เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมัชชาการศึกษา จ.น่านรับรางวัลสมัชชาการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 3 ประเภทการขับเคลื่อนศักยภาพพื้นที่

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และดร.ศิริโชค พิพัฒน์เสฐียรกุล ศึกษาธิการจังหวัดน่านได้มอบหมายให้ ดร.สำรวย ผัดผล นายบุญยงค์ สดสอาด ดร.สุวรินทร์ เพ็ญธัญญการ นางสกนธรัตน์ วงษ์สิริโชตน์ นางปิยะนุช ไชยสมทิพย์ นางสาวปาลิกา คำวรรณ์ สมัชชาการศึกษาจังหวัดน่าน เข้าร่วมประชุมสมัชชาสภาการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 3 ในโอกาสเดียวกันนี้สมัชชาการศึกษาจังหวัดน่านได้รับรางวัลสมัชชาสภาการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 3 ประเภทการขับเคลื่อนศักยภาพพื้นที่ ณ โรงแรมทีเค พาเลชแอนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กกต.บึงกาฬ จัดโครงการเสริมสร้างความรู้ประชาธิปไตย มุ่งสร้างพรรคการเมืองคุณภาพ

แชร์เนื้อหานี้

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมเดอะวันคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬ จัดโครงการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อสร้างพรรคการเมืองคุณภาพ

โดยมี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และผู้แทนพรรคการเมืองในพื้นที่เข้าร่วม ขณะที่ นายไพรัต คัณทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการ

ทั้งนี้ นายแสวง บุญมี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถือเป็นภารกิจสำคัญของ กกต. ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีบทบาทในการขับเคลื่อนสังคมและพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

การจัดโครงการในครั้งนี้ ยังเป็นเวทีให้พรรคการเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการพัฒนาพรรคในเชิงคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน และส่งเสริมการเมืองไทยให้โปร่งใสและเป็นธรรม
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บุก​จับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 แสนบาท​ตำรวจ-ป.ป.ช.-ป.ป.ท. สนธิกำลังบุกล็อกคาห้องทำงาน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.3 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับนายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4, นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการ สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ,

นายนิรุท สุขพ่อค้า ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมุกดาหาร, นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและการข่าว 2 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาว่าที่ ร.อ.วัทธิกร ทรงยศวัฒนา อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิ ชอบภาค 4 ที่ 21/2568 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2568

สืบเนื่องจากผู้รับเหมารายหนึ่งร้องเรียนว่าผู้ต้องหาเรียกรับเงินร้อยละ 8–10 ของวงเงินโครงการก่อสร้างและเสริมผิวถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกจำนวน 7 โครงการ วงเงินรวมกว่า 12 ล้านบาทผู้รับเหมาระบุว่า หลังดำเนินงานเสร็จสิ้นทั้งหมดและได้รับเงินค่าจ้างเพียง 2 โครงการ เป็นจำนวนเงิน 10,278,000 บาท ส่วนอีก 5 โครงการ มูลค่า 2,495,000 บาท

ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากปลัด อบจ.มุกดาหาร ชะลอการอนุมัติ พร้อมทั้งเรียกรับเงิน ร้อยละ 10 ของวงเงินโครงการ หากไม่ยอมจ่าย จะสั่งตรวจสอบย้อนหลังโดยอ้างว่าโครงการไม่ได้มาตรฐาน จนกระทั่งผู้เสียหายต้องยอมตกลงที่จะจ่ายเงินให้โดยได้มีการต่อรองจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจนสามารถตกลงกันได้เป็นจำนวนเงิน 700,000 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมผู้เสียหายได้จ่ายเงินให้แก่ปลัด อบจ.มุกดาหาร ไปแล้ว 500,000 บาท โดยนัดจ่ายส่วนที่เหลืออีก 200,000 บาทในภายหลังหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้เข้าจับกุมปลัด อบจ.มุกดาหาร

พร้อมเงินสดของกลางจำนวน 200,000 บาท ที่ห้องทำงานของปลัด อบจ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวและแจ้งดำเนินคดีในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยมิชอบ เรียกรับผลประโยชน์ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 157

เบื้องต้น ว่าที่ ร.อ.วัทธิกร ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปบันทึกจับกุมที่ สภ.เมืองมุกดาหาร และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#ปลัดอบจมุกดาหาร #สินบนผู้รับเหมา #บกปปป #ปปช #ปปท #จับคาห้องทำงาน #ทุจริตคอร์รัปชัน #ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร #มุกดาหาร
ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สกัดจับรถขนยาเสพติดลงใต้ ได้ของกลางเป็นยาบ้า 1 ล้านเม็ด

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชลผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.ชรัณ ปาณะศรี รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.วิมล แก้วชู, ด.ต.ธนพนธ์ เกิดเขาทะลุ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุมตัว นายสุริยาฯ อายุ 49 ปี ในความผิดฐาน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือประชาชนทั่วไป, เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย แชะ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

พร้อมยึดของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ด สถานที่จับกุม บริเวณทางหลวงหมายเลข 41 ( เอเชีย ) กม.18+400 (ขาล่องใต้) ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพรพฤติการณ์ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 12.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ออกตรวจพื้นที่บนถนนทางหลวงหมายเลข 41 ช่วง กม.18+400 ขาล่องใต้ พื้นที่ตำบลวิสัยเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็น รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์น้ำตาล มีพฤติกรรมน่าสงสัย เนื่องจากติดฟิล์มดำทึบผิดปกติ คาดว่าจงใจจะใช้รถยนต์ในการอำพรางบรรทุกสิ่งของผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบว่าช่วงท้ายรถคันดังกล่าวมีลักษณะห้อยต่ำ คล้ายบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวในระบบฐานข้อมูล Big Data ของตำรวจสอบสวนกลาง พบว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งต่อมาเมื่อผู้ขับขี่รถคันต้องสงสัยได้พบกับรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผู้ขับขี่กลับชะลอความเร็ว แสดงอาการพิรุธจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทำการเรียกตรวจสอบ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดได้แล้วนั้น เจ้าหน้าที่พบพิรุธว่าผู้ขับขี่มีอาการรีบเดินลงมาจากรถทันที ซึ่งคาดว่าเป็นการพยายามที่จะไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินไปที่รถ จากพิรุธดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าวอย่างละเอียด โดยพบกระสอบปุ๋ยสีขาว 5 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสารและท้ายรถ ซึ่งเมื่อเปิดกระสอบออกมาพบเป็น “ยาบ้า” บรรจุแท่งพลาสติกอย่างแน่นหนา จำนวน 100 มัด หรือ 1,000,000 เม็ด

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามนายสุริยาฯ ผู้ขับขี่ โดย นายสุริยาฯ รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ลำเลียงยาเสพติด จากนายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นคนที่จะคอยมอบงานรับ-ส่งยาเสพติดในพื้นที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ให้กับตนเอง โดยครั้งนี้นายสุริยาฯ ได้รับงานให้ขึ้นไปรับยาเสพติดล็อตใหญ่ จากพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อนำไปส่งทางภาคใต้

โดย นายสุริยาฯ ให้การว่าได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 60,000 บาท แต่ยังไม่ทันส่งของถึงที่หมายกลับถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังยอมรับว่า ตนเองได้เสพยาบ้าระหว่างการเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงตรวจปัสสาวะ พบมีสีม่วงชัดเจน และเมื่อส่งตรวจที่โรงพยาบาลผลยืนยัน “เป็นบวก” มีสารเสพติดจริง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งดำเนินคดีกับ พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ตามกฎหมายต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯ ดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล ชุมพร และพื้นที่ชายหาด เฉลิมพระเกียรติ

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันนี้ (21 ส.ค. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นำจิตอาสาพระราชทาน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ

ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรมเก็บขยะใต้น้ำและชายหาดจังหวัดชุมพร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 ภายใต้โครงการประชารวมใจรักษ์ทะเลไทย

เทิดไท้องค์ราชัน โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จังหวัดชุมพร

ณ บริเวณลานอเนกประสงค์หน้าเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร โดยจิตอาสาได้ช่วยกันเก็บขยะชายหาด

ณ บริเวณพื้นที่ชายหาดปากน้ำชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และดำน้ำเก็บขยะใต้

ทะเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร บริเวณพื้นที่ระดับความลึกของน้ำทะเลไม่เกิน 10 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

สำหรับกิจกรรมเก็บขยะใต้น้ำและชายหาดจังหวัดชุมพร จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

ด้วยการลดปริมาณขยะใต้ทะเลและชายฝั่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจภาคทะเลและสิ่งแวดล้อมของประเทศ รวมถึงให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญและมีส่วน

ร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่มีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน และระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แต่งตั้ง ดร.จิต นั่งนายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร จ.ประจวบ ประชุมเครือข่าย 8 จังหวัดองค์กรภาคีฯผู้ประกอบการร้าน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 20 สิงหาคม 68 ที่ รร.ปราณบุรีคาบาน่า รีสอร์ท อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติพัฒน์ สำแดงเดช นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารและแฝงลอย แห่งประเทศไทย นำคณะผู้ประกอบการร้านค้าแฝงลอยฯ กลุ่ม 8 จังหวัดภาคกลาง ร่วมประชุมสัญจร เพื่อกำหนดกฏเกณฑ์ รูปแบบ ระเบียบ ในรูปแบบของแต่ละจังหวัดในนามของสมาคมฯ

เพื่อให้สอดคล้องขานรับกับนโยบายของทางรัฐบาล พร้อมกันนี้ก็ได้มีการแต่งตั้ง ดร.จิตสิริกร หน่อทิม เจ้าของร้านอาหาร”อิ่มอกอิ่มใจ” เป็นนายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยแห่งประเทศไทย(สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) ขึ้นมารองรับ การขยายเครือข่าย สมาคมฯ ออกสู่ทั่วประเทศให้ผู้คนได้รับรู้ ว่าแต่ละจังหวัด นั้นจะมีรายการ อาหาร ในระดับท้องถิ่นที่มีคุณภาพ ให้ได้เห็น

สำหรับในการแต่งตั้ง นายกสมาคมฯ ของจังหวัดประจวบฯ ในครั้งนี้ทาง ดร.สิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผวจ.ปข. นายภาณุมาศ อจลบุญ อัยการจังหวัดหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหินชะอำ ดร.สมชาย กระแจะเจิม ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประจวบฯ และคณะฯ ร่วมมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี ที่ทางสมาคมฯ นี้จะยกระดับร้านค้าอาหารของ ปข. รวม 8 อำเภอ ให้ผู้คนทั่วประเทศได้รู้จัก

ดร.สิทธิชัยฯ กล่าวว่า ตนเองขอแสดงความยินดี กับสมาคมฯ และก็ทราบดีว่านายกฯ นั้นก็มีร้านอาหารที่อร่อย และเป็นเสน่ห์ ให้กับผู้ที่มาเยือน จนทำให้เกิดความประทับใจ และเป็นเอกลักษณ์ ให้กับ จ.ประจวบฯ การที่ได้มีการรวมตัวกันในสัดส่วนของ ร้านอาหาร แผงลอย ในแต่ละอำเภอ ก็จะทำให้ผู้คนที่มาได้จักอาหารการกิน มากยิ่งขึ้นทำให้โครงการนโยบาย”ประจวบต้องไปต่อ”

ได้เดินไปสู่เป้าหมายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้นการที่ทางคณะองค์กรภาคีเครือข่าย 8 จังหวัด และนายกสมาคมฯ มาร่วมกันในวัน ตนเองในฐานะ ผวจ.ปข.ก็ขอแสดงความยินดีที่มาเยือน ซึ่งตนเองก็จะพาคณะของสมาคมฯ ปข.ได้เยือนทางสมาคมฯ ในแต่ละจังหวัดด้วยเช่นกัน
/////////////////////////// ข่าว ณัฐธภพ พันสาย จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เจ้าของสวนสมุนไพรแจ้ง เอาผิดชายฉกรรจ์บุกรุกพื้นที่จับกุมคนสวนโดยไม่มีหมายศาล ทนายความจ่อเอาผิดอีกหลายคดี

แชร์เนื้อหานี้

น.ส.สุภาดา วงศ์ซิ้ม เจ้าของสวนสมุนไพร ได้ลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แกลง ว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองของอำเภอ บุกรุกเข้าไปในพื้นที่บ้านเลขที่ 8/2 ม.5 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง โดยไม่มีการแสดงบัตรเจ้าหน้าที่และหมายศาล

จากนั้นได้ควบคุมตัวพงศ์สุระ ลาภเงิน ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านและสวน ก่อนจะบังคับขู่เข็ญให้ปลดล็อกรหัสโทรศัพท์ ก่อนจะชิงเครื่องโทรศัพท์ไปลบข้อมูลภาพถ่ายในเครื่องที่ผู้ดูแลบ้านและสวนได้ถ่ายไว้ขณะกลุ่มชายดังกล่าวบุกรุกเข้ามาในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต

ก่อนทั้งสามคนจะข่มขู่ต่างๆ นานา พร้อมทั้งทำร้ายร่างกาย และบังคับขึ้นรถยนต์ไป โดยไม่ทราบว่าไปที่ใด จึงเข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

ด้าน นายณัฐพล ทองคำ ทนายความ เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบและสร้างความต่อเจ้าของสวนเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีคนงานมาคอยดูแลพันธุ์ไม้ที่เพาะปลูกไว้ในสวน ซึ่งจะได้เดินทางมาแจ้งความเอาผิดในข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน, ชิงทรัพย์, ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157, การเข้าตรวจค้นไม่มีหมายศาล, การจับกุมไม่มีหมายศาล, ร่วมกันบังคับข่มขืนใจผู้อื่น, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดแถลงข่าวประจำเดือนสิงหาคม 2568 เน้นย้ำการฟื้นฟูเยียวยา และการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประสบอุทกภัย จ.น่าน / สพป.น่าน เขต 1โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ระดับปฐมวัย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตรวรปัญโญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน มอบหมายนายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน

เป็นประธานในการแถลงข่าวประจำเดือนสิงหาคม 2568 ต่อสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในแต่ละเดือนพร้อมนำเสนอผลการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว

โดยมีประเด็นแถลงข่าวเรื่องการฟื้นฟูเยียวยา และการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดน่าน โดยมีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน นายกเทศมนตรีเมืองน่าน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และท้องถิ่นจังหวัดน่านรายงานความคืบหน้าและตอบข้อซักถาม โดยจังหวัดน่าน

ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างโปร่งใส ถูกต้อง และเป็นธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือถึงมือพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่เพื่อนำไปปรับปรุงการดำเนินงานในระยะต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สพป.น่าน เขต 1 เดินหน้าพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแนวทาง โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ระดับปฐมวัย (ขั้นเฉพาะทาง) เรื่อง “เทคโนโลยี : จากที่นี่ไปที่นั่น” และการจัดทำโครงงานรูปแบบวัฎจักรสืบเสาะ สำหรับครูผู้สอนชั้นปฐมวัย

วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมเวทีวิชาการ ดร.วิเชียร วาพัดไทย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 เป็นประธานเปิดการอบรมและบรรยายพิเศษการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแนวทาง

โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ระดับปฐมวัย (ขั้นเฉพาะทาง) เรื่อง “เทคโนโลยี : จากที่นี่ไปที่นั่น” และการจัดทำโครงงานรูปแบบวัฎจักรสืบเสาะ สำหรับครูผู้สอนชั้นปฐมวัย เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในแนวคิดกลักการของโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย

ให้ครูปฐมวัยสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับวัย ตลอดจนส่งเสริมให้ทักษะการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-Based Learnnig) และสร้างเครือข่ายครูปฐมวัยด้านการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ มีครูปฐมวัยในสังกัดเข้ารับการอบรม จำนวน 80 คน และทีมวิทยากรประกอบด้วย

นายนภัทร เครือผดุงสกุล ศึกษานิเทศก์ผู้นำเครือข่ายท้องถิ่น (Local Network : LN) วิทยากรเครือข่าย (Local Trainer : LT) และครูแกนนำระดับปฐมวัย จำนวน 20 คน โดยมี นางศิริรัตน์ แย้มศิลป์ ศึกษานิเทศก์ ชำนาญการพิเศษ กล่าวรายงาน
ในโอกาสนี้ ดร.วิเชียร วาพัดไทย

ได้ชื่นชมครูปฐมวัยทุกคนที่ทำงานด้วยความเสียสละและเอาใจใส่ลูกๆนักเรียน ขอให้คุณครูปฐมวัยทุกท่าน ได้ตั้งใจปฏิบัติงาน และให้สอดแทรกการสอนประวัติศาสตร์ชาติไทย ตามความเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก

เพื่อปลูกฝังให้นักเรียน มีความจงรักภักดีและมีความภาคภูมิใจชาติ ศาสนา และพระมาหากษัตริย์ มานพ เถรหมื่นไวย ภาพ/ข่าว/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สคทช. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในการกำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ (21 สิงหาคม 2568) เวลา09.00น. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในการกำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน (เพิ่มเติม) ของตำบลสะแกราช อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ที่ดินและทรัพยากรดิน คณะทำงานและเลขานุการฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการ

นโยบายที่ดินแห่งชาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องที่ท้องถิ่น อำเภอปักธงชัย เข้าร่วมการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว ณ อาคารเอนกประสงค์อบต.สะแกราช อำเภอปักธงชัย จังหวัดนคราชสีมา
ทั้งนี้ การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน พร้อมทั้งชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) และแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน

สำหรับแบบรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในการกำหนดพื้นที่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน (เพิ่ม) นั้นจะเน้นกลุ่มเป้าหมาย 3 ส่วนคือ 1.กลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย
(ประชาชนที่ได้รับผลประโยชน์หรือได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน) 2.ชุมชนที่เกี่ยวข้อง (ประชาชนที่ได้รับประโยชน์และผลกระทบจากการปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยมีชื่ออยู่
ในทะเบียนบ้าน บริเวณหมู่บ้านถัดไปในบริเวณเพิกถอน/ขยาย ระยะห่างไม่เกิน 1 กิโลเมตร) 3.ประชาชนทั่วไป โดยใช้ประเด็นคำถาม : เส้นแนวเขตที่ใช้ในการปรับปรุงแผนที่แมวรขสุขยานแห่งฮานาติกับสาม

ท่านเห็นด้วยหรือไม่ กับกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์บ้า และพันธุ์พืช จะดำเนินการปรับปรุงเส้นแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ตามมติคณะรัฐมตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 โดยใช้เส้นแนวเขตอทยานแห่งชาติลานปี 2543 เพื่อแก้ไขปัญหาแนวเขตทับซ้อนที่ดินของรัฐ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยได้ซึ่งผู้แสดงความคิดเห็น จะเลือกตอบว่า เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย พร้อมระบุเหตุผล

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศแนวเขตอุทยามแห่งชาติทับลาน ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ นำผลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นไปประกอบการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ต่อไป

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นรข.บึงกาฬ สกัดจับยาแก้ไอลักลอบส่งออก สปป.ลาว พบมีโคเดอีน จัดเป็นยาเสพติดประเภท 3

แชร์เนื้อหานี้

บึงกาฬ – สถานีเรือบึงกาฬ(สน.บึงกาฬ) หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตหนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรและฝ่ายปกครอง ตรวจยึดยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมจำนวนมาก ขณะขบวนการลักลอบเตรียมส่งออกไปยัง สปป.ลาว โดยไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่สถานีเรือบึงกาฬ นรข.เขตหนองคาย ทหารเรือนรข. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรและฝ่ายปกครอง แถลงข่าวตรวจยึดยาแก้ไอ จำนวน 2,400 ขวด จากการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานตำรวจบึงกาฬพบว่า ยาแก้ไอทั้งหมดมีส่วนผสม โคเดอีน ซึ่งตามกฎหมายไทย หากอยู่ในตำรับยาสำเร็จรูป จะถูกจัดเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 3 การลักลอบครอบครองหรือจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่ามีความผิดร้ายแรง ทั้งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ และพระราชบัญญัติศุลกากร

เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางทั้งหมด และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเครื่องดื่มผิดกฎหมายที่นำยาแก้ไอไปผสมกับพืชกระท่อม หรือที่เรียกว่า “4×100” ซึ่งอันตรายและผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด การตรวจยึดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 20.50 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. และ น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย

โดย น.ท.รุ่งเรือง มาสุทธิ หัวหน้าสถานีเรือบึงกาฬ จัดเจ้าหน้าที่ทำการลาดตระเวนทางบก ตามเส้นทางริมโขง บ้านท่าไคร้ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มคนต้องสงสัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทางบกพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกำลังลำเลียงลังกระดาษบรรจุยาแก้ไอไปยังริมฝั่งแม่น้ำโขง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่

ผู้ต้องสงสัยได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบลังกระดาษ 12 ลัง ภายในบรรจุขวดยาแก้ไอรวมทั้งหมด 2,400 ขวด จึงนำกลับไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่สถานีเรือบึงกาฬ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา“ร่วมกันลักลอบนำหรือส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร” ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242

พร้อมทำบันทึกการตรวจยึดและส่งของกลางไปยังด่านศุลกากรบึงกาฬเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ รายงาน