เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ดร.ฉวีวรรณ คำพา ร่วมทอดกฐินสามัคคี วัดสุดเขตแดนสยาม จ.บึงกาฬ สาธุชนไทย-ลาว รวมยอดกฐิน 1.9 ล้านบาท

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 14 พ.ย.67 เวลา 10.00 น. ที่วัดสุดเขตแดนสยาม บ้านหนองแวง หมู่ 3 ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ จัดงานทอดกฐินสามัคคี สมทบทุนสร้างวิหารพระพุทธมหาบารมีศรีสัตนาคราช โดยมี นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และ ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

พร้อมคณะ เป็นประธานองค์กฐิน พร้อมด้วย นายธีรพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ดร.บุญมา พันดวง บุญมาทีวี 67 นายเชิดชัย เจริญดี รองปลัดเทศบาลเมืองบึงกาฬ นายชวนะ ทวีอุทิศ ผอ.โรงเรียนบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น นักธุรกิจ พ่อค้า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนชาวหนองแวง และพุทธศาสนิกชนชาวไทย-ลาว ร่วมในพิธี

ขบวนแห่กฐินเริ่มต้นหน้าวัดประมาณ 200 เมตร นำโดยขบวนนางรำที่รวมตัวกัน ระหว่าง ชมรมสุขภาพดีที่ริมโขง ชมรมสุขภาพบ้าหนองแวง และขบวนฟ้อนรำจากโรงเรียนบึงกาฬ เพื่อฟ้อนรำให้แขกผู้มีเกียรติรวมถึงศรัทธาสาธุชนได้รับชมความอ่อน ความพร้อมเพียงรวมถึงความสามัคคี

ตามด้วยขบวนแห่บริวารองค์กฐินซึ่งมีศิษยานุศิษย์และพ่อค้าประชาชน ที่เลื่อมใสศรัทธา หลวงพ่อพระครูประภัสสรวีรคุณ(วีระพล ปภสฺสโร) เจ้าคณะอำเภอศรีวิไล(ธ) เจ้าอาวาสวัดสุดเขตแดนสยาม และพระครูสมุห์ ปิยะนัส ปญฺญาวชิโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุดเขตแดนสยาม ประธานฝ่ายสงฆ์

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีคณะศรัทธาตั้งโรงทานกว่า 20 โรงทาน โดยชาวบ้านในพื้นที่ บริษัท ห้างร้านค้า และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันออกโรงทานเพื่อแจกอาหารเครื่องดื่มให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาและน้ำใจ

โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานบริษัทในเครือฉวีวรรณ กรุ๊ป ร่วมกับ และชาวชลบุรี นำผ้ากฐินทอดถวายพระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส ร่วมกับชาวบ้านหนองแวง นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน พุทธศาสนิกชนในจังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียง ที่มาร่วมงานได้ร่วมทำบุญ สมทบทุนสร้างวิหารพระพุทธมหาบารมีศรีสัตนาคราช วัดสุดเขตแดนสยาม จังหวัดบึงกาฬ ยอดกฐินรวมบริวารทั้งหมด 1,934,567.26 บาท

วัดสุดเขตแดนสยาม ต.วิศิษฐ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง พื้นที่รอบวัดรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีความสงบ ร่มรื่น เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย สายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต แต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ซึ่งชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้บริจาคที่ดินให้ และชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาเรื่อยมาจนเป็น

วัดสุดเขตแดนสยาม มีพระครูประภัสสรวีรคุณ (วีระพล ปภสฺสโร) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พระอาจารย์ลาย เจ้าคณะอำเภอศรีวิไล(ธ) เป็นเจ้าอาวาสในปัจจุบัน ภายในวัดมีวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสน

ซึ่งวิหารหลังนี้ประยุกต์งานศิลปกรรมแบบร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยตกแต่งเพดานด้วยไม้และเสาภายในประดับด้วยกระจกเงา อีกทั้งยังมีอุโบสถสีขาวที่มีความวิจิตรงดงาม ภายในประดิษฐานหลวงพ่อพระเงิน และได้มีการประกอบพิธียกฉัตรเมื่อปี พ.ศ. 2561 และพิธีฉลองอุโบสถ ผูกพัทธสีมา ปิดทองลูกนิมิตร

สื่อรัฐทีวี -สื่อรัฐนิวส์ / ประกวด Heritage Pageants 2024 จัดขึ้นด้วยสัมผัสทางวัฒนธรรม

แชร์เนื้อหานี้

บริษัท Eplanet Pte Ltd มีความภูมิใจที่จะประกาศการเปิดตัวการประกวด Heritage Pageants ครั้งที่ 7 ประจำปี 2024 งานระดับนานาชาติที่เฉลิมฉลองการผสมผสานระหว่างความงาม วัฒนธรรม และมรดกทางวัฒนธรรม การประกวดที่หลายคนรอคอยได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2024 ด้วยพิธีมอบสายสะพายให้กับผู้เข้าประกวด ณ โรงแรมดิวาลักซ์ รีสอร์ท แอนด์ สปา กรุงเทพฯ ประเทศไทย การประกวดในปีนี้ได้ขยายประเภทการประกวดเพิ่มขึ้น ได้แก่ Mister, Ms., Petite และ Gems นอกเหนือจากตำแหน่งหลักคือ Miss และ Mrs. Heritage International

ผู้เข้าประกวดจากหลากหลายประเทศ รวมถึงอินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย มองโกเลีย เมียนมาร์ เม็กซิโก เนปาล ไนจีเรีย นิวซีแลนด์ ลาว ไทย สิงคโปร์ เซอร์เบีย ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย เปรู ลัตเวีย เคนยา และเวียดนาม ได้มารวมตัวกันในการเฉลิมฉลองระดับโลกครั้งนี้ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-18 พฤศจิกายน 2024 โดยจะมีพิธีตัดสินและมอบมงกุฎในวันที่ 16 พฤศจิกายนกิจกรรมเบื้องต้นได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยผู้เข้าประกวดได้ร่วมถ่ายภาพในชุดประจำชาติ ชุดราตรี และชุดว่ายน้ำ ผู้เข้าประกวดยังได้มีโอกาสสำรวจเมืองกรุงเทพฯ ด้วยการนั่งตุ๊กตุ๊ก ระหว่างพักที่โรงแรมทินิดี เทรนดี้ กรุงเทพฯ ข้าวสาร ในงานแถลงข่าว ผู้เข้าประกวดได้โชว์ชุดประจำชาติและชุดวัฒนธรรมผ่านการเดินแบบอย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรม โดยผู้เข้าประกวดแต่ละคนได้จัดโต๊ะแสดงวัฒนธรรม นำเสนอองค์ประกอบทางวัฒนธรรมของตนผ่านการจัดแสดงที่คัดสรรมาอย่างดี

Heritage Pageants ยังคงขยายการเข้าถึงระดับโลก ดึงดูดผู้เข้าร่วมจากทั่วโลก และนำเสนอเวทีที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม งานนี้เป็นการรวมตัวของความหลากหลาย ความสง่างาม และการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม ที่เน้นย้ำถึงความงามของมรดกทางวัฒนธรรมระดับโลกการประกวดนี้ดำเนินการโดยบริษัท Eplanet Pte Ltd ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ และนำโดยประธาน คุณสันโตษ สัปโกตา ซึ่งการนำของเขาได้ผลักดันให้การประกวดก้าวสู่ระดับใหม่บนเวทีนานาชาติ การแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจของการประกวดจะได้รับการกำกับการแสดงโดยผู้เชี่ยวชาญ คุณโรจิน ชักยา จากเนปาล และคุณเวสลีย์ ซอว์ จากมาเลเซีย ที่จะนำความงดงามทางศิลปะมาสู่งาน การดำเนินงานที่ราบรื่นของการประกวดได้รับการดูแลโดยคุณซูซาน ซานเฟอร์มี โกะ ซึ่งความเชี่ยวชาญของเธอจะรับประกันประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

Heritage Pageants ทำหน้าที่เป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้เข้าประกวดในการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมระดับโลกและสร้างความชื่นชมในความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้วยการนำเสนอชาติพันธุ์ ประเพณี และความงามของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ งานนี้นำผู้เข้าประกวดและผู้ชมมารวมกันในการเฉลิมฉลองความเป็นหนึ่งเดียวและความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างทรงพลังก่อตั้งขึ้นในปี 1999 บริษัท Eplanet Pte Ltd ได้พัฒนาจากบริษัทวางแผนการจัดงานสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในการประกวดนางงามและงานวัฒนธรรม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้จัดงานระดับโลกมากมาย รวมถึงการแสดงดนตรี เทศกาลวัฒนธรรม งานแสดงสินค้า และงานมอบรางวัล Eplanet ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเลิศในการประกวดนางงาม นำเสนอโซลูชันการจัดงานที่ปรับแต่งให้เหมาะกับลูกค้าทั่วโลก

มรดกแห่ง Heritage Pageants นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2014 Heritage Pageants ได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ดึงดูดความสนใจและผู้เข้าร่วมจากทั่วโลก งานแรกจัดขึ้นที่กาฐมาณฑุ เนปาล มงกุฎ Miss Heritage International ตกเป็นของ Hla Yin Kyae จากเมียนมาร์ งานนี้ได้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางระดับนานาชาติ รวมถึงนิวเดลี ศรีลังกา และสิงคโปร์ โดยได้มอบมงกุฎให้กับผู้ชนะที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่น Victoria Pham จากเวียดนาม (2015), Anna Kirillina จากรัสเซีย (2022), Fontip Sriwaranyoo คุณฝนธิป ศรีวรัญญู จากไทย (2022), Wuandar Jirleyth Casanova จากเวเนซุเอลา (2023) และ Erika Hara จากญี่ปุ่น (2023)

ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้
สำหรับการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:

Eplanet Pte Ltd

ติดตามเราได้ที่:
Facebook: www.fb.com/pageantofheritage
Instagram: www.instagram.com/heritagepageants
เว็บไซต์: www.pageantofheritage.com

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯ ชลบุรี ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร ช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ปี 2567

แชร์เนื้อหานี้

ช่วงเย็นวันที่ 13 พ.ย.67 นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกการจราจร ประชาชน และนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2567 ที่จัดขึ้นที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรรภาค 2 สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม รักษาความปลออดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอำนวยความสะดวกการจราจรแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2567 โดยบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยเน้นการระดมกวาดล้างตามเป้าหมายสำคัญ คือ กลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดทุกประเภท กลุ่มผู้กระทำควนผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกประเภท และกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด และสิ่งเทียมอาวุธปืน ดอกไม้เพลิง การแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการตามแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และการรักษาความสงบในพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้บูรณาการประสานความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, มณฑลทหารบกที่ 14, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดชลบุรี, เมืองพัทยา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาพัทยา, กรมเจ้าท่า, สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา, มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน, ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี, ตำรวจสันติบาลจังหวัดชลบุรี, ตำรวจทางหลวงจังหวัดชลบุรี, ตำรวจน้ำ, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี, สถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี, ตำรวจอาสา และอาสาสมัครฝ่ายพลเรือน

โดยทำการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งได้สนธิกำลังพลในการปฏิบัติรวมจำนวน 289 นาย รถยนต์จำนวน 17 คัน และรถจักรยานยนต์จำนวน 19 คัน โดยประธานในพิธีได้กล่าวโอวาทและแนวทางการปฏิบัติงาน และกล่าวเปิดพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินย์อำนาย
ความสะดวกการจราจรแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2567 ตามลำดับพิธีการ

จังหวัดชลบุรี จัดงานวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2567

วันที่ 14 พ.ย.67 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธีถวายสักการะพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2567 ณ อาคารกีรติสิริโยธิน ค่ายนวมินทราชินี กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จ.ชลบุรี โดยมีข้าราชการตุลาการ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี และพ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีฯ

 ด้วยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พุทธศักราช 2545 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะที่ทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝน จนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวงที่ขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรขอพระองค์ที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศจวบจนปัจจุบัน 

พสกนิกรชาวไทยทั้งมวลต่างสำนึก และตระหนักว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงตรากตร่ำพระวรกายในการทรงงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของราษฎร ทั่วทุกภาคของประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ตลอดจนพระอัจฉริยภาพและพระวิริยะอุตสาหะในการทรงทุ่มเทให้กับการประดิษฐ์ คิดค้นวิจัยและพัฒนา จนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริมากมายนานัปการ ซึ่งรวมถึงโครงการพระราชดำริฝนหลวง อันก่อเกิดประโยชน์คุณูปการอเนกอนันต์แก่ปวงชนชาวไทยและนานาประเทศ

กิ่งกาชาดอำเภอบางละมุงมอบเครื่องกรองน้ำให้โรงเรียนไกลปืนเที่ยง

ข่าวรายงานว่า จ่าเอก พิทยาภรณ์ ก่อแก้ว ปลัดอาวุโสอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกิ่งกาชาดอำเภอบางละมุง เดินทางเข้ามอบเครื่องกรองน้ำดื่ม ให้กับโรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต ม.5 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมี นางทัศนีย์ สหวงศ์ เจ้าหน้าที่บริหารการเงินฯ พร้อมคณะครู นักเรียน ร่วมให้การต้อนรับ

ซึ่งการมอบเครื่องกรองน้ำดื่มและเครื่องทำน้ำเย็นครั้งนี้ อยู่ในโครงการ “กาชาดมอบน้ำดื่มเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับนักเรียน ประจำปี 2567” เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญน้ำดื่มของนักเรียน ทำให้นักเรียนทุกคนได้ดื่มน้ำที่สะอาด ปลอดภัย ส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โรงเรียนมีเครื่องกรองน้ำที่ถูกสุขลักษณะทำให้ผู้ปกครองเชื่อมั่นในการดูแลสุขภาพนักเรียน ซึ่งเครื่องกรองน้ำดังกล่าวทำการติดตั้งไว้ด้านข้างอาคารเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ครู นักเรียน มีน้ำดื่มที่สะอาดในการบริโภคต่อไป

สำหรับโรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนจำนวน 1,408 คน เปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล 1 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนางพัชราวรรณ บุญอ่อน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ปัจจุบันใช้น้ำประปาหมู่บ้านซึ่งค่อนข้างจะดำ ส่วนน้ำที่ใช้ในการอุปโภค บริโภค ต้องซื้อ ซึ่งการได้รับการสนับสนุนเครื่องกรองน้ำจากกิ่งกาชาดอำเภอบางละมุง จะช่วยให้ครู นักเรียน และบุคลากรภายในโรงเรียนมั่นใจว่ามีน้ำสะอาดไว้ดื่ม

นายกเมืองพัทยาร่วมแสดงความยินดีธุรกิจขายส่งยักษ์สยายปีกเมืองท่องเที่ยว เปิดโฉมใหม่! “แม็คโคร สาขาพัทยาใต้” หลังให้บริการคู่เมืองพัทยาเข้าสู่ปีที่ 15

วันที่ 14 พ.ย.67 มีรายงานว่า นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ได้ร่วมแสดงความยินดีและร่วมพิธีเปิดโฉมใหม่ แม็คโคร สาขาพัทยาใต้ โดยมี นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจแม็คโคร ประเทศไทย เป็นประธานในงาน

โดยนายกเมืองพัทยา ได้กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ แม็คโคร สาขาพัทยาใต้ ได้เปิดโฉมใหม่เพื่อรองรับการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ถือเป็นธุรกิจค้าส่งที่เข้มแข็ง โดยในส่วนของแม็คโคร สาขาพัทยาใต้ นั้นได้เปิดให้บริการคู่เมืองพัทยามาแล้วกำลังจะก้าวสู่ปีที่ 15 ในเดือนธันวาคม 2567 ที่จะถึงนี้ การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมความทันสมัยและสินสินค้าคุณภาพที่หลากหลายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการอย่างดีเยี่ยมของทาง แม็คโคร ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ลูกค้ามั่นใจในการเป็นผู้ช่วยของผู้ประกอบการ ทั้งธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม ภัตตาคาร รวมถึงนักท่องเที่ยว และลูกค้าทั่วไป ได้มีโอกาสนำไปต่อยอดใช้ในการทำธุรกิจของตนเองให้ดีและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพต่อไป

นายอำเภอ-นายกพัทยา ร่วมตรวจโป๊ะลอยทะเลนาเกลือ สร้างความปลอดภัยคืนงานลอยกระทง

วันที่ 13 พ.ย.67 นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจความปลอดภัยของโป๊ะลอยทะเลบริเวณที่ทำการประมงพื้นบ้านนาเกลือ ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมลอยกระทงเมืองพัทยา ประจำปี 2567

โดยนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ได้เน้นย้ำให้พื้นที่ต่างๆ ที่จัดงานลอยกระทงให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อป้องกันอันตรายให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ร่วมงาน เพื่ออุบัติไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้

ทั้งนี้ ในปีนี้เมืองพัทยาได้กำหนดจัดงานลอยกระทงบริเวณสวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ และจะใช้บริเวณโป๊ะลอยทะเลบริเวณที่ทำการกลุ่มประมงพื้นบ้านนาเกลือ ซึ่งนอกจากเตรียมความพร้อมด้านสถานที่แล้ว ยังได้กำหนดให้บูรณาการการทำงานของเจ้าหน้าเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านด้วยเช่นกัน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นบ.ยส.24 บูรณาการร่วมกับกลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สสจ.นครพนม

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบล กุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พันเอก กัญญณัต ไชยโอชะ รองผู้อำนวยการกองบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (รอง ผอ. ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24)

พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา ร่วมกับ นางสาวธิดารัตน์ เลี่ยวปรีชา นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สสจ.นครพนม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือตรวจพื้นที่อาคารหลังศูนย์ฟื้นฟู เพื่อเสนอเป็นศูนย์บำบัด ในพื้นที่ จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นการบูรณาการหน่วยงานส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนครพนม ตามดำริของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24) ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับผู้ที่หลงผิดผู้ที่เสพสารเสพติดเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและท้าทาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมาย

การหลุดพ้นจากการใช้สารเสพติดต้องอาศัยแนวทางที่ครอบคลุมและแรงสนับสนุนเป็นอย่างมาก วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูสมรรถภาพจากการใช้ยาเสพติด คือการใช้บริการจากศูนย์บำบัดยาเสพติดซึ่งมีคุณประโยชน์หลายประการ ที่จะสามารถสนับสนุนให้บุคคลมีชีวิตที่มีสุภาพดีขึ้น โดยจะมีทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีคุณสมบัติเหมาะสม รวมถึงแพทย์ นักบำบัด ผู้ให้คำปรึกษา และเจ้าหน้าที่ผู้ให้ความช่วยเหลือ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะร่วมวางแผนการรักษาเฉพาะเป็นรายบุคคล

ซึ่งใช้ความเชี่ยวชาญทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เข้ารับการบำบัดจะปลอดภัย ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และแผนการรักษาจะถูกปรับเสมอตลอดระยะเวลาการบำบัด เพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของแต่ละบุคคล ถานบำบัดจะต้องมีสภาพแวดล้อมแบบปิด ที่มีความสงบ ปลอดภัย และมีการควบคุม สภาพแวดล้อมที่เป็นระบบปิดจะช่วยให้บุคคลสามารถโฟกัสกับกระบวนการบำบัดที่เข้มข้น สามารถสร้างกิจวัตรและพัฒนานิสัยที่ดีต่อสุขภาพ และใส่ใจกับกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอกต่อไป

ภาพ/ข่าว​ นบ.ยส. 24
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษาในพื้นที่ จ.ประจวบฯ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 ที่ โรงเรียนอานันท์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการพัฒนาทางการศึกษา การจัดการศึกษาตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ตลอดจนปัญหาข้อขัดข้องอื่นๆ ของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา พื้นที่จังหวัดประจวบฯ โดยมี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย พ.อ.พีรฉัตร พานทอง รอง ผบ.ทบ.มทบ.15, ร.ต.นพรัตน์ พลอยนุช ผบ.มว.รว.ที่ 3 ฉก.จงอางศึก, ร.ท.ชวลิต ใจซื่อ หัวหน้า ธป.กร.ที่ 110, พ.ต.ต.เจริญ อุปวรรณะ ผบ.ร้อย.ฉก.รพศ., หัวหน้าส่วนราชการ และคณะผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับ

ในการนี้ นางสาวกุณฑิกา โกมุก ผู้อำนวยการโรงเรียนอานันท์ กล่าวต้อนรับ พร้อมนำเสนอผลการดำเนินงานการพัฒนาโรงเรียนของกองทุนการศึกษา ตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ การขับเคลื่อนงานคุณธรรมตามเป้าหมายและกรอบใหม่ใน 10 ปีข้างหน้า การดูแลและพัฒนานักเรียนทุนพระราชทาน รายงานความสำเร็จความดีงามของโรงเรียน รวมถึงแจ้งปัญหาข้อขัดข้องของโรงเรียนให้องคมนตรีได้รับทราบและชี้แนวทางการแก้ปัญหาให้กับทางโรงเรียน

พร้อมกันนี้ องคมนตรีและคณะ มีกำหนดการเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและพบปะผู้บริหาร ครู และบุคลากร โรงเรียนวไลย อ.หัวหิน สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครั้งนี้ เพื่อรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ความคืบหน้าของการบริหารงาน ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานด้านต่างๆ นอกจากนี้ องคมนตรีได้มอบอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬาโดยรับได้รับการสนับสนุนจากบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล ให้กับทั้ง 2 โรงเรียนอีกด้วย.


กรมอุทยานฯ ย้ายต่อเนื่องลิงหัวหินอีก 89 ตัว แก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี นายสุรศักดิ์ อนุเมธางกูร ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า นายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ประจำหน่วย นำกำลังเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย ลงพื้นที่วางกรงดักจับลิงแสมบริเวณเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อเร่งแก้ปัญหาลิงรบกวนประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ภายใต้นโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการเร่งแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

ผลการดำเนินงานในวันนี้ สามารถจับลิงได้ 89 ตัว แบ่งเป็นเพศผู้ 57 ตัว เพศเมีย 32 ตัว ทำหมันแล้วทั้งหมด 89 ตัว สรุปผลการดำเนินงานรวม 2 วัน สามารถเคลื่อนย้ายลิงได้ทั้งสิ้น 110 ตัว โดยลิงทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายจากพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของสัตว์ป่า โดยเจ้าหน้าที่ฯจะดำเนินการวางกรงจับลิงที่เขาตะเกียบและเขาหินเหล็กไฟ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหินจนถึงวันที่ 14 พ.ย. นี้

ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าริมหาดหัวดอน หมู่บ้านเขาตะเกียบ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการริมหาดประสบปัญหาความเดือนร้อนจากฝูงลิงเข้ามารื้อค้นสิ่งของภายในร้าน และแย่งของกินจากนักท่องเที่ยว แต่หลังจากกรมอุทยานฯ เข้ามาดำเนินการจับลิงบริเวณนี้ทำให้ปัญหาลดลง ลิงเริ่มรู้มากหลบไม่ออกมาให้จับ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการและเมืองท่องเที่ยวหัวหิน.

กกต.ประจวบฯ แนะผู้สมัคร นายก-ส.อบจ. ศึกษาข้อกฎหมายและลักษณะต้องห้ามก่อนลงสมัคร

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 นายศักดิ์ชัย เลิศกิตติวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธ.ค.67 โดยประกาศวันรับสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค.นี้ และกำหนดวันเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 ซึ่งการเสนอวันเลือกตั้งและวันรับสมัครรับเลือกตั้ง เป็นอำนาจของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เพื่อประกาศให้มีการเลือกตั้ง

ดังนั้นในระหว่างนี้จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีความประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง เตรียมความพร้อมศึกษาข้อกฎหมาย พระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 โดยเฉพาะเรื่องของลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร เพราะหากลงสมัครโดยที่รู้อยู่แล้วว่าตนเองมีลักษณะต้องห้ามจะมีโทษตามฎหมาย นอกจากนี้ ขอให้ผู้ประสงค์จะสมัครได้ศึกษาขั้นตอน เอกสารหลักฐานการสมัครที่เว็บไซต์สำนักงาน กกต. www.ect.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ หรือสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดฯ โดย จ.ประจวบฯ มีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 30 เขตเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ 30 คน และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 คน สำหรับการเลือกตั้ง อบจ.ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คาดว่าจะใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งไม่เกิน 40 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งในสถานการณ์ปกติ ต่างจาก 4 ปีก่อน ซึ่งมีการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ผู้สมัครนายก อบจ.กำหนดให้ใช้งบหาเสียงไม่เกิน 18 ล้านบาท สำหรับ ส.อบจ.ใช้งบไม่เกินรายละ 1 ล้าน 2 แสนบาท.

ตม.ประจวบฯเอาจริง ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและปราบปรามแรงงานต่างด้าวเถื่อนเข้มข้น


วันนี้ 13 พ.ย.2567 เวลา 16.30 น. พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลาผกก.ฯรรท.ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ,พ.ต.ท.อดุลย์ คงไข่ศรี รอง ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฏฐวรรธ แก้วทิพย์เนตร สว.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์, ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3 ได้ทำการจับกุม MR.CHEDLY SAHEB ETTABA สัญชาติ อเมริกัน อายุ 69 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพัทยา ที่ 183/2567 ลง 31 ต.ค.2567 กระทำความผิดฐาน ยักยอกทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ ณ.บ้านเลขที่ 611 ม.14 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
พร้อม นำตัวส่ง พงส.สภ.หัวหิน จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.บางละมุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หน.อช.กุยบุรี คว้ารางวัลบุคลากรภาครัฐดีเด่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สะท้อนความทุ่มเทในการอนุรักษ์ทรัพยากรฯ

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ประกาศผลการคัดเลือกบุคลากรภาครัฐดีเด่น ศิษย์เก่าดีเด่น และนิสิตดีเด่น ประจำปี 2567 โดยนายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จ.ประจวบฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบุคลากรภาครัฐดีเด่นจากคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยได้มีการมอบรางวัลเมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 ที่ผ่านมา เนื่องในวันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ครบรอบ 45 ปี ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567

“การคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ มันคือความภาคภูมิใจ” นายอรรถพงษ์ กล่าวถึงความรู้สึกต่อการทำงานในชีวิตราชการ พร้อมเสริมว่าภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และได้ปฏิบัติตามคำสอนของรุ่นพี่ จนสามารถสร้างผลงานที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหน่วยงานต้นสังกัด จนเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานภายนอก รางวัลบุคลากรดีเด่นครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จในการปฏิบัติงานของนายอรรถพงษ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและอุดมการณ์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของสัตว์ป่าในประเทศไทย.


สาวคิดสั้นกระโดดสะพานลอย โชคดี ตร.ชะอำเกลี้ยกล่อมช่วยได้ทัน


ช่วงค่ำวันที่ 14 พ.ย. 67 ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุมีคนพยายามกระโดดสะพานลอย บริเวณ 3 แยก ที่ทำการไฟฟ้า อ.ชะอำ หลังเก่า ริมถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม. เขตเทศบาลเมืองชะอำ จ.เพชรบุรี จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมประสานรถกระเช้าเทศบาลเมืองชะอำ กู้ภัยสว่างสรรเพชรเข้าให้การช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุพบหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี กำลังนั่งคร่อมบนราวสะพานมีความสูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร สภาพพร้อมกระโดดลงมา เจ้าหน้าที่จึงนำรถกระเช้าเข้าให้ความช่วยเหลือพาตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย จาการสอบถามหญิงผู้ก่อเหตุอ้างว่าจำชื่อ-สกุลจริงของตัวเองไม่ได้ ก่อนจะร้องไห้บอกว่าเพียงว่า ชื่อ มิก อยู่ จ.ร้อยเอ็ด ทางกู้ภัยพาไปตรวจร่างกายยังรพ.ชะอำ แต่ น.ส.มิก ไม่ยอมลงจากรถ ตำรวจต้องช่วยเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที จึงยอมให้แพทย์ตรวจร่างกาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า น.ส.มิก ได้ติดรถจาก จ.ร้อยเอ็ด มาลงที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อหางานทำโดยตระเวนเดินหางานได้ 2 วันแต่ไม่มีใครว่าจ้าง ภายหลังไม่มีเงินติดตัวและเกิดอาการเครียดหิวข้าว จึงก่อเหตุคิดสั้นจะกระโดดสะพานลงมาแต่พลเมืองดีพบเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือไว้ได้ทัน อย่างไรก็ตามกำลังสืบสวนต่อไปว่า น.ส.มิก เป็นผู้ป่วยจิตเวชหลบหนีออกมารจากบ้านพักที่ จ.ร้อยเอ็ด หรือไม่ เพื่อจะได้ประสานญาติพี่น้องก่อนพาตัวกลับบ้านไปบำบัดรักษาต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781





	

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.นครราชสีมา ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลลอยกระทง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.00 น. นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดจังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลลอยกระทง จ.นครราชสีมา โดยมี พลตำรวจตรี ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการฝ่ายต่างๆ ร่วมพิธีปล่อยแถว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา ท่านผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 สำนักงาน ปปส.ถาค 3 สาธารณสุขจังหวัด สรรพสามิตร สารวัตรทหาร หน่วยกู้ภัย และ อาสาสมัคร เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พลตำรวจตรี ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “พิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี ๒๕๖๗ วันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ บริเวณลานหน้า ภ.จว.นครราชสีมา อ.เมือง จว.นครราชสีมา

เนื่องจากวันศุกร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗/ เป็นวัน ลอยกระทง หลายพื้นที่ก็ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการลอยกระทง การแสดงแสง สี เสียง/ เพื่อสืบสานประเพณีของไทย ซึ่งจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยว/ เดินทางมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก จึงอาจเกิด เหตุอาชญากรรม/การประทุษร้ายต่อทรัพย์/และเหตุอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของประชาชน ขึ้นได้ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้มีการระดม กวาดล้างอาชญากรรม/เพื่อป้องกันอาชญากรรม และรักษาความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมุ่งเน้นการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบตั้งโรงงานผลิตพลุ ประทัด/ เชื้อประทุ/ ดอกไม้ เพลิง/

เพื่อป้องกันเหตุโรงงานทำดอกไม้เพลิง/ หรือพลุ ระเบิด ซึ่งอาจส่งผล เป็นอันตรายอย่างรุนแรงต่อประชาชน/ รวมทั้งการกวดขันจับกุมผู้เล่น ดอกไม้เพลิง/ พลุ และประทัด ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญ หรือ ในลักษณะที่น่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชนและกวดขันจับกุมการลักลอบผลิต และจำหน่ายพลุ ประทัด/ และดอกไม้ เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต/ และกรณีเด็กเป็นผู้กระทำความผิด ก็ให้ ดำเนินการกับผู้ปกครอง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กฯ เพื่อให้ ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุม/ ดูแลบุตรหลานและรับผิดชอบใน การกระทำความผิดของบุตรหลานด้วย ดังนั้น จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วม บูรณาการ/ในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท/ ในช่วงเทศกาล ลอยกระทง ประจำปี ๒๕๖๗ นี้อย่างจริงจัง เต็มกำลังความสามารถ

ซึ่งจะ เป็นการป้องปราม/ ป้องกัน/ และลดโอกาสของมิจฉาชีพที่จะก่อเหตุร้าย ต่อชีวิต/ ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว/ และ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่จะปกป้อง ประชาชน และนักท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัย เพื่อให้การปฏิบัติการ ร่วมกันในครั้งนี้ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล/ อัน จะส่งผลโดยรวมเพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ศึกรวมใจชาวหนองไผ่แก้ว+จิตรเมืองนนท์สัญจร

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ศึกรวมใจชาวหนองไผ่แก้ว+จิตราเมืองนนท์สัญจร ประธานจัดงาน นาย วิบูลย์ สุนทรวัฒน์ นายกเทศมนตรี และทีมงาน นายเกริทฤทธิ์ รัตมงคล รองนายกเทศมนตรี นายจตุพล สุนทวัฒน์ รองนายกเทศมนตรี นายสุรชัย วงค์เวทย์เสถืยร เลขานุการนายกเทศมนตรี นายมณท์ธรรม์ บุญใจเพชร ที่ปรึกษา และ อบต.พีท คิว โชควิทยา

ประธานเปิดการแข่งขันถ่ายทอดสด นาย จิรวุฒิ สิงโตทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเเปิดงานศึกรวมใจชาวหนองไผ่แก้ว+จิตรเมืองนนท์สัญจร ณ.เวทีมวยชั่วคราวเทศบาลหนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ถ่ายทอดสดช่อง JKN 18 ยูทูป jitmuangnongym live เวลา 17.00น.เป็นต้นไป
เอ.คนข่าวรายงาน

“รัฐมนตรีเฉลิมชัย”เดินหน้าป่าชุมชนยั่งยืนลดโลกร้อน

แชร์เนื้อหานี้

“รัฐมนตรีเฉลิมชัย”เดินหน้าป่าชุมชนยั่งยืนลดโลกร้อนมอบ“อลงกรณ์-ปรพล“ถอดรหัส”สระบุรี แซนด์บ็อกซ์ เมืองคาร์บอนต่ำสร้างโมเดลป่าชุมชน-ป่าคาร์บอนต้นแบบก่อนขยายผลทั่วประเทศ นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. ประธานมูลนิธิเวิลด์วิว ไครเมทและรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม

กล่าวในงานสัมมนาเวิร์คช็อป “พลเมืองเคลื่อนรัฐครั้งที่ 3 หัวข้อ“ป่าชุมชนสระบุรีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน“ ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีนโยบายให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ การฟื้นฟู การใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืนเพื่อชุมชนและนโยบายลดโลกร้อนโดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อบรรลุเป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี2050และคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี2565ถือเป็นนโยบายเรือธงเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน


การประชุมผนึกความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาครัฐ ภาควิชาการ ผู้นำท้องถิ่นและภาคประชาชนในจังหวัดสระบุรี ซึ่งมีเจตนารมย์ร่วมกันให้จังหวัดสระบุรีเป็นต้นแบบ”เมืองคาร์บอนต่ำ” หรือ “SARABURI LOW CARBON CITY” โดยเน้นใน 5 ภาคส่วน คือ ภาคอุตสาหกรรม ภาคพลังงาน ภาคการกำจัดขยะของเสีย ภาคเกษตรกรรม และภาคการเพิ่มพื้นที่สีเขียวถือเป็นตัวอย่างต้นแบบการบูรณาการทุกภาคส่วนที่น่าชื่นชมโดยเฉพาะการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาป่าชุมชนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน (Forests for the Sustainable Future)จำนวน 45 แห่งในจังหวัดสระบุรี

ภายใต้เครือข่ายคณะกรรมการจัดการป่าชุมชนแห่งละ 15 คน รวมทั้งสิ้นประมาณ 675 คนและขยายความร่วมมือกับอาสาสมัครของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเช่นเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) อีกราว 2,000 คน เครือข่ายที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติ และที่ปรึกษาเขตห้ามล่าสัตว์ป่า จำนวน 100 คนจะเป็นการขับเคลื่อนที่มีพลังสู่ความสำเร็จด้วยการบูรณาการของภาคีภาคส่วนต่างๆรวมทั้งหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในจังหวัดสระบุรี ได้แก่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สระบุรี สำนักสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 7 สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 2 สระบุรี สำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 3 สระบุรี ป่าชุมชนนอกจากมีอรรถประโยชน์ใช้สอยเพื่อชุมชนแล้วยังมีความหลากหลายทางชีวภาพ(Biodiversity)เพื่อเดินหน้าสู่ไบโอเครดิต(Bio Credit)ทั้งยังเป็นแหล่งอาหารของชุมชน(Community Food Bank)และสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง รวมทั้งสามารถดำเนินการเรื่องคาร์บอนเครดิตเพื่อเศรษฐกิจสีเขียวอีกด้วย ”จากผลการประชุมในวันนี้จะถอดรหัส สระบุรี แซนด์ บ็อกซ์(Saraburi Sandbox) เมืองคาร์บอนต่ำเพื่อสร้างโมเดลป่าชุมชน-ป่าคาร์บอนต้นแบบโดยจะนำเสนอต่อดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. พิจารณาขยายผลไปยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศต่อไป”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

 ในการสัมมนาเวิร์คช็อปครั้งนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้วยมอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปรพล อดิเรกสาร ที่ปรึกษาสมาคมการท่องเที่ยวสระบุรีเเละหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสระบุรีเข้าประชุมงานสัมมนาเวิร์คช็อป “พลเมืองเคลื่อนรัฐครั้งที่ 3 หัวข้อ“ป่าชุมชนสระบุรีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน“จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(กพร.)และมูลนิธิคอนราด อเดนาวร์เมื่อวันที่11 พ.ย.ที่ผ่านมาที่ลีลาวดีรีสอร์ต อ.เมือง จ.สระบุรีร่วมกับนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ กพร. ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ประธานอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ นายบุญมี สรรพคุณ หนึ่งในผู้ริเริ่มสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ นายเสกสรร กวยะปาณิก รักษาการผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้และภาคีภาคส่วนต่างๆเช่นจังหวัดสระบุรี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ. )องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก กองทุนสิ่งแวดล้อม  สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ(สพภ.BEDOThailand) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(อพท.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โรงงานและบริษัทต่างๆในพื้นที่เช่น เอสซีจี. เคมีแมน สยามฟูรูกาว่า ซีพีเมจิ ทีพีไอโพลีน เบทาโก เป็นต้นและเครือข่ายป่าชุมชนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสระบุรีให้เป็นเมืองคาร์บอนต่ำ ( SARABURI LOW CARBON CITY )ภายใต้แนวทางOpen Gov. for SRI สระบุรี เเซนด์บ็อกซ์ (Saraburi Sandbox)ด้วยโครงการ“ป่าชุมชนสระบุรีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน”.

ข้อมูลประกอบ: ประเทศไทยมีการจัดตั้งป่าชุมชนในพื้นที่กรมป่าไม้ 12,231 แห่ง เนื้อที่ 6,308,712 ไร่ นอกจากนั้น ยังมีป่าชุมชนในพื้นที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ชุมชนที่ดูแลรักษาป่าชุมชนจะถูกโน้มน้าวให้เข้าร่วมโครงการ โดยมีเงินทุนสนับสนุน และมีการแบ่งปันผลประโยชน์จากการค้าคาร์บอนเครดิตจำนวนหนึ่ง ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2566 พบว่า ป่าชุมชน 211 แห่ง ในพื้นที่ 18 จังหวัด กำลังกลายเป็นป่าคาร์บอน โดยเป็นป่าชุมชน (ป่าบก) 129 แห่ง ป่าชุมชนชายเลน 82 แห่ง รวมปริมาณการดูดกลับก๊าซคาร์บอน ประมาณ 1,904,463 ตันของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ข้อมูลในปี 2564 ป่าธรรมชาติและป่าเศรษฐกิจในประเทศไทยมีการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกรวมกัน 100 ล้านตันของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ดังนั้น ยังเหลือตามเป้าหมายอีก 20 ล้านตันของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวทุกประเภท ร้อยละ 55 ของพื้นที่ประเทศ รวมเนื้อที่ 177.94 ล้านไร่ ภายใน พ.ศ. 2580 เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอน และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ในขณะที่ปัจจุบันมีพื้นที่สีเขียว ร้อยละ 39.60 รวมเนื้อที่ 128.12 ล้านไร่ ดังนั้น ต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียว ประมาณ 49.82 ล้านไร่.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “นาทีชีวิต!!! รอง ผอ. นบ.ยส.24 เข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น การทำ CPR ช่วยเหลือประชาชนประสบอุบัติเหตุ บนถนนสายนิตโย สกลนคร- นครพนม

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 เวลา 17.30 น. ที่บริเวณ ถนนสายนิตโย สกลนคร- นครพนม ตรงข้ามปั้ม ปตท.บ.โคกก่อง ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม พันเอก กัญญณัต ไชยโอชะ รองผู้อำนวยการกองบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รอง ผอ. ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 (2) และพันเอก ศรณณัฐ นวลมณี รองผู้อำนวยการกองบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด

สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รอง ผอ. ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 (5) ในระหว่างการเดินทางจากการปฏิบัติราชการในพื้นที่ จังหวัดนครพนม ได้พบเห็นอุบัติเหตุรถเก๋ง ทะเบียน กจ 4606 สกลนคร ชนกับรถจักยานยนต์ของชาวบ้าน บนถนนสายนิตโย สกลนคร- นครพนม บริเวณตรงข้ามปั้ม ปตท.บ.โคกก่อง ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 ราย เป็นชาวบ้าน บ.โคกกล่อง ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม

เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างกลับจากซื้อผักที่ตลาด ในระหว่างเดินทางกลับบ้านก็มาเกิดประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ซึ่ง รอง ผอ. ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 เห็นเห็นการพอดีจึงได้ทำการจอดรถและรีบเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การทำ CPR

ก่อนที่หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน อบต.นาทราย และทีมแพทย์ฉุกเฉิน รพ.นครพนม เข้าทำการช่วยเหลือ พร้อมกับการอำนวยการจราจรอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อน จึงรีบเข้าช่วยเหลืออำนวยการประสานการปฏิบัติในทุกๆส่วนในการช่วยเหลือในครั้ง “เพราะทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

ภาพ/ข่าว​ นบ.ยส. 24
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี + สื่อรัฐนิวส์ / ทอดผ้ากฐินสามัคคี วัดดงทองพุทธสรรรค์ ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี

แชร์เนื้อหานี้

วันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 12 เวลา 09.19 น. ประชาชนต่างทยอย เดินทางเข้าสู่ลานวัดดงทองพุทธสรรรค์ ตำบลนิยมชัย อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี เพื่อร่วมทอดกฐินสามัคคีสมทบทุนเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ ศาสนสถานสร้างศาลาการเปรียญให้แล้วเสร็จ แต่ทางวัดดงทองพุทธสวรรค์ ยังขาดเงินอีกจำนวนมาก ในการก่อสร้างถาวรวัตถุศาลาการเปรียญเพื่อไว้ใช้ ให้ญาติโยมปฏิบัติธรรม ทางวัดดงทองพุทธสวรรค์ จึงได้บอกบุญมายังผู้มีจิตศรัทธาได้รวบร่วมบุญเป็นกฐินสามัคคีกำลังบุญของมุกท่าน เพื่อทอดกฐินสามัคคี ทอดถวาย ณ วัดดงทองพุทธสวรรค์ ตำบลนิยมชัย อำเภอสระโบลถ์ จังหวัดลพบุรี

ประธานฝ่ายสงฆ์ได้แก่ครูบาสุปัณวัฒฆ์ ปัญญาวุฒโฒ เจ้าอาวาสวัดดงทองพุทธสวรรค์ ประธานฝ่ายฆราวาสได้แก่ นายสินศักดิ์ ธนเลิศเปี่ยมสุข นางสาวสุคนธ์ทิพย์ ธนเลิศเปี่ยมสุข พร้อมครอบครัว ตลอดทั้งชาวบ้านดงทอง และผู้ที่เดินทางมาจากสถานที่อื่นๆ ทางวัดดงทองพุทธสวรรค์ ตำบลนิยมชัย อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ซึ้งเป็นวัดที่อยู่ออกห่างจากตัวอำเภอสระโบสถ์ประมาณ 20 กิโลเมตร วัดพุทธสวรรค์อยู่ติดถนนสาย อ.สระโบสถ์ – อ.ชัยบาดาล (สายใน) ตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ห่างความเจริญ อาศัยญาติโยมที่เคยเข้ามาเห็นวัดดงทองพุทธสวรรค์ แล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธา

เพราะทางวัดมีครูบาสุปัณวัฒฆ์ ปัญญาวุฒโฒ เจ้าอาวาสท่านมีเมตตา และเป็นพระปฏิบัติและเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ในทางหลักธรรมพระพุทธศาสนา จึงทำให้ประชาชนที่เคยเข้ามาวัดนี้แล้ว และอยากเข้ามาอีกเพื่อส่งเสริมการสร้างถาวรวัตถุของทางวัดดงทองพุทธสวรรค์ให้แล้วเสร็จสมเจตนารมณ์ของเจ้าอาวาสวัดดงทองพุทธสวรรณ เพื่อใช้ในกิจของพุทธศาสนา วัดดงทองพุทธสวรรค์ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2556 บนเนื้อที่ 17 ไร่ โดยพระอาจารย์สมชัย ถาวโร เจ้าอาวาสรูปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันท่านได้ถึงแก่มรณะภาพแล้ว มีครูบาสุปัณวัฒฆ์ ปัญญาวุฒโฒ มาประจำอยู่วัดแห่งนี้

งานบุญกฐินเป็นบุญใหญ่ที่จัดเป็น “กาลทาน” คือ ทานที่ถูกกำหนดด้วยเวลา มีเพียงปีละครั้ง ต้องทำภายในเวลา 30 วัน หรือจำง่ายๆว่า หลังวันออกพรรษาจนถึงวันลอยกระทง เป็นช่วงเวลาที่พระภิกษุสงฆ์ฯและญาติโยมจะได้ร่วมแรงร่วมใจกันสานต่อประเพณีอันดีงามที่เริ่มมาจาก “พระพุทธเจ้า” ขอเล่าให้ฟังพอสังเขป จุดเริ่มต้นเมื่อครั้งพุทธกาล มีพระสงฆ์จำนวน 30 รูป ต้องการเดินทางไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ด้วยระยะทางที่ไกล และยังมีฝนตกลงมา ทำให้จีวรของพระสงฆ์เหล่านั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน เมื่อพระพุทธเจ้าได้เห็นแล้ว จึงทรงอนุญาตให้พระสงฆ์ทั้งหลายได้อยู่ต่ออีก 30 วันหลังจากออกพรรษาแล้ว เพื่อรอรับกฐิน โดยมีนางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นผู้ที่ได้ถวายผ้ากฐินเป็นคนแรก

อานิสงส์ผลบุญ” การทอดกฐินเป็นกาลทาน คือ ทานที่ต้องทำภายในกำหนดเวลา ปีหนึ่งทำได้ครั้งเดียว วันหนึ่งทำได้ครั้งเดียว ทุกคนที่มาร่วมบุญต้องมีการจัดเตรียมงานในหลายส่วน เจ้าภาพและผู้ร่วมทอดกฐินสามัคคีย่อมเข้าถึงโภคทรัพย์และมนุษย์สมบัติที่ได้ร่วมกันถวายทาน และยังได้อานิสงส์บริวารสมบัติจากการบอกกล่าวชวนญาติมิตรมาร่วมบุญด้วยกัน ถือเป็นบุญใหญ่ ที่ทำได้ยาก และเป็นบุญที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่ามีอานิสงส์มาก

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี อนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรคจังหวัดลพบุรี รายงาน