ปัจจุบันยังคงไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาลเมืองหนองปรือ ซึ่งจริงๆ แล้ว 4 ปีในต้องมีความคืบหน้าเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่เห็น แต่ถ้าหากได้รับความวางใจจากพี่น้องประชาชนให้เข้าไปทำหน้าที่ โรงเรียนมัธยมศึกษาเมืองหนองปรือจะต้องมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ เนื่องจากเป็นผู้ริเริ่มและผลักดันให้เกิดโรงเรียนมัธยมเมืองหนองปรือขึ้นมาในสมัยแรกๆ ซึ่งการดำเนินการสร้างโรงเรียนมัธยมก็สามารถทำได้เพียงจะต้องอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานของรัฐ เข้ามาร่วมในการผลักดัน โดยสามารถประสานงานร่วมกับ สส. ในพื้นที่จากพรรคประชาชน ซึ่งมี สส.ยอดชายในการเป็นสื่อกลางในการประสานงาน ประสานงบประมาณ ประสานกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ ส่วนกลางในการผลักดันงบประมาณเข้ามาพัฒนาท้องถิ่น

หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จสิ้น ได้มีการเปิดตัวสมาชิก 3 เขต ครบทั้ง 18 คน ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ๆ ที่มีดีกรีไม่ธรรมดา อาทิ อดีตข้าราชการระดับสูง , อดีตประธานชุมชน , คหบดีในพื้นที่เมืองหนองปรือ , อดีต สท.เมืองหนองปรือ ที่พร้อมทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน จากนั้นได้ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามลำดับ ทั้งนี้หลังถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเสร็ตสิ้นด้าน สส.เขต 9 นายยอดชาย พึ่งพร ยังได้ทิ้งท้ายว่า มีความเป็นไปได้ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเดินทางมาร่วมหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรค และมีแนวโน้มว่าจะเดินทางพบปะพี่น้องอย่างใกล้ชิดเพื่อขอคะแนนเสียงให้กับลูกพรรคด้วย

SNS เครือสหพัฒน์ ผนึก J-PARK ศรีราชา และ IWG เปิด Regus สำนักงานให้เช่าครบวงจร ตอบรับลงทุนต่างชาติขยายตัว

นายประเมศฐ์ ฤทธิพรพสิษฐ์ กรรมการ บริษัท ซินเนอร์จี้ สเปซเซส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า SNS ดำเนินธุรกิจในการเป็นผู้สร้างเครือข่ายสำนักงานคุณภาพสูงและเน้นการเติบโตทางธุรกิจโดยร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในหลากหลายด้าน ล่าสุดได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตร Regus (รีจัส) ผู้ให้บริการ Hybrid Flexible Workspace ชั้นนำของโลกเข้ามาเป็นพันธมิตรในโครงการ “เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ” (J-Park Nihon Mura) ในเฟส 2 New Town Zone ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

จุดเด่นของ รีจัส เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ (Regus J-Park Nihon Mura) มาจากการผสมผสานระหว่างสภาพแวดล้อมการทำงานระดับมืออาชีพที่อยู่ท่ามกลาง Community Mall ที่สะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยออกแบบพื้นที่ออฟฟิศที่มีความยืดหยุน เหมาะกับธุรกิจหลากหลายขนาด โดยห้องไพรเวทเริ่มต้นจาก 2 ที่นั่ง และสูงสุด 8 ที่นั่ง รองรับการใช้งานของภาคธุรกิจได้มากถึง 120 ที่นั่งในพื้นที่ขนาด 555 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลาง บิสซิเนส เล้าจ์ (Business Lounge) เจ้าหน้าที่ต้อนรับ และห้องประชุมที่สะดวกและอุปกรณ์ครบครัน

ด้าน นายทินกร บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI กล่าวว่า J-Park Nihon Mura เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก วิถีชีวิตและวัฒนธรมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ โดยมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน และการใช้ชีวิตของชุมชนชาวญี่ปุ่น และนานาชาติที่อาศัยและทำงานอยู่ในศรีราชา และการที่ SNS เลือก J-Park เป็นสาขาแรกในการเปิด รีจัส เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมมือกันที่จะสร้างประสบการณ์การทำงานที่มีคุณภาพสูง ท่ามกลางไลฟ์สไตล์ที่ครบครันบรรยากาศญี่ปุ่นซึ่งจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ของผู้ใช้งานออฟฟิศแห่งนี้และช่วยส่งเสริมธุรกิจและคุณภาพชีวิตของผู้ที่เข้ามาใช้บริการต่อไป

นายธิติวัฒน์ ธนาพรนิธินันท์ Country Manager IWG ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบยืดหยุ่น (Flexible Workspace) หรือเวิร์คสเปซภายใต้ แบรนด์ Regus กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าที่สนใจเข้ามาใช้บริการ ได้แก่ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือแหลมฉบัง, บริษัทที่ต้องการเปิดสาขาย่อยในพื้นที่อุตสาหกรรมศรีราชาและบริษัทที่มองหาสำนักงานในเขตพื้นที่อีอีซี ซึ่งเชื่อมต่อ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา รวมถึงรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งแนวโน้มพื้นที่เช่าในปี 2568 สามารถทำอัตราการเช่า (Occupancy) ได้ถึง 30% ก่อนการเปิดตัวในวันที่ 1 มีนาคมที่ผานมา และคาดว่าในปี 2569 จะสามารถเพิ่มอัตราการเช่าได้ถึง 80% ซึ่งสอดรับแนวโน้มการขยายตัวของบริษัทต่างชาติในพื้นที่ภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่ดีอย่างต่อเนื่องเป้าหมายในการขยายธุรกิจพื้นที่ถัดไปของ SNS คือการสร้างเครือข่ายสำนักงานคุณภาพสูงที่จะตอบสนองความต้องการของมืออาชีพในธุรกิจหลากหลายขนาดและรูปแบบ อาทิ โปรเจกต์ใหม่ “Spaces” ที่คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานให้เช่า ระดับ Iconic Grade A ที่สูงที่สุดในย่านพระราม 3 ที่เตรียมเปิดตัววันที่ 1 เมษายน 2568 นี้” นายประเมศฐ์ ฤทธิพรพสิษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

รีจัส เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ (Regus J-Park Nihon Mura) มุ่งเน้นสร้างพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการและนักธุรกิจ ด้วยมาตรฐานสากล สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สะดวกสบายไปกับร้านค้า ร้านอาหารที่หลากหลายในพื้นที่ J-Park ที่จะช่วยส่งเสริมประสบการณ์การทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด IWG ที่ Regus เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการ Service Office ระดับโลก โดยเปิดให้บริการ 4,000 แห่ง, 1,200 เมือง, 150 ประเทศทั่วโลก ทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการสถานที่อื่นๆ ในเครือได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการ

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กกล. สุรศักดิ์มนตรี มุกดาหาร จับสินค้าหนีภาษี ข้ามโขง 35 รายการ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568​ ร.ต.กฤษดา มุลมาตย์ ผบ.มว.สกัดกั้นฯ ที่ 1 กองกำลังสุรศักดนตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีผู้ลักลอบนำสินค้านำเข้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรเข้าไปยังพื้นที่ตอนใน จึงได้จัดกำลังออกเฝ้าตรวจร่วมกับ เจ้าหน้าที่ศุลกากรมุกดาหาร , ร้อย.ฉก.ทพ.2105 และ สำนักข่าว กอ.รมน., บริเวณพื้นที่ บ.หนองผือ ม.6 ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร

จนกระทั้งเวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีรถกระบะตรงตามรายละเอียดที่แจ้งไว้วิ่งเข้ามาบริเวณที่เจ้าหน้าที่ซุ่มอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวให้สัญญาณหยุดรถ ขอตรวจค้น ผลตรวจค้นพบอาหารเสริม , ยาสามัญประจำบ้าน, สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ฯลฯ จึงได้ควบคุมนายคมคิด อุทาวงค์ (เบิร์ด) อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 หมู่ 5 ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร คนขับรถ พร้อมด้วยของกลางจำนวน 35 รายการ

ประกอบด้วย 1. นมผงยี่ห้อ FALIGOLD จำนวน 150 ลัง, ลังละ 24 กระปุก รวม 3,600 กระปุก 2. ตะกร้าหวาย ขนาด 20×10 ซม. จำนวน 720 ชิ้น 3. เคสคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 ชิ้น 4. เครื่องล้างขวดนม จำนวน 4 เครื่อง 5. ไฟ LED จำนวน 200 ชิ้น 6. สายฉีดชำระ จำนวน 12 ชุด

7. เส้นด้าย จำนวน 5 ลัง ลังละ 5 กก. รวม 25 กก.​ 8. รองเท้าสตรี (ไม่มียี่ห้อ) จำนวน 7 คู่ 9. กาวติดขนตา จำนวน 355 ซอง 10. ขนตาปลอม (ไม่มียี่ห้อ) จำนวน 370 ชิ้น 11. ยาแก้หวัดยี่ห้อ CEDIPECT 562 กระปุก 12. ยาแก้ไอยี่ห้อ AECTALVICCODEIN จำนวน 100 กล่อง, กล่องละ 10 แผง, แผงละ 10 เม็ด

13. อาหารเสริมยี่ห้อ HUNASOY WHISSKIN PLUS 6 กล่อ 14. กระเป๋าถือสตรียี่ห้อ LOUIS VITLONG จำนวน 8 ใบ 15. กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อ GOYARD 1 ใบ 16. รองเท้าสตรียี่ห้อ PRADA จำนวน 1 คู่ 17. รองเท้าสตรียี่ห้อ JIMMYCHOO จำนวน 1 คู่ 18. กระเป๋าถือสตรียี่ห้อ MICHAEL KORS จำนวน 2 ใบ 19. กระเป๋าขาดอกยี่ห้อ อามานี จำนวน 1 ใบ 20. กระเป๋าขาดอกยี่ห้อ CALUH KLEH จำนวน 1 ใบ 21. กระเป๋าขาดอกยี่ห้อ PRADA จำนวน 1 ใบ 22. กระเป๋าสะพายสตรียี่ห้อ CHANEL จำนวน 1 ใบ 23. กระเป๋าถือสตรียี่ห้อ DIOR จำนวน 1 ใบ 24.

กระเป๋าถือสตรียี่ห้อ GOYARD จำนวน 4 ใบ 25. กระเป๋าถือสตรียี่ห้อ MICHAEL KORS จำนวน 5 ใบ 26. กระเป๋าสะพายสตรียี่ห้อ GUCCI จำนวน 1 ใบ 27. อาหารเสริมยี่ห้อ COLOSLG GOLD จำนวน 18 กระป๋อง 28. อาหารเสริมยี่ห้อ TRUEMOM จำนวน 12 กระป๋อง 29. รองเท้าสตรี (ไม่มียี่ห้อ) จำนวน 24 คู่ 30. เสื้อผ้าแฟชั่น (ไม่มียี่ห้อ) จำนวน 60 ตัว

31. อะไหล่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA จำนวน 55 ชิ้น 32. กรองอากาศรถจักรยานยนต์ (ไม่มียี่ห้อ) จำนวน 4 ชิ้น 33. สายพานรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ชิ้น 34. อะไหล่เครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 ชิ้น 35. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA HILUX REVO สีขาว ทะเบียน บท 6331 มุกดาหาร
นำส่ง เจ้าหน้าที่ศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดการประกวดส้มตำลีลาโดยผลการประกวดประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 17 มีนาคม 2568 เวลา 1600 น. นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ เป็นประธานในพิธี จัดการประกวดส้มตำลีลาโดยผลการประกวดประจำปี 2568 มีดังนี้รางวัลชนะเลิศ ได้แก่

ทีมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเขียด รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีมองค์การบริหารส่วนตำบลนาหนองทุ่ม รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม องค์การบริหารส่วนตำบลไชยสอ รางวัลชมเชย ได้แก่

ทีมองค์การบริหารส่วนตำบลโนนอุดม ทีมองค์การบริหารส่วนตำบลชุมแพ ทีม องค์การบริหารส่วนตำบลโนนหัน ทีมเทศบาลตำบลหนองไผ่ ทีมเทศบาลตำบลหนองเสาเล้า ทีมองค์การบริหารส่วนตำบลวังหินลาด ทีมเทศบาลตำบลโนนหันทีมเทศบาลตำบลนาเพียง ทีมเทศบาลตำบลโนนสะอาด ทีมเทศบาลตำบลโคกสูงสัมพันธ์

ณ ลานเวทีวัฒนธรรม ในงานกาชาดประจำปี รวมของดีเมืองชุมแพ ประจำปี 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในท้องที่อำเภอชุมแพ และท้องถิ่นร่วมงานจำนวนมาก เช่น นายนคร สุพรรณ์ ปลัดอำเภอ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ

นายกิจทวี มาเพ็ชร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเขียด นางสาวสุภามาศ แก้วดวงดี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเขียด นางสุภานันท์ เมืองสอน กำนันตำบลโนนหัน นางสาวสมิตา สิมสวน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเขียด นางสาวจริยาภรณ์ นามนัย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเขียด

วินนิวส์สื่อรัฐทีวีขอนแก่น

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ ศ 2568 เวลา 13.00 น วัดโพธิ์ศรี บ้านร่องแซง อำเภอชุมแพ นายสำราญ ศรีภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขต 3 อำเภอชุมแพ เป็นประธานในพิธีฌาปณกิจศพแม่สมบูรณ์ ศ.เรืองญาณ โดยมีผู้เข้าร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก เช่น นาย​ สุทธิ​รักษ์​ เมือง​สอน​ นายก​เทศมนตรี​เทศบาล​ตำบล​โนน​หัน​ นาย​ ภสุ​ โคตร​ศรี​ รองนายก​เทศมนตรี​ นาย​ ประจวบ​ ดี​บุญ​มี​ ณ.ชุมแพ​ รองนายก​เทศมนตรี​ พร้อม​คณะ​ผู้บริหาร​ นาย​ ศิริ​ชัย​ บุตร​จันทร์​ ประธาน​สภา​เทศบาล​ตำบล​โนน​หัน​ พร้อมสมาชิก​สภา​เทศบาล​ตำบล​โนน​หัน​ ผ.อ.สวิต คำผา พร้อมผู้นำท้องที่และท้องถิ่น

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ประจวบคีรีขันธ์ _ ไลน์ ทรานสปอร์ต กับมาตรฐาน “Q Mark” การันตี 8 ปีต่อเนื่อง

แชร์เนื้อหานี้

นายอุดม สดใส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลน์ ทรานสปอร์ต จำกัด (LINE) ในฐานะผู้บริหารธุรกิจโลจิสติกส์-ขนส่งทางบก ภายใต้ SVL Group พร้อมทีมงาน ได้ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญจาก บริษัท ทีพีเอส คอนซัลแทนท์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจากกรมการขนส่งทางบก ได้แก่ ผศ.ดร.ทัศนีย์ สิราริยกุล นายสุรชัย ขันธมิตร และนายทรงยศ รัตนภวนนท์ ในการเข้าตรวจประเมินการรับรอง “Q Mark” ประจำปี 2568 หรือมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก ซึ่งกำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก ในปี พ.ศ.2552 เพื่อยกระดับการบริการขนส่งสินค้าทางถนนในประเทศไทย

โดยครอบคลุมผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้รถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป การประเมินครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ องค์กร การปฏิบัติการขนส่ง พนักงาน ยานพาหนะ และลูกค้า สรุปผลคือ บริษัท ไลน์ ทรานสปอร์ต จำกัด ผ่านการประเมินมาตรฐาน Q Mark ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 และเตรียมรับตราสัญลักษณ์จากกรมการขนส่งทางบก โดยการตรวจประเมินล่าสุด ณ พื้นที่บริการ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี- สื่อรัฐนิวส์ / พ่อเมืองน่าน ส่งกำลังใจทัพนักกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์”

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่ หอประชุม 84 ปี โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานพิธีส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ณ จังหวัดชลบุรี

โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดน่าน นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ตลอดจนเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยจังหวัดน่านได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2568 และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 7 “ข้าวหลามเกมส์”

ระหว่างวันที่ 20 – 26 เมษายน 2568 ณ จังหวัดชลบุรี รวมนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและกรรมการผู้ตัดสิน จำนวน 358 คน ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการรักษาสุขภาพส่งเสริมให้ห่างไกลยาเสพติดตลอดจนสร้างน้ำใจนักกีฬาและความสามัคคี

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ขอให้นักกีฬา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เข้าร่วมการแข่งขันด้วยความถูกต้องตามกฎกติกา มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ตลอดจนขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดลบันดาลให้ทุกท่าน ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน นำชื่อเสือเสียงมาสู่จังหวัดน่านของเราและขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ/บุญยงค์ิสดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน