เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/สนง.พื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ป่า การบุกรุกผืนป่าของนายทุนในพื้นที่บ้านดอยสะโง้

แชร์เนื้อหานี้

19 ธันวาคม 2567 เวลา 10.30 น. คณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ประจำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) นำโดยนายปาวิณ ไวว่อง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามฯ พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ ใจปิน หัวหน้าสวนป่าแม่มะ-สบรวก , ปลัดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงแสน , กำนันตำบลศรีดอนมูล , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอยสะโง้ หมู่ที่ 7 และคณะทำงานตรวจสอบการแก้ไขปัญหาที่ดิน

กรณีนายเศกสันติ์ กองศรี กำนันตำบลศรีดอนมูล ทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือการบุกรุกผืนป่าของนายทุนในพื้นที่บ้านดอยสะโง้ เข้าร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ป่า ท้องที่บ้านดอยสะโง้ หมู่ที่ 7 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ผลการตรวจสอบ พบว่า มีการกระทำผิด 1 คดี แต่ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด และได้ตรวจยึดพื้นที่ป่า

ในแปลงปลูกป่าสวนป่าแม่มะ-สบรวก ปี พ.ศ.2530 พื้นที่ถูกยึดถือครอบครอง จำนวน 1 แปลง รวมเนื้อที่บุกรุกทั้งหมด 48-2-52 ไร่ โดยกล่าวหาว่า มีความผิด ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน ”ก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำการด้วยประการใดอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สำหรับค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบางประการหลังการทำลายป่า (ค่าเสียหายของรัฐ) จะจัดส่งให้ภายหลัง ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ ใจปิน หัวหน้าสวนป่าแม่มะ-สบรวก เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และนายบุญส่ง ยอดบุญศรี เป็นพยาน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ดำเนินการตามระเบียบต่อไป…
..#ทีมข่าวบกรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/ชมรมผู้สูงอายุ เทศบาล ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พุดไอเดีย พาผู้สูงอายุ สูดอากาศยามหนาวที่คิริตาคาเฟ Kirita Lopburi

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 20 ธันวาคม 2568 เวลา 14:00 น. ชมรมผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลโคกสำโรง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ได้นัดรวมตัวกันเป็นประจำของทุกเดือน เพื่อตรวจสุขภาพทางช่องปากและฟัน รวมถึงการแนะนำปฏิบัติตัวของผู้สูงอายุจากคณะแพทย์พยาบาล มาคอยให้ความรู้ประจำทุกเดือน กับโครงการส่งเสริมกิจกรรมผูู้สูงอายุ มีนางนิสา ร่มจำปา ประธานชมรมผู้สูงอายุอำเภอโคกสำโรง

ในวันนี้มีประชาชนผู้สูงอายุเข้าร่วม ประมาณ 80 คน ประกอบด้วย
ชุมชน 1= 9 คน ชุมชน 2=7 คน ชุมชน 3 =16 คน ชุมชน 4= 10 คน ชุมชน 5= 12คน ชุมชน 6= 15 คน ชุมชน 7= 11 คน หลังจากตรวจสุขภาพปากและฟันแล้ว ทุกคนต่างมีความคิดพุดไอเดียขึ้นมาว่าเพื่อสุขภาพของผู้สูงอายุ มองหาทำเลที่เหมาะและบรรยากาศดีๆใกล้ๆบ้าน และส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุอีกด้วย จึงพากันคิดถึงสถานที่ใกล้อำเภอโคกสำโรง

พากันมายังสถานที่เหมาะและสวยงามบรรยากาศที่ดี รายล้อมไปด้วยขุนเขา บรรยากาศธรรมชาติ ทัศนียภาพที่สวยงาม อยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี จึงมารับอากาศหน้าหนาวบรรยากาศดีๆที่ควรแก่การพักผ่อนท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ คิริตาคาเฟ ตำบลวังเพลิงอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี

โดยปัจจุบันนี้เมืองไทยมีผู้สูงอายุมากขึ้น รัฐบาลใส่ใจคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และให้มีกิจกรรม ในกลุ่มผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตจิตใจรวมถึงพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ โดยกลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลตำบลโคกสำโรง จะจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ทางชมรมผู้สูงอายุจะเชิญเข้ากลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลตำบลโคกสำโรง เพื่อพบปะสังสรรค์แรกเปลี่ยนพูดคุยจะได้ไม่เงียบเหงา ในทุกวันเช้าๆ เย็นๆ

จะมีผู้สูงอายุบางคนออกร่วมกันเดินออกกำลังกาย บ้างท่านก็จะออกวิ่งเช้าๆ เย็นๆร่วมกัน สถานที่สนามอำเภอโคกสำโรง และแยกบายพาสโคกสำโรง – บ้านหมี่ สนอง แท่นสูงเนิน ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี อนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/ผบ.ทหารพรานที่ 23 มอบผ้าห่มกันหนาว ให้กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน ไทย – กัมพูชา”

แชร์เนื้อหานี้

พันเอก กัญญณัต ไชยโอชะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลในพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี โดยได้นำผ้าห่มกันหนาว จำนวน 200 ผืน พร้อมกับสิ่งของอุปโภคบริโภค มอบให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจในการป้องกันชายแดน ซึ่งปัจจุบันมีสภาพอากาศหนาวเย็น

โดยได้รับมอบผ้าห่มกันหนาวจาก พระอาจารย์ไพรวัลย์ ทนฺตวีโร เจ้าอาวาสวัดบ้านเหมือดแอ่ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ที่ได้แสดงความห่วงใยและเห็นความสำคัญของทหารพรานที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของชาติตลอดแนวชายแดน ไทย – กัมพูชา ให้สามารถปฏิบัติงานช่วงฤดูหนาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23

ได้ให้โอวาทการปฏิบัติงานโดยเน้นย้ำความปลอดภัยในการลาดตระเวน ตามพื้นที่อันตรายต่างๆ ซึ่งอาจมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้

ฉก.ทพ.23 ภาพ/ข่าว
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รมช.เกษตรฯ ติดตาม ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ฝนหลวงหัวหิน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67 นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามภารกิจการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประจำปี 2568 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมี นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชน

ร่วมรับฟังการรายงานสถานการณ์และผลการทำงานตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.67 – ปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.67 ประกอบด้วย ตั้งหน่วยปฏิบัติการที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ จ.ระยอง และ จ.กาญจนบุรี วางแผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ใช้เครื่องบินรวมจำนวน 10 ลำ ตั้งหน่วยปฏิบัติการที่ จ.เชียงใหม่ จ.แพร่ และ จ.ตาก วางแผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) พื้นที่ภาคเหนือ ใช้เครื่องบินรวมจำนวน 5 ลำ โดยมีการวางแผนการทำงานร่วมกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่การบินระดับความสูง และช่วงเวลาการบินตามกฎการบินสากล สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าการปฏิบัติการด้วยเทคนิคลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผันโดยการโปรยน้ำแข็งแห้งหรือการสเปรย์น้ำ เพื่อทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลและพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศลดลงได้ และส่งผลให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางและระดับดีตามลำดับ

มช.อิทธิ ศิริลัทธยากร กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าขณะนี้ปัญหาฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาดังกล่าว อีกทั้ง ภายใต้นโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมาตรการป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำว่า การปฏิบัติการเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 มุ่งดูแลสุขภาพของประชาชนให้ดีขึ้น และยังเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย

ซึ่งตนในฐานะกำกับดูแลกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้สั่งการให้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคเหนือ และพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากPM 2.5 โดยให้ความเชื่อมั่นว่ากรมฝนหลวง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเน้นปฏิบัติการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้ลดลงได้.
นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าฯจ.ชลบุรี ส่งเสริมอาชีพทำนาในท้องถิ่น อ.บางละมุง

แชร์เนื้อหานี้

เวลา 16.30 น.วันที่ 17 ธ.ค.67 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานกิจกรรมปลูกข้าววันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ อนุรักษ์ภูมิปัญญา อาชีพทำนาในท้องถิ่น อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมี จ่าเอก พิทยาภรณ์ ก่อแก้ว ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอบางละมุง 
พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชน ในพื้นที่อำเภอบางละมุง ร่วมกิจกรรมฯ ที่แปลงนาบ้านหนองเกตุใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
โครงการปลูกข้าววันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ อนุรักษ์ภูมิปัญญา อาชีพทำนาในท้องถิ่น อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการที่สำคัญซึ่งดำเนินงานในพื้นที่แปลงนาบ้านหนองเกตุใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยการดำเนินงานเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้แก่คนรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ และร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2567 
ตลอดจนเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2567 ตลอดจนร่วมเทิดพระเกียรติและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกิจกรรมดังกล่าว ได้ดำเนินกิจกรรมปลูกข้าวเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 และมีกำหนดเก็บเกี่ยวในห้วงเดือนธันวาคม 2567 ซึ่งกำหนดดำเนินกิจกรรมในวันนี้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อปน. จัดกิจกรรม “สร้างความสัมพันธ์เครือข่ายสื่อมวลชนภาคเหนือ” ณ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ (อปน.) จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับเครือข่ายสื่อมวลขนภาคเหนือ โดยเชิญประชาสัมพันธ์ จังหวัดหรือผู้แทน และสื่อมวลชนในพื้นที่ภาคเหนือทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง กฟผ. และองค์กรสื่อมวลชนในพื้นที่ภาคเหนือ

พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนข้อมูลชาวสาวสาร และวิธีการสื่อสารไปยังประชาชนใต้อย่างมีประสิทธิผล ระหว่าง วันที่ 12 – 14 ธันวาคม 2567 ณ ห้องประชุมมณีน่าน เชื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีนายสุทธิพงษ์ วงค์สารภี ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขียนสิริกิติ์ที่ 1 (ชอสข-1) ให้เกียรติมากล่าวต้อนผู้เข้าร่วมกิจกรรม นายพิสิฐ กัยวิกัยโกศล หัวหน้ากองบริหาร (กบหน-ส.) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน นายรัฏชรพงษ์ เมืองแก่น หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ระบบบส่งภาคเหนือ (หชสน-ย) เป็นผู้กล่าวรานงาน พร้อมกับผู้ปฏิบัติงาน อปน.

นอกจากนี้ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2567 คณะผู้บริหาร อปน. นำโดย นายวัชร์วีร์ พืชพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ-1 (ช.อปน-1) และ นายคมกริช วงศ์ชนะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ -2 (ช.อปน-2) นำคณะ คบ.อปน. พร้อมทั้ง น.ส.ณิชชนันทน์ สวัสดิ์พานิช หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์และชุมชสัมพันธ์ระบบส่ง (กชส-ย.) เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ด้วยภายในกิจกรรม มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับภารกิจของ อปน. และ กฟผ. ในเรื่องการผลิตไฟฟ้าสู่ระบบส่งจ่ายไฟฟ้าต่อไปยังประชาชม

โดย นายกนกพล อินถนอม วิทยากรระดับ 7 ประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์เขื่อนสิริกิติ์ (ทชส-ย.) เรื่องความมั่นคงของระบบส่งจ่ายไฟฟ้า ในภาคเหนือ โดย นายวสันต์ สิงหเดช วิศวกรระดับ 7 แผนกปฏิบัติการระบบ 1 (หปน1-ส) เรื่องการดูแล และบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบส่งไฟฟ้าในภาคเหนือ

โดย นายถิรวุฒิ เจียมเกตุ ช่างระดับ 8 แผนกบำบำรุงรักษาสายส่ง 1 (หสน1-ส.) และเรื่องเรื่องาน CSR ในพื้นที่ภาคเหนือ โดย นายชัชวาลย์ กุลสุวรรณ์ ช่างระดับ 8 แผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ระบบส่งภาคเหนือ (หชสน –ย.) และได้มีการชี้แจง และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จริงของ กฟผ. ที่เป็นประเด็นและให้ความสนใจในภาคประชนในในรอบปีที่ผ่านมา และมีกิจกลุ่ม Workshop ในเรื่องของแนวกลยุทธการสื่อสารถึงมวลชนอย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึงถึงมีกิจกรรมสานสัมพันธ์ร่วมกันตอดการดำเนินกิจกรรม นอกจากนี้ ยังได้นำคณะผู้เข้าร่วมกิจกรรมเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนบ้านหาดไก่ต้อย ต ท่าปลา อ.ทำปลา จ.อุตรติตถ์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชนที่มีชื่อเสียงคือ ผลิตภัณฑ์จากเม็ดมะม่วงทิมพานต์ ที่มีหลากหลายรูปแบบสินค้า มีการพัฒนาตนเองจนสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกและ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

จากนั้นได้นำคณะผู้เช้าร่วมกิจกรรมเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาและพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กฟผ. เขื่อนสิริกิติ์ “โคก หนอง นา โมเดล” อีกด้วย/บุญยงค์ สดสะอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมข่าวสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / MONWICHIT จัดงานกาล่า วิวาห์ “แขก” ภาพยนตร์ “ผู้บ่าวนิกะห์”ความต่าง 2 วัฒนธรรมที่ลงตัว ฉาย 19 ธค.นี้

แชร์เนื้อหานี้

ค่ายภาพยนตร์ MONWICHIT จัดงานกาล่า วิวาห์“แขก” ภาพยนตร์  “ผู้บ่าวนิกะห์” ที่ผสมผสานคอมเมดี้ แอ็คชั่น ดราม่า  กำกับโดย “เกรียงไกร มณวิจิตร” จาก รักนะ ซุปซุป และ ของแขก ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนเพื่อส่งเสริมซอฟพาวเวอร์ไทยจากกระทรวงวัฒนธรรม กับเรื่องราวการเเต่งงาน (นิกะห์) ของ

“โซเฟีย” สาวมุสลิม    กับ หนุ่มอีสานรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยอย่าง “บักไข่” ที่เป็นชาวพุทธ ซึ่งแม้ทั้งคู่จะมีความเเตกต่างทางด้านวัฒนธรรม และศาสนา กลับไม่ใช่อุปสรรคความรักของทั้งคู่ แต่ปัญหาใหญ่กลับเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “บังลี” พี่ชายจอมบงการของโซเฟีย ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้ การขัดขวางจึงเริ่มต้นขึ้นในวันแต่งงานของทั้งคู่ งานจัดขึ้น  ณ ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์

ได้รับเกียรติจากท่าน ‘คุณพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ’ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน คุณยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เเละ คุณจริมา ทองสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกองภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เข้าร่วมงานในครั้งนี้

พร้อมนำทีมเดินพรมแดง โดย เกรียงไกร มณวิจิตร ผู้กำกับภาพยนตร์ ,กาญจนา ศรีแมน โปรดิวเซอร์เเละผู้เขียนบทภาพยนตร์ ตามมาด้วยเจ้าบ่าว ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร และ เจ้าสาว เเทมมี่ กมลพร แสงวัชรสุนทร, ตาต้า ชาติชาย ชินศรี ,ชาลี อาหมัดกูเชียรี ดอเล๊าะ ,อดุลย์ บอสู ,

น้องบีมข้าวเหนียวหลาม ณัฏฐณิชา เชื้อสง่า ,ฐิติ พุ่มอ่อน , ภัสสร บุณยเกียรติ ,สิริอมร อ่อนคูณ ,ญาสุมินทร์ พัสวีพงศกร ,ฮากีม ดลภาวิจิต,สินชัย เอื้ออัครวงษ์ ร่วมด้วยนักแสดงที่มาร่วมงาน อาทิ เต๋า สมชาย, กอล์ฟ อัครา, ต้องเต ธิติ, เซียนหรั่ง และอีกมากมาย

ก่อนขึ้นเวทีพูดคุยถึงเรื่องราวการทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่มีการไปถ่ายทำทั้งภาคอีสาน และภาคใต้ ครบรสทั้งความสนุกสนาน แอ็คชั่น และดราม่า

และปิดท้ายด้วยเรียนเชิญ คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M Studio คุณปัณณทัต พรหรมสุภา ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่ายเเละฝ่ายจัดซื้อภาพยนตร์ต่างประเทศ M Studio เเละผู้จัดการทั่วไป โรงเเรมอัลมีรอซ ขึ้นถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้กำกับภาพยนตร์เเละนักแสดงนำ พร้อมไปรับชมภาพยนตร์ร่วมกัน

พิธีนิกะห์ (มงคลสมรส) ระหว่าง โซเฟีย และ บักไข่จะอลหม่านขนาดไหน ลงท้ายด้วยสมหวังหรือไม่   19 ธันวาคมนี้ ไปช่วยกันลุ้นกับ  ‘ผู้บ่าวนิกะห์’  ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ

ผู้บ่าวนิกะห์ #IsanNikah #Monwichit #contentthailand #Almeroz #KhamisZainBangkok

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐทีวี / กิจกรรมศิลปะพื้นบ้านดีเกฮูลูนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียง 912 จ.นราธิวาส

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 กองบัญชาการกองทัพไทย โดย สถานีวิทยุกระจายเสียง 912 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดโครงการจัดประกวดดีเกฮูลูสานวัฒนธรรมสัมพัธ์ชายแดนใต้

ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการละเล่นที่เป็นศิลปะพื้นบ้านภาคใต้ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนิยมเล่นกันเป็นคณะในพื้นที่สามจังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ซึ่งกิจกรรมศิลปะพื้นบ้านดีเกฮูลูนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียง 912 จ.นราธิวาส ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกปี ตามนโยบายหลักของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และการส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชน

ร่วมกันอนุรักษ์และสืบสานศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ดำรงอยู่สืบไป อีกทั้งร่วมกันสร้างความรักความสามัคคีปรองดองในท้องถิ่น และสังคมให้มีความสุขอย่างยั่งยืน
/////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ททท.เพชรบุรี ชวนสัมผัสธรรมชาติบ้านโป่งลึก-บางกลอย ดินแดนปกาเกอะญอ ม.ต้นน้ำเพชรบุรี/“หัวหิน” จัดใหญ่ “113 ปี ถิ่นมนต์ขลัง” พานักท่องเที่ยวย้อนยุค สถานีหัวหิน 

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชนและช่างภาพ เดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ณ บ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ที่นี่จะได้พบกับหมู่บ้านแห่งแรกของต้นแม่น้ำเพชรบุรี สองชุมชนบ้านบางกลอย-บ้านโป่งลึก ที่มีลำน้ำเพชรแยกออกเป็นสองฝากฝั่งและเชื่อมต่อกันด้วยสะพานแขวนที่ข้ามได้เฉพาะคนกับรถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์เท่านั้น รถยนต์ไม่สามารถข้ามผ่านสะพานแห่งนี้ได้

นางดวงใจ คุ้มสอาด กล่าวว่า หากนักท่องเที่ยวมีเวลาสัก 2 วัน 1 คืน ใช้ชีวิตสไตล์แค้มป์ปิ้ง กับกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ low carbon เส้นทางสาย green และชมวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ สองหมู่บ้านที่นับถือศาสนาพุทธกับศาสนาคริสต์ ยังคงวิถีชีวิตและป่าไว้อย่างแน่นหนา ท่ามกลางวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสงบ รวมถึงการทานอาหารขันโตกที่มีเมนูน้ำพริกตาละเว ผักต้ม ปลาทอด และอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ต้องมาสัมผัสกับประสบการณ์ Adventure ล่องแพไม้ไผ่บนลำน้ำเพชรบุรี เพียงแค่ 30 นาทีกับแก่งหินและสายน้ำใสจนอดใจไม่กระโจนลงน้ำไม่ได้ ค่าใช้จ่ายล่องแพไม้ไผ่ 1 ลำ/ 3 คน

พร้อมคนถ่อแพ เพียง 550 บาทเท่านั้น
การเดินทางสู่โป่งลึก-บางกลอย ขอให้มาลงทะเบียนชำระค่าธรรมเนียมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานก่อน และเดินทางจากศูนย์ฯ สู่ที่ทำการหน่วยด่านมะเร็ว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถนนราดยางเพียง 20 กม.และเดินทางต่อบนถนนภูเขาสลับลูกรัง 30 กม.จะถึงหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ใช้เวลาเดินทางรวม 3 ชั่วโมง แนะนำให้ใช้พาหนะรถยนต์ท้องถิ่นหรือรถกระบะยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ความน่ามาสัมผัสกับประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวแนวผจญภัยที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สักครั้งในชีวิตที่ต้องมาค้นหา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 032-471005-6 และ 1672 เบอร์เดียวทั่วไทย.
นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

“หัวหิน” จัดใหญ่ “113 ปี ถิ่นมนต์ขลัง” พานักท่องเที่ยวย้อนยุคในบรรยากาศแสงสีเสียงตระการตาสถานีหัวหิน 

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.67 ที่สถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) จ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “หัวหินถิ่นมนต์ขลัง 113 ปี” พร้อมด้วย นางสาววรกานต์ ถาวร รอง ผอ.ททท.สำนักงานประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ร่วมการแถลงข่าว มี นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นางสาวกิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ นางสาวบุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ร่วมรับฟังพร้อมชมการแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสม “มนต์เสน่ห์แห่งเรื่องเล่า” อย่างสวยงามตระการตา

เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ ททท.สำนักงานประจวบฯ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ บริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด และหน่วยงานต่างๆ กำหนดจัดงาน “หัวหินถิ่นมนต์ขลัง 113 ปี” ขึ้น ระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค.นี้ ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์วิถีชีวิตความเป็นเมืองหัวหินอันเก่าแก่จากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยถ่ายทอดเรื่องราวประวัติของหัวหินในอดีต เช่น วังไกลกังวล สถานีรถไฟหัวหิน สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ตลาดฉัตร์ไชย เป็นต้น รวมถึงการประกอบอาชีพ วิถีชีวิตการกินอยู่ของชาวหัวหินที่มีมายาวนานถึง 113 ปี ให้นักท่องเที่ยวและเยาวชนรุ่นหลังได้รับทราบ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ความสุขแก่ประชาชน

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่างๆ แบ่งเป็น 6 โซน โซนที่ 1 “มนต์เสน่ห์แห่งเรื่องเล่า” การแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสม 113 ปี หัวหินถิ่นมนต์ขลัง ชุด “มนต์เสน่ห์จากสมอเรียงสู่หัวหิน” การแสดงที่จะพาคุณไปพบเรื่องราวแห่งมนต์เสน่ห์และปลุกความสว่างไสวแห่งเรื่องเล่าประวัติศาสตร์อันมีความงดงามจากสถาปัตยกรรมสมัยวิกตอเรียนของสถานีรถไฟหัวหินเป็นฉากหลัง / โซนที่ 2 “มนต์กาลแห่งล้นเกล้า” นิทรรศการที่จะพาคุณย้อนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและความผูกพันอันลึกซึ้งของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” กับ “หัวหิน” เมืองเล็กๆ ที่มีความหมายยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทย / โซน 3 “มนตราแห่งราตรี” นิทรรศการแสงไฟ (Lighting Show) เพลิดเพลินไปกับการประดับประดาดวงไฟที่จะเนรมิตค่ำคืนแห่งลมหนาวให้กลายเป็นค่ำคืนอันอันสุกสกาวท่ามกลางบรรยากาศกลิ่นอายอันอบอวลอดีตวันวานของ “สถานีรถไฟหัวหิน” 

โซน 4 “มนต์วิถีแห่งหัตถศิลป์” กิจกรรมสาธิต Art and Craft Workshop ที่คุณสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ และสนุกสนานไปกับการประดิษฐ์งานฝีมือระดับภูมิปัญญาจากศิลปินพื้นถิ่นที่พร้อมจะถ่ายทอดเรื่องราวและคุณค่าผ่านงานหัตถศิลป์ อาทิ การสาธิตทำขนมลูกชุบ การสาธิตจากร้านผ้าโขมพัสตร์หัวหิน / โซน 5 “มนต์มหัศจรรย์แห่งแดนดิน” โชว์การเดินแบบย้อนยุคการกุศลชุด “มนต์สมัยแห่งอาภรณ์” ในธีมชุดไทย รัชกาลที่ 7, ชุดแกสบี้ วนิดา และปริศนา จากนางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้คลินิกทะเลใจ โรงพยาบาลหัวหิน และ โซน 6 “มนต์จวักพื้นถิ่นแห่งภูมิปัญญา”

การออกบูธอาหารและสินค้าพื้นถิ่นที่จะมาสำแดงรสชาติอันเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกชม นอกจากนี้พบกับการประกวดมนต์มหัศจรรย์หนูน้อยหัวหินชิงเงินรางวัล 3 หมื่นบาท วาดลีลาลีลาศไปพบกับวงโฟร์ซิงเกิ้ลและวงค่ายธนะรัชต์ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านแต่งชุดไทยร่วมชมงานดังกล่าวได้ ระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค.นี้ ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.
นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดีน่าน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 17 ธันวาคม 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดพระเนตร โครงการทหารพันธุ์ดีน่าน ณ ฐานปฏิบัติการแสงเพ็ญ ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน โดยมีนายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน

พร้อมด้วย ดร.วัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) นายนพดล น้อยไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 นายไพโรจน์ วงศ์สูง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานน่าน นายชูเกียรติ์ วินยพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการโครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายภาณุวัสส์ ยิ้มศิริวัฒนะ ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน หัวหน้าฝ่าย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

ในการนี้ อธิบดีกรมชลประทาน ได้กราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินโครงการจัดหาน้ำสนับสนุนโครงการทหารพันธุ์ดีน่าน โดยกรมชลประทาน ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 ด้วยการขุดลอกตะกอนดินอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 39,730 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเพิ่มความจุเก็บกักให้กับแหล่งน้ำ ต่อมาในปี 2565

ได้ดำเนินการสูบน้ำจากแม่น้ำน่าน มาเติมอ่างเก็บน้ำ จำนวน 250,000 ลูกบาศก์เมตร และในปี 2566 อีกจำนวน 205,000 ลูกบาศก์เมตร พร้อมวางแผนดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ อัตราการสูบน้ำเฉลี่ย 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปัจจุบัน ปี 2567 ได้มีการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขาว จำนวน 80,600 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญในการอุปโภคบริโภคของกรมทหารพรานที่ 32 และราษฎรพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 74 ไร่ 3 งาน

ทั้งนี้ โครงการทหารพันธุ์ดี เป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเกษตรกรรมขยายสู่ชุมชนใกล้เคียง กรมชลประทาน ได้มีส่วนร่วมในการจัดหาน้ำสนับสนุนการดำเนินโครงการ

เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับการดำเนินกิจกรรมภายในโครงการ รวมถึงราษฎรในพื้นที่ได้รับประโยชน์ สร้างความมั่นคงและความยั่งยืนด้านแหล่งน้ำ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป….

สมจิตรแสงบัลลังก์ทีมข่าวภาคเหนือรายงาน