เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีวางพวงมาวันทหารผ่านศึก 2568 องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เชียงราย สมาคมทหารผ่านศึกเชียงรายร่วมพิธีสดุดีวางพวงมาลา

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2568 ที่ผ่านมา นายศรีเนตร ธนาคำ นายกสมาคมทหารผ่านศึกและทหารกองหนุนจังหวัดเชียงราย นำคณะกรรมการบริหารสมาคมฯสมาชิกสมาคม ณ เข้าร่วมวางพวงมาลา สดุดีแก่วีระชนทหารผู้กล้า

ณ ลานผู้กล้าอนุสาวรีย์ ผู้เสียสละ ค่ายเม็งรายมหาราช มณฑล ทหารบกที่ 37จังหวัดเชียงราย เนื่องในวันทหารผ่านศึกประจำปี พ.ศ2468 เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีบรรดาเหล่าวีระชนผู้กล้าที่เสียสละเลือดเนื้อ ด้วยกายและใจทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย รักษาผืนแผ่นดินไทยคงอยู่ให้ลูกหลาน มาตราบเท่าทุกวันนี้ ตลอดบำรุงขวัญและกำลังใจทหารผ่านศึกทุกนายที่ประจำการ

และปลดประจำการ ในวันดังกล่าวนางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางสุวาภรณ์ จิตต์พลีชีพ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นำคณะกรรมการ-สมาชิกเหล่ากาชาติกลุ่ม4จังหวัดเชียงราย ร่วมวางพวงมาลารำลึกถึงวีรชนผู้กล้าด้วย.

ธนกฤต วรรมณีผู้สื่อข่าวเชียงรายรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “ชัชชาติ”ผู้ว่า กทม.ลงพื้นที่สวนสาน เขตคลองสาน สำรวจวางแผนพัฒนาเพื่อประชาชน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยสำนักงานเขตคลองสาน โดยนายสรสิช เหลืองรุ่งเกียรติ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน

มอบหมายให้ นางปาณิสรา เนตรธารธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ และคณะกรรมการชุมชนช่างนาค – สะพานยาว ร่วมลงพื้นที่สวนสาน บริเวณซอยโรงเกลือ เพื่อวางแผนแนวทางในการพัฒนาสวนสาน ให้เป็นสวนสาธารณะและลานกีฬาอเนกประสงค์ให้ประชาชนได้ใช้สวนสาธารณะในการผ่อนคลายและได้ใช้ในการทำกิจกรรมร่วมกันในชุมชน

แนวความคิดในการออกแบบเป็นการเชื่อมโยงคนในชุมชนให้เข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกัน ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบโจทย์โดนใจคนในพื้นที่ และยังทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ของย่านเชื่อมต่อประวัติศาสตร์ในอดีตสู่ปัจจุบัน จากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ โดย ภายใต้แนวคิดสวนชุมชนขนาดเล็ก เพื่อใช้จัดกิจกรรมในชุมชน พื้นที่ภายในสวน ประกอบด้วยทางเดินวิ่ง สนามเด็กเล่น พื้นที่ออกกำลังกาย สวนสุขภาพ ลานกีฬา รวมถึงอนุรักษ์ต้นไม้ขนาดใหญ่ภายในสวน อาทิ ต้นไทร ต้นจามจุรี

ซึ่งเดิมเป็นที่ดินรกร้างและมีการลักลอบทิ้งขยะ สำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตคลองสาน จึงมีแผนดำเนินการปรับปรุงที่ดินรกร้างริมแม่น้ำเจ้าพระยาข้างโกดังโรงเกลือแหลมทอง ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 5 พลิกฟื้นคืนสู่พื้นที่สาธารณะ โดยได้แนวคิดจากการดึงข้อดีของพื้นที่ย่านคลองสาน

ซึ่งในอดีตพื้นที่ฝั่งธนบุรีจะมีคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาหลายคลองสานต่อกัน มีเรือสินค้ามาจอดเทียบท่าขนถ่ายสินค้าเข้าโกดังในบริเวณนี้ นับว่าเป็นการเปลี่ยนจากพื้นที่รกร้างเดิม ซึ่งชุมชนขาดปฏิสัมพันธ์กัน ให้กลายเป็นพื้นที่สวนสาธารณะสำหรับทุกคน

ภาพ/ข่าว โดย นาย วีระพล แซ่เล้า ผู้สื่อข่าว
เด​วิท​ ​โชคชัย​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าวถนนสายวัฒนธรรมชาติพันธุ์ 4 แผ่นดิน“ Bueng Kan Craft : สืบศิลป์ ถิ่นอีสาน

แชร์เนื้อหานี้

ค่ำวันที่ 4 ก.พ.68 ที่บริเวณเฮือนบึงกาญจน์ไชยบุรี (จวนผู้ว่าหลังเก่า) อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดแถลงข่าว กิจกรรมมหกรรมถนนสายวัฒนธรรมชาติพันธุ์ 4 แผ่นดิน Bueng Kan Craft สืบศิลป์ ถิ่นอีสาน ภายใต้โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชีวิตอารยาธรรมลุ่มน้ำโขง โดยมีนายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ประธานการแถลงข่าว

พร้อมด้วยอาจารย์สัติยะพันธ์ คชมิตร รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมแห่งบึงกาฬ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีนายเฉลิมเกียรติ แผนกิจเจริญ พัฒนาจังหวัดบึงกาฬ นายณรงค์ศักดิ์ คุรุพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ และนางพัชรนันท์ แก้วจินดา วัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ร่วมในการแถลงข่าว มีหัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ และประชาชนร่วมงานแถลงข่าว

นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผวจ.กล่าวว่า จากคำนิยมที่ ว่า บึงกาฬ สร้างเมือง สร้างคน สร้างรายได้ ประกอบกับรัฐบาล ได้ขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power เป็นนโยบายเรือธง (Flagship) ของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ เพื่อยกระดับและพัฒนาความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ มีเป้าหมาย 2 ประการ คือ 1) การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) และ 2) การทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน

การใช้ Soft Power เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นประเด็นที่ทุกภาคส่วน ให้ความสนใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยถือเป็นเครื่องมือหรือกลไกสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ที่ผ่านมารัฐบาล ให้ความสำคัญกับการผลักดันทุนทางวัฒนธรรม ที่มีศักยภาพ
ให้เป็น Soft Power ของไทย ผ่านนโยบาย 5F ประกอบด้วย Food Film Fashion Fighting และ Festival ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย 5F ผ่านการจัดทำโครงการและแผนงานภายใต้ภารกิจของแต่ละหน่วยงาน

นางพัชรนันท์ แก้วจินดา วัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ได้กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานด้านวัฒนธรรม ที่มี 4 นโยบายขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างสังคมเข้มแข็ง สนับสนุนเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย “ทุน ระบบนิเวศ คน สินค้าและบริการ” ซึ่ง 1 ใน 4 คือ “ทุน” ที่มุ่งส่งเสริมสร้างสรรค์ ผลักดันทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ ท่านมีแนวการส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาคนและสังคมบนฐานวัฒนธรรมของจังหวัดบึงกาฬ สู่ความยั่งยืน และสอดคล้องกับคำนิยมที่ว่า “บึงกาฬ สร้างเมือง สร้างคน สร้างรายได้”

สำหรับกิจกรรมจะมีทุกๆวันศุกร์ โดยกำหนดเริ่มวันศุกร์ ที่ 13 ก.พ.68 สิ้นสุดวันศุกร์ ที่ 21 มี.ค.68 ณ บริเวณเฮือนบึงกาญจน์ไชยบุรี (จวนผู้ว่าหลังเก่า) โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ได้บูรณาการนำเครือข่าย ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในพื้นที่ ในการจัดกิจกรรมถนนสานวัฒนธรรมชาติพันธุ์ 4แผ่นดิน เช่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม การออกร้านสาธิต/จำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมการแสดงผลงานด้านศิลปะ ของเครือข่ายในพื้นที่ และที่สำคัญ คือการได้เชิญภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มาบูรณาการร่วม อาทิเช่นสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ นำสินค้าธงฟ้ามาจำหน่าย

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ นำสินค้าทางการเกษตรมาจำหน่าย สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานบึงกาฬ แนะนำอาชีพ สำนักงานพัฒนาชุมชน ได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนสินค้าOTOP มาจำหน่ายและสาธิตการผลิตสินค้า การจัดนิทรรศการจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งเสริมยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน และกิจกรรม Buengkan Craft วิทยาลัยนวัตกรรมแห่งบึงกาฬ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี นักศึกษามาร่วมในกิจกรรม และสนับสนุนบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อรองรับความเติบโตของจังหวัดบึงกาฬ

หากมีผู้สนใจนำร้านค้ามาจำหน่ายติดต่อได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ โทร.042491785 หรือแฟนเพจ Facebook สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ตามวันเวลาราชการ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รางวัลที่มาจากการโหวตของคนทั้งประเทศ มีคนโหวตสูงที่สุดในระบบแอปพลิเคชัน Prompt Post ของ บ.ไปรษณีย์ไทย

แชร์เนื้อหานี้

รางวัลที่มาจากการโหวตของคนทั้งประเทศ มีคนโหวตสูงที่สุด มากที่สุด ในระบบแอปพลิเคชัน Prompt Post ของ บ.ไปรษณีย์ไทย โดยมีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) สนับสนุนการทำโพล กับ 6 สาขารางวัล ช่วง 18 พ.ย. -31 ธ.ค.67 แฟนคลับแต่ละสาขา โหวตหนักจัดชุดใหญ่กัน ช่วงสัปดาห์สุดท้าย

โดยหัวข้อการโหวต F 1 – F 5 “หน่วยงานภาครัฐ” ที่เข้ารอบสุดท้าย TOP 5 จากการเสนอชื่อผ่าน SMS เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. 67 คือ F1-กรมที่ดิน, F2-กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, F3-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , F4-กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ F5-การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่ง ตลอด 5 สัปดาห์แห่งการโหวต ทุกหน่วยงานต่างมีคนไทยส่งกำลังใจสนับสนุนชื่นชมโหวตมาตลอด บ้างก็สลับตำแหน่งขึ้นนำเป็นที่ 1 แต่สัปดาห์สุดท้าย มีการให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก

ท้ายสุดหน่วยงานรัฐที่มีผลโหวตสูงสุด คือ “กรมที่ดิน” ซึ่งการมอบรางวัลมี คุณดำรง พุฒตาล ได้ให้เกียรติขึ้นมาประกาศรางวัล และ ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบริการดิจิทัล บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มอบดอกไม้ให้กับ คุณพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งได้รับรางวัล “สุดยอดหน่วยงานภาครัฐแห่งปี 2024”

บุญเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถและซ่อมแชมถังเก็บน้ำ #อานิสงส์ชีวิตรุ่งโรจน์ทรัพย์เพิ่มพูน

ณ วัดศรีกะอาง จ.นครนายก วัดสวย บนยอดเขา มีพระพุทธชินราชจำลองใหญ่ที่สุดในไทย

ขณะนี้พระอุโบสถใหญ่บนยอดเขา ปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา กระเบื้องหลังคาแตกหักทำให้น้ำรั่วซึมลงมา และถังเก็บน้ำชีเมนต์ก็มีรอยรั่วซึมหลายจุด จึงจำเป็นต้องปฏิสังขรณ์ซ่อมแซม ขอเชิญชวนทุกท่านร่วม #เปลี่ยนกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถและซ่อมแชมถังเก็บน้ำ

📍 ธนาคารกสิกรไทย
📍 เลขที่บัญชี: 131-3-83390-5
📍 ชื่อบัญชี: มูลนิธิพุทธภูมิธรรม

ส่งหลักฐานการร่วมบุญมาได้ที่

Line Official Account : มูลนิธิพุทธภูมิธรรม กด⬇️
https://lin.ee/VDGS28X

อุโบสถที่สร้างอยู่บนยอดเขา เป็นศิลปะที่มีความผสมผสานระหว่างไทยและจีน โดยขอบประตูและหน้าต่างของอุโบสถ จะตกแต่งด้วยชามสมัยโบราณที่ชาวบ้านนำมาถวายวัดเมื่อครั้งในอดีต ภายในพระอุโบสถจะประดิษฐานพระพุทธรูปปางพิชิตมาร ซึ่งมีพระนามของสมเด็จพระสังฆราช จารึกไว้

อานิสงส์การร่วมบุญเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถ นับเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะพระอุโบสถคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน การร่วมบุญบูรณะซ่อมแซมให้คงสภาพดีงาม จึงเปรียบเสมือนการสร้างเกราะคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่สืบไป ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญนี้ ย่อมได้รับอานิสงส์มากมาย ดังนี้

  • ในชาตินี้: มีชีวิตราบรื่น ร่มเย็นเป็นสุข แคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ กิจการงานเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีชื่อเสียง เกียรติยศ เป็นที่รักใคร่นับถือของคนทั่วไป มีสติปัญญาเฉียบแหลม สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว
  • ในชาติหน้า: เกิดในตระกูลสูง มีรูปร่างงดงาม ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่รักของคนทั่วไป มีสติปัญญาดี มีโภคทรัพย์สมบัติมากมาย มีบริวารพร้อม พบพระพุทธศาสนาได้โดยง่าย บรรลุธรรมได้โดยเร็ว
  • อานิสงส์สูงสุด: นำพาให้เข้าถึงพระนิพพาน ซึ่งเป็นบรมสุข อันเป็นจุดหมายสูงสุดของชาวพุทธ

อานิสงส์การซ่อมแซมถังเก็บน้ำวัด มีมากมายเหลือคณานับ เพราะน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต และการมีน้ำใช้ในวัด ยิ่งส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาให้ดำเนินไปได้ด้วยดี ทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่พระสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรม อานิสงส์โดยย่อ มีดังนี้

  • อานิสงส์ด้านการมีสุขภาพดี: การมีน้ำสะอาดไว้ใช้ในวัด ช่วยให้พระสงฆ์และผู้คนมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากการใช้น้ำไม่สะอาด ส่งผลให้มีอายุยืนยาว ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
  • อานิสงส์ด้านความสะดวกสบาย: ถังเก็บน้ำที่ใช้งานได้ดี ช่วยให้มีน้ำใช้เพียงพอต่อความต้องการ ไม่ต้องลำบากในการหาน้ำ ทำให้การประกอบกิจวัตรประจำวันในวัดเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
  • อานิสงส์ด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนา: น้ำที่สะอาดใช้ในกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ เช่น การทำความสะอาดศาสนสถาน การประกอบพิธีกรรม การถวายน้ำ เป็นต้น ทำให้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
  • อานิสงส์ด้านจิตใจ: การทำบุญซ่อมแซมถังเก็บน้ำวัด เป็นการทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ เป็นการเสียสละเพื่อส่วนรวม ทำให้เกิดความอิ่มเอมใจ เป็นสุขทางใจ และเป็นบุญกุศลติดตัวไปในภพหน้า
  • อานิสงส์ด้านทรัพย์สิน: การทำบุญด้วยน้ำ เชื่อว่าจะทำให้ไม่ขาดแคลน มีทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ไม่ลำบากเรื่องการเงิน เพราะน้ำเปรียบเสมือนทรัพย์สมบัติ
  • อานิสงส์ในชาติหน้า: เชื่อกันว่าผู้ที่ทำบุญเกี่ยวกับน้ำ จะได้เกิดในภพภูมิที่ดี มีผิวพรรณผ่องใส ไม่ลำบากเรื่องการกินอยู่ และมีบริวารมากมาย

ขอโมทนาสาธุการ😊🙏

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ชุดสืบ ภ.จว.มุกดาหาร ประเดิมยุทธการ “Seal Stop Safe” จับยาบ้ารุ่นโบว์แดง 3.2 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา​1​ราย และรถยนต์ต้องสงสัย

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568​ พลตำรวจตรี กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และ พันตำรวจเอกไพโรจน์ ไทยพุทรา รองผู้บังคับการฯรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร

ร่วมกันแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop S atafe ในพื้นที่ชายแดนตามนโยบายรัฐบาล สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด โดยตรวจยึดยาบ้าได้ 3,220,000 เม็ด ผู้ต้องหา 1 คน พร้อมรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่ง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มกราคม พันตำรวจเอก วิจิตร บุญวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบลำเลียงยาบ้าเข้ามาในพื้นที่อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 2034 จากสามแยกโคกสุวรรณ อำเภอเมืองมุกดาหาร ไปทางอำเภอคำชะอี โดยใช้รถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นวิช สีดำ ทะเบียน กฉ 2195 มุกดาหาร

ในการขนยาเสพติดและมีรถยนต์กระบะฟอร์ด สีเขียว ติดทะเบียน ฒฉ 4702 กรุงเทพมหานคร เป็นรถนำทาง จึงจัดวางกำลังตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง กระทั่งเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า และรถยนต์กระบะฟอร์ดตรงตามที่ได้รับแจ้งจึงขับติดตามไปและได้แสดงตัว ส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่รถยนต์กระบะฟอร์ดได้ขับหลบหนี

ส่วนรถยนต์เก๋งโตโยต้าได้จอดแล้วขับรถถอยหลังเพื่อจะหลบหนีอย่างรวดเร็วเป็นเหตุให้ชนเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าอู่มดเจริญทรัพย์ บ้านดานคำ จากนั้น คนขับรถได้เปิดประตูแล้ววิ่งหลบหนี แต่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมได้ชื่อนายโชค (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เป็นคนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

จากการตรวจค้นภายในรถพบกระสอบสีดำจำนวน 10 กระสอบ เมื่อเปิดออกดูพบห่อยาบ้าสีเหลือง มีสัญลักษณ์ โบว์แดง 999 ประทับที่อยู่ที่หน้าห่อรวม 322 ห่อ ภายในบรรจุยาบ้ารวมประมาณ 3,220,000 เม็ด

จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมกับรถยนต์โตโยต้า และควบคุมตัวนายโชค นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป

สืบมุกดาหารจับยาบ้ารุ่นโบว์แดง #ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มอบเกียรติบัตร สื่อมวลชน ในโครงการประชาสัมพันธ์การจัดการปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ปีงบประมาณ 2568

แชร์เนื้อหานี้

เครือข่ายร่วมนักประชาสัมพันธ์8 #จังหวัดภาคเหนือตอนบน #เข้มสื่อทุกชนิด #ทั้งวิทยุ #โทรทัศน์ #แพลตฟอร์มข่าวสื่อออนไลน์ร่วมพลัง ปุกจิตสำนึกประชาชน แก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5

ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต3 มอบเกียรติบัตรให้กับสื่อมวลชนผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏบัติการเครือข่ายร่วมบูรณาการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองPM2.5ถายใต้โครงการประชาสัมพันธ์การจัดการปัญหาฝุ่นละอองPM2.5ประจำปีงบประมาณ2568 ระหว่างวันที่3-4ก.พ2568 ณ.โรงแรมเมอเวนพิค สุริวงศ์ โฮเต็ล จังหวัดเชียงใหม่ หลังเสร็จสิ้นการประชุม

เมื่อเวลา15.00น.วันที่ 4กุมภาพันธ์ 2568 นางเหมือนใจ วงศ์ใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เป็นประธาน กล่าวปิดโครงการประชุมฯหลังจากได้ดำเนินการมาครบตามเวลาที่กำหนด 2 วัน ทั้งนี้ได้กล่าวต่อผู้เข้าร่วมการประชุมถึงการสร้างเครือข่ายร่วมบูรณาการฯว่า”ขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมนำวิธีการ และ

ความรู้ไปวางแผนการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์ อย่างถูกต้องรวดเร็ว เพื่อร่วมรณรงค์เป็นเครือข่ายศนย์JIC จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้กรณีอุทกภัยที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโมเดลเชียงใหม่ ส่งข้อมูลข่าวสารตรงต่อประชาชนใหรับรู้ เตือนภัยล่วงหน้าเพื่อรับมือภัยต่างๆ สามารถป้องกันและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตทรัพย์สินประชาชน “

สำหรับภาคเช้าในวันที่ 2ของการการประชุม เวลา08.00น.คณะเดินทางไปศึกษดูงานหมูบ้านต้นแบบด้านการรักษาป่าชุมชนปลอดการเผา 100%บ้านต้นผึ้งหมู่ที่7ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยคณะได้รับการฟังการบรรยายจากผู้ใหญ่บ้านนางกัญญารัตน์ ธรรมเสน เป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับ หมู่บ้านสันต้นผึ้งและนำคณะเดินทางไปยังป่าชุมชน เพื่อศึกษารูปแบบ การดูแลป่าชุมชน

ซึ่งนำเสนอวิธีการจัดการป่าในรูปแบบ ภูมิปัญญาชาวบ้าน อาทิการใช้กุสโลบายในการรักษาป่า มีการบวชป่าเป็นต้น ตลอดไม่เผาป่า แต่มีการนำใบตองตึงหรือใบตองพลวง นำมาเป็นวัสดุทำภาชนะใส่อาหาร ด้วยการขึ้นรูปด้วยเครื่องขึ้นรูปภาชนะ

ซึ่งเป็นวิธีการใช้ประโยชน์จากป่าที่ชาวบ้านดูแลลดวัสดุเชื้อไฟและลดปัญหาการเกิดฝุ่นPM2.5ไปอีกหนึ่งวิธี สำหรับเครือข่ายสื่อมวลชน ที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นสื่อที่จะเป็นผู้นำข้อมูลข่าวสารที่ได้รับส่งตรงถึงมือประชาชนให้รับทราบอย่างมีประสิทธิภาพ.

ธนกฤต #วรรณมณี #รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯชลบุรี โชว์วิสัยทัศน์ “แนวทางการยกระดับจังหวัดชลบุรีสู่ จังหวัดดิจิทัล”

แชร์เนื้อหานี้
 วันที่ 2 ก.พ.68 ที่ห้องประชุม โรงแรมคริสตัล พาเลส พัทยา ถ.พัทยา-นาเกลือ เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้เกียรติเดินทางมาบรรยายพิเศษเรื่อง "แนวทางการยกระดับจังหวัดชลบุรีสู่ จังหวัดดิจิทัล" โดยมี รศ.ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ คณาจารย์และนักศึกษาคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมรับฟังบรรยายฯ ด้วยคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จัดโครงการศึกษาดูงานการเตรียมความพร้อมสู่จังหวัดดิจิทัล ในระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2568 ที่จังหวัดชลบุรี ให้แก่นักศึกษาในหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต เพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้และประสบการณ์ตรง 

โดยมีกิจกรรม อาทิ เยี่ยมชม EEC Automation Park มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี รับฟังการบรรยายเรื่อง “การยกระดับปรับความก้าวหน้าประเทศและบุคลากรในเขต EEC” โดย ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) รับฟังบรรยายจากผู้อำนวยการ EEC Autornation Park เรื่อง “การยกระดับอุตสาหกรรมยุค 4.0 และการสร้างบุคลากร + การพัฒนายุคใหม่ พร้อมดูงาน Automation + Smart Factory โดย ดร.ไพบูลย์ ลิ้มปิติพานิชย์ ผู้อำนวยการ EEC Autornation Par

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “สราวุธ” แห่ขอบคุณชาวหัวหินหลังรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.ประจวบฯ อีกสมัย

แชร์เนื้อหานี้


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.พ.68 นายสราวุธ หรือ “เฮียไล้” ลิ้มอรุณรักษ์ ว่าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ประจวบฯ พร้อมด้วย นายทวีสิน หรือ บอย พัฒนาภิรัส ว่าที่ ส.อบจ.เขต 2 อ.หัวหิน ได้ขึ้นรถแห่รอบเมืองหัวหินและบริเวณตลาดสดฉัตร์ไชยในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน

เพื่อกล่าวขอบคุณชาวหัวหินทุกคะแนนเสียงที่ไปลงเลือกตั้ง อบจ.ประจวบฯ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ นายสราวุธได้รับชัยชนะมีคะแนนท่วมท้นถึง 118,136 คะแนน ได้รับเลือกเป็น นายก อบจ.ประจวบฯ อีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายสราวุธ กล่าวว่า ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวประจวบฯ ทุกคนที่ได้ไปเลือกตั้งใช้สิทธิของตัวเองได้ครบถ้วน ขอบคุณอีกครั้งที่เลือกพวกเราในทีมบริหารชุดเก่ามา ซึ่งหลักๆ ก็จะประกอบด้วยผมเป็นนายกฯ และสมาชิกชุดเก่าเข้ามา ก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องจริงๆ ที่เลือกพวกเราให้เข้ามาบริหารต่อ

เพื่อจะได้สานงานที่เราทำไว้ให้เกิดประโยชน์กับพ่อแม่พี่น้องมากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกพอใจกับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ประชาชนก็มีการมาใช้เสียงพอประมาณ แต่เนื่องจากว่าเหตุต่างๆ เช่น ตรงกับวันเสาร์ซึ่งไม่เหมาะกับการเลือกตั้ง และการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง ความไม่สะดวกในวันดังกล่าวด้วย ก็ทำให้จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ลดจำนวนไปมากกว่าปีที่แล้ว ก็เลยทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ก็สมบูรณ์ได้ระดับหนึ่ง


“การเลือกตั้งในครั้งนี้มีสมาชิกบางท่านที่ไม่สามารถเข้ามาได้ แต่ก็มีสมาชิกหลายๆ ท่านที่เป็นท่านใหม่เข้ามาก็ขอแสดงความยินดี ผมมีความมั่นใจว่าสมาชิกท่านใหม่ที่สามารถฝ่าฟันเข้ามาได้เป็นเพราะประชาชนได้เลือกแล้วและมีไฟในการร่วมกันพัฒนากับพวกเราได้ หลังจาก กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ทุกคนก็พร้อมที่จะร่วมกันทำงานหลัก ๆ

ที่เราได้ทำไว้เมื่อครั้งที่แล้ว ก็จะเน้นในเรื่องสาธารณสุข เรื่องดูแลจำนวนคนให้มากขึ้น แล้วก็เรื่องการท่องเที่ยวซึ่งเป็นการกระตุ้นรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้มีรายได้มากขึ้น ส่วนเรื่องสาธารณูปโภคในแหล่งทุรกันดารเราก็ยังไม่ทอดทิ้ง เราก็ยังทำอยู่ หลักๆ ก็ทำประมาณ 3 เรื่อง ส่วนเรื่องอื่นก็เป็นภารกิจที่เราต้องดำเนินการอยู่แล้วให้ครบถ้วนตามนโยบายที่เราตั้งไว้ครับ” นายสราวุธ กล่าวในตอนท้าย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /คึกคัก!! บรรยากาศ การเปิดรับสมัคร นายกเทศมนตรีตำบลเขาฉกรรจ์ วันแรก

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศ การรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก เทศมนตรีตำบลเขาฉกรรจ์ ณ หอประชุมเทศบาลตำบลเขาฉกรรจ์ ชั้นบน4 เบอร์ ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีตำบลเขาฉกรรจ์ (วันแรก)นายประเสริฐ ไม้งาม เบอร์ 1 พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว เบอร์ 2 นายชานันท์ ประกา เบอร์ 3 นายปัญญา บุญแจ้ง เบอร์ 4

ทางด้าน พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว อดีต รอง ผบก.จ.สระแก้วได้เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลเขาฉกรรจ์ ได้ (หมายเลข 2) โดยมีภรรยาพร้อมครอบครัว และพี่น้องประชาชนมาให้กำลังใจอย่างล้นหลามโดยจะมีการเลือกตั้งวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 08.00 – 17.00 น. อย่าลืมไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันนะครับพี่น้อง…!!!

ขอขอบคุณภาพ : Khaochakan Subdistrict

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ศึกมวยไทยการกุศล ณ.วัดบางปร้ว ต.ศรีจุฬา อ.เมือง จ.นครนายก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ศึกมวยไทยการกุศล จัดโดย สมพงษ์ ทวีวงษ์+มรกตแดง เพชรบางปร้ง+วัชระชัย เพชรบางปร้ง ประธานเปิดการแข่งขันชกมวย

นาย ปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร เลขานุการ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
และผู้มีเกียรติอีกหลายท่านให้เกียรติขึ้นคล้องพวงมาลัยให้กับนักมวย นาย สมชาย นุ่มพูล สมาชิกวุฒิสภา

นายบัญชา แก่นคลองแดง กำนัน ต.ศรีจุฬา นาย ประสงค์ ตรีเนตร์ รองนายก นาย บุณปลูก อบอวน

นาย สิทธิพร ภู่โต้ะยา ผู้ใหญ่ ม.11 นาย บรรจบ พวงดอกไม้ ผู้ใหญ่หมู่ 7 ศรีจุฬา
ประกบคู่มวยโดย ปุ้ย ปราจีน จัดมวยดีๆให้แฟนมวยได้รับชม

ณ.วัดบางปร้ว ต.ศรีจุฬา อ.เมือง จ.นครนายก
เอ.คนข่าวรายงาน