เรื่องทั้งหมดโดย admin

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นักท่องเที่ยวแน่นขึ้นห่มพระเขาช่องกระจก ขอพรวันปีใหม่

แชร์เนื้อหานี้

DCIM\100MEDIA\DJI_0794.JPG


เมื่อวันที่ 1 ม.ค.68 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธ) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในกิจกรรม “ขึ้นเขาห่มพระ พาท่องช่องกระจก เถลิงศกรับพร ประจำปีพุทธศักราช 2568” มี นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมกันเขียนชื่อของตนเองและคนในครอบครัวลงบนผืนผ้าเหลือง

พร้อมอัญเชิญผืนผ้าขึ้นสู่เขาช่องกระจก อ.เมืองประจวบฯ ผ่านบันได 396 ขั้น ห่มองค์พระเจดีย์ที่ประดิษฐานบนยอดเขา และกราบสักการะขอพรพระพุทธมงคลคีรีขันธ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวในวันขึ้นปีใหม่
สำหรับกิจกรรม “ขึ้นเขาห่มพระ พาท่องช่องกระจก เถลิงศกรับพรปีใหม่” เทศบาลเมืองประจวบฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ครั้งแรกในปี พ.ศ.2548 โดยปีนี้เป็นครั้งที่ 19 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้บรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวของ จ.ประจวบฯ

เพื่อเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่เสด็จพระราชดำเนินบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดเขาช่องกระจก พร้อมส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเขาช่องกระจก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเมืองประจวบฯ สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

ได้ขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาช่องกระจก ได้สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามของเมืองสามอ่าว ตลอดจนเพื่อปลูกจิตสำนึกในการบำรุงพระพุทธศาสนาในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีการห่มผ้าพระบรมสารีริกธาตุให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯน่าน พร้อมพี่น้องชาวน่าน ร่วมทำบุญตักบาตรในวันปีใหม่ เสริมสิริมงคลรับวันแรกของปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 1 มกราคม 2568 ที่ข่วงเมืองน่าน อ.เมืองน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนางเหมือนใจ วงศ์ใหญ่ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน พร้อมด้วยศาล ทหาร ตำรวจ ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนชาวจังหวัดน่าน และนักท่องเที่ยว ร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

โดยพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดพญาภู พระอารามหลวงได้กล่าวสัมโมทนียกถาอวยพรปีใหม่ ในโอกาสเดียวกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ให้กับประชาชนชาวจังหวัดน่าน จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้นำพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักรบาตร ถือเป็นการเริ่มต้นทำสิ่งที่ดี เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว และยังเป็นการอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในแบบวิถีไทย

ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้กล่าวอวยพร เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ 2568 ในนามของจังหวัดน่าน ขออำนวยอวยพร ให้ทุกท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองเติบโตยิ่ง ๆ ขึ้น ขอให้มีความสุขต่อตนเอง และครอบครัว ตลอดปี 2568 และตลอดไป
/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พิธีฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธุ์ทางการทูตจีน-ไทย และ พิธีขอพรเทศการ อันเค่อเล่อ ครั้งที่ 9 จัดขึ้นที่ประเทศไทย

แชร์เนื้อหานี้

เพื่อตอบรับต่อความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และปฏิบัติตามแนวคิดการทูตที่เป็นมิตรและเอื้ออาทรต่อประเทศเพื่อนบ้าน สืบทอดประเพณีอันดีงามของการเป็นมิตรต่อเพื่อนบ้าน ส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนจีนและไทย เพิ่มพูนมิตรภาพระหว่างจีนและไทย และเพื่อให้พุทธศาสนาทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างอารยธรรม วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567  สมาคมพุทธศาสนาจีนถังมี่ และสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ร่วมกันจัดงาน “พิธีฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย และ พิธีขอพรเทศกาลอันเค่อเล่อ ครั้งที่ 9 จัดขึ้นที่ประเทศไทย” ณ อาคารหอการค้าไทย-จีน โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมการค้าไทย-จีน และเศรษฐกิจเอเชีย ศูนย์ประสานงานการค้าและการลงทุนอาเซียน และสมาคมวิญญูชนไทย-จีน พระพรหมวัชรเมธี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม หม่อมหลวงสุภาพ ปราโมช ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมการค้าไทยจีน-และเศรษฐกิจเอเชีย ดร.โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ดร.พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ    ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางสาว รุจิรา อารินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร  พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นายบุญยงค์ ยงเจริญรัฐ รองประธานหอการค้าไทย-จีน นางเยเลนา มาเชนโก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และตัวแทนจากวงการศาสนา การเมือง ธุรกิจ วัฒนธรรม และชุมชนชาวจีน รวมถึงบุคคลสำคัญอีกกว่า 600 ท่าน ได้เข้าร่วมพิธี ในครั้งนี้ พระอาจารย์จินเคอสวนเหลย แห่งพุทธวัชรยาน จงหัวถังมี่ เป็นประธานในพิธี และได้เจริญพุทธมนต์ขอพรให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความเจริญรุ่งเรือง มนุษยชาติมีความสุข และโลกมีความสงบสุข

เพื่อตอบรับต่อความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และปฏิบัติตามแนวคิดการทูตที่เป็นมิตรและเอื้ออาทรต่อประเทศเพื่อนบ้าน สืบทอดประเพณีอันดีงามของการเป็นมิตรต่อเพื่อนบ้าน ส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนจีนและไทย เพิ่มพูนมิตรภาพระหว่างจีนและไทย และเพื่อให้พุทธศาสนาทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างอารยธรรม วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567  สมาคมพุทธศาสนาจีนถังมี่ และสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ร่วมกันจัดงาน “พิธีฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย และ พิธีขอพรเทศกาลอันเค่อเล่อ ครั้งที่ 9 จัดขึ้นที่ประเทศไทย” ณ อาคารหอการค้าไทย-จีน โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมการค้าไทย-จีน และเศรษฐกิจเอเชีย ศูนย์ประสานงานการค้าและการลงทุนอาเซียน และสมาคมวิญญูชนไทย-จีน พระพรหมวัชรเมธี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม หม่อมหลวงสุภาพ ปราโมช ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมการค้าไทยจีน-และเศรษฐกิจเอเชีย ดร.โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ดร.พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ    ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางสาว รุจิรา อารินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร  พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นายบุญยงค์ ยงเจริญรัฐ รองประธานหอการค้าไทย-จีน นางเยเลนา มาเชนโก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และตัวแทนจากวงการศาสนา การเมือง ธุรกิจ วัฒนธรรม และชุมชนชาวจีน รวมถึงบุคคลสำคัญอีกกว่า 600 ท่าน ได้เข้าร่วมพิธี ในครั้งนี้ พระอาจารย์จินเคอสวนเหลย แห่งพุทธวัชรยาน จงหัวถังมี่ เป็นประธานในพิธี และได้เจริญพุทธมนต์ขอพรให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความเจริญรุ่งเรือง มนุษยชาติมีความสุข และโลกมีความสงบสุข

ณ ห้องกวางฮวา อาคารหอการค้าไทย-จีนได้จัดแสดงผลงานศิลปะและวัฒนธรรมมันดาลาจินเคอแห่งพุทธวัชรยานจงหัวถังมี่กว่าร้อยชิ้นซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์อันประณีตของพระอาจารย์จินเคอสวนเหลย และคณะศิษย์ ประกอบด้วย ภาพวาด จิตรกรรม ประติมากรรม และเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งได้รับการยกย่องชื่นชมเป็นอย่างสูง ในงานนี้ยังได้จัดแสดงภาพวาดศิลปะมันดาลาจินเคอแห่งพุทธวัชรยานจงหัวถังมี่ ขนาดใหญ่ 3 ภาพ ได้แก่ “โลกเป็นหนึ่ง สันติสุขทั่วโลก” “มิตรภาพไทย-จีน สืบสานตลอดกาล” และ “เสียงแห่งอิสระ” ซึ่งแสดงถึงความปรารถนาดีที่มีต่อมิตรภาพระหว่างจีนและไทย ตลอดจนสันติสุขของโลก เมื่อภาพวาดทั้งสามถูกเปิดเผยออกมานั้น ได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้องจากผู้เข้าร่วมงาน และต่างพากันเข้ามาถ่ายภาพร่วมกับพระอาจารย์และเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ณ บริเวณภาพวาด

“ผู้ที่มีความมุ่งมั่นเดียวกัน แม้จะอยู่ห่างไกลกันดั่งภูเขาและทะเล ก็ไม่อาจขวางกั้นได้” ตัวแทนจากวงการศาสนา การเมือง ธุรกิจ และวัฒนธรรมทั่วโลกได้มารวมตัวกันในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนและไทย ในด้านศาสนา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับโอกาสในการร่วมมือ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีและความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประชาชนชาวจีนและนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความเมตตาต่อกัน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเคยกล่าวไว้ว่า: “เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาสันติภาพและส่งเสริมการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ชาวจีนสืบทอดแนวคิดเรื่องสันติภาพ ความสามัคคี และความกลมเกลียว… ” ท่านเน้นย้ำว่า: ” แนวร่วมเป็นเครื่องมือสำคัญของพรรคในการเอาชนะศัตรูและปกครองประเทศ เป็นเครื่องมือสำคัญในการรวมชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อบรรลุการฟื้นฟูชาติที่ยิ่งใหญ่ของจีน ซึ่งต้องยึดมั่นในระยะยาว ……ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างพรรคการเมือง ชาติพันธุ์ ศาสนา และชนชั้น รวมถึงชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสามัคคีและร่วมกันสร้างสรรค์ประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้าและแข็งแกร่ง เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่เข้มแข็งและฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของชาติจีน

เพื่อตอบสนองต่อคำเรียกร้องของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พระอาจารย์จินเคอสวนเหลยได้อุทิศตนในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาและวัฒนธรรมที่หลากหลายในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อส่งเสริมความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค และสืบทอดมรดกอันดีงามของการเป็นมิตรต่อเพื่อนบ้าน ส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกัน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม พระอาจารย์มีความปรารถนาที่จะนำพาศิษย์ นักธุรกิจ และชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกันสร้างแท่นพิธีขอพรเพื่อสันติภาพโลกแห่งพุทธวัชรยานจงหัวถังมี่ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้โลกได้รู้จักภูมิภาคนี้มากขึ้น และร่วมกันเผยแผ่หลักธรรมแห่งความเมตตาและการให้ โดยหวังว่าจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองและความสุขแก่ประชาชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และสันติสุขทั่วโลก

เพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมจีนในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเล พระอาจารย์ได้เดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อเป็นกำลังใจให้ชาวจีนโพ้นทะเลให้เข้าร่วมในสังคมท้องถิ่น และสืบทอดคุณธรรมจริยธรรมอันดีงามของชาวจีน เพื่อให้วัฒนธรรมจีนได้รับการยอมรับและเคารพในระดับสากล นอกจากนี้ พระอาจารย์ยังให้คำแนะนำและกำลังใจแก่ชาวจีนโพ้นทะเลในด้านชีวิต การงาน และความเชื่อ นายเฉิน เว่ยผิง ประธานกรรมการสมาคมมิตรภาพชาวจีนโพ้นทะเล ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมจื่อเซียวตู้ชิ่นแห่งอเมริกา รองประธานและเลขาธิการสมาคมพุทธศาสนาจีนถังมี่ได้กล่าวว่า“50 ปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน” เป็นแบบอย่างแห่งสันติภาพ และเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ การจัดงานครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกได้ร่วมกันส่งเสริมหลักธรรมแห่งเมตตาและปัญญาของพระพุทธศาสนา เพื่อสร้างสรรค์ความสามัคคีของมนุษย์ชาติ โดยก้าวข้ามขอบเขตทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และศาสนา ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพระหว่างจีนและไทย และเป็นการเปิดฉากใหม่แห่งสันติภาพและมิตรภาพ พระอาจารย์จินเคอสวนเหลย ได้เน้นย้ำว่า สันติภาพและการพัฒนาคือหัวข้อสำคัญของยุคสมัย การฟื้นฟูชาติและการรวมประเทศเป็นแนวโน้มทางประวัติศาสตร์ เป็นความปรารถนาร่วมกันของลูกหลานชาวจีนทุกคน ภายใต้การนำทางของพระอาจารย์ กิจกรรมแลกเปลี่ยนเพื่อส่งเสริมอารยธรรมจีนอันดีงามที่จัดโดยสมาคมพุทธศาสนาจีนถังมี่ ได้แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของชนชาติจีนที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สร้างความปรองดอง ร่วมมืออย่างฉันมิตร เปิดใจรับฟัง และร่วมมือกันก้าวไปข้างหน้า ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของลูกหลานชาวจีนทั้งในและต่างประเทศที่ร่วมมือกันสร้างความผาสุกอันยั่งยืนของชนชาติจีน พวกเราหวังว่า ด้วยความสามัคคีและความมุ่งมั่นของลูกหลานชาวจีนทุกคน และการรวมพลังกับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ จะร่วมกันส่งเสริมสันติภาพ สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชาวจีน และนำไปสู่การฟื้นฟูชาติ

หม่อมหลวงสุภาพ ปราโมช ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมการค้าไทยจีน-และเศรษฐกิจเอเชีย เล่าถึงความผูกพันอันยาวนานกับพระอาจารย์ ท่านยกย่องอุปนิสัยและปฏิภาณของพระอาจารย์ ใช้ปัญญาอันลึกซึ้งและเมตตาอันเปี่ยมล้น เสริมสร้างสัมพันธภาพทางจิตใจระหว่างประชาชนทั้งสองชาติ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีน เมตตาจิตอันยิ่งใหญ่ของพระอาจารย์ เปรียบเสมือนดวงประทีปที่ส่องสว่าง แผ่รัศมีแห่งปัญญาไปทั่ว เป็นผู้ริเริ่มและนำทางให้เราได้มาพบปะกันในวันอันเป็นมงคลนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองมิตรภาพระหว่างไทยและจีน และความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา

ดร.โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ได้กล่าวขอบคุณพระอาจารย์จินเคอสวนเหลย ที่ได้นำวัฒนธรรมจีนอันดีงามมาสู่ประเทศไทย และได้อธิษฐานขอพรให้ประชาชนมีความสุขและสันติสุขทั่วโลก ท่านยังได้แสดงความชื่นชมในความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ และได้อวยพรให้กิจกรรมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีนจะร่วมมือกับสมาคมพุทธศาสนาจีนถังมี่ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีน ให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น และเพื่อให้จิตวิญญาณของ ครอบครัวไทย-จีน สืบทอดต่อไป และร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใส

ดร.พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ    ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวว่า ไทย-จีน มีมิตรภาพและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งมายาวนาน ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองประเทศได้ก้าวไปด้วยกันและมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่เฟื่องฟู สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ พระอาจารย์จินเคอสวนเหลยได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณของถังมี่ มายังประเทศไทย ส่งมอบศิลปวัฒนธรรมมันดาลาถังมี่ อันทรงคุณค่าสำหรับชาวไทย เสริมสร้างความงดงามแห่งศิลปะพระพุทธศาสนา และเผยแพร่ความรู้และความรักอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนา ขอให้ดอกไม้ไฟในงานเฉลิมฉลองศรัทธานี้จุดประกายความหวังของการเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม และเขียนบทใหม่ของมิตรภาพไทย-จีน

นางสาว รุจิรา อารินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงผลสำเร็จของความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน โดยระบุว่าประชาชนของทั้งสองประเทศยังคงรักษามิตรภาพและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นอยู่เสมอ ขณะที่ความริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้ดำเนินไปอย่างลึกซึ้ง อุตสาหกรรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีนได้มีโอกาสพัฒนาที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่านยังได้ยกย่องบทบาทเชิงบวกของงานเฉลิมฉลองนี้ที่ช่วยเสริมสร้างมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ขอบคุณพระอาจารย์ที่ได้แบ่งปันศิลปะวัฒนธรรมของมันดาลาถังมี่ให้กับชาวกรุงเทพฯ ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทย-จีนในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว โดยหวังว่าจะมีการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศเพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

นายบุญยงค์ ยงเจริญรัฐ รองประธานหอการค้าไทย-จีน ได้กล่าวปราศรัยในงานนี้ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของหอการค้าไทย-จีน ที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างจีนและไทยในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสังคม ท่านได้กล่าวถึงความสำคัญของการรวมพลังชาวจีนโพ้นทะเล เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูชาติจีน และการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี เพื่อความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ท่านยังได้กล่าวขอบคุณพระอาจารย์ และชื่นชมในความทุ่มเทของพระอาจารย์ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวจีนโพ้นทะเล การส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจ และการเสริมสร้างความเชื่อมั่น

นางเยเลนา มาเชนโก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย กล่าวว่า เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2562 เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัสเซียกับจีน ตามคำเชิญของสภาดูมาแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย สมาคมมิตรภาพรัสเซีย-จีน และสมาคมศิลปินรัสเซีย พระอาจารย์จินเคอสวนเหลย ได้เข้าร่วมใน “พิธีฉลองครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัสเซียกับจีน และเวทีฟอรัมทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจรัสเซีย-จีน” ท่านเอกอัครราชทูตจีนประจำรัสเซีย จางฮั่นฮุย รองประธานคนแรกของสมาคมมิตรภาพรัสเซีย-จีน คูลิโควา และสมาชิกสภาดูมาแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย อาดูกิเยฟ บาโต ได้กล่าวชื่นชมและยกย่องพระอาจารย์อย่างสูงต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัสเซียกับจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปะและวัฒนธรรมมันดาลาจินเคอแห่งพุทธวัชรยานจงหัวถังมี่ที่พระอาจารย์ได้สร้างสรรค์ขึ้นนั้น ได้ผสมผสานแก่นแท้ของอารยธรรมจากหลายประเทศเข้าด้วยกัน และก้าวข้ามขีดจำกัดของประเทศชาติ ศิลปะและวัฒนธรรมทางศาสนานี้เองที่เป็นสะพานเชื่อมโยงจิตใจระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ตามแนว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ชาวจีนโพ้นทะเลท่านหนึ่งกล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันในวัฒนธรรมจีนของชาวจีนโพ้นทะเล พระอาจารย์จินเคอสวนเหลย ได้ให้

กำลังใจแก่เราชาวจีนโพ้นทะเล ให้จดจำแก่นแท้ของวัฒนธรรมจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสืบทอดคุณธรรมอันดีงามของชาวจีน เช่น ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ และความเมตตา พระอาจารย์เปรียบเสมือนดวงประทีปที่นำทางชาวจีนโพ้นทะเลทุกคนที่กำลังดิ้นรนในต่างแดน ให้มีกำลังใจและความกล้าหาญในการก้าวเดินต่อไป

ศาสตราจารย์ลี่เจียนฟู ผู้เชี่ยวชาญด้านวัชรยานที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ จากมหาวิทยาลัยซื่อชวน ประเทศจีน ศาสตราจารย์หลี่ลี่อัน ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาทางศาสนา มหาวิทยาลัยซีเป่ย ประเทศจีน และศาสตราจารย์หวังอี้หมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านวัชรยานตะวันออก จากมหาวิทยาลัยครูหัวหนัน ประเทศจีน ได้เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน อกจากนี้ ศาสตราจารย์จางเป่าเซิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาสันสกฤต จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และศาสตราจารย์หวังจื่อหยวน ที่ปรึกษาสมาคมศาสนวิทยาแห่งประเทศจีน และนักวิจัยจากสถาบันวิจัยศาสนาโลก สังคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีมาด้วย พวกเขาระบุว่าจะยังคงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมพุทธระหว่างจีนและไทย และส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของวัฒนธรรมพุทธในทั้งสองประเทศ

ชาวจีนโพ้นทะเลได้นำเสนอการแสดงร้องเพลงและการเต้นที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของชาวจีน ซึ่งเป็นสีสันที่เพิ่มความงดงามให้กับกิจกรรมในครั้งนี้ การแสดงนางฟ้าที่เต้นอย่างสง่างดงาม และการแสดงเปลี่ยนหน้ากากมันดาลาวัชระได้สร้างสรรค์ภาพที่สวยงามและความหมายอันลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ ซึ่งได้มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและไม่เหมือนใครให้แก่ผู้เข้าร่วมงานและผู้ศรัทธาทุกท่าน

“50 ปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน” นับเป็นผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้หลักการของความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มิตรภาพของไทยและจีนได้กลายเป็นแบบอย่างของสันติภาพและความร่วมมือในระดับนานาชาติ ในงานเฉลิมฉลองครั้งนี้ พระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิ บุคคลสำคัญทางการเมือง และผู้นำทางธุรกิจ ได้มารวมตัวกัน โดยมีเมตตาธรรมเป็นพื้นฐาน และมิตรภาพไทย-จีนเป็นสายใยที่ผูกพัน เพื่อร่วมกันศึกษาถึงบทบาทของพระพุทธศาสนาที่มีต่อการพัฒนาสังคมในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการสานต่อมิตรภาพอันดีระหว่างทั้งสองประเทศให้ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น และเป็นการสร้างสรรค์สันติภาพและความสงบสุขให้แก่โลก

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่เมืองพัทยา กวดขัน ปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลปีใหม่ / Bodyslam ระเบิดความมันส์ Pattaya countdown คืนที่ 2 สุดคึกคัก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 30 ธ.ค.67 ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมกำชับและติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมี พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ รอง.ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามมาตรการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด ตลอดจนข้อกำชับสั่งการและข้อห่วงใยของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย ยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ตลอดจนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และอำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชน ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบฯ ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

จากนั้น พล.ต.อ.ประจวบฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองพัทยา กรมเจ้าท่า หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ พัทยา กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา อส.ตร.สภ.เมืองพัทยา และภาคเอกชนในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้ในมาตรการป้องกันปราบปรามและระมัดระวังตนเองจากอาชญากรรม ตลอดจนข้อห่วงใยแนะนำประชาชนและนักท่องเที่ยว สร้างการมีส่วนร่วมของภาครัฐและเอกชน ในการบริหารจัดการยกระดับความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ย่านถนนคนเดินพัทยา (Pattaya Walking Street)

สำหรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมพร้อมการปฏิบัติในช่วง 10 วันควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 อย่างมีประสิทธิภาพ มีการตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 126 จุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 888 นาย , จุดสกัด 99 จุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 456 นาย , ชุดเคลื่อนที่เร็ว 142 ชุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 598 นาย รวมกำลังพลทั้งสิ้น 1,942 นาย พบการปฏิบัติตามมาตรการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สำหรับการจัดงาน PATTAYA COUNTDOWN 2025 ซึ่งจะมีพื้นที่การจัดงาน บนชายหาดพัทยา จากหน้าโรงแรมฮาร์ดร็อก – แยกนิภาลอดจ์ เนื้อที่ 18,000 ตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 23,000 คน ได้เตรียมพร้อมกำลังพลหน่วยร่วมปฏิบัติ ประกอบด้วย สภ.เมืองพัทยา, ภ.จว.ชลบุรี, ตำรวจท่องเที่ยว, อำเภอบางละมุง, ฝ่ายเทศกิจ, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และหน่วยงานอื่น ๆ รวม 611 นาย จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ภ.จว.ชลบุรี (ไดนามิก) หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ชลบุรี และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.2 รวม 42 นาย จัดชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ 15 นาย ประจำจุดสูงข่ม 4 นาย และประกอบแผนจุดก้าวสกัดจับ 40 นาย เจ้าหน้าที่ EOD 4 นาย

เพื่อตรวจพื้นที่จัดงานก่อนเริ่มงาน และประจำกองอำนวยการร่วม จนกว่างานจะเสร็จสิ้น มีการใช้กล้อง CCTV ในพื้นที่จัดงาน 16 ตัว รถโมบาย 1 คัน กล้องชายหาด 48 ตัว รวมกล้อง CCTV ทั้งหมดในพื้นที่ 5,061 ตัว พร้อมด้วยชุด Anti Drone บินโดรนตรวจปริมาณนักท่องเที่ยว การจราจร ตรวจจับโดรนไม่ได้รับอนุญาต และลักลอบจำหน่ายพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง 10 นาย เรือตรวจการรักษาความปลอดภัยทางน้ำ 8 ลำ พร้อมกำลัง 31 นาย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการปฏิบัติรองรับเหตุวัตถุต้องสงสัย เหตุระเบิด เหตุอาวุธปืน เพลิงไหม้หรือวางเพลิง บุคคลก่อกวน อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ต้องสงสัย ตลอดจนเหตุไฟฟ้าช็อต หม้อแปลงระเบิด และบุคคลวิกลจริต เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมปฏิบัติ

พล.ต.อ.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ต่างทุ่มเท เสียสละ และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ พร้อมระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย ลดอุบัติเหตุทางถนนและอำนวยการจราจรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสุข ยกระดับความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นของขวัญมอบให้กับประชาชนและสังคมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568

Bodyslam ระเบิดความมันส์ Pattaya countdown คืนที่ 2 สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวทะลักหาดพัทยาอุ่นใจ ตร.ทท.ดูแลความปลอดภัยเต็มที่

วันที่ 30 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงาน Pattaya Countdown 2025 คืนที่ 2 กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาชื่อดังที่ได้รับความนิยม ทุกปีว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาร่วมการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีกันอย่างสนุกสนาน

โดยในวันนี้มีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง เริ่มด้วย โจอี้ ภูวศิษฐ์, เจ เจตริน, Jeff Satur, Bodyslam และปิดท้ายด้วย UrboyTJ ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวแห่กันมาร่วมกันเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ในกิจกรรมได้รับการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่คอยดูแลผู้เข้าร่วมงาน ก่อนในวันที่ 31 ธ.ค.67 จะมีพิธีนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2568 ในช่วงเที่ยงคืนเข้าสู่วันใหม่ด้วย

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตะลึง! จับยา”Happy Water” เครือข่ายเจ๊แอนสะหวันนะเขต ส่งขายปีใหม่ตามสถานบันเทิงมุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 29 ธันวาคม​ 2567​ ชุดปฏิบัติการข่าว สำนักการข่าว กอ.รมน. ได้ร่วมบูรณาการชี้เป้าให้ชุดเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2105 มุกดาหาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังปฎิบัติภารกิจติดตามกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติด บริเวณพื้นที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ต่อเนื่องกับบริเวณ เลิฟรีสอร์ท บ.นาคำ ม.5 ต.ผึ่งแดด อ.เมืองมุกดาหาร และ บ้านเลขที่ 32/2 ซ.ตาดแคน 21 ถ.ตาดแคน ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร

โดยสืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการรับ-ส่ง ยาเสพติด “Happy Water” ยาเสพติดผสมคอลลาเจน แบบซอง ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ผลการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นายชัยกวี ทวีโคตร อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 32/2 ซ.ตาดแคน 21 ถ.ตาดแคน ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร พร้อมของกลางยาเสพติดผสมคอลลาเจน คละยี่ห้อจำนวน 252 ซอง, ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 40 ซอง/กรัม และรถยนต์กระยะ ยี่ห้อเชฟโรเลต 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กจ 1845 มุกดาหาร จำนวน 1 คัน

ทั้งนี้ การติดตามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อ 28 ธันวาคม ชุดปฏิบัติการข่าว สำนักการข่าว กอ.รมน. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีกลุ่มขบวนการยาเสพติดได้ลักลอบนำยาเสพติด HAPPY WATER มาในรูปแบบซองคอลลาเจน เข้ามาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา ในสถานบันเทิงพื้นที่ จ.มุกดาหาร และ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการติดเครื่องมือพิเศษ (GPS) ในรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ต่อมาได้ประสานงานด้านการข่าว กับ ร้อย.ฉก.ทพ.2105 ฉก.ทพ.21 และได้ติดตามรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จนกระทั่งมาจับกุมดังกล่าว

จากการจับกุมเสพติด HAPPY WATER ในรูปแบบซองคอลลาเจน เป็นของกลุ่มเครือข่ายของ เจ๊แอน ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ด้านตรงข้าม บ.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร เพื่อจะนำส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้น และใกล้เคียง โดยกลุ่มวัยรุ่นมักจะนิยมนำมาเสพติด โดยอ้างสรรพคุณว่าทำให้เกิดอาการมึนเมา และทำให้สนุกได้มากกว่าการเสพยาเสพติดเพียงชนิดเดียว แล้วนำบรรจุลงในซองที่ผลิตขึ้นมาใหม่เพื่อลอกเลียนแบบซองเครื่องดื่มต่าง ๆ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ

นายชัยกวี เปิดเผยว่า ปัจจุบัน HAPPY WATER เป็นที่นิยมของวัยรุ่น และนักศึกษาในจังหวัดมุกดาหาร โดยตนได้ซื้อมาจากคนลาวแล้วลักลอบลักลอบนำเข้ามาทางธรรมชาติริมแม่น้ำโขง บ.บางไทรใหญ่ แล้วนำมาขายให้กลุ่มวัยรุ่น ในราคาซองละประมาณ 1,800-2,300 บาท โดยได้ขายมาแล้วประมาณ 1 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมกองกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

HAPPY WATER เป็นการนำ ยาอี ยาเค หรือ ยาไอซ์ มาบดผสมกับคอลลาเจน แล้วนำไปแพ็กซองขาย เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกกระตุ้นประสาท หลอนประสาท แล้วแต่ว่าผสมสารชนิดใดเป็นหลัก ทำให้มีอาการเคลิบเคลิ้ม สนุกสนาน ตื่นตัว คึกคัก จึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักเที่ยวกลางคืน หรือกลุ่มปาร์ตี้ในพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้ไม่ง่วง เที่ยวได้ทั้งคืน

HappyWater #ยาอียาเคยาไอซ์ #มุกดาหาร #สะหวันนะเขต #ยาเสพติดผสมคอลลาเจน

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภูธรภาค 8 มอบหมายให้ สภ.เคียนซา ร่วม อบต.อปพร กู้ภัย ปกครอง สาธารณสุข ร่วมปฏิบัติหน้าที่ด่านชุมชน ลดอุบัติเหตุ เทศกาลปีใหม่ 2568

แชร์เนื้อหานี้

เรียนผู้บังคับบัญชา ตำรวจภูธรภาค 8 ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สภ.เคียนซา วันนี้( 31 ธ.ค.2567 ) เวลา 09.40 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อานุภาพ จันดิถวงค์ ผกก.สภ.เคียนซา, พ.ต.ท.อนุชิต มีพรมแก้ว รอง ผกก.ป.สภ.เคียนซา และ พ.ต.ท.ปรีชา สมนุ่น สวป.สภ.เคียนซา

สั่งการให้ ร.ต.ท.สุพจน์ เพชรช่วย รอง สว.(ป)สภ.เคียนซา ร่วม รอง นายก อบต.,จนท. อปพร – กู้ภัย – ปกครอง และจนท.สาธารณสุขร่วมปฏิบัติหน้าที่ด่านชุมชนลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568 หน้าหน่วยบริการประชาชนตำบลพ่วงพรมคร ม.1 ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา จ.สฏ. เหตุการณ์ปกติ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

จิตติพงศ์ จากระโหนด ผอ.ข่าวภูมิภาค ภาคใต้ รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.โชคชัย จัดชุดชุมชนสัมพันธ์รณรงค์เมาไม่ขับลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568

แชร์เนื้อหานี้

ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.จรินทร์ จินตพละ ผกก.สภ.โชคชัย ได้มอบหมายให้พ.ต.ต.คุณากร วรเมธานนท์ สวป.(ชส.)สภ.โชคชัย ร.ต.อ.ณพวิทย์ ปิดกระโทก รองสวป.สภ.โชคชัย ชุดชุมชนสัมพันธ์สภ.โชคชัย และนางรำจิตอาสาสายฮา ร่วมประชาสัมพันธ์รณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาสัมพันธ์เมาไม่ขับ ปฏิบัติตามกฎจราจร ถนน 24 ณ ปั๊มน้ำมันปตท.กอโจด ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

นักร้องประจำ สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ท่านนี้ชื่อ ร.ต.อ.ณพวิทย์ ปิดกระโทก(หมวดน้อย) ประชาชนเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาล แวะปั๊ม ปตท.แห่งนี้ ก็คงจะรู้สึกหายเหนื่อย และ อบอุ่น กับ เสียงเพลงเพราะๆและ ความเป็นกันเอง ของ หมวดน้อย นักร้องเสียงทองท่านนี้ พร้อมด้วยนางรำจิตอาสา ชุดประชาสัมพันธ์ชุดนี้

ไม่ใช่ครั้งแรกที่หมวดน้อยได้ออกมาจับไมค์ออกร้องเพลงรณรงค์กับกิจกรรมในครั้งนี้ หลายกิจกรรมที่ผ่านมา หมวดน้อย ร.ต.อ.ณพวิทย์ ปิดกระโทก นักร้องเสียงทอง กับรถมอไซค์พ่วงคู่ใจ ซึ่งประชาชนในบริเวณ อ.โชคชัย รู้จักกันดี กิจกรรมนี้จัดภายในวันที่ 28-29 ธันวาคม 2567 และวันที่ 1 ธันวาคม 2568 อีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ประชาชนเดินทางกลับ กทม.

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายง

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯเมืองชล ถวายสักการะเนื่องใน “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ประจำปี 2567 และ ตรวจเยี่ยมจุดตรวจ บริการ ทางถนน/ทางน้ำ สร้างความมั่นใจ นักท่องเที่ยวเมืองพัทยา

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 28 ธ.ค.67 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดใหญ่อินทาราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายสักการะเนื่องใน "วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ประจำปี 2567 จังหวัดชลบุรี โดยมี ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมไก่ฯ นางสาวประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นายอำนาจ เจริญศรี, นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ และนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ข้าราชการตุลาการ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี และพ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธี

วันที่ 28 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2311 เป็นวันสำคัญที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ จนได้สมัญญาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และมีพระราชกรณียกิจทีสำคัญคือการกอบกู้เอกราช พระองค์ทรงใช้เวลา 5 เดือนเศษ ในการรวบรวมไพร่พลแล้ว ทรงยกทัพไปต่อสู้กับพม่า ซึ่งตั้งอยู่ ณ ค่ายโพธิ์สามต้น เข้ากอบกู้เอกราชจนได้รับชัยชนะในที่สุด เป็นการกอบกู้เอกราชของชาติไทยกลับคืนมา หลังจากเสียกรุงแก่พม่าเพียง 7 เดือน อาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพร้อมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้น ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2311

โดยพระองค์มีพระนามว่าพระศรีสรรเพชญ์ หรือสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 แต่เรียกขนานนามพระองค์ ติดปากว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานี รวมระยะเวลาทรงครองราชย์ 15 ปี ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ ขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทางรัฐบาล อีกทั้งปวงประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพากันถวายพระเกียรติ ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของพระองค์ ให้เป็นวันระลึก “วันตากสินมหาราช” ต่อไป

 จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนนักศึกษา ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 100 ทุน โดยวัดใหญ่อินทารามได้จัดตั้งกองทุนมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 มีท่านเจ้าคุณพระราชพรหมาจารย์ (จำรัส ภัทโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทาราม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษา ให้แก่เด็กนักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี ครอบครัวมีฐานะยากจนโดย ทุนการศึกษานี้ ได้จากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ดวง พระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช 28 ธันวาคม เป็นประจำทุกปี


ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีนำทีมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจจุดบริการ อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยทางถนน/ทางน้ำสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยวเมืองพัทยา
วันที่ 29 ธ.ค.67 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจจุดบริการ อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยทางถนน/ทางน้ำ และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ในพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 

โดยได้ตรวจเยี่ยมจุดตรวจ/จุดบริการประชาชนบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี พัทยาใต้ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจ/จุดบริการประชาชนทางน้ำ บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย และไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจ/จุดบริการประชาชนทางน้ำ บริเวณท่าเรือเกาะล้าน ก่อนจะไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจ/จุดบริการประชาชนบริเวณสถานีขนส่งพัทยาเหนือ

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกับผู้ที่กระทำผิดกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งแนะให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งจังหวัดชลบุรี เป็นประตูสู่จังหวัดชายทะเลภาคตะวันออก ที่มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั้งทางบกและทางน้ำ  ทำให้ปริมาณยานพาหนะบนทางหลวงมีปริมาณสูงขึ้น อาจส่งผลให้มีปัญหาด้านการจราจรติดขัด และเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้
เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์ของพี่น้องประชาชน ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ จังหวัดชลบุรี ได้ห่วงใยในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จึงได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม พร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้ปฏิบัติงาน ส่วนประชาชนที่เดินทางแล้ว ง่วงนอน เมื่อยล้า ก็สามารถแวะพักจุดบริการต่างๆ ได้

เริ่มแล้วอย่างยิ่งใหญ่ Pattaya Countdown 2025

ค่ำวันที่ 29 ธ.ค.65 ที่บริเวณปะรำพิํีธีชายหาดพัทยากลาง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นางอัจฉรา บัณฑิตยานุรักษ์ รองปลัด อบจ.ชลบุรี ปฏิบัติราชการแทนนายก อบจ.ชลบุรี ร่วมเป็นประธานเปิดงาน Pattaya Countdown 2025 โดยมี คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

สำหรับงาน Pattaya Countdown 2025 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค.65 โดยตลอด 3 วันการจัดงานมีการแสดงคอนเสิร์ตศิลปินจำนวนมาก พร้อมการออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารต่างๆ มากมาย

งาน Pattaya Countdown 2025 จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาสู่การท่องเที่ยวระดับโลก ตลอดจนสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ท้องถิ่น

อีกทั้งยังถือเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองพัทยาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยเมืองพัทยาได้รับความร่วมมือที่ดีจากสถานีโทรทัศน์ช่องโมโนทเวนตี้ไนน์ ดำเนินการจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดงานปั่นเชื่อมโยง4 จ.เมืองเหนือล้านนาตะวันออก ชิงเงินรางวัลมูลค่า 1,147,000 บาท

แชร์เนื้อหานี้

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมนายเสริฐ ไชยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย นายวิภูช วิเศษสิงห์ ท่องเที่ยวและะกีฬาจังหวัดกระบี่ และนายภานุพันธ์ เอี่ยมอุบลวรรณ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงราย นักปั่นจำนวนกว่า200 คนเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน Tour of Lanna 2024Stage ณ จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม2567 สนามแข่งขัน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอย่างคึกคักนายนรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน2เพื่อพัฒนาเศรษฐในกิจในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน2ผ่านกิจกรรมที่เที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้กิจกรรมนี้ช่วยกระตุ้นเศรษกิจ

ในพื้นที่ที่ได้รับจากมหาอุทกภัยใน 4จังหวัด ได้แก่เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ซึ่งเป็นจังหวัดกลุ่มล้านนาตะวันออก กิจกรรมนี้ช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจไดดีขึ้น เป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังเกิดเหตุการน้ำท่วมได้อีกทางหนึ่ง

สำหรับรูปแบบกิจกรรมครั้งนี้เป็นการแข่งขันจักยานทางไกล Tour of Lanna 2024 ภายใต้กิจกรรมปั่นขึ้นดอยกอย 4เมืองล้านนาตะวันออก ในกลุ่มภาคเหนือตอน2(เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) ในวันที่23-30ธันวาคม 2567 จำนวน 8วัน8สนาม ซึ่งการแข่งขันตามกติกามาตรฐานสากลของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ(UIC) รับรองการแข่งขันโดยสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อให้เป็นการแข่งขันตามมาตรฐานสากล

โดยมีนักปั่นทั่งชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมแข่งขันจำนวนกล่า 200คน
รูปแบบของการแข่งขันระบบทางไกล จะแบ่งออกสองประเภทคือแบบเซอร์กิตเรซ เป็นการแข่งขันเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดซึ่งมีระยะทางประมาณ1.5-3กิโลเมตร/รอบและประเภท2 การแข่งขันแบบโรดเรชเป็นแบบทางไกล ซึ่งใช้เส้นทางแต่ละจังหวัดทั้ง4จังหวัดโดยเริ่มจากจังหวัดแพร่ ไปน่านเข้าจ.พะเยา และไปสิ้นสุดอ.แม่สายจ.เชียงราย.
พิชานันท์ วรรมณี ข่าวเชียงรายรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ใหญ่ วิชิต ชูลี มอบอุปกรณ์การกีฬาให้รร.บ้านไร่ยาว และรร.บ้านควนคีรีวง

แชร์เนื้อหานี้

ผู้ใหญ่ วิชิต ชูลี มอบอุปกรณ์การกีฬาให้กับโรงเรียนบ้านไร่ยาว และโรงเรียนบ้านควนคีรีวง ตำบล พ่วงพรมคร อำเภอ เคียนซา จังหวัด สุราษธานี เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและทำให้เด็กมีความสุขกับการได้ออกกำลังกายครับ