เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “จากฟาร์มถึงช้อน สะท้อนนวัตกรรมอาหารไทย “จัดยิ่งใหญ่ที่เซ็นทรัลโคราช

แชร์เนื้อหานี้

สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) (TCEB) เทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ2 พาณิชจังหวัดนครราชสีมา เกษตรจังหวัดนครราชสีมา อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 และ องค์กรภาครัฐและเอกชน จัดงานแสดงสินค้า เตรียมจัดงาน Agro FEX 2025 (ฟู้ดเด้อ Fooder) ภายใต้แนวคิด ” จากฟาร์มถึงช้อน สะท้อนนวัตกรรมอาหารไทย” งานแสดงสินค้าและ นวัตกรรม ด้านการเกษตร และอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2568 ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช

นางธิดารัตน์ รอดอนันต์ ประธานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เปืดเผยว่าการจัดงานในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารเกษตรและแปรรูปอาหารไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล โดยมีกิจกรรมงานที่หลากหลาย อาทิกิจกรรม Business.Matching เชื่อมโยงการค้าระหว่างผู้ประกอบการ Exhibitor จาก ทั่วประเทศ และ Visitor ที่เป็นนักธุรกิจทั้งในประเทศ ผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมถึง คู่ค้าจากกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ซึ่งจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้พิเศษ คือ เราจะนำสินค้าเครื่องดื่มที่เป็นท้องถิ่น เช่นสุราท้องถิ่น เบียร์ คราฟ มาจัดแสดง และจัดเบียร์ทอร์ค และ.เบียร์ เทสติ้ง เพื่อคนที่สนใจต่อยอดธุรกิจ

นางธิดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานAgro FEX 2025 ไม่เพียงเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี แต่ยังเป็นประตูสู่โอกาสใหม่ของผู้ประกอบการในการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นโอกาสที่ประชาชน จะได้สัมผัสสินค้าคุณภาพและเรียนรู้วิถีอาหารปลอดภัย ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าภายในงานกว่า.1,550 ล้านบาททางด้านนายสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์ ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นหนึ่งในจังหวัดเมืองไมซ์ซิตี้ ที่มีศักยภาพความพร้อมในการรองรับการจัดงานแสดงสินค้า อย่างมีมาตรฐาน งาน AgroFex 2025 จะยิ่งเสริมเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและต่อยอดทางธุรกิจ การค้าการลงทุน และองค์ความรู้ระยะยาว โดย เฉพาะอุตสาหกรรมการเกษตรอาหาร และอุตสาหดรรมต่อเนื่อง โดยปีนี้ งาน AgroFex เชื่อมโยงโดยตรงกับนโยบาย และ วาระแห่งชาติ หลายด้าน


” ทีเส็บ (TCEB) ได้ทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้งานแสดงสินค้า อย่าง AgroFex เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการเชื่อมโยงธุรกิจเกษตรไทยกับตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยสนับสนุนงานภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Empower Thailand Exhibition (EMTEX) ที่มุ่งยกระดับงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพ ขึ้นระดับภูมิภาค โดยใช้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเป็นตัวนำ และเป็นที่ปรึกษาร่วมวางกลยุทธ การขายตลาด สนับสนุนให้เกิดการเจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการให้มากที่สุด เพื่อให้งานแสดงสินค้านี้ เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย ของภูมืภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอนาคต นายสุวัชชัย กล่าวทิ้งท้าย

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สโมสรไลออนส์ชุมแพพิธีสถาปนาคณะกรรมการฯบริหารและรับสมาชิกใหม่ ปีบริหาร 2568-2569

แชร์เนื้อหานี้

วันพฤหัสบดี ที่ 11 กันยายน พ.ศ.2568 ณ ห้องชีวินญาดา โรงแรมเดอะชีวินโฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

ไลออน อัมรินทร์ อารัมภ์วิโรจน์ นายกสโมสรไลออนส์ชุมแพ ปี บริหาร 2568-2569 กล่าวขอบพระคุณมวลสมาชิกสโมสรไลออนส์ชุมแพที่อุทิศแรงกายแรงใจ เสียสละทั้งเวลา และทุนทรัพย์

เพื่อให้กิจกรรมในปีบริหารที่เพิ่งผ่านพ้น สำเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ พร้อมกันนี้ขอขอบคุณภาคเอกชน ภาครัฐ ที่สนับสนุนเกื้อหนุนทุกกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของสโมสรด้วยดีเสมอมา และขอบพระคุณ นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ เป็นประธานพิธีสถาปนาคณะกรรมการบริหารและรับสมาชิกใหม่

นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ กล่าวในนามของอำเภอชุมแพ กล่าวแสดงความยินดี วาระใหม่อันทรงเกียรตินี้ การได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกในครั้งนี้ สะท้อนถึงศักยภาพ ความสามารถ และความมุ่งมั่นทุ่มเท

ในการทำงานเพื่อสังคมของท่านอย่างแท้จริง ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำของท่านสโมสรไลออนส์ชุมแพ จะยิ่งเจริญก้าวหน้า และสามารถสร้างประโยชน์สุข แก่พี่น้องประชาชนในอำเภอชุมแพ และพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างต่อเนื่อง

ไลออน เทพวรรณ ม้าประเสริฐ ประธานมูลนิธิไลออนส์ในประเทศไทย ปีบริหาร 2565-2568 กล่าวสโมสรไลออนส์ชุมแพ เป็นสโมสรที่มีศักยภาพสูงสุดสโมสรหนึ่งในภาค 310 อี การทำกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ขอขอบคุณในความเสียสละ ของคณะกรรมการบริหารและสมาชิก

ไลออน เกษสุรีย์ ชีพธรรมคุณ ผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310 เพิ่งผ่านพ้น ปี2567-2568 กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมกับ ไลออน อัมรินทร์ อารัมภ์วิโรจน์ นายกสโมสรไลออนส์ชุมแพ

ไลออน ปิยพัชญ์ กุลเจริญพงศ์ นายกสโมสรไลออนส์ชุมแพ เพิ่งผ่านพ้น กล่าวถึงการทำงานที่ผ่านมา ด้วยหัวใจแห่งการ “บำเพ็ญประโยชน์” อันมั่นคง และขยายคุณความดีไปสู่สังคมอย่างกว้างขวาง

รายนามคณะกรรมการบริหารสโมสรไลออนส์ชุมแพ ประจำปีบริหาร 2568-2569
นายกสโมสร ไลออนอัมรินทร์ อารัมภ์วิโรจน์

นายกผ่านผ้น ไลออน ดร.ปิยพัชญ์ กุลเจริญพงศ์
อุปนายกคนที่1 ไลออนพูนทรัพย์ วงศ์พวก
อุปนายกคนที่2 ไลออนทิวาพร เหงี่ยมวิจาวัฒ
เลขาธิการ ไลออน ผศ ดร.ไพฑูรย์ มาเมือง
เหรัญญิก ไลออนปกิตตา ฤทธีตานนท์

ประธานฝ่ายสมาชิกภาพ ไลออนว่าทีร้อยตรี เนวิน ชายชีวินลิขิต
ผู้ประสานงาน LCIF ไลออน ดร.ปิยพัชญ์ กุลเจริญพงศ์
ประธานกรรมการฝ่ายกิจกรรมบริหาร ไลอนธัญพร พรภู่พุทธคุณ
ประธานฝ่ายสื่อสารการตลาด ไลออนยุทธ เตียงสุขสวัสดิ์
ประธานฝ่ายพัฒนาผู้นำ ไลออน ผศ ดร เกรียงไกร ปัญญาประเสริฐกุล

ไลออน ทิวาพร เหงี่ยมวิจาวัฒ อุปนายกคนที่2 กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมพิธีสถาปนาคณะกรรมการบริหารและรับสมาชิกใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ผ.ศ.ดร.พรเทพ โฆษิตวรวุฒิ รองนายกกิ่งกาชาดอำเภอชุมแพ พร้อมสมาชิก, นายเกรียงไกร วิริยะอาชา รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชุมแพ

วินสื่อรัฐทีวี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จัดประชุมวิชาการนานาชาติ “International Cardiology Conference 2025”

แชร์เนื้อหานี้

ที่ห้องประชุม Seaboard Ballroom ชั้น 17 โรงแรม Hilton Pattaya จ.ชลบุรี โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้จัดประชุมวิชาการนานาชาติ “International Cardiology Conference 2025” พันธมิตรระดับโลก Mayo Clinic ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมขับเคลื่อนความรู้หัวใจในทุกมิติ – ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู แบบ 360°

     การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ของศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ในการเป็นผู้นำด้านโรคหัวใจในภูมิภาค ด้วยแนวคิด “Heart Care 360°” ที่ให้ความสำคัญกับทุกมิติของการดูแลหัวใจ ทั้งการป้องกันโรค (Preventive), การรักษาด้วยหัตถการขั้นสูง (Interventional), การดูแลหลังการรักษา (Rehabilitation) รวมถึงการดูแลเชิงลึกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

     โดยการประชุมแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1. Preventive Cardiology มุ่งเน้นการป้องกันโรคหัวใจตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เช่น แนวทางการลดความเสี่ยงด้วยการประเมินแบบ Personalized Risk Score การใช้อัลกอริทึมในการวางแผนการดูแลหัวใจ แนวโน้มอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ Cardiac

Rehabilitation เชิงดิจิทัล และ 2.Interventional Cardiology เจาะลึกเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดในการรักษา เช่น หัตถการเปิดหลอดเลือดในกรณี Chronic Total Occlusion (CTO) การรักษาโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบด้วย TAVI การดูแลภาวะ STEMI และ MINOCA การประยุกต์ใช้ Imaging และ AI ในการวินิจฉัยโรคหัวใจ

     หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานคือการร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Mayo Clinic, Rochester, Minnesota, USA สถาบันการแพทย์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงด้านโรคหัวใจอันดับต้น ๆ ของโลก นำโดย Dr. Francisco Lopez-Jimenez, MD, FACC – ผู้เชี่ยวชาญด้าน Preventive Cardiology, Dr. Rajiv Gulati, MD, PhD, FACC – ผู้เชี่ยวชาญด้าน Interventional Cardiology

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / สารทเดือนสิบ ประเพณีส่งตายายตามสายน้ำ ณ วัดเนินทอง ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ร่วมแห่ร่วมประเพณีคับคั่ง

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 นายกโต้ง เปิดงานประเพณี ส่งตายายทางสายน้ำ สาทรเดือนสิบ วัดเนินทอง พุทธศาสนิกชนแผ่ร่วมแห่ร่วมประเพณีคับคั่ง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 ก.ย.68 นายนพพร อุสิทธิ์ (นายกโต้ง) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดงาน

ประเพณีส่งตายายตามสายน้ำ(สารทเดือนสิบ) ณ วัดเนินทอง หมู่ที่ 6 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยมีพันเอกโชค ยิกุสัง รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 (รอง ผอ.กอ.รมน.จว.ชพ.) นางจุฑารัตน์ แพวงษ์จีน ผอ.กลุ่มส่งเสริมศิลปะศาสนาและวัฒนธรรม พร้อมทั้งฝ่ายปกครองท้องที่ปกครองท้องถิ่น พี่น้องประชาชน พุทธศาสนิกชน ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

สำหรับงานประเพณีส่งตายายตามสายน้ำหรืองานสัตว์เดือน 10 วัดเนินทองนั้น เป็นประเพณีสำคัญปฏิบัติสืบต่อกันมาของท้องถิ่นภาคใต้ โดยชาวบ้านได้นำข้าว ปลา อาหารสิ่งของต่างๆมาทำบุญที่วัด ให้กับปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งล่วงลับไปแล้ว

นายอนิรุท พลราม นายก อบต.สลุย กล่าวว่า ชาวบ้านได้ช่วยกันตัดไม้ไผ่ต่อแพเพื่อน่า ข้าวปลา อาหารและของใช้ ใส่แพลอยไปตามแม่น้ำ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาของท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นสร้างความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ เสริมสร้างและปลูกฝัง กล่อมเกลาจิตใจแก่บุคคลในสังคมให้มีคุณธรรมซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชุมชน

ในที่ตำบล สลุย และตำบลใกล้เคียง เพื่อเป็นการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นไปสู่คนรุ่นหลังสืบไป อบต.สลุย จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการวัดเนินทอง จัดทำโครงการประเพณีส่งตา – ยาย ทางสายน้ำ ที่จัดสืบทอดกันมาทุกปีขึ้น ณ วัดเนินทอง เพื่อให้ประชาชน ได้ร่วมประเพณีส่งตา – ยาย สืบสานประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่กับท้องถิ่นสืบไป

นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร กล่าวว่า ประเพณีส่งตายายทางสายน้ำ หรือ สารทเดือนสิบเป็นประเพณีของภาคใต้ และจังหวัดชุมพร โดยเฉพาะที่วัดเนินทองแห่งนี้ได้มีประเพณีติดต่อกันมานาน และเป็นเรื่องที่ดีที่ อบต.สลุยได้บรรจุเข้าไว้ในแผนของ วัฒนธรรมจังหวัดชุมพร ในเรื่องของการส่งเสริมประเพณีอันดีงาม จึงต้องการให้ พี่น้องชาวใต้ ร่วมงานประเพณีกันแบบนี้ทุกปี เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามตลอดไป

สำหรับวัดเนินทอง เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมานับร้อยปี โดยมีผู้ใหญ่น้อย เผือกจันทร์ อุทิศที่ดินเพื่อจัดตั้งเป็นที่พักสงฆ์ โดยมีหลวงพ่อจาบ เป็นเจ้าอาวาสที่พักสงฆ์รูปแรกได้มีการพัฒนาก่อสร้างศาสนาสถานประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่จัดงานประเพณีประจำปีส่งตายายตามสายน้ำ เป็นสถานที่อบรมให้แก่พุทธศาสนิกชน ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นวัดเนินทอง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ได้รับการบรรจุ อยู่ในโครงการ OTOP Village ของจังหวัดชุมพร

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ป.ป.ช.ฟัน 3 ข้าราชการ อบจ.มุกดาหาร จัด”ทัวร์ผี! เบิกค่าเดินทาง–ที่พัก คนไม่ไปจริง จัดอบรมลงชื่อซ้ำโกงงบหลวง

แชร์เนื้อหานี้

นายนิรุท สุขพ่อค้า ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 มีมติชี้มูลความผิดกรณีเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มุกดาหาร ทุจริตงบประมาณโครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงานประจำปี 2556

โดยการไต่สวนพบว่า การอบรมที่โรงแรมริเวอร์ซิตี้ จ.มุกดาหาร ระหว่างวันที่ 21–22 พฤษภาคม 2556 มีการลงชื่อผู้เข้าร่วมไม่ตรงข้อเท็จจริง พบรายชื่อซ้ำซ้อน 38 คน ทำให้มีการเบิกค่าอาหารเกินจริง 14,600 บาท ขณะที่การเดินทางไปศึกษาดูงาน จ.ระนอง และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 23–26 พฤษภาคม 2556 มีผู้เข้าร่วมจริงเพียง 77 คน แต่กลับมีการเบิกค่าใช้จ่ายในนาม 157 คน รวมถึงค่าอาหารและค่าที่พักอันเป็นเท็จ ทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารได้รับความเสียหาย

จากการไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่านายรณรงค์ สินทรัพย์ หัวหน้าสำนักปลัด อบจ.มุกดาหาร ในขณะนั้น และนางบัวพันธ์ กอดแก้ว รองปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติราชการแทนปลัด อบจ.มุกดาหาร มีมูลความผิดทางอาญาในฐานะเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162, 264 และ 268 รวมทั้งมีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์มิชอบ

สำหรับนางอภิวราภัคณ์ เกิดจันทึก ผู้อำนวยการกองคลัง อบจ.มุกดาหาร มีมูลความผิดทางอาญาในฐานะเจ้าหน้าที่การเงินที่จัดทำและรับรองเอกสารการเบิกจ่ายซึ่งมีข้อความอันเป็นเท็จ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 162 และมีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง ฐานจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่งของทางราชการเกี่ยวกับการเงินการคลัง ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย

ขณะที่ ส.ต.ต.หญิง เพชรรัตน์ แสนวิเศษ แม้พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิดทางอาญา แต่มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ

ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 10 ราย ประกอบด้วย นางมลัยรัก ทองผา, บริษัท มุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนลการท่องเที่ยว จำกัด, นางพนิดา กุญชร กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ , นางณฤชาฎา เดชพิพัตร, นางอุมาพร สินธุเสก, นางซิน ทองคำกัลยา, นางชาริณี คูณทวี หรือมานะกิจสมบูรณ์, นางสาวกิติญาณี เลิศชนะเกียรติกุล, นายสมชาย รัชตะสาคร และนายบรรจง ประทุมสุวรรณ ป.ป.ช. มีมติว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญากับนายรณรงค์ สินทรัพย์ นางบัวพันธ์ กอดแก้ว และนางอภิวราภัคณ์ เกิดจันทึก พร้อมทั้งส่งรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับทั้ง 3 ราย รวมถึง ส.ต.ต.หญิง เพชรรัตน์ แสนวิเศษ และให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารเร่งดำเนินการเรียกค่าเสียหายคืนแก่ทางราชการต่อไป

องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร #ทุจริตจัดทัวร์ผี #โกงงบอบรม #อบจมุกดาหาร #ปปชฟันไม่เลี้ยง #ภาษีประชาชน #ทุจริตไม่รอด #มุกดาหาร #ปปช #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้////เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / ศอ.บต.ขับเคลื่อนนโยบาย “120 วัน พืชกระท่อม” เห็นผลเป็นรูปธรรม สังคม-ชุมชนลุกขึ้นปฏิเสธการใช้และการค้า

แชร์เนื้อหานี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนนราเปี่ยมสุข ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง

เป็นประธานเปิดโครงการ “เยาวชนรุ่นใหม่ต่อต้านพืชกระท่อม สร้างสังคมเข้มแข็งปลอดยาเสพติด” ประจำปีการศึกษา 2568 พร้อมทั้งมอบรางวัลให้แก่นักเรียนผู้ชนะการประกวดในกิจกรรมครั้งนี้

สำหรับโครงการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนวาระ 120 วันพืชกระท่อม ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยมีนักเรียนและเครือข่ายเยาวชนจากโรงเรียนอัต

ตัรกียะห์อิสลามียะห์ เข้าร่วมอย่างคึกคัก เพื่อร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด และเป็นพลังสำคัญในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและปราศจากยาเสพติด

นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง เปิดเผยว่า การดำเนินการตามวาระ 120 วันพืชกระท่อม ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา และจะครบกำหนดในวันที่ 30 กันยายน 2568

ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในหลายมิติ ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และชุมชน โดยพบว่ามีพลังจากกลุ่มผู้นำตามธรรมชาติ ผู้ปกครอง และประชาชนที่ลุกขึ้นปฏิเสธการใช้และการค้าพืชกระท่อม ขณะเดียวกันปรากฏชัดว่าการค้าขายตามเส้นทางหลักในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งการเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมถือเป็นหัวใจสำคัญที่สะท้อนพลังและมุมมองใหม่ๆในการแก้ไขปัญหา ต่างจากเดิมที่การขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติดใช้กลไกภาครัฐเป็นหลัก ภาย

ใต้การนำของพ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ผลักดันให้เยาวชนคิดและลงมือแก้ปัญหาด้วยตนเอง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

ซึ่งโครงการในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพ แต่ยังเป็นอีกก้าวสำคัญในการบ่มเพาะพลังคนรุ่นใหม่ให้มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมเข้มแข็ง ปลอดภัย และปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน
///////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / ท่องเที่ยวฟรี ชมฟรี รถฟรี วิถีชุมชนปากน้ำเก่า 100 ปี ชุมพร นั่งเรือชมวิวข้ามฟากแม่น้ำตะเภา ชมน้ำพุกลางโบสถ์เกาะแก้วมัตโพน

แชร์เนื้อหานี้

ทดลองเที่ยว เที่ยวฟรี ชมฟรี รถฟรี ชุมชนปากน้ำเก่า 100 ปี
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 21 กันยายน 2568 One Day Trip จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชุมพร-ระนอง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร ทดลองเที่ยว เที่ยวฟรี ชมฟรี รถฟรี ชุมชนปากน้ำเก่า 100 ปี ท่องเที่ยววิถีชุมชนปานน้ำชุมพร นั่งเรืออจวชมวิวข้ามฟากแม่น้ำตะเภา เดินชนภาพศิลปะ Street Art ชุมชนปากน้ำเก่า ชมน้ำพุกลางโบสถ์เกาะแก้วมัตโพน ไหว้ศาลเจ้าพญางูขาว

ไหว้ศาลเจ้ารักศิลธรรม One Day Trip ขึ้นรถเดินไปท่องเทียวได้ที่ ศาลหลักเมืองชุมพร ในเวลา 09.00 น โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นอาหารกลางวัน จำนวน 150 บาท ต่อ คน นักท่องเที่ยวเข้าร่วม มากว่า 600 คน

ดร.อนัน รามพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กล่าว ในวันนี้เป็นการจัดกิจกรรมเทสทัวร์หรือทดลองท่องเที่ยวจังหวัดชุมพรในวันนี้มีนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ประมาณ 500 ถึง 600 คนจุดแรก

จะเดินทางไปปากน้ำเก่าชุมพรเที่ยววัดเกาะแก้ว หรือวัดปากน้ำ ของจังหวัดชุมพรเสร็จแล้วก็จะเดินทางไปที่ Street Art เนื่องจากพื้นที่ที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวนี้มันแออัดคับแคบก็จะแบ่งเป็น3กรุ๊ปอีกกรุ๊ปหนึ่งก็จะขึ้นไปเขามัทรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรที่สามารถมองเห็นได้ 360 องศา และอีกชุดหนึ่งก็จะเดินทางไปไหว้กรมหลวงชุมพร

ที่ศาลกรมหลวงชุมพรหรือเสด็จเตี่ย ของชาวชุมพรอีกชุดหนึ่งเป็นชุดที่ 3หรือสามกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 200 คน และทั้งสามกลุ่มก็จะวิ่งวนทั้งสามจุดเพื่อที่จะท่องเที่ยวได้ครบทั้งสามจุดคาดว่าเงินก็จะสะพัดในจังหวัดชุมพรก็มีจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 บาท ก็เป็นการเปิดโลกกระทัศน์ให้กับประชาชนทั่วไปได้เข้ามาท่องเที่ยว

ในจังหวัดชุมพรถึงแม้ว่าลมแรงฝนตกสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรก็สามารถท่องเที่ยวได้บนบกมีหลายหลายที่น่าสนใจและท่องเที่ยวอย่างสุขกายสบายใจของจังหวัดชุมพรในหนึ่งวันหรือวันเดย์ทริป

ในบรรทัดฐานในการท่องเที่ยวครั้งนี้เราจะมีรถมารับที่ศาลหลักเมือง จังหวัดชุมพรช่วง 09.00น แล้วก็กลับมาส่งที่ศาลหลักเมืองเช่นเดิมเวลา 14:00 น. ของทุกๆวันก็จะสะดวกสบายแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจ

ที่จะมาท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆภายในจังหวัดชุมพรหรือวันเดย์ทริปโดยจัดกิจกรรมครั้งนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองจังหวัดชุมพรที่มาอำนวยความสะดวก และยังมีตำรวจท่องเที่ยวแล้วก็ร่วมกับ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนองพร้อมสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพรในนามสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพรการท่องเที่ยวทุกมิติในจังหวัดชุมพรพร ซิกเนเจอร์ในการท่องเที่ยววันเดย์ทริป ของจังหวัดชุมพร

ในครั้งนี้ก็คือรถไม้ที่จะพานักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดชุมพรครับและในโอกาสนี้ก็จะประชาสัมพันธ์ให้กับอำเภอเมืองจังหวัดชุมพรต่อไปก็จะเป็นอำเภอต่างๆภายในจังหวัดชุมพรต่อไปครับ

ดร.สุรินทร์ เหล่าพัทรเกษมประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร ที่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร เผย จุดเด่นหรือซิกเนเจอร์ในการท่องเที่ยวในครั้งนี้จังหวัดชุมพรได้จัดรถไม้โบราณมารับนักท่องเที่ยวซึ่งมีความคลาสสิกมากซึ่งนักท่องเที่ยวก็จะมีการถ่ายรูปกับรถไม้ที่เป็นซิกเนเจอร์ของจังหวัดชุมพรเราในช่วงนี้รถไม้ก็เริ่มจะสูญหายไปเรื่อยเรื่อย

เพราะว่าส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็จะเดินทางมากันเองตอนนี้เราก็จะรณรงค์ให้มีการใช้รถไม้เพื่อที่จะเป็นซิกเนเจอร์ในการดำเนินการท่องเที่ยวที่จังหวัดชุมพร ครับในวันนี้ก็เดินทางมาท่องเที่ยวที่ปากน้ำชุมพรก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังฮอตมากเพราะขณะนี้มี Street Art ที่รอนักท่องเที่ยวมาเดินทางชมอยู่ 32 จุด ซึ่งมีซึ่งมีการโฆษณาผ่านโดย YouTube

เปอร์มาทำการโฆษณารูปภาพและเช็คอินออกไปปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเลยอยากจะมาเที่ยวชมถนนที่มีการวาดภาพหรือ Street Art ซึ่งนักท่องเที่ยววันนี้เดินทางมาเยอะมากเดินทางมาทั้งรถบัสรถตู้รถทัวร์และรถไม้มาสู่ปากน้ำเก่าที่เป็นชุมชน 100 ปี ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพรที่ผลักดันให้มีการท่องเที่ยว วันเดย์ทริป ขึ้นในครั้งนี้ซึ่งในวันนี้ก็ได้พามาเที่ยวที่เขาเป็นจุดหนึ่งเป็นพลังมังกรห้าทิศเป็นส่วนของลำตัวแล้วก็จะลงไปที่โรงเจ Luxe ธรรม เป็นพลังมังกรห้าทิศส่วนของท้องของมังกรซึ่งใครมากราบไหว้ขอพรก็จะเปลี่ยนเป็นพลังร้ายให้กลายเป็นดีหลังจากนั้นเราก็จะเดินชม Street Art

ทั้งหมดสอง. จะมีรถสามล้อมีรถสองแถวแล้วก็มีไกด์ท้องถิ่นมีเทศบาลปากน้ำชุมพรเค้าจะเข้ามาเป็นไกด์นำเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในวันนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาชมจุดนี้แล้วก็ถูกใจมากและจะเดินทางไปยังโบสถ์ที่มีน้ำผุดขึ้นมากลางโบสถ์ไปรับน้ำมนต์กันยังไงก็เชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวปากน้ำชุมพรด้วยกันครับ

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / “หัวหิน” จัดระเบียบขอทาน-คนเร่ร่อน ป้องกันอาชญากรรมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเมืองท่องเที่ยว

แชร์เนื้อหานี้

Upscaled with Gigapixel v8.4.3. 1620×1080 => 1620×1080 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01 Face recovery version: 2, strength: 0.8, creativity: 0 (Realistic), selectedFaces: 7

เมื่อวันที่ 20 ก.ย.68 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานปล่อยแถวการจัดระเบียบคนขอทานและคนไร้ที่พึ่ง ที่หน้าสำนักงานเทศบาลนครหัวหิน

Upscaled with Gigapixel v8.4.3. 1620×1080 => 1620×1080 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01 Face recovery version: 2, strength: 0.8, creativity: 0 (Realistic), selectedFaces: 27

ร่วมกับ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ หน่วยงานสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และภาคีเครือข่าย กองสวัสดิการสังคม เจ้าหน้าที่เทศกิจ ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน สภ.หัวหิน เพื่อสร้างความตระหนักและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559

พระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2556 รวมถึงสร้างความเข้าใจในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับผู้กระทำการขอทาน คนเร่ร่อน และคนไร้ที่พึ่งในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีเมืองท่องเที่ยวระดับโลกนายนพพร วุฒิกุล กล่าวว่า ภายหลังปล่อยแถวเจ้าหน้าที่แล้ว

ได้ลงพื้นที่สำรวจภายในตลาดโต้รุ่งหัวหิน และถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลฯ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนนักท่องเที่ยวว่าพบเห็นบุคคลที่มีพฤติการณ์ลักษณะคล้ายคลึงกับผู้ป่วยจิตเวช คนไร้ที่พึ่ง เร่ร่อน หลายรายออกมาพักอาศัยอยู่ในที่สาธารณะตามริมถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดทำประวัติพร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมาย

Upscaled with Gigapixel v8.4.3. 1620×1080 => 1620×1080 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01 Face recovery version: 2, strength: 0.8, creativity: 0 (Realistic), selectedFaces: 11

ให้คำแนะนำปรึกษาและช่วยเหลือเบื้องต้น เราเน้นการให้ความช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อนำไปสู่กระบวนการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้หากใครพบเห็นคนเร่ร่อน คนขอทาน กระบวนการค้ามนุษย์ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่งานรักษาความสงบ (เทศกิจ) ให้ดำเนินการได้ทันที หรือแจ้งที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม

Upscaled with Gigapixel v8.4.3. 1620×1080 => 1620×1080 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01 Face recovery version: 2, strength: 0.8, creativity: 0 (Realistic), selectedFaces: 2

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

Upscaled with Gigapixel v8.4.3. 1620×1080 => 1620×1080 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01 Face recovery version: 2, strength: 0.8, creativity: 0 (Realistic), selectedFaces: 14

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เตรียมพร้อมจัดทำ Street Art พระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 / เภสัชสาววัย 35 ปีรมควันพยายามฆ่าตัวตาย จุดยากันยุงภายในรถ/ หนุ่มใหญ่ขับรถเก๋งเดินทางไกลวูบหลับชนท้ายรถเทเลอร์ เจ็บยกคัน

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันนี้ (19 ก.ย. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานการประชุมเตรียมการสนับสนุนการจัดทำผลงานศิลปะ Street Art พระบรมสาทิสลักษณ์

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมเกาะเสม็ด ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดชุมพร

โดยที่ประชุมได้พิจารณาพื้นที่จัดทำผลงานศิลปะ Street Art ซึ่งบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อนุญาตให้ใช้พื้นที่ผนังด้านหน้าอาคาร ศูนย์ส่งสัญญาณ ถนนศาลาแดง อำเภอเมืองชุมพร

เป็นสถานที่สร้างสรรค์งานศิลปะ สำหรับโครงการฯดังกล่าว มูลนิธิสานต่อที่พ่อทำ ร่วมกับศิลปินนำโดย นายประสิทธิ์ เพ็ชรจร (ครูเล็ก) โรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร จัดทำ Street Art พระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9

เพื่อเทิดพระเกียรติ และสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านงานศิลปะสาธารณะ ซึ่งจะมีการสร้างสรรค์ผลงานระหว่างวันที่ 1–12 ตุลาคม 2568 และจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ตุลาคม 2568

โครงการ Street Art King Bhumibol ไม่เพียงเป็นการถ่ายทอดพระบรมสาทิสลักษณ์ทรงคุณค่า แต่ยังเป็นเวทีสร้างสรรค์ศิลปะเพื่อสังคม เชื่อมโยงความร่วมมือของทุกภาคส่วน และสร้างความภาคภูมิใจแก่ประชาชนชาวชุมพร

ในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพต้อนรับศิลปิน นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่จังหวัดชุมพรจัดขึ้น เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี และร่วมกันสานต่อที่พ่อทำผ่านพลังแห่งศิลปะที่ยิ่งใหญ่และงดงาม

เภสัชสาววัย 35 ปีรมควันพยายามฆ่าตัวตาย จุดยากันยุงภายในรถ

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 15.30 น ร.ต.อ.ชวกุล สิทธิศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งเหตุมีคนฆ่าตัวตายภายในรถ จึงรายงาน พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยัง หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพร ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เหตุเกิดบริเวณ ปากซอย สำนักงาน ททท.ชุมพร ถนนทวีสินค้า ตำบลท่าตะเภา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร พบรถยนตเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซิสตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กต3–6 ชุมพร เจ้าหน้าที่ต้องทุบกระจกเพื่อเปิดประตูรถ ภายในรถ ที่เบาะคนขับพบตัว น.ส.ภรณ์ทิวา นามสมมุติ อายุ 35 ปี ชาว ตำบลตากแดด อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เบาะข้างกันยังพบยากันยุง มีขี้เถ้าจำนวนมาก

ยังพบว่ามีกลิ่นควันตลบอบอวนทั่วรถ เจ้าหน้าที่ เห็นยังหายใจอยู่จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายตัวออกจากตัวรถ ช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการช่วยชีวิตต่อไปได้รับรายงานจากกู้ภัยสายชล 426 น้องโชคทีมกู้ชีพกู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือแจ้งว่า เป็นเจ้าหน้าที่เภสัช ของโรงพยาบาลชื่อดังของชุมพร

ขณะนี้อาการผู้ป่วยดีขึ้นและได้นำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวิรัชศิลป์เพื่อที่จะเข้าเครื่อง Hyperbaric Chamber คือ อุโมงค์ซึ่งใช้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง หรือออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% รักษาตัว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.ชวกุล สิทธิศักดิ์ รอง สว.สอบสวน เจ้าของคดี เบื้องต้นยังไม่ทรายรายละเอียดในการก่อเหตุในครั้งนี้ หลังจากที่ให้กู้ชีพกู้ภัยนำตัวรักที่โรงพยาบาลแล้วจึงตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว จะได้ติดต่อไปยังญาติ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุในการคิดสั้นครั้งนี้ต่อไป

หนุ่มใหญ่ขับรถเก๋งเดินทางไกลวูบหลับชนท้ายรถเทเลอร์ เจ็บยกคัน

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 05.25 น วันที่ 20 กันยายน 2568 ร.ต.ท. ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถนนสายเอเชียขาล่องใต้ หมู่ 1 ตำบลขุมกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร จึงรายงาน

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยัง หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพร ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุบริเวณไหล่ทางเยื้องทางเข้าร้าน 69 ล้อแม็กซ์ชุมพร พบรถเทรลเลอร์ 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวรถ 70—00 สงขลา ลูกพ่วง หมายเลขทะเบียน 71- –18 สงขลา เป็นของนาย มานพ (สงวนนามสกุลป อายุ 45 ปี

ขับมาจอดนอนอยู่ไหล่ทางซ้ายสุด มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สี บรอนเงิน หมายเลขทะเบียน ลม 2–9 กทม. วิ่งมาชนท้ายรถเทเลอร์ ที่จอดอยู่ ได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้าและแก้มซ้ายของรถ พังยับ มีเด็กหญิงอายุ 11 ปี ที่นั่งหน้าข้างคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนเด็กหญิงวัย 6 ขวบที่มีแม่นางสุกัญญา (สงวนนามสกุล)อายุ 55 ปี อุ้มอยู่ได้รับบาดเจ็บบริเวณปากและคอ นางสุกัญญา (สงวนนามสกุล) มีอาการเจ็บที่หน้าอกมาก ส่วนคนขับรถเก๋ง ชื่อนาย ชัยยันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการสอบถามนาย มานพ ฯ เล่าว่า ได้ขับรถเทเลอร์ออกมาจากจังหวัดสมุทรสาคร จะนำสินค้าเบ็ดเตล็ดหลายรายการไปลงที่จังหวัด สงขลาอำเภอหาดใหญ่ เดินทางออกมาเมื่อเวลาประมาณ 17:00 น. ของวันที่ 19 กันยายน 2568 และได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุในช่วงตีสี่ของ วันนี้เพราะมีอาการง่วงก็เลยนำรถจอดนอนริมทางนอนได้ชั่วโมงเศษเศษก็ได้ยินเสียงรถมาชนท้ายดังโครมก็เลยลงมาตรวจสอบและได้ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นาย ชัยยันต์ ฯ เดินทางออกจากกรุงเทพจะไปนคร ศรีธรรมราชเพื่อจะพาครอบครัวไปทำบุญวันสารทเดือน 10 และได้เดินทางมารับประทานอาหารที่ครัวคุณสาหร่ายหลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็ได้ขับรถออกเดินทางเพื่อที่จะไปนครศรีธรรมราช มาถึงที่เกิดเหตุก็มองไม่เห็นว่ามีรถจอดอยู่ริมทางหักหลบไม่ทันเพราะไม่มีสัญญาณก็เลยเกิดอุบัติเหตุขึ้นในครั้งนี้เดินมามากับครอบครัว

รวมทั้งหมดสี่คน ลูกสาว 11 ขวบได้รับบัตรเจ็บสาหัส และลูกคนเล็กอายุ 6 ขวบส่วนภรรยาก็อายุ 55 ปีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยครับ
เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ร.ต.ท. ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ได้รวบรวมหลักฐาน ภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุในครั้งนี้ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายอำเภอโคกสำโรง ลงพื้นที่ตรวจตราสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 10.30 น.นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรงและนางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม

ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ปริมาณน้ำในพื้นอำเภอโคกสำโรง โดยได้เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ผลการปฏิบัติงานดังนี้

เวลา 10.30 น. นางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลหนองแขม

เพื่อตรวจสอบพื้นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากบริเวณบ้านหลังที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเป็นทางผ่านของน้ำ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังซึ่งเป็นน้ำรอระบาย

โดยนางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ได้ปรึกษาหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแขมเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

เวลา 14.30 น. นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรงและนางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองได้เดินทางไปยังถนนเส้น ทช.1008 ตำบลหลุมข้าว ร่วมกับ สภ.โคกสำโรง และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลหลุมข้าว

ตามที่ได้มีการลงสื่อโซเชียลกรณีมีชาวบ้านมาเล่นน้ำบริเวณถนนเส้นดังกล่าว จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว นายอำเภอโคกสำโรงพร้อมองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมข้าวลงพื้นที่ตรวจตราบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาเล่นน้ำและมีร้านค้าตั้งขายของ

โดยนายอำเภอโคกสำโรงได้กำชับองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมข้าวให้ติดตั้งป้ายเตือนและติดตั้งกรวย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และจัดเวรยามเฝ้าระวังความปลอดภัยให้แก่ผู้มาท่องเที่ยวในพื้นที่ในช่วงนี้ต่อไป

    สนอง แท่นสูงเนิน
    ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน