เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าว งานประจำปีและของดีเมืองน่าน 2568 พร้อมแจงประเด็นผลตรวจสอบมลพิษสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 16 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เข้าร่วมการจัดกิจกรรมแถลงข่าวประจำเดือน เพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน

ตามนโยบายและแผนพัฒนาจังหวัด ประจำเดือนมกราคม 2568 พร้อมพูดถึงประเด็นที่สำคัญในการประชาสัมพันธ์จังหวัดพร้อมแจ้งถึงผลการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในแต่ละเดือน พร้อมนำเสนอผลการขับเคลื่อนการที่จังหวัดทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวและอื่นๆ โดยมีประเด็นต่างๆ เพื่อนำเสนอให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับทราบ

การแถลงข่าวฯ มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดน่าน วัฒนธรรมจังหวัดน่าน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน กล่าวถึงงานประจำปีและของดีเมืองน่าน 2568 โดยมีรายละเอียดได้กำหนดจัดงานประจำปีและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568 ในระหว่างวันที่ 7-16 ก.พ. 2568 ณ เวทีกลางบริเวณริมน้ำน่าน เชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน และจัดหารายได้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน นอกจากนั้นได้พูดถึงการจัดการประกวดนางสาวน่าน และการประกวดธิดาดอย ประจำปี 2568

จากนั้นสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 7 ร่วมกับประมงจังหวัดน่าน เกษตรจังหวัดน่าน ได้กล่าวถึงประเด็น ผลการตรวจสอบมลพิษสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน โดยจากข้อมูลผลการตรวจสอบและการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการที่ได้รับมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ของมลพิษ และการปนเปื้อนในสภาพแวดล้อม ที่จังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการนั้น จังหวัดน่านขอยืนยันว่าการปนเปื้อนโลหะหนักต่าง ๆ

โดยเฉพาะปรอท ในพื้นที่จังหวัดน่านยังมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รวมถึงสุขภาพของประชาชนเมื่อพิจารณาจากอุบัติการณ์ของโรคภัยนั้น ประชาชนยังมีความปลอดภัยในชีวิต สามารถดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ ทั้งนี้ จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงให้ความสำคัญและดำเนินการเฝ้าระวังในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง คณะทำงานฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังมลพิษ การปนเปื้อน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ประชาชน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการป้องกันและ

แก้ไขปัญหาร่วมกันและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้กล่าวถึงประเด็นการเฝ้าระวังมลพิษ ผลกระทบ และการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมพื้นที่จังหวัดน่านทั้งนี้ยังได้มีการรณรงค์เลือกตั้ง นายก อบจ. ส.อบจ. กิจกรรม “ฟังก่อนกากบาท” เปิดเวทีให้ผู้สมัครได้แสดงวิสัยทัศน์ 24 ม.ค. 2568 เวลา 17.00 น. ที่ ข่วงน้อย โดยสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ก่อนการลงคะแนนเลือกตั้ง 1 ก.พ. 2568 นี้ด้วย

อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้ฝากประชาสัมพันธ์การผลักดันเลนจักรยานและลู่วิ่ง City Run ในเขตเมืองเก่า Kick off 4 ก.พ. 2568 เส้นทางรอบเมืองเก่าน่าน 7 เส้นทาง (เบื้องต้นจะดำเนินการ 2-3 เส้นทางนำร่อง) ต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมข่าวสมาคม รายงาน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จับกุม ลิน ฮเท็ต(MR.LIN HTET)เมียนมา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนับออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (15 มกราคม 2568) เวลาประมาณ 10.30 น. ภายใต้การสั่งการของพล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี รอง ผบก.ตม.6 ,พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ฯ ปรก.บก.ตม.6

ได้สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรรณชัย สุขแจ่มสว.ตม.จว.นครศรีธรรมราช, ร.ต.อ.สถาพร ขวัญเทพ รอง สว.ตม.จว.นครศรีธรรมราช , พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.นครศรีธรรมราช จับกุม : นายลิน ฮเท็ต(MR.LIN HTET) อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ถือหนังสือเดินทางหมายเลข CC7992730

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1530/2567 ลงวันที่ 7 เมษายน 2567ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนับออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำการฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”

สถานที่จับกม : บริษัท นาบอนรับเบอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 278 ม.2 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช นำตัวผู้ถูกจับกุมมายัง สภ.นาบอน เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาส่ง พงส.บก.สอท.2 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /SSI-BRDเอ็มโอยูร่วมธุรกิจโมดูลาร์บิลด์ดิ้ง แบรนด์ “SSI Swift Space x Bangkok Retails”/กฟผ. ขอความร่วมมืองดเผาไร่อ้อย และวัชพืช ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

แชร์เนื้อหานี้


      
นายณรงค์ฤทธิ์ โชตินุชิตตระกูล (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือธุรกิจกับนายวุฒิวัฒน์ อรุณรัตน์รัฐกร (ที่ 3 จากขวา) ประธานกรรมการ บริษัท ดีทู พาร์ทเนอร์ส จำกัด หรือ BRD ในความร่วมมือทางธุรกิจสำหรับงานออกแบบ ผลิต ติดตั้ง จัดทำ ตลอดจนการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับงานอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง ด้วยระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปแบบโมดูลาร์ ภายใต้แบรนด์ “SSI Swift Space x Bangkok Retails” โดยนำความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัททั้งด้านวิศวกรรมเหล็ก การก่อสร้าง และด้านการออกแบบงานสถาปัตยกรรม มาส่งเสริมศักยภาพงานอาคารและงานก่อสร้างด้วยระบบก่อสร้างสำเร็จรูปแบบโมดูลาร์ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าอาคารเชิงพาณิชย์
      


ทั้งนี้ มีนายณภัทร ภาณุพิชิต (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายนนทพงษ์ ธีรานนท์ (ซ้าย) หัวหน้าหน่วยธุรกิจระบบอาคารสำเร็จรูป SSI และนางสาวสโรชา เทียมจิตรตรักษา (ที่ 2 จากขวา) Project Development BRD ร่วมงานดังกล่าว ณ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็วๆ นี้

///////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

กฟผ. ขอความร่วมมืองดเผาไร่อ้อย และวัชพืช โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพื่อความปลอดภัย ลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากฝุ่น PM 2.5 และรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้า

นายเสน่ห์ ตรีขันธ์ รองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เกษตรกรบางกลุ่มยังคงนิยมใช้วิธีเผาผลผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว หรือหลังเก็บเกี่ยว เพื่อลดเวลาและต้นทุนด้านแรงงาน ซึ่งก่อเกิดปัญหามลพิษด้านอากาศ ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ทัศนวิสัยในการเดินทางและการคมนาคมไม่ชัดเจน กฟผ. จึงขอความร่วมมืองดการจุดไฟเผาไร่อ้อย วัชพืช และตอซังข้าว โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงระบบไฟฟ้าของประเทศ เพราะควันและเขม่าจากการเผาอาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรสู่พื้นดิน เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว รวมทั้งอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในภาพรวม และระบบเศรษฐกิจของประเทศ

สายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ กฟผ. ดูแลและรับผิดชอบ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้าของประเทศ เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงานที่เชื่อมโยงกระแสไฟฟ้าจากระบบผลิตไปยังระบบจำหน่ายซึ่งรับผิดชอบโดยการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) โดยมีการปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมก่อนส่งถึงผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วนและทุกครัวเรือนต่อไป ดังนั้นสายส่งไฟฟ้าแรงสูงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่ง กฟผ. มีการดูแลบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเป็นประจำเพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง

“กฟผ. ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง งดเผาไร่อ้อยและวัชพืชทุกชนิด และขอให้ร่วมกันดูแลสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ หากพบเหตุผิดปกติหรือไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. โปรดแจ้งศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416” นายเสน่ห์ ตรีขันธ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย

/////////////////////

ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงาน 0649646443

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พระพลจอมแถ นำคณะแม่ชีเข้าพบเจ้าคณะจ.ยืนยันความบริสุทธิ์-ปกป้องศาสนา​ ภายหลังสำนักพุทธมีคำสั่งให้พ้นจากวัดภายใน7วัน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร วัดศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือ พระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ ได้นำพระภิกษุ แม่ชี และญาติโยม เดินทางมาเข้าพบ พระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร

ภายหลังจากที่เกิดกรณีถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวว่ามีพฤติกรรมไม่สมควรแก่สมณวิสัย มีหลักฐานการสนทนาเชิงชู้สาวกับสีกา เป็นคลิปเสียงและการสื่อสาร ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ สร้างความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา และก่อนหน้านี้หญิงผู้เสียหายได้เดินทางมาให้การกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา

โดยที่ทางคณะเดินทางมาเข้าพบเจ้าคณะจังหวัดครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ได้มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีคำสั่งให้แม่ชีทุกคนออกจากวัด จึงได้ร่วมกันเดินทางมาขอความเป็นธรรมจากเจ้าคณะจังหวัด โดยมีแม่ชีทยอยเดินทางมาสมทบเป็นจำนวนมาก ได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พระพลและคณะแม่ชีก็ทยอยเดินทางออกมาจากสำนักงานเจ้าคณะจังหวัด

พระพล กล่าวภายหลังจากที่ได้เข้าพบเจ้าคณะจังหวัดว่า เจ้าคณะจังหวัดได้บอกว่าท่านไม่ได้ใส่ใจในเรื่องที่จะให้แม่ชีออกจากวัดดานพระอินทร์ ท่านไม่เคยคิด และได้ให้คำแนะนำแก่คณะที่เข้าพบว่าต่อแต่นี้ไป ไม่ว่าจะเป็นพระหรือแม่ชีขอให้ อด-อัด-อุด บริสุทธิ์ด้วยธรรม ขณะที่หญิงผู้เสียหายได้เคยมาให้ข้อมูลกับเจ้าคณะจังหวัดเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ท่านจะดูจากข้อเท็จจริง ซึ่งความจริงก็คือความจริง

นางวาสนา โยมอุปฐากพระพล กล่าวว่า เรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นเพียงเรื่องที่มีการเล่าต่อๆ กันมา ขอทุกคนให้สบายใจได้ เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ นักข่าวก็ไม่รู้ แม่ก็ไม่รู้ แล้วก็ไม่มีใครรู้ดีมากกว่าคนสองคน ส่วนเรื่องที่พระพล ถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์กับสีกาอีก 5 คน นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน วันนี้ก็ได้มีแม่ชีก็มายืนยันแล้ว ทุกท่านก็มาแสดงความบริสุทธิ์ว่ามาปฎิบัติธรรม มุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ปกป้องพระพุทธศาสนาช่วยกัน

“อยากฝากไปถึงน้องผู้หญิงที่เป็นคู่กรณีกับพระพล ว่า ขอให้มีสติแล้วก็มาปกป้องศาสนาด้วยกัน ดีกว่าจะมาทำลายซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร” นางวาสนากล่าว

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /“ลุค เบซง” (แห่ง The Fifth Element, Taken, Transporter) เร็ว แรง ทะลุไทเป ต้อนรับตรุษจีน 29 มกราคมนี้

แชร์เนื้อหานี้

เตรียมดับเครื่องชนระทึกใจไปกับผลงานล่าสุดจาก “ลุค เบซง” (แห่ง The Fifth Element, Taken, Transporter) และนักแสดงเจ้าบทบาท “ลุค อีแวนส์” (จาก Dracula Untold)

เรื่องราวของอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด และอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนที่ต้องกลับมาย้อนรอยความรักของทั้งคู่ในเมืองไทเป โดยที่ไม่รู้เลยว่าสถานที่แห่งนี้มีอันตรายอันเป็นผลลัพธ์จากการกระทำในอดีตของพวกเขาเฝ้ารออยู่

“Weekend in Taipei – เร็ว แรง ทะลุไทเป“ โดย Movie Copyright (Thailand) โปรแกรมยักษ์ต้อนรับตรุษจีน 29 มกราคมนี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!!!

ตัวอย่างภาพยนตร์ฉบับภาษาไทย (Official Trailer Thai Version) : https://youtu.be/WqD5XItcI8k

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จเร.ตร.แห่งชาติ ลุยตัดวงจรบัญชีม้า ภัยความมั่นคงของชาติรูปแบบใหม่ เดินหน้าปิดบัญชีม้าทั่วประเทศ

แชร์เนื้อหานี้

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า วานนี้ (13 มกราคม 2568) ตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พ.ต.อ.วรธัช วิชชุวาณิชย์ อาจารย์ (สบ 5) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ น.ส.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน , น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน , นายบัญชา มนูญกุลชัย ที่ปรึกษารองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน หารือแผนปราบการกระทำผิดทางการเงินครั้งใหญ่ เพื่อปิดช่องทางที่มิจฉาชีพใช้ในการโกงและขโมยทรัพยากรจากคนไทยจำนวนมหาศาล

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2565 มิจฉาชีพใช้บัญชีม้าในการปล้นทรัพยากรคนไทยไปมากกว่า 100,000 ล้านบาท โดยใช้ infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ของประเทศไทย และไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการโยกย้ายเงินไปสู่
คริปโตเคอเรนซี นำเงินออกนอกประเทศไปให้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งข้อมูลจากการประชุมเปิดเผยว่ามีคนเปิดบัญชีม้ากว่า 2 แสนราย ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในวัยทำงาน โดยมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่ขาดแคลนแรงงานถึง 2 แสนคน ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีแนวโน้มที่อาจจะถูกออกหมายจับ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ภาคธนาคารต้องจัดการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ระบบเศรษฐกิจของชาติได้รับผลกระทบหนักกว่านี้

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเปิดยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ที่จะปิดกั้นทุกช่องทางที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการหลอกลวงประชาชน โดยตัดช่องทางการใช้บัญชีม้าในการกระทำความผิด โดยในการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นตามนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะไม่ยอมให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไป การปิดบัญชีม้าเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายชัดเจน และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ด้าน น.ส.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนร่วมกับ ศปอส.ตร. ในการกำหนดนโยบายและการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้คนร้ายใช้ช่องทางบัญชีธนาคารหลอกลวงคนไทยให้ตกเป็นเหยื่อจากกลุ่มแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติอีกต่อไป

Senior Inspector General Takes Action Nonstop: Cutting Off “Mule Accounts,” a New Form of National Security Threat

Today (January 13, 2025) at 10:30 a.m., Police General Thatchai Pitaneelaboot, Senior Inspector General/Director of the Police Cyber Taskforce (PCT), along with Police Major General Attasit Sutsanguan, Deputy Commissioner of The Cyber Crime Investigation Bureau ; Police Major General Phongsiam Meekhantong, Deputy Commissioner of the Tourist Police; Police Major General Chusak Khananit, Commander of the Anti-Money Laundering Bureau; and Colonel Worrathat Wichuwanich, Superintendent of the Royal Thai Police Cadet Academy, held a meeting with the Bank of Thailand.

The meeting, led by Ms. Rung Mallikamas, Deputy Governor for Financial Institutions Stability; Ms. Daranee Saechu, Assistant Governor for Payment Systems Oversight and Consumer Protection; and Mr. Buncha Manungkunchai, Advisor to the Deputy Governor for Financial Institutions Stability, focused on strategizing a major crackdown on financial crimes. The goal is to close loopholes exploited by criminals to defraud Thai citizens and drain significant national resources.

Nationwide Shutdown of Mule Accounts

Currently, over 500,000 mule accounts are being used for scams, causing immense damage to Thailand’s economy. “We must close this loophole!” said Police General Thatchai, adding that since 2022, criminals have used mule accounts to steal over 100 billion baht from Thai citizens. These accounts have been used to channel money through Thailand’s financial infrastructure and transfer funds into cryptocurrency, ultimately moving money out of the country to call center gangs, which are often part of foreign organized crime networks.

The meeting revealed that over 200,000 people have opened mule accounts, most of whom are working-age individuals. This has resulted in a labor shortage of 200,000 workers in the Thai economy. Many of these account holders are likely to face arrest warrants. The banking sector must address this issue promptly to prevent further disruption to the national economy.

Operation “Breaking the Criminal Bridge”

This meeting also marked the launch of Operation “Breaking the Criminal Bridge,” aimed at cutting off all pathways used by call center gangs to deceive citizens. By eliminating the use of mule accounts for criminal activities, Police General Thatchai emphasized the importance of aligning with the policy of Prime Minister Paetongtarn Shinawatra.

“We will no longer allow call center gangs to deceive our citizens! Shutting down mule accounts is a targeted, decisive action that will be carried out swiftly and effectively through the collaboration of all sectors,” he stated.

Urgent Action from the Bank of Thailand

Ms. Rung Mallikamas, Deputy Governor of the Bank of Thailand, assured that the Bank would urgently collaborate with the Police Cyber Taskforce (PCT) to establish policies and solutions to prevent criminals from exploiting bank accounts. This initiative aims to protect Thai citizens from becoming victims of international organized crime groups.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เร่งสำรวจ “จระเข้น้ำจืดไทย” แห่งผืนป่ามรดกโลกแก่งกระจาน จ.เพรชบุรี

แชร์เนื้อหานี้

จากเหตุการณ์เริ่มต้นจากเรื่องที่ไม่คาดคิด เมื่อวันที่ 2 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้จับกุมผู้ลักลอบนำวัว 50 ตัวเข้ามาเลี้ยงในเขตอุทยาน บริเวณเกาะสะแกวัลย์ แต่เหตุการณ์นี้กลับนำไปสู่การค้นพบที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่า ทั้งนี้ นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เล่าว่า ทีมนักวิจัยได้พบร่องรอยที่น่าสนใจหลายประการ ทั้งรอยเดิน รอยนอนอาบแดด และกองมูลขนาดใหญ่ที่คาดว่าเป็นของจระเข้น้ำจืดไทย

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือการพบร่องรอยการถูกกัดที่ลำตัวของวัว และจุดที่คล้ายกองเลือดบริเวณริมหาด จระเข้ตัวนี้ฉลาดมากแม้เราจะติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า แต่ดูเหมือนมันจะได้กลิ่นมนุษย์และหลบเลี่ยงไม่เข้าใกล้บริเวณที่เราวางกล้องไว้ ความน่าสนใจของการค้นพบครั้งนี้ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อพบว่าวัวที่เหลืออยู่แสดงพฤติกรรมหวาดกลัวการเข้าใกล้ริมน้ำอย่างผิดปกติ สอดคล้องกับคำให้การของเจ้าของวัวที่เคยพบเห็นจระเข้ลอยตัวอยู่เหนือน้ำบริเวณใกล้เกาะ“ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ได้พบร่องรอยจระเข้น้ำจืดใน 4 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณวังข่า ใกล้หมู่บ้านโป่งลึก พบมาตั้งแต่ปี 2554 บริเวณต้นแม่น้ำเพชรบุรี ใกล้โป่งสีชมพู พบตั้งแต่ปี 2562 ที่บริเวณแม่น้ำบางกลอย พบรอยตีนและกองมูลในปี 2564 และบริเวณแม่น้ำแม่ประโดน พบร่องรอยซากกวางและรอยตีนจระเข้ การค้นพบครั้งนี้สร้างความหวังให้กับการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดไทย สัตว์เลื้อยคลานที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง ขณะนี้ทีมนักวิจัยได้เก็บตัวอย่างมูล

เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ ซึ่งจะช่วยประเมินขนาดของจระเข้ตัวนี้ได้แม้จะยังไม่พบตัวจริง แต่ร่องรอยที่พบทั้งหมดก็เป็นสัญญาณอันน่ายินดีที่แสดงให้เห็นว่า ระบบนิเวศในผืนป่าแก่งกระจานยังคงอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าหายากชนิดนี้ โดยทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังคงทำทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์และปกป้องจระเข้น้ำจืดไทยตัวนี้ให้อยู่คู่ผืนป่าแก่งกระจานต่อไป” นายมงคล กล่าวทิ้งท้าย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / บุกจับแก๊งมอดไม้นาโสก 7 คน ลักลอบเลื่อยไม้ในเขตป่าสงวนฯ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 12 มกราคม​ 2568​ ชุดปฏิบัติการข่าว สำนักการข่าว กอ.รมน. ร่วมบูรณาการชี้เป้าให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้มุกดาหาร ร่วมกับ กองร้อยทหารราบกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , ชปข.7 กกล.สุรศักดิ์มนตรี , กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร , หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.4 (คำอาฮวน),

กก.3 บก.ปทส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สินธิกำลังปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ บ้านกุดแข้ใต้ ต.กุดแข้ อ.เมืองมกดาหาร จ.มุกดาหาร ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงบังอี่ แปลงที่ 1 พิกัด สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปทำการตัดไม้แปรรูปไม้ที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว

ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน ได้แก่ 1) นายโสดา นาโสก อายุ 70 ปี (เจ้าของไม้, เจ้าของที่ดิน และเป็นผู้จ้างวาน) ที่อยู่เลขที่ 81 ม.13 บ.โนนบุปผา ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ, 2) นายวินิจ บับพาน อายุ 58 ปี ที่อยู่เลขที่ 1/1 ม.8 บ.แก้ง ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ (ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ.แก้ง ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ , 3)

นายทรงสิทธิ์ บับพาน อายุ 40 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 26 ม.5 บ.นาบอน ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ, 4) นายปรีชา อุคำ อายุ 50 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 195 ม.4 บ.เหล่าป่าเป็ด ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ, 5) นายทวีศักดิ์ เสียงหวาน อายุ 57 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 174 ม.7 บ.โคกปังเปื่อย ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ 6) นายสุทธินันท์ สุวรรณพันธ์ อายุ 31 ปี (มือเลื่อย) ที่อยู่เลขที่ 233 ม.18 บเหล่าป่าเป็ด ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ และ 7)

นายศราวุฒิ แก้วหาญ อายุ 88 ปี ที่อยู่เลขที่ 141 ม.10 บ.โคกป่งเปื่อย ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหารฯ (คนหยดน้ำมัน) พร้อมของกลาง ไม้พฤกษ์แปรรูป จำนวน 6 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.56 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่าเสียหายของรัฐ เป็นจำนวนเงิน 11,200 บาท, ไม้พลวงแปรรูป จำนวน 19 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.45 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่าเสียหายของรัฐ เป็นจำนวนเงิน 9,000 บาท, ไม้พลวงท่อน จำนวน 6 ท่อน ปริมาตร 3.87 ลบ.ม.

คิดเป็นมูลค่าเสียหายของรัฐ เป็นจำนวนเงิน 37,400 บาท, เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 5 เครื่อง, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า ไมตี้เอ็ก สีเขียว ทะเบียน บม 24121 มุกดาหาร เลขตัวถัง LN908049991, รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน, รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จำนวน 1 คัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง สภ.เมืองมุกดาหาร จากนั้นนำไม้ของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่ ศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ลั่นฆ้องชัย แต่งไทยเทิดพระเกียรติฯ ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช’ ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 08.00 น. นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ทรงพล แป้นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายประยูร ศิริวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ และ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน จำนวน กว่า 3,500 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรม รณรงค์แต่งไทย “นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งไทยทั้งเมือง”

ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจำปี 2568 ด้วยการ แต่งไทยย้อนยุค สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และ ชุดไทยประยุกต์ อย่างสวยสดงดงาม ปรับเป็นรูปขบวน โดยมีหน่วยงาน สถานศึกษา เข้าร่วมประกวดขบวนรณรงค์แต่งไทย จำนวน 8 ขบวน ประเภทสวยงาม จำนวน 4 ขบวน และประเภทความคิดสร้างสรรค์ จำนวน 4 ขบวน ออกเดินรณรงค์แต่งไทย

จากบริเวณลานเอนกประสงค์ สวนราชานุสรณ์ ตามท้องถนน ผ่านโบราณสถาน และจุดต่างๆ ในเขตตลาดชุมชนรอบตัวเมืองลพบุรี ระยะทางรวมกว่า 3 กิโลเมตร เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ งานที่ภาคภูมิใจและยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวจังหวัดลพบุรี คือ งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568

โดยได้เชิญชวนชาวลพบุรี พร้อมใจแต่งไทยกันทั้งเมือง ตลอดระยะเวลา 1 เดือน เพื่อเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศของความเป็นไทย และร่วมกันแสดงออก ถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ในช่วงของการจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งจะมีขึ้นระหว่าง วันที่ 14-23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ อำเภอเมืองลพบุรี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ องค์บูรพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

โดยเฉพาะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงคุณูปการอเนกอนันต์ ต่อเมืองลพบุรี สำหรับกิจกรรมดังกล่าว นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ และส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์ และความเป็นชาติไทยแล้ว ยังถือเป็นการรวมพลังชาวลพบุรี ในการแต่งไทยทั้งเมือง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย เป็นการแสดงออก ซึ่งความร่วมมือกันระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรต่างๆ และประชาชนในจังหวัดลพบุรี เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

สำหรับงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในปีนี้พบกับความยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2568 ชมขบวนแห่ประวัติศาสตร์ รำบวงสรวง สวนนารายณ์นฤมิต ตำรับโอสถพระนารายณ์ ทหารวังเปลี่ยนเวร การแสดงละครลิง กิจกรรมแต่งชุดไทยจดทะเบียนสมรส หมากรุกคน ตลาดย้อนยุค ลานวัฒนธรรมและอาหารพื้นบ้าน

การแสดงศิลปวัฒนธรรม ซาโม่น “ตลาดมอญเมืองละโว้” ชิม ช้อป สินค้าโอทอปของดีจังหวัดลพบุรี สัมผัสการแสดง แสง สี เสียง ประวัติศาสตร์จินตนาการที่ปรับเปลี่ยนใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ สุดอลังการ ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเปิดให้ชมฟรีอีกด้วย

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนนย์ข่าวฯ / ประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “สว.มาเรีย” เปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ของเทศบาลตำบลทับสะแก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 11 ม.ค. 68 ที่ลานหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( สว. ) เป็นประธานในพิธีอ่านสารวันเด็ก พร้อมกล่าวเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ของเทศบาลตำบลทับสะแก ประจำปี 2568

โดยมี นายพงษ์พันธ์ เผ่าประทาน นายกเทศมนตรีตำบลทับสะแก นายพนม ปัถวี หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก น.ส.ณุกานดา จันทราภรณ์ สาธารณสุขอำเภอทับสะแก พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงาน ร่วมกิจกรรม ในการนี้ นายสวาป เผ่าประทาน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( สส.) ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมมอบของรางวัลในงานด้วย

โดยภายในงานมีให้บริการซุ้มอาหาร เครื่องดื่ม ให้กับเด็กที่ร่วมงานวันเด็กฯ รับชมการแสดงจากโรงเรียนต่างๆ ดังนี้ โรงเรียนสหมิตรวิทยาคม ชื่อชุดการแสดง รำไทยประยุกต์ เลิศลีลา โรงเรียนทับสะแกวิทยา ชื่อชุดการแสดง ทีม ABIGAIL DANCE CERW ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทับสะแก ศูนย์ 1. ชื่อชุดการแสดง เพลง แอวลั่นปั๊ด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทับสะแก ศูนย์ 2. ชื่อชุดการแสดง อพาร์ทเม้นท์เด็กน้อย

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทับสะแก ศูนย์ 3. ชื่อชุดการแสดง เพลง รถซื้อแกง ชมการแสดงมายากล จากคณะ Lionmagic Show โรงเรียนบ้านพุตะแบก ชื่อชุดการแสดง เพลง โด เร มี เดอะชาวด์ออฟ มิวสิค โรงเรียนวัดนาล้อม ชื่อชุดการแสดง เพลง หางเครื่อง โรงเรียนอนุบาลทับสะแก ชื่อชุดการแสดง เพลง ทุ่งลุยลาย

สำหรับเด็กๆ สนุกกับกิจกรรมนันทนาการ การถามตอบปัญหาสลับกับการจับสลากหางบัตรลุ้นรับของขวัญ ของรางวัล ทุนการศึกษาบนเวทีใหญ่ ตลอดจนเสร็จสิ้นการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยมีเด็กๆ จากอำเภอทับสะแก และ อำเภอใกล้เคียงร่วมงานจำนวนมาก
/////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443