คลังเก็บหมวดหมู่: กิจกรรมเพื่อสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หมู่บ้านพฤกษา 15 เปิดงานลอยกระทงเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

แชร์เนื้อหานี้

ชาวหมู่บ้านพฤกษา 15 พร้อมใจแต่งชุดดำ ร่วมพิธีถวายความอาลัย “สมเด็จพระพันปีหลวง” ก่อนเปิดงานลอยกระทงประจำปี บรรยากาศเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและอบอุ่นจากพลังชุมชน
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ที่ลานเอนกประสงค์หมู่บ้านพฤกษา 15 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ นายอำนวย บุญริ้ว

นายกเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทงประจำปีหมู่บ้านพฤกษา 15 โดยมีนายวิชา นาป้อม ประธานนิติบุคคลหมู่บ้านพฤกษา 15 นางสาวกัญญดากร เรืองฤทธิ์ รองประธานนิติบุคคลฯ พร้อมด้วยสมาชิกเทศบาล คณะกรรมการหมู่บ้าน ฝ่ายปกครอง และประชาชนในพื้นที่กว่า 200 คน

เข้าร่วมในพิธีถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวภายในงานมีการจัดพิธีถวายความอาลัยอย่างสงบและสมเกียรติ ผู้เข้าร่วมงานพร้อมใจกันสวมชุดดำหรือชุดสุภาพเรียบร้อย ยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 93 วินาที เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ก่อนเข้าสู่กิจกรรมเปิดงานลอยกระทงประจำปีขณะที่บรรยากาศบริเวณริมทะเลสาบของหมู่บ้านเป็นไปด้วยความคึกคัก พ่อค้าแม่ค้ากว่า 300 ร้านในชุมชนนำสินค้ามาจำหน่าย สร้างรายได้หมุนเวียนให้กับคนในพื้นที่ โดยหลายร้านเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยเป็นไปอย่างคึกคัก

สำหรับหมู่บ้านพฤกษา 15 ถือเป็นพื้นที่ที่มีการจัดงานลอยกระทงอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยปกติจะมีการประกวด “หนูน้อยนพมาศ” และ “นางสาวนพมาศ” เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทย แต่ในปีนี้ได้ปรับรูปแบบงานให้เรียบง่ายขึ้น งดการประกวดและกิจกรรมอื่นๆ

เพื่อถวายความอาลัยต่อ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” พร้อมคงไว้ซึ่งการออกร้านแสดงสินค้าและกิจกรรมชุมชน เพื่อให้เศรษฐกิจท้องถิ่นยังคงขับเคลื่อนไปได้

งานลอยกระทงหมู่บ้านพฤกษา 15 ปีนี้จึงเปี่ยมด้วยทั้งความสงบ เรียบง่าย และอบอวลด้วยความจงรักภักดีของประชาชนที่พร้อมใจกันสืบสานประเพณีไทย ควบคู่กับการแสดงออกถึงความภักดี


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐทีวี/คนบึงกาฬรักสุขภาพร่วมกิจกรรม “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน–วิ่ง–ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ เมืองไทยไร้สโตรค” คึกคัก

แชร์เนื้อหานี้

บึงกาฬ – วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 น. ที่บริเวณถนนข้าวเม่าริมโขง เทศบาลเมืองบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน–วิ่ง–ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ เมืองไทยไร้สโตรค” ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 5,000 คน ใน 7 สนามทั่วจังหวัดบึงกาฬ

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพาต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

ภายในงานมีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งข้าราชการ พ่อค้า นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก โดยผู้ร่วมกิจกรรมสามารถเลือกได้ตามความถนัด ทั้งการเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ระยะทาง 5 กิโลเมตร เส้นทางรอบแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดบึงกาฬ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

สำหรับจังหวัดบึงกาฬได้จัดกิจกรรมพร้อมกันใน 7 สนาม ได้แก่สนามอำเภอเมืองบึงกาฬ ถนนข้าวเม่าริมโขงสนามอำเภอโซ่พิสัย ถนนหน้าที่ว่าการอำเภอโซ่พิสัยสนามอำเภอเซกา หน้าที่ว่าการอำเภอเซกาสนามอำเภอพรเจริญและอำเภอศรีวิไล บริเวณวัดภูทอก บ้านนาคำแคนสนามอำเภอบึงโขงหลง ที่ว่าการอำเภอบึงโขงหลงสนามอำเภอปากคาด

ลานพญานาคริมโขง เทศบาลตำบลปากคาดสนามอำเภอบุ่งคล้า สะพานแขวนกิ้งก่าภูวัว ริมโขงบุ่งคล้าโครงการ “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน–วิ่ง–ปั่น ป้องกันอัมพาต” จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “เมืองไทยไร้สโตรค” มุ่งสร้างสังคมสุขภาพดี ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข และสร้างแรงจูงใจให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล/บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดธรรมิการามฯ เขาช่องกระจก ยอดทำบุญทะลุ 2.4 ล้านบาท/พิธีมอบรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ครั้งที่ 18 ที่ จ.ปัตตานี

แชร์เนื้อหานี้

adminแก้ไขโปรไฟล์

วันที่ 26 ตุลาคม 2568 นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ วัดธรรมิการามวรวิหาร (เขาช่องกระจก) อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยมีนางสาววรรณภา เกียรติพงษา ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ร้อยโทสิทธิชัย ตัณฑสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง


สำหรับพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ มียอดรวมเงินทำบุญทั้งสิ้น 2,498,014.75 บาท เพื่อร่วมสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดและกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
วัดธรรมิการามวรวิหาร หรือ “วัดเขาช่องกระจก” เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร

ตั้งอยู่เชิงเขาช่องกระจก ถือเป็นวัดสำคัญคู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรอยพระพุทธบาทจำลองบนยอดเขาช่องกระจก ซึ่งเป็นจุดหมายทางศาสนาและการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด

การถวายผ้าพระกฐินพระราชทานครั้งนี้ นับเป็นอีกกิจกรรมที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการสืบสานพระพุทธศาสนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่ต่อไป.

ผู้ว่าประจวบฯ นำอิหม่าม ผู้นำทางศาสนา ภาคีเครือข่ายชาวมุสลิม เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ครั้งที่ 18 ที่ จ.ปัตตานี


เมื่อวันที่ 27 ต.ค.68 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2568 และมอบโล่เกียรติคุณและเงินรางวัลแก่ผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครู และนักเรียน โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ประจำปี 2567 ณ หอประชุม องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี


ในการนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นำคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2567 เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล โดยมีผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมพิธี สำหรับปีนี้ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2567

เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล รวมทั้งสิ้น 26 ราย แบ่งเป็น คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด จำนวน 6 ราย อิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น จำนวน 20 ราย พร้อมกันนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ ได้นำอิหม่าม ผู้นำทางศาสนา ภาคีเครือข่ายชาวมุสลิม และตัวแทนผู้ทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจากจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมในพิธีด้วย


กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น เพื่อเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล มาอย่างยาวนาน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจ และมีส่วนร่วม

ในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับทางราชการและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นการกระตุ้น และส่งเสริมให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
โอกาสนี้ กรมการปกครอง

ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัลทุกท่าน ขอให้ทุกท่านได้รักษาคุณงามความดีและเกียรติคุณที่ท่านได้รับครั้งนี้ไว้สืบไป เพื่อจะเป็นแบบอย่างแก่บุคคลทั่วไป และขอให้ประสบความสุขความเจริญตลอดไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781


สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี จัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี ๒๕๖๘ณ วัดหลวงสุมังคลาราม จ.ศรีสะเกษ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๘ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี นำโดย คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้บริษัท ฯ เพื่อน้อมนำไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ประจำปี ๒๕๖๘ ณ วัดหลวงสุมังคลาราม จังหวัดศรีสะเกษ

โดยมี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการศรีสะเกษ ข้าราชการและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี เป็นจำนวนมาก
วัดหลวงสุมังคลาราม

พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ในตำบลเมืองใต้ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2328 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา

เมื่อ พ.ศ. 2486 และยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2524
การจัดพิธีถวายผ้าพระกฐินในครั้งนี้ เป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของชาติ

และสะท้อนเจตนารมณ์ของ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ที่มุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐทีวี/น่าน จัดพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 26 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ศาลาหลวง วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

จังหวัดน่านจัดพิธีถวายสักการะและสรงน้ำพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเปิด

โอกาสให้ข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมแสดงความอาลัย และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ผู้บริหาร

ท้องถิ่น ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงาน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี พร้อมใจกันแต่งกายไว้ทุกข์อย่างสมเกียรติ

ภายในพิธี ประธานในพิธีถวายความเคารพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ลงนามถวายความอาลัย และประกอบพิธีสรงน้ำพระบรมศพด้วยความสงบสำรวม จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีต่างทยอยสรงน้ำพระบรมศพตามลำดับ

บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกอาดูร เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพสกนิกรชาวจังหวัดน่านที่มีต่อพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปัตตานี.- JSD-South ผนึกกำลังสื่อชายแดนใต้! เปิดตัวสมาคมฯ ศูนย์กลางนักข่าวอิสระ- ชูธรรมาภิบาล -ใช้สื่อแก้ปัญหาสังคม

แชร์เนื้อหานี้

สมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (JSD-South) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ ที่ทำการเลขที่ 181/19 ซอยเพชรสุภา ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ภายใต้การนำของ นางสาวนาซือเราะ เจะฮะ นายกสมาคมฯ ประกาศจุดยืนเป็นศูนย์รวมนักข่าวภาคใต้ที่ทำงานอย่างอิสระ ไม่แสวงหากำไร ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง มุ่งเน้นการนำเสนอข่าวที่ถูกต้องตามหลักจริยธรรม และใช้ ‘พลังสื่อ’ เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คน และส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ เผยบทบาทหลักเป็น ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ให้สื่อมวลชน พร้อมยกระดับมาตรฐานวิชาชีพและเป็นกระบอกเสียงรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน

วันที่ 25 ตค. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากจังหวัดปัตตานีว่า สมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (Journalists for Sustainable Development of Southern Border – JSD-South) ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของสื่อมวลชนในภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งรวมนักข่าวจากทุกแขนงนางสาวนาซือเราะ เจะฮะ นายกสมาคมฯ เปิดเผยถึงเจตนารมณ์หลักของ JSD-South ว่า สมาคมฯ ก่อตั้งขึ้นบนหลักการของการทำงานที่ “อิสระ ไม่ยุ่งการเมือง และไม่หาผลกำไร” โดยมีพันธกิจสำคัญคือ การเป็นศูนย์รวมและ “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับสื่อมวลชนในพื้นที่ ให้สามารถนำเสนอข่าวสารที่ถูกต้อง รอบด้าน เป็นกลาง และมีจริยธรรมสูงสุด

“บทบาทของ JSD-South ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การรายงานข่าว แต่เรามุ่งเน้นการใช้พลังของสื่อในการแก้ไขปัญหาสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คน และส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วน” นางสาวนาซือเราะ กล่าว และเน้นย้ำว่า สมาคมฯ จะเป็น “กระบอกเสียง” ที่สำคัญ และเปิดรับฟัง รวมถึงรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน เพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่กลางในการตรวจสอบ ประสานงาน และแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆ ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมนายกสมาคมฯ ยังกล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการยกระดับวิชาชีพสื่อ โดยจะมีการจัดกิจกรรมพัฒนาความรู้ ความเข้าใจในวิชาชีพ เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อ ยกระดับมาตรฐานและธรรมาภิบาล ของสื่อมวลชนในพื้นที่
นอกจากนี้ JSD-South ยังมีแผนกิจกรรมด้านสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ เด็กกำพร้า และกลุ่มเปราะบาง เพื่อเป็นการคืนกลับสู่สังคมและสร้างประโยชน์ส่วนรวม

 สำหรับการบริหารงานนั้น สมาคมฯ ยืนยันในความโปร่งใส ความเป็นกลาง และความซื่อสัตย์ โดยจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพงาน รวมถึงการสร้างฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสมาชิก เพื่อให้มั่นใจได้ว่า JSD-South จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง พร้อมทั้งดูแลสิทธิและสวัสดิการ รวมถึงปกป้องสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวภายใต้กรอบของกฎหมายให้กับสมาชิกทุกคน 

ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศรัทธาหลั่งไหล! แห่หลวงพ่อปานทางเรือ หนึ่งเดียวในไทย เสียงประทัดกึกก้องทั่วทะเล

แชร์เนื้อหานี้

ศรัทธาหลั่งไหล เสียงประทัดกึกก้องทะเล หนึ่งเดียวในไทย แห่หลวงพ่อปานทางเรือ สุดอลังการ เรือประมงชาวบ้านร่วมขบวนแห่นับร้อยลำ

งานนมัสการปิดทองหลวงพ่อปาน ครบรอบ 115 ปี จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 31 ตุลาคม 2568
วันที่ 25 ตุลาคม 2568

ที่ วัดมงคลโคธาวาส ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มีงานประจำปี ปิดทองหลวงพ่อปาน ปีที่ 115 และร่วมแห่หลวงพ่อปาน ทางเรือ ณ วัดมงคลโคธาวาส ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

พิธีแห่หลวงพ่อปายทางเรือบุษบก ฤกษ์เวลา 07.29 น. และฤกษ์แห่ทางบก รถบุษบก 09.39 น. โดยมี นาย สยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัด เดินทางมาเป็นประธานในพิธีและลั่นฆ้องชัยมงคลฤกษ์

ชาวบ้านและผู้ที่เดินทางมาร่วมงานได้อัญเชิญรูปหล่อหลวงพ่อปาน จากวัดมงคลโคธาวาส ลงเรือบุษบกแห่ไปตามลำคลองคลองด่านออกไปทางปากอ่าว โดยมีเรือประมงของชาวบ้านจำนวนมาก

เข้าร่วมขบวนแห่ออกไปที่ปากอ่าว หลังจากนั้นได้แล่นเรือวนรอบปากอ่าว 3 รอบ ก่อนที่จะมีการแจกธงหลวงพ่อปานกลางทะเล ให้แก่เรือประมง และเรือผู้ที่เดินทางไปร่วมงานที่บริเวณกลางทะเล หลังจากนั้นก็จะเคลื่อนขบวนกลับเข้าฝั่ง

จากนั้นในเวลา 09.39 น. ได้อัญเชิญองค์หลวงพ่อปาน ขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก เพื่อแห่ไปทั่วจังหวัดสมุทรปราการ ให้ชาวบ้านได้นมัสการและขอพร โดยมีชาวบ้านทั้งในจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดใกล้เคียง

ได้สักการบูชาหลวงพ่อปาน ซึ่งกิจกรรมการแห่ทางเรือมีกำลังตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า และอาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมเฝ้าระวังเหตุทางน้ำ ป้องกันอุบัติเหตุทางเรือ

สำหรับหลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อปานยังเป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดสมุทรปราการ มาจนถึงทุกวันนี้

กิจกรรมแห่หลวงพ่อปานทางเรือ จัดขึ้นเพื่อให้ชาวประมงได้ร่วมสักการะหลวงพ่อปาน เพราะชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทำประมง

โดยก่อนที่ชาวบ้านจะออกเรือ ก็จะเดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อปาน เพื่อขอพรให้เดินทางปลอดภัย สำหรับงานงานนมัสการปิดทองหลวงปู่ปาน วัดมงคลโคธาวาส จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 – 31 ตุลาคม 2568


เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กรมชลประทานสร้างฝายบ้านงาช้าง แก้ภัยแล้ง พัฒนาพื้นที่รอยต่อท่าแซะ–ปะทิว

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณฝายกักเก็บน้ำบ้านงาช้าง–บ้านเขาตีนเป็ด ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร นายนพพร อุสิทธิ์ (นายกโต้ง) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร

มอบหมายให้ นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ (เลขากิต) และนายปราโมทย์ ดาวเรือง เลขานายก อบจ.ชุมพร พร้อมด้วยนายสุชล สินสมบุญ สมาชิกสภา อบจ.ชุมพร เขตอำเภอท่าแซะ, นายอภิชาติ มากยอด สมาชิกสภา อบจ.ชุมพร เขตอำเภอปะทิว, นาย

ปรีชา มีสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสองพี่น้อง, นายสิทธิชัย มากยอด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไชยราช, นายหนูไกร วงธรรม กำนันตำบลสองพี่น้อง, นายสฤษดิ์ ปิ่นเกตุ กำนันตำบลเขาไชยราช, ผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ร่วมประกอบพิธีถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ และเปิดฝายกักเก็บน้ำบ้านงาช้างอย่างเป็นทางกา

โครงการก่อสร้างฝายบ้านงาช้างดำเนินการโดย โครงการชลประทานชุมพร สำนักงานชลประทานที่ 14 กรมชลประทาน ภายใต้งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2568 ในแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (โครงการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอการไหลของน้ำในฤดูน้ำหลาก เพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำสำหรับการอุปโภค–บริโภคและการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ตลอดจนใช้เป็นแหล่งน้ำผลิตประปาหมู่บ้าน เพิ่มปริมาณน้ำใต้ดิน และรักษาความชุ่มชื้นให้กับระบบนิเวศในพื้นที่

ทั้งนี้ ฝายบ้านงาช้างจะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลเขาไชยราช อำเภอปะทิว และตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ มีน้ำใช้เพื่อการเกษตรและอุปโภค–บริโภคตลอดทั้งปี อีกทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงเป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้าเกษตรได้สะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ พันโท ชนิสร จารุกิตติ์ตระกูล ผู้บังคับหน่วยส่งเสริมและสหกรณ์ที่ 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นสส.4 สทพ.นทพ.) ได้นำพันธุ์ปลาจำนวนกว่า 6,000 ตัว มอบให้ประชาชนร่วมกันปล่อยลงในฝาย เพื่อเป็นการเพิ่มแหล่งอาหารและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศในพื้นที่

โครงการดังกล่าวนับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ที่ช่วยกันพัฒนาทรัพยากรน้ำเพื่อประโยชน์ต่อการเกษตรและคุณภาพชีวิตของชาวชุมพรอย่างยั่งยืน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โรงพยาบาลประจวบฯ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “โครงการแสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11”  

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.68 ที่ลานกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ชั้น 1 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลประจวบฯ นพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 5 ประธานพิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โครงการแสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 “Walk Run Bike Fighting Stroke 11″ และเทิดพระเกียรติ 125 ปี แห่งการพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และวันพยาบาลแห่งชาติ โดยมี นพ.ธนกร ศรัณยภิญโญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ กล่าวรายงาน นพ.วัชรพงษ์ เหลืองไพรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบฯ นพ.อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม (อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบฯ) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบฯ เจ้าหน้าที่ อสม.

เจ้าหน้าที่แพทย์ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปให้การต้อนรัสำหรับโครงการ “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ” จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับศิริราชมูลนิธิ และศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างในการดูแลสุขภาพ และสนับสนุนให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยหันมาใส่ใจการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยในปีนี้ จ.ประจวบฯ กำหนดจัดกิจกรรมโครงการแสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 ในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย.นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “ออกกำลังกายเป็นนิสัย ห่างไกลสโตรค (No Stop No Stroke)” โดยเน้นการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง และรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และลดความเสี่ยงต่อโรคอัมพฤกษ์อัมพาต

อีกทั้งในปี 2568 เป็นการครบรอบ 125 ปี แห่งการพระราชสมภพสมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจในการพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา พระวิริยะอุตสาหะ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวิชาชีพการพยาบาล เพื่อเป็นการเดินตามรอยพระบาทในการสร้างสรรค์สุขภาพดีถ้วนหน้าให้แก่ประชาชน ดังคำขวัญวันพยาบาลแห่งชาติที่ว่า “การพยาบาล ก้าวไกล เพราะน้ำใจเหล่าพยาบาล เสียสละและบริการตามปณิธานสมเด็จพระบรมราชชนนี”
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยพิธีเทิดพระเกียรติ 125 ปี แห่งการพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการแสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11, เสวนาให้ความรู้เรื่อง “รู้จักโรคหลอดเลือดสมอง ก่อนจะสาย” วิทยากร โดย นพ.ณัฏฐ์ พงษ์สุทธิมนัส อายุรแพทย์ระบบประสาท น.ส.ปัทมา ดีประเสริฐ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ดำเนินรายการ โดย น.ส.ปฤศนา พฤศชนะ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ 3, ประเมินคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น

วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว คำนวณดัชนีมวลกาย (BMI) 4) ระบบการพยาบาลทางไกล สอนและสาธิตทักษะการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) สำหรับประชาชน, รับแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะและดวงตา, Body Scan : การวัดองค์ประกอบของร่างกาย, Step Test : วัดความ Fit ของหัวใจและปอด, สาธิตอาหารเพื่อสุขภาพ, การบริหารป้องกันสมองเสื่อม, การประเมินสุขภาพจิต “เซียมซีความสุข”, การเข้าถึงข้อมูลทางด้านสุขภาพ, ชมนิทรรศการความรู้โรคหลอดเลือดสมอง,ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี, ชมนิทรรศการ เทิดพระเกียรติ “รอยพระยุคลบาท 125 ปี สมเด็จย่า นำทางสุขภาพไทย” และการแสดงดนตรี โดยชมรมครูเกษียณ โดยมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / หลังจากสงครามสงบ..นักท่องเที่ยวนานาชาติ ร่วมงานเทศกาลคติชนวิทยาพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ 37 ปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

***เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 68 ที่วัดนาโนน ตำบลหนองไฮ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ นายพิศิน ทาศิริ นายอำเภออุทุมพรพิสัย เป็นประธานเปิดงานเทศกาลคติชนวิทยาพระพุทธศาสนานานาชาติ ครั้งที่ 37 โดยงานเทศกาลดังกล่าวเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเป็นแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ

สร้างความเชื่อมั่นหลังจากที่สงครามสงบ ผ่านการละเล่นหรือนิทาน และสร้าง ความบันเทิง หรือถ่ายทอดผ่านศิลปวัฒนธรรรม บทเพลง และการแสดง โดยมี พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ ชาวต่างประเทศจากนานประเทศ รวม 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศบังกลาเทศ, อินโดนีเซีย, สปป.ลาว, เมียนมาร์, เนปาล, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, ศรีลังกา และประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

***ทั้งนี้คำว่า คติชนวิทยา ถือว่ามีความสำคัญในการศึกษา วิถีชีวิต ความเชื่อ และของกลุ่มคนในสังคมไทยหรือนานาชาติ ทำให้เราเข้าใจและเห็นคุณค่าของ ภูมิปัญญาดั้งเดิม ของบรรพบุรุษ ช่วยอบรมสั่งสอน และสร้าง คุณธรรมจริยธรรม ให้กับคนในสังคม นอกจากนี้ยังให้ความรู้ ฝึก ผ่านการละเล่นหรือนิทาน และการสร้าง การแสดง ความบันเทิง หรือถ่ายทอดผ่านศิลปวัฒนธรรรม บทเพลง ซึ่งสามารถคลายความเครียดได้

***โดยกิจกรรมภายในงานมีการแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ที่ไม่ค่อยได้เห็นกัน ผ่านการแสดง และเสียงเพลง จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศบังกลาเทศ, อินโดนีเซีย, สปป.ลาว, เมียนมาร์, เนปาล, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, ศรีลังกา และประเทศไทย อาทิ การเล่นดนตรี เต้นรำ ของชาว โปแลนด์, การเต้นรำ ของชาวฟิลิปปินส์, การร้องเพลวจาก สปป.ลาว, การแสดงวิธีแกลมอ ของชนเผ่าส่วย (ประเทศไทย) และการแสดงประเพณีการเลี้ยงปู่ตา ของชนเผ่าส่วย (ประเทศไทย)

***นอกจากนี้ยังมีการแสดงปฐกถาจาก พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ในหัวข้อ “บทบาทของวัดในฐานะศูนย์กลางการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น การใช้ธรรมและสมาธิเพื่อสร้างสันติสุข” การสอนชาวนานๆชาติตั้งสติและนั่งสมาธิ การนำชาวนานาชาติร่วมขึ้นเกวียนแห่กองยาวชมความงามรอบพระธาตุหนุนดวง ของวัดนาโนน

ซึ่งความสนุกสนานให้กับชาวต่างชาติ และผู้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดภัยสงครามระหว่างไทยกัมพูชาทำให้นานาชาติไม่กล้าเข้ามาเที่ยวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่สงครามได้สงบทำให้นานาชาติมีความเชื่อมั่นและหันเข้ามาเที่ยวและทำกิจกรรมในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์