เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ป.ป.ส. นำทัพสื่อลงพื้นที่บำบัด ร่วมสร้างพลังชุมชนเข้มแข็ง คืนคนคุณภาพสู่สังคม

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 27 -28 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ
นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ เขต 3 นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายแพทย์ ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด พ.จ.อ.โสภณ สิทธิจันทร์ นายอำเภอโซ่พิสัย น.พ.ตฤณกฤต สิทธิศรนพ.ชำนาญ

การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรเจริญ นายมนตรี จารุธำรง นายอำเภอพรเจริญ พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากคาด นายแพทย์จรูญ สุรารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากคาด นพ.สุรพงษ์ ลักษวุธ รองนพ.สสจ.บึงกาฬ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลโซ่พิสัย นายภาคภูมิ เดชหัสดิน หรือ หมอแล็บแพนด้า นายพงษ์พันธ์ วิจารย์ประสิทธิ์ เจ้าของเพจคุณพระ พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. และคณะสื่อมวลชนส่วนกลางและภูมิภาคลงพื้นที่ จังหวัดบึงกาฬ

เพื่อเป็นการสนับสนุนงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์การสร้างการรับรู้การดำเนินงานด้านยาเสพติดของรัฐบาล และสำนักงาน ป.ป.ส. รวมทั้ง เป็นการสร้างความสัมพันธ์สื่อมวลชนได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องอันจะเกิดภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้กับหน่วยงาน รวมไปถึงนโยบายต่าง ๆ ไปสู่ประชาชนเป้าหมายให้เกิดความตระหนัก และมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดผ่านการศึกษาดูงานการบำบัด และฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ

ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมากที่สุด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในปี 2567 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เข้ารับการบำบัดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากกว่าปี 2566 และหากเทียบกับจำนวน ผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดทั้งประเทศในปี 2567 จะมีปริมาณมากกว่าภาคอื่นๆ เมื่อเทียบจากจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดทั้งหมดในประเทศ จึงถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญที่ควรมีการเฝ้าระวัง ติดตามและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงพื้นที่บำบัด และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด จำนวน 3 พื้นที่ ได้แก่

พื้นที่อำเภอปากคาดโดยศึกษาดูงานค่ายฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเป็นค่ายฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดจำนวน 120 วัน ประกอบด้วยผู้บำบัดชายล้วน จำนวน 40 คน โดยมีกระบวนการบำบัด 2 เดือนแรก จะเน้นไปที่การฟื้นฟูสมอง โดยการให้ความรู้กึ่งวิชาการ จากทำกิจกรรมฟื้นฟูสมอง เช่น กิจกรรมสันทนาการ นันทนาการ และใน 2 เดือน

หลังจะเป็นการฝึกอาชีพ เช่น ซ่อมเครื่องยนต์ ทำพรมเช็ดเท้า อาหารแปรรูป เป็นต้น โดยค่ายดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเป็นสถานที่บำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่สร้างขึ้นจากสภาพปัญหาภายในชุมชน ที่มีผู้เสพผู้ติดเป็นจำนวนมาก โดยเน้น การเข้ารับการบัดบัดโดยสมัครใจ และการผลักดันจากคนในชุมชนเพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันสร้างปลอดภัยโดยกิจกรรมการจะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างพลังชุมชนเข้มแข็งคืนคนคุณภาพสู่สังคม

พื้นที่ต่อมาได้เดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่อำเภอพรเจริญ โดยมีการศึกษาดูงานในโรงพยาบาลพรเจริญซึ่งเป็นการศึกษาบำบัดผู้ติดยาเสพติดขั้นรุนแรง ปัจจุบันมีจำนวน 7 คน ต้องดูแลใกล้ชิด และมีการรักษาโดยการให้ยา มีระยะเวลา 14 วัน และมีการสาธิตการทำครอบครัวบำบัด เนื่องจากเป็นผู้ป่วยขั้นรุนแรงที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่สามารอยู่ร่วมกับชุมชนได้ จึงต้องการการรักษาในโรงพยาบาล และเมื่ออาการดีขึ้นก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีครอบครัวที่คอยดูแลอย่างถูกวิธีจึงเกิดการทำครอบครัวบำบัดขึ้น เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างปลอดภัย

รวมถึงมีการศึกษาดูงานจากค่ายบ้านเจริญสุข กองร้อยอาสารักษาดินแดน เป็นจุดต่อเนื่องจากโรงพยาบาลพรเจริญ ซึ่งเป็นค่ายฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด 120 วัน ประกอบด้วยผู้บำบัดชายล้วนจำนวน 41 คน ซึ่งผ่ากระบวนการบำบัดการฟื้นฟูสมอง โดยการให้ความรู้ และการทำกิจกรรมฟื้นฟูสมอง เช่น การวาดภาพ เล่นกีฬา ออกกำลังกาย และภายหลังเป็นการฝึกอาชีพ เช่น ช่างปูน ซ่อมเครื่องยนต์ ปลูกพืช เลี้ยงปลา เป็นต้น เพื่อนำผู้เสพผู้ติดที่มีอาการดีขึ้นจากอาการป่วยขั้นรุนแรงที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมอง และการฝึกอาชีพเพื่อคืนคนคุณภาพสู่สังคมต่อไป

พื้นที่สุดท้ายเป็นการศึกษาดูงานในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย ผ่านการศึกษาดูงานกองร้อย อส.อำเภอโซ่พิสัย ซึ่งเป็นค่ายฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ประกอบด้วยผู้บำบัดชาย 196 คน ผู้บำบัดหญิง 30 คน โดยมีกระบวนการบำบัด 3 ระบบ คือ การล้างพิษโดยการใช้ยาจากจิตแพทย์ การเข้าค่ายมินิธัญญารักษ์ และการเข้าค่ายฟื้นฟู 120 วัน ซึ่งมีทั้งการฟื้นฟูสมอง และการฝึกอาชีพ เพื่อลดโอกาสการกลับไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย ว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้นโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องอันจะนำไปสู่ความร่วมมือที่ดีของทุกภาคส่วน และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ผ่านสื่อมวลชน ซึ่งมีความสำคัญและมีอิทธิพลอย่างมากต่อ

การสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องของประชาชน เพื่อพัฒนากระบวนการรักษา ตลอดจนการบำบัดรักษาผุ้เสพผู้ติด ยาเสพติดการฝึกอาชีพการศึกษา และการฟื้นฟูสภาพทางสังคม ทั้งกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง และผู้เข้ารับการบำบัด รวมทั้งมีระบบติดตามดูแลช่วยเหลือเพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีกครั้ง เพราะผู้เสพ คือ ผู้ที่ก้าวพลาดที่เราทุกคนพร้อมจะหยิบยื่นโอกาสให้ร่วมกันสร้าง “พลังชุมชนเข้มแข็ง คืนคนมีคุณภาพสู่สังคม”

ด้านนายนิพนธ์ ยอมรับว่า อีสานตอนบนมีปัญหาเรื่องยาเสพติดจำนวนมาก ตนในฐานะผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องได้มีการ ประสานบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทำให้จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่นำผู้ป่วยเข้าบำบัดรักษาอย่างได้ผล สามารถคืนลูกหลานให้ครอบครัวและสังคมได้ พร้อมเสนอแนะให้นำโรงเรียนบ้านโนนชัยศรีมาเป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดขนาดใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์หลักในการดำเนินการ

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล/บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฤกษ์มงคล ครบ 72 ปี คล้ายวันเกิด “#เฮียซุ้ย”ร่วมพิธีเปิดป้าย โครงการน้ำทองน่าน ธุรกิจซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ในเมืองน่าน / “สว.เจ ภิญญาพัชญ์” ปลุกพลัง “สตรี” สร้างความเชื่อมั่น “ผู้หญิง”พัฒนาตัวเองได้

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สำนักงานขาย บริษัท #น้ำทองน่าน จำกัด ต.ไชยสถาน อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายทวีศักดิ์ ล้อบุณยารักษ์ และ นางมณีนุช ล้อบุณยารักษ์ พร้อมญาติพี่น้องตระกูลล้อ นักธุรกิจในจังหวัดน่านและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมตัดริ้บบิ้นพิธีเปิดป้ายสำนักงานขาย บริษัท น้ำทองน่าน จำกัด โดยในช่วงเช้ามี #พิธีสงฆ์ ทำบุญสำนักงานแห่งใหม่ การ #ฟ้อนรำล้านนาไทย และ #การเชิดสิงโต ขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทยเชื้อสายจีน

หลังจากนั้นช่วงกลางวัน มีงานเลี้ยงอาหารโต๊ะจีน ฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ นายทวีศักดิ์ ล้อบุณยารักษ์ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่ร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรมน้ำทองน่าน

สำหรับ #ชีวประวัติ ของ #นักธุรกิจชื่อดัง โครงการน้ำทองน่าน “เฮียซุ้ย” พอสังเขปมีดังนี้ นายทวีศักดิ์ ล้อบุณยารักษ์ ชื่อเดิมสมัยเด็กๆ เด็กชายจิ้นซุ้ย แซ่ล้อ ภูมิลำเนาเป็นคนแพร่โดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2496 ครอบครัวของเฮียซุ้ยมีพี่น้อง จำนวน 9 คน เป็นบุตรชายคนที่ 6 ของ #ตระกูลแซ่ล้อ โดยมีบิดาเป็นผู้บุกเบิกหอบเสื่อผืนหมอนใบจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ในอดีต เริ่มแรกจาก “ลูกจ้างนึ่งเส้นก๋วยเตี๋ยว” สู่ต้นกำเนิด #โรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยว เฮียซุ้ย ในปัจจุบัน

และอีกอาชีพหนึ่งของครอบครัวนี้ในอดีตเตี่ย (บิดา) ปั่นรถซาเล็บน้ำแข็งน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ ที่เรียกว่า “ลูก” มาจากโรงน้ำแข็งแล้วจึงนำมาแบ่งโดยการเลื่อยเป็น “กั๊ก” และจากกั๊กเป็น “มือ” ขายปลีกทั่วตลาดเมืองแพร่ สมัยนั้นยังไม่มีน้ำแข็งหลอด เหมือนสมัยนี้ ร้านขายโอเลี้ยงต่างๆ

ก็ต้องซื้อน้ำแข็ง ซึ่งเฮียซุ้ยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่ทำงานในแผนกนี้คือ “#คนเลื่อยน้ำแข็ง” จากน้ำแข็งเป็นลูกๆ สู่กั๊กจากกั๊กสู่มือ สมัยนั้นที่คนแถวนั้นยังจำกันได้ก็คือจะมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งใส่กางเกงขาสั้นถอดเสื้อ ก้มหน้าก้มตา ยืนเลื่อยน้ำแข็งอย่างขยันขันแข็ง ตั้งแต่เช้ายันเย็นไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยคนผู้นั้นก็คือ “#เฮียซุ้ย” นั่นเอง

เฮียซุยเริ่มต้นหาลู่ทางการทำธุรกิจ “#หาเงิน #หาทอง” ร่วมกับเฮียกิม (ผู้พี่) พี่น้องร่วมสาบาน แรกเริ่มจาก #ห้องแถว หรือชื่อเรียก “#อาคารพาณิชย์” ในปัจจุบัน ในบริเวณตลาดชมภูมิ่ง จ.แพร่ เมื่อปี พ.ศ.2532

โดยเริ่มขายห้องละไม่กี่แสนบาท ประมาณ 10 ห้อง ผลปรากฏว่าการตอบรับดีเยี่ยม ขายหมดในเวลาไม่นาน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่มาของ #โครงการน้ำทองแพร่ และ #โครงการน้ำทองน่าน ในปัจจุบัน/เครดิตเบส/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

“สว.เจ ภิญญาพัชญ์” ปลุกพลัง “สตรี” สร้างความเชื่อมั่น ดึงศักยภาพพัฒนาตัวเอง ชี้ ทัศนคติที่ดีทำ “ผู้หญิง”พัฒนาตัวเองได้

วันนี้ (28 ก.พ.) ที่โรงแรมเมธาวลัย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นางสาวภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้บรรยายเรื่องการสร้างความเชื่อมั่น เสริมสร้างความรู้ ทักษะ ศักยภาพในการพัฒนาตนเองของสตรี เพื่อเป็นฐานพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรี โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 200 คน

โดยนางสาวภิญญาพัชญ์ หรือ สว.เจ กล่าวช่วงหนึ่งว่า การพัฒนาศักยภาพสตรีได้ ต้องมีเป้าหมายที่ดี หรือ Smart Goals ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน วัดผลได้ ทำได้จริง ที่สำคัญคือทุกคนล้วนเคยเผชิญอุปสรรค แต่ต้องสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จและทำให้มีความสุขในชีวิต

อีกทั้งความเชื่อมั่นในตัวเอง จะทำให้เรากล้าตัดสินใจและลงมือทำสิ่งต่างๆ โดยไม่กลัวความล้มเหลว รวมถึงกล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ

นางสาวภิญญาพัชญ์ (สว.เจ) กล่าวต่อว่า “ความมั่นใจในตัวเอง จะทำให้เรามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ทำให้ผู้หญิงสามารถเติบโตและพัฒนาตนได้อย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ การสร้างสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยให้เราสื่อสารได้ดีขึ้น รวมถึงการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกได้อย่างเหมาะสมด้วย/บุญยฃค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /สวนสัตว์นครราชสีมา เปิดตัวสมาชิกใหม่ “ลูกลีเมอร์หางแหวน” แฝด 4 สุดแสนน่ารัก

แชร์เนื้อหานี้

นายธนชน เคนสิงห์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยว่า นับเป็นข่าวดีกับสวนสัตว์นครราชสีมา ที่ แม่ลีเมอร์หางแหวน 2 ตัว ให้กำเนิดสมาชิกใหม่ ลูกลีเมอร์แสนสุดน่ารัก ในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่ทราบเพศ และถือเป็นปรากฏการณ์สุดพิเศษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อแม่ลีเมอร์หางแหวน ทั้ง 2 ตัว ให้ลูกแฝดพร้อมกัน รวมเป็น 4 ตัว โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงดู

ได้นำออกมาอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารัก และร่วมกินอาหารรวมกับฝูงลีเมอร์หางแหวนภายในส่วนแสดงและได้รับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ของสวนสัตว์ พบว่าสุขภาพแข็งแรงได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ลีเมอร์หางแหวนเป็นอย่างดี โดยลูกทั้งสองตัวยังเกาะอยู่ที่บริเวณหน้าอกและหลังของแม่บางครั้งลงมาเล่นปีนป่ายและเล่นซุกซนตามกิ่งไม้ ปัจจุบันทางสวนสัตว์นครราชสีมา มีลีเมอร์หางแหวน จำนวน 12 ตัว เป็นเพศผู้ 7 ตัว และเพศเมีย 5 ตัว

ด้านนายปิยะ สิงห์นวล นักบริหาร 6 หัวหน้างานบำรุงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับลีเมอร์หางแหวน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีรูปร่างทั่วไปคล้ายกับลิง แต่ว่ามีส่วนหัวคล้ายสุนัขจิ้งจอก มีจมูกและปากแหลมยาว มีดวงตากลมโต ขนหนาฟู มีหางยาวเป็นพวงเหมือนกระรอก จะออกหากินในเวลากลางวันและนอนหลับในเวลากลางคืน ตามรายงานของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN)ระบุว่าลีเมอร์กำลังตกอยู่ในภาวะถูกคุกคามจัดอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ตามบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ
จึงขอเชิญชวน น้องๆหนูๆ และนักท่องเที่ยวทุกท่าน ประชาชนทั่วไป ชมความน่ารักของสมาชิกใหม่ลูกลีเมอร์หางแหวนได้แล้ว ที่สวนสัตว์นครราสีมา

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /เจ้าหน้าที่จับหนุ่มลอบตัดไม้มะริดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมฯ

แชร์เนื้อหานี้


เมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 นายกิตติศักดิ์ สมศรี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรมฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.

ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบตัดไม้บริเวณป่าตะบองยักษ์ ท้องที่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ หมู่ที่ 7 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ จึงนำกำลังตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบชายต้องสงสัยกำลังเดินอยู่ในแปลงกาแฟ สะพายถุงปุ๋ย มือขวาถือมีดพร้า มือซ้ายถือบาร์เลื่อยยนต์ จึงแสดงตัวและขอตรวจค้น ทราบชื่อว่านายอาวุธ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาว จ.พัทลุง ตรวจดูในถุงปุ๋ยมีโซ่เลื่อยยนต์ หัวเทียน และอุปกรณ์ซ่อมเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์หลายรายการ โดยสังเกตเห็นว่ามือของชายคนดังกล่าวเปื้อนน้ำมันโซ่ยนต์จนมีสีดำทั้งสองมือ

เจ้าหน้าที่จึงสอบถามและได้นำตัวไปยังเพิงพัก พบเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ยี่ห้อ Black Bull (กระทิงดำ) บาร์เลื่อยยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ วางอยู่ใต้ถุนเพิง เมื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบร่องรอยการตัดไม้และแปรรูปไม้ มีเศษขี้เลื่อยใหม่กระจายอยู่ทั่ว จึงเดินตามรอยเท้าซึ่งตรงกับรองเท้าที่ผู้ต้องสงสัยสวมใส่ ไปจนพบไม้มะริดแปรรูปจำนวน 4 แผ่น โดย 3 แผ่นมีการผูกเชือกหัวท้ายและมีคานไม้ไผ่สอดคาเชือกในลักษณะพร้อมยกขนย้าย แสดงให้เห็นว่ามีการกำลังขนย้ายและทิ้งไม้แปรรูปอย่างเร่งรีบ

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าเข้ามารับจ้างใส่ปุ๋ยต้นกาแฟและไม่ทราบว่าไม้แปรรูปเป็นของใคร แต่ภายหลังยอมรับว่าไม้แปรรูป เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ และอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของตนเอง จึงยึดของกลางประกอบด้วย เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ บาร์เลื่อยยนต์ โซ่เลื่อยยนต์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอีก 15 รายการ รวมถึงไม้มะริดแปรรูป 4 แผ่น มีปริมาตรรวม 0.128 ลูกบาศก์เมตร นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าว Mrs. Thailand World 2025 เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่!“Shine Your Aura” สู่การค้นหาผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจระดับประเทศ

แชร์เนื้อหานี้

📍 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 📍 ณ โรงแรม Mestyle Museum Hotel, กรุงเทพฯ Mrs. Thailand World 2025 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานแถลงข่าวสุดยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “Shine Your Aura” มุ่งเน้นการเฟ้นหาผู้หญิงที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ต้องเป็น “inspiration queen สามารถส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับสังคมและ New Generation ”

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นักข่าว และ แขกผู้มีเกียรติ อาทิเช่น คุณหนุ่ม นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม คุณโก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา ทั้งสองท่านที่เคยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาโดยตลอด และ สื่อมวลชนมากมาย และ Provincial Directors ผู้ถือลิขสิทธิ์ประจำจังหวัด (PDs) ผู้เข้าประกวด ทั้ง 15 จังหวัด และสปอนเซอร์ ก่อนเปิดโชว์พิเศษจาก ทีม Mrs. Thailand World นำ

โดย พลอย ปานเปรม Mrs. Thailand World 2024 และคุณฝน มาริสา กลิ่นพงษา Mrs. Thailand World 2023 ที่ขึ้นเดินแบบพร้อมมงกุฎและสายสะพาย ร่วมกับทีม 2024 สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ร่วมงาน สะพรึงในเวทีแม่จริงๆ เวที Mrs. Thailand World 2025 ปีนี้มีความพิเศษยิ่งกว่าที่เคย เพราะมุ่งเน้นการส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ให้เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจแก่สังคม โดยเฉพาะลูกๆ และเยาวชนรุ่นต่อไป ลดช่องว่างของ Genarationเริ่มแถลงข่าว นำโดย บอสคิตตี้ คุณกิจติพร นันท์ตานนท์ ผู้อำนวยการกองประกวด กล่าวถึงเป้าหมายของปีนี้ ว่า

✅พันธกิจสำคัญของเราคือ “Empowering Women, Inspiring Nations” And shine your aura (ส่งเสริมผลักดันศักยภาพสตรี จุดประกายแรงบันดาลใจสู่ระดับโลก และ เปล่งประกายในตัวคุณ ) ✅เวที Mrs. Thailand World ไม่ใช่แค่การประกวดความงาม แต่เป็นเวทีที่ให้โอกาส ผู้หญิงไทยที่แต่งงานแล้ว ได้แสดงศักยภาพ สร้างแรงบันดาลใจ และก้าวขึ้นมาเป็น ตัวแทนของประเทศไทยในเวทีระดับโลก และใช้เวทีนี้เพื่อสร้าง ผลกระทบเชิงบวก ให้กับสังคม

👑 “Queens of Every Province” – การประกวดที่ขยายไปทั่วไทย!
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของปีนี้ คือแคมเปญ “Queens of Every Province” ที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงไทยจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมแข่งขัน โดยแต่ละจังหวัดจะมีตัวแทน Provincial Directors (PDs) ดูแลการคัดเลือกและเตรียมความพร้อมของผู้เข้าประกวด ปีนี้รับเพียง 30 จังหวัดเท่านั้น

นอกจากความงามและศักยภาพของผู้หญิงไทยแล้ว Mrs. Thailand World 2025 ยังจับมือกับ คุณสมปรารถนา นาวงษ์ หรือ “พี่จัน” เจ้าของเพจอีจัน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการช่วยเหลือสังคมมากมาย และ ยังร่วมมือ ดร.เอก ชุณหชัชราชัย จากมหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมป์ฟรอด กับหลักสูตร PDs ที่สร้างขึ้นเพื่อเวทีเท่านั้น ในปีนี้ยังมี คุณเจี๊ยบ อริสรา วังอุทัย ณ ลำปาง มาให้เกียรติร่วมงานและ อ. โสภาส ณ ตะกั่วทุ่ง ศิลปินนักพันผ้า. และที่ปรึกษากรมหม่อนไหมด้านเครื่องแต่งกายและแฟชั่นประยุกต์ ที่ปีนี้รอบเก็บตัวจะมีการพันผ้า คุณพลอย ปรานเปรม โชว์และให้ความรู้และที่มาถึงรากเง้าผ้าไทยท้องถิ่นทั้ง 30 จังหวัดนำร่อง

“เวทีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือแพลตฟอร์มของผู้หญิงที่มีหัวใจเพื่อสังคม ผลักดัน Soft power ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของเพจอีจันในการช่วยเหลือผู้คน” 📽️ เผยโฉมแนวคิดสุดพิเศษของปีนี้ “Shine Your Aura”ในช่วงท้ายของงาน คุณไมเคิล ภูมิ สวัสดี Creative Director และ คุณจอร์น จิรัฐ ฏ์ รัตนวงค์ผัน ได้เผยโฉมแนวคิดหลักของปีนี้ผ่าน VTR ที่ว้าวสุดๆ “Shine Your Aura” โดยเน้นไปที่ พลังของผู้หญิงที่สามารถส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อไป

พร้อมทั้งแสดงตัวอย่าง Mood & Tone ของปีนี้ที่ผสมผสานความเป็นไทยและความโมเดิร์น และ กล่าวว่า “Aura ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เวทีนี้จะช่วยให้คุณค้นพบแสงของตัวเอง และนำมันไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคม” การเติบโตของ Mrs. Thailand World และอนาคตที่ยิ่งใหญ่ คุณกัญญ์สิริ มีแต้ม ผู้จัดการกองประกวด ได้กล่าวถึงแนวทางการขยายตัวของเวทีระดับจังหวัด และการได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมถึงแนวทางการคัดเลือกผู้เข้าประกวดที่เหมาะสมกับตำแหน่ง

“เรามองหาผู้หญิงที่ไม่เพียงมีออร่าของตัวเอง แต่สามารถส่งต่อพลังให้กับ Generation ถัดไป เพราะราชินีที่แท้จริงต้องเป็นผู้ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับสตรีทั่วโลก” – คุณกัญญ์สิริ มีแต้ม 🚀 “Mrs. Thailand World 2025” เปิดรับสมัครแล้ว! 📌 ไทม์ไลน์การประกวด
✅ เปิดรับสมัคร: พฤศจิกายน 2567 – พฤษภาคม 2568
✅ Orientation Day & Portrait Shooting: มิถุนายน 2568
✅ กิจกรรมเก็บตัว: กรกฎาคม 2568
✅ รอบ Preliminary & Final: 1-3 สิงหาคม 2568

คุณนุ่น จิดาภา ชุมเมือง Brand Ambassadors Mrs. Thailand world กล่าว “นี่คือโอกาสของคุณ! หากคุณเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และต้องการเป็นแรงบันดาลใจให้กับสตรีทั่วโลก สมัครได้ทั้ง PDs และ ผู้เข้าประกวดสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมประกวด Mrs. Thailand World 2025 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 📞 [085-121-5199] 📧 line @Mrsthailand 🌐 MrsThailandworld ✨ Shine Your Aura – เปล่งประกายออร่าของคุณให้โลกได้เห็น! ✨ Mrsthailandworld MrsThailandWorld2025 #ShineYourAura #EmpoweringWomen #InspiringGenerations #ThailandToTheWorld

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “เพราะรักต้องมี Why We Love” เปิดตัวรอบกาล่าทุกเสียงยืนยัน หวานซึ้ง อบอุ่นใจ เตรียมฉาย 27 กุมภาฯ นี้

แชร์เนื้อหานี้

ค่ายบลูแซมพิคเจอร์ ค่ายหนังน้องใหม่ อำนวยการสร้างโดย ณัฐธนาวรรน เพ็ญชาญวัฒนกิจ (เจ๊ใหญ่) และการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ สำรวย รักชาติ กับภาพยนตร์รักโรแมนติกหวานซึ้งอบอุ่นใจ “เพราะรักต้องมี Why We Love” ถือฤกษ์ดีจัดงานเปิดตัวรอบกาล่า (รอบสื่อมวลชน) ณ เมเจอร์รัชโยธินซีนีเพล็กซ์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (24 กุมภาพันธ์ 2568)

“เพราะรักต้องมี Why We Love” เปิดเรื่องด้วยเรื่องราวของ น้ำแข็ง (หลิน-มาลิน) หญิงสาวอัจฉริยะที่จบ ปริญญาโท วิทยาศาสตร์ด้านชีวภาพ เธอฉลาด และเก่ง แต่ไม่เก่งเรื่องความรัก จนเธอได้มาพบ มีน (เข้ม-หัสวีร์) หนุ่มโปรแกรมเมอร์ที่มีปูมหลังด้านครอบครัว เมื่อทั้งคู่ถูกนัดหมายให้เจอกันจากการวางแผนของเพื่อนๆ เพื่อจับคู่ และการพบกันครั้งแรกก็ไม่ค่อยประทับใจกันสักเท่าไหร่ น้ำแข็ง ต้องดูแลหลานสาวกำพร้า เพราะพ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และนั่นทำให้เขาและเธอได้พบกันอีกครั้ง?

ลบรรยากาศภายในงานรอบกาล่า เปิดตัวด้วยสองพิธีกรสายฮา ก๊อท-สุทธิรักษ์ ศรีทองกุล และ แป้งฝุ่น-สฤษดิ์ทอง ถอนโพธิ์ พร้อมเปิดตัวนักแสดงในเรื่องที่มากันเป็นคู่ ลาเต้-กฤษดา ธนากร, ด.ญ.อารยา จำเริญไพบูลย์ผล, นินิว-อนุธิดา สาระธนะ, ด.ช. ศรัณย์กร ไชยแก้ว, ผศ.ดร.นัชส์ณภัทร์ เจียมวิจิตร, ด.ญ.นลินนลิน่า เจียมวิจิตร, แซน-ปรานต์ จันทนะ, ด.ช. ศิวณัฐ ประเสริฐนู, ด.ช. ภาคิน วิริยกสิกร, ด.ช. ณภัทร ผลพานิชย์

จากนั้นเป็นคิวของ เล้ง-ณัฐพล นิลดอนหวาย, บิว-ลลิฉัตร์ วราวิโรจน์พล รวมทั้ง เจ๊ใหญ่-ณัฐธนาวรรนเพ็ญชาญวัฒนกิจ ผู้อำนวยการสร้าง, สำรวย รักชาติ ผู้กำกับภาพยนตร์, ก๊อต-สุทธิรักษ์ ศรีทองกุล, แป้งฝุ่น-สฤษดิ์ทอง ถอนโพธิ์, กิมจุ้ย-เอื้ออังกูร เพ็ญชาญวัฒนกิจ, หยก-พชรพร พงษ์สุวรรณ ปิดท้ายด้วยพระนางสุดฮอต เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล และ หลิน-มาลิน ชระอนันต์ ซึ่งเมื่อแต่ละคนปรากฎตัวก็เรียกเสียงกรี๊ดลั่นงานเลยทีเดียว!!!

หลังจากนั้นสองพิธีกรก็เรียนเชิญผู้อำนวยการสร้าง, ผู้กำกับฯ และนักแสดงนำของเรื่องร่วมพูดคุยถึงหนังเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน และอบอุ่น ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปหมู่บนเวที งานนี้มีเหล่าคนบันเทิงมาร่วมมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง อาทิ ต้อย แอคเนอร์ , โอริเวอร์ บีเวอร์, ณวัฒน์ อิสรไกรศรี , หนิง-ปณิตา พัฒนาหิรัญ, เบน-สันติราษฎร์

กุลนพเกียรติ, ยูโร-ยศวรรธน์ ทะวาปี, แชมป์-วรากร ศวัสกร, โน้ต-มหัศจรรย์ มาตศรี, ปาริชาติ วิวัฒน์อนันต์ , ภาคิน ฤกษ์สำรวจ รวมถึงเหล่าแฟนคลับ เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมาก “เพราะรักต้องมี Why We Love” หนังรักโรแมนติกที่จะสร้างความอบอุ่นในหัวใจ และเติมเต็มส่วนที่ขาดไปพร้อมกับเขาและเธอ 27 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ เพราะรักต้องมี whywelove bluesampicture

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /เริ่มแล้ว! งานเทศกาลว่าวนานาชาติ 2025/พัทยาจัดงานมหาศิวาราตรี ชาวต่างชาติร่วมพิธีคึกคัก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 26 ก.พ.68 ที่ชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้ทรงคุณวุฒิเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดงาน Pattaya International Kite Festival 2025 โดยมี นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์

นายอำเภอบางละมุง น.ส.มัลลิกา สุดเสน่ห์ รอง ผอ.ททท.สำนักงานพัทยา นายเอกราช คันธโร ผอ.เจ้าท่า สำนักงานพัทยา และนายขวัญชัย บุญอารีย์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยา เข้าร่วมพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ

งาน Pattaya International Kite Festival 2025 มีกำหนดจัดงานบริเวณชายหาดพัทยากลาง บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยา จ.ชลบุรี เป็นอีเว้นท์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเรียกสีสันบนชายหาดพัทยา โดยปีนี้ถือว่าจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 แล้ว

สำหรับเทศกาลว่าวนานาชาติในปีนี้ มีไฮไลต์พิเศษว่าว Snoopy และว่าวยักษ์หลากหลายรูปทรงและสีสัน รังสรรค์โดยนักเล่นว่าวมืออาชีพจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งจะเติมสีสันให้ท้องฟ้าพัทยาสวยงามยิ่งขึ้นท่ามกลางบรรยากาศริมชายหาดสุดคลาสสิก 

นอกจากนี้ยังมีการแสดงว่าว LED ยามค่ำคืน, การแสดง Sport Kite จากไต้หวัน, การแสดงทางวัฒนธรรมที่สะท้อนเสน่ห์ไทย, เวิร์กช็อปสอนทำว่าวและการบังคับว่าว รวมทั้งตลาดสินค้ากว่า 50 ร้าน จำหน่ายว่าวและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยพบว่าในวันแรกของงานมีผู้เข้าร่วมงานอย่างคึกคักและสนุกสนาน

พัทยาจัดงานมหาศิวาราตรี ชาวต่างชาติร่วมพิธีคึกคัก

ค่ำวันที่ 26 ก.พ.68 ที่เทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี นางอำพร แก้วแสง ผู้บุกเบิกการสร้างเทวาลัยฯ ได้ร่วมกับสมาคมวิศวะฮินดูปาริชาต โดย ดร.ดีโอ กูมาร์ ซิงห์ รองนายกสมาคมฯ

ได้จัดงานมหาศิวาราตรี (Maha Shivaratri) ซึ่งเป็นวันสำคัญประจำปีของชาวฮินดู โดยมี ผู้เข้าร่วมงานทั้งนักท่องเที่ยวเชื้อสายฮินดู และคนไทยที่นับถือ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ด้วยเมืองพัทยาเป็นสถานที่ท่องเทีายวที่มีความหลากหลายทั้งเชื่อชาติและวัฒนธรรม ในพื้นที่เมืองพัทยาเองก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวเชื้อสายฮินดูมาพักผ่อนและอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี จึงได้จัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้ศรัทธาได้มาปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและความเชื่ิอ

อนึ่ง งานมหาศิวาราตรี (Maha Shivaratri) หรือ “ราตรีแห่งพระศิวะ” ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ (บ้าง 14 ค่ำ) ในเดือน “ผลคุณ” ตามปฏิทินจันทรคติฮินดู หรือเดือน “มาฆะ”

ในพุทธศาสนา ชาวฮินดูจะจัดงานเฉลิมฉลองแด่ พระศิวะ หรือ พระอิศวร เป็นประเพณียามค่ำคืนที่ลากยาวจนถึงเช้าวันใหม่ จึงเรียกว่า “มหาศิวาราตรี” หรือ ค่ำคืนอันยิ่งใหญ่แห่งพระศิวะมหาเทพตามความเชื่อของชาวฮินดู

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /จ.น่าน-ผนึกกำลังป้องกันและควบคุมไฟป่าอบต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน

แชร์เนื้อหานี้

โดยวันนี้ 26 ก.พ. 68 นายนพพร เรืองสว่าง นายอำเภอเมืองน่าน มอบหมายให้ นายกิตติพร ธังศิริ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองน่าน เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการป้องกันและควบคุมไฟป่า (จัดทำแนวกันไฟ) ประจำปี พ.ศ. 2568

ณ บริเวณอารามสงฆ์ห้วยส้มป่อย บ้านห้วยส้มป่อย หมู่ที่ 2 ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมี นายรุ่งโรจน์ ขจรพงศ์กีรติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.ผาสิงห์ และ ประชาชนในพื้นที่ตำบลผาสิงห์ เข้าร่วมกิจกรรมฯ


โดย นายกิตติพร ธังศิริ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมโครงการป้องกันและควบคุมไฟป่า (จัดทำแนวกันไฟ) ประจำปี พ.ศ. 2568 มีวัตถุประสงค์ในการจัดทำแนวกันไฟ เพื่อให้ประชาชนที่มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านการปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ควบคู่ไปกับการฝึกทักษะการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า ตลอดจนการทำหน้าที่

กรรมการควบคุมการเผาระดับหมู่บ้าน สามารถประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ราษฎรในหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมไฟป่า มีความพร้อมที่จะปฏิบัติการดับไฟป่าด้วยตนเอง รวมทั้งเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถปฏิบัติงานดับไฟป้าร่วมกันเป็นหมู่คณะได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ด้าน นายรุ่งโรจน์ ขจรพงศ์กีรติ กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยฝุ่นละอองและควันพิษจะทำให้ประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ เกิดการระคายเคือง และหมอกควันจากไฟยังทำให้เกิดทัศนวิสัยที่ไม่เหมาะสมต่อการจราจรทางอากาศ ทั้งยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภัยแล้งตามมา ประกอบกับในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นช่วงที่ตรวจพบการเผามากที่สุด ทำให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัญหาไฟป่าส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมากในหลายๆ ด้านองค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์

จึงได้ดำเนินการโครงการป้องกันและควบคุมไฟป่า (จัดทำแนวกันไฟ) ขึ้น เพื่อฝึกทักษะการควบคุมป้องกันไฟป่าให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งในระดับตำบลและหมู่บ้าน ตลอดจนเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / โศกเศร้า! ญาติรับร่าง 18 ผู้เสียชีวิตที่พรเจริญ เตรียมประกอบพิธีฌาปนกิจ 1 มี.ค.

แชร์เนื้อหานี้

ร่างผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสตกเขาโทน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ถูกลำเลียงมาถึง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ แล้ว ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า ครอบครัวและญาติพี่น้องรอรับศพด้วยความอาลัย

เมื่อเวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างทั้ง 18 ศพลงจากรถ และจัดวางหน้าหีบศพภายในวัดป่าวิเวกธรรมคุณ ก่อนให้ครอบครัวเข้ายืนยันตัวตน จากนั้นพระสงฆ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมประกอบพิธีทางศาสนา

ด้านผู้ว่าฯ บึงกาฬ เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมหารือเรื่องมาตรการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมตรวจสอบข้อมูลประกันภัยของรถบัส ซึ่งพบว่ามีการทำประกันภัยทั้งแบบบังคับและสมัครใจ รวมถึงยืนยันว่ารถบัสเพิ่งตรวจสภาพเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

สำหรับพิธีฌาปนกิจศพ กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ณ วัดป่าวิเวกธรรมคุณโดยจะมีการฌาปนกิจรวม 13 ศพ ส่วนอีก 3 ศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าวิเวกพัฒนา และวัดบ้านหนองกุงพัฒนาอีก 1 ศพ ขณะที่ผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาดีและโรงพยาบาลกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี.

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำ
รายชื่อผู้เสียชีวิต

  1. น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร 2.นางประภัสสร ทองปาน 3.น.ส.พิรานันท์ ภิรมย์จรัลฐาวร 4.นางทองอินทร์ จันทร์อ่อน 5.น.ส.อภิญญา บุตรวัง 6.นางเลียว ไชยเสนา
    7.น.ส.สุจิตตรา วิเศษทรัพย์ 8.น.ส.บัวเงิน สุดาบุตร 9.นางมะโยลี วงค์สุภา
    10.นางสมบุญ ธิพัน 11.นางสมหวัง พรหมพิทักษ์ 12.นางประหยัด เสียงล้ำ
    13.นางทองใบ สอนเชียงคำ 14.น.ส.ภานรินทร์ จ่าพบ 15.นางราตรี สบพันธ์ทอง
    16.น.ส.พิมพกานต์ พินทะเนาว์ 17.นายบุญโฮม จันทร์อ่อน
  2. นายทองใส​ พรหมเลิศ

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล/บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ร้านซีน่า พิซซ่าฮาลาล พัทยา ธุรกิจในเครือโบว่า กรุ๊ป มอบอินทผลัมพร้อมน้ำดื่มให้ 12 มัสยิด รับเทศกาลถือศีลอดเดือนรอมฎอน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 26 ก.พ.68 ร้านซีน่าพิซซ่าฮาลาล พัทยา ธุรกิจในเครือโบว่า กรุ๊ป ชุมชนต้นกระบก นาเกลือพัทยา ฮัจยีอาลีราชัย ปาทาน ผู้บริหารโบว่า กรุ๊ป ได้ส่งมอบอินทผลัมจำนวน 12 ลัง พร้อมน้ำดื่มจำนวน 120 แพ็ค ให้กับตัวแทนมัสยิดที่อยู่ในเขตพื้นที่เมืองพัทยาและเทศบาลเมืองหนองปรือ รวม 12 แห่ง เพื่อสนับสนุนการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นเดือนที่ชาวมุสลิมทั่วโลกถือศีลอดตลอดทั้งเดือน ฮัจยีอาลี (ราชัย) ปาทาน ผู้บริหารโบว่า กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนบวชถือศีลอด หรือช่วงรอมฎอน พี่น้องชาวมุสลิมจะต้องปฏิบัติตามศาสนบัญญัติ ด้วยการงดดื่มน้ำและงดอาหารทุกชนิดในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ 

ทั้งนี้ ทางร้านซีน่า พิซซ่า ฮาลาล ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือธุรกิจของโบว่า กรุ๊ป จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในสนับสนุนการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่เมืองพัทยาและเทศบาลเมืองหนองปรือ ซึ่งทางโบว่า กรุ๊ป ต้องขอขอบคุณทางคณะสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือที่ช่วยในการประสานงานเพื่อส่งมอบอินทผาลัมให้พี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้บัญญัติไว้ว่าสามารถละศีลอดด้วยการกินอินทผาลัม แทนการดื่มน้ำได้ เพื่อช่วยลดอาการอ่อนเพลียในช่วงอดอาหาร