เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผวจ.ศรีสะเกษ แถลงข่าว.จัดงาน “มหกรรมโคเนื้อดีศรีสะเกษ” เพื่อเชื่อมโยงตลาดโคเนื้อ สร้างแบรนด์เนื้อโคคุณภาพสูง และพัฒนาสู่ตลาดพรี่เมี่ยม

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17.00 – 19.30 น. ณ สวนสาธารณะลาดออดหลอด อนุสรณ์ 238 ปี จังหวัดศรีสะเกษอำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
วันนี้ เวลา 17.00 น. จังหวัดศรีสะเกษ โดย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับหอการค้าจังหวัด ศรีสะเกษและYECศรีสะเกษ จัดงานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษ” ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568 ณ สวนสาธารณะลานออดหลอด อนุสรณ์ 238 ปี จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง ศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ในงานแถลงข่าวจัดการเสวนาพูดคุยในหัวข้อ การเชื่อมโยงตลาดและโอกาสของโคเนื้อ ศรีสะเกษ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จังหวัดศรีสะเกษกำลังเริ่มต้นสร้างแบรนด์เนื้อโคคณภาพสูง และพัฒนาสู่
ตลาดพรี่เมี่ยม ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษมีเกษตรกรผู้เลี้ยงทั้งหมด 139,623 ราย โดยมีการเลี้ยงโคเนื้อมากที่สุด 41.9%ของเกษตรกรทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นโคเนื้อทั้งจังหวัดถึง 511,213 ตัว จากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อทั้งหมด 105,500 ราย

****นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงศักยภาพของศรีสะเกษในอุตสาหกรรม โคเนื้อ ศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่ มี เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อจำนวนมาก และเริ่มมีการ พัฒนาโคขนเพื่อเข้าสู่ตลาดโคเนื้อคุณภาพสูง ปัจจุบันจังหวัดมึนโยบายผลักดันให้ โคเนื้อเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตร มูลค่าสูง เรากำลังพัฒนาเครือข่ายเกษตรตรกร ให้สามารถผลิตโคเนื้อคณภาพสูงตรงตามมาตรฐานฟาร์ม ที่มีระบบ การเลี้ยงสัตว์และการป้องกันโรคที่เหมาะสม และฟาร์มปลอดสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเป็นมาตรฐานฟาร์มด้านปศสัตว์ และการรับรองมาตรฐานอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่า โคเนื้อศรีสะเกษมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนของการผลิต และสิ่งที่เราต้องเร่งดำเนินการคือ การสร้างอัตลักษณ์ของเนื้อโคศรีสะเกษให้ชัดเจน เช่น สายพันธุ์ที่ใช้ วิธีการเลี้ยง และมาตรฐานการผลิต เพื่อให้ตลาดรับรู้ว่า “เนื้อโคศรีสะเกษ” มีคุณภาพดี และมีจุดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น”ศรีสะเกษ” มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางโคเนื้อคุณภาพของภาคอีสาน เราสามารถสร้างโคขุนที่มีคณภาพเพื่อเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร และยังมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค หากเราสามารถ สร้างเครือข่ายระหว่างเกษตรกรผู้แปรรูป และผู้ค้าปลึกได้อย่างแข็งแกร่ง เราจะสามามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับชมชน และนี่คือเหตุผลที่เราจัดงาน “มหกรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษ 2568” งานนี้ไม่เพียงแต่ เป็นการจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการขยายตลาด เปิดโอกาสให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ได้ร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมโคเนื้อของศรีสะเกษ

*****นายนัทเวโรจน์ บูชาพัฒน์ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ
ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ เรากำลังดำเนินโครงการ “ส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อแบบครบวงจร” ซึ่งมุ่งมัน 3ด้านหลัก ได้แก่

การปรับปรุงสายพันธุ์ – นำโคพันธุ์ดี เช่น วากิวลูกผสม ชาโรเลส์ แองกัส มาปรับปรุงพันธุ์ให้เหมาะ กับสภาพแวดล้อมของศรีสะเกษ แต่มีอัตราการแลกเนื้อที่ดีและมีคุณภาพเนื้อที่ตลาดต้องการ

การพัฒนาระบบการเลี้ยง – ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้อาหารสัตว์ลดต้นทุน และอาหารหยาบคุณภาพดี ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของเนื้อ และลดต้นทุนการผลิต

การสร้างมาตรฐานการผลิต – พัฒนาฟาร์มโคขุนให้ได้มาตรฐานฟาร์มที่มีระบบการเลี้ยงสัตว์และ ป้องกันโรคที่เหมาะสม และฟาร์มปลอดสารเร่งเนื้อแดง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโคเนื้อคุณภาพสูงปัจจุบัน ตลาดโคเนื้อไทยมีการเติบโตสูง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้บริโภคหันมาสนใจ เนื้อโคคุณภาพสูง เช่น โคขุน โคเนื้อพรีเมียม มากขึ้น ขณะเดียวกัน จีน เวียดนาม และประเทศในตะวันออกกลางมีความต้องการ นำเข้าโคเนื้อจำนวนมาก นอกจากนี้ ตลาดเนื้อแปรรูป เช่น เนื้อดรายเอจและเนื้อเกรดพิเศษ ก็กำลังเติบโต สำหรับเกษตรกร ต้องปรับตัวสู่การเลียงโคเนื้อคณภาพสูง ใช้สายพันธ์ที่เหมาะสม มีมาตรฐานการเลียง และให้ ความสำคัญกับการตลาดมากขึ้น

****นายจำนงค์ จังอินทร์ ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ กล่าวถึงการพัฒนาสายพันธ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด ว่าการเลียงโคแบบเดิมที่เราเคยทำ อาจไม่ตอบโจทย์ตลาดปัจจจุบันแล้ว เพราะผู้บริโภคคต้องการเนื้อที่มี ไขมัน แทรกนุ่ม หอม และคุณภาพสูง ดังนั้น เกษตรกรต้อง พัฒนาโคขุนให้ตรงกับความต้องการของตลาดเช่น การ ใช้โคสายพันธ์ลูกผสมที่ให้เนื้อคุณภาพดี และต้อง เรียนรู้การให้อาหารขุนที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้เนื้อที่มีคุณภาพดี ที่สุด ตอนนี้ตลาดต้องการ เนื้อโคที่มีสักษณะเฉพาะ เช่น ไขมันแทรกดี (Marbling) นุ่ม และมีกลิ่นหอมซึ่ง จะต้องมาจากฟาร์มโคขนที่ได้มาตรฐาน ถ้าเราทำให้เนื้อโคศรีสะเกษ มีเอกลักษณ์ชัดเจนและตรงกับความต้องการของตลาด เราก็สามารถตั้งราคาสูงขึ้นได้ เกษตรกรก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิม โดยต้องควบคูไป กับการพัฒนามาตรฐานการเลี้ยงและมาตรฐานฟาร์มด้วย

*****นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่าการสร้างตลาดและการเชื่อมโยงเครือข่ายธรกิจ ในการตลาดระดับพรีเมียม จังหวัดศรีสะเกษมีโอกาสมีสูงมาก เพราะปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการเนื้อที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม และชูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมซึ่งเนื้อของศรีสะเกษสามารถตอบโจทย์ได้ แต่สิ่งที่ต้องพัฒนา เพิ่มเติมคือ สร้างแบรนด์เนื้อโคของศรีสะเกษให้เป็นที่รู้จัก ให้เหมือนกับเนื้อโคขนโพนยางคำ หรือเนื้อวากิว เราควรมีตราสินค้าประจำจังหวัด (Provincial Brand)
เพื่อทำให้โคเนื้อของเรามีจดเด่นที่ชัดเจน สิ่งที่สำคัญ คือ เกษตรกรต้องเรียนรู้เรื่องมาตรฐาน เช่น GFM หรือฟาร์ม ปลอดสารเร่งเนื้อแดง เพื่อเพิ่มมูลค่า และควรมี ช่องทางขายที่ชัดเจน เช่น การทำตลาดออนไลน์ หรือส่งตรงถึง
ผู้บริโภค

*****ด้านนายมรุตพงศ์ รจนา ผู้จัดการ สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด (Max Beef) กล่าวถึงแนวทางในการ รับซื้อโคขุน และสถามการณ์ต้าน โคขุนพรีเมือมของจังหวัดศรีสะเกษในปัจจุบัน”มหกรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษ” งานนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่เกิดจากความร่วมมือขอของทุกภาคส่วน เพื่อประชาสัมพันธ์เนื้อโคศรีสะเกษ สู่ตลาดพรีเมืยมระดับประเทศ เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ ผ่านกิจกรรม Business Matchin ยกระดับคุณภาพ โคเนื้อ ด้วยความรู้จากผู้เชียวชาญและ Workshop รวมถึงสร้างความตื่นตัวในตลาดผู้บริโภค ผ่านกิจกรรม Chef’s Table Fine Dining โดยเซฟปอนด์ มาสเตอร์เชพไทยแลนด์ ที่จะมารังสรรค์เมนูสุดพิเศษจาก เนื้อโคศรีสะเกษ ในพิธีเปิดงานวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้นอกจากนี้ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินยอดนิยม เน็ค นฤพล กิจกรรมโชว์ทำอาหาร (Show Cooking) เรียนรู้เทคนิค ปรุงเนื้อระดับพรีเมียม เวิร์กช็อปแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อและเครื่องหนัง

กิจกรรม BusinessMatching & Show Case กิจกรรมที่น่าสนใจอัดแน่นแน่นตลอดทั้ง 3 วัน ซึ่งการจัดงานมหกรรมโคเนื้อและดีเนื้อศรีสะเกษ 2568 เกิดขึ้นจากเราได้เห็นถึงศักยภาพของโคเนื้อศรีสะเกษ ทั้งจากมุมมองของภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกรและผู้ประกอบการ ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าตลาดโคเนื้อยัง มีโอกาสเติบโตสูง และศรีสะเกษเองมีจุดแข็งที่สามารถผลักดันให้เป็น แหล่งผลิตโคเนื้อคุณภาพระดับ พรีเมียมของประเทศได้ สิ่งสำคัญคือ การสร้างมาตรฐาน การทำตลาด และการสร้างแบรนด์โคเนื้อศรีสะเกษ ให้แข็งแกร่งขึ้นจัดโดย จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานปศสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษและYECศรีสะเกษ สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ Facebook : มกหรรมโคเนื้อและเนื้อดีศรีสะเกษ

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นายอำเภอแม่สาย นายกกิ่งกาชาด อ.แม่สาย ได้เป็นประธาน เปิดกิจกรรมโครงการ“อำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่”

    แชร์เนื้อหานี้

    //// วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 09.00 น. #นายวรายุทธ #ค่อมบุญ“อำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่” อำเภอแม่สายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ ประจำ
    เดือนกุมภาพันธ์พร้อมทั้งร่วมกิจกรรม ดังนี้
    1. ร่วมกับคณะกิ่งกาชาด อ.แม่สาย และชมรมแม่บ้านมหาดไทย
    ออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงพร้อมมอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือจำนวน
    5 ราย (หมู่ 1 และ หมู่ 5 ตำบลบ้านด้าย อ.แม่สาย)
    มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านเทพกาญจนา จำนวน 6 ทุน
    2. ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เปิดให้
    บริการแก่ประชาชน โดยในส่วนของอำเภอแม่สายได้จัดซุ้มเคลื่อนที่ให้บริการ
    ของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และบริการประชาสัมพันธ์ และสมัครแอพพลิเคชั่น
    ThaiD
    3. ร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์หยุดเผา และลดฝุ่น PM 2.5 ร่วมกับกลุ่มงาน
    ความมั่นคงอำเภอแม่สาย สาธารณสุขอำเภอแม่สาย และหัวหน้าส่วนราชการ…

    สมจิตรแสงบัลลังก์ทีมข่าวภาคเหนือรายงาน

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เทศบาลเวียงสรวย จัดการแพเปียก แม่สรวย หลังเปิดไฟเขียวใช้พื้นที่หน้าเขื่อน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ล่องแพเปียกคลายร้อน

    แชร์เนื้อหานี้

    เทศบาลตำบลเวียงสรวย รับลูกชลประทานบริหารจัดการแพเปียกแม่สรวย เทศบัญญัติควบคุม หลังเปิดไฟเขียวใช้พื้นที่หน้าเขื่อน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว หนีอูณหภูมิอากาศร้อน ล่องแพเปียกคลายร้อน ในเทศกาลสงกรานต์ ย้ำเตือนผู้ประกอบการเรื่องความสะอาด ควบคุมราคาอาหารเครื่องดื่มด้วยความเป็นธรรมแก่นักท่องเที่ยว ไม่จำหน่ายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ในพื้นที่ราชการ ผู้นำอีก4หมู่บ้านขอมีส่วนร่วมมติที่ประชุมฉลุย ผลประโยชน์ลงตัว เอกชนโขกราคาค่าเช่าที่แพงลิ่ว ผู้ประกอบการครวญเสียเงินทุกเม็ด สรรพสามิตพื้นที่เชียงรายเล็งจับปรับผู้จำหน่ายเหล้าเบียร์ นายอำเภอแม่สรวยกำชับจัดระเบียบจราจร และจัดการขยะเพื่อหน้าตาอำเภอแม่สรวย

    เมื่อวันที่17ก.พ 2568 เวลา09.00 น.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลเวียงสรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นายปฤษฎางค์ สามัคคีนิชย์ นายอำเภอแม่สรวย ได้เข้าร่วมสังเกตุการณ์ประชุมระหว่างผู้บริหารเทศบาลตำบลเวียงสรวย ฝ่ายปกครองตำบลเวียงสรวยและผู้ประกอบการแพเปียก ร้านค้า ร้านอาหาร ในวันดังกล่าวมีนายสมพงษ์ เจาะเสน นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสรวย นายสิงขร แสงจันทร์ ปลัดเทศบาลตำบลเวียงสรวย ว่าที่ร้อยตรีสิทธินันท์ รูปวิเชษฐ์ กำนันตำบลเวียงสรวย นายธวัช มะโนธรรม นายช่างไฟฟ้าช.3โครงการส่งน้ำบำรุงรักษาชลประทานแม่ลาว นายนิธิศ ไชยยา ผู้ใหญบ้านหมู่ที่8 บ้านตีนดอย ตำบลเวียงสรวย รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่14 ต.เวียงสรวย ที่ทำหนังสือขออนุญาตขอใช้พื้นที่บริเวณหน้าเขื่อนแม่สรวย สำหรับประกอบการล่องแพเปียก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนประจำปี 2568 ซึ่งจะมีพิธีเปิดแพเปียกอย่างเป็นทางการในวันที่22 ก.พ.2568 สิ้นสุดวันที่15 พ.ค 2568

    สำหรับการประชุมรับฟังและชี้แจงเกี่ยวกับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานแม่ลาว ได้อนุญาตและไม่ขัดข้องในการขอใช้พื้นที่ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่8และหมู่ที่13 ได้ทำหนังสือขอใช้พื้นที่ดังกล่าว โดยผ่านทางเทศบาลเวียงสรวยเป็นผู้กำกับดูแลในการขอใช้พื้นที่ ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้เทศบัญญัติเทศบาลเวียงสรวย ในที่ประชุมตัวแทนผู้ประกอบการแพเปียกได้เรียกร้องการจัดระเบียบการจราจรและเรื่องการจัดเก็บขยะปัญหาเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทความปลอดภัยเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว โดยนายสิงขร ปลัดเทศบาลตำบลเวียงสรวย ได้ชี้แจงเกี่ยวกับระเบียบเงื่อนไขการใช้พื้นที่สองข้างลำน้ำสรวยใต้สะพาน ทำซุ้มนั่งรับประทานอาหารบริการนักท่องเที่ยว โดยทางเทศบาลจะดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในราคาเมตรละ 50บาท สำหรับร้านค้าที่และลานจอดรถ พื้นที่เอกชนเทศบาลฯจะเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราทางเทศบาลฯกำหนด ในส่วนของความสะอาดและการจัดเก็บขยะ ที่ประชุมโดยนายนิธิศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่8 ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าชุมชนจะบริหารการจัดเก็บกันเอง ส่วนนายสิงขร ปลัดเทศบาลฯได้ขอให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจการตามกฎระเบียบที่ทางชุมชนกำหนดขึ้น

    จำนวน14ข้อ และเน้นย้ำถึงราคาอาหารต้องอยู่ในเกณฑ์ราคาที่เหมาะสมและต้องติดราคาให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงแผนการจัดชุดชรบ.และอปพร.อำนวยสะดวกด้านการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังจากกิจการล่องแพเปียกได้เริ่มตั้งแต่วันที่15ก.พ.-15พ.ค 2568 โดยช่วงแรกคนยังไม่หนาแน่นก็จะยังไม่จัดชุดอำนวยความสะดวกอำนวยความสะดวกเนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอยู่ในช่วงประกอบอาชีพอาขีพเลี้ยงครอบครัวเป็นปกติ แต่จะไปจัดชุดในช่วงเทศกาลในช่วงปลายเดือนมีนาคม -เมษายน ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากหลั่งไหลมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่วนทางด้านว่าที่ร้อยตรีสิทธินันท์ กำนันตำบลเวียงสรวยได้พูดถึงเรื่องการรักษาดูแลด้านความปลอดภัยเน้นย้ำถึงการบริการที่ยิ้มแย้มแจ่มใสแก่นักท่องเที่ยวโดยผู้ประกอบการต้องใช้วาจาสุภาพด้านการบริการ ย้ำผู้ประกอบการต้องดูแลคนงานลูกน้องแพเปียกร้านค้าร้านอาหาร ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ทะเลาะวิวาท ให้เสียภาพพจน์ ในเรื่องของการประสานไปยังปกครองตำบลต่างๆให้แจ้งยังลูกบ้านที่เป็นวัยรุ่นที่มาเที่ยวไม่ให้ก่อเหตุและสร้างความความวุ่นวายได้ทั้งนี้ยังย้ำถึงการกวดขันการพกพาอาวุธ การขับขี่รถเสียงดัง ตลอดถึงการเสพน้ำกระท่อมของวัยรุ่น

    ด้านนายปฤษฎางค์ นายอำเภอแม่สรวยได้กำชับและเสนอแนะฝากกิจการการท่องเที่ยวแพเปียก คือเรื่องความสะอาด ขยะและเรื่องการจัดระเบียบจราจรหนาแน่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่อำเภอแม่สรวยและขอรักษาภาพพจน์ของอำเภอแม่สรวยในการท่องเที่ยวเชิงประทับใจ
    ทางด้านนายสมพงษ์ นายกเทศบาลตำบลเวียงสรวยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเทศบาลตำบลเวียงสรวยซึ่งได้รับมอบพื้นที่จากโครงการส่งน้ำบำรุงรักษาชลประทานแม่ลาว ทางเทศบาลฯเน้นย้ำถึงการบริหารจัดการอย่างเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติให้แก่ผู้ใดผู้หนึ่งกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด โดยใช้มาตรฐานเดียวกัน โดยขอให้ผู้ประกอบการแต่ละโซน ได้ปฏิบัติตามกฎกติกาเพื่อให้กิจการท่องเที่ยวโดยชุมชนดำเนินไปด้วยดี ในที่ประชุมนายสมพงษ์ ได้ขอมติที่ประชุมเห็นชอบตามคำร้องขอเพิ่มพื้นที่อยู่ในเขตปกครอง 6หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่2,3,8,13,14 ,17 ประกอบกิจการด้านการท่องเที่ยวแพเปียก โดยปีนี้มี 36 รายโดยที่ประชุมให้หมู่บ้านที่เพิ่มขึ้นมาอีก4หมู่บ้าน2,3,13,17 รวมเป็น6หมู่บ้านในปี 2569 ถัดไปเพื่อให้เกิดความเสมอภาคมีรายได้ทั่วถึงกันทั้งนี้ขอให้อยู่ภายใต้กฎและกติกาเดียวกัน และที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันยกมือเป็นมติเอกฉันท์ เปิดโอกาสให้6หมู่บ้านได้มีส่วนร่วมและเกิดรายได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุมได้ขยายพื้นที่บริเวณเหนือสะพานซึ่งเดิมเป็นพื้นที่หวงห้ามอยู่ในความควบคุมของเขื่อนแม่สรวย ซึ่งทางโครงการได้ห้ามประชาชนเข้าไปบริเวณสันเขื่อนโดยหวั่นถึงความปลอดภัยด้วยปรากฏมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปบริเวณสันเขื่อนและถ่ายรูปลงโซเซียล อาจจะได้รับอันตรายโดยปัจจัยหลายเรื่อง อาทิการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมามายขึ้นไปอาจพลัดตกเสียชีวิต จึงได้หวงห้ามไว้ตั้งแต่ต้น แต่ส่วนด้านล่างสปริงเวย์ ลงมาเหนือสะพานซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่ทางชุมชนขอใช้ ทางโครงการส่งน้ำบำรุงรักษาชลประทานแม่ลาวได้มอบพื้นที่ให้กับเทศบาลตำบลเวียงสรวย ที่ทำเรื่องขอใช้พื้นที่จะต้องกำกับดูแลเป็นพิเศษ และบริเวณที่ชุมชนขอใช้ไม่สามารถล่องแพเปียกได้มีเพียง

    ทำซุ้มบริการนักท่องเที่ยวทานอาหาร รองรับประชาชน และเป็นพื้นที่จอดรถแก่นักท่องเที่ยว แต่ห้ามจำหน่ายเหล้าเบียร์เนื่องจากเป็นพื้นที่ของทางราชการห้ามจำหน่ายตามกฎหมาย ส่วนร้านค้าที่อยู่ในพื้นที่เอกชนหากมีการจำหน่ายเหล้าเบียร์ก็เป็นเรื่องของกรมสรรพสามิตรที่จะดำเนินคดี เปรียบเทียบปรับในอัตราทางกรมสรรพสามิตกำหนด ทางเทศบาลสามารถดำเนินตามกรอบอำนาจหน้าที่ได้เพียงเก็บค่าธรรมเนียมซุ้ม แพเปียก ลานจอดรถ ป้ายโฆษณา กำกับดูแลเรื่องระบบสุขาภิบาล จัดการอบรมผู้ประกอบการอาหาร เกี่ยวกับใบสัมผัสอาหาร เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการประกอบอาหารตามสุขอนามัย และให้ผู้ประกอบการดูแลเกี่ยวกับฝุ่นและความสะอาดของขยะ หากสิ้นระยะเวลาการขออนุญาตให้ผู้ประกอบการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกทันทีเพื่อให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมเงื่อนไขการขออนุญาต

    เมื่อวันที่19 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบนายทรงพล พงษ์มุกดา ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานแม่ลาวเกี่ยวกับการส่งมอบพื้นที่ตามคำขอใช้พื้นที่ในกิจการท่องเที่ยวแพเปียกเขื่อนแม่สรวยตามคำขอเทศบาลตำบลเวียงสรวย นายทรงพลกล่าวว่าทางโครงการฯไม่ขัดข้องแต่ประการใดแต่ขอให้เทศบาลเวียงสรวยได้กำกับดูและตลอดระยะเวลการขออนุญาต ตั้งแต่วันที่15 ก.พ-15 พ.ค.2568 แต่ให้รื้อสิ่งปลูกสร้างออกพ้นลำน้ำเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการขอใช้ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ อนึ่งการะบายน้ำ4-5 ลบม./วินาที ซึ่งถือเป็นการระบายน้ำตามปกติ เพื่อเป็นการส่งน้ำให้เกษตรกรผู้ใช้น้ำในการเกษตร140,000ไร่เฉพาะช่วงแล้ง70,000ไร่ ในพื้นที่ อำเภอแม่ใจ จ.พะเยา อ.พาน อำเภอแม่ลาว อำเภอเมือง จ. เชียงราย รวมทั้งระบบน้ำประปา การระบายน้ำเป็นรอบปกติของการบริหารจัดการของโครงการ กรณีกิจการล่องแพเปียกแม่สรวย เป็นเพียงแค่ผลพลอยได้ ทางโครงการขอชี้แจงไม่ใช่ผันน้ำเพื่อกิจการแพเปียกโดยเฉพาะ แต่เป็นการต้องการของคณะกรรมการผู้ใช้น้ำ และทางโครงการฯจะต้องบริหารจัดการน้ำตามความประสงค์ทั้งนี้ทางโครงการฯจะต้องประเมินว่าปริมาณน้ำเพียงพอกับความต้องการเกษตรหรือไม่ หากไม่พออาจจะเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยจากการระบายในระดับปกติ

    อย่างไรก็ตามก็ขอให้การระบายน้ำออกจากเขื่อนแม่สรวย ได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น แท้จริงไม่สามารถทำในบริเวณสถานที่ราชการแต่ถ้าหากฝ่าฝืนก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายและในเรื่องดังกล่าวให้เทศบาลตำบลเวียงสรวยกำกับดูแลตามอำนาจหน้าที่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนพื้นที่เอกชนขณะนี้ได้โขกราคาสูงเกินผิดปกติทำให้ผู้ประกอบกิจการในส่วนร้านค้าและแพเปียก โอดครวญโดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำที่ทำซุ้ม ล่องแพเปียก ราคาสูงล๊อคราคาเกือบ200,000 บาทไล่เรียงลงไปสองฝั่งแม่น้ำหลักหมื่นต้นถึงหลักหมื่นๆปลายๆและต้องถูกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนต่างๆอีกและในสภาวะเศรษกิจเช่นนี้ข้าวของและวัตถุดิบในการประกอบอาหารจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดถึงค่าจ้างแรงงานสูง จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ต้องกัดฟันสู้แบบเสี่ยงดวงเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลนอกพื้นที่แทบทั้งสิ้นส่วนคนในพื้นที่มีไม่มาก.

     นายธนกฤต วรรมณี  ทีมงานข่าวบก. รายงาน

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /ผบ.ตร. แก้ปัญหาต่างด้าว สั่งลงดาบตำรวจทำผิด ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี มอบ “พล.ต.ท.สำราญฯ” กำกับดูแล/ ถนนวงแหวนเมืองพะเยาหรือที่เรียกว่าถนน(อุบาลี)อยู่ในความดูแลของทางหลวงชนบท จ.พะเยา

    แชร์เนื้อหานี้

    วันนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม ณ ศปก.ตร. อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทางระบบประชุมทางไกล

    ในที่ประชุมฯ ผบ.ตร. ได้ประชุมติดตามสถานการณ์และข้อมูลเชิงวิเคราะห์ จึงได้สั่งการให้เร่งรัดการปฏิบัติในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใดก็ตาม เพื่อตอบข้อเคลือบแคลงของพี่น้องประชาชนและสังคม หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำกับดูแลการปฏิบัติ โดยเน้นย้ำการปฏิบัติใน 4 ขั้นตอน ได้แก่

    1. ตรวจสอบ : ให้หน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในทุกมิติ รวมทั้งตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการอย่างเข้มงวดโดยไม่กระทบกับการท่องเที่ยว
    2. ปฏิบัติการ : ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฏิบัติ ลงพื้นที่ตรวจสอบชาวต่างชาติที่พำนักในพื้นที่ เช่น ที่พัก แผนการท่องเที่ยว การรวมกลุ่มประกอบกิจกรรม หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
    3. บังคับใช้กฎหมาย : หากพบมีการทำความผิดของชาวต่างชาติ ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดทันที
    4. ประชาสัมพันธ์ : สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อตอบคำถาม ลดความเคลือบแคลงสงสัยของสังคมและประชาชน และให้ข้อเท็จจริงปรากฏต่อสื่อต่าง ๆ
    5. นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวเชิงวิเคราะห์ แนวโน้มสถานการณ์การกระทำความผิดของคนต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์พื้นที่จังหวัดเฝ้าระวัง เส้นทาง และรูปแบบการกระทำความผิด รวมทั้งผลการดำเนินการด้านกฎหมายและกลไกการส่งต่อระดับชาติ โดย ผบ.ตร.กำชับทุกพื้นที่/จังหวัด ปรับแผนการปฏิบัติและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากมาตรการต่าง ๆ จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้ารับมือในทุกมิติ

    ทั้งนี้ ผบ.ตร. กำชับเข้มงวด หากพบตำรวจรายใดเกี่ยวข้องในการกระทำผิด เอื้อประโยชน์ ประพฤติมิชอบด้วยกฎหมาย จนเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของหน่วยพื้นที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประเทศชาติ ให้ดำเนินการทางปกครอง วินัย และอาญาเด็ดขาด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำชับหากพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที

    พร้อมกันนี้ ผบ.ตร.ขอให้ผู้บังคับบัญชาถ่ายทอดข้อสั่งการและเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร.ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทุกนาย โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ ขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาของประเทศ และต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพันกับการกระทำผิดเด็ดขาด และขอบคุณตำรวจทุกนายที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ตั้งใจทำงาน รักษาความดี ร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและประเทศชาติต่อไป

    วันนี้ที่พะเยา.#กับถนนวงแหวนเมืองพะเยาหรือที่เรียกว่าถนน(อุบาลี)ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดพะเยาวันนี้มีภารกิจมาพะเยาก็เลยขับรถไปดูตลอดเส้นทางดังกล่าวตามที่เป็นข่าวมานานว่าถนนสายนี้ก่อสร้างยังไม่ทันเท่าไรก็พังไปแล้วเจ้าของภาษีประเทศคงจะไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นะครับก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงพังเร็วจัง.ถนนสายนี้เป็นถนนเลี่ยงเมืองพะเยาปลูกต้นไม้ริมทางเกาะกลางก็ดูสวยงามดีนะครับดอกคูณหรือดอกลมแล้งทางภาคเหนือแต่ว่าสภาพที่เป็นอยู่ก็คือเกาะกลางถนนทั้งสองข้างทางคงจะก่อสร้างใหม่เพราะสภาพที่เห็นก็เป็นแบบนี้ตลอดสายเลยนำภาพถ่ายมาให้ดูนะครับตอนนี้ก็

    เห็นกำลังรื้อทำไมตลอดเส้นทางก็ไม่ทราบว่าอยู่ในระหว่างการประกันงานจากบริษัทรับเหมาหรือไม่หรือว่าใช้งบประมาณมาสร้างใหม่เพราะอันเก่าพังไปแล้ว
    สำหรับพี่น้องประชาชนหรือประชาชนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ 2 ข้างทางหรือใช้เส้นทางนี้สัญจรก็ระมัดระวังหน่อยนะครับเพราะมีการก่อสร้างเป็นระยะระยะตลอด 2 เส้นทางเพราะเมื่อก่อนนี้ก็มีข่าวรถประชาชนได้รับความเสียหายตกหลุมตกบ่อมาแล้วถ้าทีมข่าวมีโอกาสไปพะเยาก็จะไปสอบถามว่าโครงการนี้จะหรื้อทำใหม่ตลอดเส้นทางเลยหรือครับหรือว่าเป็นช่วงๆ.พังตั้งแต่พื้นผิวจราจรก็น่าจะพอฟังอยู่นะครับแต่นี้แม้แต่เกาะกลางถนนก็สภาพอย่างที่เห็นนะครับพังไปเหมือนกันก็ไม่ทราบว่าวิศวกรควบคุมงานของทางหลวงชนบทคำนวณผิดหรือเปล่าครับจึงได้พังเร็วจังเลย. วันนี้ก็พยายามติดต่อผู้อำนวยการทางหลวงชนบทพะเยา.ติดภารกิจประชุมส่วนราชการเลยมีโอกาสก็จะนำรายละเอียดมาเสนอข่าวความคืบหน้าและความเป็นมากับถนนสายนี้อีกทีนะครับ

    รายงานโดยสมจิตรแสงบัลลังก์ทีมข่าวกองบกภาคเหนือ

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /กิจกรรมออกหน่วยบริการ “อำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่” ประจำปีงบประมาณ 2568

    แชร์เนื้อหานี้

    สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียง นางธนพร ดีอุด เกษตรอำเภอภูเพียง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียง เข้าร่วมกิจกรรมออกหน่วยบริการ “อำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่” ประจำปีงบประมาณ 2568 กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่

    โดยมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ ร่วมให้บริการด้านข้อมูล ข่าวสาร และการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียงได้ให้บริการ ให้คำปรึกษาด้านการเกษตร การส่งเสริมอาชีพเกษตรกร แจกจ่ายเอกสารความรู้ทางการเกษตรและ

    แจกจ่ายน้ำหมักชีวภาพและสาร พด. สูตรต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถพัฒนาและปรับปรุงการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนายอำเภอภูเพียง นายพงษ์ศิลป์ ผาลา เป็นประธานในงาน ณ หอประชุมบ้านดงป่าสัก ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

    เรื่องและเรียบเรียง /นายวิศิษฐ์ คงขำ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ
    ภาพ/ข่าว/เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียง
    /บุญยงค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

    สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าว จับกุมพ่อค้ายาเสพติด ใช้ปืนยิงเปิดทางหลบหนี ยึดยาบ้า300,000เม็ด

    แชร์เนื้อหานี้

    วันนี้ 19กุมภาพันธ์ 2568​ได้แถลงข่าวมีพันโท ฐาพล​ อ้อชัยภูมิรอง​รมน.อจพร้อมด้วย พันจ่าเอกสุวิน​ห้องแชงนายอำเภอชานุมาน พันตำรวจเอกโชตินรินทร์สุภาวรัตม์​ผกก.สภ.ชานุมานในตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พันเอกปภังกร​หมื่นศา​ ผบก.ที่บัญชาการกองกำลังสุรนารี พันเอกกัญญณัต ไชยโอชะ ผบชฉก.ทหารผพราน 23 นาวาเอก ธชนนน อิทธิภูริทร์ ผบ. นรข.เขตอุบลราชธานีมว.ตชด
    2273และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและความมั่นคง

    ได้ร่วมกันประชุมเข้มกับเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องความมั่นคงชายแดนอ.ชานุมานขานรับโยบายของหน่วยงานความมั่นคง และรัฐบาล แนวทางการในการทำงานร่วมกัน ทิศทางเดียวกันหรือเป้าหมายเดียวกันในปราบปรามยาเสพติด และของผิดกฎหมาย อย่างเข้มข้นและจริงจังสำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ เป็นการดำเนินงานการสืบสวนหาข่าวในพื้นที่เป้าหมายการข่าวลับว่าจะมีการ ขนยาเสพติด ให้โทษข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้านยามค่ำมืด มายังราชอาณาจักรไทยเจ้าหน้าที่ เฝ้าติดตามตลอดเวลาในขณะที่เฝ้า รอดูก็ได้มีเรือหางยาวมาเทียบท่า มีชาย จำนวน 3 คน 2 คนได้นำกระสอบถุงปุ๋ยใน ถุงปุ๋ยตรวจ ทราบภายหลังว่าเป็นยาเสพติด ให้โทษเจ้าหน้าที่แสดงตัว เพื่อเข้าจับกุมแต่ก็ขัดขืนไม่ให้จับ พ่อค้ายาเสพติดจึงใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดที่พกติดตัวมาด้วยยิง ใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี

    ประกอบด้วยความมืดโดดลงแม่น้ำโขงเจ้าหน้าที่ก็ติดตามค้นหาแต่ก็ไม่พบผู้สื่อข่าวได้สอบถามเป็นการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นในพื้นที่ ตามแนวชายแดน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันปัญหายาเสพติด จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้งเบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 สายด่วน 191 และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความสุขหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ร่วมกัน ป้องกันปราบปราม ยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจังและเด็ดขาด ภาพข่าว​ ประวัติ​ นิธิเตชะยศสกุล

    ประวัติข่าว รายงาน/ภาพ/ข่าว

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สุดปัง!! น้องมหาเทพ นายแบบวัยทีน ร่วมเปิดตัวห้องเสื้อแบรนด์ ”มหาเทพ“

    แชร์เนื้อหานี้

    ในกิจกรรม BAF ครั้งที่ 10 เทศกาลศิลปะแห่งกรุงเทพ BANGKOK ART FESTIVAL ที่ไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ( สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ ไอคอนสยาม ชวนยกระดับความคิดสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยวัฒนธรรม ผ่านการจัดเทศกาลศิลปะแห่งกรุงเทพ หรือ Bangkok Art Festival ( BAF ) ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 17 – 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

    นาง ยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากแนวคิดในการขับเคลื่อนกระทรวงวัฒนธรรมของนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้กำหนดนโยบายในการส่งเสริมระบบนิเวศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยพัฒนาพื้นที่ทางศิลปวัฒนธรรมและเสริมพลังสร้างสรรค์ให้คนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม นำมาสู่การพัฒนาศักยภาพเมืองแห่งศิลปะในจังหวัดต่างๆ

    BAF #BangkokArtFestival #เทศกาลศิลปะกรุงเทพMAHADEPBANDMAHADEP18MAHADAP TANATPATARAKUL มหาเทพ ธเนศภัทรกูล

    สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / หนุ่มใหญ่ ใช้ขวานจามหัวป้า 54 ปี ผู้ให้ข้าวให้น้ำกินดับอนาถ /ตรวสอบการกระทำความผิดที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์โดยสายตรวจออนไลน์

    แชร์เนื้อหานี้


    ***เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุ ที่บ้านหนองแขวน ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่าเมื่อคืนเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 19 ก.พ. 68 เกิดเหตุมีคนใช้ขวานจามหัวผู้หญิงเสียชีวิตที่กระท่อมกลางสวนยางพารา หลังบ้านเลขที่ 76 หมู่ 6 ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ก่อเหตุคือ นายนิพล เลิศศรี อายุ 54 ปี หรือ ไอ้จ่อย ส่วนผู้เสียชีวิตคือ นางราตี โพธิสาร อายุ 54 ปี พอไปถึงพบชาวบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ขนเต็นท์ มาเตรียมกาง โดยมีชาวบ้านพาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุที่เป็นกระท่อมหลังบ้านของผู้ตาย ซึ่งสภาพพื้นที่เกิดเหตุมีกองเลือดกองอยู่ที่พื้น มีรองเท้าว่างอยู่ 2 คู่ ซึ่งเป็นรองเท้าของผู้เสียชีวิตและของผู้ก่อเหตุ (คู่สีขาวของผู้ตาย คู่สีน้ำตาลของผู้ก่อเหตุ) โดย นายบรรจง โพธิสาร อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 6 ต.โพธิ์กะสัง ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้านตนไปช่วยงานศพญาติที่อยู่ต่างหมู่บ้าน ตนมาทราบว่าภรรยาถูกฆ่าตาย ก็เพราะผู้ใหญ่โทรไปบอกเมื่อช่วงเวลา 4 ทุ่มกว่า ทั้งนี้ตนกับ ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) รู้จักกันมานานแล้ว เมื่อช่วงกลางวันก่อนที่ตนจะออกไปงานศพ ก็ยังเจอและพูดคุยกันอยู่ ตนคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ ไอ้จ่อย ฆ่าภรรยาตนน่าจะเกิดจากการทะเลาะวิวาทแล้วเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวบวกกับดื่มสุราเมาด้วย ทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงก่อเหตุขึ้น ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุยังเคยถูกดำเนินคดีมาหลายคดีแล้ว ส่วนภรรยาของตนหรือผู้ตายเป็นคนนิสัยอ่อนโยนเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใครมาก็ต้อนรับหมด ตนไม่คิดว่าจ่อยจะก่อเหตุฆ่าภรรยาตนได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ ตนไม่ขอให้อภัยในจ่อย(ผู้ก่อเหตุ)

    ***ด้าน นางจิราภา บุตรดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลโพธิ์กระสัง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ได้ขับจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125i สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 กร 1110 ศรีสะเกษ มาเรียกตนซึ่งมาคนเดียว แต่ตอนแรกตนไม่ยอมเปิดประตู ก่อนที่ ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) จะไปเรียกคนในหมู่บ้านพามาเรียก ตนจึงรุกขึ้นมาเปิดประตู ก่อนที่ตนจะถาม ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ว่ามาเรียกทำไหม ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ตอบว่าจะมามอบตัวเพราะไปฆ่าคนตาย ตอนนั้นตนไม่เชื่อ เพราะเวลาเมา ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) กับผู้ตาย จะทะเลาะกันเป็นประจำ จึงคิดว่า ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) คงพูดโกหก จังหวะที่ตนกำลังยืนคุยกัน ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) พอดีมีรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจขับผ่านมาพอดี ตนจึงเรียกให้จอด และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงใช้กุญแจมือไว้ และนำตัว ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ขึ้นรถยนต์ตำรวจเพื่อไปดูที่เกิดเหตุ โดยพอไปถึงที่เกิดเหตุก็เห็นว่า ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) ฆ่าคนตายจริงๆ ตามที่กล่าวอ้าง

    ***ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรกันทรอม โดยได้พูดคุยกับ ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) ซึ่งได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ที่ต้องลงมือก่อเหตุฆ่า นางราตรี ผู้เสียชีวิต เพราะตนมึนเมา บวกกับผู้ตายจะชอบพูดดูถูกตนว่าตนชั่ว ว่าตนกระจอก จะทำอะไรกับตนก็ได้ ผู้ตายชอบพูดดูหมิ่นตน พูดแต่คำนี้มาโดยตลอดหลายเดือนแล้ว โดยปกติตนจะชอบมาคลุกคลีกับครอบครัวผู้ตายเป็นประจำเวลาบ้านผู้ตายมีงานก็จะเรียกใช้ตนอยู่ตลอด ผู้ตายจะให้เงินใช้หุงข้าวทำกับข้าวให้กิน ขวานที่ตนใช้ก่อเหตุก็เป็นขวานของผู้ตายที่ให้ตนไว้ใช้
    ***ด้าน พ.ต.ท. ณรงค์ ปิยะพันธ์ สารสัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรกันทรอม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนเมาอาระวาดอยู่ที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงให้สายตรวจออกที่เกิดเหตุ แต่ไปถึงกับเจอกับผู้ใหญ่บ้านเรียกให้จอดและแจ้งว่า ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) มาบอกว่าไปฆ่าคนตายให้ไปตรวจสอบหน่อย จึงได้ควบคุมตัวและนำตัวไปที่เกิดเหตุ พอไปถึงก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตจริง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ก่อนจะเรียนชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุ โดยสภาพศพผู้เสียชีวิตบริเวณศรีษะด้านซ้ายมีบาดแผลขนาดใหญ่ยาวจากกลางหัวถึงหน้าผากเหนือคิ้ว แผลยาวประมาณ 18-20 เซนติเมตร และ บริเวณกระท่อมที่เกิดเหตุพบขวานที่มีคราบเลือดตกอยู่และมีร่องรอยการต่อสู้ นอกจากนี้ยังพบเหล้าขาวที่ยังกินไม่หมดอยู่ในที่เกิดเหตุอีกด้วย เบื้องต้นตำรวจนำตัว ไอ้จ่อย มาตรวจปัสาวะพบเป็นสีม่วง พร้อมกับรับสารภาพว่าเป็นลงมือใช้ขวานจามผู้ตายจริง ทั้งนี้ได้ตั้งข้อหากับ ไอ้จ่อย ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพกพาอาวุธขวานไปที่หมู่บ้านหรือที่สาธารณะ และเสพสารเสพติด ก่อนจะได้นำตัวฝากขังที่ศาลกันทรลักษ์ ในวันพรุ่งนี้เพื่อดำเนินการต่อไป


    ตามนโบายของ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 ให้ตรวสอบการกระทำความผิดที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์โดยสายตรวจออนไลน์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ,พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน รอง ผบก.สส.ภ.1 ,พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง รอง ผบก.ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.1 ,พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1 ,พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1 ,พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.1,พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1

    ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.ภ.8.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.ภ.8 ได้ดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนการกระทำความผิดของบัญชีผู้ใช้ facebook ดังกล่าวพบว่ามีการจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินกันผ่านทาง แอพพลิเคชั่น ไลน์ ใช้ชื่อว่า GOAL77VIP ในพื้นที่จ.ปทุมธานี จึงได้ประสานมายัง ศปอส.ตร.ภ.1 เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดดังกล่าว 
    วันนี้ (19 ก.พ. 2568)  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดปทุมธานี จนกระทั่งวันนี้ ( 19 ก.พ.68 ) เวลาประมาณ 15.00 น. บก.สส.ภ.1 ได้นําหมายค้น ศาลจังหวัดปทุมธานี 24/2568 ลงวันที่ 19 ก.พ.68 เข้าค้นบ้านเลขที่ 71/271 ม.4 ซ.เอกประจิม 3 ถ.พหลโยธิน ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ปรากฎรายละเอียดดังนี้

    ชุดตรวจค้นนำโดย พ.ต.ท.กฤษฎา นาคประสิทธิ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สงบ คุ้มสุวรรณ สว.กก.วิเคราะห์ข่าว ฯ บก.สส.ภ.1 , พ.ต.ท.สิทธิ์ทวี ปัญญาคม สว.กก.สส.1 บก.สส.ภ.1 , พ.ต.ต.วรภัทร แก้วดวงเทียน สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.1 พร้อมกำลัง กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.1 ตรวจยึดพร้อมของกลางจำนวนรวม 49 รายการ พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 150,000,000 บาทสถานที่ตรวจค้น บริเวณบ้านเลขที่ 71/271 ม.4 ซ.เอกประจิม 3 ถ.พหลโยธิน ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานีได้ร่วมกันจับตัวนายจิรายุทธ คีรีทศ อายุ 33 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1129900110452 บ้านเลขที่18 ม.3 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีนายอลงกรณ์ ชูศักดิ์ อายุ 37 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1100500216174 บ้านเลขที่ 49/695 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จ.กรุงเทพมหานครนายณัฐวุฒิ ภูมินันท์ อายุ 33 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1419900306401 บ้านเลขที่ 23 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานีนายชุติพงศ์ เรียมริมมะดัน อายุ 34 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1100500425113 บ้านเลขที่ 90/466 ม.6 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีน.ส.กิตติรัตน์ สัตยากูล อายุ 38 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1349900137626 บ้านเลขที่477 ม.8 ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    นายเอกวุฒิ แก้วทอง อายุ 31 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1100701737091 บ้านเลขที่ 555/67 ม.8 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการนายออมสิน อมรปิยกุล อายุ 29 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1929900512863 บ้านเลขที่ 99/9 ม.6 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง จ.ตรังน.ส.ฐานิดา อินทร์นาม อายุ 20 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1103703760165 บ้านเลขที่ 336/1 ม.2 ต.ทางพูนอ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช

    ข้อหา “ร่วมจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวงหรือข้อความในใบอนุญาต” เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 โดยได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว ตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 ไปยังศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายไปยังสำนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 และได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว ตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหายพ.ศ.2565 ไปยังศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายไปยังฝ่ายปกครองกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เรียบร้อยแล้ว

    ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

      สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / Pattaya Roadshow to Muscat ชาวโอมานให้ความสนใจเกินคาด/เมืองพัทยาส่งรถบรรทุก 5 คัน ลุยจัดเก็บสาหร่ายทะเลเกยหาดกระทิง/เปิดงานมหกรรมเกษตรธรรมชาติ ครั้งที่ 24

      แชร์เนื้อหานี้

      วันที่ 12 ก.พ.68 มีรายงานว่า เมืองพัทยาร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี (อบจ.ชลบุรี) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา กลุ่มผู้ประกอบการพัทยา (Sellers) 16 หน่วยงาน เข้าร่วมงาน Pattaya Roadshow to Muscat (MCT) ณ โรงแรม Sheraton Oman กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน

      ทั้งนี้ เพื่อเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยวให้กับผู้ประกอบการต่างประเทศ (Buyers) จำนวนกว่า 50 หน่วยงาน ด้วยการนำทัพผู้ประกอบการพัทยาโดยนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายบรรลือ กุลละวณิชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา นางจิดาภา สุวัตถาภรณ์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา นายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา

      นายชัยวัฒน์ ตามไท ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สำนักงานพัทยา) นางดารัตน์ สุรักขกะ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และผู้อำนายการสำนักการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สำนักงานพัทยา เข้าร่วมงาน พร้อมได้รับเกียรติจาก นายเอกอรรถ ทิตาราม อุปทูตฯ ณ กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน เป็นประธานเปิดงาน

      โดยภายในงาน เมืองพัทยาได้นำการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ภายในงาน Pattaya Roadshow to Muscat (MCT) พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการชาวโอมานให้ความสนใจเกินคาด เป็นสัญญาณที่ดีด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยต่อไป

      อธิบดี สกร. เปิดงานมหกรรมเกษตรธรรมชาติ ครั้งที่ 24 “สืบสานพระราชดำริ สู่มิติการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประจำปี 2568

      วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมเกษตรธรรมชาติ ครั้งที่ 24 “สืบสานพระราชดำริ สู่มิติการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประจำปี 2568 พร้อมกันนี้ได้เยี่ยมชมบูธจัดแสดงนิทรรศการและสินค้าของหน่วยงานต่าง ๆ และ

      ได้ร่วมลงแปลงผักเกษตรธรรมชาติ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ให้ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งบุคลากร ศฝช.วัดญาณฯ ณ ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

      งานมหกรรมเกษตรธรรมชาติ ครั้งที่ 24 “สืบสานพระราชดำริ สู่มิติการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประจำปี 2568 ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ จากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) หน่วยงานโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร

      อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดชลบุรี สกร.ระดับอำเภอ กลุ่มศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพฯ ศูนย์ฝึกทหารใหม่กองยุทธศึกษาทหารเรือกองฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่ง สื่อมวลชนทุกแขนง หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และภาคประชาชน รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย

      ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1.เพื่อเผยแพร่พระราชดำริพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อปวงชนชาวไทย 2.เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านเกษตรธรรมชาติและเทคโนโลยีทางการเกษตร 3.เพื่อเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายผลผลิตเกษตรธรรมชาติสู่ผู้บริโภคโดยตรง

      Nike Pattaya by IAM247 เปิดตัวสาขาแรกในภาคพื้นตะวันออก ตอบโจทย์ลูกค้าสายออกกำลังกายและแฟชั่น

      วันที่ 13 ก.พ.68 นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้ทรงคุณวุฒิเมืองพัทยา ในฐานะผู้แทนนายกเมืองพัทยา ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด Nike Pattaya by IAM247 สาขาแรกในภาคพื้นตะวันออก ที่บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยา จ.ชลบุรี โดยมี นายขวัญชัย บุญอารีย์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยา นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา-ชลบุรี ร่วมพิธี

      นายพยัคฆ์ กิจตั้งไพศาล ผู้จัดการทั่วไป Nike Pattaya by IAM247 เผยว่า ถือเป็นการเปิดตัวสาขาแรกในภาคพื้นตะวันออก เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า ด้วยการรวบรวมสินค้าตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบครัวและกลุ่มลูกค้าสายสปอร์ต โดยอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ IAM247 by Valiram ซึ่งเป็น Nike Official Store Partner ในประเทศไทย

      ทั้งนี้ นับเป็นการเปลี่ยนนิยามคำว่า Sports Performance Store ด้วยไลน์อัพสินค้าจัดเต็ม และครั้งแรกกับบริการระดับ Rise store experience ในภาคพื้นตะวันออกครั้งแรกที่เมืองพัทยา บนพื้นที่ให้บริการกว่า 450 ตร.ม. โดยความโดดเด่นของ Nike Pattaya by IAM247 จะมีบริการจำหน่านสินค้าเสื้อผ้าออกกำลังกายคุณภาพสูง รองเท้าในกลุ่มรันนิ่งจะมีไปถึงตัวท็อปสุด และยังมีรองเท้าสนีกเกอร์ ไลฟ์สไตล์ ทั้งจอร์แดน และไนกี้ดั้ง รวมทั้งสปอร์ตแฟชัน เสื้อบราออกกำลังการสำหรับสุภาพสตรี

      ร้านดอกไม้พัทยาคึกคักรับวันวาเลนไทน์

      วันที่ 14 ก.พ.68 ซึ่งตรงกับเทศกาลแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ บรรยากาศการซื้อขายดอกไม้ และสินค้าที่ระลึกในเมืองพัทยาเป็นไปอย่างมีสีสัน ผู้ประกอบการพากันนำสินค้าออกมาจำหน่ายเพื่อเรียกลูกค้ากันอย่างคึกคัก

      ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านจำหน่ายดอกไม้และขอฃที่ระลึกที่ตลาดลานโพธิ์นาเกลือ พบผู้ประกอบการตกแต่งร้านด้วยการนำช่อดอกไม้และตุ๊กตามาจัดวางอย่างสวยงาม โดยมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยมาเลือกซื้ออย่างต่อเนื่อง

      สอบถามผู้ประกอบการ ทราบว่า ดอกกุหลาบในปีนี้ราคาพอๆ กับปีที่แล้ว ถ้าจัดช่อก็จะเพิ่มค่าบริการตกแต่งและดอกไม้ประดับ ด้วยมีฐานลูกค้าเดิมทำให้ลูกค้าไม่ลดลง และทางร้านยังมีบริการจำหน่ายดอกไม้เทียมและตุ๊กตาเนื่องในวันวาเลนไทน์ด้วย

      คลินิกทำฟันพัทยา ทำเก๋! ตกแต่งร้านเป็นถ้ำขาวบริสุทธิ์ พร้อมเฟอร์นิเจอร์อลังการรับผู้มาใช้บริการ

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลินิกทันตกรรม Land of Smile Dental Clinic สาขา 2 (สาขาพัทยา) ตั้งอยู่ริมถนนพรประภานิมิต 17 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการตกแต่งร้านอย่างแปลกตาและไม่เหมือนใคร ด้วยการเนรมิตจัดสร้างพื้นที่รอใช้บริการทำฟันเป็นถ้ำสีขาว พร้อมตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สวยงามอลังการ

      ทันตแพทย์ ชลวิตต์ เนื่องโคตะ ผู้บริหาร คลินิกทันตกรรม Land of Smile Dental Clinic เปิดเผยว่า ด้วยตนเองชอบเดินทางท่องเที่ยวถ้ำและภูเขาหลากหลายจังหวัด โดนเฉพาะถ้ำที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาค ซึ่งตนเองให้ความสนใจ จึงเกิดไอเตียตกแต่งร้านทันตกรรมสาขานี้ ให้เป็น Pure Cave หรือถ้าขาวบริสุทธิ์ ด้านบนมีเท้าเวสสุวรรณโณองค์ยืนจัดวางไว้อย่างสง่างาม

      ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นที่นั่งพักรอคิวใช้บริการทำฟันกับทางคลินิก ซึ่งผู้ที่มาใช้บริการบริการต่างเอ่ยปากชมว่างมีความแปลกและสวยงาม โดยคลินิกทันตกรรม Land of Smile Dental Clinic สาขา 2 เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น.- 20.00 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร.088-225-6296, 091-737-9942

      โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาจัดกิจกรรม “รวมมิตร พิชิตมะเร็ง” เนื่องในเดือนแห่งเทศกาลวันมะเร็งโลก

      มีรายงานว่า โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาได้จัดกิจกรรม “รวมมิตร พิชิตมะเร็ง” พร้อมเสวนาจากแพทย์เฉพาะทางด้านโรคมะเร็งร่วมเสวนาหัวข้อ “มะเร็งร้าย ที่รักเธอ ” เพื่อวิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคมะเร็ง พร้อมกิจกรรมคัดกรองโรคมะเร็งเบื้องต้น ให้กับผู้ร่วมกิจกรรม เนื่องในโอกาสเดือนแห่งวันมะเร็งโลก โดยมีแพทย์หญิงชนิศา อินณชิต ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา กล่าวต้อนรับและกล่าวเปิดงาน

      หลังจากนั้นมีการเสวนาเรื่อง “มะเร็งร้าย ที่รักเธอ” โดย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสหสาขา โรคมะเร็ง รพ.กรุงเทพพัทยา ได้แก่ นพ. ฐาปนัสม์ ลิขิตมาศกุล ศัลยแพทย์เต้านม นพ. สิทธิ สุขอวยชัย อายุรแพทย์โรคมะเร็ง นพ. ณรงค์ฤทธิ์ ขุนภักดี อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร และพญ. พันธลี ชื่นสัมพันธ์ แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย ด้านโภชนาการและเมตาบอลิสม มาร่วมพูดคุยให้ความรู้การดูแลตัวเองและคนในครอบครัวให้ห่างไกลโรคมะเร็ง

         จากข้อมูลล่าสุดของสถาบันมะเร็งแห่งชาติในปี 2565 พบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คนต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 400 คน และมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งประมาณ 83,000 คนต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 227 คน สำหรับมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งปากมดลูก  แพทย์ได้เปิดเผยว่า สาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งมาจากปัจจัยภายนอกร่างกาย เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง และการได้รับสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม  การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตโดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 40 นอกจากนี้ มะเร็งบางชนิดสามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคมะเร็งให้หายได้  ภายในกิจกรรม มีการออกบูธคัดกรองโรคมะเร็งเบื้องต้นให้กับผู้ร่วมกิจกรรม ประเมินความเสี่ยงมะเร็งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งเต้านม, แบบประเมินคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งลำไส้, แบบประเมินคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก และอื่นๆ อีกมากมาย

      เตรียมเนรมิตหาดบ้านอำเภอจัดงานเดินกินถิ่นนาจอมเทียน (ถนนคนเดิน) ครั้งที่ 3 ทต.นาจอมเทียนจัดยิ่งใหญ่ปลุกสีสันการท่องเที่ยวชลบุรี

      นางสาวรพีพรรณ รัตนเหลี่ยม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาจอมเทียน เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 เทศบาลตำบลนาจอมเทียนได้กำหนดจัดงานมหกรรมอาหาร “เดินกินถิ่นนาจอมเทียน” (ถนนคนเดิน) ครั้งที่ 3 ณ บริเวณริมชายหาดบ้านเภอ

      กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวท้องถิ่นให้มีสีสัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับวัฒนธรรมอันดี และยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมการท่องเที่ยวด้วยการชูเอาเอกลักษณ์ความโดดเด่นของอาหาร ทั้งอาหารพื้นฐิ่นรสชาติอร่อย และอาหารทะเลแบบสดๆ มานำเสนอให้บริการผ่านร้านค้าต่างๆ ด้วยบรรยากาศริมทะเลของชายหาดบ้านอำเภอ จึงอยากเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมงานมหกรรมอาหาร “เดินกินถิ่นนาจอมเทียน” (ถนนคนเดิน) ครั้งที่ 3

      อย่างไรก็ดี ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจากนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มาเป็นประธาน และไฮไลต์ของงานมหกรรมอาหาร “เดินกินถิ่นนาจอมเทียน” (ถนนคนเดิน) ครั้งที่ 3 จะมีการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง “ตั๊กแตน-ชลดา” ที่จะมาสสร้างความสนุกสนานให้ผู้ร่วมงานในวันที่ 2 มีนาคม 2568 ด้วย

      ธุรกิจทันตกรรมพัทยาเดือด! ฟัดกันมันส์ใน “Red Zone”

      ทันตแพทย์ ชลวิตต์ เนื่องโคตะ ผู้บริหารคลินิกทันกรรม Land of Smile Dental Clinic เปิดเผยว่า ธุรกิจทันตกรรมในพัทยากำลังกลายเป็นสนามแข่งขันที่ร้อนแรง หรือที่เรียกว่า “Red Zone” ด้วยจำนวนคลินิกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นคลินิกท้องถิ่น คลินิกระดับไฮเอนด์ หรือศูนย์ทันตกรรมในโรงพยาบาลเอกชน ทุกแห่งต่างแข่งขันกันทั้งด้าน ราคา คุณภาพ และเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

      พัทยาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่ต้องการบริการทางทันตกรรมคุณภาพสูง ส่งผลให้ตลาดนี้ดึงดูดผู้เล่นรายใหญ่จำนวนมาก แต่ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง Land of Smile โดดเด่นขึ้นมาเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการบริการระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงคลินิกทันตกรรมทางเลือกใหม่ที่แตกต่างได้ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง Land of Smile เลือกที่จะไม่แข่งด้านราคาเพียงอย่างเดียว แต่แข่งด้วยคุณภาพและบริการที่เหนือระดับ โดยจุดเด่นของ Land of Smile คือการบริการทันตกรรมครบวงจร ตั้งแต่การดูแลสุขภาพฟันขั้นพื้นฐานไปจนถึงบริการระดับสูง เช่น รากฟันเทียม วีเนียร์ จัดฟันใส Invisalign

      ประกอบกับเครื่องไม้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ใช้ระบบดิจิทัล เช่น สแกน 3 มิติ และระบบนำร่องรากฟันเทียม เพื่อความแม่นยำและปลอดภัย และมีทันตแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์ให้คำปรึกษาอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล อีกทั้ง บรรยากาศของคลินิกเป็นไประดับพรีเมียม สะอาด ปลอดภัย ให้ความรู้สึกเหมือนสปาทันตกรรม ในราคาสมเหตุสมผล คุณภาพระดับไฮเอนด์แต่ราคาเข้าถึงได้กว่าศูนย์ทันตกรรมในโรงพยาบาล

      ในส่วนของ อนาคตของธุรกิจทันตกรรมในพัทยานั้น แม้ว่าตลาดจะเต็มไปด้วยการแข่งขัน แต่แนวโน้มของลูกค้ากำลังเปลี่ยนไป เพราะไม่ได้มองหาเพียง ราคาถูกที่สุด อีกต่อไป แต่ให้ความสำคัญกับ คุณภาพ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ Land of Smile มุ่งเน้น ทันตแพทย์ ชลวิตต์ เนื่องโคตะ ผู้บริหารคลินิกทันกรรม Land of Smile Dental Clinic ระบุ

      สม.พัทยาจับมือศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชลบุรี และ สภ.เมืองพัทยา เดินหน้าจัดระเบียบคนเร่ร่อน รวบโฮมเลส 7 ราย พบ 5 รายมีสารเสพติด

      วันที่ 18 ก.พ.68 นายวุฒิธร แสงอุไร สมาชิกสภาเมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชลบุรีจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตจอมเทียน เจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยา และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อจัดระเบียบกลุ่มคนเตร็ดเตร่เร่ร่อนในเขตพัทยาและหาดจอมเทียน

      ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ดังกล่าวสามารถควบคุมตัวบุคคลเตร็ดเตร่เร่ร่อนได้จำนวน 7 ราย ซึ่งไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง จะอาศัยอยู่ตามที่สาธารณะทั่วไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จึงคัดแยกตรวจสอบพบมีสารเสพติดในร่างกายจำนวน 5 ราย จึงควบคุมดำเนินคดีตามกระบวนการ

      และไม่พบสารเสพติดอีก 2 ราย โดย 1 รายมีอาการวิตกจริตและหวาดกลัวจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ และอีกรายประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่จึงทำการว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไปในที่สุด

      เมืองพัทยาส่งรถบรรทุก 5 คัน ลุยจัดเก็บสาหร่ายทะเลเกยหาดกระทิงราย เผยปีนี้เยอะเป็นประวัติการณ์ คาดทะลักหลายสิบตัน

      หลังจากเกิดปรากฏการณ์สาหร่ายทะเลพัดเข้าฝั่งชายหาดกระทิงราย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนเกิดการเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นสร้างผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยละแวกดังกล่าวจนได้รับความเดือดร้อน

      ล่าสุด วันที่ 19 ก.พ.68 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการรักษาความสะอาด ส่วนควบคุมมลพิษ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมืองพัทยา ได้รับคำสั่งจากผู้บริหารเมืองพัทยา โดย นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ให้จัดกำลังลงพื้นจัดเก็บสาหร่ายทะเลอย่างต่อเนื่อง

      ในวันนี้ ฝ่ายควบคุมการรักษาความสะอาด ส่วนควบคุมมลพิษ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมืองพัทยา ได้นำรถบรรทุกหกล้อจำนวน 5 คันมาทำการขนถ่ายสิ่งปฏิกูลทางทะเลดังกล่าว โดยใช้เจ้าหน้าที่จาก 3 เขต ร่วมกันปฏิบัติงานกว่า 35 คน

      เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา บอกว่า สาหร่ายทะเลปกติจะลอยมาทุกปีแต่ไม่มาก ตั้งแต่ช่วงโควิดมาก็ไม่พบอีกเลยจนมาปีนี้พบมากเป็นประวัติการณ์ คาดว่ามีจำนวนหลายสิบตัน เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่จัดเก็บอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าอีกไม่กี่วันนี้คงจะหมด

      สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทับสะแกวุ่นซ้ำซาก ! ชาวบ้านฮือขับไล่รอบ 2 รักษาการเจ้าอาวาสองค์ใหม่มาพร้อมตราตั้งเจ้าคณะอำเภอ แต่วืดเข้าดูแลวัดโบสถ์เหรียญบาท

      แชร์เนื้อหานี้

      เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 18 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านทุ่งเคล็ด หรือ วัดโบสถ์เหรียญบาท หมู่ 3 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับพระภิกษุอีกครั้งหลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมามีการรวมตัวขับไล่เจ้าอาวาสองค์ใหม่ จากกรณีมี คำสั่งเจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งเคล็ด ที่ ๐๐๕/๒๕๖๘ อนุญาตให้พระประสิทธิ์ สัญจร เข้าอยู่วัดบ้านทุ่งเคล็ด โดยมีบทบัญญัติแห่งกฎมหาเถรสมาคม

      ฉบับที่ ๑๙ (พ.ศ. ๒๕๓๖) ว่าด้วยการผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ในมาตรา ๓๘ ในกรณีที่ไม่มีเจ้าอาวาสหรือเจ้าอาวาสไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ให้ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส มีอำนาจและหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส

      ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พระครูผาสุกวิหารการ เจ้าคณะอำเภอทับสะแก พร้อมคณะสงฆ์อำเภอทับสะแก เดินทางไปวัดบ้านทุ่งเคล็ด กรณีที่เจ้าอาวาสองค์ใหม่ไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้เนื่องจากโดนชาวบ้านขับไล่ โดยวันนี้คณะสงฆ์อำเภอทับสะแกได้อ่านเอกสารแสดงเหตุผล ข้อกฎหมาย

      เพื่อสั่งปลดเจ้าอาวาสองค์เก่าและหนังสือแต่งตั้งเจ้าอาวาสองค์ใหม่ มีชาวบ้านกว่า 200 คนร่วมรับฟัง ขณะที่ทนายความของวัดพยายามแสดงเหตุผลโต้แย้งการแต่งตั้งโดยอ้างว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้มีชาวบ้านแสดงความคิดเห็นคัดค้านเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยจากกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ อส.

      ในขณะที่มีการถกเถียง เจ้าคณะอำเภอทับสะแกได้มอบตราตั้งเพื่อแต่งตั้งเจ้าอาวาสให้กับพระประสิทธิ์ แต่ชาวบ้านได้ตะโกนขับไล่และด่าทอ ทำให้บรรยากาศในศาลาการเปรียญตึงเครียด ต่อมาคณะสงฆ์ได้เดินทางออกจากศาลาการเปรียญดังกล่าว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันพร้อมดูแลความสงบแต่ชาวบ้านได้เดินตามขับไล่เจ้าวัดองค์ใหม่เสียงดังไปทั่วบริเวณวัด

      นายวัฒนา ฉั่วเจริญ อายุ 51 ปี ไวยาวัจกร วัดบ้านทุ่งเคล็ด กล่าวว่า ชาวบ้านบ้านทุ่งเคล็ด ต้องการพระมีคุณสมบัติที่ดีมีความพร้อม หรือต้องเข้ากับชาวบ้านให้ได้ ต้องมีมุทิตา อุเบกขา ซึ่งตนเองไม่ต้องการให้วัดเสียหายมากไปกว่านี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายตรวจสอบคุณสมบัติของเจ้าอาวาสองค์ใหม่ว่าที่ผ่านมาเคยถูกดำเนินคดีทางอาญามาก่อนหรือไม่ ขอให้ตรวจสอบให้เสร็จภายใน 1 เดือน

      จากนั้นจะต้องมีการเจรจากับญาติโยมที่บ้านทุ่งเคล็ด หากพบว่ามีปัญหาชาวบ้านก็ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา พระประสิทธิ์ ได้รับการแต่งตั้งให้มีอำนาจดูแลวัดบ้านทุ่งเคล็ด พร้อมถือหนังสือสั่งการมาแสดง แต่ขณะเดินทางไปวัดบ้านทุ่งเคล็ด ชาวบ้านได้โห่ขับไล่ให้ออกจากวัดจนมีเรื่องวุ่นวายมาแล้ว

      /////////////////

      ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443