เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี/สื่อรัฐนิวส์ / มอบตัวแล้วไอ้เขื่อน ปืนโหดดักยิงผัวใหม่พร้อมเพื่อนดับ 2 ศพ ทนอดอยากในป่าไม่ไหว / ททท.ประจวบฯ จับมือพันธมิตรจัดแคมเปญ “Amazing Coast Town: Prachuap Khiri Khan” กับ Gift Voucher สุดพิเศษตลอด ม.ค.- เม.ย. นี้ 

แชร์เนื้อหานี้


มอบตัวแล้วไอ้เขื่อนปืนโหดดักยิงผัวใหม่พร้อมเพื่อนดับ 2 ศพคารถจักรยานยนต์ หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันปิดล้อมต่อเนื่องนาน 15 วัน ทั้งตั้งรางวัลนำจับ โดรนบินสำรวจต่อเนื่อง ทนหิวลำบากในป่าไม่ไหว ดอดพบญาติพาเข้ามอบตัวกลางดึกวันที่ 7 มกราคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายไพศาล คณา หรือเขื่อน อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 ดักยิงนายปิติกร จันทรวิจิตร อายุ 40 ปี สามีปัจจุบันของนางธัลศิตา สายเส็ง อายุ 30 ปี และนายธงชัย สุขสมัย อายุ 38 ปี เพื่อนของนายปิติกรเสียชีวิต ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน รวม 2 ศพ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 19 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา บริเวณถนนสายชนบท หมู่บ้านย่านซื่อ-โปร่งแดง หมู่ 12 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าปิดล้อมตรวจค้นหาตัวผู้ก่อเหตุ ตามบ้านญาติ ป่าสวนยางพารา และป่าแนวเทือกเขาตะนาวศรี เขตติดต่อชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่สำหรับหลบซ่อนตัว โดยใช้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปภ.) ทหาร ตชด.เข้าปิดล้อมตรวจค้นควานหาตัวพร้อมใช้โดรนบินสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สถิตย์ คงเนียม ผกก. สภ.อ่าวน้อยได้ขอความร่วมมือฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ขณะประชุมประจำเดือน

ให้ช่วยสำรวจตรวจตา พร้อมตั้งรางวัลนำจับให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวได้โดยคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 5 ม.ค.68 ที่ผ่านมา นายเขื่อน หรือนายไพศาล คณา ผู้ต้องหายิงดับ 2 ศพได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรอ่าวน้อย โดยประสานผ่านญาติ เนื่องจากถูกกดดันไม่ไหว ลงมาหาเสบียงอาหารไม่ได้ ใช้ชีวิตอยู่ในป่าชายแดนด้วยความยากลำบาก ปัจจุบัน ร.ต.อ.หญิง สุทิน ปรัชญา รองสารวัตรสอบสวน สภ.อ่าวน้อย เจ้าของคดีได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมรวบรวมพยานหลักฐาน นำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดประจวบไปแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.สถิตย์ คงเนียม ผกก.สภ.อ่าวน้อย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังจากทุกหน่วย และยุทโธปกรณ์ต่างๆทั้ง โดรนบินสำรวจ สุนัขดมกลิ่น ตำรวจ ทหาร ตชด.เข้าปิดล้อมตรวจตรวจค้นและกดดันในพื้นที่ทุกช่องทาง เนื่องจากผู้ก่อเหตุหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณในป่าเขตติดต่อชายแดนไทย-เมียนมา อย่างต่อเนื่องนานถึง 15-16 วัน และช่วงกลางดึกของวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเขื่อนผู้ก่อเหตุได้แอบลงจากภูเขามาพบญาติเพื่อขอประสานเข้ามอบตัว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้สอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และส่งฝากขังที่ศาลไปแล้ว ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหาประสงค์ที่จะไม่ยินยอมทำแผนเนื่องจากหวั่นเกรงญาติผู้เสียชีวิตรุมประชาทัณฑ์ และเมื่อญาติผู้เสียชีวิตทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวแล้วได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจจำนวนหลายคน เพื่อมาติดตามความคืบหน้าของคดี

โดยผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาว่าเป็นคนก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงจริง และได้ทิ้งอาวุธปืนไว้ในป่าไปแล้ว และจำไม่ได้ว่าทิ้งไว้จุดไหน ซึ่งทางตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานถึงแม้ไม่มีหลักฐานเป็นอาวุธปืนก็มั่นใจว่าเอาผิดได้ ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหาให้การว่ามาจากปัญหาเรื่องส่วนตัวกับผู้ตายที่เป็นผัวใหม่และหึงหวง ไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาการทำธุรกิจเถื่อนชายแดน ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 รายก็เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ก่อเหตุ แต่จำไม่ได้เนื่องจากกลางคืนมืดมองไม่รู้ว่าเป็นใคร ถ้ารู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทคงไม่ยิง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต ก่อนส่งฝากขังที่ศาลรอการพิจารณาต่อไป

นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781


ททท.ประจวบฯ จับมือพันธมิตรจัดแคมเปญ “Amazing Coast Town: Prachuap Khiri Khan” กับ Gift Voucher สุดพิเศษตลอด ม.ค.- เม.ย. นี้ 

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท (ฝั่งบลูพอร์ต) จ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรมส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว แคมเปญ “Amazing Coast Town: Prachuap Khiri Khan” ร่วมกับ นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ, นางสาวฤดีพรรณ เต็มชื่น ผู้อำนวยการภูมิภาคฝ่ายการตลาด Trip.com, นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และนางสาววจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนจำนวนมาก
ททท.สำนักงานประจวบฯ ร่วมกับจังหวัดประจวบฯ, ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวครบวงจรของเมืองไทย Trip.com, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และบลูพอร์ต หัวหิน จับมือกันผนึกกำลังเพื่อขับเคลื่อนและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องหลังเทศกาลปีใหม่ 2568 กับแคมเปญ “Amazing Coast Town” ประจวบคีรีขันธ์เมืองตากอากาศของประเทศไทย โดยจุดมุ่งหมายของโครงการนี้จัดทำขึ้นส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ พร้อมประชาสัมพันธ์แคมเปญท่องเที่ยวไทย ปี 2568 “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยและกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวและมหกรรมกีฬาให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลกและสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน

แคมเปญ “Amazing Coast Town” ประจวบคีรีขันธ์เมืองตากอากาศของประเทศไทย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯกับข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองโรงแรมที่พักผ่าน Trip.com ช่วงระหว่างวันที่ 13-27 ม.ค.นี้ สำหรับการเข้าพัก 2 คืนขึ้นไปในโรงแรมจังหวัดประจวบฯที่เข้าร่วมโครงการ ผู้เข้าพักจะได้รับสิทธิ์บัตรของขวัญฟรีจากพันธมิตรโครงการ ได้แก่ บัตรเข้าสวนน้ำวานานาวา หัวหิน ฟรี 100 ใบ, บัตรเข้าชมซาฟารีหัวหิน ฟรี 100 ใบ สำหรับ 200 ท่าน (1ใบต่อ2ท่าน) และ บัตรเข้าใช้บริการอินฟราเรดซาวน่าและแช่น้ำแข็ง (ice bath) จาก เฮ้าส์ออฟคูณ 100 ใบ โอกาสนี้ ททท.สำนักงานประจวบฯ ขอส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ตลอดเดือนมกราคม-เมษายน นี้ จองกันได้แล้ววันนี้ ผ่านช่องทางของ Trip.com จองก่อนรับสิทธิ์ใช้ประสบการณ์ความสุขก่อนใคร สุขทันทีที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์…สุขทันใจที่จองผ่าน Trip.com ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวครบวงจร ซึ่งให้บริการครอบคลุม 24 ภาษา ใน 39 ประเทศ ฝ่ายบริการลูกค้าระดับโลกของ Trip.com ให้บริการในหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อ ‘สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุด’ ให้กับลูกค้าหลายล้านคนทั่วโลก สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Trip.com และเฟซบุ๊ค ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์

นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบฯ กล่าวว่า โครงการนี้ ททท. ร่วมกับ Trip.com ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาพรวมของจังหวัดประจวบฯ ไปสู่อำเภออื่นๆ นอกเหนือจาก อ.หัวหินของเรา คราวนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักมากกว่า 2 คืน จะได้รับ Gift Voucher พิเศษที่เราร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพักค้างมากกว่า 2 คืนในพื้นที่ จะเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มวันพักขึ้นจากเดิมจะเป็นการส่งเสริมและเพิ่มรายได้ในพื้นที่ประจวบฯ ขณะนี้ จะมองเห็นว่าการเดินทางเป็นกลุ่มที่เป็นครอบครัว young generation ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหัวหิน จะเห็นได้ว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ประจวบฯ สามารถสร้างรายได้มากกว่า 400 ล้านบาท และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพักแต่ละโรงแรมที่เป็น 4 ดาว 5 ดาว มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แทบทุกแห่ง

นางสาววจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด กล่าวว่า ในเรื่องของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในปี 2025 เราเล็งเห็นแล้วว่าตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาแต่ว่าจะทำยังไงให้เขา spending มากขึ้นแล้วก็อยู่ใน long stay marketing มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นโจทย์พวกนี้มันเป็นโจทย์ที่เราค่อนข้างวางไว้อยู่แล้วทางธุรกิจในเครือเราด้วย เพราะฉะนั้นตัว trip.com มาช่วยเราพอสมควรแล้วเราก็เสริมกันไปเพราะว่ามีตัวช่วยผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ประชาสัมพันธ์มากยิ่งขึ้นก็จะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่า friendly มากขึ้น การจองโฟลว์ขึ้นไม่ว่าจะในส่วนของการหาข้อมูลหรือการดูเรื่องราคาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของที่พัก เครื่องบินต่างๆ ที่จะมาที่หัวหินหรือมาที่กรุงเทพแล้วก็ต่อรถมาที่หัวหินเลย คิดว่ามันมันเป็นการเอื้อกันมากกว่า พอมาตรงจุดนี้เราก็เลยเริ่มเสริมในเรื่องของประชาสัมพันธ์ในส่วนที่เรามีอยู่ไม่ว่าในส่วนของบลูพอร์ต หัวหิน, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน, โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน, สวนน้ำวานา นาวา หรือว่าจะเป็นอารีน่าหัวหินเองเราก็ช่วยผลักดันในส่วนนี้ร่วมกับ trip.com และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ครั้งแรกของหัวหิน จดทะเบียนสมรส LGBTQIAN+ ในงาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025”


จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดย อำเภอหัวหิน ร่วมกับ บลูพอร์ต หัวหิน พร้อมพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ททท.สำนักงานประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ เชิญชวนประชาชนร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ของการเดินทางของความเชื่อในความหลากหลายทางเพศ และนับถอยหลังสู่การบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ.2567 หรือที่รู้จักในชื่อของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ด้วยการประกาศความพร้อมจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่รัก LGBTQIAN+ เป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่องาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025” ในวันที่ 23 ม.ค. นี้ ณ หัวหิน คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 1 บลูพอร์ต หัวหิน โดยการเริ่มต้นการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่สามในเอเชียที่รับรองการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน นับเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ในการส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมทางเพศให้กับกลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วประเทศ
นางสาววจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด ในฐานะผู้ร่วมจัดงานฯ กล่าวว่า “บลูพอร์ต หัวหิน มีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคมไทย โดยกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความเข้าใจและการยอมรับในความหลากหลายทางเพศ นอกจากนี้ยังเป็นการผลักดันสังคมไทยให้เปิดรับความหลากหลายและเสริมสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกแก่หัวหิน ยังจะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ร่วมกับสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และส่งเสริมแนวทางการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ เป็นการปูทางสู่การจัดเทศกาล Pride Month ในเดือนมิถุนายน 68 ซึ่งปีที่แล้วได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ การจัดงานครั้งนี้จะผสมผสานมนต์เสน่ห์ของหัวหินกับพลังซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย เพื่อสะท้อนคุณค่าแห่งความเท่าเทียมและเสรีภาพ พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของเมืองหัวหิน รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก”
จึงขอเชิญชวน LGBTQIAN+ มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญกับการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ โดยได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ ที่จะมาร่วมบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ความพร้อมในการเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+ พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนสมรส นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การให้คำปรึกษาในการจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่รัก LGBTQIAN+ รวมถึงบูธถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ร้านค้า และบริการเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานมากมาย อันเป็นช่องทางในการเลือกจัดงานแต่งงานในหัวหิน เพื่อเฉลิมฉลองความรักที่มีคุณค่าในเมืองตากอากาศสุดโรแมนติก
พิเศษ! สำหรับคู่รัก LGBTQIAN+ 23 คู่แรก ที่ลงทะเบียนร่วมจดทะเบียนสมรสในงาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025” จะได้รับสิทธิพิเศษเพื่อฉลองวันสำคัญด้วยแพ็กเกจฮันนีมูนสุดโรแมนติก นั่งรถไฟขบวนพิเศษไปจดทะเบียนสมรสที่หัวหิน พร้อมที่พักและดินเนอร์สุดหรู และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย โดยคู่รัก LGBTQIAN+ ที่สนใจสามารถลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScMTuij8dqrJWlL3tO2gLsYE30YCxa4-qU3lw9yzLjQtdFRSg/viewform หรือติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ต หัวหิน โทร. 032-905111, Facebook: Bluport Hua Hin Official หรือ Line: @Bluport

ครั้งแรกของหัวหิน จดทะเบียนสมรส LGBTQIAN+ ในงาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025”

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดย อำเภอหัวหิน ร่วมกับ บลูพอร์ต หัวหิน พร้อมพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ททท.สำนักงานประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ เชิญชวนประชาชนร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ของการเดินทางของความเชื่อในความหลากหลายทางเพศ และนับถอยหลังสู่การบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ.2567 หรือที่รู้จักในชื่อของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ด้วยการประกาศความพร้อมจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่รัก LGBTQIAN+ เป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่องาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025” ในวันที่ 23 ม.ค. นี้ ณ หัวหิน คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 1 บลูพอร์ต หัวหิน โดยการเริ่มต้นการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่สามในเอเชียที่รับรองการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน นับเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ในการส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมทางเพศให้กับกลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วประเทศ
นางสาววจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด ในฐานะผู้ร่วมจัดงานฯ กล่าวว่า “บลูพอร์ต หัวหิน มีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคมไทย โดยกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความเข้าใจและการยอมรับในความหลากหลายทางเพศ นอกจากนี้ยังเป็นการผลักดันสังคมไทยให้เปิดรับความหลากหลายและเสริมสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกแก่หัวหิน ยังจะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ร่วมกับสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และส่งเสริมแนวทางการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ เป็นการปูทางสู่การจัดเทศกาล Pride Month ในเดือนมิถุนายน 68 ซึ่งปีที่แล้วได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ การจัดงานครั้งนี้จะผสมผสานมนต์เสน่ห์ของหัวหินกับพลังซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย เพื่อสะท้อนคุณค่าแห่งความเท่าเทียมและเสรีภาพ พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของเมืองหัวหิน รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก”
จึงขอเชิญชวน LGBTQIAN+ มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญกับการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ โดยได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ ที่จะมาร่วมบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ความพร้อมในการเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+ พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนสมรส นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การให้คำปรึกษาในการจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่รัก LGBTQIAN+ รวมถึงบูธถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ร้านค้า และบริการเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานมากมาย อันเป็นช่องทางในการเลือกจัดงานแต่งงานในหัวหิน เพื่อเฉลิมฉลองความรักที่มีคุณค่าในเมืองตากอากาศสุดโรแมนติก
พิเศษ! สำหรับคู่รัก LGBTQIAN+ 23 คู่แรก ที่ลงทะเบียนร่วมจดทะเบียนสมรสในงาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025” จะได้รับสิทธิพิเศษเพื่อฉลองวันสำคัญด้วยแพ็กเกจฮันนีมูนสุดโรแมนติก นั่งรถไฟขบวนพิเศษไปจดทะเบียนสมรสที่หัวหิน พร้อมที่พักและดินเนอร์สุดหรู และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย โดยคู่รัก LGBTQIAN+ ที่สนใจสามารถลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScMTuij8dqrJWlL3tO2gLsYE30YCxa4-qU3lw9yzLjQtdFRSg/viewform หรือติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ต หัวหิน โทร. 032-905111, Facebook: Bluport Hua Hin Official หรือ Line: @Bluport

นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นครปฐม ส.ส. โหน่งพร้อมภรรยา มอบวิลแชร์ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว

แชร์เนื้อหานี้

วันอังคาร ที่ 7 มกราคม 2568 นายสุรศักดิ์ กิตติวิริยะการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง พร้อม รองนายก /ประธานสภา /กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยตำบลทุ่งขวาง

ร่วมต้อนรับ ส.ส.พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์และดร.ชุตินันท์ สะสมทรัพย์ มอบวิลแชร์ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว นายณัฐกิจ เกลียดภูมิธีรธนา หมู่ที่ 8 บ้านหลักเมตรใหม่ ต. ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

ขอขอบคุณ .ท่านส.ส.ดร.พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ดร.ชุตินันท์ สะสมทรัพย์ และสโมสรฟุตบอลนครปฐมยูไนเต็ด เป็นอย่างสูง

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /พัทยาสร้างนักกีฬาท้องถิ่น จัดแข่งขันกีฬากระดานยืนพาย / ผู้ว่าฯจ.ชลบุรี ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพพระเทพสุทธาจารย์ (อนันต์ กลฺยาณวฑฺฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบางทราย

แชร์เนื้อหานี้

ช่วงบ่ายวันที่ 6 ม.ค.67 ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันกีฬากระดานยืนพาย (SUP BOARD) หนึ่งในกิจกรรมโครงการแข่งขันกีฬาทางน้ำเมืองพัทยา ประจำปี 2567 เมืองพัทยา โดยสำนักการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดโครงการแข่งขันกีฬาทางน้ำเมืองพัทยา ประจำปี 2567 ซึ่งกำหนดจัดการแข่งขันกีฬากระดานยืนพาย (SUP BOARD) ระหว่างวันที่ 18 – 19 มกราคม 2568 ที่บริเวณลานกีฬาทางน้ำชายหาดจอมเทียน

ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้รับประสบการณ์จากการแข่งขันทุกระดับอย่างต่อเนื่อง สร้างเสริมพลานามัยที่ดีแก่เยาวชน และประชาชนทั่วไปด้วยการออกกำลังกาย รวมถึงการได้มีโอกาสที่จะก้าวเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในอนาคตได้อีกทางหนึ่ง โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.ประเภท Long Distance Open 16 กม.ชาย-หญิง 2.ประเภท Sprint 200 เมตร แบ่งเป็น รุ่นอายุไม่กิน 15 ปี ชาย-หญิง, รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชาย-หญิง และรุ่น Open ชาย-หญิง 3.ประเภท Technical แบ่งเป็น รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี 3 กม. ชาย-หญิง, รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 3 กม. ชาย-หญิง, รุ่น Beginner 3 กม. ชาย-หญิง, รุ่น Open 6 กม. ชาย-หญิง, รุ่นไม่ต่ำกว่า 40 ปี 6 กม. ชาย-หญิง และรุ่นไม่ต่ำกว่า 50 ปี 6 กม. ชาย-หญิง และ 4.ประเภท Special Race แบ่งเป็น รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 10 ปี, การแต่งกายสนุกสนาน, ชุดบิกีนี่ และบานาน่าโบ้ท

นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวถึงการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ว่า กีฬากระดานยืนพาย (SUP BOARD) เป็นกีฬาที่กำลังได้รับความสนใจ และมีแนวโน้มที่จะเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ได้รับการบรรจุในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอนาคต ซึ่งตรงกับนโยบายนายกเมืองพัทยาที่ต้องการผลักดันให้กีฬายืนพาย (SUP BOARD) ก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับสากล อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (SEA Games 2025) ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็น 1 ใน 3 จังหวัดที่เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันอีกด้วย

อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมอาลัยการสูญเสีย คุณพ่อสงคราม แหวนประดับ ที่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวและความชราภาพ

วันที่ 6 ม.ค.68 ที่ศาลา 2 วัดหนองใหญ่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ครอบครัวแหวนประดับ โดย พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.ปพ.สส.ภ.2 ให้การต้อนรับ พล.ต.ท.อิทธิพล พิริยภิญโญ อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ คุณพ่อสงคราม แหวนประดับ อายุ 83 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวและความชราภาพ

ภายในงานได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากทั้งกลุ่มข้าราชการตำรวจ กลุ่มการเมือง กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มสื่อมวลชน และญาติสนิทมิตร นำพวงหรีดเข้าร่วมแสดงความเสียกับทางเจ้าภาพที่สูญเสียผู้อันเป็นที่รักกันเป็นจำนวนมาก ก่อนช่วงค่ำจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม

กำหนดการสวดพระอภิธรรมและพิธีพระราชทานเพลิงศพ คุณพ่อสงคราม แหวนประดับ โดยพิธีสวดพระอภิธรรมกำหนดจัดขึ้นวันอังคารที่ 7- 10 มกราคม 2568 เวลา 19.00 น. และในวันเสาร์ 11 มกราคม 2568 เวลา 16.00 น. จะเป็นพิธีพระราชทานเพลิงศพตามลำดับกำหนดการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพพระเทพสุทธาจารย์ (อนันต์ กลฺยาณวฑฺฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบางทราย

มีรายงานว่า นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมในพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพพระเทพสุทธาจารย์ (อนันต์ กลฺยาณวฑฺฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบางทราย พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี (ธรรมยุต) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12-13 (ธรรมยุต) และร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานอุทิศถวายกุศลแด่พระเดชพระคุณพระเทพสุทธาจารย์ (อนันต์ กลฺยาณวฑฺฒโน) ที่ศาลาเมฆิยเถระ (ศาลาทำบุญ) วัดเขาบางทราย พระอารามหลวง ตำบลบางทราย อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี  

โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นองค์ประธานในพิธีฯ ในการนี้มีพระเดชพระคุณพระธรรมวชิราลังการ เจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เจ้าอาวาสวัดบางพระวรวิหาร พระโสภณคณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชลบุรี(ธ) เจ้าอาวาสวัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร และคณะสงฆ์จังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง นางสาวประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

 ด้วยพระเทพสุทธาจารย์ (อนันต์ กลฺยาณวฑฺฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบางทราย พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี (ธรรมยุต) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12-13 (ธรรมยุต) ได้ละสังขารมรณภาพ เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 4 มกราคม 2568 ด้วยอาการสงบ ณ วัดเขาบางทราย พระอารามหลวง สิริอายุ 89 ปี 9 เดือน พรรษาที่ 62 สำหรับพระเทพสุทธาจารย์ (อนันต์ กลฺยาณวฑฺฒโน) เป็นพระเถระที่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพ และเป็นกำลังสำคัญในการทำนุบำรุงและปรับปรุงฟื้นฟูวัดเขาบางทราย พระอารามหลวง ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เพื่อพระพุทธศาสนาดำรงอยู่และยังประโยชน์ให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้เข้ามาปฏิบัติธรรมสืบต่อไป

เมืองพัทยาพร้อมรับเด็กๆ ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา เตรียมแจกรางวัล 2.5 พันชิ้น

ด้วยวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปีตรงกับวันเด็กแห่งชาติ และในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา ได้เปิดเผยว่า เมืองพัทยาเตรียมพร้อมจัดกิจกรรมสนุกสนานสร้างสรรค์เพื่อนต้อนรับเด็กๆ และเยาวชนที่จะมาร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

โดยในปีนี้เมืองพัทยาได้จัดเตรียมของรางวัลมากมายรวมจำนวน 2,500 ชิ้น พร้อมกิจกรรมซุ้มเกมการละเล่น และการจัดแสดงให้ความรู้แก่เด็กๆ ที่เข้าร่วมงาน อาทิ สวนไดโนเสาร์พัทยาที่จะนำเอาไดโนเสาร์จำลองมาจัดแสดงให้เด็กๆ ได้รับชมอย่างใกล้ชิด อย่างไรตาม ขอเชิญชวนผู้ปกครองนำบุตรหลาน รวมทั้งน้องๆ หนูๆ เด็กๆ และเยาวชน เข้าร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยกิจกรรมต่างๆ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ศึกเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงรายดุเดือดทักษิณ หนุน สลักจฤฎดิ์สุดขั่ว ล้ม”นก”อทิตาธร หลุดเก้าอี้ พื้นเศรษฐกิจเชียงราย เกณฑ์คนนับหมื่นฟัง

แชร์เนื้อหานี้

หลังจากกกต.เชียงรายคัดกรองคุณสมบัติผูัสมัครรนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และได้ประกาศรับรองเบอร์ผู้มัครนายกฯทั้ง3 คน เบอร์ 1 นางอธิตาธร วันไชยธนวงศ์ เบอร์ 2 นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช เบอร์ 3 นางจิราพร หมื่นไชยวงศ์ ส่วนสมาชิกสภา ทั้งหมด36เขตเลือกตั้ง ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ จำนวน 103 ราย ตามสถ/ผถ.หรือ 4/4-4/5 ซึ่งผู้สมัครที่ทางสำนักคณะกรรมการเลือกตั้ง จังหวัดเชียงรายได้ลงนามรับรองให้ใช้เบอร์ลำดับหาเสียงเลือกตั้งได้

สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในส่วนของการเลือกตั้งนายกฯผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่5ธันวาคม68 ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตรผู้ช่วยหาเสียงนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช เบอร์2ซึ่งเป็นภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตเลขาธิการพรรคและผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อไทยร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่3เวที ในพื้นที่ฐานที่มั่น นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ลูกเสี่ยโป้ย หรือนายสมบูรณ์ วันไชยธนวงค์ ผู้มีเบื้องหลังคือพรรคภูมิใจไทยหนุนหลัง ซึ่งเป็นผู้ครองฐานคะแนนในพื้นที่อำเภอเทิง จ.เชียงราย

มีทายาทเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และระดับชาติ ที่โรงเรียนบ้านปล้องวิทยาคม อย่างดุเดือดเข้มข้น ต่อด้วยเวทีเชียงของวิทยาคม และปิดท้ายด้วยเวทีโรงเรียนแม่จันวิทยาคม พื้นที่ฐานที่มั่นนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ในแต่ละเวทีมีการเกณฑ์คนมาฟังปราศรัยเวทีละหมื่นคนโดยมาจากหมู่บ้านละ10คน บรรยากาศการปราศัยเป็นไปอย่างดุเดือดนายทักษิณได้ปราศัยเป็นภาษาคำเมืองอ้อนคะแนนโดยเนื้อหาการปราศัยมุ่งเน้นอวดสักยภาพรัฐบาลลูกสาวคนเล็กว่าทำได้แน่นอน โดยจะปรับลดค่าไฟฟ้า3.70บาท/หน่วย และจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุกระตุ้นเศรษฐกิจต้นปี68 ในวันที่ 29 มกราคม แน่นอน

นายทักษิณกล่าวในที่ปราศรัยว่าตนห่างพื้นที่เชียงรายมากว่า20ปีอยากจะให้คนเชียงรายเลือกเบอร์2นางสลักจฤฎดิ์ เนื่องจากจะสามารถทำงานกับรัฐบาลได้ และที่สำคัญนายยงยุทธเป็นประธานสภาและเลขาธิการและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคตอนต้น จึงเชียร์เต็มที่ ในฐานนะเป็นพ่ออุ้งอิ้ง ก็ต้องเชียร์พรรคเพื่อไทยเลือตั้งสส.สมัยหน้าต้องคืนสส.พรรคเพื่อไทยให้ได้200คน เพราะระบบที่แก้ไว้มันเสียหาย เดิมที่เดียวตนบ่สนใจเรื่องท้องถิ่น แต่มาบัดนี้เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ 17-18ปีที่ตนไม่ได้อยู่ระบบมันเสียหาย อยากเห็นต่างจังหวัดเศรษฐกิจดี ประชาชนชนบทยากจนอีกหน่อยจะมีกินมีใช้

นายทักษิณยังพูดถึงคนที่เล่นติ๊กต๊อก ที่ด่ารัฐบาลทุกเช้าทุกเย็นมีไม่กี่คนอยากจะบอกว่าเหลือคนที่ด่าสุดก็คือพ่อแม่ น่าสมเพชอยากจะโยนเชือกให้แควนคอตาย คนพวกนี้เหมือนแตงไม่ขึ้นค้าง มีหลักก็ไม่ขึ้น มีแต่เลื้อยบนดิน ดังนั้นเรามาทำให้คนไทยขึ้นค้างกันจะได้เจริญ ในการปราศัยนายทักษิณพูดขอคะแนนให้สส.เพื่อไทยสมัยหน้าครบเต็มเหมือนเดิม เพราะจะได้ทำงานง่ายขึ้นจุดสำคัญนำพรรคเพื่อไทยมาจุดประเด็นว่ามีสส.น้อยลำบากต้องมีสส.เยอะจึงจะทำได้ขอให้พี่น้องเชียงรายสนับสนุนพรรคเพื่อไทย สนับสนุนนางสลักจฤฎดิ์ ได้เป็นนายกอบจ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าในเวทีหาเสียงที่อำเภอเชียงของและอำเภอแม่จันก็เหมือนลักณะเดียวกันนายทักษิณใช้คำพูดเป็นภาษาพื้นเมืองบางครั้งก็สบถคำด่า หยาบๆ ว่าเป็นควาย คู่ต่อสู้ทางการเมือง ที่เป็นนักการเมืองรุ่นเก่าไม่กี่คน ที่แพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2544 แค้นตนมาถึงทุกวันนี้กล่าวหาตตนสร้างความวุ่นวายบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวหลังได้ติดตามการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยแล้วยังได้ติดตามการหาเสียงของขั้วนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ เบอร์ 1 ที่ยังเดินหน้าหาเสียงด้วยรถตู้ออกหาเสียงตั้งแต่ไก่โห่ยันดึกทุกวันในคราวที่การจัดงานรำลึกพ่อหลวงรัชกาลที่9บ้านซาเจ๊ะหมู่บ้านชาติพันธุ์อาข่า หมูที่ 6ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งมีคะแนนมาก และเป็นฐานที่มั่นนางสลักจฤฎดิ์ ท่ามกลางเสียงให้การต้อนรับเนืองแน่น แต่นางอทิตาธรและทีมงาน ได้ยกมือไหว้พี่น้องอาข่าขอแรงสนับสนุน ร่วมพิธีจุดเทียนถวายในหลวงรัชกาลที่9แต่ไม่ได้ขึ้นจับไมค์พูดหาเสียงแต่ประการใด

นางอทิตาธรยังมั่นใจถึงการดูแลประชาชนและเชื่อมั่นว่าจะกลับมาเป็นนายกเหมือนเดิมว่าถึงแม้ไม่สังกัดพรรคการเมืองก็ทำหน้าที่ได้หรือนกทำได้อันเป็นวลีการเมืองหาเสียง ส่วนการปราศัยในเวทีใหญ่นั้นฝ่ายยุทธศาสตร์การหาเสียงยังไม่เปิดเผยแต่แง้มๆเป็นในๆว่าจะมีขึ้นอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันในระยะโค้งแรกผู้สมัครเริ่มติดป้ายหาเสียงตามจุดต่างๆมีให้เห็นตามถนนสายหลักส่วนรถแห่หาเสียงมีแต่ผู้สมัครส.อบจ.บางเบอร์ที่ออกมาคาดว่านับจากนี้อีกหนึ่งอาทิตย์จะออกมาแก่ป้ายหาเสียงตามแผนอย่างแน่นอน.
ธนกฤต วรรมณี ผู้สื่อข่าวเชียงรายรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ – พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 1)เร่งรัดติดตามในคดี “ชิงทรัพย์ และกระทำชำเราหญิงวัยสูงอายุ“ จ.นครราชสีมา

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้(วันจันทร์ ที่ 6 ม.ค.68) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(สส) มอบหมายให้
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 1)

เดินทางไปเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและเป็นที่น่าสนใจของประชาชนในคดี “ชิงทรัพย์ และกระทำชำเราหญิงวัยสูงอายุ“ ในพื้นที่ สภ.บัวใหญ่, สภ.แก้งสนามนาง, สภ.โนนแดง, สภ.บ้านเหลือม และ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

โดยมีพล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีนผบช.ภ.3พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์รอง ผบช.ภ.3พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา
พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชรผบก.สส.ภ.3ผกก., รอง ผกก.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ ศพฐ.3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยมีข้อสั่งการดังนี้ 1.ให้ความสำคัญกับข้อมูลสืบสวนก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ต้องดำเนินการรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกมิติ ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ให้ฝ่ายสืบสวนรวบรวม ปรับปรุง พัฒนาฐานข้อมูลอาชญากรรมในพื้นที่ให้ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นปัจจุบัน ต้องสามารถสืบค้น และประสานข้อมูล ทุกหน่วยงานต้องให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และเกื้อกูลข้อมูลต่อกันเป็นอย่างดี
ใช้กำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษในการปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์ และคดีสำคัญ หรือปรากฏตัวในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพื่อกดดันมิให้เกิดการกระทำความผิด

พึงระมัดระวังการให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน หรือบุคคลภายนอก ต้องอย่าให้กระทบต่อพยานหลักฐาน ตลอดจนไม่ควรเปิดเผยถึงแนวทาง เทคนิค หรือวิธีการสืบสวน 5.กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ภายในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้ทำความเข้าใจหลักกฎหมาย วิธีการ ขั้นตอนการปฏิบัติตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 อย่างเคร่งครัด 6.ให้เร่งรัดสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องในคดี และเร่งรัดส่งดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยตรวจและเร่งรัดผลตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอจากทางพิสูจน์หลักฐาน

สืบสวน ภ.จว. และสืบ สภ. ทำไทม์ไลน์กล้องรายละเอียดเหตุการณ์ในคดี สืบภาคให้ตรวจสอบข้อมูลภาคอากาศ 8.กำชับให้มีมาตราการป้องกันเหตุ อย่าให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก 9.การสืนสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาให้ยึดหลักยุทธวิธี ความปลอดภัยต้องมาก่อน อย่าให้เกิดความสูญเสีย
10.กำชับการให้ทำงานกันเป็นทีม บูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” และ “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ” ณ ห้องประชุมไทรทอง ภ.จว.นครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

วันนี้(วันจันทร์ ที่ 6 ม.ค.68) เวลา 13.00 น.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์รอง ผบ.ตร.(สส)มอบหมายให้พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 1)พร้อมด้วยพล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีนผบช.ภ.3พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์รอง ผบช.ภ.3พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณผบก.ภ.จว.นครราชสีมาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฃ

    ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจแก่ประชาชนและสื่อมวลชน ที่เกิดในพื้นที่ สภ.ปากช่อง ซึ่งผู้เสียหายได้ไปร้องเรียนกับเพจ “สายไหมต้องรอด” คือ นายสมคิด ทับเปีย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 1/2568 ลงวันที่ 6 มกราคม 2568 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น”

    ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายและรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ ผบ.ตร. ได้ฝากข้อห่วงใยซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน

    ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ฝากถึงผู้เสียหายว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนอย่างตรงไปตรงมาปราศจากข้อสงสัยจากทุกฝ่าย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

    ณ ศปก. ภ.จว.นครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

    สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / นักกีฬานับพันร่วมวิ่งเทรลครั้งแรกของหัวหิน “The Legendary Trail Series HUAHIN50”

    แชร์เนื้อหานี้

    การแข่งขันวิ่งเทรลครั้งแรกของหัวหิน “The Legendary Trail Series HUAHIN50” ในปี 2024 ได้ปิดฉากลงอย่างน่าประทับใจ โดยสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานและตอกย้ำให้สนามนี้เป็นหนึ่งในสนามเทรลที่โดดเด่นในปฏิทินงานวิ่งเทรลของประเทศไทย โดยมีนักวิ่งจากทั่วประเทศได้เดินทางมาที่หัวหินเพื่อร่วมแข่งขันในระยะทาง 3 กิโลเมตร, 11 กิโลเมตร, 25 กิโลเมตร และ 50 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอันน่าตื่นเต้นของการเปิดตัวการแข่งขันเป็นครั้งแรกของสนามนี้ผู้เข้าร่วมงานต่างชื่นชมในด้านการจัดการที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะมาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัย เส้นทางที่มีเครื่องหมายและป้ายบอกทางชัดเจน จุดบริการน้ำและอาหารที่มากมาย อาสาสมัครและทีมงานที่ดูแลและให้กำลังใจตลอดเส้นทางและทุกจุดเช็คพอยท์

    The Legendary Trail Series 2024 HUAHIN50 ได้ต้อนรับนักวิ่งราว 1,000 คน ร่วมผจญภัยบนเส้นทางธรรมชาติอันงดงามรอบเมืองหัวหิน โดยไฮไลท์ของงานได้แก่ทิวทัศน์อันตระการตาบน 3 ภูเขา รอบเมือง ได้แก่ เขาหินเหล็กไฟ, เขาหินเทิน และเขาใหญ่ (เขาบันยัน) เริ่มต้นด้วยการวิ่ง Family Fun Run ระยะ 3 กิโลเมตร ที่สวนสาธารณะบ้านทับใต้ งานนี้มีนักวิ่งทุกเพศทุกวัยมาร่วมสนุกสนาน ก่อนเข้าสู่การแข่งขันหลักเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ มิตรภาพ และการผจญภัย โดยกิจกรรมตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่รักการเดินป่าชมธรรมชาติ หรือผู้เข้าแข่งขันวิ่งระยะไกลระดับมืออาชีพ

    นักวิ่งต่างชื่นชมเส้นทางที่สวยงาม โดยหลายได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินป่าและวิ่งเทรลที่หัวหิน งานนี้ยังช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงให้หัวหินเป็นมากกว่าแค่เมืองท่องเที่ยวชายหาดและทะเล แต่ยังเป็นจุดหมายของคนรักกิจกรรมกลางแจ้งและเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงกีฬา “นี่เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ได้มาร่วมวิ่งในสนามนี้ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอเส้นทางเทรลอันน่าทึ่งในหัวหินให้กับนักวิ่งได้รู้จัก เรารอคอยที่จะได้ต้อนรับนักวิ่งเทรลจากทั่วประเทศและทั่วโลกอีกครั้งในปีหน้า” เซิร์จ เฮนเก็นส์ ผู้จัดการแข่งขันกล่าว

    สำหรับผลการแข่งขัน อันดับ 1 ระยะทาง 11 กม. มิสเตอร์ อเล็กซานเดอร์ เมลนิก / อันดับ 1 ระยะทาง 25 กม. มิสเตอร์ ดุยาคาร์ บาฮาร์ ดูว์ / อันดับ 1 ระยะทาง 50 กม. นายสัญญา คานชัย งานวิ่งเทรล สนามหัวหิน 50 ครั้งนี้ได้ตั้งมาตรฐานใหม่สำหรับงานวิ่งเทรลในประเทศไทย และเราเริ่มวางแผนสำหรับการแข่งขันปี 2025 ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม อย่าลืมติดตามข่าวสารเพิ่มเติม แล้วพบกันบนเส้นทางวิ่งในปีหน้า! ได้ที่ Facebook Page: https://www.facebook.com/TheLegendaryTrailSeries/ 

    โจ๋17 ห้าวฟันแขนอดีตพ่อเลี้ยงขาดแม่เผยด่าพ่อบังเกิดเกล้า

    5 ม.ค.68 คลิปเหตุการณ์จากกล้องวีดีโอมือถือในร้านขายของชำแห่งหนึ่ง บันทึกเหตุการณ์ขณะชายวัยกลางคนจำนวนสองคนกำลังมีปากเสียกับคู่กรณีอยู่บริเวณด้านหน้าร้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่อีกคนจะถูกคู่กรณีฟันเข้าอย่างจังไปที่ต้นแขนซ้ายจนขาดกระเด็นตกลงอยู่บนพื้นกลางถนน โดยในคลิปจะมีเสียงโวยวายตะโกนว่า”มึงว่าพ่อกูเรื่องไร” จากนั้นชายวัยกลางคนที่ถูกคู่กรณีฟันจนแขนขาดก็เดินวนไปมาก่อนจะล้มตัวนั่งลงบริเวณหน้าร้านชำ เหตุเกิดบริเวณริมถนนเทศบาลเมือง ถ.ประจวบศิริ อเมือง จ.ประจวบฯ

    จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามเจ้าของร้านขายของชำกรณีตามคลิปหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริเวณฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุเป็นตึกสองชั้น ภายในเปิดเป็นร้านอาหารชื่อร้าน”หนุงหนิง จิ้มจุ่ม” ขณะที่เจ้าของร้านชำชื่อ คุณป้าเล็กเล่าว่า เหตุการณ์ก่อนหน้าขณะนั้นได้ยินเสียงชายวัยกลางคนทั้งสองราย กำลังนั่งดื่มสุราพูดจาเสียดังอยู่บริเวณร้านฝั่งตรงข้าม จากนั้นตนเดินเข้าไปหลังบ้านก็ได้ยินเสียงร้องโวยวายคล้ายเสียงทะเลาะวิวาทกัน กลับออกมาอีกทีก็เห็นเหตุการณ์ขณะลูกชายเจ้าของร้านกำลังใช้มืดไร่ฟัน ส่วนคนที่ถูกฟันตนไม่ทราบชื่อ หลังจากนั้นชายวัยกลางคนที่ถูกฟันก็เดินโซซัดโซเซมาล้มลงอยู่บริเวณภายในร้านของตน มีรอยถูกฟันต้นแขนข้างซ้ายขาดหายเลือดนองเต็มพื้น ตนตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้จึงโทรเรียกรถพยาบาลก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

     ด้านคุณหนิง อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน”หนุงหนิง จิ้มจุ่ม”เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ก่อเหตุใช้มีดตัดสับปะรดฟันแขนขาดเป็นลูกชายตนเองชื่อน้องต๊ะ อายุ 18 ปี ส่วนคนที่ถูกฟันจนแขนขาดกระเด็นเป็นอดีตสามีเก่าที่เลิกกันไปนานแล้ว โดยคุณหนิงเล่าต่อไปว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณสองโมงเช้า อดีตสามีเก่าที่เลิกกันไปนานแล้ว มานั่งดื่มสุราอยู่บริเวณโต๊ะด้านหน้าร้านกับเพื่อนรวมสองคน ขณะนั้นตนกำลังจะออกไปจ่ายตลาด เมื่อเห็นตนเขาจึงขอเข้าไปนั่งโต๊ะดื่มต่อภายในร้าน ระหว่างนั้นตนยังไม่เปิดให้บริการ แต่เห็นว่าเป็นลูกค้าเคยมานั่งดื่ม จึงอนุญาตให้เข้าไปนั่งดื่มต่อภานในร้าน หลังจากนั้นเมื่อตนกลับมาก็เห็นลูกชายมีเรื่อง

    โดยตนก็ยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุอะไร จากนั้นลูกชายเดินมาหาแล้วบอกกับตนว่า”แม่ผมขอโทษ”ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า ระหว่างที่เขานั่งดื่มสุรากันอยู่พูดคุยเสียงดังมาก ขณะนั้นต๊ะ(ลูกชาย)นอนอยู่บนชั้นสอง มาบอกให้ใช้เสียงเบ่าๆหน่อย แต่เขากลับด่าทอยั่วยุว่าร้ายเสียหายแก่บิดาของต๊ะ ก่อนจะมีปากเสียงท้าทายระหว่างกัน เป็นเหตุให้น้องต๊ะสุดทนบันดาลโทสะคว้าเอามีดตัดสับปะรด ฟันไปที่แขนจนขาดกระเด็นตกลงพื้นกลางถนน  หลังทราบเหตุการณ์ตนจึงพาลูกชายซ้อนมอเตอร์ไซด์พร้อมอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองโดยเล่าเหตุการณ์ให้ร้อยเวรทราบก่อนจะควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำต่อ

    นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กองทัพอากาศ จัดพิธีทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2568

    แชร์เนื้อหานี้

    วันนี้ (วันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568) พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ คุณมนทิรา พัฒนกุล นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2568

    ณ ลานอเนกประสงค์ สโมสรทหารอากาศชั้นประทวน เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลในปี 2568 โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ นักเรียนทหาร และครอบครัว เข้าร่วมพิธี

    ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อกำลังพล พร้อมทั้งอวยพรปีใหม่ โดยเน้นถึงความสามัคคีและความเสียสละของบุคลากรทุกระดับในกองทัพอากาศ ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของภารกิจต่าง ๆ ความว่า “ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้

    พร้อมใจกันมาร่วมทำบุญตักบาตรในวันนี้ และอำนวยพรให้ผมและครอบครัว ผมรู้สึกอบอุ่นใจและขอขอบคุณในน้ำใจไมตรีที่ทุกท่านมอบให้ พร้อมทั้งขอฝากความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังพี่น้องข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ นักเรียนทหาร และทหารกองประจำการที่ไม่ได้อยู่

    ณ ที่นี้ด้วย ขอให้ทุกท่านทราบว่า ผู้บังคับบัญชามีความห่วงใย และพร้อมดูแลช่วยเหลือด้านสวัสดิการ เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ผมยืนยันเจตนารมณ์ที่จะอุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทุกท่านด้วยความเสียสละ ซื่อสัตย์สุจริต และนำพาความเจริญก้าวหน้ามาสู่กองทัพอากาศและประเทศชาติสืบไป”

    พร้อมกันนี้ ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 45 รูป จากวัดชูจิตธรรมาราม และพิธีเจริญพระพุทธมนต์จากพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป จากวัดดอนเมือง (พระอารามหลวง) เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสุข ความสงบ และความเป็นสิริมงคล รวมทั้งเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของประชาชนชาวไทย

    กองทัพอากาศ

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / คนไทย 151 คน เมียนมาจับกุม ตั้งแต่ 2567 ตามมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนพนันออนไลน์ของ เมียนมา ได้รับการปล่อยตัว กลับไทยแล้ว

    แชร์เนื้อหานี้

    วันที่ 4 มกราคม 2568 ที่ด่านถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

    เพื่อเตรียมการรับการปล่อยตัวคนไทยจากทางการเมียนมาจำนวน 151 คน แยกเป็นชาย 74 คน และหญิง 77 คน ซึ่งได้รับการอภัยโทษเนื่องในวันชาติเมียนมา 4 มกราคม ของทุกปี โดยคนไทยทั้ง 151 คนที่ถูกส่งตัวกลับมา เป็นคนที่ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมใน จ.ท่าขี้เหล็ก เมื่อช่วงต้นปี 2567

    ตามมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนพนันออนไลน์ของทางการเมียนมา ซึ่งครั้งนั้นถูกจับกุมจำนวน 154 คน โดยมีผู้ที่เป็นเยาวชนได้รับการปล่อยตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว ที่เหลือถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองและบ่อนการพนันผิดกฎหมาย

    ศาลเมียนมาตัดสินให้ต้องโทษจำคุกประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมาทางการไทยได้ประสานงานเพื่อขอให้ปล่อยตัวคนไทยมาโดยตลอด และเนื่องในวันชาติเมียนมาทางการเมียนมาจึงได้ปล่อยตัวและส่งกลับมายังประเทศไทย และเมื่อเวลา ประมาณ 18.30 น. คนไทยทั้ง 151 คน

    จึงได้เดินทางมาถึง ด่านถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยนายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะบุคคล, คัดกรองโรค, ประเมินสภาพจิตใจ

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย สอบปากคำเบื้องต้นว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์หรือแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หรือไม่ หากพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่จะส่งตัวให้กับญาติ

    ที่มารอรับเพื่อกลับไปใช้ชีวิตในภูมิลำเนาของแต่ละคนต่อไป ส่วนผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์หรือแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

    พงศกร ตันสุวรรณ ภาพ/ข่าว

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /โรงละครอัลคาซ่าร์ พัทยา จัดทำบุญตักบาตรพระ 8 รูป รับปีงูทอง 68 พร้อมเป่าเค้กครบ 81 ปี วันคล้ายวันเกิด “ป๋าสมพันธ์ เพ็ชรตระกูล”/เจ้าอาวาสวัดเขาบางทราย มรณภาพ ชาวชลบุรีร่วมไว้อาลัย

    แชร์เนื้อหานี้

    วันที่ 5 ม.ค.67 ที่บริเวณลานจอดรถโรงละครอัลคาซ่าร์ พัทยา จ.ชลบุรี คาบาเร่ต์โชว์ชื่อดังระดับตำนาน ได้จัดทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งเนื่องในวันปีใหม่ 2568 ให้กลุ่มพนักงาน เจ้าหน้าที่ และผู้บริหารได้ร่วมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ 2568 โดยมีพระเถรานุเถระจำนวน 8 รูป จากวัดโพธิสัมพันธ์ ร่วมเดินบิณฑบาต

    ในงานได้เปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันเกิดวันคล้ายวันเกิดนายสมพันธ์ เพ็ชรตระกูล หรือ “ป๋าสัมพันธ์” ผู้บริหารโรงละครอัลคาซ่าร์ พัทยา ที่มีอายุครบ 81 ปีบริบูรณ์ในปีนี้ ด้วยบรรยากาศที่เป็นไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง

    พบว่าในงาน มีแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากเข้าร่วม อาทิ คณะผู้บริหารเมืองพัทยา คณะสมาชิกสภาเมืองพัทยา กลุ่มการเมือง กลุ่มนักธุรกิจ และตัวแทนห้างร้านและองค์กรต่างๆ ร่วทมอบกระเช้าอวยพร ก่อนทีการถ่ายภาพที่ระลึกตามลำดับ

    อนึ่ง นายสมพันธ์ เพ็ชรตระกูล หรือ “ป๋าสมพันธ์” ผู้บริหาร “โรงละครอัลคาซ่าร์พัทยา” คาบาเร่ต์โชว์ชื่อดังระดับตำนานที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยการแสดงของสาวประเภทสองให้มีพื้นที่ของตัวเองได้แสดงความสามารถและได้ทำมาหากินจนกลายเป็นบริบทสำคัญในอีกหนึ่งธุรกิจที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้เมืองพัทยาเติบโตมาจนปัจจุบัน

    ท่าเทียบเรือพัทยาคึกคักส่งท้ายเทศกาลปีใหม่

    วันที่ 5 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายเทศกาลปีใหม่ของเมืองพัทยา พบว่าที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮาย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปพักผ่อนยังเกาะล้านทยอยเดินทางกลับกันอย่างต่อเนื่อง

    สอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เล่าว่า ช่วง 2-3 วันมามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางข้ามฝั่งไปพักผ่อนที่เกาะล้านกันอย่างคึกคักแต่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวรัสเซียและชาวไทยผสมกันมากกว่าชาติอื่นๆ

    ด้าน นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เล่าบรรยากาศว่า บนเกาะล้านคึกคักเป็นอย่างมากและสภาพแวดล้อมของเกาะล้านยังคงงดงาม ทั้งนี้ยังพบด้วยว่าบนเกาะล้านมีโครงการพัฒนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าในอนาคตเกาะล้านจะเพรียบพร้อมด้านการท่องเที่ยวขึ้นเป็นอย่างมาก

    เจ้าอาวาสวัดเขาบางทรายมรณภาพ ชาวชลบุรีร่วมไว้อาลัยในโซเซียลกันอย่างมากมาย

    เมื่อวันที่ 4 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเทพสุทธาจารย์ (อนันต์ กลฺยาณวฑฺฒโน) เจ้าอาวาสวัดเขาบางทราย พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี (ธ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12-13 (ธ) ได้มรณภาพช่วงเวลา 04.00 น.วันที่ 4 มกราคม ด้วยอาการสงบ สิริอายุ 89 ปี 9 เดือน พรรษาที่ 62

    จากการสอบถามผู้ใกล้ชิดได้ความว่า ช่วงเช้าได้มีคนเอาภัตตาหารไปถวายที่กุฏิ และเรียกให้เปิดประตู แต่ไม่มีเสียงตอบรับภายในกุฏิ จึงได้เปิดเข้าไปพบว่า พระเทพสุทธาจารย์ได้มรณภาพไปแล้ว คาดว่าเป็นช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.พระเทพสุทธาจารย์ ประชาชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้ให้ความเคารพนับถือกันอย่างมากมาย การมรณภาพในครั้งนี้ กระแสโซเชียลได้โพสต์ไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก..

    สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯเชียงราย ปิดการแข่งขันจักรยานปั้นขึ้นดอย กอย 4 มุมเมืองล้านนาตะวันออกเชียงราย-พะเยา-แพร่-น่าน มอบรางวัลใหญ่ หน้าด่านพรมแดน อ.แม่สาย

    แชร์เนื้อหานี้

    บ่ายวันที่ 30ธันวาคม67ก่อนสิ้นปีเก่าต้อนรับปีใหม่นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลและทำการปิดสนามการแข่งขัน Tour of Lana 2024 ที่หน้าด่านพรมแดนอำเภอแม่สาย โดยมีนายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย

    นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีแม่สาย พร้อมด้วยตัวแทนนายอำเภอแม่สาย หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ได้ทำการมอบรางวัลทุกประเภท ทุกรายการแข่งขัน อันมีมูลค่ากว่า 1,147,000 บาท

    โดยมีนักกีฬาทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมแข่งขันเป็นการแข่งขัน ท่องเที่ยวเชิงกีฬา Sport TOurism เพื่อส่งเสริมให้กับเด็กและเยาวชน และผู้เข้าร่วมหลายรุ่น ทั้งสุภาพสตรีและบุรุษ เข้าแข่งขัน8สนามภาคเหนือ ที่ผ่านมาและเป็นการสิ้นสุดการแข่งขันที่ได้ประโยชน์สูงสุด หลังจากเปิดมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ

    ซึ่งบรรยากาศแข่งขันครั้งนี้เป็นสร้างสีสันการท่องเที่ยวอำเภอแม่สายกลับมาคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวแอ่วเหนือ แอ่วหนาวชายแดนแม่สายโดยผู้เข้าการแข่งขันได้ถ่ายรูปกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียง และการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย

    และการท่องเที่ยวและกีฬาผู้ร่วมจัดเป็นที่ระลึกเป็นภาพประวัติศาสตร์ชายแดนแม่สายอีกด้วย
    พิชานันท์ วรรมณี ผู้สื่อข่าวเชียงรายรายงาน