เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “แจ็ค” ลุยหนังเรื่องที่ 2 ควบตำแหน่ง โปรดิวเซอร์-ผู้กำกับ“Food Truck รัก(ลัก) หมูเด้ง” ดึง 3 ซุป’ตาร์ตัวตึง “มาริโอ้-แจ๊ส- หม่ำ จ๊กม๊ก” แสดงนำ

แชร์เนื้อหานี้

หลังจากที่เมื่อ 3 ปีก่อนเคยประสบความสำเร็จกำกับภาพยนตร์ “แดงพระโขนง” ร่วมกับเพื่อนสนิท เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ปัทมะ โกยรายได้ไป 70 ล้านบาท ล่าสุดตลกพ่อลูกอ่อน แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ ขึ้นแท่นโปรดิวเซอร์และผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ในชีวิตอย่าง “Food Truck รัก(ลัก) หมูเด้ง” เกิดขึ้นโดยความร่วมมือของ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท แม็คโก กรุ๊ป ลิมิเต็ด จำกัด, บริษัท คุณแม่แจ็ค จำกัด โดยมี บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ จำกัด จัดจำหน่าย งานนี้ผู้กำกับ แจ็ค-เฉลิมพล ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท คุณแม่แจ็ค จำกัด และ คุณชัยวัฒน์ มิ่งไม้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ จำกัด ถือฤกษ์งามยามดี เวลา 8.49 น.

ร่วมทำพิธีบวงสรวง ณ วัดชินวรารามวรวิหาร ปทุมธานี พร้อมเปิดตัวนักแสดงระดับซุป’ตาร์ ได้แก่ มาริโอ้ เมาเร่อ, แจ๊ส ชวนชื่น, หม่ำ จ๊กม๊ก และนักแสดงเด็กอย่าง น้องโทลเวย์-ด.ช.วราวิชญ์ จันทะเมนชัย, น้องชุณห์-ด.ช.ปัชชุน หิรัญประทีป และ น้องดีดี-ด.ญ.ดีดีด์ เปี่ยมวิริยะกุล ด้วย
สำหรับ “Food Truck รัก (ลัก) หมูเด้ง” เป็นโปรเจกต์ที่หนุ่มแจ็คลุยปั้นเองด้วย 2 มือจริง ๆ เพราะไหว้วานขอให้ 2 เพื่อนรักอย่าง พระเอกชื่อดัง มาริโอ้ เมาเร่อ และซุป’ตาร์ตลกชื่อดัง แจ๊ส ชวนชื่น และ หม่ำ จ๊กม๊ก มาแสดงนำในหนังเรื่องนี้ แถมยังได้ผู้กำกับที่ตัดสายสะดือในวงการบันเทิงของแจ็คอย่าง บอล-วิทยา ทองอยู่ยง มาเป็น Co-Producer ซึ่งถือเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในรอบ 22 ปี และได้ผู้กำกับเพื่อนซี้อย่าง เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ร่วมกำกับด้วยเช่นเดิม

 แจ็ค-เฉลิมพล กล่าวว่า “หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของผมที่กำกับกับเพื่อนสนิท เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ก่อนหน้านี้เคยกำกับ “แดงพระโขนง” มาก่อนครับ เรื่องนั้นน้าหม่ำ ปั้นผม แต่เรื่องนี้ผมจะปั้นน้าหม่ำครับ (หัวเราะ) เรื่องนี้ผมทุ่มเทมาก ปั้นโปรเจกต์ด้วย 2 มือจริง ๆ ไปไหว้ของให้เพื่อนรัก มาริโอ้ และตลกรุ่นพี่ที่รัก แจ๊ส ชวนชื่น และตลกรุ่นใหญ่ที่เคารพอย่าง น้าหม่ำ มาแสดงครับ ไม่เชื่อดูภาพที่ผมลง IG ได้ และยังได้ พี่บอล-วิทยา ที่เคยชวนให้ผมเล่นหนังเรื่องแรกในชีวิตอย่าง “แฟนฉัน” มาเป็น co-producer ด้วย ผ่านไป 22 ปี ได้มาร่วมงานกันในก้าวที่ผมเติบโตขึ้น ได้ทาง ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ มาช่วยดูแลจัดจำหน่าย เป็นทีมงานที่เคยปั้นหนังหลาย ๆ เรื่องได้ 100 ล้านบาทมาแล้ว รู้สึกอบอุ่นและดีใจมาก ๆ ที่ทุกคนสนับสนุนผมอย่างเต็มที่ครับ ผมและเอ็กซ์ต้องทำงานหนักมาก เราได้นักแสดงเบอร์ใหญ่มาร่วมงาน เราก็อยากทำหนังอออกมาดี ๆ  ไม่อยากทำหนังตบหลังลูบหัวคนดูครับ จริง ๆ มีร้องไห้กับมาริโอ้ด้วย เพราะเพื่อนโอ้และพี่โชว์ ผู้จัดการของเขา ช่วยเต็มที่มาก พยายามหาคิวเพิ่มให้เต็มที่ด้วยครับ”
หม่ำ จ๊กม๊ก เผยว่า “เรื่องนี้ดาราคนอื่นได้เป็นค่าตัวใช่ไหม ของผมคิดเป็นค่าขำ ขำละ 1000 บาท ขอขำละหมื่นนึงก็ไม่ให้ (หัวเราะ) ตอนที่เขามาขอให้เล่นหนัง เขาก็ส่งบทมาให้ดู ก็แซวไปว่าไม่ใช่ว่าให้มาเล่นไม่กี่ฉากแล้วให้ตายนะ แล้วจะเป็นกำกับออนไลน์เหมือนหนัง “แดงพระโขนง” รึเปล่า เขาบอกว่าเขากำกับเองทุกวันแน่นอน  ” แจ็ส ชวนชื่น กล่าวเสริมว่า “เขาเป็นน้องรักของผม ผมก็ต้องมาอยู่แล้ว แจ็คฉลาดเข้าทางเมียผมด้วย หนังเรื่องนี้เป็นหนังครอบครัวครับ อ่านบทแล้วก็สนุกครับ เขาทุ่มเทมาแบบเป็นการเป็นงานเลยครับ เราก็พร้อมสนับสนุนน้องของเราอยู่แล้วครับ”  มาริโอ้ เมาเร่อ กล่าวว่า “วันที่เขามาชวนเล่นหนัง เขาบุกบ้านผมตอน 5 ทุ่มเลยครับ แล้วกราบพร้อมบอกว่า ต้องขอความช่วยเหลือเพื่อนแล้วล่ะ ผมก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ถามว่ามัดมือชกไหม ก็มาถึงบ้าน พี่ ๆ คิดว่ายังไงครับ (หัวเราะ) แต่จริง ๆ มีการดูบท เขาก็บอกว่าอยากให้ผมไปร่วมงานชิ้นนี้ เราดูบทแล้วก็ชอบ เป็นอะไรที่ท้าทายด้วย แล้วได้เล่นกับเด็กด้วย ผมภูมิใจในตัวเพื่อนที่ได้ก้าวไปสู่บทบาทใหม่ และดีใจที่เพื่อนรักให้เราได้ร่วมงานกับเขา และได้ร่วมงานกับพี่หม่ำและพี่แจ๊สด้วยครับ”

 เตรียมพบกับ “Food Truck รัก (ลัก) หมูเด้ง" ปลายเดือน ส.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์

สื่อรัฐนิวส์-สื่อรัฐนิวส์ /นักธุรกิจชาวสวิส” สัญญาใจเพื่อนรัก “เสก โลโซ” จัดแถลงข่าวงานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya หารายได้ให้การกุศล

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 24 ก.พ.68 ที่ บจก.สวิสสยาม เทรดดิ้ง 78/27 ม.10 หมู่บ้านสยามรอยัลวิว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการแถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรมการกุศลภายใต้งานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya โดยมี คุณชนิลทร เอเกอร์เทอร์ ผู้จัดงาน นายอรรถชยา โทนุศิษย์ ผู้จัดการเสก โลโซ และศิลปิน MMY Maxim ร่วมแถลงข่าวท่ามกลางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ นำโดย นายอัมพร แสงแก้ว นายกสมาคมนักข่าวพัทยา และนายสามารถ ทองรอด อุปนายกสมาคมนักข่าวพัทยา

นายเอเดรี้ยน เคิร์ท เอเกอร์เทอร์ นักธุรกิจชาวสวิสเซอร์แลนด์ ในฐานะประธานจัดงาน เปิดเผยว่า งานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya จัดขึ้นตามคำสัญญาลูกผู้ชายของตนเองและเสก โลโซ ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมกัน และเคยทำงานร่วมกันที่เกาะช้าง จ.ตราด ก่อนจะสัญญาใจกันว่าจะมาจัดงานคอนเสิร์ตการกุศลที่พัทยาเพื่อตอบแทนบุญคุณประเทศไทยที่ตนเองได้อยู่อาศัยมานานกว่า 50 ปี โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนกิจกรรมการกุศลในพื้นที่

งานคอนเสิร์ตการกุศล “คำสัญญาลูกผู้ชาย” The Promise of The Man Charity Concert in Pattaya กำหนดจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 3 พ.ค.68 นี้ ที่อาคารกรีฑาในร่ม ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยจะมีศิลปินชื่อดังมากมาย นำโดย เสก โลโซ, คาราบาว, หินเหล็กไฟ,หมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ,TG Tiger, Luster, MMY Maxim และ Sek Swiss

สนใจจองบัตรได้ที่ Allticket เค้าน์เตอร์เซอร์วิส เซเว่นอิเลฟเว่นทุกสาขา บัตร Early Bird ราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 1-28 ก.พ.68 จากบัตร 1,800 บาท เหลือ 1,500 บาท, บัตร 1,500 บาท เหลือ 1,200 บาท, บัตร 1,000 บาท เหลือ 800 บาท และบัตร 800 บาท เหลือ 650 บาทจากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.68 จำหน่ายราคาปกติ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ – ปัญหาย้าย บ้านบานปลาย3 ชุมชน รวมตัว จวกเทศบาลผิดพลาดตั้งแต่ต้น 3,579 คนยันไม่ย้ายจากเทศบาลนครเชียงราย

แชร์เนื้อหานี้

เชียงรายเผือกร้อน ปัญหาย้ายทะเบียนบ้านบานปลาย3 ชุมชนรวมตัว จวกเทศบาลผิดพลาดตั้งแต่ต้น 3,579 คนยันไม่ย้ายจากเทศบาลนครเชียงราย หมายศาลลงผิดบ้านสร้างความเดือนร้อนให้ประชาชน เทศบาลนครเชียงรายไม่ร่วมเสวนา รองผู้ว่าเชียงราย อึ้ง! ไม่ขอตอบคำถามขอเป็นผู้รับฟังแทน หลังบรรยากาศการประชุมเสีย ส่อรุนแรงสส.พรรคประชนชน ย้ำต้องฟังเสียงประชาชน รับเรื่องผ่านกรรมาธิการฯเข้าสู่สภา ให้มท.ชี้แจง กำนันตำบลแม่ยาวจ้อที่ประชุมยันไม่เอาประชาการเพิ่มปกครองไม่ไหว หลังกรมทะเบียนกลางโอนย้ายประชากรไปสองตำบล แม่ยาว-บ้านดู่ กกต.เชียงรายยันชัดประชาชนสามารถใช้สิทธิ์สมัครและลงคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นได้ตามปกติ ไม่ขัดต่อระเบียบการย้ายตามเงื่อนไข

ที่ห้องประชุมพบโชคคอมเพล็กซ์ บ้านห้วยกั้ง เวลา13.00 น.วันทีา23ก.พ2568ที่ผ่านมา ประชาชน3ชุมชน ห้วยกั้ง ชุมชนทวีรัตน์ ชุมบ้านดอย จำนวนนับพันคนได้รวมตัวลงลายมือชื่อเข้าร่วมประชุมและยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการการเมืองการปกครองพรรคประชาชนที่ได้เข้าร่วมรับฟังเนื่องคำสั่งทางปกครอง กรณีการย้ายประชากรของเทศบาลนครเชียงราย 3,579 คนไปยังตำบลบ้านดู่และตำบลแม่ยาวทำให้ประชากรที่ถูกย้ายโดยฐานทะเบียนกลาง เกิดความไม่พอใจและได้คัดค้านกรณีดังกล่าวได้เรียกร้องและยื่นหนังสือคัดค้านผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการตามกระบวนการไปก่อนหน้านี้

ในวันดังกล่าวมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย นายบุญญพันธ์ พุทธิโชติอนันต์ ปลัดเทศบาลตำบลบ้านดู่ ชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้ถูกเชิญร่วมเวทีเสวนาหาทางออก โดยมีนายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ หรือสส.ปั๋น สส.พรรคประชาชนจังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังมีว่าที่ร้อยตรีสมชาติ เตชถาวรเจริญ กรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองท้องถิ่นและการบริหารรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎรเข้ามารับเรื่อง เพื่อบรรจุปัญหาเรื่องเรื่องดังกล่าวอย่สงเร่งด่วนเพื่อให้ทันปิดสมัยประชุมก่อน วันที่10เมษายน2568

บรรยากาศการชุมชุมโดยภาพรวมช่วงแรกทางผู้ได้รับเชิญได้ขึ้นนั่งรับฟังตอบข้อซักถามโดยทางแกนนำผู้นำรายการ ทางนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผ้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้กล่าวทักทายประชาชนที่มาร่วมประชุม โดยมอบหมายให้นายเขตณรงค์ อินกัน ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย เป็นผู้ตอบปัญหาที่มาทีาไปของการย้ายฐานทะเบียนราษฎร์ ของประชากรชุมชนห้วยปลากั้ง ชุมชนทวีรัตน์ ชุมชนบ้านดอย เนื่องจากปัจจุบันราชกฤษฎีกา การเปลี่ยนแปลงเทศบาลเมืองเชียงรายฉบับที่3 พ.ศ.2538 ลงวันที่23 ก.ย.2538ฉบับ ล่าสุดแนวเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงรายที่ประกาศ ขอบเขตการบริหารงานปกครองท้องถิ่น ไม่ตรงกับแนวเขตที่ประกาศไว้ โดยเกิดความผิดพลาดด้านการออกออกเอกสารทะเบียนราษฎรมาตั้งแต่ต้น และเมื่อปัจจุบันมีการตรวจสอบแนวเขตอย่างชัดเจนปรากฎว่า ชุมชนทั้งสามชุมชนอยู่ในเขตปกครองของตำบลแม่ยาว แบะตำบลบ้านดู่ จึงเป็นที่มาของการดำเนินการย้ายทะเบียนราษฎร์ประชากรเพื่อใหตรงกับข้อเท็จจริงกับแนวเขตถือเป็นการปรับปรุงข้อมูลปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประชุมดำเนินไปชั่วระยะหนึ่งด้านนายบุญญพันธ์ พุทธิโชติอนันต์ ในฐานะนายทะเบียนท้องถิ่นตำบลบ้านดู่ได้กล่าวถึงเรื่องการย้ายข้อมูลประชากรของเทศบาลครั้งนี้ว่าเทศบาลตำบลบ้านดู่ได้รับการโอนย้ายประชากร1,500กว่าคนเข้ามาอยู่เขตปกครองหมู่ที่14 ต.บ้านดู่ จึงทำให้ประชากรเพิ่มขึ้นมากเท่าตัวจากเดิม โดยทางด้านนายชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย ได้ตอบคำถามจากผู้เข้าร่วมประชุมประเด็นการรับสมัครลงเลือกตั้งสท.ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค 2568ว่าจะลงสมัครในเขตเทศบาลนครเชียงรายได้หรือไม่ โดยทางผอ.กกต.ตอบว่าผู้สมัครสามารถลงสมัครได้ในเขตทะเบียนบ้านปรากฏอยู่และอยู่ในระเบียบของคุณสมบัติคุณสมบัติของผู้สมัคร ส่วนเรื่องของสิทธิของการเลือกตั้ง ยังเหมือนเดิมคือสามารถใช้สิทธิตามปกติ ไม่ขัดเงื่อนไขการย้ายถิ่นฐานที่อยู่ เป็นเพียงการปรับปรุงข้อมูลให้ตรงกับแนวเขตการปกครองเป็นปัจจุบัน

ในเวลาการดำเนินรายการไปประมาณ1ชั่วโมงตัวแทนจากประชาชนได้จับไมค์ถามรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเกี่ยวกับการขอระงับยับยั้งการย้ายทะเบียนราษฎร์ ครั้งนี้ได้หรือไม่?และรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาได้หรือไม่? โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้พูดสั้นๆว่าเรื่องราวดังกล่าวตนได้รับเรื่องได้เจอประชาชนที่เข้าไปเรียกร้อง2ครั้งแล้ว ระหว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายพูด มีเสียงตะโกนเสียงดังจากชายคนหนึ่ง ในห้องประชุมว่าไม่ย้ายปฏิเสธการไม่ย้าย โดยมีเสียงผู้หญิงตะโกนจากนอกหน้าต่างเป็นระยะๆ เหมือนจะปูกม็อบ ทำให้สถานการณ์การประชุมส่อแววไม่สงบ เนื่องจากเริ่มมีประชาชนเริ่ม ออกมาถือไมค์พูดหน้าเวทีปฏิเสธการไม่ย้ายด้วยเหตุผล ความยุ่งยากกับเอกสารอันมีพาสปอร์ตและเอกสารทางราชการ ด้านสาธารณสุข เป็นต้น รวมถึงต่อว่าทางราชการกระทำโดยไม่ผ่านความคิดเห็นของประชาชน ปราศจากความยินยอม
ด้วยสาเหตุนี้รองผู้ว่าราชการเชียงรายจึงอึ้ง! ชั่วหนึ่งและพูดต่อที่ประชุมว่าวันนี้

ไม่ขอตอบแต่”ขอเป็นรับฟังแทน” ประเด็นนี้ผู้สื่อข่าวสังเกตุบรรยากาศเริ่มปะทุความดุเดือด โดยภายนอกห้องประชุมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตุการณ์ด้านนอกห้องประชุม โดยที่ประชุม นายปรัฐกร การเร็ว กำนันตำบลแม่ยาวได้ออกมาถือไมค์พูดแนวปฏิเสธว่าตำบลแม่ยาวไม่ขอรับประชากรเพิ่มเนื่องจาก ตำบลแม่ยาวมีประชากรมากพอแล้วอาจปกครองไม่ทั่วถึง ขอให้อยู่ที่เดิมเมื่อบรรยากาศการประชุม ดำเนินด้วยอุณหภูมิที่เริ่มร้อนแรง ทางด้านผู้ดำเนินรายงานจึงสรุปขอให้ประชาชนลงมติ ไม่ย้ายฐานะเบียนราษฎร์และขอให้ทางราชการไปขอมติที่ประชุม ตำบลแม่ยาว และตำบลบ้านดู่ และร่วมกันลงรายชื่อยื่นหนังสือไปถึงกรรมาธิการกระจายอำนาจปกครองท้องถิ่น โดยสิ้นสุดกันอยู่ที่ประชาชนที่ร่วมประชุม ร่วมกันยื่นหนังสือ ภายหลังจากปิดประชุมหวั่นเกรงบานปลาย โดยมีว่าที่ร้อยตรีสมชาติ เตชถาวรเจริญ กรรมาธิการฯ พรรคประชาชน ที่เชิญมารับเรื่องดังกล่าวไว้และจะนำไปบรรจุเป็นวาระเข้าที่ประชุมกรรมาธิการฯให้ทันสมัยปิดประชุมวันที่10เมษายน2568

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางอัมพร ฟองคำ ชาวบ้านชุมชนห้วยปลากั้งที่มาประชุมว่าได้รับความเดือนร้อน เนื่องจาก มีหมายศาลส่งถึงหน้าบ้านระบุที่อยู่เลขที่บ้าน เดียวกันของผู้ถูกฟ้องคดี แต่บ้านที่ส่งเอกสาร ไม่ใช่คู่กรณีผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด จึงเดือดร้อนต้องวิ่งไปติดต่อศาล เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย อันเป็นส่วนหนึ่งของการออกเลขที่บ้านซ้ำซ้อนหรือไม่ ? โดยเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวจะได้ติดตามกับสำนักทะเบียนราษฎร์ที่ออกเอกสารทะเบียนบ้านต่อไป .

ทีมข่าวเชียงราย รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าวเป็นตัวละครอย่างคับคั่งและน่ารักกับซีรี่ส์ละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนม

แชร์เนื้อหานี้

เปิดตัวผู้จัดละครใหม่ป้ายแดง ผู้อำนวยการสร้าง ซีรี่ส์ละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนม
คุณพิ้งค์ ณัฐกัญภรณ์ ธนันพัฒนวงษ์แถลงข่าวเป็นตัวละครอย่างคับคั่งและน่ารักกับซีรี่ส์ละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนม

เมื่อวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568เวลา 13.00 น.-16.00 น.
สถานีโทรทัศน์ MV TV ( สายไหม73 )ซีรี่ส์ละครเรื่องแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนม
ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผู้จัดละครป้ายแดงเรื่องแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนมผู้อำนวยการสร้างคุณณัฐกัญภรณ์ ธนันพัฒนวงษ์ (พิ้งค์)เตรียมเปิดกล้องและออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ MV TVสถานีโทรทัศน์ BOOM ANIMEโดย ได้ผู้ควบคุมการผลิตละครโทรทัศน์ ผู้กำกับการแสดงคุณ ฮ.นกเอี้ยงตาโตเกตน์ศิรณี บุญมาสนับสนุน เป็นเบื้องหลังของการผลิตซีรี่ส์ละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนมในเรื่องนี้…

โดยในงานแถลงมีการรับชมการโชว์การร้องเพลงประกอบละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนมและเปิดตัวผู้จัดละครป้ายแดงผู้อำนวยการสร้าง ละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนม
คุณณัฐกัญภรณ์ ธนันพัฒน์วงษ์ ( คุณพิ้งค์)นายอฑิวัฒน์ แปลงนาม (กล์อฟ)
รองผู้อำนวยการสร้างละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนม ทั้งนี้ ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงก็มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำพระเอก และ นักแสดงในสังกัดตนมาร่วมแสดงในละคนด้วย นำโดย.ดร.วโรดม ศิริสุข (ชายแฮ็คส์) ผู้อำนวยการสร้างละครเรื่องลอยแก้ว/ คุณไก่ ปิฏษฏา ทรงกรด / คุณชัย ศุภชัย / นักแสดงรับเชิญเล้ง ณัฐพล นิลดอนหวาย -แสตมป์ พรวศิน เรืองนุกูล พระเอกละครเรื่องลอยแก้ว / น้องโจ้ ธนากร เสียงเพลิน พระเอก ภาพยนตร์เรื่องลับแลคำชะโนด – ภาพยนตร์เรื่องราชินีปลาร้า

พร้อมด้วยกลุ่มนักแสดงเด็กเรื่องแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนมน้องอิชิตัน ( พระเอก) / น้องแก้มใส ( นางเอก) / น้องเนม ( รองพระเอก )/ น้องแป้งหอม ( รองนางเอก)/น้องโฟกัส (นางร้าย)/น้องแพรรี่( นางร้าย) ตามมาด้วยนักแสดง น้องรีวิว/น้องเปียโน/น้องอลิซ/น้องแล้วแต่/น้องพรีเซ้นต์/น้องแก้ม ฉัตรแก้ว / น้องซูกัส….นักแสดงรับเชิญ วิลลี่ ผีก้าบก้าบ / ครีมมี่ปรารถนา มีวิชา / คุณวิ วิจิตรา ศิริศรี มังกร / คุณนุช ภัทร์ธระชาดา พิริยะเมทาวี / คุณไม้ อัมพร ขวัญยืนคง / คุณติ๊ก สุนทรี คำจุลลา / คุณโอ กิตติศักดิ์ ภูชาคำ / คุณโดโด้ ดำรงพล ลามกร /คุณวาสนา พรหมบุตร/ คุณถนอมทรัพย์ พงศ์วารินทร์ และ กลุ่มนักแสดงซุปเปอร์ฮีโร่

ทางทั้งผู้กำกับ คุณ ฮ.นกเอี้ยงตาโต ได้พาน้องๆนักแสดงแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนมเข้าเยี่ยมชม สตูดิโอ การบันทึกเทปรายการโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์ MV TV
คุณพิ้งค์ กล่าวว่า” ขอขอบคุณท่านผู้ปกครองเด็กๆทุกท่าน ที่เชื่อใจ มั่นใจ และมอบโอกาสดีๆ ให้พิ้งค์ ได้เป็นผู้จัดละคร ในครั้งนี้ ตัวพิ้งค์ก็จะทำให้ดีที่สุด
คะ ซีรี่ส์ละครแก๊งส์ซ่าฟันน้ำนมจะผลิตขึ้นมา 4 EP. ก่อน โดยเริ่มจากตอนโตขึ้นอยากเป็นอะไร, ตอนความรักที่เบิกบาน / ตอนล่าหลอกผี/ ตอนย้อนอดีต ละครแก็งซ่าส์ฟันน้ำนมจะผลิตละครออกมา ตอนละ 25 นาที ยังไงฝากติดตามรับชม
ละครส่งเสริมเด็กและเยาวชนที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ของละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนมด้วยนะคะ”สนใจติดต่อ อยากมาเป็นส่วนหนึ่งด้านการแสดงในซีรี่ส์ละครแก๊งซ่าส์ฟันน้ำนม สามารถติดต่อ คุณพิ้งค์
โทร..0889784453

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /ตร.สภ.ชานุมาน จ.อำนาเจริญ จับยาบ้า400000เม็ด ชาวลาว 1 คน ชื่อท้าวน้อย

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา8.00น วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 สถานีตำรวจภูธรชนุมาน โดยคำสั่งพล.ต.ท.วัฒนา​ ยี่จินผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มอบนโยบาย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐบาลกำชับเน้นย้ำกวดล้างยาเสพติดในพื้นที่ อย่างเด็ดขาดได้สั่งการมอบหมายให้พล.ต.ต.นิพล​ บุญเกิดผู้บังคับ
การตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และสั่งการให้ พ.ต.อโชตินรินทร์​ สุภาวรัตม์ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรชานุมาน พร้อมกับตำรวจทุกนายได้กวดขันกรวดล้างยาเสพติดและ อาชญากรรมของผิดกฎหมายทุกชนิดในพื้นที่จนทราบว่า​ เมื่อเวลา8.00นสายข่าวรายงานมาว่าอในพื้นที่จะมีขบวนการขนย้ายยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านมายังในราชอาณาจักรไทย บริเวณอำเภอชานุมานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนอำเภอชุมสายสืบทราบว่า จะมีการขนยาเสพติดในเวลากลางวัน เจ้าหน้าที่ได้ซุ่มอยู่ตลอดทั้งคืนจนสว่างและยามเช้าจึงเห็นชาย 1 คนได้แบกกระสอบสีเขียวๆ

ขึ้นจากตลิ่งน้ำโขง ขึ้นมายังป่าล่ะเมาะในเขตอำเภอชานุมาน เจ้าหน้าที่ก็ได้ ติดตามไม่ได้คาดสายไม่กระพริบตา เห็นชายดังกล่าวแบกกระสอบเข้าไปป่าละเมาะ แน่ใจละว่าเป็นของผิดกฎหมายเจ้าหน้าจึงจึงได้แสดงตนแสดงสิทธิ์ตรวจค้น จับกุมตอนแรกฮึดฟัดเหวี่ยงต่อสู้ กับเจ้าหน้าที่แต่สู้เจ้าหน้าที่ไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่มีความชำนาญตวรจพบว่าในกระสอบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 อย่างร้ายแรง ตรวจนับจำนวน 400,000 เม็ด และได้สอบถามชาวลาว ชื่อท้าวน้อยไม่ทราบนามสกุล จากการ สอบถามในเบื้องต้นว่าจะนำมาไว้ในป่าละเมาะและจะมีพ่อค้ายาเสพติด อยู่ในประเทศไทย มารับช่วง ต่อไป แต่ก็มาถูกจับก่อน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงขยายผล

โดยมีการติดต่อกับใครบ้างในทางโทรศัพท์ จึงทราบแล้วว่า ขบวนการ พ่อค้ายาเสพติด ที่จะมารับยาเป็นใคร เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ. ชานุมานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ด้านท่านผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 3 ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอยู่เสมอว่า ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดนได้ช่วยกัน ปราบปรามกวาดล้างพ่อค้ายาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายอย่างจริงจังเพื่อให้ชุมชนสังคมได้มีความสุขปราศจากสิ่งเสพติดทุกชนิดต่อไป
ภาพ/ข่าว​ ประวัติ​ นิธิเตชะยศสกุล รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ปลัดอ.ภูสิงห์ ยิงวัยรุ่นค้ายาเสพติดเสียชีวิต 1 ราย จับผู้ต้องหาเสพยาเสพติดได้อีก 2 ราย

แชร์เนื้อหานี้

***ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเหตุ ปลัดอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายความมั่งคง ยิงปืนใส่กลุ่มต้องสงสัยที่มามั่วสมยาเสพติดที่คลองน้ำลำเจียก ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีคนเสียชีวิต 1 ราย จับได้ผู้ต้องหาย 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้าอีกจำนวน 79 เม็ด ซึ่งญาติผู้ตายติดใจในการเสียชีวิต และมีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไหม

***ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่บ้านนาค้อ หมู่ที่20 ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ พอไปถึงพบชาวบ้าน และญาติๆผู้เสียชีวิตได้พากันมาช่วยจัดเตรียมสถานที่ กางเต็น เพื่อรอรับศพผู้เสียชีวิตที่จะมาในช่วงบ่ายวันนี้ โดย นายสุบิน คงสม อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่ หมู่ 20 ตำบลปรือใหญ่ เปิดเผยว่า ผู้ตาย ชื่อ นายถนัด หรือ แตน ลานตวน อายุ 26 ปี ซึ่งผู้ตายมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน แตน เป็นคนสุดท้อง และผู้ตายยังไม่มีครอบครัว โดยปกติผู้ตายประกอบอาชีพรับจ้างเก็บผลไม้ตามฤดูกาลที่ต่างจังหวัด ถ้าเสร็จฤดูกาลเก็บผลไม้ก็จะกลับมาอยู่ดูแลพ่อที่บ้าน ตามปกติผู้ตายจะชอบออกไปหาหนูนาเป็นประจำทุกวัน คืนวันเกิดเหตุผู้ตายออกไปหาหนูนา และมารู้ข่าวอีกทีว่าถูกยิงตายที่คลองส่งน้ำบ้านคลองลำเจียก เมื่อช่วงกลางดึก เวลาประมาณ 23:00 น. ของวัน ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เบื้องต้นญาติยังติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ปกครองทำว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่

***ต่อมาทางน้องชายและทางญาติๆผู้ตายได้พาผู้สื่อข่าวไปดูที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมกลางทุ่งนาใกล้กับคลองส่งน้ำ ตรงกระท่อมมีร่องรอยการต่อสู้ คลาบเลือด กระดาษฟอยล์ ไฟแช็ค อุปกรณ์การเสพยาตกเต็มไปทั่วบริเวณกระท่อม และมีร่องรอยเท้าเหยียบย่ำรอบกระท่อม มีรองเท้าหล่นอยู่ในพื้นที่หลายคู่ คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย และของกลุ่มเพื่อน

***ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปที่สถานีตำรวจภูธรปรือใหญ่ ได้พบ พันตำรวจเอก ดนัย รัตนประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้นั่งสอบสวน นายเกียงไกร สุดพาห์ ปลัดอำเภอภูสิงห์ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง (มือยิง) โดย พันตำรวจเอก ดนัย เปิดเผยว่า จากการได้สอบสวนและนั่งพูดคุย เบื่องต้นเหตุเกิดเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 20 ก.พ. 68 ผู้ตายมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด วันเกิดเหตุฝ่ายปกครองอำเภอภูสิงห์ขยายผล ว่ามีเบาะแสมาว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมีการนัดส่งยาเสพติดและมั่วสุมยาเสพติดที่กระท่อมกลางนา ฝ่ายปกครองจึงเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ พร้อมกระจายกำลังสุ่มทั่วบริเวณ พบกลุ่มวัยรุ่นเป็นกลุ่มผู้ตายกำลังเดินทางมาส่งยาที่กระท่อมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ปกครองแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุมแต่กลุ่มผู้ตายรวม 7 คน มีการต่อสู้ขัดขืน ในขณะนั้นมีเพียงปลัดผู้ก่อเหตุคนเดียวที่แสดงตัวเข้าจับกุม จังหวะที่ประชันหน้ากัน ปลัดเกรียงไกรจึงได้ใช่อาวุธปืนยิงสวนไปเพื่อป้องกันตัว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อหากับ นายเกียงไกร สุดพาห์ ปลัดอำเภอภูสิงห์ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ว่ายิงผู้อื่นถึงแกความตาย

***ด้าน นายเกียงไกร สุดพาห์ ปลัดอำเภอภูสิงห์ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ที่ทำลงไปเพื่อเป็นการป้องกันตัว เนื่องจากผู้ตายทำท่าคล้ายจะชักอาวุธออกมา ซึ่งตอนแรกตนยิงปืนขู่ไป 2 นัด ซึ่ง 1 ใน 2 นัด ไปถูกด้านหลังซ้ายของผู้ตาย 1 นัด จนเสียชีวิต

***ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว 2 ผู้ต้องหา ที่เป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ตาย คือ นายศิวนนท์ ธรรมพร อายุ 25 ปี และ นายภานุพงศ์ กลอยยิ่ง อายุ 20 ปี มาสอบสวน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ 2 ผู้ต้องหา โดยเล่าให้ฟัง ว่า ยาเสพติดที่เจอเป็นของผู้ตาย และตนก็ไม่ได้สนิทกับผู้ตายเท่าไร เพราะอยู่กันคนละหมู่บ้าน วันเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่ร้านซ่อมรถของตนเพื่อมาชวนไปกินเหล้าที่คลองส่งน้ำลำเจียก ตนเลยขับรถไปที่คลองดังกล่าว และขับรถจักรยานยนต์เข้าไปเสพยาที่กระท่อมตรงจุดเกิดเหตุ โดยตนไม่มียาเสพติด แต่จะขอยืมยาเสพติดผู้ตายเสพ ซึ่งไม่รู้ว่ามีฝ่ายปกครองซุ้มรอจับกุมอยู่ พอเข้าไปกระท่อมได้ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาจับกุมดังกล่า
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “ธี่หยด3” ขายดีตั้งแต่ยังไม่เปิดกล้อง!Sold Out วันแรกในงาน “EFM”

แชร์เนื้อหานี้

ความเคลื่อนไหวของภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” ผลงานการสร้างระหว่าง ช่อง 3 และ M STUDIO จากงาน European Film Market (EFM) 2025 ประเทศเยอรมันนี โดยคุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M STUDIO ได้กล่าวว่า “ทาง M STUDIO ได้ทำการปิดการขายลิขสิทธิ์ภาพยตร์ ‘ธี่หยด3’ ให้กับทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความสนใจตั้งแต่ภาพยนต์ยังไม่เปิดกล้อง และถือว่าเป็น

อีกก้าวสำคัญในการนำ Horror Movie Franchises ของไทยไปสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ภาพยนตร์ไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 670 ล้านคน อีกทั้งยังมีแฟนคลับในทุกประเทศที่ติตตามผลงานภาพยนตร์ไทยอย่างสม่ำเสมอ M STUDIO มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ภาพยนตร์ไทยให้มีคุณภาพระดับสากลและสามารถนำพา Soft Power ของไทยให้ประสบความสำเร็จในตลาดโลกอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน”

นอกจากเรื่อง “ธี่หยด3” แล้ว M STUDIO ยังมีภาพยนตร์เรื่อง “สุสานคนเป็น” ที่นำแสดงโดย นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี และ “มือปืน” ผลงานการกำกับภาพยนตร์ของ พุฒิ พุฒิพงษ์ นาคทอง รวมทั้งอีกหลายโปรเจกต์ ที่ทาง M STUDIO นำไปขายในงานนี้ซึ่งได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน “ธี่หยด3” นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ ซึ่งเรื่องราวในภาคนี้ ยักษ์ ต้องหาทางไปช่วย ยี่ น้องสาวคนเล็กสุดที่ถูกลักพาตัวไป กำกับภาพยนตร์โดย แป๊ป ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์

ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก นอกจาก “ธี่หยด” และ “ธี่หยด2” แล้วยังเป็นผู้อำนวยการสร้างของ ภาพยนตร์ “ทองสุก 13” ละคร เพลิงนาคา, พิภพหิมพานต์, ภูติแม่น้ำโขง และเพิ่งลาจอช่อง 3 ไปล่าสุดกับ นางนาคพระโขนง โดยภาพยนตร์ “ธี่หยด3” วางกำหนดฉายไว้วันที่ 8 ตุลาคมปีนี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ประชาสัมพันธ์
ปฐมทัศน์ โป้ง (พีอาร์ เอ็มสตูดิโอ) 089-826-6363
รสรินทร์ กวาง 084-294-9924

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รมว.ทส. เปิด “บ้านเขียว” คืนชีวิตอาคาร 120 ปี สู่ศูนย์เรียนรู้การป่าไม้จ.แพร่ / @สถานีตำรวจภูธรปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

แชร์เนื้อหานี้

💦รัฐมนตรีว่าการกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน จังหวัดแพร่ “บ้านเขียว” แหล่งศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์การป่าไม้

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน จังหวัดแพร่ “บ้านเขียว” อาคารประวัติศาสตร์อายุ 120 ปี ภายใต้ชื่องาน “ฟื้นบ้านเขียว สู่อ้อมกอดชาวแพร่” โดยมีนายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานราชการ และประชาชนร่วมงาน ภายในงานมีการจัดกิจกรรมสำรวจธรรมชาติและเรียนรู้ประวัติศาสตร์การป่าไม้ไทย

สำรวจพรรณไม้หายาก เรียนรู้เรื่องราวป่าไม้ล้านนา และการแสดงดนตรีในสวน นอกจากนี้ยังมี “กาดฮิมยม” ตลาดนัดวินเทจริมน้ำยม ที่รวบรวมงานศิลปะ หัตถกรรม และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่หน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนการบูรณะ

สำหรับ “บ้านเขียว” เป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2444 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเป็นที่ทำการป่าไม้ภาคแพร่ของกรมป่าไม้สยาม โดดเด่น

ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลผสมภูมิปัญญาท้องถิ่น ตัวอาคารเคยผ่านการใช้งานและพัฒนาในหลายยุค ก่อนจะถูกรื้อถอนในปี 2563 และได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถันโดยกรมศิลปากรและสมาคมสถาปนิกสยามฯ

เป็นเวลากว่า 2 ปี เพื่อคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมให้มากที่สุด และเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคม 2567 ต่อมาภาคประชาชนได้เสนอให้อาคารหลังนี้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์การป่าไม้ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา

ตลอดจนประชาชนทั่วไป สร้างจิตสำนึกร่วมกันเป็นพลังในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ภายใต้ชื่อศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน จังหวัดแพร่…สมจิตรแสงบันลังค์ ทีมข่าวบกรายงาน

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.30 น.นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน , พล.ต.ต.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน , นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน , นายผะอบ บินสะอาด ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน , นายณพล พาหุมันโต นายอำเภอปาย , พ.ต.อ.สำเร็จ สามสีทอง ผกก.สภ.ปาย , พ.ต.ท.วีรภัทร คำลาพิชรอง.ผกก.สภ.ปาย

 ร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงาน การแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปาย เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ณ ห้องประชุมอำเภอปาย ชั้น 2 หัวข้อที่ประชุมมีดังนี้ 
 1. เรื่องการประกอบอาชีพของชาวต่างชาติ เช่น เปิดร้านสัก เล่นดนตรี ขายของในตลาดถนนคนเดิน
 2. เรื่องการสันทนาการ เช่น ร้านจำหน่ายกัญชา ร้านบริการต่างๆ 
 3. เรื่องการกวดขันวินัยจราจรของชาวต่างชาติ
 4. เรื่องการแต่งกายไม่เหมาะสมของชาวต่างชาติหลังกิจกรรมล่องห่วงยาง
 5. เรื่องสถานประกอบการและสถานบริการต่างๆ
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมได้มีประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสื่อโซเชียลที่มีการเผยเเพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่เกินจริง มารอยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน  ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้รับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มตัวเเทนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสื่อโซเซียลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลฯ โดยกลุ่มตัวเเทนประชาชนขอให้หน่วยงานราชการในจังหวัดแม่ฮ่องสอนดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคลที่นำข้อมูลเป็นเท็จลงสื่อโซเชียลสร้างความเสียหายให้กับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน .

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิว์ / ทส. เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้ ส่งเสริมอาชีพ ปลูกป่า 3 อย่าง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวจ.น่าน ป้องกันอุทกภัยดินโคลนถล่ม

แชร์เนื้อหานี้

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางไปยังวิทยาลัยสงฆ์น่านนคร อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนชาวจังหวัดน่านได้อยู่อาศัยทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ และผู้บริหารกรมป่าไม้ เข้าร่วมงาน

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล็งเห็นปัญหาของพี่น้องประชาชนพร้อมทั้งได้มอบหมายให้หน่วยงานเร่งดำเนินการโดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศเพื่อสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้กับประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และ

สนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวันนี้กรมป่าไม้ได้อนุมัติพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ทั้ง 15 อำเภอ ในจังหวัดน่าน เนื้อที่ 968,344 ไร่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จำนวน 46,558 ราย ให้ได้อยู่อาศัยทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีตัวแทนมารับมอบสมุดประจำตัว จำนวน 1,000 ราย นอกจากพี่น้องประชาชนจะได้อยู่อาศัยทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วหน่วยงานต่างๆ ก็สามารถเข้าไปพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ พี่น้องประชาชนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมาจังหวัดน่านมีพื้นที่ป่าลดลงทุกปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2561 รัฐบาลได้มีคำสั่งเรื่องการบริหารพื้นที่รูปแบบพิเศษเพื่อการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดน่าน หรือ โครงการน่านแซนด์บอกซ์

ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานภาครัฐ และนายบัณฑูร ล่ำซำ เป็นประธานภาคเอกชน คณะกรรมการน่านแซนด์บอกซ์ได้สนับสนุนการสำรวจแปลงที่ดินของราษฎรในจังหวัดน่านที่ทำกินในเขตป่าทั้งจังหวัด

นอกจากนี้คณะกรรมการน่านแซนบอกซ์โดยนายบัณฑูร ล่ำซำ ยังได้สนับสนุนจัดทำโปรแกรมพิมพ์สมุดประจำตัวมอบให้กรมป่าไม้เพื่อใช้จัดทำสมุดประจำตัวให้แก่ราษฎรทั้งประเทศ โดยจังหวัดน่านมีราษฎรถือครองทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 150,340 ราย เนื้อที่ 1,559,320 ไร่ และกรมป่าไม้ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเร่งรัดจัดทำสมุดประจำตัวมอบให้แก่ราษฎรทุกราย นอกจากนี้กรมป่าไม้ยังได้จัดทำระบบ “สมุดประจำตัวดิจิทัล” ในระหว่างรอเล่มสมุดประจำตัว ราษฎรสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อและแสดงสมุดประจำตัวผ่านโทรศัพท์มือถือได้

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากมอบสมุดประจำตัวให้ราษฎรในจังหวัดน่านได้อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ โดยในพื้นที่จังหวัดน่านดังกล่าวกรมป่าไม้ได้อนุมัติโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคให้มีการปรับปรุงถนน 28 โครงการ พัฒนาระบบไฟฟ้า 4 โครงการ และพัฒนาแหล่งน้ำ 11 โครงการ

เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้จังหวัดน่านยังได้เข้าไปสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ราษฎร ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน โครงการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ตามพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวทาง “ทำให้ ทำร่วม ทำเอง” “ทำให้” คือการทำแปลงสาธิตตัวอย่างให้ราษฎรได้ศึกษาเรียนรู้ “ทำร่วม” คือมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกับราษฎร และ “ทำเอง” คือการขยายผลให้ราษฎรสามารถทำได้ด้วยตนเอง

“จังหวัดน่านถือเป็นแบบอย่างการทำงานแบบบูรณาการของทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งจะช่วยป้องกันอุทกภัยดินโคลนถล่มได้ในอนาคต ราษฎรมีอาชีพที่มั่นคงสามารถอยู่ร่วมกันกับป่าได้อย่างยั่งยืน” นายสุรชัยกล่าว และในวันเดียวกันนี้ที่สนามบินน่านนคร นายสว่างเปรมประสิทธิ์ นายก อบต.สะเนียน นายบุญยงค์ สดสอาด

นายเรืองเดช จอมเมือง นางจรวยพร อินสาคำ อดีตผู้สมัคร ส.ส.น่านพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งสามเขต นายรัฐภูมิ ขันสลี ผู้แทนเกษตร 17 จังหวัดภาคเหนือ นายกอบต.ภูฟ้าและคณะจากอำเภอปัวได้ให้การต้อนรับท่านรัฐมนตรีและมอบกระเช้าเพื่อเป็นการขอบคุณดร.เฉลิม ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

ทอดผ้าป่าสามัคคี 9 วัด ในวันเดียวกันอ.สามโก้ จ.อ่างทอง 9 กพ. 2568 และ แจกทุนการศึกษา โรงพยาบาลตำบล

แชร์เนื้อหานี้

รายการ.วิธีธรรม วิธีไทย ทาง ช่อง5 HD เทปนี้ ออกอากาศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 06.00-06-30 น. ในงาน.ทำบุญ 9 วัด ในวันเดียวกัน อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.30 – 15.30 น.และแจกทุนการศึกษา โรงพยาบาลตำบล โดย.สมาคมชาวอ่างทอง ร่วมกับ ดร.ฉวีวรรณ คำพา เป็นประธาน