เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดแถลงข่าว การขับเคลื่อนการพัฒนา จ.น่าน งานตามนโยบายและแผนพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว เยี่ยวยาผู้ประสบอุทกภัย

แชร์เนื้อหานี้


วันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตรวรปัญโญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ สัสดีแพง ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน เป็นประธานในการแถลงข่าวประจำเดือนตุลาคม 2567 ต่อสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในแต่ละเดือน พร้อมนำเสนอผลการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และการให้ความช่วยเหลือเยี่ยวยาผู้ประสบอุทกภัยด้านนางภัทรภร ชัยวัฒนกุล วัฒนธรรมจังหวัดน่าน ได้นำเสนอการจัดการประกวดเรือสวยงาม การประกวดเรือแข่งจำลอง ในงานประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน 26 – 27 ตุลาคม 2567 หลักเกณฑ์การตัดสินเรือสวยงาม ประจำปี 2567คุณสมบัติเรือที่จะส่งเข้าร่วมประกวดเรือประเภทสวยงาม

ต้องเป็นเรือแข่งเมืองน่าน ที่มีองค์ประกอบตามประกาศของสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน การตัดสินเรือแข่งจำลองเมืองน่าน ประจำปี 2567 คุณสมบัติเรือแข่งจำลองเมืองน่านที่จะส่งเข้าร่วมประกวด เรือแข่งจำลองเมืองน่านที่ส่งเข้าประกวดต้องส่งเป็นลำ มีขนาดความยาวไม่เกิน 1.50 เมตร โดยมีองค์ประกอบ เช่น ทำจากไม้ (วัสดุธรรมชาติ) ห้ามใช้ไม้สังเคราะห์ เรือแข่งจำลองเมืองน่าน ต้องแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของเรือแข่งเมืองน่าน มีหัวเรือ หางเรือ แกะสลักลวดลายให้มีความประณีตงดงาม มีองค์ประกอบครบตามแบบเรือน่าน เป็นต้น และกิจกรรมตักบาตรเติมบุญ หน้าคุ้มหลวงนครน่าน ทุกเช้าวันศุกร์ โดยจะเริ่มกิจกรรม ครั้งที่ 1 ในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม

และวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดน่าน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้ร่วมทำบุญตักบาตร เพื่อการสืบทอดพระพุทธศาสนา การอนุรักษ์สืบสานวิถีชีวิต ชาวน่านในอดีต ที่จะทำบุญตักบาตรหน้าบริเวณคุ้มหลวงนครน่านแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ใจกลางเมืองเก่าน่าน พื้นที่ประวัติศาสตร์หน้าคุ้มเจ้าหลวงเมืองน่านเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดน่าน กิจกรรม ทำบุญตักบาตร เติมบุญ หน้าคุ้มหลวงนครน่าน ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ทางจังหวัดได้กำหนดจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองเก่าน่าน ที่จะขับเคลื่อนเมืองเเก่าน่าน สู่เมืองมรดกโลก ควบคู่กับ สปป.ลาว จัดโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน


ด้านนางศุภรดา กานดิศยยากุล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองเก่าน่าน กล่าวถึง จังหวัดน่าน "เมืองเก่าที่มีชีวิต" คว้าเหรียญทองแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก Green Destinations Award 2024 เหรียญทองแรกของอาเซียน และเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย. พร้อมทั้งเร็วๆนี้ทาง อพท.จัดกิจกรรมเชิญชวนชาวน่าน มาชิม มาช๊อป เชื่อมโยงกับเหล่า CREATORS อาหาร ผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมหลากหลายไอเดียของเมืองน่าน NAN CONNECT : ป๊ะกั๋น ปั้นเมือง ในวันเสาร์ - อาทิตย์ 26 - 27 ตุลาคม 2567 เวลา 13.00 - 18.00 น ณ ลานต่อสุข (ข้างเฮือนฮังต่อ) 
นายแพทย์ภุชงค์ ชื่นชม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวถึง สถานการณ์โรคสเตรปโตคอกคัส ซูอิส จ.น่าน หรือสถานการณ์โรคไข้หูดับในพื้นที่จังหวัดน่าน สถานการณโรคสเตรปโตคอกคัส ซูอิส จ.น่าน ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 16 ตุลาคม 2567 สสจ.น่าน ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคนี้ จํานวน ทั้งสิ้น 8 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 1.67 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย (อ.ภูเพียง) ทั้งนี้สาเหตุการเกิดโรค การรับประทานลาบหมูดิบ ลาบเนื้อดิบ(ควาย) และรับประทานเนื้อหมูสุกๆดิบๆ ผลการสอบสวนโรคผู้ป่วยสเตรปโตคอกคัส ซูอิส จ.น่าน ปี 2567 (ผู้ป่วยเสียชีวิต) ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 65 ปี มีโรคประจําตัวคือโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง อาชีพรับจ้าง (ช่างทาสี) บ้านหัวเวียงเหนือ ตําบลฝายแก้ว อําเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

คําแนะนำสําหรับประชาชนทั่วไปหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ หมูที่ป่วยหรือตายจากโรค การปรุงอาหาร ควรนําเนื้อสุกรมาปรุงสุกเท่านั้นไม่ควรบริโภคเนื้อสุกร เลือด และอวัยวะภายในที่ดิบๆ หรือปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ หลู้ เป็นต้น เลือกบริโภคเนื้อหมูที่มาจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน หมูที่ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์ปลอดจากเชื้อโรคไม่ใช้เขียงหมูดิบในการหั่นอาหารอื่นที่จะรับประทานโดยไม่ปรุงสุกเพิ่ม เช่น ผักสด ผลไม้สด หรืออาหารอื่นที่สุกแล้ว เพราะจะทําให้มีการปนเปื้อนเชื้อโรค การเลือกซื้อเนื้อสุกรเพื่อบริโภคควรเป็นเนื้อสุกรที่สด ไม่มีสีแดงคลํ้าหรือมีเลือดคั่งมากๆหรือเนื้อแดงมีเลือดปนผิดปกติ โดยล้างมือก่อนและหลังสัมผัสเนื้อหรืออวัยวะของสุกรที่จําหน่าย โดยเฉพาะหากมีบาดแผลบริเวณที่สัมผัส
นอกจากนี้ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่านกล่าวเชิญชวนชาวน่าน ร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่2 พฤศจิกายน 2567ณ หนองน้ำครก ตำบลลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่านรีบสมัครก่อน วันที่ 25 ตุลาคม 2567 โดยสมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

   ด้านนายวรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวถึง เรื่องเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 9,000 บาท ทั้งนี้ได้มีการสรุปข้อมูลผู้ประสบภัยจังหวัดน่านยื่นขอรับความช่วยเหลือตามมติ ครม. ข้อมูล ณ 16 ต.ค.67 มีผู้ประสบภัยยื่นคำขอ ทั้งหมด 17,708 หลัง ตรวจเอกสารครบถ้วน 11,517 หลัง อยู่ระหว่างตรวจ 5,715 หลัง รอดำเนินการ 156 หลัง ในรอบที่ 1 อำเภอที่ไม่มีผู้อื่นคำขอรับการช่วยเหลือ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอนาหมื่น อำเภอบ่อเกลือ อำเภอแม่จริม และอ๋าเภอสันติสุข
ด้านผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน กล่าวถึงประเด็นความคืบหน้าการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางจากอุทกภัยที่ผ่านมา พร้อมแจ้งช่องทางรับ (เอกสารหลักฐานประกอบ)  เบื้องต้นช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์แล้ว จำนวน 188 ราย
ด้านนายสายัณห์ ไชยยศ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาน่าน กล่าวถึงคาดการณ์สภาพภูมิอากาศการเข้าสู่ฤดูหนาว คาดหมายลักษณะอากาศประเทศไทยตอนบนและจังหวัดน่าน แต่ละช่วงในฤดูหนาว ช่วงปลายสัปดาห์ที่3ของเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับมีอากาศหนาว บางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค และมีหมอกในตอนเข้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของ พื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม อากาศจะหนาวเย็นมากขึ้น โดยมีอากาศหนาวเย็น เกือบทั่วไป และมีอาศหนาวจัดโดยเฉพาะบริเวณตอนของภาค
  ด้านนายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานน่าน รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวน่าน หลังช่วงฟื้นฟู และการเตรียมพร้อมช่วงไฮซีชัน ประมาณการสถานการณ์ช่วงวันหยุดยาววันที่ 12 - 14 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา อัตราการพักเฉลี่ย 80% ผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 23,000 คน รายได้ประมาณ 40.57 ล้านบาท  ประมาณการจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในปี 2567 แนวโน้มการเติบโตคงที่ประมาณการ : 1,589,295 (คน-ครั้ง) ประมาณการรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2567 แนวโน้มการเติบโตคงที่ ประมาณการ : 4,621.58 ล้านบาท
โอกาสด้านการท่องเที่ยวจังหวัดน่านอยู่ในกระแสหลักของการท่องเที่ยวเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วง High Season นี้น่านมีความพร้อมในการฟื้นตัวของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พักและเส้นทางเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season นี้ในช่วง High Season มีการเพิ่มเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกเป็นจำนวน 10 เที่ยวบิน/วัน
มาตรการ 'แอ่วเหนือคนละครึ่ง'เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหลังภาคเหนือเผชิญน้ำท่วมหนัก ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างรวบรวมสินค้าและแพ็กเกจท่องเที่ยวต่างๆ ลงบนแอปพลิเคชันเบส (Application Base) ของ ททท. เพื่อให้โรงแรม
ที่พัก และร้านค้าต่างๆ สามารถเข้าร่วมโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งได้โดยประชาชนที่สนใจสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชันเบสเพื่อรับสิทธิได้เลย ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในวันที่ 1 พ.ย. 2567 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวภาคเหนือหลังน้ำลด โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนด้วยการจ่ายค่าสินค้าท่องเที่ยว 400 บาท/คน/ทริป ส่วนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจ่ายอีก 400 บาท/คน/ทริป หากใช้จ่ายมากกว่านั้น ประชาชนจะต้องเป็นผู้จ่ายเอง/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/

ทีมข่าวสมาคม รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รรท.สภ.สามกระทาย มอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานข้าราชการ ตำรวจ/ทำบุญออกพรรษา ขับรถประสานงากัน เสียชีวิต 1 ราย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 18 ตุลาคม 2567 พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน รักษาราชการแทน ( รรท. ) .สภ.สามกระทาย อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “วันตำรวจ” พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน รรท.สภ.สามกระทาย  จัดให้มีการอ่านสารของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรและธิดาของข้าราชการตำรวจ สภ.สามกระทาย จำนวน 10 ทุนๆ ละ 1,000 บาท โดยได้รับการสนับสนุน จาก ร้อยตำรวจโท ทนงศักดิ์ ทองแก้ว รอง สว (ป)กก.5 บก.ปทส.เป็นผู้สนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจ

นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีการทำบุญเลี้ยงพระ และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพศรัทธาของตำรวจ และประชาชน ในพื้นที่ สภ.สามกระทาย

ทำบุญออกพรรษา ขับรถประสานงากัน เสียชีวิต 1 ราย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 ตุลาคม 2567 ร.ต.ท.ณัฐพร จุลเพ็ชร รอง สวส.สภ.ห้วยยาง ช่วยราชการ สภ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม – ตะแบกโพรง โค้งปากทางเข้าวัดวังยาง หมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จึงพร้อมด้วยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบ รถยนต์ กระบะโตโยต้า ตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บท 4561 ประจวบฯ ชนประสานงากับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีขาวดำ ทะเบียน 1 กข 4800 ประจวบฯ จนรถจักรยานยนต์ มุดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถกระบะได้รับความเสียหายยับเยินฝั่งซ้ายขาออกถนนเพชรเกษม ผู้บาดเจ็บกระเด็นไปห่างกว่า 5 เมตร ทราบชื่อภายหลัง น.ส.อารีย์ หนูถึง อายุประมาณ 52 ปี โดยได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าบวมปูด ขาข้างซ้ายหักผิดรูป มีเลือดไหลนองพื้น เจ้าหน้าที่มูลนิธิเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทำ CPR เนื่องจากผุ้ได้รับบาดเจ็บมีชีพจรอ่อนลง จากนั้นเร่งนำตัวส่งยัง รพ.ทับสะแก แต่เสียชีวิตระหว่างทาง

จากการสอบถาม นายปราโทย์ ทองห่อ อายุ 64 ปี ให้การว่า ตนเองได้ไปทำบุญตักบาตรที่วัดบ้านตะแบกโพรงมา กำลังจะออกไปทำบุญอีกวัดหนึ่ง ก็ขับรถมาปกติ เมื่อมาถึงทางโค้งหักศอก ผู้บาดเจ็บซึ่งจะเข้าไปทำบุญที่วัดวังยาง ได้เลี้ยวขวาจะเข้าไปทางวัดวังยาง ตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ทำให้เกินประสานงากันจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงโค้งแยกเข้าวัดวังยาง เป็นโคงหักศอกอันตรายมาก มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วหลายราย ผู้ที่มาจากถนนเพชรเกษม จะเลี้ยวขวาเข้าไปทางวัดวังยางจะต้องเลยไปให้เห็นรถทางฝั่งตรงข้ามก่อนแล้วค่อยเลี้ยว เพื่อความปลอดภัย

///////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทีมฟุตซอล อนุบาลหนองปรือ ขอพรศาลตายาย สู้ศึกกีฬา นร.ท้องถิ่นระดับภาคตะวันออก

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 09:00 น. วันนี้ ( 17 ต.ค. ) ทีมฟุตซอลโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ เตรียมตัวออกเดินทางไปสู้ศึกการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นระดับภาคตะวันออก ครั้งที่ 39 ที่ อำเภอวังน้ำเย็นน้ำ จังหวัดสระแก้ว ในรายการ “ วังน้ำเย็นเกมส์” โดยก่อนออกเดินทางนักกีฬาฟุตซอลได้จุดธูปเทียน กราบขอพรศาลตายาย ไหว้พระประจำโรงเรียนเพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางตลอดจนการแข่งขันในครั้งนี้

นอกจากนั้นนายประวิทย์ สอนลา รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ ได้ให้ โอวาทและ กำลังใจ ให้กับนักกีฬาฟุตซอลทั้งประเภทชายและหญิง รวมถึงนักกีฬาประเภทอื่นๆอีกด้วย โดยเน้นย้ำการแข่งขันต้องมีน้ำใจนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะให้อภัย และขอให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อก้าวต่อไประดับประเทศที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะแข่งขันประมาณปลายเดือนมกราคม 2568 

นักกีฬาฟุตซอลที่ส่งเข้าร่วมแข่งขันมีนักกีฬาทั้งสิ้น 46 คน โดยส่งแข่งขันระดับอายุ 12 ปี 14 ปี ทั้งชายและหญิง โดยมีนายวิศรุต เย็นฉ่ำ หรือครูบาส นำทีมไปสู้กันครั้งนี้ นอกจากนั้นยังมีโค้ชจุ๋ม  ครูมานะ และอาจารย์ท่านอื่นร่วมเดินทางไปดูแลตลอดการแข่งขัน

การแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นท่าดาวออกครั้งที่ 39 วังน้ำเย็นเกมส์ จังหวัดสระแก้ว ทางโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันจำนวนกว่า 80ฑา แบตมินตัน และ กีฬาสาธิต

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) พาผู้เสียหาย ร้องเรียนอัยการ!!เปิดประวัติ “ครูปู” ทีมงาน Thitipu รำพื้นบ้าน จ.สระแก้ว

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย แก้วสุทธิ นายกสมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) นายสมพงษ์ มีน้อย เลขาฯสมาคม ร.ต.ท บรรดิษฐ์ ชมผาสาท รองนายกสมาคมฯ ได้นำตัว นางปราณี เจ้าทุกข์ที่ถูกถอนเงินโอนจากบัญชีถูกลักทรัพย์ เข้าพบอัยการ คุ้มครองสิทธิฯ จ.ปราจีนบุรี สอบถามเพิ่มเติมแจ้งข้อเท็จจริงพร้อมยื่นเอกสารเพิ่มเติมประกอบ

ทั้งนี้ สมาคมฯเพียงเป็นสื่อกลางให้ประชาชนและภาครัฐ เข้าใจตรงกันสังคมจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข.

เปิดประวัติ “ครูปู” ทีมงาน Thitipu รำพื้นบ้าน จ.สระแก้ว ที่ใครๆในสระแก้ว ก็รู้จักกัน ขึ้นชื่อว่าที่ 1 ในสระแก้วที่ไม่แพ้ใคร เกี่ยวกับ “รำพื้นบ้าน” ภูมิปัญญาชาวบ้าน ก่อตั้งมาเกือบ 7 ปี เปิดประวัติ “ครูปู” ที่ใครๆในสระแก้ว ก็รู้จักกัน ขึ้นชื่อว่าที่ 1 ในสระแก้วที่ไม่แพ้ใคร เกี่ยวกับ “รำพื้นบ้าน” ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สานต่อจาก “ครูแอ้” มาเกือบ 7 ปี ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมของไทยที่มีมาแต่ยาวนาน

โดยครูปู..เล่าว่า การที่มาเปิดสอนเพราะใจรักและอยากสอนชาวบ้าน ได้สานต่อจาก “ครูแอ้” ซึ่งเป็นคนริเริ่มรำอยู่แล้วในพื้นที่ บ้านหนองกะพ้อ ด้วยอายุมากครูแอ้เลยพักผ่อน และ ได้มอบเรื่องการรำพื้นบ้าน ให้กับ “ครูปู” ได้สานต่อเพื่อไว้ออกงานรำเอาบุญแต่ไม่นึกว่าจะรำแบบเป็นมืออาชีพรับงาน จนมีคนรู้จักเยอะและมาติดต่อจนปัจจุบันงานมีตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าผ่านมาแล้วกว่า 100 งาน ปัจจุบันมีทั้ง งานบวงสรวงพิธีต่างๆ งานรำแห่งานมงคลทุกประเภท งานรำหน้าไฟ งานรำงานบวช งานนำงานแต่ง เป็นต้น.

สามารถติดต่อจองคิวรำได้ที่
โทร.089-010-0342 (ครูปู)

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดงานวันตำรวจ เชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละฯ

แชร์เนื้อหานี้

ที่สภ.โคกสำโรง ภ.จว.ลพบุรี เมื่อวันนี้ 17 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 07.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อภิชาติ ทอแพ ผกก.สภ.โคกสำโรง
พ.ต.ท.มนตรี เล่ห์อิม รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.อนันต์ ปานทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ฯ
พ.ต.ท.เสริญราษฎร์ แก้วปนทอง สารวัตอำนวยการฯ ข้าราชการตำรวจ สภ.โคกสำโรง ทุกนาย พร้อมด้วยคณะ กต.ตร. สภ.โคกสำโรง

เนื่องด้วย ในวันที่17 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันตำรวจ สภ.โคกสำโรง จึงได้จัดพิธี โดยเริ่มจากการร่วมกันเคารพธงชาติ การรับฟังสารจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ การร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตนและกล่าวอุดมคติตำรวจ นอกจากนี้ยังได้มีพิธีมอบใบประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติและเสื้อคลุมให้กับข้าราชการตำรวจที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ในปีที่ตผ่านมา

 รวมทั้งมอบทุนการศึกษาให้กับบุตร ธิดา ของข้าราชการตำรวจที่เรียนดี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเยาวชน จากนั้นได้ประกอบพิธีทางศาสนาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตในการปฏิบัติและเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการตำรวจทุกคน รวมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการเพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีความรักและความสามัคคีในหน่วยงาน

สำหรับ “วันตำรวจไทย” เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2458 โดยเป็นวันประกาศรวม “กรมพลตระเวน” กับ “กรมตำรวจภูธร” เป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า “กรมตำรวจ” ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็น “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ซึ่งมีการโอนกรมตำรวจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 17 ตุลาคม 2541 อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจทุกนาย ได้ทุ่มเทกำลัง สติปัญญา ความสามารถในปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละอดทน เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ สามารถนำความสงบสุขมาสู่สังคม รับใช้ประชาชนบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และให้ข้าราชการตำรวจร่วมกันกระทำความดีให้เป็นที่ยกย่องสืบไป

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนข่าวฯ ประจำ จว.ลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พลอากาศเอก ชัยนาท ผลกิจ รองผบ.ทหารอากาศ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 พลอากาศเอก ชัยนาท ผลกิจ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสให้การต้อนรับพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม

และร่วมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ณ ศาลาเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสิ่งของประกอบด้วย ข้าวสาร จำนวน 800 ถุง พร้อมน้ำดื่ม จำนวน 800 แพ็ค

สำหรับพื้นที่ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยเป็นประจำทุกปี ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ดำเนินการช่วยเหลือมาโดยตลอด

โดยในปีนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้สนับสนุนเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภัยในพื้นที่ดังกล่าว

กองทัพอากาศ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด เลี้ยงต้อนรับเยาวชน จชต.โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43

แชร์เนื้อหานี้

มีรายงานว่า ร้านซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด ในเครือโบว่ากรุ๊ป พัทยา โดย นายสงบ โซ๊ะเฮง ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ฮัจยีอาลี (ราชัย) ปาทาน ผู้บริหารโบว่ากรุ๊ป พัทยา และนางวิภารัตน์ ปาทาน ผู้บริหารร้านซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด

ร่วมให้การตอนรับและจัดเลี้ยงอาหารให้กับเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 ที่มาพักอาศัยในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ระหว่าง 2-16 ตุลาคม 2567 รวม 15 วัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรมในภาคตะวันออกสู่การพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งมี 8 ครอบครัวอุปถัมภ์ นำคณะเยาวชนภาคใต้ จำนวน 20 คน ร่วมรับประทานอาหารในครั้งนี้

ทั้งนี้ทางร้านซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด ได้จัดทำเมนูอาหารฮาลาลหลากหลายมาต้อนรับเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ ปลาทอด ซุปเนื้อ พิซซ่าฮาลาล สเต็ก ต้มยำกุ้ง ขนมจีบ เป็นต้น สร้างความอิ่มเอมและร้อยยิ้มให้กับน้องๆ เยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 เป็นอย่างมาก

สำหรับการดำเนินการโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เกิดขึ้นโดยดำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ โดยการสนับสนุนจากคณะกรรมการของมูลนิธิรัฐบุรุษ นำเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์

ในกรุงเทพมหานครฯ และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์ และชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความรู้ ความเข้าใจต่อบริบทของสังคมไทยมากยิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ประเพณีแข่งเรือ ชิงถ้วยพระราชทาน วันออกพรรษา ตานก๋วยสลาก วัดบุญยืน พระอารามหลวง อ.เวียงสา จ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้


16/10/2567 จังหวัดน่าน จัดงานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสา ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567

วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ณ สะพานข้ามแม่น้ำน่าน (ท่าน้ำบ้านป่ากล้วย) อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณี แข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสาชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567

โดยมี นายอำเภอเวียงสา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกสมาคมเรือแข่งจังหวัดน่าน ประธานชมรมเรือแข่งอำเภอเวียงสา คณะกรรมการจัดงาน ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมพิธีฯ

งานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสาชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2567 ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาในวันออกพรรษาเป็นระยะเวลายาวนานนับร้อยปี มีเอกลักษณ์เป็นลักษณะเรือขุดจากไม้ท่อนแกะสลักหัวเป็นรูปพญานาค อ้าปาก ชูคอ มีเขี้ยวโง้งอน สง่างาม การแข่งเรือและทานสลากภัตจึงถือเป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวจังหวัดน่าน และเป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอเวียงสา ที่ได้จัดให้มีขึ้นทุกๆ ปี

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความมีวินัย ในหมู่คณะ ส่งเสริมและปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดี และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ซนะ รู้อภัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเสริมสร้างเอกลักษณ์ของอำเภอเวียงสา ตลอดจนจังหวัดน่าน ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปและชาวต่างชาติ

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งมีหมู่บ้านในเขตอำเภอเวียงสาและอำเภอใกล้เคียง ได้ส่งเรือยาวเข้าร่วมแข่งขันรวมทั้งสิ้น 18 ลำ โดยแยกประเภทการแข่งขันออกเป็น ประเภทเรือเล็ก 5 ลำ ประเภทเรือกลาง จำนวน 4 ลำ ประเภทเรือใหญ่ จำนวน 5 ลำ และประเภทเรือเอกลักษณ์น่าน จำนวน 4 ลำ นอกจากนี้ ยังมีการโชว์เรือสวยงาม จำนวน 4 ลำ และกองเชียร์ 3 หมู่บ้าน

โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงาน เทศบาลตำบลเวียงสา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สสส. และพ่อค้า ประชาชน หน่วยงานอื่นๆ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,000,000 บาท/บุญยวค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมข่าวรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฉก.ตร.นราธิวาส 93 ร่วมทำบุญถวายสังฆทาน เนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ / รองผอ.ศรชล.นราธิวาส เยี่ยมลูกเรือประมง สัญชาติเมียนมา “เรือเพชรมงคล 15” ประสบอุบัติเหตุ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.ทศม ม่วงเกษม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในการประกอบพิธีทำบุญเนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2566 และร่วมกันประกอบพิธีสงฆ์

โดยได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดพรหมนิวาสจำนวน 5 รูป นำโดยพระครูวิสิฐพรหมคุณ (สมชาย โชติวโร) เจ้าอาวาสวัดพรหมนิวาส มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเพล ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลให้แก่หน่วยงานรวมถึงผู้เกี่ยวข้อง และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

รวมถึงเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้แห่งนี้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ เนื่องในงานวันตำรวจแห่งชาติ โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัด ไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

สำหรับวันตำรวจ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2458 โดยเป็นวันประกาศรวม กรมพลตระเวนกับกรมตำรวจภูธเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า กรมตำรวจซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตำรวจจึงได้ยึดถือเอาวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็น วันตำรวจ และได้มีการประกอบพิธี วันตำรวจ อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2492 ซึ่งในขณะนั้น พล.ต.อ. หลวงชาติ ตระการโกศล เป็นอธิบดีกรมตำรวจและ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีกระทั่งเมื่อปี 2560 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ให้เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม

ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์ จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงวันตำรวจเป็นวันที่ 17 ตุลาคมของทุกปี โดยยึดตามวันที่มีการเปลี่ยนแปลงจากกรมตำรวจเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

//////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดนราธิวาส เยี่ยมให้กำลังใจลูกเรือประมง สัญชาติเมียนมา “เรือเพชรมงคล 15” หลังประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ 16 ต.ค.67 นาวาเอก กาจ บุญวิทยา รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดนราธิวาส พร้อมผู้เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปเยี่ยมนายมิน มิน อู อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา ลูกเรือประมง “เรือเพชรมงคล 15” ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขาเข้าเครื่องโม้น้ำแข็ง ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส

โดยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจประมงปัตตานีได้รับแจ้งจากเจ้าของเรือเพชรมงคล 15 (ทบ. 220918673) ประเภทเครื่องมืออวนลากคู่ ว่า มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ ขาเข้าเครื่องโม้น้ำแข็ง ขณะเกิดอุบัติเหตุเรือกำลังทำการประมง ห่างจาก ศรชล.จังหวัดนราธิวาส ประมาณ 10 ไมล์ทะเล ทาง ศรชล.จังหวัดนราธิวาส จึงได้ประสานขอสนับสนุนเรือตรวจประมง 226 จากหน่วยปราบปรามประมงทะเลจังหวัดนราธิวาส

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเมตตาธรรมนราธิวาส ได้ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลฯ นายชาติชาย ลิ้มกุล ผู้จัดการ บริษัทเรือเพชรมงคล กล่าวว่า ในนามตัวแทนบริษัทฯ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมจะเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ นายมิน มิน อู อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา หมายเลขประจำตัว 009401 128172 7 ไปรักษาต่อที่จังหวัดปัตตานี

เนื่องจากมีเพื่อนแรงงานสัญชาติเมียนให้การดูแล และสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ จะสะดวกกับการดูแลรักษา ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้ใช้สิทธิประกันสังคม และทางบริษัทฯ พร้อมดูแลในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
//////////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / การประชุม สรุปสถานการณ์น้ำ เตรียมพร้อมรับน้ำในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา / โครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 ลพบุรี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่ ห้องประชุมพระปรางค์สามยอด ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นำส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม การประชุมสรุปสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมจังหวัดในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม จาก ห้องประชุม 108 ชั้น 1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

โดยจังหวัดลพบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลืออุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ว่าต้องการทราบข้อมูลอุทกภัยและการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 9 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพฯ เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดรายงานต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 14.30 น.

โดยนายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า สำหรับในส่วนของจังหวัดลพบุรี มีแม่น้ำสาขาที่แยกออกแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ 2 เส้น ได้แก่ แม่น้ำลพบุรีและคลองชัยนาท – ป่าสัก ซึ่งจากสถานการณ์น้ำภาพรวมของจังหวัดอยู่ในสภาวะปกติ ทั้ง 11 อำเภอไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขังในพื้นที่ ทั้งนี้ก็ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยจังหวัดได้บูรณาการทุกภาคส่วนในการร่วมกันกำจัดวัชพืชสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำลพบุรี เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลผ่านสะดวก โดยกำหนด Kick off พร้อมกัน ในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 (พรุ่งนี้) โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 นี้

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน

ลพบุรี- บรรยากาศการรับเสื้อวันแรก โครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 จังหวัดลพบุรี คึกคักผู้รักสุขภาพรอคิวรับเสื้อหนาแน่น

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 บรรยากาศการรับเสื้อวันแรก ในโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดลพบุรี เป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนและส่วนราชการต่าง ๆ ผู้รักสุขภาพรอคิวรับเสื้อกันอย่างหนาแน่น โดยจังหวัดลพบุรีได้กำหนดรับเสื้อในวันที่ 15 และ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00- 16.000 น. ณ. เต้นท์บริการด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดลพบุรี ฝั่งธนาคารกรุงเทพ โดยนำสำเนาบัตรประชาชน และตั๋วสมัครเดินวิ่ง ปั่น มายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ มีข้อสงสัยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดลพบุรี กลุ่มงานอำนวยการ โทร. 0 3677 0150

โดย นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า ด้วยคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โดยศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราชร่วมกับศิริราชมูลนิธิ ได้จัดโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นดังแสงนำใจ

และทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย รวมทั้งสร้างความตระหนักและให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมองแก่ประชาชน ตลอดจนรณรงค์เชิญชวนคนไทยทั้งประเทศให้หันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกาย และสุขภาพสมองที่แข็งแรง โดยมีกิจกรรมต่างๆประกอบด้วย 1. กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 2. กิจกรรมให้ความรู้โลกหลอดเลือดสมอง และ 3. กิจกรรมออกกำลังกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตเฉลิมพระเกียรติ

โดยจังหวัดลพบุรี พร้อมกัน ทั้ง 11 อำเภอ กำหนดจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05.30 น. สถานที่ประกอบด้วย 1. อำเภอเมืองลพบุรี จัดกิจกรรมที่สนามกระโดดร่มพัชรกิติยาภา 2. อำเภอบ้านหมี่ จัดกิจกรรมที่สนามกีฬาเทศบาลเมืองบ้านหมี่ 3. อำเภอโคกสำโรง จัดกิจกรรมที่สนามกีฬาโรงเรียนโคกสำโรงวิทยา 4. อำเภอพัฒนานิคมจัดกิจกรรมที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 5. อำเภอชัยบาดาล

จัดกิจกรรมที่ลานอเนกประสงค์หน้าที่ว่าการอำเภอชัยบาดาล 6. อำเภอท่าวุ้งจัดกิจกรรมที่ลานอเนกประสงค์หน้าที่ว่าการอำเภอท่าวุ้ง 7. อำเภอหนองม่วงจัดกิจกรรมที่ สนามที่ว่าการอำเภอหนองม่วง 8. อำเภอสระโบสถ์จัดกิจกรรมที่สนามที่ว่าการอำเภอสระโบสถ์. 9. อำเภอโคกเจริญจากกิจกรรมที่สนามที่ว่าการอำเภอโคกเจริญ 10. อำเภอท่าหลวงจัดกิจกรรมที่สันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และ11. อำเภอลำสนธิจัดกิจกรรมที่อ่างเก็บน้ำกุตตาเพชร ทั้งนี้ประชาชนผู้สนใจร่วมงานวิ่งในครั้งนี้สามารถสวมเสื้อเหลืองเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยพร้อมเพรียงกัน

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน