เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ม.แสตมฟอร์ด จัดพิธีประสาทปริญญาบัตร บัณฑิตนานาชาติกว่า 1,300 คน จาก 40 ประเทศ ความสำเร็จระดับโลก

แชร์เนื้อหานี้

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด จัดพิธีประสาทปริญญาบัตรครั้งที่ 25 ขึ้น เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ โดยในปีนี้ มีบัณฑิตนานาชาติทั้งระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรีที่สำเร็จการศึกษารวมทั้งสิ้น 1,314 คน จาก 40 ประเทศทั่วโลก และ

ในโอกาสครบรอบการก่อตั้ง 29 ปีในปีนี้ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของเส้นทางการศึกษาในระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Global Education Success: The Journey of Academic and Career Excellence” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน เพื่อสร้างบัณฑิตที่พร้อมด้วยทักษะความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และความเชี่ยวชาญที่จำเป็นต่อการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ทั้งในชีวิตส่วนตัวและสายอาชีพ พร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในเวทีระดับนานาชาติอย่างมั่นคงและภาคภูมิใจ

ภายในพิธีประสาทปริญญาบัตรครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากคณะทูตและตัวแทนจากสถานทูตกว่า 21 ประเทศ ที่มาร่วมแสดงความยินดีแก่บัณฑิต พร้อมเป็นสักขีพยานในความสำเร็จของมหาวิทยาลัยที่ยังคงยืนหยัดในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีมาตรฐานระดับสากล ในปีนี้ มหาวิทยาลัยได้คัดเลือกศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี 2567 ขึ้นรับโล่รางวัลเกียรติยศเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพต่างๆ จากวิทยาเขตหัวหิน-ชะอำ คุณอุไร กาลปักษ์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์

สนง.เกษตรจังหวัดเพชรบุรี ศิษย์เก่าปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์ / คุณจำนงค์ บุตรสงค์ ผู้จัดการทั่วไป วีรันดา รีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน-ชะอำ ศิษย์เก่าปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตร์ / คุณธนพันธ์ ชูสุวรรณ หรือเชฟบอล เจ้าของร้านบอลเชฟเทเบิ้ลชะอำ และเป็นเชฟอีเว้นท์โชว์ทำอาหารให้กับบริษัท ซีโน่ แปซิฟิค หนึ่งในผู้เข้าร่วมการแข่งขันทำอาหาร เชฟออนเทรน (ทำอาหารบนรถไฟ รายการแรกของไทย) ศิษย์เก่าปริญญาโทบริหารธุรกิจ MBA / กภ.วันเพ็ญ เหลืองนฤทัย หัวหน้างานกายภาพบำบัด รพ.หัวหิน ศิษย์เก่าปริญญาโทบริหารธุรกิจ MBA และคุณนัชชา พรยิ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและปฏิบัติการ CE Logistics (Thailand)

ศิษย์เก่าปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาการจัดการฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการพัฒนาวิชาการ การสนับสนุนกิจกรรม สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย หรือการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง และมีความพร้อมที่จะร่วมช่วยเหลือนักศึกษาปัจจุบัน รวมถึงการส่งเสริมศิษย์เก่าให้สามารถต่อยอดธุรกิจหรือสร้างความสำเร็จในสายอาชีพได้อย่างยั่งยืน.
นายนิพล ทองเก่า นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พลอ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ติดตาม อนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำคลองแม่ข่า ณ น้ำตกมนฑาธาร อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะ

ได้เดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำคลองแม่ข่า ณ น้ำตกมนฑาธาร อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยมีนายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ข้าราชการสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ฝ่ายปกครอง ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

โดยในการนี้ ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำคลองแม่ข่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16

และร่วมจัดทำฝายต้นน้ำ(แบบคอกหมูหินทิ้ง) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ประชาชนและเยาวชน ในพื้นที่จำนวน 3 จุด และเยี่ยมชมน้ำตกมณฑาธาร อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในลำดับถัดมา……

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / บึงกาฬ หนาวมาแล้วเช้านี้ 13 องศา ต้องก่อกองไฟผิงถึงเอาอยู่ /”นายกแว่นฟ้า” ชิงลาออกนายก อบจ.บึงกาฬ ก่อนหมดวาระ 3 วัน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 16 ธ.ค.ที่หมู่ 7 บ้านโนนยางคำ ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ ชาวบ้านที่ตื่นจากที่นอนตอนเช้าตรู่ ต้องนำฟืนที่หามาจากหัวไร่ปลายนาหรือไม้ยางพาราเก็บตระเตรียมเอาไว้ทำฟืน เพื่อก่อไฟผิงกันหนาว เนื่องจากมีคำเตือนจากกรมอุตุวิทยาแจ้งว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีอากาศเย็นลงถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านก็ยังไม่ได้สัมผัสอากาศหนาวอย่างจริงจัง เหมือนคราวนี้ มีทั้งอากาศหนาวเย็น ลมพัดกระโชกแรง บางครั้งก็มีฝนตกปรอยๆ แจมมาด้วย 2 วันแล้ว นอกจากเสื้อก้นหนาวที่พอช่วยได้ระดับหนึ่งแล้วยังต้องก่อไฟผิงกันหนาวไปด้วยจึงต้องเอาอยู่ บางครอบครัวก็ปั้นข้าวเหนียว มาปิ้งย่างกินคลายหนาวไปด้วย บางคนก็ตีไข่เป็ดหรือไข่ไก่นำมาทาปั้นข้าวเหนียวใหม่ปิ้งหอมๆ กินเป็นอาหารเช้าไปด้วยก่อนออกไปทำงาน ก็ถือว่าเสร็จไปหนึ่งมื้อ.
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล/บึงกาฬ 0961464326

“นายกแว่นฟ้า” ชิงลาออกนายก อบจ.บึงกาฬ ก่อนหมดวาระ 3 วัน
“นายกแว่นฟ้า” แชมป์เก่า คุณนาย มท.2 “ทรงศักด์” รมช.มหาดไทย ชิงลาออกนายก อบจ.บึงกาฬ ก่อนหมดวาระแค่ 3 วัน คาดเป็นเทคนิคทางการเมือง ขณะที่ กกต. ยันพร้อมจัดเลือกตั้ง ทั้ง 24 เขต

วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ว่า ที่ จ.บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวรายงาน ความเคลื่อนไหวการเมืองท้องถิ่นเลือกตั้ง อบจ. ที่จะครบวาระลงวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ว่า วันนี้ นางแว่นฟ้า ทองศรี หรือ นายกแว่นฟ้า นายก อบจ.บึงกาฬ แชมป์เก่า ภรรยา นายทรงศักด์ ทองศรี รมช.มหาดไทย สังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นหนังสือลาออกก่อนหมดวาระแค่ 3 วัน ทำให้มีผลพ้นจากตำแหน่งทันที คาดว่าเป็นเทคนิคทางการเมือง และเตรียมพร้อมลงสู้ศึกสนามเลือกตั้ง อบจ.บึงกาฬ ที่จะมีการรับสมัครวันแรก ในวันที่ 23 – 27 ธันวาคม 2567 ทั้งผู้สมัคร นายก อบจ.บึงกาฬ และ ผู้สมัคร ส.อบจ.บึงกาฬ ทั้ง 24 เขตเลือกตั้ง

นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ระบุว่า นายกแว่นฟ้า ได้ยื่นใบลาออกวันนี้ ซึ่งจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ยื่น ก็จะทำหนังสือผ่านท้องถิ่นจังหวัดที่เสนอขึ้นมาส่งไปยังอบจ.บึงกาฬ แล้วแจ้งเรื่องไปกกต.จังหวัด ต่อไปกกต.จังหวัดก็จะทำหน้าที่ตามระเบียบขั้นตอนตามกฎหมาย ในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้อยากให้พี่น้องประชาชนคนบึงกาฬไปใช้สิทธิ์กันเยอะๆ เพื่อให้จะได้ผู้บริหารนายกอบจ. ที่ถูกใจเพื่อให้พัฒนาท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ และในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ก็พร้อมที่จะทำให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม
ส่วนนายกริชชัย ศิลปะรายะ ท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ทางผวจ.บึงกาฬ ได้เซ็นหนังสือลาออกของนายกแว่นฟ้า ทองศรี นายกอบจ.บึงกาฬ แล้ว ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 67 นี้เป็นต้นไป ซึ่งการลาออกนี้ปลัดอบจ.บึงกาฬ จะปฏิบัติหน้าที่นายกอบจ.บึงกาฬ เพื่อให้อบจ.ได้ประสานการปฏิบัติไปทางกกต.จังหวัด เพื่อวางแผนกำหนดการเลือกตั้ง ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโปร่งใสและเป็นธรรม
ด้าน ไพรัต คัณทักษ์ ผอ.กกต.บึงกาฬ เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกตั้ง อบจ.บึงกาฬ กำหนดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 โดยให้มีการเลือกตั้งพร้อมกันทั้ง นายก อบจ.บึงกาฬ รวมถึง ส.อบจ.บึงกาฬ ถึงแม้ นายก อบจ.บึงกาฬ คนปัจจุบันจะลาออกจากตำแหน่ง ก่อนครบวาระแค่ 3 วัน แต่ไม่มีผลทางการเมือง ส่วน

สาเหตุน่าจะเป็นเหตุผลทางการเมือง และไม่มีผลต่อวันเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตามทาง กกต.บึงกาฬ มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ทั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.บึงกาฬ ทั้ง 24 เขต รวมทั้ง 8 อำเภอ ส่วนวันรับสมัคร กำหนดในวันที่ 23-27 ธันวาคม 2567 สำหรับการลาออก “นายกแว่นฟ้า” ครั้งนี้ไม่มีผลทางการเมือง ไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง และจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการในสังกัด อบจ.บึงกาฬ จะได้เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนตามกฎหมาย นอกจากนี้ถือเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง อบจ.บึงกาฬ ที่จะมาถึงด้วย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผอ.ทหารผ่านศึก ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจนักรบทหารผ่านศึกผลักดัน “เงินผดุงเกียรติ”

แชร์เนื้อหานี้

ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกในพื้นที่จ.บึงกาฬ พร้อมชี้แจงการแก้ไขกฎหมาย เพื่อผลักดัน “เงินผดุงเกียรติ” ให้ทหารผ่านศึก และครอบครัว เป้าหมายแรก 3,000 บาท/ เดือน และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เตรียมไปนำโครงกระดูกนักรบนิรนามที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในประเทศเพื่อนบ้านกลับประเทศไทย ที่ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ผอ.อผศ.) ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึก และครอบครัวทหารผ่านศึกในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ช่วยในการประสานงานอำนวยความสะดวกให้กับทหารผ่านศึก และครอบครัวทหารผ่านศึก ให้เข้าถึงสิทธิการให้การสูงเคราะห์ได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว มีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และร่วมกิจกรรมจิตอาสา และบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ โดยจังหวัดบึงกาฬ มีเครือข่ายทหารผ่านศึกผ่านศึก ทั้ง 8 อำเภอเข้าร่วมการพบปะ และมีนางสาวณัฏฐา ประเทืองบูลย์ รองหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เขตอุดรธานี, นายธีระพล ขุนพาลเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ, พันเอก บัณฑิต คำเคน สัสดีจังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

พลเอก เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กล่าวว่า จะดูแลและผลักดันสิทธิและสวัสดิการของพี่ ๆ นักรบทหารผ่านศึกให้ดีที่สุด ขอบคุณพี่ ๆ ที่สละเวลามาพบปะพูดคุยกันในวันนี้ และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจะนำปัญหา ข้อขัดข้อง ความเดือดร้อน รวมทั้งความต้องการ ผลักดันเข้าสู่กระบวนการเพื่อช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่ ๆ ทหารผ่านศึก และครอบครัวต่อไป ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ได้กล่าวถึงการผลักดันแก้ไขกฎหมาย เสนอ ร่างพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ…

เพื่อผลักดัน “เงินผดุงเกียรติ” ให้ทหารผ่านศึกผู้ถือบัตรชั้น 2,3 และ 4 เป้าหมายแรกเดือนละ 3,000 บาท ประมาณ 6 แสนกว่าคน ซึ่งพ.ร.บ.ปัจจุบัน กล่าวถึงไว้เฉพาะเงินผดุงเกียรติของผู้ถือบัตรชั้น 1 และครอบครัว คือ ทหารผ่านศึกที่ แขน-ขา ขาด, ตาบอด แต่ผู้ถือบัตรชั้นอื่น ๆ ได้เงินช่วยเหลือครั้งคราว ไม่ได้รวมไปถึงครอบครัว จึงนำมาสู่การผลักดัน เพื่อจะแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อให้พี่ ๆ ทหารผ่านศึกทุกท่านได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กล่าวว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับ ผอ.สำนักงบประมาณ และที่ประชุมแล้ว ทุกคนก็เห็นเป็นเสียงเดียวกัน และไม่มีใครคัดค้านว่า ควรให้พี่ ๆ ทหารผ่านศึกจริง ๆ แต่ขอดูตัวเลขงบประมาณ และภาระของรัฐบาลที่ต้องดูแลพี่น้องคนไทย ในแต่ละปีก่อน อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า จะยังคงผลักดันแก้ไขร่าง พ.ร.บ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ให้ได้

นอกจากนี้ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ยังมีโครงการที่จะไปขุดโครงกระดูกนักรบนิรนามที่เสียชีวิตขณะไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศลาว สมัยสงครามเย็นด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงทหารของประเทศลาวแล้ว ท่านก็เห็นว่าถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะนำโครงกระดูกของทหารกล้ากลับบ้าน โดยจะมีโครงกระดูกของนักรบนิรนามที่มีวีรกรรมเป็นที่กล่าวขานจนถึงปัจจุบัน เช่น “อินทนิล” หรือ ร.ท.ชูเกียรติ สินค้าเจริญ ผู้ขอปืนใหญ่ยิงถล่มฐานตนเองบนภูเทิง ทุ่งไหหิน ด้วยโดยในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

มอบของที่ระลึกแก่ผู้แทนทหารผ่านศึก จำนวน 10 นาย ได้แก่ สิบเอกเติม ผลจันทร์ เคยรับราชการสังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ได้รับบาดเจ็บ ทำให้พิการทุพพลภาพ ขาซ้ายขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2530, ร้อยตรีคำไหล สร้อยโสม เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 ณ อำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร ได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพตาข้างขวาบอด เมื่อปีพุทธศักราช 2522, พลทหารทวี โนนบริบูรณ์ อดีตกองพลเสือดำ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก เมื่อปีพุทธศักราช 2511, สิบเอกบัวเรียน คำพินันท์ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 ณ ช่องโอบก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์

ได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพขาซ้ายขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2531, สิบเอกอินทฉันท์ พุทธามาตย์ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 ณ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ตำแหน่งสนามพลปืนเล็กได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพที่แขนซ้ายข้อมือขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2534, สิบเอกอุดม โพธิ์ใต้ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ตำแหน่งพลปืนเล็ก ได้รับบาดเจ็บทำให้พิการทุพพลภาพขาขวาขาดใต้เข่า เมื่อปีพุทธศักราช 2522, อาสาสมัครทหารพราน สุทัศน์ บุตรเจริญ เคยรับราชการสังกัด กองกำลังสุรนารี ได้รับบาดเจ็บในสนามทำให้พิการทุพพลภาพตาขวาบอด เมื่อปีพุทธศักราช 2529 ได้รับบาดเจ็บ, ร้อยตรีบังเอิญ โนนริบูรณ์ เคยรับราชการสังกัดกรมผสมที่ 13 ร.พัน 3 ในสนามทำให้พิการทุพพลภาพที่ลำตัว ขาแขน และมือซ้าย ใช้การไม่ได้ เมื่อปีพุทธศักราช 2517, ร้อยตรีสุริยา คำเจริญ เคยรับราชการสังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 13 ได้รับบาดเจ็บในสนามทำให้พิการทุพพลภาพที่ขาซ้ายใต้เข่าขาด เมื่อปีพุทธศักราช 2556 และพลทหารสมพงษ์ โคตรสี ประธานเครือข่ายจังหวัดบึงกาฬ เคยรับราชการสังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 13 เมื่อปีพุทธศักราช 2532
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ชาวนราจะแนะ ร่วมรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงไฟใต้ทุกรูปแบบ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 16ธ.ค.67 ที่ หอประชุมอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส จากกรณีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจำนวน 4 คน ใช้อาวุธปืนยิงทหารสังกัดชุดช่าง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ขณะกำลังบรรจุทรายใส่กระสอบบริเวณริมคลองหัวสะพาน บ้านมะนังกาแยง หมู่ที่ 3 ตำบลจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเตรียมไว้ให้กับชาวบ้านในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมระลอกใหม่ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทำให้อาสาสมัครทหารพราน วุฒิชัย ไทยประดิษฐ์ ถูกยิงบริเวณหัวไหล่และมุมปากขวา

ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และอาสาสมัครทหารพราน จักรพงษ์ ฤทธิรุตม์กูล ถูกยิงบริเวณแขนซ้าย บาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงร่วมกันปฏิเสธความรุนแรง

โดยการจัดกิจกรรมประชาชนจะแนะ ร่วมอำนวยพร สู่อำเภอสันติสุขอย่างยั่งยืนขึ้น โดยกิจกรรมเป็นการประกอบพิธีละหมาดฮายัต นำโดย นายโยฮัน เบ็ญฮาวัน นายอำเภอจะแนะ เป็นผู้นำละหมาดฯ ,นายอับดุลอาซิ บาโด ประธานชมรมอิหม่านอำเภอจะแนะ /กรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส , นายอับดุลฮาดี เจ๊ะแต รองประธานชมรมอิหม่าม คอเต็บ บีหลั่น อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

ร่วมนำบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น จาก 44 มัสยิด 10 หมู่บ้าน และนักเรียน กว่า 500 คน เพื่อขอพรจากพระเจ้า (อัลลอฮฺ ซ.บ.) เรียกร้องให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ ภายในกิจกรรมดังกล่าว นายอำเภอจะแนะ , ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 , ผู้นำศาสนา และกลุ่มสตรี พร้อมมวลชนทุกคนต่างพร้อมใจกันแสดงพลัง เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านความรุนแรง และประกาศเจตนารมณ์

รวมพลังต่อต้านการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบโดยพร้อมใจกันชูป้ายข้อความว่า ชาวจะแนะต้องการสันติสุข“ชาวจะแนะไม่ต้องการความรุนแรง,หยุดใช้ความรุนแรง ทั้งนี้ มวลชนพร้อมใจกล่าว เจตนารมณ์ว่า ”ประชาชนจะแนะ ร่วมอำนวยพร สู่อำเภอสันติสุข ” เป็นการส่งสัญญาณว่าชาวจะแนะไม่มีใครเห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้สันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่ให้เร็ววัน

ด้าน นางสุภาพร หริกจันทร์ ชาวบ้านจะแนะ หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า “วันนี้มาร่วมแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงที่เกิดขี้น และเพื่อร่วมแรงร่วมใจแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยและต้องการไม่ให้เกิดความรุนแรงในลักษณะแบบนี้อีก ชาวอำเภอจะแนะรักในความสันติสุขและพร้อมจะต่อต้านความรุนแรงในทุกรูปแบบ และขอเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เสียสละช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่”
//////////////////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รพ.กรุงเทพพัทยา จัดกิจกรรม Healthy Living 2025 EXPO ตรวจคัดกรองสุขภาพฟรี /นักสิ่งสายบุญร่วมชิงชัย SVT RUN 2024 หารายได้ช่วยผ่าตัดหัวใจเด็ก

แชร์เนื้อหานี้


โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้จัดกิจกรรม Health Living 2025 EXPO ตรวจคัดกรองสุขภาพฟรี 25 รายการ ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2567 พร้อมเสวนาสุขภาพ ในหัวข้อ "สุขภาพกายและใจ เติบโตไปพร้อมกัน” โดย มี พญ.พีรพรรณ เจรจาปรีดี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.กรุงเทพพัทยากล่าวเปิดงาน ต่อจากนั้น มีการบรรยายในหัวข้อ "สุขภาพกายและใจ เติบโตไปพร้อมกัน”  นพ. จิระวัฒน์ พฤกษศรี กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อ และการแสดงของเด็ก ๆ จากหน่วยงานต่าง ๆ ในเมืองพัทยา
 
การจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองสุขภาพฟรี 25 รายการ อาทิ  แบบทดสอบทดสอบการได้ยิน ตรวจค่าสายตาและหาความผิดปกติ  แบบคัดกรองสมรรถภาพความจำ 14 คำถาม แบบสอบถามความเสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับ  แบบประเมินความเสี่ยงโรคพาร์กินสัน  แบบประเมินโรคซึมเศร้า  แบบประเมินความเครียด  แบบประเมินภาวะวิตกกังวล  ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจปลายนิ้ว แบบประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด (ASCVD) ตรวจคัดกรองโรคต่อมไร้ท่อ โรคกระดูกพรุน/Osteoporosis 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/Sexually Transmitted Disease (STD) คัดกรองความเสี่ยงโรคไต ตรวจสุขภาพฟันฟรี วิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกาย แบบประเมินการจัดการน้ำหนัก แบบสอบถาม เวชศาสตร์วิถีชีวิต คัดกรองความเสี่ยงต่อการพลัดตก หกล้ม  ให้คำปรึกษาเรื่องยา ตรวจคัดกรองความเสี่ยงพัฒนาการเด็กอายุ 0-5 ปี แบบประเมินคัดกรองความเสี่ยงโรคอ้วนในเด็ก แบบประเมินคัดกรองความเสี่ยงภาวะหนุ่มสาวก่อนวัย  ตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ การตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ คัดกรองความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ซึ่งผู้สนใจสามารถมาตรวจคัดกรองได้ตามวันและเวลาดังกล่าว

     ในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รพ.กรุงเทพพัทยา มีการจัดแพ็กเกจตรวจสุขภาพ Healthy Living 2025 ลดสูงสุด 70% เพื่อให้ทุกท่านได้เลือเป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก ซึ่งแพ็กเกจออกแบบให้เหมาะสมกับทุกช่วงอายุ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2567 นี้

นักสิ่งสายบุญร่วมชิงชัย SVT RUN 2024 หารายได้ช่วยผ่าตัดหัวใจเด็ก

ตามที่ โรงเรียนศรีสุวิช จ.ชลบุรี ได้จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล SVT RUN เพื่อระดมทุนจัดหารายได้สนับสนุนข่วยเหลือสังคมมาอย่างยาวนาน โดยกำหนดจัดงานวิ่ง SVT RUN ทุกวันที่ 15 ธันวาคมของทุกปี และในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน SVT RUN 2024 CHARITY FOR KIDS STEPPING TO THE HEARTS.

วันที่ 15 ธ.ค.67 ดร.ประถมาภรณ์ ฟักฤกษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสุวิช เป็นประธานเปิดงาน SVT RUN 2024 CHARITY FOR KIDS STEPPING TO THE HEARTS. ที่บริเวณจุดสตาร์ทหน้าโรงเรียน ท่ามกลางนักวิ่งสายบุญเข้าร่วมชิงชัยรายการนี้หลายพันคน

การแข่งขันออกเป็น 6 รุ่น คือ รุ่น KIDS SPIRIT อายุไม่เกิน 6 ปี, รุ่น ALPHA อายุ 7-15 ปี, รุ่น Z-RUN อายุ 16-29 ปี, รุ่น Y-RUN อายุ 30-39 ปี, รุ่น X-RUN อายุ 40-49 ปี และรุ่น XL-RUN อายุ 50 ปีขึ้นไป รายได้จาการจัดงานหลังหักค่าใช้จ่ายจะได้ร่วมสมทบทุนบริจาคช่วยเหลือในการผ่าตัดหัวใจให้เด็กที่ป่วยเป็นโรคหัวใจตามลำดับ

วอนเมืองพัทยาปรับภูมิทัศน์ที่สาธารณะให้แล้วเสร็จ หลังงานค้างมาร่วมเดือน

ตามที่เมืองพัทยาดำเนินการปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะหลังห้องเช่าหลังเจ๊ะมะดีแมนชั่น ซอยสุขุมวิท 28 ซอยตัดโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เพื่อแก้ปัญหาความทุกข์ใจของชาวบ้านผู้เช่าพักที่หวั่นได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษชุกชุมตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 16 ธ.ค.67 หลังจากมีการดำเนินการกินระยะเวลามาร่วมเดือน ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของการทำงานปรับปรุงพื้นที่สาธารณะบริเวณดังกล่าว พบว่าได้ดำเนินการจากทางเข้าไปได้ประมาณ 100 เมตร งานยังไม่แล้วเสร็จแต่อย่างใด

ข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากชาวบ้านร้องเรียนไปเมืองพัทยาได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ทำได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น อยากให้มาเร่งรัดจัดการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่อาศัยที่ติดกับพื้นที่สาธารณะเพราะได้ดำเนินการมาร่วมเดือนแล้ว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้การทหารพราน 23 นำกำลังเดินเท้าลาดตระเวน ชายแดนไทย – กัมพูชา พื้นที่รับผิดชอบ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่บริเวณอำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก กัญญณัต ไชยโอชะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 นำกำลังพลเดินเท้าลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศในพื้นที่รับผิดชอบ ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี

เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำความผิดเงื่อนไขชายแดน การสกัดกั้นและป้องกันผู้หลบหนีเข้าเมือง การกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ และการละเมิดข้อตกลง MOU พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานตามแนวชายแดน โดยได้มอบนโยบายให้กับกำลังป้องกันชายแดนของหน่วย

เน้นย้ำให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนายเข้มงวดในเรื่องของการป้องกันการกระทำความผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในห้วงการปฏิบัติงาน ให้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดนอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของกองทัพบก ซึ่งพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี

มีความสำคัญ ที่จะต้องรักษาไว้อย่างเข้มงวด ไม่ให้เกิดการละเมิด MOU การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และการเข้ามากระทำผิด พรบ.ป่าไม้ ซึ่งในพื้นที่นี้เป็นเขตป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23

ต่างปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เข้มแข็งทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจในการที่จะปกป้องประเทศชาติ และผืนแผ่นดินไทยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่ตามแนวชายแดนได้ปลอดภัยทั้งทางด้านร่างกายและทรัพย์สินสืบไป

ภาพ : ฉก.ทพ.23
ข่าว : นายพรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / งานวิ่งเลาะเวียงล้านนาตะวันออก สนามที่ 3 วิ่งเวียงสา จ.น่าน 4 สนาม รางวัลกว่า 720,000 บาท

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 ธันวาคม 2567 ณ บริเวณข่วงเวียงสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เวลา 06.30 น. นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน และผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดน่าน เข้าร่วมพิธีเปิดกิจกรรม วิ่งเลาะเวียงล้านนาตะวันออก กิจกรรมวิ่งเวียงสา

ภายใต้โครงการบูรณาการการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา เชียงราย น่าน แพร่) ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา เชียงราย น่าน แพร่) โดยสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา ได้กำหนดจัดโครงการบูรณาการการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัด กิจกรรมหลัก “วิ่งเลาะเวียง ล้านนาตะวันออก” กิจกรรมวิ่งเวียงสา ณ บริเวณข่วงเวียงสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ขึ้นมาในครั้งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง

สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและสนับสนุนการออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬาตามความถนัด ตามความสมัครใจ พัฒนาส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ในกลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออก ส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ตลอดจนสร้างเสริมสุขภาพของผู้มาเข้าร่วมกิจกรรม อีกทั้งเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จัดกิจกรรมได้เป็นอย่างดี

กิจกรรมด้านการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว มีแนวโน้มและทิศทางที่ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายกันมากขึ้น ขณะเดียวกันการจัดกิจกรรมด้านการกีฬาเพื่อการ ท่องเที่ยว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวของแต่ละจุดหมายปลายทางที่จัดกิจกรรม ทั้งยังเป็นการ พัฒนาด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน กระจายรายได้สู่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของชุมชน และกระตุ้นภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมวิ่งเวียงสาในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนกว่า 750 คน โดยการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ มาราธอน ระยะทาง 42 กิโลเมตร จำนวน 10 รุ่น ,ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตร จำนวน 10 รุ่น และ วิ่ง Fun RUN ระยะทางไม่น้อยกว่า 5 กิโลเมตร จำนวน 2 รุ่น การแข่งขันวิ่งเลาะเวียงสานี้ เป็นสนามที่ 3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 ธ.ค. 67

โดยมีจุดสตาร์ทและเส้นชัยที่ ณ บริเวณข่วงเวียงสา ทั้งนี้ ในระยะ 42 กม. ผู้ชนะลำดับที่ 1-3 ในแต่ละรุ่น จะได้รับเงินรางวัลรวม 120,000 บาท ในระยะ 21กม. ผู้ชนะในลำดับที่ 1-3 ในแต่ละรุ่น จะได้รับเงินรางวัลรวม 60,000 บาท รวมเงินรางวัลในสนามที่ 3 วิ่งเวียงสาเป็นจำนวน 180,000 บาท สำหรับนักกีฬาที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ FB: วิ่งเลาะเวียง เมืองล้านนาตะวันออก
/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ชาวบ้านแห่!! ให้กำลังใจ สท.ดังเมืองสระแก้ว หลังโดนกล่าวหาแจ้งความ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านมากกว่า 70 คน ได้เดินทางไป สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว เพื่อไปให้กำลังใจ สท.ดังเมืองสระแก้ว ที่ได้โดนกล่าวหาแจ้งความคดี หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรื่องประชุมชี้แจงคณะกรรมการ “วัดหนองกะพ้อ” เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา ประมาณ 12.00 น.

โดยวันนี้ นางสาวพิมพ์กมน กงแก้ว (สท.หล่อ) สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสระแก้ว เขต 1 ได้เดินทางไปให้ปากคำ รับทราบข้อเท็จจริง ต่อพนักงานตำรวจสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว ผู้ถูกกล่าวหา หมิ่นประมาทผู้เสียหายในที่ประชุมคณะกรรมการ สถานที่ วัดหนองกะพ้อ ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

สท.หล่อ กล่าวว่า…ไปรับฟังข้อเท็จจริงจากร้อยเวร ซึ่งร้อยเวร ก็ได้สอบถามมาว่า เรื่องเป็นมายังไง เราก็ได้ชี้แจงว่าสิ่งที่พูดมันเป็นข้อสงสัย ในที่ประชุมคณะกรรมการ เกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายในงานกฐินที่ผ่านมา และการบำรุงบูรณะซ่อมแซมหลังคาอุโบสถ ของ“วัดหนองกระพ้อ” เรื่องที่พูดออกมาเป็นความจริง และพี่น้องพร้อมคณะกรรมการเป็นพยานได้..

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รองนายกฯ “อนุทิน”หลวงปู่ศิลา พระอ.สุริยัน เททองหล่อนำฤกษ์ “พระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี” แลนด์มาร์คแห่งใหม่จังหวัดบึงกาฬ

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (14 ธ.ค. 67) เวลา 13.39 น. ที่บริเวณโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ (Landmark) อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีเททองนำฤกษ์และพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี

พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายวินัย โตเจริญ รองอธิบดีกรมการปกครอง น.ส.มรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการ จ.บึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผวจ.บึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคราชการ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ร่วมพิธีจำนวนมาก

การประกอบพิธีครั้งนี้ ได้รับเมตตาจากพระสงฆ์สมณศักดิ์นั่งปรกอธิฐานจิต อาทิ พระธรรมวชิรเมธี (เจ้าคุณมีชัย) เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร พระเทพวัชรเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม(ธ) พระราชภาวนาโสภณ วิ. เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เจ้าอาวาสวัดเซกาเจติยาราม พระอารามหลวง

พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน พระวชิระสาสนคุณ เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ(ธ) เจ้าอาวาสวัดป่าเทพวิมุต พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. (เจ้าคุณสุริยันต์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) พระครูบวรธรรมรักขิต(หลวงตาเลิศ) เจ้าอาวาสวัดอรัญญานี ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน จังหวัดเชียงใหม่ และพระเถราจารย์จำนวนมาก ร่วมประกอบพิธี

โครงการ Landmark จ.บึงกาฬ เป็นการพัฒนาสวนสาธารณะริมแม่น้ำโขงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว มีไฮไลท์สำคัญคือ “พระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี” เป็นพระพุทธรูปนาคปรก 9 เศียร สูง 16.09 เมตร ขนาดหน้าตักกว้าง 4.77 เมตร ประดิษฐานริมแม่น้ำโขง

ซึ่งนอกจากจะทำให้เป็นสถานที่แห่งความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชม สนับสนุนเศรษฐกิจของ จ.บึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียงตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ประชาชนด้วย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326