เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผช.รมต.กระทรวงทรัพยฯ.สิ่งแวดล้อมเข้าร่วมเวทีประชาคม รับฟังปัญหาฯพื้นที่ต.ท่าแฝก/ททท.น่านหารือประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว น่าน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 นายนราพัฒน์ แก้วทอง (ผู้ช่วยรัฐมนตรี)ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมตรีว่าการกระพรวงพรัพยากรรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมเวทีประชาคมรับฟังปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตำบลท่าแฝกโดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายกอบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน สอบต.แกนนำชุมชนและชาวบ้านเข้าร่วมเวที

ด้วยโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ตำบลท่าแฝก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพื้นที่อยู่บริเวณเหนือเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ห่างจาก
วัดอุตรดิตถ์ ๑๒๘ กิโลเมตร พื้นที่เป็นภูเขาปกคลุมด้วยป่าไม้มีลักษณะสูงชัน สลับชับชับช้อนกันไป ทิศ (ทิศตะวันตกและทิศตะวันออก)

โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมด ๔๐๘,๘๗๔ ไร่ เป็นพื้นที่ป่า ๘,๖๒๐ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๘๓ ของพื้นพื้นที่ มีเขตการปกครอง ๙ หมู่บ้าน ประกอบด้วย ม.๑ บ้าน งอมมด ม.๓ บ้านงอมสัก ม.๔ บ้านห้วยผึ้ง ม.๕ บ้านป่าทั้ง ม.๖ บ้านเด่นยาว ม.๗ บ้านวังน้ำต้น ห้วยไผ่ และ ม.๙ บ้านผาผึ้งน้อย มีราษฎรอยู่อาศัยรวม ๑,๕๐๙ ครัวเรือน ประชากร รวม ๔,๕๐๐ คน ราษฎร

ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินอยู่อาศัยและที่ทำกิน อยู่ในเขตที่ดินของรัฐ อาทิ ป่าสงวนฯ,อุทยานแห่งชาติ อนุรักษ์ฯ และมีที่ดิน สค.1 บางส่วนที่ไม่สามารถออกโฉนดได้ หน่วยงานในพื้นที่ประสบปัญหา พัฒนาด้านสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชนในพื้นที่ป่าไม้ รวมถึงการ พัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก อันมีผลกระทบต่อการดำรงชีพ และความเป็นอยู่ของราษฎรในตำบลท่าแฝกเป็นอย่างมาก

ผู้นำชุมชนท้องที่ท้องถิ่นตำบลท่าแฝก เครือข่ายชุมชน และประชาชนตำบลท่าแฝกในการ ตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมเวทีประชาคมรับฟังปัญหาสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ตำบลท่าแฝก โดยการสนับสนุนของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านอำภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการยกระดับ

คุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำบล ท่าแฝก ได้อย่างถาวรและยั่งยืนซึ่งนายนราพัฒน์ แก้วทองได้เปิดโอกาสให้แกนนำเสนอข้อมูลต่างๆเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ใขปัญหาต่อไป/

บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานน่าน ร่วมหารือแนวทางการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน

27 มกราคม 2568 ที่ร้านเฮือนรินน่าน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานน่าน ร่วมกับสื่อมวลชนจังหวัดน่านหารือแนวทางประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดน่านประจำปี 2568 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน มีแผนดำเนินการส่งเสริมการตลาด

ด้านการท่องเที่ยวร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม ในพื้นที่ และยังเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดน่าน

ดังนั้นเพื่อให้การวางแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2568 รวมถึงการรับฟังข้อคิดที่เป็นประโยชน์เพื่อกำหนด ทิศทางการท่องเที่ยวจังหวัดน่านเป็นเมืองน่านน่าอยู่น่าเที่ยวน่าสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน

มุ่งมั่นการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพพร้อมกับประชาสัมพันธ์เพิ่มช่องทางการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ ทีมข่าวสมาคม รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /สกร.อ.เมืองสระแก้ว จัดโครงการพัฒนาผู้เรียน กีฬาต้านยาเสพติด สกร.ระดับอ.เมืองสระแก้ว ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกเมน จินาวัลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดสระแก้ว ประธานในพิธี นางอาภรณ์ เลิศกิจคุณานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองสระแก้ว

นายทรงวุฒิ สุทธิโยชน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเกษม นายอินตา พันธุ์แดง อดีตกรรมการสถานศึกษา พร้อมด้วยคณะครู สกร.ทุกตำบล ระดับอำเภอเมืองสระแก้ว ร่วมเปิดงานโครงการพัฒนาผู้เรียน กีฬาต้านยาเสพติด สกร.ระดับอำเภอเมืองสระแก้ว ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘

วัตถุประสงค์ในการจัดโครงการ…ปัจจุบันการใช้ยาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่น เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ นำมาซึ่งปัญหาอื่น เช่น ปัญหาการก่ออาขญากรรม ปัญหาด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งรัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณในการปราบปราม และการบำบัดอาการของผู้ติดยาเสพติด กรมส่งสริมการเรีอนรู้ ได้กำหนดจุดเน้นการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

ด้านการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ข้อ 3.4 “DO-LE (ดูแล) Safety Zone”
ส่งเสริมมาตรการความปลอดภัยให้กับผู้เรียนจัดให้มีระบบดูแล เฝ้าระวัง และเตือนภัย สร้างความร่วมมือกับหน่ายงานความปลอดภัยในพื้นที่ รวมทั้งฝ้าระวังและประเมิน สถานการณ์ความปลอดภัยในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายบอก สถานศึกษา การแข่งขันก็หา นับได้ว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งตามแนวทางป้องกันและและและแก้ไขปัญหายาเสพ เป็นการเวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเบี่องเบนพฤติกรรมที่ในที่ไม่พึงปประสงค์ของวัยรุ่น…โดยการจัดโครงการในครั้งนี้ มีการแข่งขันกีฬา หลากหลายชนิด เช่น ฟุตบอล , วอลเลย์บอล , เปตอง ,และกีฬาพื้นบ้านอีกมากมาย

ภาพข่าว : วงศกร ศรีสวัสดิ์ ทีมข่าวจังหวัดสระแก้ว//รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

แชร์เนื้อหานี้

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ มทภ.3, นายเย็นดี มณฑีรรัตน์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 , น.อ.ปรธร จีนะวัฒน์ ผบ.บน.41 พร้อมข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับ-ส่งเสด็จฯ ณ ท่าอากาศยานทหาร บน.41 อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่

การเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับ-ส่งเสด็จฯ และการถวายความปลอดภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหตุการณ์ปกติ และสมพระเกียรติ เป็นไปตามพระราชประสงค์..
//#สมจิตรแสงบัลลังก์รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “มหกรรมส้มสีทอง ของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568” ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 24 มกราคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ ลานรวมใจ ริมแม่น้ำน่าน สะพานพัฒนาภาคเหนืออำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายบรรจง  ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธาน พิธีเปิดงานมหกรรมส้มสีทองและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568 โดยมีนางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดน่าน หน่วยงานภาคีเครือข่าย และประชาชน เข้าร่วมงานฯจำนวนมาก งานมหกรรมส้มสีทองและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568 ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ส้มสีทอง น่านเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น มาตรฐาน GI สู่ตลาดสากล พร้อมกับส่งเสริมการสร้างแบรนด์และเรื่องราวของผลิตภัณฑ์เกษตรอัตลักษณ์ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน มุ่งสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูงและยั่งยืน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน  กล่าวว่า "งานมหกรรมส้มสีทองและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568" ซึ่งเป็นงานเทศกาลประจำปีของจังหวัดน่าน ในปีนี้เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูงกิจกรรมการสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดี ประชาสัมพันธ์และเพิ่มช่องทางการตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีเป้าหมายในการส่งเสริมการนำอัตลักษณ์พื้นถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยมาใช้ในการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เป็นสินค้าเกษตรชนิดใหม่ให้รองรับความต้องการของตลาดยุคใหม่  ส่งเสริมเศรษฐกิจของท้องถิ่นและสร้างจุดเด่นความแตกต่างของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันในประเทศต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมการสร้างแบรนด์สินค้าของเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นและการสร้างความต้องการของสินค้าด้วยการสร้างเรื่องราวของสินค้า ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับการท่องเที่ยวน่านมุ่งสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูงและยั่งยื
ด้านนางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน กล่าวว่า "งานมหกรรมส้มสีทองและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568" จัดขึ้นในวันที่ 24-26 มกราคม พ.ศ. 2568 ณ ลานรวมใจ ริมแม่น้ำน่าน สะพานพัฒนา

ภาคเหนือ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ในครั้งนี้ ได้มีการรวบรวมร้านค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ส้มสีทอง และของดีเมือง น่านกว่า 100 ร้านค้า มาจัดจำหน่าย และยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายภายในงาน อาทิเช่น การประกวดส้มสีทองเมืองน่าน การประกวดทำอาหาร Chef’s Table จากผลิตภัณฑ์ส้มสีทอง นิทรรศการมีชีวิตส้มสีทองและของดีเมืองน่าน การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมบันเทิงบนเวทีทุกวัน และกิจกรรมส่งเสริมการขายนาที่ทอง พร้อมลุ้นรับของรางวัลอีกมากมาย ตลอดระยะเวลาของการจัดงาน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการ แก้ไข ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย อาชญากรรมข้ามชาติ ต้องเห็นผลภายใน 7 วัน พบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยว บกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (25 มกราคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างเต็มกำลัง เพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็ว จึงได้มีหนังสือสั่งการเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้ 7 มาตรการ อย่างเข้มงวด ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้แก่

  1. มาตรการก่อนคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย : ประสาน เชื่อมโยงข้อมูล เพื่อทำการคัดกรองบุคคล
  2. มาตรการ ณ ท่าอากาศยาน และด่านตรวจคนเข้าเมือง (ชายแดน) : เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกนอกราชอาณาจักร โฟกัสกลุ่มเสี่ยง หากพบเห็นให้รีบดำเนินการซักถาม และประชาสัมพันธ์ มาตรการติดตั้งกล้อง License Plate และเชื่อมโยงกล้องวงจรปิด (ระบบ AI) ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ (แจ้งเตือน)
  3. มาตรการตั้งจุดตรวจตามเส้นทาง : ตั้งจุดตรวจครอบคลุม โดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวัง สุ่มเสี่ยง
  4. มาตรการตรวจสอบที่พัก พื้นที่ท่องเที่ยว และสกัดกั้นพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบที่พักคนต่างด้าว แหล่งท่องเที่ยว เน้นการสกัดเคลื่อนย้ายข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามแดนต่าง ๆ
  5. มาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเส้นทางและจุดพักคอย : ตรวจสอบปั๊มน้ำมัน จุดพักรถ สถานีขนส่ง จุดพักแรม และ
  6. มาตรการเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบพื้นที่และเอ็กซเรย์พื้นที่ชายแดนทุกแห่ง ลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติ และท่าข้าม พื้นที่จังหวัดชายแดนเข้มข้น
  7. มาตรการประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ และสืบสวนขยายผล : ดำเนินคดี สืบสวนขยายผลไปถึงตัวการ ผู้สนับสนุน

โดยเฉพาะข้าราชการที่ทุจริตจากการเข้มงวดตามมาตรการดังกล่าว ทำให้มีผลการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 20-24 มกราคม 2568 ในการปฏิเสธคนต่างด้าวที่มีความเสี่ยงเข้าประเทศ ณ ท่าอากาศยาน จำนวน 10 ราย , ปฏิเสธการขออยู่ต่อในพื้นที่ จ.ตาก จำนวน 47 ราย , จับกุมและปรับกรณีอยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) ในพื้นที่ จ.ตาก 92 ราย แบ่งเป็น ชาวจีน 3 ราย และอินโดนีเซีย 1 ราย , ผู้หลบหนีเข้าเมือง บริเวณริมแม่น้ำเมย เป็นชาวเมียนมา 14 ราย และบริเวณจุดตรวจร่วมห้วยหินฝน อ.แม่สอด จ.ตาก 6 ราย รวม 20 ราย , การปฏิบัติในพื้นที่ จ.ตาก ดำเนินการตรวจที่พักในพื้นที่ อ.แม่สอด 275 ครั้ง ตรวจบริเวณสนามบินแม่สอด 16 ครั้ง จุดตรวจร่วมห้วยหินฝน 170 ครั้ง

ตำรวจตระเวนชายแดนลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติ 25 ครั้ง ตรวจสอบท่าข้ามแดน 14 ครั้ง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด 36 ครั้ง พร้อมกันนี้ ยังได้มีการพูดคุย ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ถึงภัย จำนวน 461 ราย โดยพบว่ามีการผ่านด่านตรวจแม่ท้อ ด่านห้วยยะอุ ด่านห้วยหินฝน และบ้านเกาะราก และมีคนต่างด้าวสัญชาติจีน เกาหลี ลาว เอธิโอเปีย (ตามลำดับ) โดยคัดกรองขั้นต้นพบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติจีนและเวียดนาม มีความเสี่ยงที่อาจจะตกเป็นเหยื่อ จึงส่งต่อข้อมูลไปยังพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่เสี่ยง พร้อมได้พูดคุยและทำความเข้าใจกันด้วยดี นอกจากนี้ ยังได้ตรวจยึดและจับกุมยาเสพติดฯ ตามมาตรการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอีกด้วย

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าประเทศไทยมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทุกราย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยจะใช้กลไกการทำงานร่วมกับศูนย์อาชญากรรมพิเศษของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) ,

ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตคม.ตร.) , ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ในการติดตามเฝ้าฟัง อำนวยการปฏิบัติฯ ตลอด 24 ชั่วโมง และเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนและสังคมในวงกว้าง เพื่อเตือนภัยให้แก่คนต่างด้าว และประสานการปฏิบัติหน่วยงานต่างประเทศต่อไป

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำชัดให้เจ้าหน้าที่ทุกนายจะต้องปฏิบัติอย่างจริงจังและเด็ดขาด เห็นผลภายใน 7 วัน หากเจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพัน รู้เห็นเป็นใจ หรือแม้กระทั่งเพิกเฉย ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจในการทำหน้าที่ จะต้องถูกพิจารณาทางปกครอง วินัย และอาญา อย่างเด็ดขาดทุกราย..

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / สิ้นเทพเจ้าแห่งเขาพรานธูป “หลวงปู่นน” ฉายา “ปลัดขิกดิ้นได้” นักเสี่ยงโชคคึกคัก/รอง ผบ.ตร. เน้นย้ำ ตร.หัวหิน ต้องดูแลนักท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 ม.ค.68 ที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานงานบำเพ็ญกุศลพิธีสรงน้ำศพ “พระครูสังฆรักษ์นน จนฺทวิโร” หรือ หลวงปู่นน จันทวิโร อายุ 94 ปี พรรษา 23 พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาพรานธูป มี นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พระเถระชั้นผู้ใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศิษยานุศิษย์และประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี พร้อมกันนี้นักเสี่ยงโชคต่างนำอายุ “หลวงปู่นน” ไปเสี่ยงโชคลาภงวดที่จะถึงนี้กันอย่างคึกคัก

สำหรับประวัติของ หลวงปู่นน จันทวิโร สำนักสงฆ์เขาพรานธูป พระเกจิอาจารย์เรืองอาคมแห่งหัวหิน น้องชายแท้ ๆ ของหลวงพ่อยิด อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด ท่านเกิดในตระกูล “กล่ำเรือง” เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2474 ปีมะแม ที่บ้านนาพรม อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เมื่ออายุ 21 ปีได้อุปสมบทที่วัดประดิษฐวนาราม(วัดนาพรม) จ.เพชรบุรี โดยมี หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชได้อยู่ปรนนิบัติ “หลวงพ่อหวล จันทสิริ” เจ้าอาวาสวัดนาพรม ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงพร้อมๆกับหลวงพ่อยิด ซึ่งหลวงพ่อหวลได้ถ่ายทอดวิชาทางด้าน สมุนไพร วิชาทำปลัดขิก และการลงจารอักขระให้

ทั้งนี้ หลวงพ่อหวลมีศักดิ์เป็นน้าและพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงยิด อีกทั้งเป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทถ่ายทอดวิชาทำปลัดขิกให้กับหลวงพ่อยิด จนมีชื่อเสียงโด่งดังกล่าวขานอยู่จนถึงทุกวันนี้อีกด้วย
หลวงพ่อนนได้จาริกแสวงบุญอยู่นาน จึงได้กลับมาที่วัดหนองจอก ซึ่งในขณะนั้น หลวงพ่อยิดท่านมีชื่อเสียงด้านปลัดขิกและมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ด้วยความที่มั่นใจในความแก่กล้าทางวิชาคมของหลวงพ่อนน และเป็นศิษย์รุ่นน้องร่วมอาจารย์เดียวกันหลวงพ่อยิด จึงให้หลวงพ่อนนช่วยลงอักขระลงบนปลัดขิก ซึ่งการลงอักขระนี้ หลวงพ่อยิดต้องเลือกเฟ้นคนที่ไว้ใจได้และมีความสามารถ เพื่อให้วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ หลังจากหลวงพ่อยิดมรณภาพ หลวงพ่อนนจึงออกธุดงค์ต่อและได้ร่ำเรียนศึกษาวิชา รักษากระดูก และวิชาแก้คุณไสย จากนั้นได้มาจำพรรษาที่วัดมาลัยทับใต้ หัวหิน และที่วัดนี้เอง ท่านได้สร้างปลัดขิกในนามของท่านเอง เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน

โดยท่านได้อยู่พัฒนาวัดมาลัยทับใต้ต่อมาอีกหลายปีจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จึงได้เตรียมตัวจาริกอีกครั้ง ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาขอให้ท่านมาอยู่เป็นประธานช่วยจัดสร้างสำนักสงฆ์เขาพรานธูป หลวงพ่อนนท์จึงได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา จนเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.58 พระราชภัทรญานฯ มอบตราตั้งฐานานุกรมและพัดยศเป็น “พระครูสังฆรักษ์” ให้แก่หลวงปู่นน เจ้าสำนักสงฆ์เขาพรานธูป ให้เป็น “พระครูสังฆรักษ์นน จนฺทวิโร” โดยมีพิธีมอบขึ้นภายในอุโบสถของสำนักสงฆ์เขาพรานธูป ระยะหลัง 3-5 ปี ที่ผ่านมา หลวงปู่นนได้อาพาธจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ก่อนเข้ารักษาตัวอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมรณภาพคืนวันที่ 23 ม.ค.68 ที่ รพ.หัวหิน โดยทางวัดจะตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่สำนักสงฆ์ฯ เป็นเวลา 30 วัน ก่อนบรรจุสรีรสังขารไว้ในโลงแก้วต่อไป

หลวงปู่นน ท่านสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด ด้วยกิตติศัพท์อันเลื่องลือ ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีลูกศิษย์มากมาย มีผู้คนเข้าไปกราบท่านไม่ขาดสาย ผู้คนต่างได้รับประสบการณ์ดี ๆ ที่เกิดจากท่าน พระเครื่องของท่านมากมาย และเครื่องรางของท่านเป็นที่นิยมอย่างแผ่กว้างไปเรื่อยๆ ถึงต่างประเทศ วัตถุมงคลของหลวงปู่นนที่ขึ้นชื่อคือ ปลัดขิก ที่สร้างปาฏิหาริย์บินได้ เป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ทหารและตำรวจ เพราะเชื่อกันว่าใครมีปลัดขิกของหลวงปู่นนติดตัวแล้วจะดีเด่นในด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง อีกทั้งมีผู้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งแคล้วคลาดและโชคลาภ.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

รอง ผบ.ตร. เน้นย้ำตำรวจหัวหิน ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในเทศกาลตรุษจีน
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.68 พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยมข้าราชการที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน จ.ประจวบฯเพื่อประชุมติดตามการปฏิบัติการนำร่องในการขับเคลื่อนและยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิธ ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ พ.ต.อ.พนิช อ่วมสอาด รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ

พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.อาณัฐชัย ก้อนทอง สวญ.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน) นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมวางแนวทางและมาตรการด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 68 ที่ใกล้จะถึง ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว รอง ผบ.ตร. ได้มอบสิ่งของให้แก่ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาล

สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ เป็นปีที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับนโยบายการท่องเที่ยวเที่ยวปลอดภัย กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ได้นำแอพพลิเคชั่น Thailand Tourist Police ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถดาวโหลดเพื่อใช้งานทางโทรศัพท์ได้ทุกระบบ เป็นทางเลือกให้สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สส.ทรงศักดิ์ ร่วมรับรมว.สาธารณสุข งานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ พร้อมรณรงค์ “ตรุษจีน อิ่มบุญ สุขใจ สิ่งแวดล้อมปลอดภัย ห่างไกล NCDs” นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ยกระดับอาหารสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน SAN Plus พร้อมแนะวิธีการเลือกซื้ออาหารไหว้เจ้าและเลือกกินอาหาร Low Carb รวมทั้งการลดฝุ่นละอองขนาดเล็กจากการประกอบพิธีกรรมในเทศกาลตรุษจีน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดีและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2568 ที่เวทีวัฒนธรรมตรุษจีนปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสส.ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย รองประธานกรรมาธิการตำรวจ และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเฉลิมเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ 109 ปี โดยมีนางสาวชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงานประเพณีฯ หน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมรณรงค์ “ตรุษจีน อิ่มบุญ สุขใจ สิ่งแวดล้อมปลอดภัย ห่างไกล NCDs”

พร้อมกันนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาวไทยเชื้อสายจีน เพราะเป็นเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ มีการไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตและคนในครอบครัว มีการยึดถือปฏิบัติกันมาอยู่ 3 วัน คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ซึ่งการจัดงานเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลตรุษจีนของจังหวัดนครสวรรค์ มีประชาชนมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุข ห่วงใยสุขภาพประชาชน แนะประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงเทศกาลตรุษจีน อิ่มบุญ สุขใจ สิ่งแวดล้อมปลอดภัย ห่างไกล NCDs ประกอบด้วย 3 มาตรการ คือ มาตรการที่ 1 ยกระดับมาตรฐานร้านอาหารปลอดภัยภายใต้มาตรฐาน SAN และ SAN Plus (Sanitation, Accountability, Network) สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เพื่อให้สถานประกอบกิจการด้านอาหารในพื้นที่ท่องเที่ยวมีคุณภาพ มีศักยภาพในการแข่งขันในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และสร้างความเชื่อมั่นต่อการให้บริการด้านอาหารแก่นักท่องเที่ยว  มาตรการที่ 2 การเลือกซื้อของไหว้ตรุษจีนให้สะอาด ปลอดภัย โดยยึดหลัก 4 ล. ดังนี้ ได้แก่

1) ล. เลือก เลือกซื้ออาหาร
2) ล. ล้าง ล้างผัก-ผลไม้ และเนื้อสัตว์ให้สะอาด
3) ล. เลี่ยง เลี่ยงปรุงอาหารที่ใช้น้ำมันหรือไขมันมากปรุงประกอบอาหารให้สุก
4) ล. ลด อาหารที่มาจากแป้งและน้ำตาล ควรทานอาหารไหว้เจ้าประเภท Low Carb หรือคาร์โบไฮเดรตต่ำเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง และมาตรการที่ 3 การลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และ PM2.5 จากการประกอบพิธีกรรมในเทศกาลตรุษจีน โดยรณรงค์ให้ใช้ธูปขนาดสั้น หรือใช้ธูปไฟฟ้า เผากระดาษเงินกระดาษทองทีละน้อย ๆ และควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันด้วย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดี และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เสื้อแดงไม่เอาทักษิณเชียงรายดิ้นเฮือก!! สุดท้ายลุยหนักเรียกคะแนนให้” นก”อทิตาธร

แชร์เนื้อหานี้

หลังนิด้าโพล ออกชี้อดีตนายกทักษิณปราศรัยช่วยหาเสียงเวทีเชียงราย ไม่มีผลการตัดสินใจ เลือกผู้สมัครพรรคเพื่อไทย กกต.เชียงรายเอาจริงพร้อมแจกใบแดง หากฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ย้ำให้ผู้สมัครหยุดการหาเสียงทันที ถอนโฆษณาสื่อทุกชนิดเสร็จสิ้นในวันที่31มกราคม หากพบผิดฟันทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงโค้งสุดท้ายของผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย ระหว่าง2บ้านใหญ่ ได้ออกหาเสียงเพื่อเรียกคะแนนเพื่อช่วงชิงเก้าอี้นายกอบจ.เชียงราย อันเป็นไปอย่างดุเดือด เป็นห้วงระยะเวลาโค้งสุดท้ายของการหาเสียง

ล่าสุดมีการดีเบต สองผู้สมัครนายกอบจ.เชียงรายได้แก่ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ เบอร์1 นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช เบอร์2 แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อการศึกษาเด็กและเยาวชน ให้นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายฟัง เมื่อวันที่22มกราคม 2568ณ ห้องกาสะลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดเชียงราย ที่ผ่านมา โดยขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และนายชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย ร่วมจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ เชิญชวนประชาชน ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงไป

เมื่อวันที่24มกราคม2568 ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย ศาลากลางเก่าเชียงราย ที่ผ่านมา ประเด็นสำคัญการหาเสียงของผู้สมัครในส่วนของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากยุทธศาสตร์การหาเสียง ตามจุดต่างๆเพื่อเรียกเก็บคะแนนจากประชาชนจังหวัดเชียงรายนั้นต่างฝ่ายงัดกลยุทธ์เดินเกมรุก ในส่วนโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง7วัน โดยสิ้นสุดในวันที่31 มค.2568 เวลา18.00น.โดยผู้สมัครจะต้องหยุดการหาเสียงสื่อทุกชนิด ให้รื้อถอนป้ายโฆษณาหาเสียงออกจากพื้นที่สาธารณะและบริเวณใกล้หน่วยเลือกตั้งโดยเด็ดขาด ขณะที่ทางด้านนายเกชา กองนาคเจ้าพนักงานสืบสวนไต่สวน ชำนาญการ รักษาการตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย

ได้ร่วมกับหน่วยสืบสวนสอบสวนเคลื่อนที่เร็วได้ออกหาข่าวของการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งตลอดในระยะที่ผ่านมาและโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง หากผู้สมัครคนใดจงใจฝ่าฝืนและละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยในวันที่31 มกราคม 25568 ตั้งแต่เวลา 18.00น.ห้ามจำหน่ายจ่ายแจกสุราของมืนเมา แก่ประชาชนก็จะมีความผิดอย่างร้ายแรงจนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ หากมีการรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วก็จะเข้าดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีโดยเด็ดขาดทันที

ในส่วนความเคลื่อนไหวของการหาเสียงของกลุ่มผู้สนับสนุนมวลชนคนเสื้อแดงกลับใจไม่เอาทักษิณ นำโดยนางสาวจิรนันท์ จันทวงษ์ อดีตดีเจได้เดินหน้าออกหาเสียงอย่างหนักตามจุดต่างๆ มีทั้งปราศัยบนรถ แจกแผ่นพับนโยบายของนางอธิตาธร เบอร์1 และจะมีการนัดรวมตัวคนเสื้อแดงเชียงรายครั้งใหญ่ที่สนามกีฬากลาง ซึ่งการข่าวได้ข้อมูลมาว่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนมีการเลือกตั้งในวันที่30มกราคม2568 ส่วนจะมีมวลชน เข้ารับฟังการปราศัยมากเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นกับปัจจัยการเมืองหลายด้าน แต่ทุกอย่างทีผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียง กระทำต้องอยู่ภายใต้กติกากฎหมายเลือกตั้ง หากจงใจหรือฝ่าฝืนก็จะโดนใบแดงทันที ในส่วนของกปน.เลือกตั้งก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยสุจริตเที่ยงธรรม ให้การเลือกตั้งครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี

สำหรับการปราศรัยใหญ่อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครเบอร์2 พรรคเพื่อไทยซึ่งได้ทำการปราศรัยเวทีใหญ่3อำเภอ ได้แก่อำเภอเทิง อำเภอเชียงของโดยเฉพาะอำเภอแม่จัน ซึ่งเป็นฐานคะแนนใหญ่ของผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย ซึ่งจากโพลสำรวจของนิด้าโพล ในข้อที่ว่าอดีตนายกทักษิณปราศัยช่วยหาเสียงผู้สมัครพรรคเพื่อไทยนั้น มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกนายกอบจ.สองสนามใหญ่ เชียงใหม่-เชียงราย หรือไม่นั้น

ซึ่งจากการวิเคราะห์แล้วตามโพลไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งนายกอบจ.ซึ่งสนามเลือกตั้งอบจ.เชียงรายระหว่างสองขั้วนางอทิตาธร วันไชยธนะวงศ์ เบอร์ 1 ไม่สังกัดพรรคการเมืองซึ่งประกาศจุดยืนไม่อยู่ภายใต้อานัดการเมืองระดับประเทศ แต่เน้นการเมืองท้องถิ่นเป็นหลัก พาผู้สมัคร สมาชิกสภาจังหวัดไม่สังกัดพรรคการเมืองท้้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ลงชิงคะแนนแต่ละพื้นที่ และในส่วนของนางสักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ซึ่งสังกัดนามพรรคการเมืองเพื่อไทย ที่นายทักษิณ ชินวัตร ลงมาช่วยหาเสียงเพื่อจะกวาดคะแนนชาวเชียงรายแบบเทคะแนนเบร็ดเสร็จชนะแบบทะล่มทะลายในสองพื้นที่เชียงใหม่-เชียงราย ที่สำคัญการหาเสียงแบบโทนี่แบรนด์ นโยบายแบบเพื่อไทยเพื่อเรียกสส.คืนในการเลือกตั้งสมัยหน้านั้นจะเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากการติดตามกระแสการตอบรับแต่ละฝ่ายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง.

ทีมงานข่าวการเมืองจังหวัดเชียงรายรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /เปิดแล้ว BKK Food Bank เขตคลองสาน ร่วมแบ่งปันคนกรุง เพราะสังคมที่ดี คือสังคมที่มีการแบ่งปัน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิด BKK Food Bank เขตคลองสาน นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองสาน และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร

เข้าร่วมงาน โดยมี นายสรสิช เหลืองรุ่งเกียรติ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางปาณิสรา เนตรธารธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน และนางสาวกัญญา อัศวเมฆิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน นำคณะผู้บริหารเขตและเจ้าหน้าที่เขตคลองสาน รวมถึงผู้ให้การสนับสนุนสิ่งของอุปโภคและบริโภค เข้าร่วมงาน

จากนั้นร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในสำนักงานเขตคลองสาน พร้อมเยี่ยมชมห้อง BKK Food Bank เขตคลองสาน(แห่งใหม่) และมอบสิ่งของอุปโภคและบริโภคให้กับกลุ่มเปราะบางภายในงาน โดย นายสรสิช เหลืองรุ่งเกียรติ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน กล่าวว่า BKK Food Bank เขตคลองสาน เป็นศูนย์ที่เรารวบรวมของบริจาคจากประชาชนมาแบ่งปันให้กับผู้เปราะบาง

ทั้งนี้ BKK Food Bank เขตคลองสาน เปิดดำเนินการภายใต้โครงการพัฒนาต้นแบบ BKK Food Bank เพื่อให้สำนักงานเขตเป็นศูนย์กลางประสานระหว่างผู้ที่ต้องการบริจาคกับผู้ขาดแคลน เพื่อสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน และช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจให้กับกลุ่มเปราะบาง โดยจัดทำเป็นรูปแบบคล้ายซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ผู้ที่ขาดแคลนมาเลือกสินค้าได้

ซึ่งโครงการนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างสำนักงานเขตกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหารวบรวมวัตถุดิบ และของอุปโภคบริโภคต่างๆ จากผู้บริจาค แล้วส่งต่อกับกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น การเปิดให้บริการ BKK Food Bank เขตคลองสาน

ทั้งนี้ โครงการ BKK Food Bank Center ของสำนักงานเขตคลองสาน ดำเนินการตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่อง การแก้ปัญหาอาหารเหลือทิ้ง (Food Waste) จึงได้มีการรวบรวมอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค จากผู้ที่อยากแบ่งปัน ส่งต่ออาหารให้แก่กลุ่มเปราะบางอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มผู้พิการ และกลุ่มผู้ด้อยโอกาส

ในพื้นที่เขตคลองสาน โดยได้จัดสถานที่เก็บของเสมือนร้านสะดวกซื้อ และให้กลุ่มผู้เปราะบางที่อยู่ในฐานข้อมูลของเขตมาเลือกของที่ต้องการ และยังมีการรับ-ส่งต่ออาหารส่วนเกิน (Food Surplus) จาก “ผู้บริจาค ตรงสู่ ผู้รับ” ในพื้นที่และให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางครอบคลุมทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

ภาพ/ข่าว นาย วีระพล แซ่เล้า ผู้สื่อข่าว
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / “ป๊อก-วิทยา” นำลูกทีม “เรารักชลบุรี” ผู้สมัคร ส.อบจ.อ.บางละมุง เปิดตัวปราศรัยใหญ่ ดันเป็นมหานครของคนทุก GEN

แชร์เนื้อหานี้

เย็นวันที่ 24 ม.ค.68 ที่สนามกีฬาโรงเรียนเมืองพัทยา 2 (เจริญราษฎร์อุทิศ) นายวิทยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเรารักชลบุรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เบอร์ 1 นำลูกทีมผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอบางละมุงทั้ง 9 เขต ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงชูสโลแกน Next Steps “เดินต่อไปด้วยกัน สร้างสรรค์ชลบุรี”

โดยทีมเรารักชลบุรี ได้แนะนำตัวและประวัติผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอบางละมุง ประกอบด้วย เขต 1 ดร.วรพต พงษ์พาลี เบอร์ 2, เขต 2 นายนคร ผลลูกอินทร์ เบอร์ 1, เขต 3 นายยะยา เซ็นสุรีย์ เบอร์ 1, เขต 4 นายสายัณห์ จันทร์ทอง เบอร์ 1, เขต 5 นายวิชิต ชาญชัยยุทธศักดิ์ เบอร์ 2, เขต 6 นายสาธิต นุชประมูล เบอร์ 1, เขต 7 นางมาลิณี สิงหสุวิช เบอร์ 2, เขต 8 นายอนุรักษ์ อินทร์พิทักษ์ เบอร์ 1 และเขต 9 นายสิทธิไชย อาจทรง

นายวิทยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเรารักชลบุรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เบอร์ 1 เปิดเผยว่า ทีมเรารักชลบุรีมีความยึดมั่นว่าท้องถิ่นเราต้องมีการรวมเป็นหนึ่ง เพื่อการเจริญเติบโตของบ้านเรา การเลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีความสำคัญยิ่ง เพราะ อบจ. เป็นการเมืองท้องถิ่นที่ครอบคลุมทั้งหมด การเลือกตั้งในครั้งนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตของจังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ เรารักชลบุรีต้องการผลักดันชลบุรีให้เป็นมหานครขอฃคนทุก GEN ด้วยสโลแกน “ชลบุรีมหานครออกแบบได้เพื่อทุกคน” ทั้งกลุ่มเด็ก Gen Alpha กลุ่ทผู้สูงอายุ คนพิการและกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนทำงาน กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่และความหลากหลาย พัฒนาชลบุรีให้เป็นมหานครแห่งเศรษฐกิจดี, มหานครแห่งการศึกษา, มหานครแห่งสิ่งแวดล้อมดี, มหานครแห่งสังคมและวัฒนธรรมหลากหลาย, มหายครแห่ง Smart City, มหานครแห่งท่องเที่ยวและกีฬา และมหานครแห่งสุขภาพดีต่อไป พร้อมเชิญชวนประชาชนออกไปเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในวันเสาร์ที่ 1 กุาภาพันธ์ 2568 นี้

“ป๊อก-วิทยา” นำลูกทีม “เรารักชลบุรี” ผู้สมัคร ส.อบจ.เขตอำเภอบางละมุง เปิดตัวปราศรัยใหญ่ ชูเลือกตั้ง อบจ. คือหัวใจของท้องถิ่น พร้อมต่อยอดยกระดับเพื่อทุกคนในชลบุรี ดันเป็นมหานครของคนทุก GENเย็นวันที่ 24 ม.ค.68 ที่สนามกีฬาโรงเรียนเมืองพัทยา 2 (เจริญราษฎร์อุทิศ) นายวิทยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเรารักชลบุรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เบอร์ 1 นำลูกทีมผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอบางละมุงทั้ง 9 เขต ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงชูสโลแกน Next Steps “เดินต่อไปด้วยกัน สร้างสรรค์ชลบุรี”

โดยทีมเรารักชลบุรี ได้แนะนำตัวและประวัติผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอบางละมุง ประกอบด้วย เขต 1 ดร.วรพต พงษ์พาลี เบอร์ 2, เขต 2 นายนคร ผลลูกอินทร์ เบอร์ 1, เขต 3 นายยะยา เซ็นสุรีย์ เบอร์ 1, เขต 4 นายสายัณห์ จันทร์ทอง เบอร์ 1, เขต 5 นายวิชิต ชาญชัยยุทธศักดิ์ เบอร์ 2, เขต 6 นายสาธิต นุชประมูล เบอร์ 1, เขต 7 นางมาลิณี สิงหสุวิช เบอร์ 2, เขต 8 นายอนุรักษ์ อินทร์พิทักษ์ เบอร์ 1 และเขต 9 นายสิทธิไชย อาจทรง

นายวิทยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเรารักชลบุรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เบอร์ 1 เปิดเผยว่า ทีมเรารักชลบุรีมีความยึดมั่นว่าท้องถิ่นเราต้องมีการรวมเป็นหนึ่ง เพื่อการเจริญเติบโตของบ้านเรา การเลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีความสำคัญยิ่ง เพราะ อบจ. เป็นการเมืองท้องถิ่นที่ครอบคลุมทั้งหมด การเลือกตั้งในครั้งนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตของจังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ เรารักชลบุรีต้องการผลักดันชลบุรีให้เป็นมหานครขอฃคนทุก GEN ด้วยสโลแกน “ชลบุรีมหานครออกแบบได้เพื่อทุกคน” ทั้งกลุ่มเด็ก Gen Alpha กลุ่ทผู้สูงอายุ คนพิการและกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนทำงาน กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่และความหลากหลาย พัฒนาชลบุรีให้เป็นมหานครแห่งเศรษฐกิจดี, มหานครแห่งการศึกษา, มหานครแห่งสิ่งแวดล้อมดี, มหานครแห่งสังคมและวัฒนธรรมหลากหลาย, มหายครแห่ง Smart City, มหานครแห่งท่องเที่ยวและกีฬา และมหานครแห่งสุขภาพดีต่อไป พร้อมเชิญชวนประชาชนออกไปเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในวันเสาร์ที่ 1 กุาภาพันธ์ 2568 นี้

เย็นวันที่ 24 ม.ค.68 ที่สนามกีฬาโรงเรียนเมืองพัทยา 2 (เจริญราษฎร์อุทิศ) นายวิทยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเรารักชลบุรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เบอร์ 1 นำลูกทีมผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอบางละมุงทั้ง 9 เขต ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงชูสโลแกน Next Steps “เดินต่อไปด้วยกัน สร้างสรรค์ชลบุรี”

โดยทีมเรารักชลบุรี ได้แนะนำตัวและประวัติผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอบางละมุง ประกอบด้วย เขต 1 ดร.วรพต พงษ์พาลี เบอร์ 2, เขต 2 นายนคร ผลลูกอินทร์ เบอร์ 1, เขต 3 นายยะยา เซ็นสุรีย์ เบอร์ 1, เขต 4 นายสายัณห์ จันทร์ทอง เบอร์ 1, เขต 5 นายวิชิต ชาญชัยยุทธศักดิ์ เบอร์ 2, เขต 6 นายสาธิต นุชประมูล เบอร์ 1, เขต 7 นางมาลิณี สิงหสุวิช เบอร์ 2, เขต 8 นายอนุรักษ์ อินทร์พิทักษ์ เบอร์ 1 และเขต 9 นายสิทธิไชย อาจทรง

นายวิทยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมเรารักชลบุรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เบอร์ 1 เปิดเผยว่า ทีมเรารักชลบุรีมีความยึดมั่นว่าท้องถิ่นเราต้องมีการรวมเป็นหนึ่ง เพื่อการเจริญเติบโตของบ้านเรา การเลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีความสำคัญยิ่ง เพราะ อบจ. เป็นการเมืองท้องถิ่นที่ครอบคลุมทั้งหมด การเลือกตั้งในครั้งนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตของจังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ เรารักชลบุรีต้องการผลักดันชลบุรีให้เป็นมหานครขอฃคนทุก GEN ด้วยสโลแกน “ชลบุรีมหานครออกแบบได้เพื่อทุกคน” ทั้งกลุ่มเด็ก Gen Alpha กลุ่ทผู้สูงอายุ คนพิการและกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนทำงาน กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่และความหลากหลาย พัฒนาชลบุรีให้เป็นมหานครแห่งเศรษฐกิจดี, มหานครแห่งการศึกษา, มหานครแห่งสิ่งแวดล้อมดี, มหานครแห่งสังคมและวัฒนธรรมหลากหลาย, มหายครแห่ง Smart City, มหานครแห่งท่องเที่ยวและกีฬา และมหานครแห่งสุขภาพดีต่อไป พร้อมเชิญชวนประชาชนออกไปเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในวันเสาร์ที่ 1 กุาภาพันธ์ 2568 นี้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ดีเดย์โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งส.อบจ.-นายกอบจ.เชียงราย ออกเชิญชวนออกไปใช้สิทธิไม่ซื้อสิทธิขายเสียง

แชร์เนื้อหานี้

วันที่24มกราคม2568 นาย รุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานเปิดพิธีการ รณรงค์ เชิญชวนให้ประชาชนจังหวัดเชียงราย ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ใน วันที่ 1กุมภาพันธ์2568 ตามโครงการกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย(Big Day)โดยมีพนักงาน ลูกจ้างสำนักงานกกตเชียงราย เครือข่ายสื่อมวลชนเชียงราย นักเรียน นักศึกษาและผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าร่วมกิจกรรมซึ่งอบจ.เชียงรายเป็นเจ้าภาพกับจังหวัดเชียงราย
สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย ณ ลานธรรมลานศิลป์ถิ่นพญาเม็งรายศาลากลางหลังเก่าจังหวัดเชียงรายโดยมีนายชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม โดนเน้นย้ำถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นเชียงรายต้อง บริสุทธิยุติธรรมและสามารถกระตุ้นประชาชนเชียงราย ให้ความสำคัญออกมาใช้สิทธิการเลือกตั้งถ้วนหน้า

ธนกฤต วรรมณี
ทีมงานข่าวเชียงรายรายงาน