เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทหารเรือ นรข.ร่วมหน่วยความมั่นคงแถลงตรวจยึดยาไอซ์ 117 กก. รวบ2ผัวเมีย พร้อมของกลางริมถนนหลวง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 มีงคง ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย สถานีเรือบึงกาฬ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานร่วมแถลงข่าว การตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 117 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้อง 2 ราย ของกลางยาไอซ์ รถกระบะ 1 คัน พร้อมด้วย น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ประกอบไปด้วย พ.อ.พิชัย ขันโททอง

หน.ฝนผ.กอ.รมน.จังหวัดบึงกาฬ นายธีรพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ว่าที่พ.ต.อ.จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ ผู้แทนตำรวจตชด.244 พ.ต.ต.ประชานารถ แดงเนียม สว.หน.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ ผู้แทน ป.ป.ส.ภาค 4 ผู้แทนกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และผู้แทน บก.อส.จ.บึงกาฬ ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 มี.ค. เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ แจ้งว่ามีสายรายงานสืบทราบมาว่าจะมีการขนลักลอบยาเสพติดข้ามฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่ บริเวณริมแม่น้ำโขง ได้รายงาน น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้ทราบ จึงสั่งการให้ ว่าที่ น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือบึงกาฬ ร.ท.เพชรนคร ผิวขำ และ ร.ท.ไชยา เนียมแสง พร้อมเจ้าหน้าที่ นรข.ได้จัดชุดปฏิบัติการซุ่มเฝ้าตรวจ ออกวางกำลังเข้าตรวจในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนวคาดว่าจะมีการกระทำผิด ระหว่างห้วยดอกไม้ ไปจนถึง บ้านท่าโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ นอกจากนั้นยังมีการชุดสนับสนุนให้อยู่ที่ตั้ง

กระทั่งเวลา 20.30 น.ขณะที่แบ่งกำลังซุ่มอยู่ริมโขงบริเวณพื้นที่ปากห้วยบ้านห้วยดอกไม้ ติดริมแม่น้ำโขง ได้ตรวจพบรถกระบะต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณปากห้วยบ้านห้วยดอกไม้ ชุดปฏิบัติติการเฝ้าตรวจที่อยู่ที่บริเวณปากห้วยประสานไปยังชุดสนับสนุนให้เฝ้าติดตามรถกระบะคันดังกล่าว กระทั่งชุดเฝ้าตรวจสะกดรอยติดตามมาเรื่อยๆ จนมาถึงถนนหมายเลข 212 บึงกาฬ-นครพนม บ้านนาเจริญ ทำการส่งสัญญาณเพื่อให้รถคันดังกล่าวให้หยุดรถขอเข้าทำการตรวจค้น พบผู้ต้องสงสัย 2 ราย เป็นชาย 1 หญิง 1 และพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 3 กระสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วจึงได้นำของกลางกลับมายังสถานีเรือบึงกาฬตรวจสอบรายให้ละเอียดอีกครั้ง เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 117 กิโลกรัม จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ก่อนจะทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. กล่าวว่า สืบเนื่องจากเปิดแผนปฏิบัติการของรัฐบาลในการ ซิล สต๊อป เซฟ และนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ให้ นรข.ได้ร่วมบูรณาการกับหน่อยความมั่นคงในพื้นที่ในการสกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบลำเลียงนำเข้ายาเสพติดเข้าไปในพื้นที่ชั้นในของประเทศ การปฏิบัติวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่เราได้รับข่าวจากสายข่าวมีส่วนสำคัญในการนำมาซึ่งการจับกุมมีส่วนของการแถลงข่าววันนี้

ด้าน นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายปกครองได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานบูรณาการร่วมกันในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ในการแก้ปัญหาอีกส่วนหนึ่ง เมื่อครั้งที่แล้วได้แถลงข่าวจับยาบ้าไปล้านกว่าเม็ด ครั้งนี้เป็นยาไอซ์ก็แสดงว่ามีจุดเข้าของยาเสพติดในเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬยังคงมีตลอด ทั้งนี้เหมือนจะขยายเข้าพื้นที่ตอนในประเทศ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ก็เป็นห่วงเป็นใยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มาตรการ ซิล สต๊อป เซฟ ต้องเริ่มจากจังหวัดชายแดน ต้องขอบคุณกองกำลังไม่ว่าจะเป้นทหารเรือ ทหารบก ตำรวจ ความมั่นคงภายใน พี่น้อง อส.ซึ่งกระผมเองต้องเดินทางไปรับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนเราจะการสนับสนุนงบประมาณมาช่วย เพราะว่าการทำงานในพื้นที่ชายแดนต้องอาศัยสายข่าวค่อนข้างเยอะ หากวันนี้ไม่ได้สายข่าวจะไม่ได้จับกุมแน่นอน จึงต้องใช้งบประมาณมาสนับสนุนสายข่าวหาข่าว ส่วนการลงโทษผู้กระทำผิดให้อัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจลงโทษสถานหนักกับผู้ที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติด และประสานงานกันอย่างเคร่งครัด ต้องสกัดกั้นให้หมด ควบคุมระบาดในพื้นที่ตอนในได้ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจปัญหายาเสพติด และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบคือครอบครัว โดยจะกลับไปให้ข้อมูลที่ดีกับประชาชนให้ความร่วมมือลดละเลิกยาเสพติด
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล //บึงกาฬ 0645960906

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ค้านเปิดเหมืองหินใกล้ ร.ร.จุฬาภรณ์ฯ ! ชาวบ้านร้อง ศดธ.จ.มุกดาหาร ค้านออกประทานบัตรเหมืองหินบางทรายใหญ่

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568​ตัวแทนชาวบ้านตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหารเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ขอให้ทบทวนการออกประทานบัตรของบริษัท สิงห์โต เอ็นจิเนียร์ จำกัด ซึ่งได้ขออนุญาตประทานบัตรทำเหมืองแร่ (ระเบิดหิน) โดยตัวแทนชาวบ้านชาวบ้านกล่าวว่า การทำเหมืองของบริษัทที่ได้ขอใบประทานบัตรเพื่อประกอบกิจการทำเหมืองแร่ดังกล่าวอยู่ในบริเวณพื้นที่บ้านหนองหอย ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร

ทั้งนี้ แม้จะเป็นการขอประทานบัตรในพื้นที่ของตนเอง แต่การที่จะระเบิดหิน โดยที่บ่อหินอยู่ไม่ห่างจากถนนเส้นเศรษฐกิจพิเศษ มห. 3019 มุกดาหาร รัศมีการระเบิดหินย่อมจะส่งผลกระทบต่อรถขนส่งสินค้าและจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ ของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงสถานศึกษา อีกด้วย นอกจากนี้ชาวบ้านยังมีความกังวลถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งเสียงและฝุ่น จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทบทวนการอนุญาตประทานบัตร ของบริษัท สิงโต เอ็นจิเนียร์ จำกัด ด้วย

ทั้งนี้ ชาวบ้านหวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารจะพิจารณาทบทวนการอนุญาตโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการรักษาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า บริเวณพื้นที่ขอประทานบัตรเหมืองหินอยู่ห่างจากถนนเลี่ยงเมืองทางหลวงชนบท สาย มห. 3019 ประมาณ 600 เมตร ห่างจากวัดป่าถ้ำตาดา ประมาณ 700 เมตรและห่างจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยประมาณ 1.9 กิโลเมตร

ค้านเปิดเหมืองหินใกล้โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ฯ #ร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร #ร้องคัดค้านอนุญาตประทานบัตรเหมืองหินบริษัทสิงห์โตเอ็นจิเนียร์จำกัด #ตำบลบางทรายใหญ่ #จังหวัดมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มทภ.4 ชักชวนผู้นำศาสนารณรงค์ชักชวนชาวบ้านทำความดีละเว้นความชั่วเดือนรอมฎอน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 4 มค.68 ที่มัสยิดบันนังกาแย อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เดินทางร่วมกิจกรรมพบปะระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้นำศาสนาตลอดจนพี่น้องมุสลิม

ในพื้นที่ เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมสำคัญทางศาสนาในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ พร้อมทั้งส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างภาครัฐและประชาชน โดยแม่ทัพภาพที่ 4 กล่าวว่า ขอยึดมั่นในนโยบายที่วางไว้ ในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของพี่น้องไทยมุสลิม

ที่จะให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก สร้างความมั่นคงปลอดภัยในการประกอบศาสนกิจอย่างเต็มที่แก่ประชาชน เพื่อให้เดือนรอมฎอนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เจ้าหน้าที่และส่วนราชการพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวก

แต่ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นทุกส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันรณรงค์ชักชวนการทำความดีละเว้นความชั่วทั้งปวง สร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนร่วมกันสร้างสังคมสันติสุขให้เป็นเดือนรอมฎอนสันติสุข

ปราศจากความรุนแรง อย่างไรก็ตามพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมอัตลักษณ์ความงดงามของคนในพื้น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายชุดมลายู หรือการประกวดซุ้มประตู ทั้งนี้ทุกกิจกรรมสามารถกระทำ

ได้ตามความเหมาะสมโดยต้องไม่ละเมิดหรือผิดกฎหมาย หรือปล่อยให้บุคคลที่ 3 มาทำกิจกรรมแอบแฝง ส่งผลกระทบความมั่นคงรวมถึงขอให้ผู้ปกครองให้ช่วยกันกำชับลูกหลาน

ในเรื่องการเล่นจุดประทัดและดอกไม้ไฟ เพราะก่อให้เกิดอันตรายเพราะเป็นการกระทำที่ผิดต่อหลักศาสนาและผิดกฎหมาย ก่อนที่แม่ทัพภาค 4 จะมอบสิ่งของต่างๆที่ไปบริโภคในช่วงละศีลอดให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
///////////////////////////////
ข่าว/อาอีซะห์/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐทีวี/ตร.ประจวบ ร่วมกับการไฟฟ้าปราณบุรี จับเหมืองบิทคอยน์กลางเมืองปราณ  พบเครื่องขุดบิทคอยน์ จำนวน 32 เครื่อง  ผู้ต้องหา 2 คน ข้อหาลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าหลวงอย่างผิดกฎหมาย

แชร์เนื้อหานี้

Lavc58.134.100

เมื่อเวลา17.30 น. วันที่ 3 มี.ค.68 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรายงานว่ามีการลอบใช้ไฟหลวงขุดบิตคอยน์ ทำให้การไฟฟ้าได้รับความเสียหาย บริเวณบ้านเช่า ในซอยรัฐ,บำรุง 9 ตรงข้ามโรงเรียนบ้านตำหรุ ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.ปราณบุรี พนักงานสอบสวน สืบสวน สภ.ปราณบุรี เจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานประจวบฯ  และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปราณบุรี รุดไปที่เกิดเหตุ

Lavc58.134.100

สืบเนื่องจากวันนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปราณบุรี ได้เข้าตรวจสอบบ้านแบ่งให้เช่า ห้องเลขที่ 110/10  พบว่าห้องดังกล่าวมีการใช้ไฟฟ้าผิดปกติ จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรปราณบุรีมาร่วมตรวจค้น พร้อมขออนุญาตเจ้าของห้องเช่าเข้าตรวจค้นภายในห้อง พบว่าหลังห้องมีชั้นวางของมีเครื่องขุดบิทคอยอยู่เป็นจำนวนมากจำนวน 32 เครื่อง มีเครื่องบิทคอยที่กำลังเปิดเครื่องใช้ จำนวน 21 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึด อายัดเครื่องขุดบิทคอยทั้งหมด ไว้เพื่อตรวจสอบ ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าพึ่งมาเช่าห้องทำได้ประมาณเดือนกว่าส่วนเครื่องขุดบิทคอยก็ซื้อเครื่องมือ 2 มาใช้ราคาไม่แพง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนนำเครื่องบิทคอยน์ พร้อมควบคุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ไปสอบสวบที่ สภ.ปราณบุรีต่อไป

Lavc58.134.100

พล.ต.ต.นครินทร์ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการปฏิบัติหน้าที่ของการไฟฟ้ามาตรวจสอบบริเวณนี้พบว่ามีการใช้กระแสไฟฟ้าแบบผิดปกติจึงประสานบ้านเจ้าของผู้ใช้ไฟเข้าตรวจสอบพบว่ามิเตอร์ไฟเดินไม่ปกติ เดินช้า กระแสที่การไฟฟ้าวัดพบมีมีกระแสไฟเข้าไปผิดปกติ และได้ยินเสียงพัดลม เมื่อเปิดเข้าไปก็มีเครื่องใช้ในการขุดบิทคอยน์ซึ่งกำลังเปิดทำงานอยู่ จำนวน 20 ตัว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ที่มาเช่าไว้ จำนวน 2 รายซึ่งจะต้องดำเนินคดีทั้ง 2 คน เบื้องต้นผู้ต้องหา อ้างว่าพึ่งมาเช่าห้องได้ประมาณเดือนเศษๆ และจะสอบเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเป็นพยานและมีการกล่าวหาดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วนการพิสูจน์ว่ามีข้อหาอะไรเพิ่มเติมพนักงานสอบสวนจะมาพิจารณาอีกครั้ง

Lavc58.134.100

นายกลยุทธ แก้วอัมพร หัวหน้าแผนกมิเตอร์การไฟฟ้าปราณบุรี กล่าวว่า วันนี้การไฟฟ่ลช้าได้มีการมาสุมตรวจสอบมิเตอร์ พบว่ามีการใช้กระแสมิเตอร์ 3 เฟดมีการใช้กระแสไฟค่อนข้างสูง ค่าไฟที่เกิดขึ้นมีปริมาณค่อนข้างน้อยไม่สอดคล้องกัน เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามิเตอร์มีการละเมิดการใช้ไฟฟ้าเพื่อนำกระแสไฟฟ้าไปใช้กับเครื่องขุดบิทคอยน์ ตรวจสอบพบว่ามีเครื่องบิทคอนย์จำนวน 35 เครื่อง ใช้งานจำนวน 21 เครื่อง ความผิดก็การละเมิดการใช้ไฟในการขุดบิทคอยน์เสียค่าเบี้ยปรับต่อการไฟฟ้าต่อไป
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

Lavc58.134.100
Lavc58.134.100

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดบ้านวิชาการโรงเรียนบ้านป่าสักไก่ ประชาชนม่วนคัก ได้ประชันฝีมือลาบ

แชร์เนื้อหานี้

เสียงเขียงดังสนั่น ผอ.การท่าหนุนจัดอีก เน้นส่งเสริมและสนับสนุนหมู่บ้านรอบกาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ในอนาคตอันใกล้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เมื่อเวลา09.00 น.วันที่28กุมภาพันธุ์ 2568ที่ผ่านมาที่ ณ สนามโรงเรียนบ้านป่าสักไก่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงรายนายชัยวัฒน์  ศรีเสาวลักษณ์ ประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านป่าสักไก่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานเปิดบ้านวิชาการลานOTOPชุมชน โดยรอบอากาศยานครั้งที่ 1/2568 ต่อ นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ในวันดังกล่าวมี  การแสดงนิทัศน์การ ด้านวิชาการโรงเรียนบ้านป่าสักไก่   การแสดงนิทัศน์การสาธิตป้องกันอัคคีภัย แจกแผ่นพับสาระฯประโยชน์จากการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง การแสดงสินค้าOTOP สินค้าผักและอาหารพื้นบ้านจากซุ้ม4หมู 3,10,12,14,16,20จากนั้นประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านป่าสักไก่ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงได้ตรวจเยี่ยมชมซุ้มแต่ละหมู่บ้านที่ได้นำสินค้าพื้นบ้านออกมาแสดง โดยมีการทักทายผู้นำหมู่บ้านและแม่บ้านพ่อบ้านที่ร่วมงานครั้งนี้  นอกจากนี้มีการแสดงการเต้นประกอบเสียงเพลงของกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กโรงเรียนบ้านป่าสักไก่ ประกวดร้องเพลงลูกทุ่งดาวรุ่งจากตัวแทน6 หมู่บ้าน 

ในเวลา11.00 น.มีการประกวดแข่งขันลาบเมืองเหนือ และเวลาบ่ายโมงมีการประกวดแข่งขันส้มตำลีลาทำให้บรรยากาศในบริเวณวานคึกคักสร้างสีสันความสนุกแก่ผู้ร่วมงาน ปิดท้ายด้วยการแสดงของนักเรียนบ้านป่าสักไก่ แสดงวงดนตรีไทย ฟ้อนแม่ระมิงค์ สวัสดีอาข่า  นาวาอากาศตรี สมชนก ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ได้ดูแลและสนับสนุนชาวบ้านในชุใชนโดยรอยท่าอากาศยานฯเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และส่งเสริมชาวบ้านให้ได้มีโอกาส เงินสร้างรายได้ในชุมชน ประกาศชื่อเสียงของดีหมู่บ้าน เป็นที่น่ายินดีว่าขณะนี้การท่าอากาศยานฯจังหวัดเชียงรายจะเป็นศูนย์กลางการซ่อมอากาศยานที่ใหญ่สุดในประเทศไทย อนาคตลูกหลานคนเชียงรายจะมีโอกาสเข้าทำงานเพราะจะมีการจ้างงานเป็นจำนวนมาก การจัดงานในวันนี้การท่าอากาศยานฯเห็นความสามัคคีระหว่างผู้นำชาวบ้าน โดยเฉพาะกรรมการศึกษาโรงเรียนบ้านป่าสักไก่ได้วางแผนการจัดงานออกมาดีเยี่ยมในโอกาสต่อไป ทางการท่าอากาศยานฯคงยังจะต้องสนับสนุนต่อไปเนื่องจากเห็นรอยยิ้มประชาชน  

ด้านนายชัยวัฒน์ ประธานกรรมการศึกษาโรงเรียนบ้านป่าสักไก่ กล่าวว่ารูปแบบการจัดงานปีนี้เราได้รับการตอบรับจากประชาชน6หมู่บ้าน สามารถแสดวผลงานทางด้านวิชาการของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าสักไก่และความสามัคคีระหว่างผู้นำและประชาชน6หมู่บ้าน สินค้าพื้นบ้านผักปลอดสารพิษและอาหารพื้นเมืองขายดีมาก หมดทุกราย รวมทั้งได้ส่งเสริมสนับสนุนผีมือการทำลาบเมืองเหนือและส้มตำลีลา คัดสรรยอดฝีมือ และปีหน้าอาจจะมีการขยายและต่อยอดหมู่บ้านที่เข้าร่วมอีกหลายหมู่บ้านทั้งนี้อยู่ที่การสนับสนุนงบจากการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต้องขอขอบคุณการท่าฯมาณโอกาสนี้.

ธนกฤต #วรรมณี #รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สว.มาเรีย ลงพื้นที่สะพานข้ามแยกแสงอรุณ หลังได้รับการประสานจากผู้นำและชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างสะพานข้ามแยก ถนนเพชรเกษม

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 2 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อม นายสุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายก อบต.แสงอรุณ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำในพื้นที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างสะพานข้ามแยกยูเทิร์นกลับรถ บ้านแสงอรุณ ตำบลแสงอรุณ อำเภอทับสะแก

หลังได้รับการร้องขอแก้ไขว่า ช่วงถนนเพชรเกษมเลนคู่กับสะพาน ฝั่งขาขึ้น กทม. ที่จะเลี้ยวเข้าบ้านไร่ใน แบบโครงการเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ถนนจะมีความลาดชันต่ำกว่าถนนสายรอง ประมาณ 1.50 เมตร รถเล็กอาจไม่สามารถ ขึ้น-ลง ได้ตามปกติ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน และผู้ปกครองที่มา รับ-ส่ง บุตรหลานจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมรับคำชี้แนะจากนายช่างผู้ควบคุมงานบริเวณจุดดังกล่าว

ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4 สาย บ.ห้วยยาง – อ.บางสะพาน (4 ช่องจราจร ) สัญญาที่ สท.1/10/2566 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566 วันเริ่มต้นสัญญา วันที่ 26 เมษายน 2566 วันสิ้นสุดสัญญา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ผู้รับจ้าง บริษัท เอ็ม.ซี. คอนสตรัคชั่น (1979) จำกัด

ออกแบบโดยสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวงควบคุมงานโดย สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง ซึ่งหากทำตามแบบแปลนการก่อสร้างจะทำให้ถนนสายรองแยกเข้าบ้านไร่ใน จะมีความชันสูงเนื่องจากถนนเพชรเกษมจะต่ำลง ชาวบ้านเกรงได้รับอันตราย จึงขอให้ทาง กรมทางหลวงแก้ไข้แบบแปลนหรือทำถนนให้รับกับทางสายรองได้ไหม

ด้าน นายกวีวัฒน์ รุจิรปัญญานนท์ ผู้บริหาร หจก ตรงตวงปิโตรเลียม ซึ่งมีปั้มน้ำมันอยู่ช่วงขาลงสะพานข้ามแยกฝั่งขาขึ้น กทม.มีหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีการดำเนินการก่อสร้าง โครงการสะพานข้ามแยก ทล.4 ตำแหน่ง กม. 340+770 ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างและปรับเปลี่ยน เบี่ยงทางจราจรหน้า PTT Station ประมาณ 200 เมตร และทราบว่าโครงการมีแผนจะสร้างเกาะทางเท้าหน้าสถานีบริการน้ำมัน หจก.ตรงดวง ปีโตรเลียม

ในส่วนนี้จึงขอให้พิจารณายกเลิกการสร้างเกาะทางเท้าหน้าสถานีบริการน้ำมัน หจก.ตรงตวงปีโตรเลียม หรือให้ทำเป็นก้างปลาจะดีกว่า โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ได้มีการตรวจรับงานโครงการบางส่วน ประธานโครงการ ได้รับปากว่าจะแก้ไขปรับปรุง ณ ปัจจุบันยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขใด ๆ จึงแจ้งทางศูนย์ดำรงธรรรมเพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการสะพานข้ามแยก ทล.4 บ.ห้วยยาง-บางสะพาน ตำแหน่ง กม. 340+770 มาตกลงแบบการก่อสร้างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะทำการแก้ไขได้อย่างไร

น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบปัญหา ได้ลงพื้นที่ดูพบว่าการก่อสร้างของกรมทางหลวงนั้นมีประโยชน์ต่อชาวบ้าน แต่อยากให้กรมทางหลวงปรับแก้ไขเรื่องแบบแปลนการก่อสร้าง ให้สัมพันธ์เข้ากับสภาพปัญหาในพื้นที่ ให้กับชาวบ้านที่ต้องใช้สัญจรในชีวิตประจำวัน โดยเบื้องต้นจะประสานไปทางกรมทางหลวงเพื่อหาแนวทางแก้ไขและปรับแปลนแบบได้แค่ไหน
//////////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เทศบาลตำบลป่งไฮ!!!!จัดกิจกรรม​เดิน-วิ่ง​ มินิมาราธอน PONGHAI RUN​ 2025 ป่งไฮสุขภาพดี

แชร์เนื้อหานี้

เช้าวันที่​ 2 มีนาคม 2568​ ที่บริเวณสนามหน้าอาคารเทศบาลตำบลป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ นายปรีชา กุมภิโร นายกเทศมนตรีป่งไฮ เป็นประธานในพิธีเปิดและปล่อยตัวนักวิ่ง กิจกรรม PONGHAI RUN​ 2025​ ป่งไฮสุขภาพดี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ​ สมาชิกสภา​เทศบาล​ นักวิ่งสุขภาพ เข้าร่วมในพิธี​ฯ

โดยมีนางสาวภัณฑิรา อินธิเสน หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาตำบลป่งไฮ ในนามของคณะผู้จัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน PONGHAI RUN 2025​ ป่งไฮสุขภาพดี กล่าวว่าการจัดกิจกรรมวิ่งในครั้งนี้ ​

เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการออกกำลังกายใส่ใจดูแลสุขภาพ แบบมินิมาราธอนระยะทาง 7 กิโลเมตร แบ่งเป็นประเภทถ้วยรางวัล 5 ประเภท ประเภทรุ่นที่ 1 อายุไม่เกิน 34 ปี มี 6 รางวัล

แบ่งเป็นชาย 1-3 หญิง 1-3 ประเภทรุ่นที่ 2 อายุ 35-50 ปี มี 6 รางวัล แบ่งเป็นชาย 1-3 หญิง 1-3 ประเภทรุ่นที่ 3 อายุ 51 ปีขึ้นไป มี 6 รางวัล แบ่งเป็นชาย 1-3 หญิง 1-3 ประเภทรุ่นที่ 4

Overall เป็นชาย 2 หญิง 2 ประเภทรุ่นที่ 5 แต่งชุดแฟนซี 2 ถ้วยรางวัล โดยผู้ที่เข้าเส้นชัยของแต่ละรุ่น จะมีถ้วยรางวัล​ อันดับที่ 1 จะได้ถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล รางวัลที่ 2 ถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล รางวัลที่ 3 ถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล

นายปรีชา กุมภิโร นายกเทศมนตรีป่งไฮ กล่าวเพิ่มเติมว่าปัจจุบันคนให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้น การวิ่งกลายเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะการวิ่ง มาราธอนที่เป็นกีฬายอดนิยมของคนทั่วโลก สำหรับงานวิ่งมินิมาราธอนของ​เทศบาลตำบลป่งไฮ

ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยในปีนี้มีผู้สนใจลงทะเบียนร่วมกิจกรรมจำนวน 500 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้พนักงาน​ และประชาชนทั่วไป

ให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายด้วยการเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ รวมทั้งเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในชุมชนและในจังหวัดบึงกาฬ ให้รู้รักสามัคคีอีกด้วย

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//0961464326

สื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์ / ศึกมหากุศล ครั้งยิ่งใหญ่ ณ.ตลาดชุมชนดงขี้เหล็ก ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี

แชร์เนื้อหานี้

ศึกมหากุศล ครั้งยิ่งใหญ่ณ.ตลาดชุมชนดงขี้เหล็ก ประธานกล่าวงานการเปิดแข่งขันชกมวย นายก อุดม ตระกูลษา

วันที่ 1 มีนาคม 2568 ศึกมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ ณ.ตลาดชุมชนดงขี้เหล็ก ประธานกล่าวเปิดงาน นายกอุดม ตระกูลษา และให้เกียรติคล้องพวงมาลัยให้กับนักมวยทั้งคู่ และผู้สนับสนุนอีกหลายๆท่าน กำนัน อรรถรส จันทร์ชัย นายภาณุพงศ์ กล่ำสวัสดิ์ สจ.แมน

นายคำภู วงษคำหาญ รองนายก อบต ดงขี้เหล็ก ลุงสืบ ประธานกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับ นายเฉลิมเกียรติ จำปาทอง ผู้ใหญ่ไก่ หมู่ 15 นายกิตติศักดิ์ กัญจน์ปัทมภพ ได้มอบเงินสนับสนุนให้กับนักมวย อธิวัฒน์ กัตพงษ์ โปรโมเตอร์

ประกบคู่มวย อ.บัวทอง ดีสม และปุ้ย ปราจีน
ณ.ตลาดชุมชนดงขี้เหล็ก ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
เอ คนข่าวรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สว.มาเรีย ลงพื้นที่สะพานข้ามแยกแสงอรุณ หลังได้รับการประสานจากผู้นำและชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างสะพานข้ามแยก ถ.เพชรเกษม

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 2 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อม นายสุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายก อบต.แสงอรุณ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำในพื้นที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างสะพานข้ามแยกยูเทิร์นกลับรถ บ้านแสงอรุณ ตำบลแสงอรุณ อำเภอทับสะแก หลังได้รับการร้องขอแก้ไขว่า ช่วงถนนเพชรเกษมเลนคู่กับสะพาน ฝั่งขาขึ้น กทม. ที่จะเลี้ยวเข้าบ้านไร่ใน แบบโครงการเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ถนนจะมีความลาดชันต่ำกว่าถนนสายรอง ประมาณ 1.50 เมตร รถเล็กอาจไม่สามารถ ขึ้น-ลง ได้ตามปกติ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน และผู้ปกครองที่มา รับ-ส่ง บุตรหลานจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมรับคำชี้แนะจากนายช่างผู้ควบคุมงานบริเวณจุดดังกล่าว

ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4 สาย บ.ห้วยยาง – อ.บางสะพาน (4 ช่องจราจร ) สัญญาที่ สท.1/10/2566 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566 วันเริ่มต้นสัญญา วันที่ 26 เมษายน 2566 วันสิ้นสุดสัญญา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ผู้รับจ้าง บริษัท เอ็ม.ซี. คอนสตรัคชั่น (1979) จำกัด ออกแบบโดยสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวงควบคุมงานโดย สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง ซึ่งหากทำตามแบบแปลนการก่อสร้างจะทำให้ถนนสายรองแยกเข้าบ้านไร่ใน จะมีความชันสูงเนื่องจากถนนเพชรเกษมจะต่ำลง ชาวบ้านเกรงได้รับอันตราย จึงขอให้ทาง กรมทางหลวงแก้ไข้แบบแปลนหรือทำถนนให้รับกับทางสายรองได้ไหม

ด้าน นายกวีวัฒน์ รุจิรปัญญานนท์ ผู้บริหาร หจก ตรงตวงปิโตรเลียม ซึ่งมีปั้มน้ำมันอยู่ช่วงขาลงสะพานข้ามแยกฝั่งขาขึ้น กทม.มีหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีการดำเนินการก่อสร้าง โครงการสะพานข้ามแยก ทล.4 ตำแหน่ง กม. 340+770 ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างและปรับเปลี่ยน เบี่ยงทางจราจรหน้า PTT Station ประมาณ 200 เมตร และทราบว่าโครงการมีแผนจะสร้างเกาะทางเท้าหน้าสถานีบริการน้ำมัน

หจก.ตรงดวง ปีโตรเลียม ในส่วนนี้จึงขอให้พิจารณายกเลิกการสร้างเกาะทางเท้าหน้าสถานีบริการน้ำมัน หจก.ตรงตวงปีโตรเลียม หรือให้ทำเป็นก้างปลาจะดีกว่า โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ได้มีการตรวจรับงานโครงการบางส่วน ประธานโครงการ ได้รับปากว่าจะแก้ไขปรับปรุง ณ ปัจจุบันยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขใด ๆ จึงแจ้งทางศูนย์ดำรงธรรรมเพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการสะพานข้ามแยก ทล.4 บ.ห้วยยาง-บางสะพาน ตำแหน่ง กม. 340+770 มาตกลงแบบการก่อสร้างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะทำการแก้ไขได้อย่างไร

น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบปัญหา ได้ลงพื้นที่ดูพบว่าการก่อสร้างของกรมทางหลวงนั้นมีประโยชน์ต่อชาวบ้าน แต่อยากให้กรมทางหลวงปรับแก้ไขเรื่องแบบแปลนการก่อสร้าง ให้สัมพันธ์เข้ากับสภาพปัญหาในพื้นที่ ให้กับชาวบ้านที่ต้องใช้สัญจรในชีวิตประจำวัน โดยเบื้องต้นจะประสานไปทางกรมทางหลวงเพื่อหาแนวทางแก้ไขและปรับแปลนแบบได้แค่ไหน
//////////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / Open Up Communication เสริมทัพกิจกรรม “มังกรหยก” สุดยิ่งใหญ่แบบต่อเนื่อง

แชร์เนื้อหานี้

จากกระแสความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ “Legends of The Condor Heroes : The Gallants – มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่” ซึ่งมีซูเปอร์สตาร์ดาวรุ่ง ‘เซียวจ้าน’ รับบท ก๊วยเจ๋ง ที่พากระแสหนังจีนกลับมาขึ้นแท่นเปิดตัวหนังยอดนิยมอันดับ 1 ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉายในไทย ด้วยยอดขาย 12.3 ล้านบาททั่วประเทศ ที่สำคัญกลุ่มแฟนคลับของพระเอกหนุ่ม ‘เซียวจ้าน’ ที่จัดโดย @YiZhanForeverTH และ Open Up Communication ยังทำกิจกรรมเหมาโรง “สยามภาวลัย” กว่า 1,052 ที่นั่งไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เหล่าเอฟซียังพากันตบเท้าชวนกันมาแต่งชุดจอมยุทธ์ไปตะลุยยุทธภพกับ “ก๊วยเจ๋ง” จนกระหึ่มโรงภาพยนตร์ พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากเครื่องดื่มแบรนด์ if ซึ่ง เซียวจ้าน เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ได้นำสแตนดี้และของรางวัลจากจีนมามอบความสุขให้แฟนคลับอย่างมากมายอีกด้วย

และกิจกรรมของแฟนคลับเซียวจ้าน กับภาพยนตร์เรื่อง “มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่” ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ โดยในวันที่ 8 – 30 มีนาคม 2568 ทางกลุ่ม FC @YiZhanForeverTH จะจัดทำ โฟโต้แกลอรี่ เพื่อเป็นการโปรโมท Xiao Zhan x Guo Jing ณ ศูนย์การค้า Union Mall Union Co-Event Space Zone C ชั้น G โดยแฟนๆสามารถไปถ่ายภาพนิทรรศการได้ทุกวัน และพลาดไม่ได้กับ “กิจกรรมรอบเหมาโรงหนังดูมังกรหยกพิเศษสุดของแฟนคลับเซียวจ้าน” ที่นอกจากจะได้ดูหนังแล้ว ยังมีของที่ระลึกที่น่าเก็บสะสมและได้ลุ้นรางวัลอีกมากมาย โดยจะเปิดจองรอบพิเศษฉบับเสียงพากย์ไทย ใน วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 และในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถจองตั๋วมาร่วมงานได้ที่ Line ID @475yazyr หรือติดตามรายละเอียดได้ที่

X Twitter: https://x.com/YIZHANForeverTH

Facebook: https://www.facebook.com/YIZHANForever