เรื่องทั้งหมดโดย admin

​สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จับตา​ “เหนือเมฆ-อรัญชัย” แชมป์ประเทศไทยรุ่น jmx 85 Smallville อายุไม่เกิน 14 ปี นักบิดล้อหนาม 2 ล้อ จากมุกดาหาร /สวนสัตว์นครราชสีมาใจดี ให้น้องๆ เข้าฟรี ข้ามปีกันไปเลย เทศกาลปีใหม่ 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา​ สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย จัดงานมอบรางวัลแชมป์ประเทศไทย รถจักรยานยนต์ประเภทต่างๆ ในงาน FMSCT Awards 2024 ณ ลานพลาซ่า ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก โดยมีนายจักรพรรดิ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่นักแข่งที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ​ และขอบคุณผู้สนับสนุนในงาน FMSCT AWARDS 2024 (46st Anniversary)

เด็กชายอรัญชัย ประยงค์รัตน์​ (เหนือเมฆ​)​ อายุ 13 ปี ได้แรงบันดาลใจจากพ่อน้อง ตั้งแต่จำความได้ เคยเห็นพ่อขี่รถเอ็นดูโร่พาไปขี่เล่น ยกล้อเล่น แล้วเห็นแม่เอารูปมาให้ดูเคยเป็นนักแข่งเก่า ก็เลยอยากลองขี่ อยากลอง เคยลงแข่งครั้งแรก ที่ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามมหาสารคาม ปี 2019 ได้แชมป์ 50 cc ชิงแชมป์ประเทศไทย 2020 ต่อมาได้แชมป์ 65 ซีซี ชิงแชมป์ประเทศไทย 2022 ในปีนี้ได้แชมป์ 85 cc ล้อเล็ก

โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งทางภาครัฐและเอกชนเข้าสู่การแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่น​ซึ่งเป็นที่สุดของโมโตครอสในเอเชีย​ ถือเป็นนักแข่งโมโตครอสไทยคนแรกคว้าโพเดี้ยมที่ญี่ปุ่น​ หลังเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันโมโตครอสชิงแชมป์​ญี่ปุ่น​ หรือออเจแปนแชมป์​เปี้ยนชิพชีรี่ส์​2024 ที่สนามออฟโรสวิลเลจ​ เมืองไซตา​มะ​ และสร้างประวัติศาสตร์​ให้กับวงการสองล้อทางฝุ่นไทยด้วยการคว้าอันดับที่5 ในการแข่งขันรุ่น​ JMX JX85 เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา​ หลังก่อนหน้านี้ในปี2022 “เหนือเมฆ” ในวัย11ปีในเวลานั้นเคยสร้างชื่อในวงการแข่งขันที่ญี่ปุ่น​มาแล้ว​ โดยการขี่รถคู่ใจขึ้นโพเดี้ยมในรุ่น65cc สร้างประวัติศาสตร์​นักมอโตครอสไทยคนแรกที่คว้าโพเดี้ยมที่ประเทศญี่ปุ่น​ได้สำเร็จ

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สวนสัตว์นครราชสีมาใจดี ให้น้องๆ เข้าฟรี ข้ามปีกันไปเลย เทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ สวนสัตว์นครราชสีมา จัดโปรโมชั่นให้เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี หรือ สูงไม่เกิน 135 ซม. เข้าฟรี (เฉพาะ วันที่ 30 ธ.ค. 67 ถึง 1 ม.ค.68) เท่านั้น

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯเชียงราย พบปะพูดคุย สื่อมวลชน เรื่อง เปิดอันซีนแหล่งใหม่ อวดโฉมนักท่องเทียว เพื่อพัฒนา เมืองเชียงราย ทุกมิติ

แชร์เนื้อหานี้

17.00น.วันที่25 ธันวาคม 67 ตรงกับวันคริสต์มาส ช่วงท้ายปีเก่า บริเวณข่วงวัฒนธรรม องค์บริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้พบปะสื่อมวลชนจังหวัดทุกแขนง จากนั้นได้นั่งทานแบบขันโตกล้านนา ผู้ว่าเชียงรายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ปักลวดลาย ของกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า ซึ่งเป็นเสื้อที่ชนเผ่าอาข่าในจังหวัดเชียงรายตัดเย็บแบบปราณีตมอบให้ท่านได้สวมใส่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้นั่งทานอาหารขันโตกแบบไทยยอง มีแกงฮังเลผักกาดจอ น้ำพริกข่าจี้นนึ่ง แอ๊บปลานิล น้ำพริกอ่อง .แคบหมูโดยมี นางนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายโชติ ดารายน นากยกสมาคมสื่อมวชน นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ประธานสมาคมสื่อมวลชน เหมือนกันกับโต๊สื่อมวลชน จำนวน40กว่าคนมี่ทานร่วมกันเป็นคณะแบบเอร็ดร่อย

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้พูดคุยทักทายสื่อมวลชนเกี่ยวกับการบริหารงาน แนวทางการพัฒนาเมืองเชียงราย ในหลายมิติ โดยมีการคลิกอ๊อฟการทำงานหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง เบื้องต้นได้สังการให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทั้ง 4คน ที่มีรับผิดชอบแต่ละด้านที่ผู้ว่ามอบหมายตลอดถึงผู้เกี่ยวข้องรีบไปตรวจดูถึงการเป็นอยู่ของประชาชนหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมว่า ทุกครอบครัว ทุกสถานที่ทำงานได้กลับไปอยูหรือทำงานกันหมดหรือยัง และประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างไรและให้มารายงานผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายยังกล่าวถึงการทำงานผู้ว่าราชการเชียงราย จะมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังไม่ให้เชียงรายด้อยกว่าจังหวัดใหญ่ ดั่งเช่นเชียงใหม่ เชียงรายจะต้องได้รับการดูแลทุกมิติ ตนจะทำให้มากกว่าครั้งเป็นผู้ว่าจังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นเมืองเล็ก เชียงรายจะต้อง ทำมากกว่าโดยเฉพาะปริมาณงานต้องมากขึ้น จะต้องใช้เม็ดเงินในการดูแลประชาชน

โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย จะเพิ่มอันซีนใหม่ๆไม่ให้ซ้ำของเดิม เพรานักท่องเที่ยวอยากดูของใหม่ๆ ดังนั่นเราจะร่วมค้นหาและประชาสัมพันธ์ ต้องอาศัยสื่อเชียงรายช่วยประชาสัมพันธ์ อาจะพบกันบ่อยมากขึ้น
นี่เป็นเหตุผลที่จังหวัดเชียงรายจะต้องเพิ่มฉลากกาชาดการกุศลในงานพ่อขุนเม็งรายที่จะมีขึ้นในปี2568 จากเดิมจำนวน1แสนฉบับ เพิ่มขึ้นก็เป็น2แสนฉบับ เพิ่มรางวัลมากขึ้น จากเดิมรถยนต์ก็จะเป็นบ้านและที่ดิน.โดยทางจังหวัดจะนำเงินที่เหลือจากการจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้โชคดี นำไปดูแลประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อยจะกาชาดเชียงราย ต้องเยี่ยมเยียนมีถุงของขวัญทุกครัวเรือน

อนึ่งในฐานะเป็นคนเชียงรายเต็มตัวกำลงสานความร่วมมือกับผู้ที่มีทุนจะสร้างเชียงรายให้โดดเด่นทางกีฬา ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและให้ผู้คนสนใจได้เข้ามาเชียงรายชั้นนี้กำลังหารือแนวทางกันอยู่ ดังนั้นการพบปะสื่อมวลชนวันนี้นับว่าเป็นสิ่งที่อยากเห็นผู้ว่าฯได้ใช้เวทีหรือช่องทางพบปะสื่อและจะได้พูดคุยให้ราบถึงแนวทางการทำงาน สื่อสารสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันในฐานะพาร์ทเนอร์ ทีดี จากนั้นตัวแทนของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยลื้อ สันทางหลวง อำเภอแม่จัน ได้กล่าวต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แนะนำถิ่นฐานของกลุ่มพร้อมมอบถุงย่ามหนึ่งเดียวใลกเนื่องจากถุงย่าม ปักด้วยลวดลายไม่ซ้ำกันมีเพียงใบเดียว เป็นที่ระลึกเอาไว้สำหรับห่อข้าว ใส่ของใช้ ไปเยี่ยมประชาชน ทำให้ผู้ว่าเชียงรายชอบใจเป็นอย่างมาก

จากนั้นตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ นายสุพจน์ หลี่จา เผ่าลีซู ตัวแทนกลุ่มชาติพันธ์จังหวัดเชียราย ได้พาชนเผ่าทุกชาติพันธุ์ออกมากล่าว ต้อนรับผู้ว่าเชียงรายท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเป็นอย่างมากหลังจากนั้นผู้ราชการเชียงรายได้ขึ้นทักทายสื่อมวลชนและตัวแทนชาติพันธ์ุ ที่มาจัดบูธในข่วงวัฒนธรรม ในงานมหกรรมดอกไม้อาเซียน สวนริมน้ำกกด้วยผลงานเพลงบอกรักฝากใจ ถึงชาวสื่อมวลทุกแขนงเชียงราย และได้เชิญสื่อมวลชน ได่ร่วมรำวงย้อนยุค ถนนคนเดิน สนุกสนานเป็นกันเองทักทายถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในโอกาสจัดกิจกรรมพบสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ.
ธนกฤต วรรมณี ข่าวเชียงรายรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ชาวคริสต์คาทอลิกบึงกาฬ จัดขบวนแห่ดาวคึกคักกว่า50คัน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อค่ำวันที่ 25 ธ.ค. บาทหลวงเปาโล ประเสริฐ คุณโดน เจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟกรรมกร ที่เป็นวัดคริสต์ศาสนนิกชนนิกายโรมันคาทอลิก บ้านชัยพร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้ร่วมกันจัดงานแห่ดาว เพื่อเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า ซึ่งดาวเป็นสัญลักษณ์ของการบังเกิด ตามตำนานในช่วงเวลาที่พระเยซูประสูตินั้น เหล่าโหราจารย์ได้มองเห็นดาวลักษณะพิเศษ ที่มีความสุกสว่างกว่าดาวทั่วไปปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

จึงออกเดินทางตามแสงของดาวดวงนั้น จนได้ไปพบกับสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้า ที่เมืองเบธเลเฮม ประเทศปาเลสไตน์ นับแต่นั้นมาชาวคริสต์จึงถือว่า “ดาว” คือ สัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซูเจ้า จึงมีการริเริ่มประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาสเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นั้น และแสดงถึงความเชื่อความศรัทธา การส่งมอบความสุขความรื่นเริง ความรักความสามัคคี และถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวคริสต์ด้วย

การแห่ดาวในวันนี้เป็นการรวมเอาผู้ที่นับถือศรัทธาในพระเยซุหรือคริสต์ศาสนาตามวัดต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดบึงกาฬ มาร่วมแห่ขบวนด้วย มีการตกแต่งประดับประดาวและคมไฟติดตั้งบนรถ มีทั้งรถมอไซค์พ่วงข้าง รถอีแต๊ก รถไถนา รถปิกอัพและรถบรรทุก 6 ล้อร่วม 100 คันแห่ไปตามชุมชนต่างๆ ในตำบลชัยพร สิ้นสุดที่วัดนักบุญอักแนส บ้านห้วยเซือมใต้ วัดนักบุญมัทธิว บ้านกลาง ก่อนจะกลับเข้าไปในวัดนักบุญยอแซฟ เพื่อเฉลิมฉลอง

นอกจากนี้ในงานยังมีโรงทานนำอาหารไปแจกจ่ายผู้มาร่วมกัน มีทั้งส้มตำ ผัดหมี่ ข้าวราดแกงและทีขาดไม่ได้คือข้าวจี่ทาไข่คนปิ้งแทบทำไม่ทัน บนเวทีมีกิจกรรมการแสดงของน้องๆ หนูๆ หลายโรงเรียน ทั้งการแสดงประวัติการกำเนิดของพระเยชู และเต้นประกอบเพลง ทำเอาผู้ปกครองต้องคักเงินจ่ายเป็นกำลังใจจำนวนไม่น้อย

ด้านบาทหลวงเปาโล ประเสริฐ คุณโดน เจ้าอาวาสกล่าวว่า ที่เลือกจัดงานวันนี้ก็เนื่องจากวันที่ 24- 25 ธ.ค. ปล่อยให้วัดในชุมชนต่างๆ จัดงานแห่ดาวกันเองในชุมชนตนเองก่อน พอวันนี้จึงมาร่วมกันจัดงานแห่ดาวในภาพรวมของจังหวัดอีกครั้ง เพื่อแสดงออกถึงความรักความสามัคคีของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ไดอาน่ากรุ๊ป พัทยา จัดงาน christmas and Happy new year 2025 บริจาคช่วยเหลือมูลนิธิ เอช เอช เอ็น (เพื่อเด็กไทย) ครบรอบ 50 ปี “บ้านเด็กกำพร้าพัทยา” จัดงานเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คึกคัก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 24 ธ.ค.67 ซึ่งตามธรรมเนียมตะวันตกถือเป็น “คริสต์มาสอีฟ” บรรยากาศการท่องเที่ยวเมืองพัทยาดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น สถานประกอบการหลายแห่งต่างจัดกิจกรรมรับเทศกาลแห่งความสุข รวมถึงตกแต่งสถานที่รับเทศกาลคริสต์มาส ส่งผลให้ภาพโดยรวมค่อนข้างที่จะคึกคัก

ที่โรงแรมไดอาน่าการ์เด้นรีสอร์ท พัทยา โดย คุณโสภิญ เทพจักร์ กรรมการผู้บริหารในเครือไดอาน่ากรุ๊ป พัทยา ได้จัดกิจกรรมรับเทศกาลแห่งความสุข Merry Christmas Happy New Year 2025 ขึ้นในวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อสร้างสีสัน โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ลูกค้าของโรงแรม โดยในงานมีการเปิดรับบริจาคช่วยเหลือมูลนิธิ เอช เอช เอ็น (เพื่อเด็กไทย) ต่อไปด้วย

อนึ่ง คริสต์มาสอีฟ ตามวัฒนธรรมตะวันตกโดยทั่วไปคือ วันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี ตามระบบปฏิทินสมัยใหม่ ความหมายจริงคือ เย็นแรกของวันคริสต์มาส ซึ่งมีการเฉลิมฉลองเพื่อระลึกถึง การประสูติของพระเยซู เหตุผลที่ คริสต์มาส เริ่มต้นในตอนเย็นของวันคริสต์มาสอีฟเพราะธรรมเนียมการนับปีของคริสเตียน วันจะเริ่มต้นเมื่อพระอาทิตย์ตกตามเรื่องราวในปฐมกาล เกิดความสว่างกับความมืด

เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี “บ้านเด็กกำพร้าพัทยา” จัดงานเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คึกคัก

วันที่ 25 ธ.ค.67 คุณพ่อวีระ ผังรักษ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา Pattaya Orphanage (บ้านเด็กกำพร้าพัทยา) เป็นประธานเปิดงานเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 และเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี บ้านเด็กกำพร้าพัทยา โดยมีผู้ในกุศลร่วมออกร้านให้บริหารอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้ร่วมงานด้วยบรรยากาศที่สนุกสนาน

ในกิจกรรมได้จัดให้การ่วมสนุกจับสลากสอยดาวชิงของรางวัลต่างๆ มากมาย เพื่แหารายได้สมทบให้กับมูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อเด็กๆ ในมูลนิธิฯ ตามความเหมาะสม โดยพบว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี บ้านเด็กกำพร้าพัทยากันเป็นจำนวนมาก

มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา Pattaya Orphanage หรือบ้านเด็กกำพร้าพัทยา อยู่ภายใต้การดูแลของคุณพ่อวีระ ผังรักษ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา ปัจจุบันมีเด็กๆ ในความอนุเคราะห์รวมกว่า 170 คน โดยได้ดำเนินการช่วยเหลือเด็กำพร้ามาอย่างยาวนานถึง 5 ทศวรรษ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ “หัวหิน” ปล่อยแถวป้องกันอาชญากรรมช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม มอบทุนการศึกษา งานวันสถาปนา กองพันซ่อมบำรุง

แชร์เนื้อหานี้

ช่วงเย็นวันที่ 24 ธ.ค.67 ที่บริเวณหน้าหอนาฬิกาหัวหิน จ.ประจวบฯ พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ เป็นประธานปล่อยแถวป้องกันเหตุอาชญากรรม ความไม่สงบเรียบร้อย ยาเสพติด และอุบัติภัยช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2568 มี พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ข้าราชการตำรวจหน่วยต่าง ๆ ทหาร ฝ่ายปกครอง เทศกิจ อาสาสมัคร และมูลนิธิ ราว 300 คน ร่วมปล่อยแถว

พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช กล่าวว่า การปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ของตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯ เป็นมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยตำรวจในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร ซึ่งในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน

ปัญหายาเสพติด รวมถึงปัญหาการแข่งรถในทางสาธารณะซึ่งเป็นปัญหาส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม ตำรวจภูธรภาค 7

จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรในสังกัด สนธิกำลังเพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ช่วงเทศกาลดังกล่าว.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

มูลนิธิพุทธภูมิธรรม นำโดย อาจารย์ วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิฯ เป็นตัวแทนท่าน ร่วมบำเพ็ญบุญกุศล นำสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และร่วมมอบทุนการศึกษา งานวันสถาปนา กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุนที่ 2 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี

กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุนที่ 2 ฯ เป็นหน่วยงานสำคัญ สนับสนุนความมั่นคงภาคตะวันออกของไทย โดย พันโท สุภชัย พานิช เป็นผู้บังคับกองพัน
มุ่งเน้นการทำความดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
พร้อมเห็นความสำคัญของการให้ทุนการศึกษาและมอบขวัญกำลังใจให้เด็กและเยาวชนอนาคตของชาติ ขอส่งพลังบุญและมงคลอธิษฐาน ให้แด่กัลยาณมิตร ทุกท่าน เทอญ…

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์/ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผบ.ตร.สร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แถลงผลการระดมกวาดล้างในช่วงวันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2568

แชร์เนื้อหานี้

ตามนโยบายรัฐบาลที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และอำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชน ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ (24 ธันวาคม 2567) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และผลการระดมกวาดล้างก่อนวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมีผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1-9 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , กองบัญชาการตำรวจสันติบาล , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ฯลฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตำรวจภูธรภาค 5

ซึ่งในภาพรวมการจัดงานทั่วประเทศ มีจำนวน 695 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 258 แห่ง และจังหวัดอื่น ๆ 437 แห่ง โดยแบ่งเป็นพื้นที่การจัดงานขนาดใหญ่ 47 แห่ง และได้เตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลองทั่วประเทศ 8,468 นาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศร่วมกันกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ในห้วงวันที่ 17 – 23 ธันวาคม 2567 มีผลการดำเนินการ ดังนี้

  1. อาชญากรรมทั่วไป รวมจับกุม 36,609 คดี ผู้ต้องหา 37,574 คน ตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินในคดี 114,225,749 บาท
  2. ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และสถานบริการ รวมจับกุม 31,036 คดี ผู้ต้องหา 32,172 คน มูลค่าตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินในคดี 103,490,764 บาท / ในส่วนคดียาเสพติด จับกุมได้ 10,465 คดี ผู้ต้องหา 10,461 คน ตรวจยึดยาเสพติดของกลาง ยาบ้า 10,833,177 เม็ด ยาไอซ์ 8,209.51 กรัม เคตามีน 620.59 กรัม เฮโรอีน 81.3 กิโลกรัม ฝิ่น 3,428 กรัม ยาอี 273 เม็ด โคเคน 213 กรัม กัญชา 18.16 กิโลกรัม น้ำกระท่อม 44,000 มิลลิลิตร
  3. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน รวมจับกุม 1,664 คดี ผู้ต้องหา 1,595 คน ของกลางอาวุธปืนสงคราม 10 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 1,062 กระบอก อาวุธปืนมีทะเบียน 345 กระบอก วัตถุระเบิด 1,075 ลูก พลุ/ดอกไม้ไฟ 248 ดอก เครื่องกระสุนปืน 7,618 นัด มูลค่า 5,574,133 บาท
  4. จับกุมบุคคลตามหมายจับ รวม 3,909 หมายจับ ผู้ต้องหา 3,807 คน
  5. อาชญากรรมทางเทคโนโลยี
  6. ความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน หลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย เผยแพร่ข่าวปลอม ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และพนันออนไลน์ รวมจับกุม 3,519 คดี ผู้ต้องหา 3,490 คน มูลค่าตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินในคดี 712,266,009 บาท
  7. ความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 (บัญชีม้า ซิมม้า) รวมจับกุม 447 คดี ผู้ต้องหา 427 คน มูลค่าตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินในคดี 284,940 บาท

พร้อมกันนี้ได้วาง 10 มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ในช่วงวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2568 ได้แก่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนถึงกำหนดการจัดงานตามเทศกาล สืบสวนหาข่าว เฝ้าระวังการลักลอบขนย้ายและการจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่จัดงาน เฝ้าระวังการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรของบุคคลกลุ่มเสี่ยง รักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ตลอดจนการดำเนินโครงการ “ร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ” (ฝากบ้าน 4.0) ระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ถึง 2 มกราคม 2568 และแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชน

อีกทั้งยังได้วาง 3 มาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เช่น ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 และเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย มุ่งเน้นลดอุบัติเหตุทางถนน ตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1 – 9 ดำเนินการปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2568 พร้อมกันทั่วประเทศ 71 จุด โดย พล.ต.อ.ประจวบฯ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้แทนหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานภาครัฐ องค์กรส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร มูลนิธิ และภาคประชาสังคมในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ กล่าวว่า วันคริสต์มาส และห้วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2568 มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและพักผ่อนในแต่ละภูมิภาคเป็นจำนวนมาก ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว
ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ พร้อมระดมสรรพกำลังป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันและลดอุบัติทางถนน และอำนวยการจราจรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดวามสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชนและสังคมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ….

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภาค3 เตรียมพร้อม การจราจรป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 3 กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 3 พลตำรวจโท วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 /ประธานการประชุม พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วิวัฒน์ สีลาเขตต์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมหน่วยงาน ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 และหน่วยงานภาคีเครือข่ายจำนวน 12 หน่วย ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา, องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ ๑, ๒ และ ๓, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๕ นครราชสีมา, สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา,

สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 3, สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา,ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา, สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จว.นครราชสีมา และมูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่ จว.นครราชสีมา ได้เข้าร่วมประชุมบูรณาการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่าย ด้านจราจรและความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ทั้ง 8 จังหวัด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง) และตำรวจภูธรจังหวัดที่มีพื้นที่เส้นทางติดต่อกับตำรวจภูธรภาค 3 ประกอบด้วย

ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี, สระบุรี, ปราจีนบุรี, สระแก้ว และขอนแก่น เข้าร่วมประชุมเพื่อสรุปมาตรการปฏิบัติแบบบูรณาการในการอำนวยความสะดวกการเดินทางของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ โดยหน่วยงานภาคี ทุกหน่วยได้รายงานต่อที่ประชุมแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ ที่เตรียมไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ
ตำรวจภูธรภาค 3 ได้เตรียมการบริหารจัดการ

โดยขยายช่วงการควบคุมเข้มข้นจากเดิม ๗ วัน เป็น ๑๐ วัน ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567– 5 มกราคม 2568 จะเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด และกำหนดเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 ของตำรวจภูธรภาค 3 ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2567 – 6 มกราคม 2568 เพื่อกำกับ ดูแล และติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยในสังกัด ในการอำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลความปลอดภัย และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ให้กับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้

ตามนโยบายรัฐบาล “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ในทุกพื้นที่ โดยวางแผนตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรและจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จำนวน ๓๐๒ จุด เตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 308 ชุด มีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จำนวน 420 เครื่อง และเครื่องตรวจจับความเร็ว จำนวน 92 เครื่อง ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติ ทั้งสิ้น 4,711 นาย นอกจากนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครอง ในการปรับรูปแบบจากจุดบริการประชาชนมาเป็นการตั้งด่านชุมชนแทน โดยบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ได้แก่ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่

กำหนดแผนการตั้งด่านชุมชนจำนวนทั้งสิ้น จำนวน 4,180 แห่ง เพื่อป้องปรามคนที่ดื่มสุราไม่ให้ขับขี่รถออกจากหมู่บ้าน ชุมชน ไปเกิดอุบัติเหตุหากเกิดอุบัติเหตุทางถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถที่เกิดเหตุทุกรายและหากพบว่ามีการดื่มสุราแล้วขับรถ จะดำเนินคดีโดยไม่มีละเว้น ในมาตรการเชิงรุก ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ ออกตรวจและขอความร่วมมือร้านจำหน่ายสุราในชุมชน หมู่บ้าน ทุกแห่ง ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เช่น ห้ามจำหน่ายสุราในเวลาห้าม, ห้ามไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี, ห้ามไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลที่มีอาการมึนเมา จนครองสติไม่ได้ เป็นต้น
โดยกรมทางหลวง ได้เปิดให้บริการใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ M6 ช่วงปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ – ถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ทล.204) ทั้งขาไปและขากลับ ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะทาง 77.493 กิโลเมตร โดยกำหนดจุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ดังนี้

จุดที่ 1 ทล.2 กม.65 (ตรงข้ามศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดนครชัยบุรินทร์)
จุดที่ 2 ทล.201 กม.5+500 (บ้านหนองรี อ.สีคิ้ว)
จุดที่ 3 ทล.290 กม.14+775 (วงแหวน ทล.290)
จุดที่ 4 ทล.204 กม.3+230 (ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา)

กันตินันท์ เรืองประโคน / รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / วิทยาลัยเกษตรนราฯเพิ่มมูลค่าเห็ดนางฟ้าทำเป็นแหนมเห็ด จากต้นทุนราคาหลัก10กลายเป็นหลัก100

แชร์เนื้อหานี้

สำหรับทางเลือกผู้ที่ชื่นชอบอาหารแนวพืชผักหมัก ที่มีขั้นตอนการทำเหมือนกับแหนมที่ทำจากเนื้อสัตว์ ตามความชื่นชอบของผู้บริโภค ที่ทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส มหาวิทยาลัยนราธิวาส นำมาแปรรูปและเชื่อว่ามีรสชาติไม่ต่างกับแหนมที่ทำมาจากเนื้อหมู และวางจำหน่ายในท้องตลาดทั่วประเทศ แต่ด้วยสภาพพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 80 ส่วนใหญ่ประชาชนเป็นชาวมุสลิม จึงได้มีแนวคิดในผลิตแหนมเห็ด

หวังตีตลาดของผู้บริโภคในพื้นที่ภาคใต้ เริ่มด้วยการด้วยหันมาให้นักศึกษาเพาะเห็ดนางฟ้า ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 เดือนสามารถเก็บผลผลิตได้ ในช่วงแรกก็ได้เก็บผลผลิตจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไปในราคาเพียง ก.ก.ละ 60 บาท และเมื่อเห็ดนางฟ้ามีผลผลิตมากขึ้น จึงได้ริเริ่มหันมาผลิตแหนมเห็ดนางฟ้าแบบเต็มตัว และจากเห็ดนางฟ้าที่เก็บจำหน่ายได้ เพียง ก.ก.ละ 60 บาท เมื่อนำมาผลิตเป็นแหนมเห็ดนางฟ้า สามารถเพิ่มมูลค่าได้ จาก ก.ก.ละ 60 บาท กลายเป็น 600 บาทเลยที่เดียว

เราได้มีโอกาสให้นักศึกษาของ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส มหาวิทยาลัยนราธิวาส ได้ผลิตแหนมเห็ดให้ชม ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ที่ทางมหาวิทยาลัยตรียมลงพื้นที่ให้ความรู้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ที่สนใจโดยเฉพาะกลุ่มเพาะเห็ดนางฟ้า ที่เชื่อว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างเป็นกอบเป็นกำ

โดยขั้นตอนการทำแหนมเห็ดที่ต้องเตรียมวัตถุดิบมีดังนี้ คือ เห็ดนางฟ้า ข้าวเหนียวสุก กระเทียม เกลือป่นและพริกขี้หนูสวน เมื่อได้วัตถุดิบครบตามต้องการแล้ว เราไปเก็บเห็ดนางฟ้าที่โรงเรือนประมาณ 1 ก.ก. นำมาหั่นฉีกล้างให้สะอาด และบีบน้ำออกจากเห็ดให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมานึ่งประมาณ 2 นาที

จากนั้นนำส่วนผสมกระเทียม ข้าวเหนียวและเกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำเห็ดที่คลุกเคล้ากับส่วนผสมแล้วเสร็จ มาใส่ถุงพลาสติกใสและใส่พริกขี้หนู 1 เม็ด แล้วห่อให้แน่นนำยางวงหรือคนทั่วไปเรียกว่าหนังยางมาผูกที่ปลายถุง เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นขั้นตอนการหมักแหนม โดยการทิ้งไว้สัก 2 ถึง 3 วัน แหนมจะมีรสชาติเปรี้ยวและพร้อมรับประทานได้ทันที

ด้าน ผศ.ทวี บุญภิรมย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนคริทร์ กล่าวว่า เห็ดสามารถที่จะเอามาผลิตเป็นแหนมเห็ด ซึ่งจากเดิมเราขายเห็ดได้เพียงกิโลกรัมละ 60 บาท แต่เมื่อมาเป็นแหนมเห็ด ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าเป็น 600 บาทได้ และตรงนี้สามารถจะเห็ดในการพัฒนาต่อไป เรื่องของบรรจุภัณฑ์ในเรื่องของการยืดอายุการเก็บรักษา อีกอย่างยังสามารถจะเป็นอาหารที่จะนำส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้ ซึ่งทางวิทยาลัยฯพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในการที่จะพัฒนาสิ่งต่างๆเหล่านี้ ควบคู่ไปกับความต้องการของชุมชน

วันนี้สายเห็ดสามารถรับประทานแหนมเห็ดกันได้ หรือ ใครสนใจที่จะเรียนรู้การทำแหนมเห็ดก็สามารถติดต่อได้ที่ ดร.พิพัฒน์ จันทร์ประดิษฐ์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081 9592614
//////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ทัวร์ ออฟ ล้านนา จับมือจัดงานปั่นเชื่อมโยง 4 จังหวัดเมืองล้านนาตะวันออก ชิงเงินรางวัล 1,147,000 บาท

แชร์เนื้อหานี้

4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จับมือจัดงานปั่นเชื่อมโยง 4 จังหวัดเมืองล้านนาตะวันออก ทัวร์ ออฟ ล้านนา ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 1,147,000 บาท
างวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นางสาวพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ จังหวัดนำน นายายวิภช วิเศษสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ , พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดแพร่ สื่อมวลชน และ นักปั่นจำนานกว่า 200 คน เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน Tour of Lanna 2024 Stage 3 ณ จังหวัด น่าน

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 อย่างคึกคัก งวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ พี่ ท่องเที่ยวเชิงกีฬาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 และ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ผ่าน กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้กิจกรรมนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระพบจากมหา อุทกภัย ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.พะเยา จ.แพร่ จ.น่าน จ.เชียงราย ต่างก็ประสบกับอุทกภัยในพื้นที่อย่างมาก ทางกลุ่ม จังหวัดก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ และมี

การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ได้ดีขึ้น เป็นการช่วยฟื้นฟูหลังอุทกภัยในอีกทางหนึ่ง
สำหรับรูปแบบกิจกรรมจะจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา คือการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ อออฟ ล้านนา กิจกรรมปั่นขึ้นดอย กอย 4 เมืองล้านนาตะวันออก ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) วันที่ 23 – 30 ธันวาคม 2567 จำนวน 8 วัน 8 สนาม ซึ่งเป็นการดำเนินการแข่งขันตามกติกา มาตรฐานสากลของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) รับรองการจัดแข่งขัน

โดยจากสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การแข่งขันได้มาตรฐานเป็นสากล และจะมีนักปั่นทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วม
แข่งขัน จำนวนกว่า 200 คน ส่วนรูปแบบการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบเซอร์กิต เรช เป็นการแข่งขันโดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด ซึ่งมีระยะทางประมาณ 1.5 – 3 กิโลเมตร/รอบ และ ประเภทที่ 2 คือการแข่งขันแบบ โรดเรช เป็นรูปแบบการแข่งขันบนถนน แบบทางไกล ซึ่งใช้เส้นทางแต่ละจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด โดยเริ่มจาก จ.แพร่ ไป จ.น่าน เข้า จ.พะเยา และไปสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

สำหรับเส้นทางแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ล้านนา ทั้ง 8 สเตจ มีดังนี้วันที่ 23 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 1 (Prologue) รอบเมืองแพร่ ,วันที่ 24 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 2 (Road Race) แพร่ – น่าน, วันที่ 25 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 3 (Circuit Race) รอบเมืองน่าน, วันที่ 26 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 4 (Road Race) น่าน – พะเยา วันที่ 27 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 5 (Circuit Race) รอบเมืองพะเยา, วันที่ 28 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 6 (Road Race) พะเขา – เชียงราย,วันที่ 29 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 7 (Circult Race) รอบเมืองเชียงราย และ วันที่ 30 ธันวาคม 2567 Stage ที่ 8 (Road Race) เชียงราย-อำเภอแม่สาย ชิงเงินรางวัลรวม 1,147,000 บาท ซึ่งมีทั้งเงิน รางวัลประจำ Stage และ รางวัล Over All

ในทุกรุ่น มีรุ่นการแข่งขันดังนี้ ชาย รุ่น A ชาย open ,รุ่น B ชาย (อายุ 30 ปีขึ้นไป +เยาวชน) , รุ่น C 40 ปี ขึ้นไป , รุ่น D ชาย อายุ 50 ปี ขึ้นไป หญิงมี 2 รุ่นดังนี้ รุ่น E หญิง A (เยาวชน) และ รุ่น F หญิง B (ทั่วไป สำหรับทำนที่สนใจสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขั้นได้ที่เพจเฟสบุ๊ค Tourofhttps:/www.facebook.com/touroflanna20177mibextid=ZbWKw./ บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ไฟฟ้า หงสา จัดกิจกรรม “Nan Thank Press 2024” เพื่อแสดงความขอบคุณคณะสื่อมวลชน.น่าน

แชร์เนื้อหานี้

บริษัท ไฟฟ้า หงสา จำกัด จัดกิจกรรม “Nan Thank Press 2024” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 20-22 ธันวาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อการนำพาคณะสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ทัศนศึกษาดูงาน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล และศูนย์อุตสาหกรรมแหล่งผลิตร่มบ่อสร้าง เป็นต้น โดยในช่วงเย็นของวันที่ 21 ธันวาคม 2567 นายคทายุทธ์ ชูพูล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไฟฟ้า หงสา จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานบริษัทไฟฟ้า หงสา จำกัด ได้ให้เกียรติเดินทางไปที่ร้านอาหารสามเสนวิลล่า สถานที่จัดงานเลี้ยงเพื่อพบปะพร้อมกล่าวทักทายปราศรัยกับคณะสื่อมวลชนจังหวัดน่านและในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้เดินทางมาพบปะพร้อมกล่าวทักทายปราศรัย กับผู้บริหารของบริษัท ไฟฟ้า หงสา จำกัด และคณะสื่อมวลชนจังหวัดน่าน โดยภายในงาน เป็นการพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน และมีการมอบของขวัญสวัสดีปีใหม่ 2568

ที่กำลังจะมาถึงนี้ จากผู้บริหารบริษัท ไฟฟ้า หงสา จำกัด มอบให้กับคณะสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ที่เข้าร่วมงานกันทุกคน ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ท่ามกลางความประทับใจของทุกฝ่าย สำหรับการจัดกิจกรรม “Nan Thank Press 2024” เป็นกิจกรรมที่ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ สำนักงานน่าน จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี และกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ระหว่าง บริษัท ไฟฟ้า หงสา จำกัด กับคณะสื่อมวลชนจังหวัดน่าน อีกทั้ง เป็นการถือโอกาสแสดงความขอบคุณมายังคณะสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการไฟฟ้า หงสา ด้วยดีเสมอมา/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมงานสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน