คลังเก็บหมวดหมู่: กิจกรรมเพื่อสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โครงการตรวจเยี่ยมบ้านคนพิการตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง” พร้อมมอบชุดยังชีพแก่ทหารผ่านศึก คนพิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 40 ราย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 10.00 – 11.00 น.
สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล
คณะจิตอาสาพระราชทาน 904 นายนครินทร์ เทพรักษ์ รองหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตเลย และคณะ

นายเสนีย์ จิตตเกษม ประธานกรรมการส่วนภูมิภาค ภาค 10 สภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ นางศรัณยา สุวรรณพรหม รองประธานกรรมการประสานงานส่วนภูมิภาค ภาค 10/ประธานผู้ประสานงานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ

ประจำจังหวัดหนองบัวลำภูพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภู ร.ต.อ.ชาญชัย วรรณโรจน์ คณะกรรมการผู้ไกล่เกลี่ย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สัสดีอำเภอนาวัง

ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวังปลาป้อมวิทยศึกษา และคณะครู
• นางฐานิดา อนุอัน นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
• น.ส.ชญาภา เทียมเมฆ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลประจำจังหวัดบุรีรัมย์
• ชมรมช่วยเหลือสังคม
• นายธวัชชัย จิตต์เจริญ ที่ปรึกษาสมาคมคนพิการฯ
• กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม.

ร่วมกันจัดกิจกรรม “โครงการตรวจเยี่ยมบ้านคนพิการตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง” พร้อมมอบชุดยังชีพแก่ทหารผ่านศึก คนพิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 40 ราย

โดยมี พันเอกอาร์ม ยศสุนทร รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานในพิธีมอบ ณ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนชุมชนวังปลาป้อมวิทยศึกษา ตำบลวังปลาป้อม อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู

ขอขอบคุณผู้ร่วมบริจาคมา ณ โอกาสนี้ 🙏สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล : ชุดยังชีพ 20 ชุดนางศรัณยา สุวรรณพรหม : ชุดยังชีพ 20 ชุด และน้ำดื่ม 40 โหลโรงแรมเซ็นธารา : แปรงสีฟันและยาสีฟัน 10 ลัง

⸻สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตเลยสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภูองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภูชมรมช่วยเหลือสังคมทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่3ทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่4

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานมหกรรม “เที่ยวเมืองชล ถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์” จัดเต็ม 24-28 ก.ย.นี้ ริมทะเลพัทยา

แชร์เนื้อหานี้

เวลา 18.30 น. วันที่ 15 ก.ย.68 ที่ลานซันเคน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยา จ.ชลบุรี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมจัดงานมหกรรม “เที่ยวเมืองชล ถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์” โดยมี นายศิวัช บุญเกิด รองปลัดเมืองพัทยา นางสาวคนึง ไข่ลือนาม วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี และนางรำพึง ศุภราศรี ประธานชุมชนคุณธรรมตะเคียนเตี้ย – บ้านหนองพลับ ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและผู้สนใจ

ทั้งนี้ จังหวัดชลบุรี ได้กำหนดจัดงานมหกรรม “เที่ยวเมืองชล ถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์” ภายใต้โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มระดับรายได้ กิจกรรมหลักยกระดับให้เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีคุณภาพระดับนานาชาติ กิจกรรมย่อย มหกรรม “เที่ยวเมืองชล ถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์” ระหว่างวันที่ 24-28 กันยายน 2568 ที่บริเวณชายหาดพัทยากลาง

ภายในงานจะมีกิจกรรมนิทรรศการเส้นทางการท่องเที่ยวทั้ง 11 อำเภอของจังหวัดชลบุรี, กิจกรรม workshop เกี่ยวกับศิลปะ และวัฒนธรรม, การออกร้านให้ได้เลือกชม ชิม ช็อป ผลิตภัณฑ์และ

อาหารพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อจากทั้ง 11 อำเภอในจังหวัดชลบุรี, การแสดงดนตรีทั้งดนตรีไทย-ดนตรีร่วมสมัย และการแสดงทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ภายใต้อัตลักษณ์ความเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเล

เพื่อพัฒนา และยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในจังหวัดชลบุรี ใช้มิติทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ในการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมจากความภาคภูมิใจของประชาชน

ในท้องถิ่นสู่แรงบันดาลใจ และพัฒนาต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และนำทุนทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นมาต่อยอดและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและท้องถิ่นต่อไป โดยสามารถเข้าร่วมงานตามวัน เวลาแบะสถานที่ดังกล่าว ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศอ.บต. ร่วมต้านภัยใบกระท่อมในเยาวชน ชี้ “เราไม่เล่น ยาเสพติดจะเล่นเรา”

แชร์เนื้อหานี้

     โรงเรียนจะนะวิทยาได้จัดกิจกรรมสำคัญในหัวข้อ “สร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญา ต้านภัยใบกระท่อม” ณ หอประชุมโรงเรียน เพื่อปลุกจิตสำนึกและให้ความรู้แก่เยาวชนถึงอันตรายของยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบกระท่อม ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในสังคม
     กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอิบรอเหม เบ็ญนา ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ ผอ.กสม. ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) ซึ่งได้ร่วมมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนที่ชนะการประกวดคลิปสั้นในหัวข้อ “การรณรงค์และแก้ปัญหาพืชกระท่อม” และได้กล่าวบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเป็นข้อคิดเตือนใจแก่นักเรียนทุกคน โดยมี ว่าที่ ร.ต.สิรภพ จิวานิจ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครูและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
   นายอิบรอเหม กล่าวถึงความสำคัญของการศึกษาว่า “ส่วนมากคนที่ทำผิดอยู่ในเรือนจำไม่รู้หนังสือ การศึกษาให้โอกาสแก่พวกเราได้สร้างอนาคต” พร้อมทั้งย้ำเตือนให้นักเรียนตั้งใจเรียน ตั้งใจศึกษา เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างอนาคตของตนเองให้สำเร็จตามที่ฝันไว้ ประเด็นสำคัญของการบรรยายอยู่ที่การเตือนภัยจากยาเสพติด โดยเฉพาะคำกล่าวที่ว่า "ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เล่นยาเสพติด แต่ยาเสพติดจะเล่นเรา" ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้เสพเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงคนรอบข้างและสังคมโดยรวม เนื่องจากเมื่อผู้เสพไม่มีเงินซื้อยา ก็จะเริ่มก่ออาชญากรรม ไม่ว่าจะเป็นการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือแม้แต่การทำร้ายผู้อื่นเพื่อต้องการเงินมาสนองความต้องการของตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างความไม่ปลอดภัยให้กับคนในชุมชน
  ก่อนจบการบรรยาย นายอิบรอเหมได้ทิ้งท้ายด้วยการขอให้นักเรียนทุกคนช่วยกันปกป้องตนเองและสังคมจากยาเสพติด หากพบเห็นผู้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติด ขอให้แจ้งผู้ปกครองหรือเจ้าหน้าที่ทันที และขอให้ทุกคนตั้งใจทำความดีเพื่อตนเอง พ่อแม่ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

ปัตตานี.- เลขาฯ ศอ.บต. ชี้ ‘การเยียวยา’ ไม่ใช่แค่เงิน แต่คือ ‘ความรู้สึก’ เน้นเร็ว-ต่อเนื่อง ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต-ชุมชน

 วันที่ 14 กย 68 พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวถึงภารกิจการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ว่าเป็นภารกิจสำคัญสูงสุดที่ต้องทำอย่างรวดเร็ว โดยย้ำว่าความสำคัญของการเยียวยาไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน แต่คือ "ความรู้สึก" ของการได้รับความดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐ 

  เลขาธิการ ศอ.บต. ระบุว่า ความรวดเร็วในการเข้าไปดูแลผู้ได้รับผลกระทบเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะประชาชนไม่ได้ต้องการให้เหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วรัฐต้องเข้าไปดูแลอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ สิ่งสำคัญรองลงมาคือ "ความต่อเนื่อง" โดยการเยียวยาจะต้องไม่เป็นการช่วยเหลือแล้วแยกย้ายกันไป แต่ต้องดูแลในเชิงคุณภาพชีวิต ความรู้สึก และสภาพจิตใจด้วย 

พันตำรวจโท วรรณพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ระดับบุคคลหรือครอบครัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงระดับชุมชนและพื้นที่อย่างมาก ทั้งในเรื่องของความเชื่อมั่นและความรู้สึกอบอุ่นในการอยู่ร่วมกัน  ดังนั้น การเยียวยาในความหมายของ ศอ.บต. จึงไม่ใช่แค่การดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น ชุมชน ที่ต้องได้รับการดูแลเยียวยาในรูปแบบที่เหมาะสมด้วย 

 นอกจากนี้ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ ยังได้กล่าวถึงแนวคิดของ "พื้นที่กลาง" ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ โดยพื้นที่กลางคือที่ที่ทุกคนมีโอกาส มีความสุข สามารถอยู่ร่วมกันและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ และรัฐจะต้องเข้าไปสนับสนุนสิ่งเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีความขัดแย้ง เขาเชื่อว่าหากทุกคนเข้าใจแนวคิดของพื้นที่กลางแล้ว จะสามารถนำไปสู่การอยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรมได้อย่างเต็มรูปแบบ แม้จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันก็ตาม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดงาน “เทศกาลคนปลูกกาแฟน่าน Nan Coffee Farmer’s Fest 2025” ยกระดับกาแฟน่านสู่เวทีระดับประเทศ

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (12 กันยายน 2568) เวลา 18.00 น. ที่บริเวณข่วงน้อยเมืองน่าน นายประจักร์ ไชยกิจ ปลัดจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลคนปลูกกาแฟน่าน Nan Coffee Farmer’s Fest 2025” โดยมีนายศักดิ์สิทธ์ ศรีวิชัย เกษตรจังหวัดน่าน ในนามหน่วยงานผู้จัดงาน กล่าวรายงานและขอบคุณท่านประธานในพิธี

การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แหล่งผลิตและผลิตภัณฑ์กาแฟน่านให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับประเทศ พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเป้าหมาย อันจะช่วยขับเคลื่อนห่วงโซ่การผลิตกาแฟน่านตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12–14 กันยายน 2568 ภายใต้แนวคิด “ความหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟน่าน (Unity through Diversity)” สะท้อนถึงความหลากหลายของสายพันธุ์กาแฟ ทั้งอาราบิก้าและโรบัสต้า

ที่สามารถปลูกได้ในพื้นที่จังหวัดน่าน อันเป็นผลจากภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสม ทำให้กาแฟน่านมีคุณภาพและเอกลักษณ์โดดเด่น การันตีด้วยรางวัลจากการประกวดระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ
• การประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟประจำปี 2568 ซึ่งมีตัวอย่างเมล็ดกาแฟเข้าร่วมกว่า 100 ตัวอย่างจากทั่วประเทศ
• การจัดแสดงนิทรรศการและออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟจากเกษตรกร

กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการกว่า 50 บูธ
• การเสวนาทิศทางกาแฟโลกกับการพัฒนากาแฟน่าน
• คลินิกกาแฟและเวิร์กช็อปการคัดเมล็ดกาแฟ
• กิจกรรม Cupping กาแฟ
• การประกวดธิดากาแฟ
• การแข่งขันด้านทักษะกาแฟ เช่น คัดเมล็ด ดริปกาแฟ และชิมกาแฟ

โอกาสนี้ ปลัดจังหวัดน่านได้กล่าวเปิดงาน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการกาแฟ และการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกาแฟน่าน สู่สินค้าเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว”

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันพฤหัสบดี ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น.นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธาน เปิด โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบ นักท่องเที่ยว” ณ หาดทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร กล่าว โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว” จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการให้บริการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส เป็นธรรม และปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร

๒. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวมี จิตสำนึกในการประกอบธุรกิจอย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว และ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว ๓. เพื่อสร้างความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดชุมพร ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เป็นมิตร และมีความรับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ได้รับการสนับสนุน งบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ แผนงาน : บูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว หมวดงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการดำเนินโครงการของสำนักงานการ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ได้เล็งเห็น ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว

โดยเน้นการ สื่อสารเชิงบวกและการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ผ่านกิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว” ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัด กระตุ้น จิตสำนึกและมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้าง ความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความ เป็นธรรม

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าว่า โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญห
ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบ นักท่องเที่ยว”
ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิด โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการ ท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว”

ในวันนี้จากการกล่าวรายงานของท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ทำให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญยิ่งในทางเศรษฐกิจที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจช่วงทศวรรษที่ผ่านมา องค์กรและหน่วยงานต่างๆ มุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานบริการ

ในพื้นที่ พัฒนาแนวทางการบริหาร จัดการท่องเที่ยวในระดับจังหวัด เสริมสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่น และ สนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนและมีความรับผิดชอบตามแนวทางของ เศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจสีเขียว อันจะนำไปสู่การยกระดับขีด ความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรในระยะยา

ผมขอชื่นชมคณะทำงานและเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้ร่วมกัน จัดโครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาด้าน การท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร กิจกรรม “Clean & Fair เที่ยวชุมพร มั่นใจ ปลอดภัย ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว” และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัด กิจกรรมในครั้งนี้ จะบรรลุประสงค์ทุกประการ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 25 จัดแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง เจ้าแห่งสายน้ำ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 วันนี้ (11 ก.ย. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีเปิดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ประจำปี 2568

ร่วมกับ ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร , สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร

ร่วมในพิธี ณ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง

ธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชน และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อปวงชนชาวไทย

นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร จัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง จังหวัดชุมพร ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 10 – 14 กันยายน 2568

ณ คลองในหลวงหัววัง-พนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมืองชุมพร ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในประเภท 32 ฝีพายผู้นำ และประเภท 16 ฝีพายทั่วไป, ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ในประเภทเรือยาว 32 ฝีพายทั่วไปภายในจังหวัดชุมพร, และถ้วยพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางวัฒน วรขัตติยราชนารี ในประเภทเรือยาว 8 ฝีพาย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการแสดงถึงพระราชกรณียกิจ

ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,การประกวดกองเชียร์แข่งขันเรือยาว, การแสดงลานวัฒนธรรม, การแสดงศิลปวัฒนธรรม, การแสดงถึงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร

ได้จัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง ณ คลองหัววัง – พนังตัก มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ซึ่งนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีอันงดงามของไทยให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแก่รุ่นหลังแล้ว

ยังถือเป็นกิจกรรมสำคัญของชาวจังหวัดชุมพร ที่ได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงพระเมตตาและความห่วงใยพสกนิกรชาวชุมพรมาโดยตลอด

โดยเฉพาะในด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งในอดีตพื้นที่ตัวเมืองชุมพรต้องประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แต่ด้วยพระราชดำริในการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ และการขุดคลองหัววัง – พนังตัก ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ปัญหาดังกล่าวจึงค่อย ๆ บรรเทาเบาบางลง นับเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันแสดงพลังแห่งความสามัคคี

พร้อมส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้คงอยู่คู่ชุมพรสืบไป ภายใต้เสียงกลอง เสียงพาย และแรงเชียร์ที่ดังกระหึ่มเหนือสายน้ำแห่งศรัทธา ซึ่งไม่เพียงเป็นการแข่งขัน หากยังเป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณของชาวชุมพรที่พร้อมใจเทิดทูนสถาบัน ชื่นชมรากเหง้าทางวัฒนธรรม และร่วมสร้างความภาคภูมิใจให้บ้านเกิดอย่างแท้จริง

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กฟผ.จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ด้านความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า และซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคาร โรงเรียนน่านประชาอุทิศ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ณ โรงเรียนน่านประชาอุทิศ ต.กองควาย อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายเวธิต ยะติ ผู้อำนวยการโรงเรียนน่านประชาอุทิศ ได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณคณะบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)

คณะบริหารเทศบาลตำบลกองควาย รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน รองผอ.คณะอาจารย์ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคน่าน ทีมข่าวสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ผู้นำท้องที่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนน่านประชาอุทิศ

โดยมี ดร.ธงชัย ดิษยเดช วิศวกรระดับ 9 ทำหน้าที่หัวหน้าแผนกบำรุงรักษา สถานีไฟฟ้า 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกล่าวรายงานวัตถประสงค์ต่อคุณโสภา ชวนวัน รองผอ.สพม.น่าน ประธานในพิธีเปิดโครงการEgat together2025 กิจกรรมเสริมสร้างความรู้

ด้านความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคารซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับ วิทยาลัยเทคนิคน่าน ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ด้านความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า และซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในอาคารโรงเรียน
น่านประชาอุทิศ ระหว่างวันที่ 8-11กันยายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้


1.เพื่อให้นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ
ไฟฟ้า รวมถึงระบบไฟฟ้าภายในอาคารมีความปลอดภัย และประหยัดพลังงาน
2.เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตระหนักถึงอันตราย และใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยความปลอดภัย

3.เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิต และทรัพย์สินได้ อีกทั้ง
สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกวิธี ตลอดจนถึงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน ต่อไป/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/วิสุทธิ์ ศรีเมือง/ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เทศบาล ต.ท่าข้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ มอบหมวกนิรภัย สวมใส่ปลอกภัย 100 %

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ณ เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังนครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ผ่านพี่น้องประชาชนประสบอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะการขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ซึ่งมีจำนวนมากทางจังหวัดมีนโยบายรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หมวกนรภัยตามที่กฎหมานกำหนด จังหวัดจึงเป็นห่วงพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้ซ้อนท้ายหากไม่สวมหมวกนิรภัยจะมีบทลงโทษจับปรับ

ซึ่งมีอัตราค่าปรับสูงถึง 2,000 บาท ทางจังหวัดจึงมีความเป็นห่วง จึงได้มีการรณรงค์ให้สวมหมวกนิรภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีภาคเอกชนร่วมกับสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมา นำหมวกนิรภัยมอบให้เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติแจกหมวกนิรภัยให้กับชาวบ้านที่ไม่มีหมวกได้สวมใส่แบบฟรี สำหรับประชาชนที่ไม่ได้มารับแจกหมวกนิรภัย สามารถ ยืนหมวกนิรภัยได้ที่บ้านกำนัน อำเภอ และสถานีตำรวจ สวมใส่ขับขี่เพื่อความปลอดภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันอุบัติเหตุ นายสุรพันธ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายราชัน เศวตอมรกุล นายกเทศบาลตำบลท่าช้าง กล่าวต่อว่า เทศบาลตำบลท่าช้าง จัดทำ โครงการสวมหมวกนิรภัย แบบ100 เปอร์เซนต์ เทศบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนหมวกนิรภัยจากสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมาและภาคเอกชนจำนวน 300 ใบ อย่างไรก็ดี นายกราชัน จึงขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการสวมใส่หมวกนิรภัยอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันอย่างเข้มงวด จึงอยากให้มีการตับปรับให้เป็นมาตรฐานชาวบ้านจึงได้เล็งเห็นถึงควาปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะการปรับ มรโทษการจับปรับสูงถึง 2,000 บาท จึงอยากให้พี่น้องขาวตำบลท่าข้างสวมใส่หมวกนิรภัยตามกฎหมายกำหนด

นายพุฒิ พงศ์รพีพร นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่าในห้วงที่ผ่านมาทางราชการได้รับการสนับสนุนหมวกนิรภับกับทางคณะสงฆ์และเอกชน มาททำเป็นธนาคารหมวกกันน็อคซึ่งแต่ละตำบลมีหมวกนิรภัยตำบลละ 10ใบ ให้ประชาชนได้ยืมสวมใส่ ทาางสถานีตำรวจ มีให้ยืม จำนวน 30 ใบและอำเภอ อีก 20 ใบ ซู่งอำเภเฉลิมพระเกียรติให้ประชาชนที่ไม่มีหมวกนิรภัยยืมสวมใส่ กับธนาคารหมวกสวมใส่เพื่อความปลอดภั ยผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ทางสถานีตำรวจอำเภอเฉบิมพระเกียรติได้มีการจัดตั้งธนาคราให้ยืมหมสกนิรภัยให้กับกับประชาชนที่ไม่มีสวมใส่ เพราะกฎหมายได้ออกมามห้ผู้ขับขี่และผู้ซัอนสวมใส่หมวกนิรภัย หากไม่สวมใส่ตะมีการจับปรับจริง ซึ่งมีโทษจัยปรับสูงถึง 2,000 บาท ยึงมีความเป็นห่วงประชาชน ให้ประชาชนเคารพกฎหมายโดยการสวมใส่หมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัย ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าว

นางจุรีพร เศวตอมรกุล นายกสโมสรไลอ้อนจังหวัดนครราชสีมา กล่าว่าทางสโมสรไหลอ้อน ได้เล็งเห็นความปบอดภัยของชาวบ้าน ทางสโมสรไบอ้อนจึงรวมกับภาคเอกชนนำหวกกนิรภัยจำนวน 300 ใบมอบให้โครงการขับขี่ปลอดภัยสวมหมวกกันน็อคอย่างปลอดภัยกับเทศบาลตำบลท่าช้าง เพื่อมอบให้พี่น้องประชาชนได้สวมใส่และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เปิดแล้ว! ลานวัฒนธรรมในงานแข่งเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง 2568

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 18.30 น. นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรให้เกียรติมาเป็นประธานเปิด กิจกรรม “ลานวัฒนธรรม ประจำปี 2568”

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานแข่งเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธงจังหวัดชุมพร ณ เวทีกลาง คลองหัววังพนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพ

นางดวงใจ เสมแก้ว รองปลัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร กล่าว ลานวัฒนธรรมโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้มี โอกาสแสดงความสามารถด้านศิลปะต่าง ๆ และเชิญชวนผู้สนใจร่วมแต่งกาย ด้วยชุดไทยอันเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน

ลานวัฒนธรรมกำหนดจัด งานระหว่างวันที่ 10-14 กันยายน 2568 วันที่ 10 กันยายน 2568 การประกวดขับร้องเพลงลูกทุ่ง ประเภท ผู้สูงอายุ มีผู้สมัคร จำนวน 12 คน วันที่ 11 กันยายน 2568 ชมดนตรีโดยศิลปินผู้อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ คุณเอกชัย ศรีวิชัย วันที่ 12 กันยายน 2568

การประกวดขับร้องเพลง ประเภทเด็ก และเยาวชน รุ่นอายุระหว่าง 10-14 ปี และ อายุระหว่าง 15-18 ปี มีผู้สมัคร จำนวน 22 คน วันที่ 13 กันยายน 2568 การแสดงศิลปวัฒนธรรม จาก กลุ่มพลังสตรี จังหวัดชุมพร จำนวน 7 ชุดการแสดง สำหรับการเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ

ร่วมแต่งกายชุดไทย นั้น ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผ่านทางสื่อโซเชียลทุกช่องทาง อาทิ กลุ่มไลน์ เฟสบุ๊ค องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร โดยได้รับการสนับสนุนรางวัล จากผู้ใหญ่ใจดี จำนวน 12 รางวัล มูลค่ารวม24,000 บาท เพื่อมอบให้กับ ผู้ร่วมงานที่แต่งกายชุดไทย สวยงาม เหมาะสม และถูกใจกรรมการ ผู้มอบรางวัล ผู้จัดงาน มุ่งหวังให้การจัดงานครั้งนี้

สามารถสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์ ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย เพื่อร่วมสร้างความภาคภูมิใจ ในความเป็นไทย และส่งผ่านเอกลักษณ์ไทยที่ถูกต้อง ส่งต่อให้เยาวชนคนรุ่นหลัง ได้รักษา และต่อยอดสืบไปอย่างยั่งยืน

นายนพพร อุสิทธิ์ กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติมาเป็นประธาน ในพิธีเปิดลานวัฒนธรรม งานประเพณีแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง คลองในหลวง หัววัง-พนังตัก ในวันนี้ ตามที่ท่านรองปลัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของ การจัดกิจกรรม ลานวัฒนธรรม

นับว่าเป็นการสนองพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่ พ.ศ. 2503 ทรงริเริ่มให้มีการศึกษาและปรับปรุงการแต่งกาย ชุดไทยให้มีความเหมาะสมกับกาลสมัย เพื่อความภาคภูมิใจในความ เป็นไทย อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำริเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงกลุ่ม LGBTQ ร่วมกันสวมใส่ ชุดไทยพระราชนิยม ทั้ง 8 แบบ อย่างภาคภูมิใจ เพื่อแสดง อัตลักษณ์ความเป็นไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก และนำเสนอต่อยูเนสโก

เพื่อประกาศเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ผมขอชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรม ลานวัฒนธรรมครั้งนี้ ตลอดจนการเชิญชวนให้แต่งกายชุดไทย เป็นการ สร้างสีสันของงาน ถือเป็นแนวคิดร่วมสมัย ส่งเสริมความเป็นไทย และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน สืบไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดกิจกรรมสภากาแฟชุมพร พบปะพูดคุย เพื่อร่วมพัฒนาจังหวัดชุมพร

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้(วันที่ 8 กันยายน 2568)จังหวัดชุมพรจัดกิจกรรมสภากาแฟชุมพร นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ร่วมในกิจกรรมสภากาแฟชุมพร

ณ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจจังหวัดชุมพร (สวนผึ้ง) ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จัด

โดยหน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร สภากาแฟ ชุมพร ครั้งที่ 9/2568

มีผู้เข้าร่วม คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนในพื้นที่ ได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

และสร้างความสัมพันธ์อันดีร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาจังหวัดชุมพรในด้านต่างๆ

กระทรวงเกษตรฯ ชุมพร เป็นเจ้าภาพ “สภากาแฟ” จิบกาแฟ และรับประทานอาหารว่างยามเช้า พร้อมกับพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน สำหรับกิจกรรมสภากาแฟชุมพร

จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้จักซึ่งกันและกัน ระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานราชการในจังหวัดชุมพร

ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสานความร่วมมือ ซึ่งกันและกัน ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ด้วยแนวความคิดที่ต้องการให้หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน รวมไปถึงสื่อมวลชนในพื้นที่ได้พบปะพูดคุยกัน เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์ถึงข้อมูลข่าวสาร

ภารกิจหน้าที่ รวมไปถึงโครงการต่างๆ ให้หน่วยงานอื่นได้รับทราบ เพื่อง่ายต่อการประสานความร่วมมือ

ต่อมา ตัวแทน หน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร ส่งมอบ ป้ายสัญลักษณ์ ถ้วยกาแฟ ให้กับผู้แทน

หน่วยงาน สังกัด กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 10/2568 ต่อไป

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 ภาพ/ข่าว