เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /มณฑลทหารบกที่ 38 จัดพิธีวันสถาปนาครบรอบ 35 ปี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 มณฑลทหารบกที่ 38 จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนาหน่วย ครบรอบปีที่ 35 ณ สโมสรนายทหาร ค่ายสุริยพงษ์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมี พลตรีบุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 เป็นประธานจัดงาน

ภายในพิธี คณะผู้บังคับบัญชาและกำลังพลได้ร่วมกันบำเพ็ญกุศลอุทิศส่วนกุศลให้แก่กำลังพลและอดีตผู้บังคับบัญชาที่ล่วงลับ พร้อมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วย

โอกาสนี้ พลเอกวิจักขฐ์ สิริบรรสพ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน อดีตผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยทหารในพื้นที่ ข้าราชการบำนาญ กำลังพล และครอบครัว ร่วมแสดงความยินดี

ทั้งนี้ มณฑลทหารบกที่ 38 ยังได้จัดบูทแสดงผลิตภัณฑ์จากโครงการ “ทหารพันธุ์ดีน่าน” ให้ผู้ร่วมงานได้ชมและเลือกซื้อ พร้อมทั้งโรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์นำชุดแพทย์เคลื่อนที่มาให้บริการตรวจวัดความดันและให้คำแนะนำด้านสุขภาพ

สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง ภายใต้เจตนารมณ์การปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติบ้านเมืองและการดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด/ภาพ/ ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ ทีมข่าวสมาคม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สภ.ละแม จับกุมผู้ค้าและเสพจำนวน 3 ราย

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 ปฏิบัติการกวาดล้าง ยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ในห้วงระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระยะแต่วันที่ 18 ก.ค.68-30 ก.ย.68 วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.อนันท์ อนุตรเวสารัช ผกก.สภ.ละแม วันที่ 14 ส.ค.68 เวลาประมาณ 13.30 น.

ร่วมกับ นายอเนกชำนาญนานายอำเภอละแม สั่งการให้ นายวิบูลย์ เกลี้ยงสงค์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน พ.ต.ท.สุชาติ สิงหา รอง ผกก.สส.สภ.ละแม และ พ.ต.ท.พชร อ่วมทองดี รอง ผกก.ป.สภ.ละแม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละแม นำโดย พ.ต.ต.โตษณ พันธุ์ทอง สว.สส.สภ.ละแม พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธนธัช ประเทียบอินทร์ รอง สว.สส.สภ.ละแม,ร.ต.ต.ธานินทร์ ทองแดง รอง สว.(สส.)สภ.ละแม, ด.ต.ทินกร ทองอ่อน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ละแม และ ส.ต.ท.สุวพันธ์ ดำวรรณ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ละแม ในห้วงระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระยะแต่วันที่ 18 ก.ค.68-30 ก.ย.68

พ.ต.ต.โตษณ พันธุ์ทอง สว.สส.สภ.ละแม ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า พื้นที่ ม.4 ต.สวนแตง มีวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติด จำหน่ายยาเสพติด ให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ จึงได้รายงาน พ.ต.อ.อนันท์ อนุตรเวสารัช ผกก.สภ.ละแม ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบบ้านเลขที่ 14/2 ม.4 ต.สวนแตง อ.ละแม จังหวัดชุมพร นาย ปราโมทย์หรือโช้ง มีการมั่วสุมยาเสพติดจริง จึงได้จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย พร้อมด้วยยาเสพติด ยาบ้าจำนวน 9 เม็ด และยาไอซ์ 0.03 กรัมภายในบ้าน ที่บ้านมีลักษณะมั่วสุมเสพยาเสพติดกัน นายธีรภัท หรือธี ชาวต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร นางสาว เสาวลักษณ์ หรือกิ๊ฟ ชาว ต.ปังหวาน อ.พพโต๊ะ จ.ชุมพร ได้นำตัว ทั่ง 3 คนตรวจปัสสาวะจากโรงพยาบาลละแม พบสารเมทแอมเฟตามิน ทั้งสามราย ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามิน) โดยไม่ได้รัยอนุญาต จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ละแม เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “ย้ายลุงพล! จากเรือนจำมุกดาหารสู่เรือนจำนครพนม คุมเข้มผู้ต้องขังโทษสูง”

แชร์เนื้อหานี้

หลังจากเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ทำให้นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ต้องถูกคุมขังต่อในเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ล่าสุดเช้าวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 08.15 น. รถควบคุมผู้ต้องขังของเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ได้เข้าไปรับตัวลุงพล เพื่อนำส่งไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม

การย้ายตัวครั้งนี้เป็นไปตามอำนาจการควบคุมของเรือนจำ เนื่องจากเรือนจำจังหวัดนครพนมมีอำนาจและศักยภาพในการควบคุมผู้ต้องขังที่ได้รับโทษในอัตราสูงกว่า พร้อมมาตรการด้านความปลอดภัยที่รัดกุมกว่าเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะมีการเคลื่อนย้ายตัวลุงพลออกจากเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ไม่มีญาติหรือแฟนคลับ (FC) ของลุงพลมาร่วมให้กำลังใจเหมือนในครั้งก่อน ต่างจากวันที่มีทำพิพากษาและคำสั่ง ซึ่งมีกลุ่มผู้ติดตามมารอที่เรือนจำเป็นจำนวนมาก

ย้ายลุงพล #ลุงพลย้ายเรือนจำ #ลุงพล #ป้าแต๋น #เอฟซีลุงพล #เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร #เรือนจำจังหวัดนครพนม #มุกดาหาร #คดีน้องชมพู่ #ไม่ให้ประกันตัว #ข่าวร้อน #ดราม่า #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บำรุงขวัญกำลังใจ น้องๆทหาร คุณนายแม่ ณัฐวรรณ ฉายะบุตร นำ อาหาร และสิ่งของ มอบให้ มทบ.44

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 คุณนายหน่อย มอบอาหารและสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจทหาร มทบ.44 พร้อมมอบทุนการศึกษาและเงินรางวัล
ชุมพร – เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 เวลา 11.00 น. คุณนายหน่อย ณัฐวรรณ ฉายะบุตร ประธานคณะกรรมการจริยธรรมประจำจังหวัดชุมพร ได้เดินทางไปยังค่ายมณฑลทหารบกที่ 44

เพื่อจัดเลี้ยงอาหารและมอบสิ่งของเครื่องใช้ให้แก่ทหารกองประจำการจำนวน 300 นาย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
คุณนายหน่อยได้จัดเตรียมอาหารหลากหลายเมนู อาทิ พิซซ่า ก๋วยเตี๋ยวเรือทองผกา โค้กกระป๋อง และไอศกรีม

นอกจากนี้ยังได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ได้แก่ พัดลม เครื่องทำน้ำร้อน-น้ำเย็น กาแฟ และขนมให้กับกำลังพลอีกด้วย นอกจากกิจกรรมเลี้ยงอาหารแล้ว คุณนายหน่อยยังได้มอบเงินรางวัลพิเศษจำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 1,000 บาท ให้กับพลฯทหารที่ได้รับคัดเลือก และรางวัลพิเศษ

สำหรับพลฯทหารที่มีความกล้าแสดงออก มาเล่าถึงความรู้สึกที่ได้เข้ามารับราชการทหาร และการฝึกต่างมีความเป็นวินัยเพิ่มมากขึ้น และมีความภูมิใจที่ได้มารับใช้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็น ที่เคารพรักของพี่น้องประชาชนชาวไทย อีก 2 รางวัล ๆละ 1000 บาท ยัง

มีมอบทุนการศึกษาจำนวน 150,000 บาท ให้กับนางสาวกฤตา พงเพชร พนักงานธุรการของมณฑลทหารบกที่ 44 พร้อมทั้งสนับสนุนการติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องประชุมของ มทบ.44 และมอบเงินสนับสนุนการปรับปรุงขยายสนามฟุตบอลอีกด้วย

พลตรี สมคิด ชูเผือก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ได้ให้เกียรติมารับมอบสิ่งของด้วยตนเอง โดยมี ดร.สุรินทร์ เหล่าพัทรเกษม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชุมพร ร่วมเป็นเกียรติในงาน

ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า คุณนายหน่อย ณัฐวรรณ ฉายะบุตร เป็นผู้ที่มีความตั้งใจในการช่วยเหลือสังคม มาโดยตลอด กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการแสดงน้ำใจและให้กำลังใจแก่ทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณนายหน่อยยังได้เคยบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับ (กันจอมพลัง) โดยไม่ประสงค์ออกนามอีกด้วย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นอภ.เมืองมุกดาหาร บูรณาการกวาดล้างยาเสพติด – พบผู้เสพ 15 ราย สมัครใจเข้าบำบัด

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร / ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองมุกดาหาร (ศป.ปส.อ.เมืองมุกดาหาร) นำทีมปลัดอำเภอ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่าย

ปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร้อย อส.อ.เมืองมุกดาหาร 2 บูรณาการร่วมกับ ร้อย อส.จ.มห.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำป่าหลาย ลงพื้นที่ปฏิบัติการค้นหาผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร

ภารกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ แผน Quick Win 3 เดือน “No Drugs No Dealers” และปฏิบัติการต่อเนื่องจากการ Re X-ray พื้นที่ เพื่อคัดกรองผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด และขยายผลดำเนินคดีกับผู้ค้าที่เหลืออยู่

📝 ผลการปฏิบัติเจ้าหน้าที่พบผู้เสพยาเสพติดจำนวน 15 ราย ซึ่งทั้งหมดสมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อสร้างชุมชนปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน

อำเภอเมืองมุกดาหาร #มุกดาหาร #กวาดล้างยาเสพติด #NoDrugsNoDealers #QuickWin #ชุมชนปลอดยาเสพติด ////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นาที​ “ลุงพลเข้าเรือนจำ! ศาลไม่ให้ประกัน รอศาลฎีกาชี้ชะตา”

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม รถเรือนจำจังหวัดมุกดาหารได้รับตัวนายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ซึ่งศาลยังไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร โดยลุงพลจะต้องถูกแยกกักโรคโควิดเป็นเวลา 5 วัน ก่อนพิจารณาส่งเข้าห้องขังแดนต่างๆ

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี กระทำการต่อศพหรือสภาพแวดล้อมก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุกทั้งหมด 26 ปี และให้ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่พ่อแม่น้องชมพู่ รวมกว่า 2.55 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทีมทนายความของลุงพลเปิดเผยว่าได้มีการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวลุงพลต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร แต่ไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ยื่นอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลฎีกาอยู่ระหว่างรอคำสั่ง

ประกันตัว #ปล่อยตัวชั่วคราว #ลุงพล #ป้าแต๋น #น้องชมพู่ #คดีสะเทือนใจ #ข่าวดราม่า #ฆ่าคนตายโดยเจตนา #ศาลอุทธรณ์ #ศาลฎีกา #ไวรัลข่าว #ดราม่าเดือด #มุกดาหาร #สะเทือนใจทั้งประเทศ ////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดงานกินกุ้งส่งเสริมการค้าตลาดด่านสิงขร“ ครั้งที่ 1 / ตม.ประจวบ จับต่างด้าวต้องสงสัยแอบหลบซ่อนอยู่ป่าละเมาะ ในพื้นที่บ้านมะขามโพรง ม.9 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

แชร์เนื้อหานี้

.จัดงานกินกุ้งส่งเสริมการค้าตลาดด่านสิงขร“ ครั้งที่ 1
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  จัดกิจกรรมส่งเสริมการรณรงค์บริโภคกุ้ง ในงาน “กินกุ้งส่งเสริมการค้าตลาดด่านสิงขร“ ครั้งที่ 1 ซึ่งกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 8-17 สิงหาคม 2568 ณ สนามตลาดการค้าชายแดนด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์  

ซึ่งทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ จัดจำหน่ายกุ้งขาวแวนนาไม โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ณ บริเวณอาคารตลาดไทยสิงขร (สนามตลาดการค้าชายแดนด่านสิงขร)
🔅เฉพาะวันที่ 9-11 สิงหาคม และ วันที่ 16-17 สิงหาคม 2568 เพียง 5 วันเท่านั้น
จำหน่ายกุ้งขาวแวนนาไม ขนาด 40-50 ตัว/กก.
เพียงวันละ 100 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 175 บาท
ไฮไลท์ภายในงานฯ แจกคูปองเงินสดส่วนลดราคากุ้ง มูลค่า 50 บาท ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนเช็คอิน 80 คนแรก/วัน
เหลือเพียง กก.ละ 125 บาท (จำกัดคนละ 1 กก.)
เริ่มลงทะเบียนเช็คอินในเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าคูปองจะหมด
มีบริการย่างฟรี  พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ
จำหน่ายกุ้งวันละ 100 กิโลกรัมเท่านั้น
คูปอง จำกัดคนละ 1 กก. (จำนวน 80 กก.)
ราคาปกติ จำกัดคนละ 2 กก. (จำนวน 20 กก.)
คูปองนี้ใช้ได้เฉพาะบูธของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เท่านั้น
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

”ประชาธิปัตย์“ประกาศปลดประเทศไทยจากแชมป์โลก
แก้ปัญหาเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลก
ลด50%ท้าทายเป้ายูเอ็น

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์และประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.เปิดเผยถึงแนวทางนโยบายแก้ปัญหาคนไทยเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลกวันนี้ว่า ประเทศไทยครองอันดับ1 ประเทศที่มีคนไทยเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลกกว่า14,000คนต่อปีหรือ 37 คนทุก 1 นาทีและบาดเจ็บกว่า 2 แสนคน นับเป็นหนึ่งในวิกฤตของชาติแม้วันเวลาที่ผ่านมาทุกภาคส่วนจะพยายามแก้ไขปัญหานี้แต่ยังไม่บรรลุผลจนภัยจากจักรยานยนต์มีสัดส่วนกว่า70% ของอุบัติภัยทางถนนยังไม่รวมความเสียหายจากการบาดเจ็บทุพลภาพและทรัพย์สินของแต่ละครอบครัวและประเทศชาติรวมทั้งอุบัติเหตุทางถนนยังส่งผลกระทบต่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉลี่ย 3% ของ GDP 
ด้วยเหตุนี้พรรคประชาธิปัตย์โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์จึงมอบหมายให้จัดทำแนวทางนโยบาย “ปลอดจากภัยจักรยานยนต์” ครอบคลุมหลายมิติทั้งด้านกฎหมาย ความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน โครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างจิตสำนึกเพื่อร่วมในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ภายใต้ข้อมติของ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติซึ่งประกาศให้ช่วงปี พ.ศ. 2564–2573 เป็นทศวรรษที่สองของการดำเนินการเพื่อความปลอดภัยทางถนนโดยมีเป้าหมายที่จะลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากการจราจรทางถนนลงอย่างน้อยร้อยละ 50 ดังนี้

  1. นโยบายมาตรฐานความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์
    1.1จำกัดความเร็วและปรับสเปครถปัจจุบันรถจักรยานยนต์ในไทยมีความเร็วสูงสุด 140-160 กม./ชม. ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานสากล (120-140 กม./ชม.)
    ทำให้ควบคุมยาก เสนอให้ลดความเร็วสูงสุดและปรับหน้าปัดความเร็วให้สอดคล้องกับประเทศอื่น
    1.2 เปลี่ยนหน้ายางรถจักรยานยนต์ซึ่งมีขนาดหน้ายางแคบ (60-70 มม.)ทำให้เกาะถนนน้อยเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายโดยเพิ่มความกว้างหน้ายางตามมาตรฐานสากลคือขนาด 80-90 มม.
    1.3บังคับใช้ระบบเบรก ABS
    รถจักรยานยนต์ขนาด 110 ซีซี ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมมักไม่มีระบบ ABS แม้ไทยมีโรงงานผลิตระบบนี้แต่ส่งออกทั้งหมด ควรบังคับให้รถทุกขนาดในไทยติดตั้ง ABS เพื่อลดอุบัติเหตุ เพราะ 80% ของการตายจากรถจักรยานยนต์เกิดจากรถขนาด 110 ซีซี
  2. ปฏิรูปกฎหมายและใบอนุญาตขับขี่
    2.1 ใช้ระบบใบอนุญาตแบบขั้นบันได (GDL)โดยจำกัดความเร็วและขนาดเครื่องยนต์สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ เช่น อนุญาตให้ขับรถไม่เกิน 50 ซีซี หรือความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. และห้ามขับกลางคืนหรือซ้อนท้ายจนกว่าจะมีประสบการณ์เพียงพอ ซึ่ง
    มีตัวอย่างความสำเร็จในต่างประเทศ
    เช่น ญี่ปุ่นและอังกฤษ ที่จำกัดความเร็วและใช้ระบบ GDL ช่วยลดอุบัติเหตุในวัยรุ่นได้ สามารถนำมาปรับใช้ในไทย
    โดยระบบ GDL (Graduated Driver Licensing)เป็นระบบใบอนุญาตขับขี่แบบเป็นขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะสำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ ระบบนี้จะค่อยๆ มอบสิทธิในการขับขี่ที่มากขึ้นตามประสบการณ์และอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหต
    2.2เพิ่มบทลงโทษ
    เช่นบังคับสวมหมวกนิรภัยอย่างเคร่งครัด และลงโทษผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งปัจจุบันมีถึง 10 ล้านคน
  3. ปรับปรุงโครงสร้างถนนและสิ่งอำนวยความสะดวก
    3.1สร้างเลนจักรยานยนต์เฉพาะหรือเลนผสม
    แม้มีมติครม. ปี 2555 ให้มีเลนจักรยานยนต์ แต่ยังขาดการดำเนินการจริง ควรเร่งพัฒนามาตรฐานถนนเพื่อแยกการจราจรระหว่างรถเร็วรถช้า และรถจักรยานยนต์กับรถยนต์
    3.2ออกแบบถนนปลอดภัย
    และปรับปรุงสภาพผิวถนนเพื่อลดการลื่นไถล
  4. รณรงค์สร้างจิตสำนึกและวัฒนธรรมการใช้รถ
    4.1 ควบคุมการโฆษณา
    ห้ามโฆษณาที่เน้นความเร็วแรง และเพิ่มการสื่อสารเรื่องความปลอดภัย เช่น การสวมหมวกนิรภัยซึ่งลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ 40%
    4.2ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัย
    จัดโครงการสอนขับขี่ในโรงเรียนและชุมชน โดยเน้นกลุ่มอายุ 15-19 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง
    5.การบังคับใช้กฎหมาย(Law Enforcement)อย่างเคร่งครัดเพราะเป็นมาตรการที่ดีที่สุดแต่มีปัญหามากที่สุดทั้งผู้บังคับใช้กฎหมายและผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมา
    ““คนไทยเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลกกว่า14,000คนต่อปีหรือ 37 คนต่อ 1 นาทีและบาดเจ็บกว่า 2 แสนคน นับเป็นวิกฤตชาติ พรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางนโยบายแก้ไขปัญหานี้ซึ่งต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อเนื่องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำและประเมินผลเป็นระยะ โดยมีเป้าหมายลดอัตราการตายจาก 25 คนต่อประชากร 100,000 คน ให้เหลือ 12 ตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก(WHO) เพื่อให้ไทยหลุดจากอันดับ 1 ของโลกในการเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์โดยเร็วที่สุด“ อดีตรัฐมนตรีและส.ส.อลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวย้ำในที่สุด.
  5. ตม.ประจวบฯร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักการข่าว กอ.รมน หน่วย ฉก.จงอางศึก สกัดจับแรงงานเมียนม่าร์กว่าครึ่งร้อย ลอบเข้าเมืองเตรียมลงใต้ไปมาเลย์
  6. เมื่อกลางดึกวันที่ 13 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.เทียนชัย ชมภ

ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์, ชุดสืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, ตชด.14

ได้สนธิกำลังกันเข้าตรวจสอบ ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีกลุ่มบุคคลต่างด้าวต้องสงสัยจำนวนหลายคนแอบหลบซ่อนอยู่บริเวณป่าละเมาะ ในพื้นที่หมู่บ้านมะขามโพรง ม.9 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์  เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบยังจุดพิกัดตามที่ได้รับแจ้งมา พบกลุ่มบุคคล หลายสิบคนกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณดังกล่าว

เจ้าหน้าฯจึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเมียนม่าร์ มีจำนวนทั้งสิ้น 55 คนจากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับว่าได้หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยลักลอบมาทางช่องทางธรรมชาติด้านจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งคนที่พามาได้ให้มาพักคอยคนที่จะมารับต่ออยู่บริเวณนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปนายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

    สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สภาวัฒนธรรมอำเภอสีชมพู ร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น สืบสานรักษาต่อยอด กิจกรรมจิตรอาสาพัฒนา

    แชร์เนื้อหานี้

    เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘
    ๑๔ สิงหาคม พ.ฺศ.๒๕๖๘ เวลา ๐๘.๒๐ เป็นต้นไป

    ณ วัดแจ้งสว่างนอก ตำบลโนนสะอาด อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น
    นายนคร สุพรรณ์ ปลัดอำเภอชุมแพ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ประธานในพิธี นายบุญส่ง ทองมูล นายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน กล่าววัตถุประสงค์

    กิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เราทำดีด้วยหัวใจ มีองค์ต่างๆ อธิ นายสำราญ ศรีภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขต3 อำเภอชุมแพ
    นางสาวดลดา กาญจนกิจบำรุง รองนายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน นายอัมรินทร์

    อารัมภ์วิโรจน์ รองนายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน นางสาวจารุณี จันเวียง ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน นายสงวน สีน้ำอ้อม เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน

    นายสัญญพงศ์ จงแจ้ง ปลัดเทศบาลตำบลโนนหัน(นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) หัวหน้าส่วนราชการท้องถิ่นเทศบาลตำบลโนนหัน พร้อมส่วนราชการในพื้น กำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลโนนหัน ตำบลโนนสะอาด ตำรวจ ทหาร ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ/ดี ด้วยหัวใจ/

    เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ โดยการบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จิตอาสาพระราชทาน ประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรมครั้งนี้
    นายบุญส่ง ทองมูล นายกเทศมนตรีตำบลโนนหัน กล่าวถึงโครงการจิตอาสา หน่วยพระราชทาน และประชาชน


    เราทำความดี ด้วยหัวใจ”สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างความสุข ร่วมกัน”
    กิจกรรมจิตอาสาพัฒนา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ณ ลานพระธาตุหลวงชุมแพ วัดแจ้งสว่างนอก บ้านแสนสุข ตำบลโนนสะอาด

    วินสื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์

    กรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอสีชมพู ร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ
    อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่นวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น

    นายไพศาล วงษ์ซีวะสกุล นายอำเภอสีชมพู ได้เป็น ประธานในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

    ▶️ เวลา 07.30 น.พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล

    ▶️ เวลา 18.00 น.พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และ

    • พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยมีข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
    • จิตอาสาพระราชทาน และประชาชนทั่วไปในพื้นที่อำเภอสีชมพูเข้าร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน

    วินสื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์

    สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดศูนย์ประสานงานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม ประจำจังหวัดน่าน

    แชร์เนื้อหานี้

    ที่วัดมิ่งเมือง อ.เมืองน่าน จ.น่าน จัดพิธีเปิดศูนย์ประสานงานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม ประจำจังหวัดน่าน โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

    ศูนย์ประสานงานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม ประจำจังหวัด ทุกจังหวัด ตั้งขึ้นทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นศูนย์ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือแก่ คณะสงฆ์และประชาชน ที่ประสบภัยต่างๆในจังหวัดนั้นๆ และโดยจังหวัดน่าน มีมติคัดเลือก วัดมิ่งเมือง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นที่ตั้งศูนย์ประสานงานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม ประจำจังหวัดน่าน

    กองทุนสาธารณสงเคราะห์ คณะสงฆ์จังหวัดน่าน มีเงินของกองทุน ณ วันนี้ จำนวน 1,137,239.18 บาทโดยคณะกรรมการบริหารกองทุน ได้ดำเนินการมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือ วัดและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบและเสียหายหนักจากอุทกภัยครั้งนี้ โดยมอบเงินช่วยเหลือวัดต่าง ๆ ใน 7 อำเภอ รวม 103 วัด ๆ ละ 5,000 บาท

    รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 515,000 บาท มอบเงินช่วยเหลือประชาชน ใน 103 คุ้มวัด ๆ ละ 5 ครัวเรือน รวม 515 ครัวเรือน ครัวเรือน ๆ ละ 1,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 515,000 บาท รวมเงินของกองทุนที่จะมอบสงเคราะห์ช่วยเหลือแก่วัดและประชาชน ผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้

    เป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 1,030,000 บาท ซึ่งจะทำพิธีมอบเงินแก่ เจ้าอาวาส 103 วัด ที่มารับมอบในวันนี้ และมอบเงินช่วยเหลือประชาชน 7 อำเภอ โดยผ่านเจ้าคณะอำเภอ พร้อมมอบน้ำดื่มและถุงยังชีพ ซึ่งได้รับการบริจาคจากภาคส่วนต่าง ๆ
    นอกจากนี้ยังได้มอบคุณธรรมประกาศ

    แก่บุคคล คณะบุคคล หน่วยราชการ หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน คณะสงฆ์ ที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ในการให้ความสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนจังหวัดน่านที่ประสบอุทกภัยอีกด้วย/บุญยงค์ สดสอาด ทีมข่าวสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

    สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ฝึกซ้อมแผนการจัดการอุบัติเหตุและการกู้ภัยทางทะเล เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติทางทะเล

    แชร์เนื้อหานี้

    ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันนี้(13 ส.ค. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พล.ต.สมคิด ชูเผือก ผบ.มทบ.44, น.อ.ชำนาญ สอนแพง รอง ผอ.ศรชล.จว. ชพ.

    ร่วมในพิธีเปิดการฝึกซ้อมแผนการจัดการอุบัติเหตุและการกู้ภัยทางทะเลจังหวัดชุมพร โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดชุมพร จัดขึ้น ระหว่าง วันที่ 13 – 15 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมมรกตทวิน อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติหรืออุบัติเหตุทางทะเลในพื้นที่

    เรือโท ณัฐพล สนธิโพธิ์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ศรชล. จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ศรชล.จังหวัดชุมพร จัดการฝึกซ้อมแผนการจัดการอุบัติเหตุและการกู้ภัยทางทะเลจังหวัดชุมพร มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการฝึกซ้อมทบทวนแผนการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงาน

    ให้มีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งตรวจสอบ อุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้ต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุในทะเล เพื่อนำข้อมูลมาใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนเผชิญเหตุของจังหวัดชุมพร รวมทั้งจัดให้มีการฝึกการปฏิบัติการในทะเล

    โดยแบ่งการฝึกออกเป็น 2 ช่วง ประกอบด้วย การอบรมให้ความรู้จากวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถของสำนักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ ศรชล.ภาค 1 และช่วงที่ 2 เป็นการฝึกภาคสนาม ภาคทะเล เป็นการฝึกจำลองจากสถานการณ์จริง ที่เคยเกิดเหตุ

    ในทะเลพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อให้หน่วยงานและผู้เข้าร่วมการฝึก ได้ทบทวนแผนเผชิญเหตุการบัญชาการเหตุการณ์ รวมทั้งการประสานสอดคล้อง ระหว่าง หน่วยปฏิบัติภาคทะเลกับภาคพื้น ตลอดจนเสริมสร้างประสิทธิภาพ การทำงาน แบบบูรณาการ ณ บริเวณพื้นที่ทางทะเลหน้าหาดปากน้ำชุมพร ต.ปากน้ำชุมพรฯ

    นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า จังหวัดชุมพรมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลความยาว กว่า 200 กิโลเมตร ที่ผ่านมามีภัยพิบัติหรืออุบัติเหตุทางทะเล เกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีเหตุการณ์ที่สำคัญอาทิ พายุเกย์ หรือเรือขนส่งสินค้าอับปาง รวมทั้งเรือประมงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่

    ในการฝึกครั้งนี้ มีทั้งการอบรมให้ความรู้ การฝึกเชิงปฏิบัติการ และการฝึกภาคสนาม การทบทวนแผนปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งตรวจสอบเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นข้อมูล จัดทำเป็นแผนเผชิญเหตุของจังหวัด เตรียมความพร้อมในการรับมือกับอุบัติภัยหรือภัยพิบัติทางทะเลของจังหวัดชุมพรต่อไป