เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เร่งสำรวจ “จระเข้น้ำจืดไทย” แห่งผืนป่ามรดกโลกแก่งกระจาน จ.เพรชบุรี

แชร์เนื้อหานี้

จากเหตุการณ์เริ่มต้นจากเรื่องที่ไม่คาดคิด เมื่อวันที่ 2 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้จับกุมผู้ลักลอบนำวัว 50 ตัวเข้ามาเลี้ยงในเขตอุทยาน บริเวณเกาะสะแกวัลย์ แต่เหตุการณ์นี้กลับนำไปสู่การค้นพบที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่า ทั้งนี้ นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เล่าว่า ทีมนักวิจัยได้พบร่องรอยที่น่าสนใจหลายประการ ทั้งรอยเดิน รอยนอนอาบแดด และกองมูลขนาดใหญ่ที่คาดว่าเป็นของจระเข้น้ำจืดไทย

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือการพบร่องรอยการถูกกัดที่ลำตัวของวัว และจุดที่คล้ายกองเลือดบริเวณริมหาด จระเข้ตัวนี้ฉลาดมากแม้เราจะติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า แต่ดูเหมือนมันจะได้กลิ่นมนุษย์และหลบเลี่ยงไม่เข้าใกล้บริเวณที่เราวางกล้องไว้ ความน่าสนใจของการค้นพบครั้งนี้ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อพบว่าวัวที่เหลืออยู่แสดงพฤติกรรมหวาดกลัวการเข้าใกล้ริมน้ำอย่างผิดปกติ สอดคล้องกับคำให้การของเจ้าของวัวที่เคยพบเห็นจระเข้ลอยตัวอยู่เหนือน้ำบริเวณใกล้เกาะ“ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ได้พบร่องรอยจระเข้น้ำจืดใน 4 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณวังข่า ใกล้หมู่บ้านโป่งลึก พบมาตั้งแต่ปี 2554 บริเวณต้นแม่น้ำเพชรบุรี ใกล้โป่งสีชมพู พบตั้งแต่ปี 2562 ที่บริเวณแม่น้ำบางกลอย พบรอยตีนและกองมูลในปี 2564 และบริเวณแม่น้ำแม่ประโดน พบร่องรอยซากกวางและรอยตีนจระเข้ การค้นพบครั้งนี้สร้างความหวังให้กับการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดไทย สัตว์เลื้อยคลานที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง ขณะนี้ทีมนักวิจัยได้เก็บตัวอย่างมูล

เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ ซึ่งจะช่วยประเมินขนาดของจระเข้ตัวนี้ได้แม้จะยังไม่พบตัวจริง แต่ร่องรอยที่พบทั้งหมดก็เป็นสัญญาณอันน่ายินดีที่แสดงให้เห็นว่า ระบบนิเวศในผืนป่าแก่งกระจานยังคงอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าหายากชนิดนี้ โดยทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังคงทำทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์และปกป้องจระเข้น้ำจืดไทยตัวนี้ให้อยู่คู่ผืนป่าแก่งกระจานต่อไป” นายมงคล กล่าวทิ้งท้าย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / บุกจับแก๊งมอดไม้นาโสก 7 คน ลักลอบเลื่อยไม้ในเขตป่าสงวนฯ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 12 มกราคม​ 2568​ ชุดปฏิบัติการข่าว สำนักการข่าว กอ.รมน. ร่วมบูรณาการชี้เป้าให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้มุกดาหาร ร่วมกับ กองร้อยทหารราบกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , ชปข.7 กกล.สุรศักดิ์มนตรี , กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร , หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.4 (คำอาฮวน),

กก.3 บก.ปทส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สินธิกำลังปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ บ้านกุดแข้ใต้ ต.กุดแข้ อ.เมืองมกดาหาร จ.มุกดาหาร ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงบังอี่ แปลงที่ 1 พิกัด สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปทำการตัดไม้แปรรูปไม้ที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว

ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน ได้แก่ 1) นายโสดา นาโสก อายุ 70 ปี (เจ้าของไม้, เจ้าของที่ดิน และเป็นผู้จ้างวาน) ที่อยู่เลขที่ 81 ม.13 บ.โนนบุปผา ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ, 2) นายวินิจ บับพาน อายุ 58 ปี ที่อยู่เลขที่ 1/1 ม.8 บ.แก้ง ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ (ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ.แก้ง ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ , 3)

นายทรงสิทธิ์ บับพาน อายุ 40 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 26 ม.5 บ.นาบอน ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ, 4) นายปรีชา อุคำ อายุ 50 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 195 ม.4 บ.เหล่าป่าเป็ด ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ, 5) นายทวีศักดิ์ เสียงหวาน อายุ 57 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 174 ม.7 บ.โคกปังเปื่อย ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ 6) นายสุทธินันท์ สุวรรณพันธ์ อายุ 31 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 233 ม.18 บเหล่าป่าเป็ด ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ และ 7)

นายศราวุฒิ แก้วหาญ อายุ 88 ปี ที่อยู่เลขที่ 141 ม.10 บ.โคกป่งเปื่อย ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ (คนหยดน้ำมัน) พร้อมของกลาง ไม้พฤกษ์แปรรูป จำนวน 6 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.56 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่าเสียหายของรัฐ เป็นจำนวนเงิน 11,200 บาท, ไม้พลวงแปรรูป จำนวน 19 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.45 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่าเสียหายของรัฐ เป็นจำนวนเงิน 9,000 บาท, ไม้พลวงท่อน จำนวน 6 ท่อน ปริมาตร 3.87 ลบ.ม.

คิดเป็นมูลค่าเสียหายของรัฐ เป็นจำนวนเงิน 37,400 บาท, เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 5 เครื่อง, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า ไมตี้เอ็ก สีเขียว ทะเบียน บม 24121 มุกดาหาร เลขตัวถัง LN908049991, รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน, รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จำนวน 1 คัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง สภ.เมืองมุกดาหาร จากนั้นนำไม้ของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่ ศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ลั่นฆ้องชัย แต่งไทยเทิดพระเกียรติฯ ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช’ ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 08.00 น. นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ทรงพล แป้นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายประยูร ศิริวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ และ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน จำนวน กว่า 3,500 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรม รณรงค์แต่งไทย “นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งไทยทั้งเมือง”

ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจำปี 2568 ด้วยการ แต่งไทยย้อนยุค สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และ ชุดไทยประยุกต์ อย่างสวยสดงดงาม ปรับเป็นรูปขบวน โดยมีหน่วยงาน สถานศึกษา เข้าร่วมประกวดขบวนรณรงค์แต่งไทย จำนวน 8 ขบวน ประเภทสวยงาม จำนวน 4 ขบวน และประเภทความคิดสร้างสรรค์ จำนวน 4 ขบวน ออกเดินรณรงค์แต่งไทย

จากบริเวณลานเอนกประสงค์ สวนราชานุสรณ์ ตามท้องถนน ผ่านโบราณสถาน และจุดต่างๆ ในเขตตลาดชุมชนรอบตัวเมืองลพบุรี ระยะทางรวมกว่า 3 กิโลเมตร เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ งานที่ภาคภูมิใจและยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวจังหวัดลพบุรี คือ งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568

โดยได้เชิญชวนชาวลพบุรี พร้อมใจแต่งไทยกันทั้งเมือง ตลอดระยะเวลา 1 เดือน เพื่อเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศของความเป็นไทย และร่วมกันแสดงออก ถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ในช่วงของการจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งจะมีขึ้นระหว่าง วันที่ 14-23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ อำเภอเมืองลพบุรี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ องค์บูรพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

โดยเฉพาะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงคุณูปการอเนกอนันต์ ต่อเมืองลพบุรี สำหรับกิจกรรมดังกล่าว นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ และส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์ และความเป็นชาติไทยแล้ว ยังถือเป็นการรวมพลังชาวลพบุรี ในการแต่งไทยทั้งเมือง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย เป็นการแสดงออก ซึ่งความร่วมมือกันระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรต่างๆ และประชาชนในจังหวัดลพบุรี เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

สำหรับงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในปีนี้พบกับความยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2568 ชมขบวนแห่ประวัติศาสตร์ รำบวงสรวง สวนนารายณ์นฤมิต ตำรับโอสถพระนารายณ์ ทหารวังเปลี่ยนเวร การแสดงละครลิง กิจกรรมแต่งชุดไทยจดทะเบียนสมรส หมากรุกคน ตลาดย้อนยุค ลานวัฒนธรรมและอาหารพื้นบ้าน

การแสดงศิลปวัฒนธรรม ซาโม่น “ตลาดมอญเมืองละโว้” ชิม ช้อป สินค้าโอทอปของดีจังหวัดลพบุรี สัมผัสการแสดง แสง สี เสียง ประวัติศาสตร์จินตนาการที่ปรับเปลี่ยนใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ สุดอลังการ ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเปิดให้ชมฟรีอีกด้วย

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนนย์ข่าวฯ / ประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “สว.มาเรีย” เปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ของเทศบาลตำบลทับสะแก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 11 ม.ค. 68 ที่ลานหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( สว. ) เป็นประธานในพิธีอ่านสารวันเด็ก พร้อมกล่าวเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ของเทศบาลตำบลทับสะแก ประจำปี 2568

โดยมี นายพงษ์พันธ์ เผ่าประทาน นายกเทศมนตรีตำบลทับสะแก นายพนม ปัถวี หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก น.ส.ณุกานดา จันทราภรณ์ สาธารณสุขอำเภอทับสะแก พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงาน ร่วมกิจกรรม ในการนี้ นายสวาป เผ่าประทาน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( สส.) ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมมอบของรางวัลในงานด้วย

โดยภายในงานมีให้บริการซุ้มอาหาร เครื่องดื่ม ให้กับเด็กที่ร่วมงานวันเด็กฯ รับชมการแสดงจากโรงเรียนต่างๆ ดังนี้ โรงเรียนสหมิตรวิทยาคม ชื่อชุดการแสดง รำไทยประยุกต์ เลิศลีลา โรงเรียนทับสะแกวิทยา ชื่อชุดการแสดง ทีม ABIGAIL DANCE CERW ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทับสะแก ศูนย์ 1. ชื่อชุดการแสดง เพลง แอวลั่นปั๊ด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทับสะแก ศูนย์ 2. ชื่อชุดการแสดง อพาร์ทเม้นท์เด็กน้อย

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทับสะแก ศูนย์ 3. ชื่อชุดการแสดง เพลง รถซื้อแกง ชมการแสดงมายากล จากคณะ Lionmagic Show โรงเรียนบ้านพุตะแบก ชื่อชุดการแสดง เพลง โด เร มี เดอะชาวด์ออฟ มิวสิค โรงเรียนวัดนาล้อม ชื่อชุดการแสดง เพลง หางเครื่อง โรงเรียนอนุบาลทับสะแก ชื่อชุดการแสดง เพลง ทุ่งลุยลาย

สำหรับเด็กๆ สนุกกับกิจกรรมนันทนาการ การถามตอบปัญหาสลับกับการจับสลากหางบัตรลุ้นรับของขวัญ ของรางวัล ทุนการศึกษาบนเวทีใหญ่ ตลอดจนเสร็จสิ้นการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยมีเด็กๆ จากอำเภอทับสะแก และ อำเภอใกล้เคียงร่วมงานจำนวนมาก
/////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เจ้าคณะอ.สอบพระพล วัดด่านพระอินทร์ เสพเมถุน – สีกาผู้ถูกล่วงละเมิด หากผิดจริงโทษถึงขั้นปาราชิก

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568​ ที่ห้องประชุมวัดเหล่าต้นยม ตำบลหนองแวง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พระครูวชิรธรรมพินิต เจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวพระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือ พระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร มีพฤติกรรมไม่สมควรแก่สมณวิสัย มีหลักฐานการสนทนาเชิงชู้สาวกับสีกา เป็นคลิปเสียงและการสื่อสาร ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ สร้างความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ตามคำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร ที่ ๐๒ / ๒๕๖๘ โดยมีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร และฝ่ายปกครองอำเภอนิคมคำสร้อย ร่วมประชุมด้วย

โดยช่วงเช้าของในวันนี้เป็นการสอบ น.ส.บุญญาพร สุนทรวัฒน์ ผู้เสียหายซึ่งยืนยันว่าพระพล ได้มีเพศสัมพันธ์กับตนตั้งแต่ประมาณปี 2560 และเพิ่งมาเลิกยุ่งเกี่ยวกันในปี 2567 โดยครั้งแรกได้เสียกันที่บริเวณลานพญานาคภายในวัดด่านพระอินทร์ ในวันนี้ได้มาให้ปากคำพร้อมด้วยพยานหลักฐานประกอบด้วยคลิปเสียงสนทนา เอกสารแชท line และหลักฐานสลิปการโอนเงินจากบัญชีพระพลมาเข้าบัญชีของตน จำนวนหลายครั้ง

พระครูวชิรธรรมพินิต ประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่าวันนี้ช่วงเช้าเป็นการเชิญ น.ส.บุญญาพร สุนทรวัฒน์ ผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำประกอบเอกสารหลักฐานพยานในฐานะเป็นพยานและเป็นผู้เสียหาย ส่วนในช่วงบ่ายมีพระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือ พระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ มาให้การแก้ข้อกล่าวหา ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะรวบรวมทำให้การพยานพร้อมพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายมาทำคำวินิจฉัย ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการเสพเมถุน ก็จะมีโทษถึงขั้นอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระภิกษุ ต้องรอสิกขา ส่วนผลการพิจารณาวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องหลังจากเสร็จการสอบปากคำพยานทั้งสองฝ่ายจากนั้นคณะกรรมการจึงจะพิจารณาแล้วนำผลคำวินิจฉัยส่งให้เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหารพิจารณาสั่งต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ พวงเพชร​ จันทร์ดี
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​092-5259777​

ฉก. ทหารพราน 2105 มุกดาหาร ยึดยาบ้าร่วม 1 ล้านเม็ด พร้อม happy water ขณะลักลอบลำเลียงข้ามแม่น้ำโขง

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568​ เวลา​ 14.00​น​ ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน 2105 จังหวัดมุกดาหาร พันเอก ศิวดล ยาคล้าย ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี แถลงข่าวการ จับกุมยาบ้าจำนวน 994,000 เม็ด พร้อม Happy Water แบบคอลลาเจน ลิซ่าแบรนด์ จำนวน 78 ซอง พิมพ์ด้วยตัวหนังสือภาษาไทย ด้านหลังมีตรา อย. ประทับที่ท้ายซองด้วย

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ วันที่ 11 มกราคม 2568​ ที่ผ่านมา​ ร.ต.อาทิตย์ นามวงศ์ รองผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2105 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ว่าจะมีการรับส่งยาเสพติด (ยาบ้า) กันที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านส้มป่อย ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จึงได้จัดกำลังและวางแผนเฝ้าตรวจตามจุดเพ่งเล็งและช่องทางธรรมชาติที่คาดว่ากลุ่มผู้ลักลอบจะใช้เป็นเส้นทางในการรับส่งยาเสพติด (ยาบ้า) ครั้นเมื่อเวลา 19.00 น. จุดเฝ้าตรวจได้ใช้กล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน ตรวจพบเรือกีบติดเครื่องยนต์แล่นมา

จากฝั่ง สปป.ลาว มุ่งหน้ามายังฝั่งไทย เมื่อเรือลำดังกล่าวมาถึงกลางแม่น้ำโขงได้ดับเครื่องยนต์และปล่อยเรือไหลมาตามลำแม่น้ำ กระทั่งเมื่อเรือลำดังกล่าวไหลมาถึงฝั่งไทย ชุดเฝ้าตรวจได้แจ้งให้ชุดซุ่มตรวจที่อยู่ใกล้กับจุดที่เรือเทียบฝั่งไทยเข้าตรวจสอบ พบชายฉกรรจ์ประมาณ 3 คน กำลังยกกระสอบลงจากเรือ จึงได้แสดงแสดงตัวเพื่อจะขอตรวจสอบ แต่เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ได้ทิ้งกระสอบและอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป ส่วนคนขับเรือก็ได้ขี่เรือแล่นออกจากฝั่งไทยกลับไปฝั่งยัง

สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบกระสอบปุ๋ยสีเขียว จำนวน 5 กระสอบ อยู่บริเวณทางเดินขึ้นมาจากตลิ่งแม่น้ำโขง เมื่อเปิดดูภายในกระสอบ พบว่าเป็นยาบ้าจำนวน 994,000 เม็ด พร้อม Happy Water แบบคอลลาเจน จำนวน 78 ซอง ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางแนะนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #กองทัพภาคที่2 #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี #กองทัพบกroyalthaiarmy

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

แก๊งหมวกกันน็อคสุดเหิม ยิงปืนใส่บ้านยายวัย 62 ปี 4 นัด แล้วยังทิ้งลูกกระสุนข่มขู่ไว้อีก

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568​ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ หมู่ 18 ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มคนประมาณ 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านในช่วงเวลา 02.00 ของวันที่ 12 มกราคม จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 4 นัด

จากการตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยบ้านถูกยิงตรงบริเวณขอบหน้าต่าง 1 นัด และบริเวณฝาผนังบ้านอีก 3 นัด โดยกระสุนที่ถูกยิงเข้าบริเวณขอบหน้าต่างกระสุนยังได้ทะลุไปถูกตู้เย็นที่อยู่ในบ้านอีกด้วย และที่บริเวณถนนหน้าบ้านยังพบว่ามีกระสุนปืนที่ยังไม่ยิงถูกโปรยทิ้งลักษณะเพื่อข่มขู่ไว้อีก 4 นัด

นางเวียง รูปงาน อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุเปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกหวาดกลัวมากเพราะยังไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุแบบนี้อีกไหม วันที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงดังคล้ายยิงปืนก็ตื่นขึ้นมาดูพบว่ามีรถจักยานยนต์เสียงคล้ายรถบิ๊กไบค์คนขี่และคนซ้อนท้ายสวมเสื้อแจ็คเก็ตและหมวกกันน็อคเต็มใบขับผ่านไป ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังคงหวาดผวาโดยเฉพาะเวลาที่มีรถวิ่งผ่านตอนกลางคืน จึงอยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยตนเองได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.คำป่าหลาย ไว้แล้ว

แก๊งหมวกกันน็อคสุดเหิม #ยิงใส่บ้าน #จังหวัดมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

-​เตือนภัย! แบงค์ 1,000 ปลอมระบาด กล้องวงจรปิดจับภาพหญิงก่อเหตุไว้ได้

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568​ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านด่านยาว ต.นากอก อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในร้านขายของเบ็ดเตล็ดที่สามารถบันทึกภาพหญิงสาวสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาล สวมกางเกงยีน ใส่แมสสีดำปิดอำพรางใบหน้า เดินเข้ามาภายในร้าน จากนั้นได้เดินไปหยิบสินค้าเป็นกาแฟ 2 กระป๋อง ราคารวม 30 บาท ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าเงินหยิบเงินเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จ่ายเป็นค่าสินค้าให้กับลูกสาวเจ้าของร้าน และได้ทอนเงินคืนให้ไป 970 บาท หญิงคนดังกล่าวเมื่อรับเงินแล้วก็เดินออกจากร้านไปขึ้นรถยนต์เก๋งสีขาวที่จอดไว้ฝั่งตรงข้ามกับร้านซึ่งอยู่รัศมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเที่ยงประมาณ 12.30 น. ของวันที่ 13 มกราคม นาย โจ รีไร อายุ 54 ปี เจ้าของร้านค้าเปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุในร้านมีลูกสาวของตน นั่งขายของหน้าร้านคนเดียว จากนั้นได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี เข้ามาซื้อกาแฟ 2 กระป๋อง ราคา 30 บาท แล้วยื่นธนบัตรใบละ 1,000 บาท ให้ลูกสาวทอนให้ โดยได้ทอนเงินไปเป็น จำนวน 970 บาท จากนั้นหญิงคนนั้นก็ออกไปจากร้าน กระทั่งเวลาต่อมาลูกสาวของตนได้นำเงินฉบับดังกล่าวไปชำระค่าซื้อ

สินค้า แต่ทางร้านค้าปฏิเสธรับเงินโดยบอกว่าน่าจะไม่ใช่ของแท้แต่เป็นแบงค์ปลอม และเมื่อนำมาเทียบกับของจริง จึงเห็นความแตกต่างเช่นกระดาษจะบางกว่าปกติ พร้อมกับมีขนาดเล็กกว่าด้วย ทั้งนี้ คนร้ายซึ่งน่าจะเป็นคนๆ เดียวกับที่ตระเวนนำแบงค์ปลอมไปใช้ซื้อของตามร้านค้าแถวจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับจังหวัดมุกดาหาร จึงอยากจะแจ้งเตือนประชาชนทั่วไปให้ใช้ความระมัดระวังเวลารับเงิน โดยต้องตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่อไปด้วย

แบงค์พันปลอมระบาด #ธนบัตรปลอม #จังหวัดมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 14 มกราคม เวลา 07.30 น. ที่หอ ประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นำข้าราชการตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พร้อมด้วยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป ถวายพระราชกุศล

พร้อมด้วยผู้นำศาสนาอิสลามประกอบพิธีดุอาอ์ขอพร ผู้นำศาสนาคริสต์ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร ถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568

เนื่องในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 26,469 วัน เป็นวันสมมงคลเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง การบําเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี เป็นราชประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบกันมาช้านาน

พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงอนุสรณ์คํานึงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชบูรพการีในวาระต่าง ๆ เช่น ในวันที่ตรงกับการครองราชย์ มีทั้งโอกาสที่เวียนมาเป็นครั้งแรกมักเรียกว่า “สมมงคล” หมายถึง เสมอกัน หรือ “สมภาคา” บ้าง ถ้าเวียนมาเป็นครั้งที่สองก็เรียกว่า “ทวิภาคา” บ้าง หรือ “ทวีธาภิเษก” บ้าง จะปรากฏแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพระราชพิธีลักษณะนี้ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 พระราชกุศลที่บําเพ็ญถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการีของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์

นอกจากโอกาสวันดํารงสิริราชสมบัติเวียนมาพ้องกับวันสําคัญดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพระราชประเพณีที่ทรงถือปฏิบัติในอีกหลายวาระ และวาระหนึ่งที่สําคัญ คือ วันที่พระชนมพรรษาเวียนไปเสมอเท่ากัน และวันที่พระชนมพรรษามากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ล่วงไปแล้วด้วย

ถือเป็นภาพลักษณ์แสดงวัฒนธรรมที่ดีงามของพระมหากษัตริย์ของชาติไทยในการที่ทรงสร้างแบบอย่างความกตัญญูกตเวทิตา แสดงความเคารพรําลึกถึงบรรพชนปู่ย่าตายายที่ประกอบคุณความดีไว้แก่บ้านเมืองให้ราษฎรยึดถือเป็นแบบแผน

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี / ประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กองทุนฟื้นฟูฯ จ.น่าน ชำระหนี้แทนเกษตรกร อ.สันติสุข / ททท.สนง.น่านจัดการประชุมหารือ เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดงาน “หอมกลิ่น ถิ่นน่าน Season 2”

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น. นางณัติกานต์ บุญเจริญ หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดน่าน มอบเงิน จำนวนเงิน 1,095,943.04 บาท ให้กับสหกรณ์การเกษตรสันติสุข จำกัด เพื่อชำระหนี้แทนเกษตรกร อำเภอสันติสุขจำนวน 3 ราย (กรณีหนี้ที่ใช้บุคคลค้ำประกัน) โดยมี นางปรานต์ธรนันท์ อะทะวงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ฯ เป็นผู้รับมอบเงิน ณ ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรสันติสุขจำกัด อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน

ทั้งนี้เกษตรกร สามารถยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดน่าน ศาลากลางจังหวัดน่าน ชั้น 5 โทรศัพท์ 054-716426 ในวันและเวลาราชการ

ททท.สำนักงานน่านจัดการประชุมหารือ เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดงาน “หอมกลิ่น ถิ่นน่าน Season 2”

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 2 ร้านบ้านถั่วลิสงค์ อ.เมือง จ.น่าน โดยมีนายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมทั้งภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว ประกอบด้วย เทศบาลเมืองน่าน, วัฒนธรรมจังหวัดน่าน, อพท.น่าน,

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าน, สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดน่าน, ชมรมที่พักจังหวัดน่าน, ชมรมร้านอาหารจังหวัดน่าน, ตัวแทนเชฟ, ตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหาร และสื่อมวลชนน่าน ร่วมกันระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดงานดังกล่าว ทั้งนี้ ทาง สนน.ได้รายงานผลการดำเนินงานการจัดงานหอมกลิ่น ถิ่นน่าน

ทั้งเรื่องรายได้ภายในงาน ข้อเสนอแนะละปัญหาจากผู้ประกอบการในปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ สนน.กำหนดจัดงานหอมกลิ่น ถิ่นน่าน Season 2 ภายใต้ concept “สีสันน่านนคร“ นำเสนอเทศกาลอาหารที่เสนอความสุข ส่งท้ายฤดูหนาว เพื่อต้อนรับความสุขของสีสันการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ข่วงน้อย อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สวนสัตว์นครราชสีมาได้จัดทำมาตรการตามแผนส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์เพื่อสร้างความอบอุ่นในช่วงอากาสหนาวเย็น

แชร์เนื้อหานี้

จากอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ป่านานาชนิดที่อยู่ในความดูแลของสวนสัตว์นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ได้จัดทำมาตราการตามแผนส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับสัตว์ทุกตัวที่อยู่ในการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ฟางและกระสอบรองพื้นที่สัตว์พักผ่อน เพื่อเพื่มความอบอุ่นและลดความเย็นจากพื้น อีกทั้งยังติดหลอดไฟเพื่อกระจายความร้อนในพื้นที่กรง และคอกที่สัตว์พักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์เลื้อยคลาน เช่น ค่างห้าสี ชะนี ลิง คาปิบาร่า รีเมอร์ จิ้งจอกทะเลทราย แมวเล็ก งู เต่า และเก้งกวาง เป็นต้น

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดหางานจังหวัดประจวบฯจับแรงงานต่างด้าวแย่งงานคนไทย

แชร์เนื้อหานี้

13 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดประจวบฯ ร่วมกับตำรวจสันติบาล ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดฯ และสำนักการข่าว กอ.รมน. ลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบอาชีพผิดกฎหมายของคนต่างด้าวหลังแหล่งข่าวแจ้งว่า มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานและประกอบอาชีพนอกเหนือจากสิทธิจะทำได้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะบูรณาการร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณตลาดนัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบฯ พบมีแรงงานต่างด้าวเป็นหญิง 1 ราย กำลังนั่งจำหน่ายดอกไม้ประดับอยู่บริเวณริมทางเดินภายในตลาดสดตามที่แหล่งข่าวในพื้นที่รายงาน จึงขอตรวจในอนุญาตทำงาน พบว่าเข้ามาทำอาชีพกรีดยางโดยมีนายจ้างถูกต้อง แต่กลับมาประกอบอาชีพนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ซึ่งเป็นอาชีพสงวนไว้ให้คนไทยเพียงเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ก่อน

จากนั้นเวลาเดียวกันเข้าตรวจสอบสถานที่ประกอบการเกี่ยวกับการรับทำเอกสารต่อพาสปอร์ตแรงงานต่างด้าวภายในห้องแถวเป็นตึกสองชั้นห่างจากตลาดประมาณ 50 เมตร โดยภายในมีสภาพจัดเป็นสำนักงานมีเอกสารรับต่อพาสปอร์ต มีพนักงานสองรายเป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน คอยให้บริการจัดทำเอกสารต่อพาสปอร์ตให้แก่แรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจดูในอนุญาตทำงาน พบว่าทั้ง 2 เป็นแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำอาชีพกรีดยาง มีนายจ้างถูกต้อง แต่กลับมาประกอบอาชีพนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้โดยผิดกฎหมาย  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 ราย ขึ้นรถตู้สำนักงานฯไปให้ปากคำเพิ่มที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดประจวบฯ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาให้แรงงานต่างด้าวทั้ง 3 คน ว่าเป็นคนตต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560  และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2561 มาตรา 8 ห้ามคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ประกอบกับ มาตรา 101 คนต่างด้าวผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท  จากนั้นจึงควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 ราย ส่ง สภ.คลองวาฬ นำเนินคดีตามกฎหมายต่อ  ส่วนนายจ้างทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดประจวบฯจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับหรือร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้มีรายงานจากแหล่งข่าวว่า ยังมีแรงงานต่างด้าวที่มีนายจ้างถูกกฎหมายเข้ามาทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ซึ่งเป็นอาชีพสงวนให้คนไทยอีกมาก เช่นเข้ามาทำกิจการร้านขายทอง ค้าขายทั่วไป และขับรถรับส่งฯ รับทำเอกสารต่อพาสปอร์ต ซึ่งทั้งหมดมักจะมีนายจ้างถูกต้อง แต่กลับมาทำอาชีพไม่ตรงปก หรือไม่ตรงกับเอกสารที่นายจ้างขอ ซึ่งก็ยังมีการต่อพาสปอร์ตเข้าทำงานอยู่ตลอด เมื่อถูกเจ้าหน้าที่จับได้ก็จะมีนายจ้างมาแสดงตนเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย จากนั้นก็ยังพบว่ายังคงกลับมาทำอาชีพต้องห้ามต่ออีก ซึ่งรัฐควรมีมาตรการตรวจสอบควบคุมกลุ่มนายจ้างบางรายนำแรงงานต่างด้าวไปประกอบอาชีพไม่ตรงปกให้เข้มข้นมากกว่านี้
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.สันติบาลประจวบฯ จัดอบรมโครงการสร้างจิตสำนึก รุ่นที่ 2/2568 ณ โรงเรียนเมืองปราณบุรี / SVL Group มอบของขวัญ “วันเด็ก” ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (13 ม.ค.68) เวลา 08.00-16.30 น. พ.ต.ท.ธานินทร์ นุชเจริญ สว.ฯ พร้อมด้วยตำรวจสันติบาลจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ จัดอบรมโครงการสร้างจิตสำนึก รุ่นที่ 2/2568 ณ โรงเรียนเมืองปราณบุรี

โดยมี พ.ต.อ.หญิง กัลยา ปุบผา รอง ผบก.ส. 1 เข้าร่วมสังเกตุการณ์การอบรมฯ มีนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เข้ารับการอบรมฯ จำนวน 120 คน มี นางสาวอังคณา ปานประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองปราณบุรี เป็นประธานเปิดการอบรม

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกและค่านิยมความเป็นประชาชนชาวไทย ปลูกฝังอุดมการณ์ รัก เทิดทูน ปกป้อง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีคุณธรรมขั้นพื้นฐาน ของพลเมืองที่ดี รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการให้ความสำคัญกับการเข้าไปมีส่วนร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ ในการประยุกต์ใช้ความรู้ คุณประโยชน์จากโครงการพระราชดำริ เพื่อการดำรงชีวิตของตนเอง และนำไปสู่การพัฒนาในระดับชุมชนและสังคมสืบต่อไป
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

SVL Group มอบของขวัญ “วันเด็ก” ประจำปี 2568

ผมกลุ่มธุรกิจเอสวีแอล กรุ๊ป (SVL Group) โดยนายอุดม สดใส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลน์ ทรานสปอร์ต จำกัด และในฐานะประธานชมรมผู้ประกอบการขนส่งบางสะพาน พร้อมตัวแทนพนักงาน จัดเตรียมจักรยาน ชุดเครื่องเขียน แก้วน้ำ และสิ่งของต่างๆ

เพื่อใช้เป็นของขวัญของรางวัล สนับสนุนการจัดกิจกรรม “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี 2568 ให้กับโรงเรียน หน่วยงานราชการ และชุมชนต่างๆ กว่า 10 แห่งในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งหลายหน่วยงาน ต่างจัดเตรียมพื้นที่และของขวัญ รวมถึงกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เข้าร่วมอย่างสนุกสนานและอิ่มเอมใจ

กลุ่มเอสวีแอล กรุ๊ป (SVL Group) ร่วมเป็นหนึ่งพลังในการสร้างแรงบันดาลใจ มอบความสุข ด้วยของขวัญให้เด็ก ๆ ในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ” เพื่อเสริมการเรียนรู้ สร้างเด็กดีในวันนี้ให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณค่าของสังคมและประเทศชาติในอนาคต

///////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443