เรื่องทั้งหมดโดย admin

เชียงรากแฟร์ สวนสนุกสุขสันต์ มหัศจรรย์สตรีทฟู้ด/ประชาธิปัตย์ยุคใหม่เพิ่มบทบาทระหว่างประเทศผนึกพรรคการเมืองในเอเชียลดขัดแย้งร่วมมือแบบสร้างสรรค์ส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

แชร์เนื้อหานี้
  • กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ กับงานเชียงรากแฟร์ ครั้งที่ 3 สวนสนุกสุขสันต์ มหัศจรรย์สตรีทฟู้ด ณ ตลาดนัดเชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต วันที่ 10- 23 กันยายน 2567 เวลา 11.00-23.00 น งานนี้เชียงรากแฟร์จัดใหญ่กว่าเดิม ยกขบวนของกินร้านเด็ดร้านดังมากมาย ตั้งแต่ร้านค้าชุมชน ร้านค้าโซนนักศึกษา ไปจนถึงร้านดังที่เป็นกระแสในโซเชียล กว่า 400 ร้านค้า และยังมีโซนสวนสนุก เครื่องเล่นยิ่งใหญ่ตระการตา สุดตื่นตาตื่นใจไปกับไวกิ้ง ทากาด้า สไปเดอร์แมน รถบั้ม ปราสาทผีสิง กิจกรรมอีกสไลต์งานวัดอีกมากมาย เช่น ตักปลา วาดรูป ระบายสีปูนปลาสเตอร์ และที่พิเศษสุดๆการโซนเจแปน บรรยากาศการตกแต่งสไลต์ญี่ปุ่น พร้อมที่จอดรถกว่า 1,000 คัน งานนี้บอกเลยสนุก มันส์ ตลอดงาน
  • เชียงรากแฟร์ เกิดจากแนวคิด ปั้น ‘ตลาดนัด’ รับใช้ชุมชน ผสานความร่วมแรงร่วมใจระหว่างมหาวิทยาลัย นักศึกษา และชุมชน โดยมีที่มาจากการจัดตั้งตลาด ‘เชียงรากมาร์เก็ต’ ในรูปแบบตลาดช่วงเย็น รวบรวมของอร่อย สินค้าสไลฟ์สไตล์ และเปิดกว้างพื้นที่กิจกรรม โดยที่มาสินค้าในตลาดนั้นเป็นการชักชวนชุมชน-เครือข่ายเกษตรกร เข้ามาตั้งแผงขายสินค้า ทั้งผักสด ผลไม้ปลอดภัย รวมถึงสินค้าอุปโภค บริโภค มากมาย นอกจากนี้ยังมีสินค้าจากฟาร์มยั่งยืน ผักสวนครัวปลอดสารพิษ ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทั้งผู้ซื้อ ชุมชนจากหลักการที่ว่าตลาดคือผู้คน จึงทำให้ตลาดกลายเป็นจุดรวมของผู้คน พื้นที่ว่างเปล่าจึงได้กลับมามีชีวิตชีวาและเป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากที่พลิกโฉมให้เกิดการสร้างและหมุนเวียนรายได้กลับคืนสู่ชุมชนได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันนั้นเองก็อาจกล่าวได้ว่า เชียงรากมาร์เก็ตคือ ‘ตลาดสำหรับทุกคน’ (Market For All)
    ภูวดล ศิริชัยสินธพ ผู้จัดการฝ่ายบริหารพื้นที่ธุรกิจ สำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าว
  • สำหรับ”เชียงรากแฟร์ โดยเชียงรากมาร์เก็ต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นกิจกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงมหาวิทยาลัยกับชุมชนได้อย่างกลมกลืน โดยตลาดนี้ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมแรงร่วมใจและการมีส่วนร่วมและ ส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนในชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย
    • ซึ่งหากจะพูดถึงเชียงรากมาร์เก็ต ก็สามารถบอกได้ว่า เป็นโมเดลเศรษฐกิจที่เกื้อกูลและส่งเสริมกันในชุมชน เปิดโอกาสให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม”

โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 10-23 กันยายน 2567 14วันติด ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป
📍 เชียงรากแฟร์ ณ เชียงรากมาร์เก็ต ประตูเชียงราก 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

ประชาธิปัตย์ยุคใหม่เพิ่มบทบาทระหว่างประเทศ
ผนึกพรรคการเมืองในเอเชียลดขัดแย้งร่วมมือแบบสร้างสรรค์ส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ อดีตรัฐมนตรีและส.ส. พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยภายหลังการเยือนประเทศญี่ปุ่นวันนี้ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้เป็นตัวแทนพรรคในฐานะที่ตนเคยเป็นเลขาธิการและเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งCALD เข้าร่วมภารกิจและการประชุมคณะกรรมการบริหารของสภาพรรคการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยแห่งเอเชีย(CALD:Council for Asian Liberals and Democrats)ที่ประเทศญี่ปุ่น

เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศตอบโจทย์อนาคตในปัญหาความท้าทายใหม่โดยได้มีการกำหนดบทบาทร่วมกันโดยเฉพาะการส่งเสริมคุณค่าประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน เสรีภาพและหลักนิติรัฐนิติธรรม รวมทั้งการเพิ่มบทบาทของสตรีและเยาวชนคนรุ่นใหม่ทางการเมือง การยกระดับศักยภาพพรรคการเมือง ตลอดจนปัญหาปัจจุบันเช่น ประเด็น ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจโลก สังคมสูงวัย เทคโนโลยีดิสรัปชั่น ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  นอกจากนี้ภายหลังการเยือนรัฐสภาญี่ปุ่น ผู้แทนพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย(Constitutional Democratic Party)ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่อันดับ2ของญี่ปุ่นได้หารือสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์ และขอความร่วมมือพรรคประชาธิปัตย์ในด้านการช่วยเหลือชาวเมียนมาร์ด้านมนุษยธรรมที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบภายในประเทศซึ่งตนได้ตอบรับและแจ้งว่า รัฐบาลไทยมีแนวทางการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมภายใต้“แนวทางระเบียงมนุษยธรรม”(Humanitarian Corridor)พร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ในระหว่างการเยือนญี่ปุ่นยังได้แลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือกับพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ศูนย์ความร่วมมือแลกเปลี่ยนนานาชาติแห่งญี่ปุ่น(Japan Center for International Exchang)และองค์กร ศูนย์กลางเอ็นจีโอ.ความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(Japan NGO Center for International Cooperation)เป็นต้น

“การเพิ่มบทบาทในการขยายความร่วมมือกับพรรคการเมืองและองค์กรระหว่างประเทศในเอเซียและภูมิภาคต่างๆทั่วโลกของพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นนโยบายใหม่และเป็นภารกิจสำคัญในการส่งเสริมอุดมการณ์ประชาธิปไตย ความเสมอภาค สิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน การลดความขัดแย้งและเพิ่มความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในยุคสมัยแห่งความผันผวนของโลกปัจจุบัน” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด สำหรับสภาพรรคการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยแห่งเอเชียก่อตั้งที่กรุงเทพเมื่อ31ปีที่แล้วมีพรรคการเมืองในประเทศต่างๆเป็นสมาชิกเช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ มาเลเซีย ศรีลังกา มองโกเลีย กัมพูชา ญี่ปุ่น ไทย ฯลฯ.

เปิดแล้ว..! งานท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว และงานกาชาดปี 67 สปสช. เขต 5 เพิ่มประสิทธิภาพด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุก

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.วันที่ 13 กันยายน 2567 ที่บริเวณเวทีกลางการจัดงาน บนสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว และงานกาชาดประจำปี พ.ศ.2567 ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกับ สำนักงานการท่องเที่ยว สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 13 – 22 กันยายน พ.ศ.2567 ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หน้าศาลากลางจังหวัด และถนนเลียบชายทะเลอ่าวประจวบฯ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ และนายองครักษ์ ทองนิรมล นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกอบจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน

เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.ก่อนเริ่มพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการได้มีการจัดขบวนแห่เฉลิมพระเกียรติ จากทั้ง 8 อำเภอ ที่นำเสนอเกี่ยวกับอัตลักษณ์ความเป็นไทยของแต่ละพื้นที่ในแต่อำเภอ โดยผู้เข้าร่วมขบวนทุกคนเน้นแต่งกายสวมใส่ด้วยชุดผ้าไทย ตามโครงการ”ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เข้าร่วมเดินขบวน มีการแสดงการละเล่นท้องถิ่นของไทยในอดีต เช่น งูกินหาง มอญซ่อนผ้า ม้าก้านกล้วย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงโขน รามเกียรติ์ การตีกลองสะบัดชัย และการรำเทิดพระเกียรติ และการแสดงของน้องๆเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ อีกด้วย
ในส่วนของเวทีกลางการจัดงาน ยังมีการแสดง Opening Show ชุดการแสดง”ปลานวลจันทร์ มหัศจรรย์ปลาแห่งพระราชา การแสดง Amazing ธิดาผ้าไทย 2024 จากกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ร่วมกับจิตอาสากาชาดและชมรมนาฏศิลป์สร้างสรรค์ประจวบคีรีขันธ์ การแสดงชุดเปรตสัมภเวสี จากโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองบัว การแสดงบทเพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่ง การแสดงต้อนรับมหัศจรรย์เมืองสามอ่าว จากโรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม เป็นต้น

โดยภายในงานตลอด 10 วัน มีกิจกรรมต่างๆมากมาย ประกอบด้วย ชมการตกแต่งไฟสวยงาม การจัดแสดง แสง สี เสียง และนิทรรศการต่างๆ ภายใต้แนวคิดเมือง 3 อ่าว การแสดงวัฒนธรรมศิลปะพื้นบ้าน และการแสดงดนตรีจากศิลปินท้องถิ่น ศิลปินดัง การแสดงชิงช้าสวรรค์ ทูบีนัมเบอร์วัน ประจวบคีรีขันธ์ การประกวดสาวงามเมืองสามอ่าว การประกวด Miss Queen การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง การแข่งขันกีฬามวยไทยนานาชาติ กิจกรรมตามรอยพ่อหลวงพิชิตยอดเขาช่องกระจก นอกจากนี้ที่บริเวณสะพานสราญวิถี ยังมีลานวัฒนธรรมสนุกสนานกับการเรียนรู้ ลงมือทำ ในบูธกิจกรรมสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และ workshop ศิลปะ และกิจกรรมเที่ยวชิม ช้อปปิ้ง กินเพลิน ในโซน OTOP Cafe และ OTOP Super market ตลาดแห่งความสุข(แฮปปี้เน็ตมาร์เก็ต ) บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด กิจกรรมล้วงไหของการออกร้านกาชาดการกุศล ร่วมทำบุญกับกาชาด การแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทย อีกด้วย ซึ่งในส่วนของความบันเทิงภายในงานได้มีการเปิดให้ชมฟรี มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง อาทิ แบงค์ ปรีติ (Clash) เอ ไมค์ทองคำ แพรวา พัชรี รำวงไพรอาร์ท รำวงประยุกต์สอนสุพรรณโชว์ และอื่นๆอีกมากมาย

นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังที่จะสามารถดึงดูดประชาชน -นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดโดยรอบให้เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน และผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจร้านค้าร้านอาหารในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อีกทั้ง ยังเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างการรับรู้และความสนใจในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ให้เพิ่มมากขึ้น วัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ Soft Power ด้านวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมของชาวประจวบคีรีขันธ์ ที่สามารถนำมาประยุกต์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มการกระจายสินค้าท้องถิ่น และเพื่อให้เห็นถึงความสวยงามของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างฯ อีกมากมาย

สปสช. เขต 5 เพิ่มประสิทธิภาพด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกในระดับเขต เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว ฉับไว เข้าถึงการให้บริการที่ถูกต้อง

วันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ห้องประชุมโรงแรมไมด้า แกรนต์ ทวารวดี อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายแพทย์พีระมน นิงสานนท์ ผู้อำนวยการเขตสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. ) เขต 5 ราชบุรี เป็นประธานเปิดการประชุม เพิ่มประสิทธิภาพด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุก ในระดับเขตพื้นที่ สปสช. เขต 5 ราชบุรี โดยมีสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีสื่อประชาสัมพันธ์จังหวัด สื่อสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย สื่อเครือข่ายวิทยุชุมชน สื่อเครือข่ายออนไลน์ และสื่อหนังพิมพ์ รวมไปถึงสื่อทีวีส่วนกลาง และท้องถิ่น เข้าร่วมประชุม

โดยมี นางจันทนา พิณทิพย์ นักวิชาการหลักประกันสุขภาพ ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการกลุ่มฯ นางสุกัญญา วงศ์ศิริ นักวิชาการหลักประกันสุขภาพ มาบรรยาย ให้ความรู้ รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การคุ้มครองสิทธิ และนโยบายต่าง ๆ นำไปเผยแพร่ให้แก่ประชาชนผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ของตนเอง อีกทั้งมีนางสาวโสภาพันธุ์ รักษาธรรม และนางสาวศศิมณี นันตาวรรณ์ นักวิชาการหลักประกันสุขภาพ ได้ บรรยายถึง การวางแผ่นขับเคลื่อนงานสื่อสารประชาสัมพันธุ์สิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพในพื้นที่ปี 2568


นายแพทย์พีระมน นิงสานนท์ ผู้อำนวยการเขตสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. ) เขต 5 ราชบุรี ได้กล่าวในที่ประชุมถึง สิทธิบัตรทอง 30 บาท คุ้มครองค่าใช่จ่าย ซึ่งมีปัจจัยในการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ การตรวจโรค การตรวจ และรับฝากครรถ์ ตลอดถึงการบำบัดและการให้บริการทางการแพทย์ บริการด้านสาธารณสุขด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก การสาธารณสุขที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุการประสบภัยจากรถ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้สื่อมวลชนได้นำข่าวสารประชาสัมพันธ์ขององค์กร นำไปเสนอให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว เข้าถึงการให้บริการที่ถูกต้อง ฉับไว ซึ่งเป็นการปฎิบัติงานในเชิงรุกของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ( สปสช. ) เขต 5 ราชบุรี ต่อไป

////////////////////////////////////////////////////////
ณัฐธภพ พันสาย / ทีมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

บางละมุง-พัทยา ส่งธารน้ำใจช่วยน้ำท่วมเมืองหนองคาย – สมาคมชาวอีสานเมืองพัทยาร่วมกับสำนักสงฆ์หนองอ้อ จัดงานบุญข้าวสาก อีสานพัทยา ประจำปี 2567

แชร์เนื้อหานี้

ตามที่เกิดปัญหาภัยธรรมชาติอุทกภัยทางภาคเหนือ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่โขงสูงขึ้นจนเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจในจังหวัดหนองคาย สร้างผลกระทบความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยหลายหน่วยงานทั่วประเทศต่างระดมกำลังกันช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องอยู่นั้นวันที่ 17 ก.ย.67 มีรายงานว่า ที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายประสิทธิ์ ทองทิตย์เจริญ ประธานมูลนิธิฯ พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกระทำพิธีปล่อยขบวนรถช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดหนองคาย

นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า ที่ผ่านมาอำเภอบางละมุงได้ร่วมกับเมืองพัทยา มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา และหน่วนงานอื่นบูรณาการความช่วยเหลือเปิดรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 แล้ว และได้กระจายความช่วยเหลือไปแล้วหลายจังหวัด เป็นธารน้ำใจของพี่น้องชาวบ้านละมุง และเมืองพัทยาที่ร่วมกันส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัย

ด้าน นายประสิทธิ์ ทองทิตย์เจริญ ประธานมูลนิธิฯสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา กล่าวด้วยว่า.ฝนครั้งนี้ได้จัดเตรียมสิ่งของรับบริจาคจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนเป็นสิ่งของจำเป็น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมน้ำหนักกว่า 30 ตัน ซึ่งจะได้ขนส่งโดยรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่สนับสนุนโดยนายบรรลือ กุลละวณิชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา ซึ่งต้องขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย โดยจะออกเดินทางจากมูลนิธิฯเย็นวันนี้และจะไปถึงวันพรุ่งนี้เวลา 07.00 น.

ขณะที่ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณชาวอำเภอบางละมุง ชาวเมืองพัทยา รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ร่วมากันบริจาคสิ่งของช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมจนได้สิ่งของจำนวนมาก และขอส่งกำลังใจให้กับพี่น้องชาวไทยที่ประสบปัญหาอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ด้วยเช่นกัน

สมาคมชาวอีสานเมืองพัทยาร่วมกับสำนักสงฆ์หนองอ้อ จัดงานบุญข้าวสาก อีสานพัทยา ประจำปี 2567

วันที่ 17 ก.ย.67 ที่สำนักสงฆ์หนองอ้อ พัทยากลาง จ.ชลบุรี สมาคมชาวอีสานเมืองพัทยา โดย นายสุครีพ กระจาย นายกสมาคมฯ ได้ร่วมกับสำนักสงฆ์หนองอ้อ จัดงานบุญข้าวสาก อีสานพัทยา ประจำปี 2567 โดยพบว่ามีประชาชนชาวอีสานทึ่อาศัยในเมืองพัทยาเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

สำหรับงานบุญข้าวสาก ถือเป็นประเพณีในวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งชาวบ้านจะจัดเตรียมสํารับอาหารบรรจุข้าวเหนียว อาหารแห้ง เช่น ปลาย่าง เนื้อย่าง แจ่วบองหรือน้ำพริกปลาร้า และห่อข้าวเล็กๆ สําหรับนําไปถวายพระทําบุญที่วัด เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้แก่ญาติพี่น้องหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

ทั้งนี้ ภายในงานได้รับเกียรติจากแขกเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา นายนคร ผลลูกอินทร์ นายนคร ผลลูกอินทร์ ส.อบจ.ชลบุรี นายมานะ ยาประคำ ประธานสภาวัฒนธรรมเมืองพัทยา และนายรัฐกิจ เฮงตระกูล ผู้ช่วยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

​ระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม น้ำในแม่น้ำโขง มุกดาหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567​ เวลา 17.00 น ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดมุกดาหารมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในวันนี้มีระดับน้ำ10.33​ เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.96 เมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤต 2.17 เมตร​ ขณะระดับวิกฤตอยู่ที่ 12.50 เมตร อย่างไรก็ตามในวันนี้ที่บริเวณทางเดินสันเขื่อนหน้าตลาดอินโดจีนเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ได้ถูกน้ำโขงไหลเข้าท่วมแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงตื่นตกใจ ต้องคอยเฝ้าดูระดับน้ำในแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง ว่าจะมีระดับเพิ่มสูงขึ้นจนถึงขั้นวิกฤตไหลเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารหรือไม่ เพื่อจะได้เตรียมตัวเก็บสิ่งของภายในบ้านขึ้นไว้ในที่สูงได้ทันท่วงที

ระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมปี 67 ธงเขียว ต่ำกว่า 11.50​ ม.รทก. ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ธงเหลือง 11.50-12.50​ ม.รทก. ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ธงแดง 12.5. ม.รทก. ขึ้นไป ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์วิกฤต เริ่มล้นตลิ่ง ให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง และระวังภัยที่เกิดจากน้ำ

ขณะที่ นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร ได้มีคำสั่งให้ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองมุกดาหาร เร่งดำเนินการจัดทำกระสอบทรายจำนวน 1,500 กระสอบ เพื่อจัดเตรียมไว้คอยให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หากเกิดอุทกภัยขี้น เพื่อพี่กลับบ้านจะได้นำกระสอบทรายไปวางเป็นแนวกั้นน้ำป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้านเรือน โดยทั้งนี้ เทศบาลเมืองมุกดาหารได้แจ้งเตือนขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย

ศูนย์ข่าวมุกดาหาร​

ภาพ​/ข่าว​ พวงเพชร จันทร์ดี
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

” จากเหนือ.. สู่อีสาน ” ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมอุปกรณ์ รถยกสูง 4×4 รถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ โรงครัวเคลื่อนที่ ลุยพื้นที่จังหวัดหนองคาย

แชร์เนื้อหานี้


ตามที่สถานการณ์น้ำท่วมบางพื้นที่จังหวัดเชียงรายเริ่มคลี่คลาย ประจวบกับได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดหนองคาย เมื่อวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวรพจน์ จรัสเศรษฐสิริ รักษาการผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ นำทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมเรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ รถยกสูง 4×4 รถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ โรงครัวเคลื่อนที่ ถุงยังชีพ ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว เคลื่อนกำลังพลออกจากเชียงราย ไปยังจังหวัดหนองคาย โดยขณะนี้ได้จัดตั้งกองอำนวยการ และโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุก ณ วัดท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย


เมื่อถึงพื้นที่ประสบภัย มูลนิธิฯ ได้จัดทีมปฏิบัติการเร่งสำรวจพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือในทันที รวมถึงอพยพประชาชน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยมี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิฯ จุดต่างๆ อาสาสมัครศิลปิน นำโดย นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น) พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ และ หน่วยกู้ภัยจีตัมเกาะอุบลราชธานี ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ และในขณะนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังคงอยู่ระหว่างปฏิบัติการภารกิจอพยพในพื้นที่ต่อเนื่อง รวมทั้งประกอบอาหารปรุงสุก พร้อมจัดเตรียมน้ำดื่ม และถุงยังชีพ เพื่อบรรทุกรถและเรือ ลงพื้นที่แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป


มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม หรือติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

แถลงข่าวเทศกาลภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เฟสติวัล (KTIFF)ในบทบาทใหม่ของวัฒนธรรมจีน-ไทย

แชร์เนื้อหานี้


ณ กรุงเทพมหานคร วันที่ 12 กันยายน 2567 วันนี้ เวลา 13:30 น. ตามเวลากรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเทศกาลภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เฟสติวัลขึ้นอย่างเป็นทางการและยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยงานเทศกาลภาพยนตร์นี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และภาคเอกชนจากทางสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศไทย ทั้งนี้ทาง KTIFF ได้ร่วมกันหาแนวทางให้เกิดประโยชน์สูงสุดระหว่างจีนและไทยจากทุกภาคส่วน อย่างเช่น ท่านยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม,ท่านวรรณสิริ โมรากุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ต่างประเทศและอดีตอธิบดีกรมการท่องเที่ยว, ท่านนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านการสื่อสารการตลาดกรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,ท่าน ดร.เกสี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และท่าน ผศ. มานินทร์ เจริญลาภ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ก่อตั้ง KTIFFMs. Huang Ruoling จากประเทศไทย และ Mr. Liu Kai จากประเทศจีน


งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในประเทศไทย ครั้งนี้มีผู้สนับสนุนจากจีนและไทยเข้าร่วมอย่างคับคั่ง โดยจีนและไทยได้ก้าวไปสู่การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมภาพยนตร์ครั้งใหม่ที่สำคัญ งานแถลงข่าวจึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันและความเจริญรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ผ่านสะพานสานสัมพันธ์ งานแถลงข่าวได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ในงานแถลงข่าว คนดังจากวงการบันเทิง วงการภาพยนตร์ นักข่าว สื่อมวลชน และแขกจากทุกสาขาอาชีพจากประเทศจีนและไทยมารวมตัวกันเพื่อเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวงานเทศกาลอินเตอร์เนชั่นเนล ไทยแลนด์ เฟสติวัล และในงานได้มีการกล่าวปาฐกถาสำคัญในหัวข้อ “ความร่วมมือแบบ win-win ระหว่างผู้ประกอบการและนายทุนในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ” จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์โดยตรง เช่น ท่านวรรณสิริ โมรากุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ต่างประเทศและอดีตอธิบดีกรมการท่องเที่ยว คุณเทา มินฮัน ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จาก Shanghai Theatre Academy ท่าน Mr.Kai Liu ผู้บริหาร Tailin Film and Television Culture และผู้ก่อตั้ง KTIFF ท่าน Ms. Huang Ruoling ผู้ก่อตั้งบริษัท HOYA International Entertainment นักลงทุนจากจีน เช่น FB Culture Communication Co. , Ltd., China Mobile Games & Interactive Entertainment Group,China Mobile Games & Interactive Entertainment Group,Founder of FB Culture Communication Co. , Ltd.และ CEO BAI BINGBING

กล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยมาก และเป็นประเทศที่น่าลงทุนพัฒนาในอนาคตหวังว่ามีโอกาสได้ร่วมมือกันพัฒนาประเทศไทยจากโครงการ KTIFF ผมหวังว่าในอนาคตเกมส์คริปต์ได้สามารถนำความบันเทิงเข้ามาให้กับคนหนุ่มสาวในไทยและเป็นอีกหนึ่งความสุขที่จะได้มาร่วมกับคนไทย ผู้กำกับไทย เช่น คุณนนทกร ทวีสุข คุณธนาวุฒิ เกสโร และคุณบัณฑิต ทองดี ผู้ประสานงานกองถ่ายภาพยนตร์ไทย – จีน คุณพรเทพ เจริญเลิศสิริวณิช และตัวแทนสมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ (FSA) คุณศฐาณพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง โดยมีแขกร่วมงานที่เป็นนักแสดงและบุคคลเบื้องหลังที่มีชื่อเสียง อาทิ สีดา พัวพิมล, พัชญา เพียรเสมอ (พีพี), รัน กันต์ธีภพ, เล้ง ณัฐพล, แสตมป์ พรวศิน, อ๊อฟ เอกรินทร์, เพียว ปภาวรรณ, ปาย ชนกันต์, ดร.วโรดม ศิริสุข (ชายแฮ็คส์), ศฐาณพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง, บัณฑิต ทองดี, ธนาวุฒิ เกสโร, รัชดาภรณ์ เกตุเทศ, เจตนิพัทธ์ สาสิงห์, ชาติชาย ศรีบุญเรือง, ธัญลักษณ์ ตระการศิลป์วัฒน์ และแขกรับเชิญในวงการบันเทิงอีกมากมาย โดยสื่อมวลชนมีการถามคำถามเกี่ยวกับการเตรียมตัวสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ กิจกรรมไฮไลท์ และโอกาสความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศ ผู้จัดงานตอบคำถามของนักข่าวและระบุว่าพวกเขาจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้เทศกาลภาพยนตร์ประสบความสำเร็จและมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาวัฒนธรรมภาพยนตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ

Ms. Huang จาก HOYA International Entertainment และ Mr. Liu จาก Tailin Film and Television Culture ได้กล่าวเรื่องการก่อตั้ง KTIFF ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่คนในแวดวงภาพยนตร์และโทรทัศน์จากทั้งสองประเทศร่วมกันก่อตั้ง KTIFF ด้วยความรักที่มีต่อประเทศของตนและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างสองประเทศ และหวังว่าจะมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทยในอนาคต ในขณะเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยศรีปทุม และBRI ได้ระบุว่างาน KTIFF จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในสาขาภาพยนตร์ของตนในอนาคต แขกที่มาร่วมงานเห็นพ้องกันว่าภาพยนตร์เป็นเหมือนสื่อกลางทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการสื่อสารทางจิตวิญญาณและการแลกเปลี่ยนทางอารยธรรมระหว่างทั้งสองประเทศ และตัวแทนจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในจีนและไทยได้แสดงความคาดหวังว่าเทศกาลภาพยนตร์นี้ จะมีส่วนช่วยกระชับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งได้ดียิ่งขึ้นในด้านการผลิตภาพยนตร์ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี การขยายตลาด และด้านอื่น ๆ พวกเขาเชื่อว่าด้วยการจัดเทศกาลภาพยนตร์ จะสามารถส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศได้ และนำผลงานภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาสู่ผู้ชมได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

และเป็นที่ทราบกันดีว่า KTIFF นี้จะนำเสนอกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมาย ในช่วงการฉายภาพยนตร์จะมีภาพยนตร์ที่โดดเด่นหลายเรื่องจากประเทศจีน ไทย และประเทศอื่นๆ ครอบคลุมธีมและสไตล์ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ชมได้ชื่นชมเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์และจิตวิญญาณแห่งอุตสาหกรรมของภาพยนตร์ ขณะเดียวกันทั้งสองประเทศยังแสดงสปิริตในการร่วมมือเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมภาพยนตร์จีนและไทย
บทสรุป

ความสำเร็จในการจัดงานแถลงเทศกาลภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เฟสติวัล (KTIFF)ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมภาพยนตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ เราหวังว่าจะใช้เทศกาลภาพยนตร์นี้เพื่อกระชับความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างผู้คนของทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนและไทย ขอให้เราตั้งตารอคอยการมาถึงของกิจกรรมทางวัฒนธรรมนี้ด้วยกันและชมช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของวัฒนธรรมภาพยนตร์จีนและไทย!
Mr. Ho Zaijian ,รองผู้จัดการMAHUA FUN AGE กล่าวว่าเทศการภาพยนตร์อินเตอร์เนชั่นเนลไทยแลนด์เฟสติเวิล(KTIFF) เป็นของขวัญที่สุดสำหรับงานฉลองครบรอบ50ปีกับความสะมพันธ์ทางการทูตไทยจีนโดยไทยเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญสำหรัยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการค้าของทั้งสองประเทศการสนับสนุนที่แข่งแกร่งจากภาครัฐไทยทำให้KTIFF มีโอกาสเป็นสื่อกลางมากขึ้นในการช่วยการสื่อสารเขาหวังว่าMAHUA FUN AGE จะได้มีโอกาสเข้ามาในเมืองไทยและนำหนังComedy ไทยมาเปิดตลาดที่จีนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและความร่วมมือทางธุรกิจผ่านวัฒนธรรมเพื่อให้บรรลุการร่วมมือกันแบบ

Win-Win Speacail Thanks :Mr. Li Zhuotao The Hong Kong International Film Festival Society (HKIFFS) ,Ms. Fang Meibao ,Arts Director China Golden Rooster & Hundred Flowers Film Festival , อาจารย์ด็อกเตอร์Mr.Shi Chuan ของเซี่ยงไฮ้Treatre Academy ,Mr.Yuan Hang & Ms.ZhuMengweiจากIve Culture and Entertainment Group , Ms. Guo Hang จากYugao Yishan Media ,Kosbot south of Asia group , Mr. Yin Zhiyue จากZERO G , นักแสดงจีนQi Tianying , Mr.Cheng Cheng & Star Makeup Company , Chaoran .

มอบเงินกว่า 2 ล้านบาท ดร.ฉวีวรรณ คำพา ทำบุญบวงสรวง มอบทุน เครื่องดนตรี โรงเรียน สถานพยาบาล ดร.ฉวีวรรณ คำพา

แชร์เนื้อหานี้

3-4 กันยายน 2567 โดยมี ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ ผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ของไทย ได้จัดพิธีทำบุญ บวงสรวง โรงงาน ในเครือ ฉวีวรรณกรุ๊ป ประจำปี 2567 และ ครบรอบวันคล้ายวันเกิดอายุวัฒนมงคล ที่อาคารรับรอง ในโครงการพนาวัลย์นคร ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

พร้อมจัดพิธีสืบชะตาแบบล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคุณธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.๙) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และยังมีเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณตำบล และเจ้าอาวาสหลายจังหวัด

ร่วมให้พร มี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานเอกชน โรงเรียน สถานพยาบาล ประชาชนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือและหน่วยงานต่างๆ จากทั่วประเทศ ทึ่ได้รับการสนับสนุนจาก ดร.ฉวีวรรณ ทั่วสารทิศ เดินทางเข้าอวยพรวันเกิดเป็นจำนวนมากวันที่ 3-4 กันยายน 2567 ที่โครงการหมู่บ้านพนาวัลย์ ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมสงเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ประธานกรรมการบริษัทในเครือฉวีวรรณกรุ๊ป และจัดพิธีมอบทุน การศึกษา มอบเครื่องดนตรี สนับสนุนสถานศึกษา สนับสนุนพัฒนาสถานพยาบาล จำนวน 30 แห่ง แห่งละ 50,000 บาท เป็นเงิน1,786,000 บาท สบับสนุนเครื่องดนตรี 250,000 บาท สนับสนุน ดนตรีอีสาน 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 2 ล้าน กว่าบาท เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งมีผู้บริหารสถานศึกษาในแต่ละโรงเรียนเข้ามารับมอบรวมถึงหัวหน้าสถานพยาบาลระดับตำบลในพื้นที่ทางภาคอีสานมารับ รวมทั้งยังมีแขกผู้มีเกียรติเดินทางเข้ามาร่วมอวยพรและมอบของขวัญ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดเป็นจำนวนมาก