เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อาคันตุกะเจ้าเมืองบางแก้ว นานาชาติ เทศบาลเมืองบางแก้ว ร่วมกับ PTT Park Mall หนามแดง สมุทรปราการ

แชร์เนื้อหานี้


นายบุญชู กรานรอด รองนายกเทศมนตรีรักษาการ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว และนายกฤษฏากรณ์ หวังพาณิชย์สกุล ผู้บริหารPTT Parkmall ร่วมตอบสนองนโยบายSoft Powerส่งเสริมประเพณีลอยกระทง กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยววิถีพุทธ จัดโครงการ ^งานประเพณีลอยกระทงนานาชาติ เทศบาลเมืองบางแก้ว ร่วมกับPTT ปาร์คมอลล์^

ในวันที่15-24 พฤศจิกายน(10วัน) โดยมีไฮไลท์ 7 กิจกรรม 2 คอนเสริ์ท กล่าวคืองาน 4 วัน 15,16,17,23 พฤศจิกายน2567 สมัครล่วงหน้า😇ประกวดหนูน้อยนพมาศ ชิงมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยรางวัล เงินรางวัล เกียรติบัตรจากเทศบาลเมืองบางแก้วและptt park mall ,วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน2567
ประกวดหนูน้อยนพมาศ( Junior4-9 ปี(senior10-16ปี) ,วันที่16 พย ประกวดนพมาศนานาชาติได้รับการตอบรับอาทิประเทศต่างๆดังนี้ ไชปรัสเหนือ อิตาลี่ อินโดนีเชีย เกาหลี เนปาล อินเดีย ศรีลังกา กัมพูชา บังกลาเทศ ตุรกี พร้อมการแสดงทางวัฒนธรรมนานาชาติ ,

วันที่17 พย ประกวดนพมาศสาวน้อย(นพมาศอาวุโสอายุ 45-90ปี )+ประกวดนพมาศสัตว์เลี้ยง ( น้องหมาแมว) ,วันที่23 พย ประกวดเทพบุตรหนุ่มนพมาศ( ชายแท้+ชายทอมบอย อายุ 13-45 ปี) ทั้งนี้ได้ชิงเงินรางวัล เงินสดมงกุฎสายสะพายและรางวัลอื่นๆรวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท ทั้งนี้ ยังมีคอนเสิร์ตในวันที่ 20 พย ศิลปินเนสกาแฟ ศรีนคร,ในวันที่ 22 พย ศิลปินวงเสียงอีสาน
ภายในงาน ยังมีการออกบูธจากร้านผลิตภัณฑ์โอท๊อป ของดีจากบางแก้ว อาหารและเครื่องดื่มและช้อปปิ้งต่างๆ นักแสดงนำจากค่ายมหามงคลฟิล์ม , แพรว AF , สิตางคุ์ บัวทอง กรรมการตัดสิน น้องหมาแมวนพมาศ มากมาย

ท่านนายบุญชู กรานรอด นายกเทศมนตรีรักษาราชการนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ‘‘รู้สึกเป็นเกียรติที่ทางบางแก้วจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานประเพณีลอยกระทงซึ่งในปีนี้ได้จัดอย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายนถึงวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายนโดยมีไฮไลท์กิจกรรมหลักๆทั้งหมด7 กิจกรรมและ2 คอนเสิร์ต กล่าวคือมีทั้งกิจกรรมด้านการออกร้านผลิตภัณฑ์ โอท๊อปของชาวบางแก้วและคอนเสิร์ตและมีกิจกรรมการประกวดต่างๆอาทิการประกวดหนูน้อยนพมาศ การประกวดกระทงสวยงาม

การประกวดนพมาศสัตว์เลี้ยง การประกวดนพมาศสาวน้อย การประกวดเทพบุตรหนุ่มนพมาศและยังมีการแสดงทางวัฒนธรรมจากนานาชาติ ได้เข้าร่วมกว่า 10 ประเทศ ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีอันดีงามที่มีมาตามพุทธประวัติ และถือเป็นประเพณีที่ทั่วโลกรู้จัก ในปีนี้ เทศบาลเมืองบางแก้วจะจัดยิ่งใหญ่และเป็นกิจกรรมที่จะจัดหลักทุกปีเพื่อให้สืบสานประเพณีด้านวัฒนธรรมลอยกระทงนั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกตลอดไป ’’

   นายกฤษฎากรณ์ หวังพาณิชย์สกุล กล่าวอีกว่า ‘ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ทางท่านรองนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้วได้ตอบรับและสนับสนุน กิจกรรมของทางโครงการพีทีทีปาร์คมอลล์ โครงการเราเป็นคอมมูลนิตี้มอล์ลที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบางแก้ว เป็นศูนย์รวมกิจกรรมในย่านนี้มีทั้งปั๊มน้ำมัน ปตท ตลาดสด สวนสาธารณะ ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต เซเว่น คาเฟ่อเมซอน รวมถึงแลนด์มาร์คต่างๆ และร้านอาหารแอร์บัสเครื่องบินที่มีความน่าสนใจ เราเคยจัดงานลอยกระทง ประกวดหนูน้อยและนางนพมาศปีก่อนๆ ก็ได้รับความสนใจจากชาวบางแก้วและคนต่างพื้นที่ ในโครงการเรามีพื้นที่ในการจัดกิจกรรมลอยกระทงที่พร้อม ต้อนรับแขกท้องถิ่นและขอเชิญทุกท่านเป็นอาคันตุกะร่วมกับโครงการในการต้อนรับนานาชาติกว่า 300 คน
ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย และในปีนี้เราได้จัดงานขึ้นอีกครั้งโดยได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งผมคาดคะเนว่าในแต่ละวัน คนจะเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 2,000 ถึง 3000 คน ส่วนด้านการดูแลความปลอดภัยก็จะมีหน่วยงานของรัฐเช่นสภ. บางแก้วมาดูแล และเรายังจัดสถานที่จอดรถกว่า9 ไร่ข้างปั้ม ไว้สำหรับรถที่เข้ามาร่วมงานลอยกระทงในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานในครั้งนี้จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนจะจดจำความประทับใจและร่วมภาคภูมิใจกับการจัดงานโครงการประเพณีลอยกระทงนานาชาติเมืองบางแก้วด้วยครับ
    
ซึ่งงานในครั้งนี้ได้มอบหมายให้กับบริษัท มหามงคลฟิล์ม สตูดิโอ โปรดักชั่นจำกัด ผู้ผลิตละครเทิดพระเกียรติ ฯทางช่อง9Mcot เป็นผู้จัดกิจกรรมในงานส่วนไฮไลท์ ^ผมได้รับเกียรติจาก คุณ กฤษฎากรณ์ หวังพานิชย์สกุล ผู้บริหารที่ไว้วางใจในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งปีก่อนๆ ผมเคยร่วมกิจกรรมและนำกองถ่าย ผลิตละครเทิดพระเกียรติและละครธรรม ทางช่อง9 MCOT มาถ่ายทำที่โครง

PTT Park mall มากกว่า 10 โลเคชั่น และ ผมก็เคยได้เข้ามาร่วมกิจกรรมของการประกวดนพมาศที่นี่ในปีก่อนๆ และในปีนี้ผมได้รับการไว้วางใจที่จะมาดูกิจกรรมของโครงการในครั้งนี้เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่ที่สุด และเรายังเป็นแมวมองที่จะพิจารณาคนเข้าประกวดในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนูน้อย หนุ่มหล่อ สาวสวย หรือแม้แต่ สาวน้อยอาวุโส ที่มาปรากฏทั้งหมดในการมีส่วนร่วมกับการทำละครของบริษัทในครั้งต่อๆไป
ในครั้งนี้ได้แต่งตััง นักแสดงต้นแบบจากค่ายมหามงคลฟิล์ม สตูดิโอ โปรดักชั่น ทั้งหมดเป็นระดับพระเอกนางเอกของละครเทิดพระเกียรติ และละครสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทางช่อง9 MCOT ทั้ง4 ท่านได้แก่ น้องคากิ ชนชญา งามเจริญ , น้องแอนโทนี่ แอนโทนีโอ จุลพงษ์ โกเมซ, น้องแพรไหม ศิวาพัชญ์ เบญจไตรพัฒน์ , น้องนักรบ ก้องภพ สว่างเรือง สนใจสอบถามรายละเอียดการประกวดได้ที่ 083-0055-484 id-line Harajuku999 หรือรับใบสมัคร ได้ที่เทศบาลเมืองบางแก้ว 02-7102784ฝ่ายกิจกรรม / โครงการพีทีทีปาร์คมอลล์ หนามแดง 062-0497774
น้อง ปุ๊กกี้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / โครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนพรรษา 6 รอบ 28 กค. 2567

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.30 น. นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรง ประธานการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์งานวิ่ง สิงห์คูยาง Running วิ่งเพื่อโรงพยาบาลโคกสำโรง ประจำปี 2567

นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรง ประชุมเตรียมความพร้อมและมอบหน้าที่รับผิดชอบ รวมทั้งขอให้กำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านในอำเภอโคกสำโรง เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงานเดิน วิ่ง ปั่น เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมบันทึกสถิติโลก กิจกรรมโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดลพบุรี

ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05.00 น. พร้อมเพียงกันที่สนามโรงเรียนโคกสำโรงวิทยา คาดว่าประชาชนอำเภอโคกสำโรง เดินทางร่วมงานไม่น้อย การเดิน วิ่ง ปั่น ทางจังหวัดลพบุรี ได้จัดให้มีการเดิน วิ่ง ปั่นทั้ง 11 อำเภอของจังหวัดลพบุรี 11 สนามของการเดิน วิ่ง ปั่น ที่แต่ละอำเภอได้กำหนดไว้ ส่วนอำเภอโคกสำโรง กำหนดจะเดิน วิ่ง ปั่น ออกจากโรงเรียนโคกสำโรงวิทยา ตามจุดเส้นทางที่ได้กำหนดไว้แล้ว

และในโอกาสเดียวกันนี้ นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรง ก็ได้เชิญชวนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมกิจกรรม “สิงห์คูยางค์ Running 3 วิ่งเพื่อโรงพยาบาลโคกสำโรง” โดยจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 8 ธันวาคม 2567 จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการระดมทุนเพื่อสร้างศูนย์ฟอกไต ให้แก่โรงพบาลโคกสำโรง เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตที่ต้องได้รับการรักษาด้วยการฟอกไต ในอำเภอโคกสำโรง ตลอดทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดลพบุรี ได้เข้าถึงบริการได้รับการดูแลรักษาที่ดี ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน ในส่วนของความพร้อมในการต้อนรับผู้ร่วมงานวิ่งในวันอาทิตย์ ที่8 ธันวาคม 2567 สิงคูยาง Running วิ่งเพื่อโรงพยาบาลโคกสำโรง

ทุกท่านที่จะมาร่วมงาน ขอให้ทุกท่านได้มั่นใจได้ว่าทุกภาคส่วนและชาวอำเภอโคกสำโรง มีความยินดีอย่างยิ่งในการต้อนรับ และได้เตรียมการอย่างเต็มที่ในเรื่องความสะดวก และปลอดภัย นอกจากผู้ร่วมวิ่งทุกท่านจะได้ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ทัศนียภาพตลอดสองฝั่งเส้นทางในที่วิ่งแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในตำนานเล่าขานมานานที่น่าสนใจของอำเภอโคกสำโรง และจังหวัดลพบุรี อีกมากมายที่นักวิ่งจะวิ่งผ่านได้ชมเห็นเทือกเขาที่สวยงามยามเช้า เช่น เขาวงพระจันทร์ เขานมนาง เขาตะเภา เขาจระเข้ สถานที่วัด ธรรมชาติ ทุ่งทานตะวัน วิธีชีวิตชุมชน ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติของท้องถิ่นอำเภอโคกสำโรง

ซึ่งจะทำให้การมาวิ่งครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีทั้งในด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติท้องถิ่น ให้ทุกท่านประทับใจไปอีกนาน โดยโครงการนี้ยังจะต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมากในการสร้างศูนย์ฟอกไต จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมวิ่ง เพื่อสร้างสุขภาพ และสร้างบุญไปด้วยกัน เพราะยังต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมากจึงจะเกิดผลสำเร็จได้ เปิดรับสมัครวิ่งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป วิ่งในระยะทาง 3 กม. 400 บาทรับเสื้อ1ตัว ระยะทาง 5 กม. 400 บาทรับเสื้อ 1 ตัว ระยะทาง 10 กม. 500 บาทรับเสื้อ 1 ตัว ระยะทางวิ่ง 23 กม. 700 บาทรับเสื้อ 1ตัว และวีไอพี 1,000 บาทรับเสื้อ 2 ตัว ท่านสามารถ สแกน QR Code สมัครได้ทันที่ และรับเสื้อได้ที่โรงพยาบาลโคกสำโรง
“สิงห์คูยางค์ Running 3 วิ่งเพื่อโรงพยาบาลโคกสำโรง” ในวันอาทิตย์ ที่ 8 ธันวาคม 2567
โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. เพื่อระดมทุนเพื่อสร้างศูนย์ฟอกไต โรงพยาบาลโคกสำโรง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีมีคุณภาพและสะดวก ลดภาระค่าใช้จ่ายและความลำบากในการเดินทางไปรักษาที่อื่น
  2. เพื่อส่งเสริมสุขภาพและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคไตในชุมชม
    เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย และใส่ใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น
  3. สร้างความสามัคคีและการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดงามวิ่งครั้งนี้ เปิด
    โอกาสให้ทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการทำบุญและสนับสนุน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี และร่วมกันสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่สังคม

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดยิ่งใหญ่! Pattaya International Tattoo Festival 2024 รับไฮซีซั่น / งานวิ่งได้บุญ SVT RUN 2024 หารายได้ช่วยผ่าตัดเด็กป่วยโรคหัวใจ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 1 พ.ย.67 นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้ทรงคุณวุฒิเมืองพัทยา ในฐานะผู้แทนนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดงาน Pattaya International Tattoo Festival 2024 ที่ปาร์ตี้เฮ้าส์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมารีน่า พัทยา จ.ชลบุรี โดยมี นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมงาน

นายชาตรี สุขสวัสดิ์ ประธานกลุ่มช่างสักระหว่างประเทศประจำประเทศไทย World Tattoo Event เผยว่า สำหรับงาน Pattaya International Tattoo Festival 2024 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย.67 นี้ โดยจัดเป็นเทศกาลงานสักที่รวบรวมช่างสักชื่อดังจากทั่วโลกกว่า 1,000 ชีวิต ในหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส เซอร์เบีย ไอแลนด์ เกาหลีใต้ เวียดนามและไทย

ทั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือกันจัดขึ้นของกลุ่มช่างสักระหว่างประเทศและผู้ชื่นชอบศิลปะการสักลายบนเรือนร่าง ที่มีเมืองพัทยาและ ททท.ร่วมสนับสนุน โดยในงานจะมีการประกวดรอยสักกว่า 22 รายการ ฟรีคอนเสิร์ตจาก Bulletguyz และครั้งแรกกับการจัดประกวด Miss Bikini Tattoo ที่จะมีขึ้นในวันสุดท้ายของการจัดงาน ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกหนึ่งงานที่จะสร้างสีสันรับไฮซีซั่นของปี

ผลักดันให้สังคมน่าอยู่..สายวิ่งเตรียมระเบิดความมันส์ งานวิ่งได้บุญ SVT RUN 2024 หารายได้ช่วยผ่าตัดเด็กป่วยโรคหัวใจ

วันที่ 1 พ.ย.67 โรงเรียนศรีสุวิช จ.ชลบุรี โดย ดร.ประถมาภรณ์ ฟักฤกษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสุวิช ได้จัดงานแถลงข่าวงานวิ่งการกุศลครั้งที่ 7 ของโรงเรียน ภายใต้ชื่องาน SVT RUN 2024 CHARITY FOR KIDS STEPPING TO THE HEARTS.

โดยในพิธีการได้รับเกียรติจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีแถลงข่าว ประกอบด้วย เทศบาลตำบลบางละมุง เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย สภ.บางละมุง คลังก๊าซบ้านโรงโป๊ะ ท่าเรือแหลมฉบัง รพ.กรุงเทพพัทยา รพ.วิภาราม แหลมฉบัง สถานตากอากาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ The Cop Resort ท่ามกลางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ

สำหรับงาน SVT RUN 2024 CHARITY FOR KIDS เป็นการวิ่งระยะ 8 กิโลเมตร ในปีนี้กำหนดจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 15 ธ.ค.67 โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 รุ่น คือ รุ่น KIDS SPIRIT อายุไม่เกิน 6 ปี, รุ่น ALPHA อายุ 7-15 ปี, รุ่น Z-RUN อายุ 16-29 ปี, รุ่น Y-RUN อายุ 30-39 ปี, รุ่น X-RUN อายุ 40-49 ปี และรุ่น XL-RUN อายุ 50 ปีขึ้นไป

โดยรายได้จาการจัดงานหลังหักค่าใช้จ่ายจะได้ร่วมสมทบทุนบริจาคให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิธีช่วยเหลือในการผ่าตัดหัวใจดวงเล็กๆ ให้เด็กๆ ที่เป็นโรคหัวใจได้มีโอกาสมีชีวิตต่อไปได้ โดยทางโรงเรียนศรีสุวิชหวังว่าจะเป็นแรงผลักดันเล็กๆ เพื่อให้สังคมนี้น่าอยู่ต่อไป สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อร่วมกิจกรรมได้ที่โรงเรียนศรีสุวิช หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ SrisuvitNewsletter

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.น้ำ มุกดาหาร จับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ​ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)

แชร์เนื้อหานี้

กองบังคับการตำรวจน้ำ ภายใต้การอำนวยการของ​ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.​ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบช.ก,
พ.ต.ท.พงษ์พิพัฒน์ บูรณะบัญญัติ สว.ส.รน.3 กก.10 บก.รน. ได้สังการให้ ชุดสืบสวนสถานีตำรวจน้ำ3 กองกำกับการ10 กองบังคับการตำรวจน้ำ​ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดย ร.ต.ต.คมเด็ด อ่อนพฤกษ์ภูมิ รอง สว. (ป.ทางน้ำ)​ส.รน.3 กก.10 บก.รน., ชุดสืบสวนตำรวจน้ำ

ร่วมกันจับกุม นางแสงสุริยา อุระ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.4 ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร​ จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารที่ 217/2567 ลงวันที่ 19 เมษายน 2567​ ความผิดฐาน ฉ้อโกง,เรียกค่าเสียหาย​หกหมื่นบาท​ จับกุมที่บริเวณบ้านเลขที่ 39 ม.4 ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 06.30 น. ร.ต.ต.คมเด็ด อ่อนพฤกษ์ภูมิ รอง สว. (ป.ทางน้ำ)ส.รน.3 กก.10 บก.รม. ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) แจ้งว่า นางแสงสุริยา อุระ ซึ่งเป็นบคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ 217/2567 ลงวันที่ 19 เมษายน 2567 ได้พักอาศัยที่บ้านเลขที่ 39 ม.4 ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร​ จ.มุกดาหาร ต่อมาเมื่อเวลา 07.30 น.

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ส.รน.3 กก.10 บก.รน.,ชุดสืบสวนกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นพื้นที่ได้เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวปรากฏว่าตรวจพบจำเลยซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับจำเลยตามหมายจับดังกล่าวปรากฏตัวอยู่จริง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวให้ทราบและแสดงหมายจับ

ให้เจ้าของบ้านและจำเลยดู โดยจำเลยยอมรับว่า ตนเป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยตามหมายจับนี้ และยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดี มาก่อน พนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งสิทธิและแจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบทันทีในที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวนำส่งศาลจังหวัดมุกดาหาร ในวันเดียวกันเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฉก.ตร.นราธิวาส 93 สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีไทยร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีวัดขวัญไม้งามสืบสานประเพณี

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (20 ตุลาคม 2567) ที่วัดขวัญไม้งาม ม.10 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทศม ม่วงเกษม ผบ.ฉก.ตร.นธ.93 มอบหมายให้
พ.ต.ท.สุเทพ สังวรกิตติวุฒิ รองผบ.ฉก.ตร.นธ.93 ผบ.ร้อย932 ผบ.ร้อย933 ชป.กร. ร่วมกิจกรรมกิจกรรมทอดกฐิน โดยมีพระครูสิทธิคุณาทร เจ้าอาวาสวัดขวัญไม้งาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

คุณพ่อเล็ก ผุดผ่อง / คุณเเม่ปิ่น ผุดผ่อง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและประชาชนทั่วไปทอดกฐินสามัคคีเพื่อถวายปัจจัยบูรณะโบสถ์เพื่อใช้ประโยชน์ในการบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างอุโบสถให้กับทางวัดได้ใช้ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาตามประเพณีชาวพุทธที่ถือปฏิบัติกันมาทุกปีหลังออกพรรษา

ด้วยพุทธบริษัทบ้านไม้งาม และพุทธบริษัททั้งหลายได้นำผ้ากฐินมาทอดถวาย เพื่อให้พระภิกษุได้รับอานิสงค์แห่งการจำพรรษาตามพระวินัยบัญญัติ และเพื่อนำปัจจัยที่ได้รับจากการอนุโมทนาร่วมบุญในการทอดกฐินในครั้งนี้ นำไปสร้างอุโบสถที่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมงานบุญทอดกฐิน โดยความพร้อมเพรียงกัน

โดยการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธ และส่งเสริมอัตลักษณ์ในพื้นถิ่น สำหรับวัดขวัญไม้งามเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนชาวพุทธในพื้นที่มาอย่างยาวนาน เพื่อเป็นการสืบทอดอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการทำบุญทอดกฐิน และเป็นการปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่และประชาชนเกิดความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามตลอดจนเพื่อจรรโลงไว้ให้ชนรุ่นลูกรุ่นหลานได้นับถือสืบทอดตลอดไป

สำหรับการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี เพื่อร่วมกันสืบทอดอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการทำบุญและปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม โดยปัจจัยที่ได้จากบริวารกฐิน ทั้งนี้ทางวัดจะนำปัจจัยดังกล่าวไปใช้พัฒนาวัดต่อไป
/////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /เรือภูพยัคฆ์วัดป่าสักได้แชมป์เรือใหญ่ครองถ้วยพระราชทาน / น่าน ทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เทศกาลออกพรรษา

แชร์เนื้อหานี้

และธงรางวัลเงินสด 20,000 บาท ผลการแข่งขันเรือชิงถ้วยพระราชทานงานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษาตานก๋วยสลากวัดบุญยืนพระอารามหลวง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ประจำปี 2567 สืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ณ สะพานข้ามแม่น้ำน่าน (ท่าน้ำบ้านป่ากล้วย) อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน มีพิธีเปิดงานประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา ตานก๋วยสลากวัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสา ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลอดเหล้า-เบียร์ ประจำปี 2567 โดยมี ท่านนพพร เรืองสว่าง นายอำเภอเวียงสา เป็นประธานมอบรางวัล นายพงศ์นรินทร์ สุทธารักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา กล่าวรายงาน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเขตอำเภอเวียงสา ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเวียงสา คณะกรรมการจัดงานประเพณีแข่งเรือชมรมเรือแข่งอำเภอเวียงสา และประชาชนชาวอำเภอเวียงสา ร่วมกันจัดงาน


โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบต่อไป ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ ส่งเสริมประเพณีการแข่งเรือวันออกพรรษา ปลอดเหล้า-เบียร์ และส่งเสริมสนับสนุนและสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนได้ ออกกำลังกายและห่างไกลยาเสพติด นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาล ให้อำเภอเวียงสาและจังหวัดน่าน ให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนทั่วไปและชาวต่างชาติ

ผลการแข่งขันเรือ วันออกพรรษาตานก๋วยสลาก วัดบุญยืนพระอารามหลวง อำเภอเวียงสา ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระขนิษฐาธิราชกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลอดเหล้า-เบียร์ ประจำปี 2567
ประเภทเรือเล็กชนะเลิศได้ครองถ้วยพระราชทานและธงรางวัลเงินสด10,000 บาท เรือมินตะยากายรัตนา มทร.ล้านนา อำเภอเมืองน่าน ประเภทเรือกลาง ชนะเลิศได้ครองถ้วยพระราชทานและธงรางวัลเงินสด15,000 บาท เรือเทพศรัทธาศรีกลางเวียง บ้านกลางเวียง อำเภอเวียงสา ประเภทเรือใหญ่

ชนะเลิศได้ครองถ้วยพระราชทานและธงรางวัลเงินสด 20,000 บาท เรือภูพยัคฆ์ วัดป่าสัก อำเภอเวียงสา และประเภทเรือใหญ่เอกลักษณ์น่าน ชนะเลิศได้ครองถ้วยพระราชทานและธงรางวัลเงินสด 20,000 บาทเรือเทพธารทิพย์ บ้านไชยสถาน อำเภอเวียงสา/ข่าว/ ฐาปนี ชาวพรอน/ บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมลชนจังหวัดน่าน รายงาน

จังหวัดน่าน ทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลออกพรรษาเพื่อ อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ซึ่งเวียงภูเพียงแช่แห้ง ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ขณะนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ในสุดยอด 100 แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก ประจำปี 2024

วันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 0700 น. พุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยว ทุกหมู่เหล่า ร่วมทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลออกพรรษาเพื่อ อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ณ วัดพระธาตุ เขาน้อย อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน อีกทั้งยังเป็นการเพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณอันประเสริฐขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบทอดประเพณีอันดีงามทางพุทธศาสนาที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณกาล และแสดงออกซึ่งการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาวน่านอีกด้วย

ส่วนที่วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง ท่านพระชยานันทมุนี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวงได้นำพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยว ร่วมกันทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เหมือนกับทุกๆปีทีผ่านมา เพื่อเพื่อ อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้สืบต่อไป เวียงภูเพียงแช่แห้ง ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ขณะนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ในสุดยอด 100 แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก ประจำปี 2024 (Green Destination 2024 Top 100 Stories)

การตักบาตรเทโว ซึ่งปรากฏอยู่ในพุทธตำนานเรื่อง วันเทโวโรหณสูตร เทโวโรหณะ หมายถึง การเสด็จลงจากดาวดึงส์(สวรรค์) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงดำริที่จะสนองพระคุณพระพุทธมารดา พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทศนาพระ อภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดา ตลอดพรรษา(3เดือน) จนพระพุทธมารดาบรรลุอริยมรรคอริยผลเป็นพระอรหันตภูมิ ครั้นถึงวันปวารณาออกพรรษาวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พระพุทธองค์จึงเสด็จลงสู่โลกมนุษย์หรือ

วันพระเจ้าเปิดโลก บรรดาพุทธซาสนิกชนจึงได้จัดประเพณี ตักบาตรเทโว ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองน่าน ได้เดินมารับ บิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งจากพุทธศาสนิกชน และ นักท่องเที่ยว ตามเส้นทางหน้าพิพิธภัณฑ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาติด้วย/ภาพข่าว/พ.อ.พยอม บุญทร/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /วัดคลองกะพั้วจัดพิธีบวงสรวงพระนารายบรรทมสินประทับบนปู่อนันตนาคราช 1,000 เศียร/ท่าปลาแถลงข่าวเตรียมจัดงานมหกรรมของดีอำเภอท่าปลาครั้งที่ 8 ประจำปี 2567 ช่วงเทศกาลออกพรรษา “แห่ผีตลก หนึ่งเดียวในโลก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดคลองกะพั้ว ต.บ้านโคน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พระอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ สีลโตโช เจ้าอาวาสวัดคลองกะพั้ว นำผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สื่อมวลชนและชาวบ้านเข้าชมการดำเนินงานก่อสร้างพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ประทับบนปู่อนันตนาคราช 1,000 เศรียร ซึ่งอยู่ภายในบริเวณวัดคลองกะพั้ว ซึ่งมีขนาด ความกว้าง 15 เมตรลึก 2เมตร 50 เซนติเมตร ขณะนึ้การก่อสร้างไกล้จะแล้วเสร็จ และจะได้มีการประกอบพิธีบวงสรวงในวันที่ 9 ตุลาคม 2567 เวาลา 19.09 น.โดยจะมีพิธีบวงสรวงโดยพิธิกรรมจากพราห์มมและการร่ายรำถวายบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าโดยคณะพราห์มและนางรำที่เดินทางมาจากคำชโนด จ.อุดธานี

สำหรับการสร้างรูปปั้นจำลองพระนารายบรรทมสินธิ์ุ ประทับบนพ่อปู่อนันตนาคราช 1,000เศียร ซึ่งจะมีความสูงประมาณ 6 เมตรรวมฐานที่ตั้ง ประดิษสถานบริเวณภายในวัดคลองกะพั้ว เพื่อให้สาธุชนผู้มีจิตศรัทธาต่อพระนารายณ์บรรทมสินธิ์และปู่อนันตนาคราช ตลอดถึงสาธุชนทั่วไปได้เข้ามากราบไว้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล

พระอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ สีลเตโช เจ้าอาวาสวัดคลองกะพั้ว กล่าวว่า ภายหลังจากพิธีบวงสรวงองค์พระนารายบรรทมสินธ์ประทับบนพ่อปู่อนันตนาคราช 1,000 เศียร ในช่วงค่ำของวันที่ 9 ตุลาคม เสร็จสิ้น ในช่วงเช้าของวันที่ 10 ตุลาคม ก็จะได้มีพิธีในการทอดกฐินสามัคคี จากคณะศรัทธาและพุทธศาสนิกชนมาร่วมกันทอดกฐินในครั้งนี้ จึงอยากจะขอบอกบุญไปยังผู้มีจิตศรัทธาขอเชิญร่วมบุญทอดกฐินในครั้งนี้

สำหรับอานิสงส์ของการทอดกฐิน
-ทำให้เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์สินมาก ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
-ทำให้เป็นผู้มีจิตใจแจ่มใส บริสุทธิ์ และผ่องใสอยู่เสมอ
-ทำให้เป็นผู้มีจิตใจตั้งมั่น เป็นสมาธิ และเข้าถึงธรรมได้ง่าย
ได้ชื่อว่าเป็นผู้สามารถใช้สร้างบุญกุศล ให้ติดตัวไปในภพเบื้องหน้าได้อย่างเต็มที่
-ทำให้เป็นคนรูปงาม ผิวพรรณงาม เป็นที่รักของคนทั่วไป
-ทำให้เป็นผู้มีชื่อเสียง เกียรติคุณ น่ายกย่องสรรเสริญ เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา น่าเคารพนับถือ
ทั้งนี้ยังเป็นการสงเคราะห์พระภิกษุที่จำพรรษา

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

อุตรดิตถ์-อำเภอท่าปลาแถลงข่าวเตรียมจัดงานมหกรรมของดีอำเภอท่าปลาครั้งที่ 8 ประจำปี 2567 ช่วงเทศกาลออกพรรษา “แห่ผีตลก หนึ่งเดียวในโลก

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมโรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ นายจักรพรรณ สุวรรณภักดี นายอำเภอท่าปลา นายกิตติกานต์ ทองแตง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาเลือด นายสุรินทร์ ปริมาณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าปลา นายนันทสิทธิ์ โพธิ์งาม รองปลัด อบจ.อุตรดิตถ์ นางสาวภัททิรา คำอภิวงศ์รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแพร่ ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จ.อุตรดิตถ์

พร้อมด้วยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมของดีอำเภอท่าปลา ครั้งที่ 8 ประจำปี 2567 ชึ่งกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 4-10 พฤศจิกายน 2567 ณ ที่ว่าการอำเภอท่าปลา จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมประเพณีประจำท้องถิ่นผลิตภัณฑ์ของดีอำเภอท่าปลาให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในขนและสร้างรายได้ใต้ไห้แก่ประซาชนและชุมชน เพื่อพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP ของอำเภอท่าปลาให้มีควนภาพเพิ่มมากขึ้น.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกร มีรายได้ จาการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น โดยความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 9 แห่ง ,องค์กรปกครองส่วนท้องที่ทั้ง 7 ตำบล ของอำเภอท่าปลา และการสนับสนุนงบประมาณจาก

องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์และองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าเชื่อนสิริกิติ์ เพื่อให้การสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของดีอำเภอท่าปลาที่เป็นขบวนวัฒนธรรมประจำถิ่นที่มีความโดดเด่นแต่ละท้องถิ่น ในงานมีการจัดบูธวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่น ลานวัฒนธรรม การจัดเวทีเสวนาภูมิปัญญาปราชญ์ชาวบ้านอำเภอท่าปลา การจัดบูธผ้าทอมือ จกด้วยขนเม่น “มรดกล้ำค่าของคนท่าปลาลายงูเหลือม” การจัดเดินแบบผ้าทอท่าปลาในลานวัฒนธรรมท่าปลา ประเพณีแห่มีตลกอำเภอทำปลา ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมากว่าสองร้อยปี สภาวัฒนธรรมได้ขอนำเสนอผีตลก ชาวทำปลามีการละเล่น 2 แบบ คือ คนท่าปลาเดิม ขาวตำบลท่าแฝก เรียกประเพณีแห่ฝีขน นำมาละเล่นในการแห่นาดไปในชุมชน

เพื่อไปขอกราบลากับผู้อาวุโสโนชุมชน มีการแต่งผีตลก นำวิธีแห่ฝีตลกมาใช้ในช่วงเทศการออกพรรษา คือก่อนออกพรรษา ชาวอำเภอปลาจะเข้าในป่าเพื่อตัดไม้ไผ่มาจักเป็นตอก เพื่อมาสานเป็นหัวผีลกและประดับประดาตกแต่งหัวผีให้น่ากลัว รวมถึงขอใช้ผ้าเหลืองพระเก่ามาทำหัวผีตลก การดำเนินการทำหัวก่อนออกพรรษา 1วัน จะมีขบวนแห่หัวผีตลก

วิธีปฏิบัติของคนที่จะสวมหัวผีก็จะนำหมากคำพลูใบ และไข่ต้ม 1 ฟอง เข้าไปอัญเชิญผีมาเข้าเพื่อแห่ไปในหมู่บ้านเพื่อ ชาวบ้านเห็นขบวนแห่ผีตลก จะช่วยกัน ตัดต้นกลัวย ต้นอ้อย ตันข่า ต้นกุ๊ก ตันดอกไม้มากองไว้ที่หน้าบ้านข้างทางเพื่อคณะกรรมการที่ไปร่วมขบวนแห่เก็บเอามาที่วัดเพื่อนำมาประดับประดาศาลาการเปรียญให้เป็นป่าหิมพานต์และเทศน์มหาชาติ

ชมขบวนรถแห่ทั้ง 9 ขบวน 7 ตำบล ได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ในวันที่ 8 พย.นี้ และเพลิดเพลินไปกับขบวนผีตลก ชมการประกวดนางงามวัฒนธรรม การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น (แสง สี เสียง)

และอย่าลืมเลือกซื้อสินค้าชุมชน อาหารท้องถิ่น ของฝากสินค้า OTOP ติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย.

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.โชคชัย โคราชตรวจจับยาบ้าหลายพันเม็ด พร้อมอาวุธสงคราม ระเบิด ปืน

แชร์เนื้อหานี้

สภ.โชคชัยจว.นครราชสีมา ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตามคำสั่ง ศอ.ปส./8186 ลง 26 กันยายน 67 และ ศอ.ปส.ภ.3/147 ลง 26 เมษายน 2567 ประจำวันที่ 29 ต.ค.67 เวลา 03.00 – 06.00 น. ปจว.ข้อ 2

โดยการอำนวยการของ นายธรรมธรรศ ทองสำโรง นายอำเภอโชคชัย , นายชยานนท์ สุวรรณทรัพย์ ปลัดอำเภออาวุโส , นายชาญณรงค์ สุขชาติ ปลัดอำเภอ และ พ.ต.อ.จรินทร์ จินตพละ ผกก.สภ.โชคชัย , พ.ต.ท.อ้ครคมฆ์ ญาติเจริญ รอง ผกก.สภ.โชคชัย พ.ต.ท.สิรภพ แย้มศรี สวป.สภ.โชคชัย

ตามวันเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บนถนนหลวงหมายเลข 24 หลักกิโลเมตร 60 หมู่ที่ 6 ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พบรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ขนาด 4 ล้อ สีดำ รุ่นรีโว เลขทะเบียน บล 2965 บุรีรัมย์ จึงเรียกเพื่อตรวจสอบ โดยมีนายเกียรติศักดิ์ รุ่งสว่าง (ทราบชื่อภายหลัง) อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ขนาด 4 ล้อ มาบนถนนเส้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้สัญญาณมือหยุดรถ ในขณะนั้นตำรวจชุดจับกุมสังเกต

นายเกียรติศักดิ์ รุ่งสว่าง มีอาการมือสั่นคล้ายคนเสพยาเสพติด ตำรวจชุดจับกุมจึงค้นบริเวณช่องใส่ของตรงกลางระหว่างคนขับและคนนั่ง พบ ถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 2 ห่อ ภายในบรรจุยายาบ้า สีส้ม-แดงและเสีเขียว จำนวน 3,910 เม็ด พร้อมทั้งพบลูกระเบิดขว้าง ห่อหุ้มด้วยแผ่นฟรอยด์สีเงิน จำนวน 1 ลูก ,ปลอกแท่งดินระเบิด TNT ขนาด ¼ ปอนด์ (สีเขียว) จำนวน 1 ลูก,พร้อมเครื่องกระสุน ขนาด .22 จำนวน 2 นัด และเครื่องกระสุนลูกซอง ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 5 นัด บริเวณช่องเก็บของด้านคนนั่งข้าง และเมื่อค้นใต้เบาะรถช่องเก็บอุปกรณ์เครื่องมือรถ พบอาวุธ ปืนลูกซองยาวเดียว จำนวน 1 กระบอก

ภาพ/ข่าว: พ.ต.อ.จรินทร์ จินตพละ/
กันตินันท์ เรืองประโคน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค นครราชสีมา/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดตัวอย่างเป็นทางการ “น้องวันวาฬ” มาสคอตสุดน่ารักประจำจังหวัดบึงกาฬ!

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 จังหวัดบึงกาฬได้มีการเปิดตัวมาสคอตประจำจังหวัดในชื่อ “วันวาฬ” อย่างเป็นทางการ มาสคอตสุดน่ารักที่จะมาเป็นตัวแทนเผยแพร่เสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ของบึงกาฬให้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ


น้องวันวาฬ ถูกออกแบบมาให้สื่อถึงความเป็นตัวแทนของชาวบึงกาฬ มีดีไซน์ที่โดดเด่นและความหมายซ่อนอยู่มากมาย โดยน้องวันวาฬได้แรงบันดาลใจจากหินสามวาฬ สัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด สีม่วงขาวที่เป็นสีประจำจังหวัด หรือลวดลายบนมือและเท้าที่สื่อถึงแม่น้ำโขง สายน้ำแห่งชีวิตของชาวบึงกาฬ


นอกจากนี้ น้องวันวาฬยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของชาวบึงกาฬ เช่น กระติ๊บข้าวเหนียว ผ้าคาดเอวลายพื้นเมือง กระเป๋าที่เป็นรูปภูทอก ดอกสรินทรวัลลี และหูฟังที่สื่อถึงความทันสมัย


น้องวันวาฬเป็นตัวแทนที่สะท้อนความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของจังหวัดบึงกาฬ ทั้งด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและนักท่องเที่ยวในอนาคต

เราหวังว่าน้องวันวาฬจะได้รับความรักและเป็นที่ชื่นชอบจากทุกคนตลอดจนช่วยสร้างการจดจำและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความงดงามของจังหวัดบึงกาฬมากขึ้น
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รวบหนุ่มใหญ่ส่งยาเสพติดผ่านขนส่งเอกชนทั้งยาอี และแฮปปี้วอเตอร์ /จับ 2 ผัวเมียค้ายาบ้า 44,158 เม็ดยึดปืนสั้น 2 กระบอกเลื่อยโซ่ยนต์ 2 เครื่อง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.กำพล บัวจันทร์ สว.กก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม)ประสงค์รางวัลสินบนนำจับว่ามี นายบุญมี ญวน แปลง อายุ 59 ปี ราษฎรบ้านกลาง บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 8 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยจะมีการลักลอบน้ำยาบ้าและยาเสพติดจากบริเวณริมแม่น้ำโขงมาส่งต่อให้ลูกค้าเป็นประจำ ทั้งส่งไปขายต่อทางไปรษณีย์ขนส่งทั้งของรัฐและเอกชน ยาบ้าและยาเสพติดภายในตัวอำเภอเมืองจังหวัดบึงกาฬ และมักมีวัยรุ่นมามั่วสุมเสพยาเสพติดอยู่ประเป็นประจำที่บริเวณบ้านเลขที่ 280 หมู่ที่ 11 ตำบลชัยพร อำเภอเมือง ซึ่งเป็นบ้านที่นายบุญมีเช่าพักอาศัยอยู่ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบเพื่อจับกุม จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา รอง ผบก.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ทราบ และได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ สนธิกำลังกับว่าที่ พ.ต.อ. จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.บึงกาฬ พ.ต.ท.กฤษฏิ์ ศรีหาบุญทัน สว.ส.ทล.3กก.4 บก.ทล.นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว

พบนายบุญมี หรือมี ญวนแปลง นั่งอยู่บริเวณบ้าน จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้น จึงแสดงกิริยาท่าทางตกใจคล้ายกับคนมีสิ่งของผิดกฎหมาย จึงสอบถามว่านำพัสดุอะไรไปส่งและนำไปส่งที่ใดจากนั้น นายบุญมี หรือมี ได้ยอมรับสารภาพว่า ใต้รับการว่าจ้างจากท้าวยา ชาว สปป.ลาว เป็นเงินจำนวน 3,000 บาท ให้นำกล่องกระดาษ จำนวน 4 กล่อง ไปส่งให้ลูกค้าของท้าวยาตามที่อยู่ที่ท้าวยาส่งมาให้ทางโปรแกรม Facebook Messenger ตนจึงนำกล่องพัสดุดังกล่าวไปส่งที่ร้านรับจัดส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่ง สาชาชัยพร หมู่ที่ 11 ตำบลชัยพร จึงพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบกล่องดังกล่าวทั้ง 4 กล่อง เมื่อไปถึงร้านรับจัดส่งพัสดุดังกล่าว พบของกลางสำคับที่ 2-5 กล่องกระดาษ จำนวน 4 กล่อง แยกเป็น กล่องกระดาษ ขนาดใหญ่ จำนวน 2 กล่อง กล่องกระดาษ ขนาดกลาง 1 กล่อง ,กล่องกระดาษ ขนาดเล็ก 3 กล่อง จึงทำการตรวจสอบภายในกล่องกระดาษ ทั้ง 4 กล่อง

พบภายในกล่องขนาดใหญ่ จำนวน 2 กล่อง มีซองอาหารเสริมคอลาเจนยี่ห้อ คูมิโกะสีชมพู ซุกซ่อนอยู่ภายใน รวม 410 ซอง กล่องขนาดกลาง จำนวน 1 กล่อง พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นก้อนสีขาวซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 2 ถุง ซึ่งเป็นถุงยาอี และกล่องขนาดเล็ก จำนวน 1 กล่อง พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นก้อนสีน้ำตาลดำ ซุกช่อนอยู่ในถุงพลาสติกใสจำนวน 1 ถุง ซึ่งเป็นยาอีเชนกัน น้ำหนักรวม 3 กิโลกรัมกว่าๆ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง นำตัว นายบุญมี หรือมีฯ พร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ กก.สส.ก.จว.บึงกาฬ ตรวจสอบปัสสาวะเบื้องต้นเพื่อหาสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีน โดยความยินยอมของ นายบุญมี หรือมีฯ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นมีผลบวก นายบุญมี หรือมีฯ ให้การว่าตนได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้จริง และเคยรับจ้างส่งของจากชาวลาวมาแล้ว 5 ครั้ง ที่ผ่านมาไม่มีปัญหา พึ่งเคยถูกจับครั้งนี้ครั้งแรก

จากนั้นได้นำตัวอย่างน้ำปัสสาวะของ นายบุญมี หรือมีฯ ส่งตรวจที่โรงพยาบาลบึงกาฬ ปรากฏผลเป็นบวก ตามเอกสารที่แบบมาชั้นจับกุม จึงแจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้นายบุญมี หรือมีฯ ทราบว่าจะต้องถูกจับกุม ตัวในข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท (ยาบ้าหรือเมทแอฟเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ,มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย” ให้ นายบุญมี หรือมีฯ ทราบแล้ว ให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหาจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

จับ 2 ผัวเมียค้ายาบ้า 44,158 เม็ดยึดปืนสั้น 2 กระบอกเลื่อยโซ่ยนต์ 2 เครื่อง

เมื่อเวลา 11.00 วันที่ 24 ต.ค.หน้าห้องสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา รรท.ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ว่าที่ พ.ต.อ.จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.สืบพงษ์ วิสุตรธนาวิทย์ รอง ผกก.ตม.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.กรชน์ แสงกนึก รอง ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ ปฏิบัติราชการ สภ.เมืองบึงกาฬ
พ.ต.ท.นิคสันต์ ดียา สว.สส.สภ.เมืองบึงกาฬ ว่าที่ พ.ต.ท.รชต สว่างจิตต์ สว.ตม.จว.บึงกาฬ แถลงข่าวจับกุม 2 ผัวเมียค้ายาบ้า ได้ของกลางหลายรายการ คือ นายนัทวัฒน์ หรือนัท ศรีเพ็ญรัตน์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.ดลฤทัย หรือปาล์ม ศรีจันทร์ อายุ 20 ปี ภายในบ้านพักในสวนทุเรียน เขตบ้านคำภู ม.5 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.วัลลภ ภูผานี รอง สว.(ป).สภ.เมืองบึงกาฬ ,ร.ต.ต.สุวิทย์ เย็นวัฒนา ,ด.ต.สุริยนด์ แก้วนารี,ด.ต.บัณฑิต พระราช ,ด.ต.ไมตรี ภูเป็ว ,ส.ต.อ.ชาณุพันธ์ ไขมีเพ็ชร ,ส.ต.ท.ปฏิพัทธ์ เทียมตามา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดบึงกาฬ ว่าที่ร.ต.ต.ประวิทย์ คำแข็งขวา รอง สว.ตม.จว.บึงกาฬ,ค.ต. คชาชาญ ทิพยนตรี,ค.ต.ณัทพสิษฐ์ ศิริลักษณ์ ผบ.หมู่ ตม.จว.บึงกาฬ ตรวจค้นจุดพบของกลาง จุดที่ 1 พบยาบ้า 1,200 เม็ด พบซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายลายตารางสีดำเทา วางอยู่ด้านข้างที่นอนบ้านพักในสวนของผู้ต้องหา จุดที่ 2 พบยาบ้า 800 เม็ด พบซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายลายตารางสีดำเทา วางอยู่ด้านข้างที่นอนภายในบ้านพักของผู้ต้องหา จุดที่ 3 พบยาบ้า 158 เม็ด พบซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายลายตารางสีดำเทา วางอยู่ด้านข้างที่นอน จุดที่ 4 พบยาบ้าจำนวน 7 แพ็ค ห่อหุ้มด้วยกระดาษเทียนไข

มีอักษรภาษาอังกฤษ Y-1 ภายในห่อหุ้มด้วยกระดาษสีขาว มีอักษรภาษาอังกฤษ A ภายในมียาบ้าจำนวน 10 ถุง ยาบ้า 1 ถุง มีจำนวน 200 เม็ด นับรวมยาบ้าได้ 42,000 เม็ด ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกหูหิ้วสีฟ้า ซุกซ่อนอยู่ภายในพุ่มไม้ภายในสวนทุเรียน รวมยาบ้าของกลางจุดที่ 1-4 ทั้งหมด จำนวน 44,158 เม็ด พบอาวุธปืนสั้นชนิดประดิษฐ์ ใช้กระสุนขนาด จุด380 มม. จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด จุด380 จำนวน 3 นัด และกระสุนปืนขนาด จุด 22 จำนวน 15 นัด แต่ไม้พบอาวุธปืน นอกจากนี้ยังพบเลื่อยโซ่ยนต์ยี่ห้อ Black Bull สีเขียว ความยาวบาร์ 25 นิ้ว พร้อมใช้งาน จำนวน 1 เครื่อง และเลื่อยโซ่ยนต์ยี่ห้อ Arto สีส้ม ความยาวบาร์ 25 นิ้ว พร้อมใช้งาน จำนวน 1 เครื่อง วางอยู่บริเวณใต้ถุนบ้านพักของผู้ต้องหา พบโทรศัพท์ยี่ห้อ เรียลมี่ สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของนายนัท ผู้ต้องหาที่ 1 โทรศัพท์ยี่ห้อ Vivo สีแดง-ดำ จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของน.ส.ปาล์ม ผู้ต้องหาที่ 2 พบกระดาษบันทึกรายการซื้อขายยาเสพติด จำนวน 1 ฉบับ และเงินสดไทย จำนวน 10,800 บาท ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด (ตรวจยึดตามพรบ.ยาเสพติดฯ) พบกระเป๋าสะพายข้าง สีดำ-เทา จำนวน 1 ใบอยู่บริเวณภายในบ้านพักในสวนทุเรียนของผู้ต้องหา ในเขตบ้านคำภู ม.5 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่ายาบ้าที่พบอยู่ข้างที่นอนเป็นของตนจริงและก็ได้ร่วมกันเสพกับแฟนสาว ส่วนยาบ้าที่พบอยู่ในสวนตนพึ่งสั่งซื้อมาเมื่อคืนแฟนสาวไม่รู้เรื่องด้วย และตนยังไม่ได้จ่ายเงินค่ายาบ้าที่สั่งมาใหม่และก็ยังไม่ได้นำไปจำหน่ายที่ไหน ตำรวจเข้ามาตรวจค้นได้เสียก่อน ทั้งอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนและเลื่อยโซ่ยนต์ก็เป็นของตนซื้อไว้เพื่อตัดแต่กิ่งต้นโค่นต้นไม้ภายในสวน

โดยแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1 1.ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า) โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยผิดกฎหมาย 2.จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า) โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย และกระทำเพื่อการค้า 3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า )โดยผิดกฎหมาย 4.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 5.มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ผู้ต้องหาที่ 2 1.ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า) โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยผิดกฎหมาย 2.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า )โดยผิดกฎหมาย
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326