เรื่องทั้งหมดโดย admin

” จากเหนือ.. สู่อีสาน ” ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมอุปกรณ์ รถยกสูง 4×4 รถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ โรงครัวเคลื่อนที่ ลุยพื้นที่จังหวัดหนองคาย

แชร์เนื้อหานี้


ตามที่สถานการณ์น้ำท่วมบางพื้นที่จังหวัดเชียงรายเริ่มคลี่คลาย ประจวบกับได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดหนองคาย เมื่อวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวรพจน์ จรัสเศรษฐสิริ รักษาการผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ นำทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมเรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ รถยกสูง 4×4 รถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ โรงครัวเคลื่อนที่ ถุงยังชีพ ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว เคลื่อนกำลังพลออกจากเชียงราย ไปยังจังหวัดหนองคาย โดยขณะนี้ได้จัดตั้งกองอำนวยการ และโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุก ณ วัดท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย


เมื่อถึงพื้นที่ประสบภัย มูลนิธิฯ ได้จัดทีมปฏิบัติการเร่งสำรวจพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือในทันที รวมถึงอพยพประชาชน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยมี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิฯ จุดต่างๆ อาสาสมัครศิลปิน นำโดย นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น) พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ และ หน่วยกู้ภัยจีตัมเกาะอุบลราชธานี ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ และในขณะนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังคงอยู่ระหว่างปฏิบัติการภารกิจอพยพในพื้นที่ต่อเนื่อง รวมทั้งประกอบอาหารปรุงสุก พร้อมจัดเตรียมน้ำดื่ม และถุงยังชีพ เพื่อบรรทุกรถและเรือ ลงพื้นที่แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป


มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม หรือติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

แถลงข่าวเทศกาลภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เฟสติวัล (KTIFF)ในบทบาทใหม่ของวัฒนธรรมจีน-ไทย

แชร์เนื้อหานี้


ณ กรุงเทพมหานคร วันที่ 12 กันยายน 2567 วันนี้ เวลา 13:30 น. ตามเวลากรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเทศกาลภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เฟสติวัลขึ้นอย่างเป็นทางการและยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยงานเทศกาลภาพยนตร์นี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และภาคเอกชนจากทางสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศไทย ทั้งนี้ทาง KTIFF ได้ร่วมกันหาแนวทางให้เกิดประโยชน์สูงสุดระหว่างจีนและไทยจากทุกภาคส่วน อย่างเช่น ท่านยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม,ท่านวรรณสิริ โมรากุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ต่างประเทศและอดีตอธิบดีกรมการท่องเที่ยว, ท่านนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านการสื่อสารการตลาดกรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,ท่าน ดร.เกสี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และท่าน ผศ. มานินทร์ เจริญลาภ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ก่อตั้ง KTIFFMs. Huang Ruoling จากประเทศไทย และ Mr. Liu Kai จากประเทศจีน


งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในประเทศไทย ครั้งนี้มีผู้สนับสนุนจากจีนและไทยเข้าร่วมอย่างคับคั่ง โดยจีนและไทยได้ก้าวไปสู่การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมภาพยนตร์ครั้งใหม่ที่สำคัญ งานแถลงข่าวจึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันและความเจริญรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ผ่านสะพานสานสัมพันธ์ งานแถลงข่าวได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ในงานแถลงข่าว คนดังจากวงการบันเทิง วงการภาพยนตร์ นักข่าว สื่อมวลชน และแขกจากทุกสาขาอาชีพจากประเทศจีนและไทยมารวมตัวกันเพื่อเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวงานเทศกาลอินเตอร์เนชั่นเนล ไทยแลนด์ เฟสติวัล และในงานได้มีการกล่าวปาฐกถาสำคัญในหัวข้อ “ความร่วมมือแบบ win-win ระหว่างผู้ประกอบการและนายทุนในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ” จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์โดยตรง เช่น ท่านวรรณสิริ โมรากุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ต่างประเทศและอดีตอธิบดีกรมการท่องเที่ยว คุณเทา มินฮัน ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จาก Shanghai Theatre Academy ท่าน Mr.Kai Liu ผู้บริหาร Tailin Film and Television Culture และผู้ก่อตั้ง KTIFF ท่าน Ms. Huang Ruoling ผู้ก่อตั้งบริษัท HOYA International Entertainment นักลงทุนจากจีน เช่น FB Culture Communication Co. , Ltd., China Mobile Games & Interactive Entertainment Group,China Mobile Games & Interactive Entertainment Group,Founder of FB Culture Communication Co. , Ltd.และ CEO BAI BINGBING

กล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยมาก และเป็นประเทศที่น่าลงทุนพัฒนาในอนาคตหวังว่ามีโอกาสได้ร่วมมือกันพัฒนาประเทศไทยจากโครงการ KTIFF ผมหวังว่าในอนาคตเกมส์คริปต์ได้สามารถนำความบันเทิงเข้ามาให้กับคนหนุ่มสาวในไทยและเป็นอีกหนึ่งความสุขที่จะได้มาร่วมกับคนไทย ผู้กำกับไทย เช่น คุณนนทกร ทวีสุข คุณธนาวุฒิ เกสโร และคุณบัณฑิต ทองดี ผู้ประสานงานกองถ่ายภาพยนตร์ไทย – จีน คุณพรเทพ เจริญเลิศสิริวณิช และตัวแทนสมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ (FSA) คุณศฐาณพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง โดยมีแขกร่วมงานที่เป็นนักแสดงและบุคคลเบื้องหลังที่มีชื่อเสียง อาทิ สีดา พัวพิมล, พัชญา เพียรเสมอ (พีพี), รัน กันต์ธีภพ, เล้ง ณัฐพล, แสตมป์ พรวศิน, อ๊อฟ เอกรินทร์, เพียว ปภาวรรณ, ปาย ชนกันต์, ดร.วโรดม ศิริสุข (ชายแฮ็คส์), ศฐาณพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง, บัณฑิต ทองดี, ธนาวุฒิ เกสโร, รัชดาภรณ์ เกตุเทศ, เจตนิพัทธ์ สาสิงห์, ชาติชาย ศรีบุญเรือง, ธัญลักษณ์ ตระการศิลป์วัฒน์ และแขกรับเชิญในวงการบันเทิงอีกมากมาย โดยสื่อมวลชนมีการถามคำถามเกี่ยวกับการเตรียมตัวสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ กิจกรรมไฮไลท์ และโอกาสความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศ ผู้จัดงานตอบคำถามของนักข่าวและระบุว่าพวกเขาจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้เทศกาลภาพยนตร์ประสบความสำเร็จและมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาวัฒนธรรมภาพยนตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ

Ms. Huang จาก HOYA International Entertainment และ Mr. Liu จาก Tailin Film and Television Culture ได้กล่าวเรื่องการก่อตั้ง KTIFF ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่คนในแวดวงภาพยนตร์และโทรทัศน์จากทั้งสองประเทศร่วมกันก่อตั้ง KTIFF ด้วยความรักที่มีต่อประเทศของตนและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างสองประเทศ และหวังว่าจะมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทยในอนาคต ในขณะเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยศรีปทุม และBRI ได้ระบุว่างาน KTIFF จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในสาขาภาพยนตร์ของตนในอนาคต แขกที่มาร่วมงานเห็นพ้องกันว่าภาพยนตร์เป็นเหมือนสื่อกลางทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการสื่อสารทางจิตวิญญาณและการแลกเปลี่ยนทางอารยธรรมระหว่างทั้งสองประเทศ และตัวแทนจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในจีนและไทยได้แสดงความคาดหวังว่าเทศกาลภาพยนตร์นี้ จะมีส่วนช่วยกระชับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งได้ดียิ่งขึ้นในด้านการผลิตภาพยนตร์ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี การขยายตลาด และด้านอื่น ๆ พวกเขาเชื่อว่าด้วยการจัดเทศกาลภาพยนตร์ จะสามารถส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศได้ และนำผลงานภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาสู่ผู้ชมได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

และเป็นที่ทราบกันดีว่า KTIFF นี้จะนำเสนอกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมาย ในช่วงการฉายภาพยนตร์จะมีภาพยนตร์ที่โดดเด่นหลายเรื่องจากประเทศจีน ไทย และประเทศอื่นๆ ครอบคลุมธีมและสไตล์ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ชมได้ชื่นชมเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์และจิตวิญญาณแห่งอุตสาหกรรมของภาพยนตร์ ขณะเดียวกันทั้งสองประเทศยังแสดงสปิริตในการร่วมมือเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมภาพยนตร์จีนและไทย
บทสรุป

ความสำเร็จในการจัดงานแถลงเทศกาลภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เฟสติวัล (KTIFF)ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมภาพยนตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ เราหวังว่าจะใช้เทศกาลภาพยนตร์นี้เพื่อกระชับความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างผู้คนของทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนและไทย ขอให้เราตั้งตารอคอยการมาถึงของกิจกรรมทางวัฒนธรรมนี้ด้วยกันและชมช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของวัฒนธรรมภาพยนตร์จีนและไทย!
Mr. Ho Zaijian ,รองผู้จัดการMAHUA FUN AGE กล่าวว่าเทศการภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นเนลไทยแลนด์เฟสติเวิล(KTIFF) เป็นของขวัญที่สุดสำหรับงานฉลองครบรอบ50ปีกับความสะมพันธ์ทางการทูตไทยจีนโดยไทยเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญสำหรัยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการค้าของทั้งสองประเทศการสนับสนุนที่แข่งแกร่งจากภาครัฐไทยทำให้KTIFF มีโอกาสเป็นสื่อกลางมากขึ้นในการช่วยการสื่อสารเขาหวังว่าMAHUA FUN AGE จะได้มีโอกาสเข้ามาในเมืองไทยและนำหนังComedy ไทยมาเปิดตลาดที่จีนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและความร่วมมือทางธุรกิจผ่านวัฒนธรรมเพื่อให้บรรลุการร่วมมือกันแบบ

Win-Win Speacail Thanks :Mr. Li Zhuotao The Hong Kong International Film Festival Society (HKIFFS) ,Ms. Fang Meibao ,Arts Director China Golden Rooster & Hundred Flowers Film Festival , อาจารย์ด็อกเตอร์Mr.Shi Chuan ของเซี่ยงไฮ้Treatre Academy ,Mr.Yuan Hang & Ms.ZhuMengweiจากIve Culture and Entertainment Group , Ms. Guo Hang จากYugao Yishan Media ,Kosbot south of Asia group , Mr. Yin Zhiyue จากZERO G , นักแสดงจีนQi Tianying , Mr.Cheng Cheng & Star Makeup Company , Chaoran .

มอบเงินกว่า 2 ล้านบาท ดร.ฉวีวรรณ คำพา ทำบุญบวงสรวง มอบทุน เครื่องดนตรี โรงเรียน สถานพยาบาล ดร.ฉวีวรรณ คำพา

แชร์เนื้อหานี้

3-4 กันยายน 2567 โดยมี ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ ผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ของไทย ได้จัดพิธีทำบุญ บวงสรวง โรงงาน ในเครือ ฉวีวรรณกรุ๊ป ประจำปี 2567 และ ครบรอบวันคล้ายวันเกิดอายุวัฒนมงคล ที่อาคารรับรอง ในโครงการพนาวัลย์นคร ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

พร้อมจัดพิธีสืบชะตาแบบล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคุณธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.๙) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และยังมีเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณตำบล และเจ้าอาวาสหลายจังหวัด

ร่วมให้พร มี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานเอกชน โรงเรียน สถานพยาบาล ประชาชนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือและหน่วยงานต่างๆ จากทั่วประเทศ ทึ่ได้รับการสนับสนุนจาก ดร.ฉวีวรรณ ทั่วสารทิศ เดินทางเข้าอวยพรวันเกิดเป็นจำนวนมากวันที่ 3-4 กันยายน 2567 ที่โครงการหมู่บ้านพนาวัลย์ ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมสงเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ประธานกรรมการบริษัทในเครือฉวีวรรณกรุ๊ป และจัดพิธีมอบทุน การศึกษา มอบเครื่องดนตรี สนับสนุนสถานศึกษา สนับสนุนพัฒนาสถานพยาบาล จำนวน 30 แห่ง แห่งละ 50,000 บาท เป็นเงิน1,786,000 บาท สบับสนุนเครื่องดนตรี 250,000 บาท สนับสนุน ดนตรีอีสาน 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 2 ล้าน กว่าบาท เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งมีผู้บริหารสถานศึกษาในแต่ละโรงเรียนเข้ามารับมอบรวมถึงหัวหน้าสถานพยาบาลระดับตำบลในพื้นที่ทางภาคอีสานมารับ รวมทั้งยังมีแขกผู้มีเกียรติเดินทางเข้ามาร่วมอวยพรและมอบของขวัญ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดเป็นจำนวนมาก