คลังเก็บหมวดหมู่: การเมือง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รังสิมันต์ โรม ลงพื้นที่ ชายแดนไทย – เมียนมา ช่องหินดาด รับร่อ และช่องหินหมู บ้านพันวาล ท่าแซะ ชุมพร

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ชายแดนไทย บริเวณอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ติดตามปัญหาผลกระทบด้านความมั่นคงตามแนวชายไทยที่ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร

วันนี้(29 มิ.ย. 68) คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรนำโดย นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ,

นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายยูนัยดี วาบา โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายรอมฎอน ปันจอร์ กรรมาธิการ,นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ เลขานุการคณะกรรมาธิการ,นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี

และคณะ ลงพื้นที่ชายแดนไทย บริเวณอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เพื่อศึกษาดูงาน พร้อมติดตามปัญหาผลกระทบด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนไทยที่ส่งผลต่อประชาชน

ในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยมีว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร, นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร, นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลในพื้นที่

คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงพื้นที่ชายแดน บริเวณช่องทางผ่านแดนไทย – เมียนมา ช่องหินดาด

ตำบลรับร่อ และช่องหินหมู บ้านพันวาล อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โดยได้ติดตามปัญหาผลกระทบด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนไทยที่ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อติดตามสถานการณ์และรับทราบปัญหา

ความมั่นคงชายแดนไทยที่ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร และการบริหารจัดการในพื้นที่ชายแดน จังหวัดชุมพร อาทิ สถานการณ์การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ การลักลอบนำเข้าปาล์มและยางพารา สถานการณ์การหลบหนีเข้าเมืองของชาวโรฮิงญา

พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินการของหน่วยงาน และแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตลอดจนแนวทางผลักดันด่านตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่เวทีประชาจิตอาสารับฟังเสียงสะท้อนปัญหายาเสพติดในพื้นที่ อ.ตากใบ 1 ใน 11 อำเภอของ จ.นราธิวาส 150 ชุมชน

แชร์เนื้อหานี้

ใน จชต. ที่อาคารเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมเวทีประชาจิตอาสา เอาชนะยาเสพติด เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนเกี่ยวกับการบำบัดรักษายาเสพติดในพื้นที่ ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยมีพล.อ.วิชาญ สุขสง ประธานยุทธศาสตร์การแก้ปัญหายาเสพติดภาคประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลตำรวจโท พัฒนวุธ อังคะนาวิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์เอกวิทย์ จินดาเพ็ชร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์ภุชงค์ วงศ์หิรัญรัชต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากใบ นายสุรินทร์ จันทร์เทพ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ร่วมเวทีประชาจิตอาสาในครั้งนี้

สำหรับเสียงสะท้อนปัญหาจากประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการบำบัดรักษายาเสพติดนั้น  1. สถานที่บำบัดรักษาของรัฐไม่เพียงพอ โดยปัจจุบันหอผู้ป่วยมินิธัญญารักษ์บ้านแสงอรุณ ณ โรงพยาบาลตากใบ สามารถรองรับผู้ป่วยยาเสพติดตั้งแต่ระยะ Acute Care จำนวน 5 เตียงและการบำบัดรักษาแบบระยะกลาง Inter-mediate Care (IMC) จำนวน 15 เตียง รวมทั้งสิ้น 20 เตียง ซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งไม่เพียงพอต่อการรักษา  2. สถานบำบัดเอกชนมีค่าใช้จ่าย ทำให้ครอบครัวผู้บำบัดเดือดร้อน หลายครอบครัวไม่มีเงินพอที่จะเข้ารับการบำบัด ทำให้ไม่สามารถส่งผู้ติดยาเสพติดเข้านับบำบัดได้

ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับ  สส.จ.นราธิวาส โดย รพ.ตากใบได้แจ้งความประสงค์ขอใช้และปรับปรุงพื้นที่ และสถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำชั่วคราวโคกยามู ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นจังหวัดนำร่องเร่งรัดการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด และเพื่อให้โรงพยาบาลตากใบใช้เป็นอาคารมินิธัญญารักษ์ สำหรับบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติด ซึ่งมีเนื้อที่ 9 ไร่ รองรับผู้บำบัดจำนวน 140 เตียง เป็นสถานที่บำบัดรักษา  โดยปัจจุบันได้รับอนุญาตจากราชทัณฑ์ ให้ใช้พื้นที่แล้ว ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเห็นชอบที่ให้มีสถานบำบัดรักษา ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยเพื่อรองรับผู้เข้ารับการบำบัด และพร้อมสนับสนุนภาคประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการบำบัดรักษา และจะผลักดันให้มีนโยบายบำบัดรักษาฟรี 

ด้านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าสำหรับปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอ ได้มียุทธการที่จะแก้ปัญหาร่วมกันก็คือเป็นเรื่องของพลังของจิตอาสา ตั้งแต่ประชาชน ชุมชน ข้าราชการเพื่อเอาชนะยาเสพติด และที่สำคัญที่สุดพอไปสำรวจจริงๆก็คือสถานที่บำบัด เพราะเรามีทั้งยาเสพติดที่เป็นจากเคมีสังเคราะห์ เช่น ยาบ้า และเรามีทั้งยาเสพติดที่เป็นพืช เช่นพืชกระท่อม และกัญชา ที่พบว่าปริมาณผู้ใช้และผู้เสพเยอะ ซึ่งเรายังขาดศูนย์บำบัด ซึ่งในความเข้าใจเรื่องการบำบัดหรือการฟื้นฟูระหว่างกระทรวงสาธารณสุข ราชการ กับประชาชนหรือคนทั่วไป ซึ่งคนทั่วไปเข้าใจว่าการบำบัดคือการเอาตัวออกจากชุมชนแล้วไปอยู่ที่กักตัวไว้หรืออยู่ในที่ที่ไม่สามารถกลับไปในหมู่บ้านได้ประมาณ 4 เดือน โดยในระบบสาธารณสุขมีเตียงไม่พอ ซึ่งถ้าไม่มีอาการรุนแรง ทางโรงบาลก็ให้กลับไปอยู่บ้าน ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่เราไม่ได้

เตรียมการหมู่บ้านไว้เพราะในหมู่บ้านเองทุกคนก็ต้องไปทำงานเลย แล้วก็ผู้ที่เข้าไปเมื่อต้องการใช้ยาขึ้นมาก็จะเป็นปัญหา ก็เลยอยากจะมีสถานที่ปลอดภัยสำหรับให้คนไปอยู่แล้วก็ได้รับการดูแล ได้รับการถอนยา ได้รับการฟื้นฟู ซึ่งตอนนี้ก็อยากได้สถานที่บำบัด ในที่นี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ริเริ่มก็คือพลังของจิตอาสาที่ลุกขึ้นถามว่าที่ดินที่โคกยามูที่เป็นเรือนจำเก่า โครงสร้างถ้ามาบูรณะยังสามารถที่จะเอาเป็นสถานที่บำบัดได้ เลยขอขึ้นมาโดยฝ่ายสาธารณสุขจะได้มีแพทย์ไป ซึ่งตอนทางกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้แล้วก็เลยมาบอกประชาชน เพราะจากการติดตามของจิตอาสา 1 ตำบลมี 10 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 100 คนก็ 1,000 คน อย่างน้อยสถานที่แห่งนี้ก็จะได้เป็นที่พักการรักษาและการฟื้นฟู ซึ่งเป็นไปได้ว่าในเนื้อที่ 9 ไร่ สามารถสร้างอาชีพ สร้างการศึกษาให้กับผู้ติดยาเสพติดได้ ก็เป็นรูปแบบหนึ่งเป็นโมเดลหนึ่ง อยากให้ทำเป็นโมเดล ซึ่งถ้าโมเดลนี้ทำได้ ต่อไปก็อยากได้เป็นโรงเรียนร้าง เป็นเหมือนศูนย์พักคอยระหว่างจะไปหาหมอ และระหว่างที่จะส่งกลับเข้าหมู่บ้าน แล้วถ้าเป็นจิตเวชก็พักไว้ที่นี่ก่อน

จากบริบทของแต่ละพื้นที่ ซึ่งอันนี้ก็เป็นรูปธรรมอันหนึ่งถือว่าเป็นการจับต้องได้ และในพลังจิตอาสาเพื่อเอาชนะยาเสพติดนั้น พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็น ประธานมีแนวโน้มที่จะพัฒนาค่อนข้างเยอะ และในเรื่องผู้ที่บำบัดแล้วกลับมาเสพซ้ำนั้น เรามีปริมาณค่อนข้างเยอะในต่างประเทศเกือบ 50 % ส่วนในประเทศไทยนั้นมี 20% ซึ่งถ้าเขาไม่มีอาชีพรองรับ ไม่มีคุณค่าในสังคม ไม่มีการศึกษา ไม่มีมีงานรองรับ เขาก็จะหวนกลับไปอีก โดยรัฐบาลต้องให้เขามีอาชีพมีงานทำ ซึ่งเราต้องมาร่วมกันเพราะว่า การสร้างอาชีพ โดยเฉพาะในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสเป็นพื้นที่ชายแดน เราต้องพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว ต้องมีการจ้างงานให้เยอะขึ้น ซึ่งผู้บำบัดจะต้องมีการฝึกอาชีพระหว่างบำบัดด้วย ซึ่งเราต้องทำควบคู่กันไปด้วย

ในส่วนของผู้ค้านั้นเรามีความเข้มข้น โดยเฉพาะผู้ค้าที่เข้าใจว่าตัวเองไม่รู้เรื่องเพราะว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ขนยาเสพติด แต่ว่าเขาเป็นผู้บงการจ้างวาน ซึ่งเราจะมีมาตรการเรื่องการฟอกเงินการติดตามเรื่องทรัพย์สินเพราะเงินหรือทรัพย์สินเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการค้ายาเสพติด ถ้าเราตัดเส้นเลือดใหญ่แล้วเขาจะหยุดและโทษก็รุนแรง โทษถึงจำคุกตลอดชีวิตแล้ว ซึางการติดตามเรื่องการฟอกเงินหรือการดำเนินการพวกนี้เราไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะมันเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แล้วหลายคนก็เปลี่ยนแทนที่จะเอาเงินไปฝากก็เป็นทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ก็มีการดำเนินการอย่างเข้มข้น แล้วเราเองก็จับมือกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งก็น่าจะมีกิจกรรมมีผลงานดำเนินคดีให้เห็น
////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จุดยืน “ลูกหมี” นำทัพ สส.- ชาวบ้าน ร่วมหมื่น แสดงจุดยืน / จัดการสัมมนา “การพัฒนาและบริหารจัดการด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

แชร์เนื้อหานี้

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568 ณ โรงเรียนบ้านบางไม้แก้วประชาสามัคคี ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร นายสันต์ แซ่ตั้ง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดการจัดการสัมมนา “การพัฒนาและบริหารจัดการด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” และร่วมการสัมมนา กับ

นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา รองอธิบดีกรมป่าไม้ นางสาวสายสุด ชุนเชาวฤทธิ์ ผอ. ทสจ.ชุมพร (ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร) นายธนานันต์ พุทธนวล นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติหัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เสด็จในกรมกรมหลวงชุมพร ด้านทิศใต้ นายลิขิต สุขเยาว์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายสามารถ เจียวยี่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดชุมพร นายกฤษ แก้วรักษ์ รองนายก อบจ.ชุมพร มีประชาชนเข้าร่วม 700คนในวันนี้

นายอวยพร มีเพียร อดีต นายก อบต.รับร่อ กล่าวต้อนรับและรายงานการสัมมนาในนามคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ขอต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนาแขกผู้มีเกียรติ และวิทยากรทุกท่านที่มาเข้าร่วมการสัมมนา เรื่อง “การพัฒนาและบริหารจัดการด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ณ โรงเรียนบ้านบางไม้แก้วประชาสามัคคี ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ในวันนี้

เนื่องจาก คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับทราบถึงปัญหาด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชุมพร ที่เกิดขึ้นในหลายประเด็นเป็นเวลายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านที่ดิน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการ อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพของประชาชนเป็นอย่างมาก จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้สังคมและประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองสืบไป คณะกรรมาธิการจึงได้จัดการสัมมนาครั้งนี้ขึ้น

นายสันต์ แซ่ตั้ง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมสัมมนา แขกผู้มีเกียรติ และวิทยากรทุกท่านที่มาเข้าร่วมการสัมมนา เรื่อง “การพัฒนาและบริหารจัดการด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ณ โรงเรียนบ้านบางไม้แก้ว ประชาสามัคคี ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ในวันนี้ เนื่องจาก คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและบริหารจัดการด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชุมพร ให้เกิดความยั่งยืนและมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเฉพาะ

อย่างยิ่งปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและที่ดินอยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาในหลาย พื้นที่มาอย่างยาวนาน จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและทันท่วงที ดังนั้น คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัด การสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ส่งเสริมให้เกิดความรู้และความเข้าใจของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและการพัฒนา

ด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน สามารถแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและ การพัฒนาด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถเป็นสื่อกลางในการนำองค์ความรู้ไปเผยแพร่ให้กับชุมชนและสังคมต่อไป ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน

และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริงกระผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การสัมมนาในวันนี้จะบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

แถลงการณ์จุดยืน “ลูกหมี” นำทัพ สส.- ชาวบ้าน ร่วมหมื่น แสดงจุดยืน รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้กำลังใจแม่ทัพภาค 2 เหล่าทหารกล้าแนวหน้า ลั่น “นายกฯไม่ออกเราออก” ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่สนามหน้าพระบรมรูป ร.5 หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.ชุมพร และว่าที่การอำเภอเมืองชุมพร นายชุมพล จุลใส “ลูกหมี” อดีต สส.ชุมพร หลายสมัย พร้อมด้วย 3 สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.เขต 1 ,นายสันต์ แซ่ตั้ง เขต 2 , นายชุมพล จุลใส เขต 3 ,นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร พร้อมด้วยกลุ่มพลังมวลชนร่วมหมื่นคน ที่นัดหมายกันมาทางช่องทางสื่อออนไลน์ เพื่อมารวมตัวกันแสดงจุดยืน ต่อกรณีที่มีคลิปหลุดการพูดคุยกันระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานองคณะมนตรี แห่งประเทศกัมพูชา ที่มีการพูดด้อยค่า แม่ทัพภาคที่ 4 และเอาใจผู้นำประเทศกัมพูชา ตามที่เป็นข่าวนั้น

โดย “ลูกหมี” นายชุมพล จุลใส ได้กล่าวกับกลุ่มมวลชนที่ร่วมแสดงจุดยืนว่า ตนมาวันนี้มาในฐานประชาชนผู้รักชาติ ไม่ได้มาปลุกระดมแต่อย่างใด ทุกคนนัดหมายกันทางสื่อ ออนไลน์ เพื่อมาให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ถูกนายกรัฐมนตรีด้วยค่าและบอกว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน ขณะเดียวกันกลับพูดเอาใจผู้นำประเทศกัมพูชา คนไทยได้ฟังคลิปนี้จะรู้สึกว่า ประเทศไทยเสียเกียรติภูมิอย่างมาก ที่มีผู้นำแบบนี้ จึงเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก

ในช่วงท้ายของการปราศรัย “ลูกหมี” กล่าวว่า ถ้าเขาไม่ออก พวกราก็จะออกเอง เพราะพวกเราจะไม่ทรยศต่อคะแนนเสียงที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชานชาวชุมพร จากนั้นได้เชิญ พ.อ.โชติ ยิกุสังข์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 / รองผอ.กอ.รมน.ชุมพร เป็นผู้แทนขึ้นรับช่อดอกไม้ เพื่อเป็นกำลังใจส่งผ่านไปยังแม่ทัพภาคที่ 2

ต่อมา นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ได้ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์และจุดยืนถึงกรณีดังกล่าว และมอบแถลงการณ์ให้ สส.ชุมพร ทั้ง 3 คน ผ่านไปถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ สส.ชุมพร ทั้ง 3 คนสังกัดอยู่

โดย นายนพพร ได้อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า แถลงการณ์ข้อเรียกร้องของประชาชนชาวจังหวัดชุมพร นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์พิพาทบริเวณแนวชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 และพฤติการณ์ของผู้นำรัฐบาลที่แสดงออกถึงการด้อยความสามารถ ขาดวุฒิภาวะผู้นำ ข้าพเจ้าและประชาชนชาวจังหวัดชุมพร ผู้เคารพและเทิดทูนไว้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 เวลา 14.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมา แถลงยอมรับว่า คลิปเสียงที่เผยแพร่ออกมานั้น เป็นคลิปเสียงของตนสนทนากับสมเด็จฮุนเซนจริง โดยมีเนื้อหาพาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 พลโท บุญสิน พาดกลาง ว่า “เป็นคนของฝ่ายตรงข้าม” รวมทั้งเป็นการด้อยค่า ไม่ให้เกียรติทหาร และกองทัพ ที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตย

อีกทั้งการสนทนาเป็นลักษณะการยินยอมอ่อนข้อและอ่อนน้อม โดยได้แสดงท่าที ที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการ ที่สมเด็จฮุนเซนเรียกร้อง เรารู้สึกผิดหวังและเสียใจกับการกระทำของผู้นำประเทศ ที่ขาดจิตสำนึก การกระทำของผู้นำรัฐบาลเช่นนี้ ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างใหญ่หลวง และประชาชนคนไทย หมดความเชื่อถือ ศรัทธา

จากพฤติกรรมดังกล่าวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บัดนี้ ความอดทนของคนในชาติ ได้สิ้นสุดลงแล้ว
ข้าพเจ้าและประชาชนชาวจังหวัดชุมพร จึงขอส่งกำลังใจให้ แม่ทัพภาคที่ 2 พลโท บุญสิน พาดกลาง พร้อมด้วยทหารทุกนาย ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย พวกเราชาวจังหวัดชุมพร จึงมีข้อเรียกร้อง ดังต่อไปนี้

  1. ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
  2. ขอให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ทบทวนการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

กระผมนายนพพร อุสิทธิ์ และประชาชนชาวจังหวัดชุมพร พร้อมประกาศจุดยืนชัดเจน ผมไม่ได้ออกมาในนามนักการเมือง หรือทีม พลังชุมพร แต่ในฐานะประชาชน ขอแสดงออกเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพวกผมขอย้ำกับทุกคนว่า “เราจะไม่ยอมสูญเสียแผ่นดินไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียวให้กับประเทศใด”

ภายหลังการรวมพลังแสดงจุดยืน นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.เขต 1 ,นายสันต์ แซ่ตั้ง เขต 2 , นายชุมพล จุลใส เขต 3 ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนแล้วว่า ขอให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชองด้วยการลาออก ต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งจุดยืนก็ตรงกับความต้องการของประชาชนชาวชุมพรอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “พรรคประชาชน” จัดประชุมสมาชิกเครือข่ายแรงงาน จ.สระแก้ว/จ.นครราชสีมา – วิวาห์แสนหวาน!! สุภาพรรณ – วิเชียร

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (22 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องประชุม สนง.สหพันธ์ที่ดินสระแก้ว หมู่ 13 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จัดการประชุมสมาชิกเครือข่ายแรงงาน จังหวัดสระแก้ว มีเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจนถูกต้อง โดยได้รับเกียติจาก อดีตสส.พรรคประชาชน นายทวีศักดิ์ ทักษิณ พร้อมผู้ช่วย สส.นายธวัช แกนนำเครือข่ายปีกแรงงาน พี่หมอเทพ และ เครือข่ายชลบุรี ระยอง ได้เดินทางมาให้ความรู้ทำความเข้าใจกับสมาชิกได้เข้าใจในการดำเนินงานของ “ปีกแรงงาน” ได้ชัดเจน

ได้จัดตั้งคณะทำงานชั่วคราวปีกแรงงาน จ.สระแก้ว โดยการรับรองจากสมาชิกพร้อมกับมอบหมายและรับรองให้สมาชิกร่วมกันดำเนินกิจกรรมโดยคณะกรรมการ “ปีกแรงงาน” พรรคประชาชน ได้รับรอง โดยมีคณะขับเคลื่อนทั้ง 7 อำเภอ ที่มีสมาชิกกว่า 500 คนในจังหวัดสระแก้ว เฟสแรก 60 คนสำหรับยกระดับติดปีกให้กับสมาชิกที่มีคนมองว่าด้อยคุณภาพ เป้าหมายของเราคือ สมาชิก 2 พันคนในสิ้นปีนี้.

จ.นครราชสีมา – วิวาห์แสนหวาน!! สุภาพรรณ – วิเชียร

วันนี้ (25 พ.ค.68) เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บ้านเลขที่ 121 หมู่ 2 ต.นกออกกอ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จัดพิธีมงคลสมรส ระหว่าง นายวิเชียร มหาพรม บุตรของ นายเชี่ยม – นางปี มหาพรหม กับ น.ส.สุภาพรรณ ยอดผักแวน

บรรยากาศจัดแบบเรียบง่าย มีชาวบ้านญาติพี่น้องมาร่วมเป็นจำนวนมาก โดยมี นายสมพงษ์ มีน้อย ผู้อำนวยการเครือข่าย สมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) จ.ปราจีนบุรี ได้เดินทางร่วมในงานมงคลสมรสดังกล่าว.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดตัวพรรคพลังไทยใหม่ คิดใหม่ ทำเป็น ชูนโยบายเอาที่ดินสาธารณะประโยชน์ทำเป็นอ่างเก็บน้ำเพื่อการเกษตร จ่ายเงินให้หญิงตั้งครรภ์ เดือนละ 1,500 บาท ลดปัญหาการทำแท้งในสังคมไทย

แชร์เนื้อหานี้

***เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 68 ที่หอประชุมโรงแรมพรหมพิมาณ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ประกาศิต สุวรรณนศิษฐ์ หัวหน้าพรรคพลังไทยใหม่ เปิดประชุมใหญ่ครั้งแรก พร้อมเปิดตัวพรรคพลังไทยใหม่ แถลงนโยบายให้กับสมาชิกพรรค ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่เกิดขึ้น โดยมีหัวข้อพรรคคือ พรรคพลังไทยใหม่ คิดใหญ่ ทำเป็น โดยมีสมาชิกของพรรคเข้ามาร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก

***ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ประกาศิต สุวรรณนศิษฐ์ หัวหน้าพรรคพลังไทยใหม่ เปิดเผยว่า จริงแล้วพวกเรารวมตัวกันมาเป็นปีแล้ว ซึ่งมีสมาชิกแยกตัวมาจากพรรคการเมืองอื่น ประมาณ 4 พรรค แยกตัวออกมาอยู่กับเรา ซึ่งพรรคพลังไทยใหม่ของเราเป็นพรรคที่สร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ให้ประสานทำงานร่วมกับคนรุ่นกลาง และรุ่นเก่า ไม่มีการแบ่งสี แบ่งฝั่ง ไม่แบ่งศาสนา ซึ่งเน้นคนมีอุดมการณ์จริงๆเข้ามาร่วมพรรค โดยนโยบายของพรรคพลังไทยใหม่หลักๆ จะมีการเสนอออกพระราชกฤษฎีกาที่สาธารณะประโยชน์

ทั้งพื้นที่บนภูเขาหัวโล้นทั่วประเทศให้เป็นอ่างเก็บน้ำเพื่อการเกษตรกรรมเพื่อการส่งออก ส่งเสริมเกษตรกรให้ทำการเกษตร เพื่อการส่งออก สร้างอาชีพหนึ่งครัวเรือนให้แก่ประชาชน เสริมสร้างความเสมอภาคในสังคม และส่งเสริมสิทธิมนุษย์ชน แก้ไข พรบ. เครดิตบูโร ที่ดินทำกินของเกษตรกรต้องเป็นโฉนด (นส.4จ ) เท่านั้น สร้างโรงงานในทุกจังหวัดเพื่อให้มีการจ้างงานคนในพื้นที่ เพื่อที่ประชาชนจะได้มีรายได้ และให้ค่าตอบแทนหญิงตั้งครรภ์ 12 ปี เดือนละ 1,500 บาท ลดปัญหาการทำแท้งในสังคมไทย


***ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ประกาศิต สุวรรณนศิษฐ์ หัวหน้าพรรค กล่าวต่อไปอีกว่า พรรคพลังไทยใหม่ ตอนนี้เราเตรียวมจะเปิดไว้ 8-9 สาขา และเตรียมจะส่งผู้สมัครลงชิงชัยทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ก็จะส่งอย่างต่ำก็ 70 คน ความคาดหวังเราก็อย่างจะเข้ามีสมาชิกเข้าไปอยู่ในสภาไม่ต่ำกว่า 50 คน ซึ่งพรรคพลังไทยใหม่ของเราพร้อมในทุกๆด้าน พร้อมที่จะเดินลุยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร (อย่างไม่เป็นทางการ)​ ภูมินทร์ ล้มแชมป์เก่าบ้านใหญ่เพื่อไทย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานผลคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร มีประชากรประมาณ 32,999 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 23,729 คน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 16,930 คน

คิดเป็นร้อยละ 71.62 จำนวนบัตรเสีย 737 คิดเป็นร้อยละ 4.35 จำนวนบัตรดี 15,258 คน คิดเป็นร้อยละ 90.12 จำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครใด 935 คน คิดเป็นร้อยละ 5.25 แบ่งเป็น 3 เขตเลือกตั้ง สท. เขตละ 6 คน รวม 18 คน

มีผู้สมัครนายก 4 คน รวม 34 ชุมชน 44 หน่วย แบ่งเป็น 3 เขต เลือกตั้ง ผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศบาลเมืองมุกดาหาร ปี 2568 (อย่างไม่เป็นทางการ) ลำดับ ที่ 1 นายภูมินทร์ สิเนหะวัฒนะ ได้คะแนน 8,521 คะแนน

ลำดับที่ 2 นายอุดม เที่ยงโยธา ได้คะแนน 4,218 คะแนน ลำดับที่ 3 นางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ (แชมป์เก่าบ้านใหญ่เพื่อไทย) ได้คะแนน 2,918 คะแนน และลำดับที่ 4 นายศักดิ์ชัย เจริญวุฒิมากร ได้คะแนน 480 คะแนน

ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ทีมนายภูมินทร์ สิเนหะวัฒนะ ส่งผู้สมัคร สท. ครบทั้ง 3 เขต เขตที่ 1 ได้รับเลือกเข้ามา 5 คน เขตที่ 2 เข้ามา 6 คน เขตที่ 3 เข้ามา 5 คน สท.ในทีมที่ได้รับการเลือกตั้งทั้ง 3 เขต รวม 16 คน ทีมนายอุดม เที่ยงโยธา ส่งผู้สมัคร สท. ครบทั้ง 3 เขต

ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 1 คน ทีมนางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ ส่งผู้สมัคร สท. ครบทั้ง 3 เขต ได้รับการเลือกตั้งเข้ามารวม 1 คน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลุ่มพัฒนามุกดาหาร

โดยนายภูมินทร์ สิเนหะวัฒนะ คนรุ่นใหม่ที่วางตัวในเวทีการเมืองท้องถิ่นมานานหลายปี นับเป็นผลงานที่ได้เตรียมทีมและวางตัวผู้สมัครของกลุ่ม ในศึกเลือกตั้งเทศบาลเมืองมุกดาหารครั้งนี้

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “นายกเท้ง” ผู้สมัครนายกเล็ก เทศบาลบ้านกรูด ชนะขาดคู่แข่ง นำทีม กลุ่มพัฒนาบ้านกรูด เข้าสภาเป็น สมัยที่ 2 เกือบยกทีม / สนามเลือกตั้ง ทต.ทับสะแก “นายกเดียร์” ที่ไร้คู่แข่ง นำทีม กลุ่มรักทับสะแก เข้าสภาได้ 9 ที่นั่ง โดยมีอิสระเสียบมา 3 ที่นั่ง

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 11 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ การเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านกรูด อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังปิดหีบเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้เริ่มนับคะแนน นายกฯเทศมนตรี และ สมาชิกสภาเทศบาล ไปพร้อมๆ กัน โดยผลการนับคะแนนของ นายกเทศมนตรี อย่างไม่เป็นทางการ นายอิศรา กาญจนรัตน์ ผู้สมัครนายก หมายเลข 1 ทีม กลุ่มพัฒนาบ้านกรูด ได้คะแนน 1,600 คะแนน ทิ้งห่าง นายณรงค์ พุกจันทร์ อดีต สท.หลายสมัย ผู้สมัคร หมายเลข 2 ในนามกลุ่มรักบ้านกรูด ได้คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 545 คะแนน ในส่วนสมาชิกสภาเทศบาล กลุ่มพัฒนาบ้านกรูดได้เข้าสภาเกือบยกทีม โดยมีเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 ผู้สมัครอิสระ แทรกเข้ามาได้ 1 คน กลังจากนี้ก็รอ กกต.รับรองผลคะแนนอย่างเป็นทางการ โดยนายอิศรา กาญจนรัตน์ หลังทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ก็ได้ออกมาขอบคุณ ทีมงาน และชาวบ้านกรูด ที่ไว้วางใจให้ทีมกลุ่มพัฒนาบ้านกรูด เข้ามาทำหน้าที่ต่อไปอีก สำหรับเทศบาลบ้านกรูด มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 3,334 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวน 2,239 คน คนเป็นร้อยล่ะ 67.16 %

////////////////

ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงาน

ประจวบคีรีขันธ์ _ สนามเลือกตั้ง ทต.ทับสะแก “นายกเดียร์” ที่ไร้คู่แข่ง นำทีม กลุ่มรักทับสะแก เข้าสภาได้ 9 ที่นั่ง โดยมีอิสระเสียบมา 3 ที่นั่ง

วันที่ 11 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ การเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังการปิดหีบเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้เริ่มนับคะแนน นายกเทศมนตรี และ สมาชิกสภาเทศบาล ไปพร้อมๆ กัน โดยผลการนับคะแนนของ นายกเทศมนตรี อย่างไม่เป็นทางการ นายพงษ์พันธ์ เผ่าประทาน ผู้สมัครนายกเทศมนตรี หมายเลข 1 กลุ่มรักทับสะแก ที่ไร้คู่แข่ง ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ได้ 1,870 คะแนน

ในส่วนผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล กลุ่มรักทับสะแก สามารถผ่านเข้าสภาได้เพียง 9 คน โดยมีผู้สมัครอิสระ สามารถสอบเข้าสนามนี้ได้ 3 คน หลังจากนี้ก็รอ กกต.ประกาศรับรองผลคะแนนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

//////////////////

ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / นายกเก่านครเจ้าพระยาฯ เอาอยู่ ชนะเลือกตั้งเทศบาล

แชร์เนื้อหานี้

รายงานผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ จ.ชลบุรี อันดับ 1 คือ นายอาคมเจตน์ พันเฉลิมชัยโชค หรือนายกฮุ้น จากกลุ่มลูกเจ้าพระยา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้เป็นนายกเทศมนตรีอีกสมัย ส่วนสมาชิกจาก 24 ที่นั่ง พลาดไป 7 เก้าอี้ ให้พรรคประชาชน

โดยนายกฮุ้น สามารถเอาชนะคู่แข่ง ด้วยผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 18,008 คะแนน
เอาชนะนายอภิชัย พิทยานุรักษกุล จากพรรคประชาชน ไป 1,614 เสียง ทั้งนี้ ดร.ติ๊ด อภิชัย อดีต หัวหน้าฝ่ายแบบแผน และก่อสร้าง เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนไปได้ถึง 16,394 คะแนน

โดยที่ผ่านมา พรรคประชาชนได้นำดาวเด่นของพรรค ลงพื้นที่เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ต่อเนื่อง ส่งแกนนำพรรคมาช่วยหาเสียงหลายราย อาทิ หัวหน้าพรรคประชาชน เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, ช่อ พรรณิการ์ วานิช, วิโรจน์ ลักคณาอดิศร, เจี๊ยบ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ และเพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ

ทั้งยังปิดท้ายด้วยคลิปเชิญชวนเลือกตั้งของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรียกว่าขนมาหมดแม้จะเป็นวันสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง และยังมีการขึ้นรถตระเวนหาเสียงทั่วพื้นที่อย่างไม่ลดละ นับเป็นความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ของพรรคประชาชนที่ต้องการครองพื้นที่ท้องถิ่นอย่างเทศบาลนคร แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะใจและเสียงส่วนใหญ่ของพี่น้องประชาชนไปได้

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / น่าน-เลือกตั้งนายกเล็กเมืองน่านนายกตี๋เบอร์ 2 รักษาแชมป์ไว้ได้หวุดหวิด พร้อมนำ สท.เข้าวิน14 คน

แชร์เนื้อหานี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.วันอาทิตย์ 11 พฤษภาคม 2568 หลังจากปิดหีบเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองน่านและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองน่าน เจ้าหน้าที่ก็เริ่มนับคะแนนในเวลาประมาณ17.30 น.ท่ามกลางความสนในของกองเชียร์ของผู้สมัครและประชาชนในเขตเลือกตั้ง เข้ามารับชมการนับคะแนนในแต่ละหน่วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเทศบาลเมืองน่านมีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 3 รายประกอบด้วยนายเอกชัย อินทะนัน หรือดอน เบอร์1 กลุ่มเขตเมืองพัฒนา นายสุรพล เธียรสูตร หรือนายกตี๋ แชมป์เก่ากลุ่มเมืองน่านน่าอยู่ พร้อมนำทีม สท.เข้าวิน14 คน

โดยผลการนับคะแนนนั้นพบว่า นายเอกชัยอินทะนันท์ เบอร์ 1 ได้ 3934 คะแนน นายสุรพลเธียรสูตร แชมป์เก่า ได้ 4075 คะแนน นายเศรษฐพงษ์ ธีรภาพวิเศษพงษ์ ได้ 635 คะแนน ขณะผลการเลือกตั้งสมาชิกสภานั้น กลุ่มเมืองน่านน่าอยู่ ได้มา 14 คน กลุ่มเขตเมืองพัฒนา 3 คน และอิสระ 1 คน

ขณะที่มีรายงานว่าผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดู่ไต้ โกหนำ สุรวัฒน์ เลิศชัยพิทักษ์ สามารถล้มแชมป์เก่านายทรงพล อัชวากุล เอ๋ ได้ ด้วยคะแนน 2,269 คะแนน ทรงพลได้ 2,161 คะแนน ขณะที่เทศบาลตำบลกองควาย ร.ต.อ.ชัยเดช โรงคำได้ 1,898 คะแนน นายธงชัย ปันคำได้ 1,242 คะแนน ส่วนเทศบาลตำบลเวียงสา นายพงษ์นรินทร์ สุทธารักษ์ ยังรักษาแชมป์ไว้ได้ด้วยคะแนน 903 คะแน

นายพิชิต โมกศรี 619 คะแนน เทศบาลตำบลเชียงกลางนายมนตรี เชี่ยวสุวรรณ ได้ รับเลือกตั้ง ด้วยคะแนน 2,408 คะแนน นายอาณัติ จริยะโกมล ได้,064 คะแนน นายธนกฤต จิตตรง ได้1 ,692 คะแนน เทศบาลตำบลขึ่ง นายสกล ทรัพย์โพธิ์ทอง ได้ 1,106 คะแนน

นางบำเพ็ญ บริบูรณ์ ได้ 1,093 คะแนน นายจรัญ ต่างใจ อดีตนายกคนล่าสุดได้ 258 คะแนน เทศบาลตำบลกลางเวียง นายปฏิวัส ธนะไพศาล 2,246 คะแนน นายสมาน ทิพย์สกุลปัญญา ได้ 2,100 คะแนน นายกิตติกร กุมมาละ ได้ 395 คะแนน

ที่เหลือขอสรุปผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกประกอบด้วย เทศบาลตำบลพระพุทธบาทเชียงคาน นายดนุพัฒน์ กันภัย เทศบาลตำบลหนองแดง นายสามารถ วงศ์เลียบ เทศบาลตำบลทุ่งช้าง นายนายวินัย พนาขวา เทศบาลตำบลงอบ นายจักรภัทร คำรังษี เทศบาลตำบลศรีสะเกษ นายเรืองชัย ด่านพาณิชย์ เทศบาลตำบลบ่อแก้ว นายพายับ สารเถื่อนแก้ว เทศบาลตำบลบ่อเกลือไต้ นายประสิทธิ์ อุปจักร
/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ตรวจ สนง.กกต. เขต. 8 ลงเยี่ยม วังหินโมเดล แห่งเดียวในประเทศ เป็นพื้นที่เลือกตั้งสีขาว ปลอดการซื้อสิทธิขายเสียง

แชร์เนื้อหานี้

***ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 68 ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้ตรวจการ เขตตรวจที่ 8 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พร้อม นายเอกฤกษ์ พร้อมชัยอนันต์ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ เดินทางมาตรวจความพร้อม และเยี่ยมให้กำลังกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ และในเขตเทศบาลตำบลวังหิน ที่เดินทางมารับอุปกรณ์การเลือกตั้งในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลวังหิน อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ที่มีการทำสัญญาและทำประชาคมกับชาวบ้านในเขต อำเภอวังหิน เป็นโครงการโมเดล ให้เป็นเขตพื้นที่เลือกตั้งสีขาวปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง

***ด้าน ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้ตรวจการ เขตตรวจที่ 8 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำหน่วยเลือกตั้ง และมาตรวจดู “วังหินโมเดล” ที่ประชาชนชาวตำบลวังหิน อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ และผู้สมัครได้มีการทำสัญญาณกันว่าจะมีการเลือกตั้งสีขาว ปลอดการซื้อสิทธิขายเสียง จนเป็น วังหินโมเดล ซึ่งถือเป็นแห่งแรกที่เกิดขึ้นจริงๆในประเทศไทย โดยถือเป็นการแก้ไขปัญหาในการซื้อสิทธิขายเสียงที่เกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ และทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง โดยหลังจากเลือกตั้งครั้งนี้แล้วทาง กกต. จะมีการประเมินผลอีกครั้งว่า “วังหินโมเดล” ทำได้จริงหรือไหม ซึ่งถือเป็นไปถามที่ตกลงกันได้จริงๆทาง กกต. ก็จะมีการขยายผลนำไปต่อยอดให้เป็นรูปธรรมทั้งประเทศต่อไป

***ร.ต.อ.มนูญ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามที่อบรมไว้อย่างเข้มงวด และลดปัญหาบัตรเสียให้ได้น้อยที่สุด ร่วมถึงให้ประชาชนเข้ามาใช้สิทธิให้ได้มากที่สุด และได้ให้ชุดเคลื่อนที่เร็วจับตาทุกพื้นที่ที่มีปัญหาไว้อย่างใกล้ชิด แต่ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งแต่อย่างใด

***ทั้งนี้วันพรุ่งนี้ (10 พ.ค. 68) ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนอกมาใช้สิทธิ ออกมาเลือกตั้ง ได้ตั้งแต่ เวลา 08.00 น. ถึง เวลา17.00 น. และอย่าลืมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และรักษาสิทธิของท่าน ซึ่งการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ สุจริต หรือ เที่ยงธรรม ได้ต้องเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนที่ต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน ไม่ใช้หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 0; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 3145728;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 65536;weatherinfo: null;temperature: 35;