คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าวเตรียมจัดศึกตะกร้อ “Sepak akraw T20 Super Match” ชิงถ้วยผู้ว่าฯน่าน รางวัล 1 แสนบาท 12-13 ธันวาคม 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ- ห้องประชุมสุริยานุเคราะห์ โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน จังหวัดน่าน
โดยสมาคมกีฬาจังหวัดน่าน ร่วมกับ ร้าน T 20 น่าน แถลงข่าวเตรียมจัดศึกตะกร้อ “Sepak Takraw T20 Super Match” ชิง
ถ้วยผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท ระหว่างวันที่12-13 ธันวาคม 2568 ณ สนามแข่งขัน หน้าห้างไฮเปอร์มาร์ท จังหวัดน่าน

โดยมีนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการแถลงข่าวในครั้งนี้นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวถึงกิจกรรมครั้งนี้ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่จังหวัดให้ความสำคัญกับการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมสุขภาพ และเป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และเชิญชวนพี่น้องชาวน่าน

มาร่วมชม ร่วมเชียร์และเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักกีฬาที่เดินทางเข้ามาเยือนเมืองน่านนายสาธิต บุญทอง นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดน่าน กล่าวถึงการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนากีฬากีฬาเชปักตะกร้อโดยตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนานักกีฬาเซปักตะกร้อของจังหวัดน่านให้ก้าวสู่ระดับชาติ และเป็นการสร้างกระแสการตื่นตัวของการกีฬาในจังหวัดน่าน

“เต้ย”ธีระพล ปะโปตินัง อดีตนักตะกร้อโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจ T20 น่าน เปิดเผยว่า
วัตถุประสงค์ที่ทาง T20 น่าน และ สมาคมกีฬาจังหวัดน่าน เตรียมจัดการแข่งขันตะกร้อรายการนี้ เพื่อต้องช่วยปลุกกระแส
วงการตะกร้อในจังหวัดน่าน และอยาก-เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการตะกร้อเมืองไทยในทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ก็เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในการเปิดธุรกิจ “T20 น่าน สปอร์ตคอมเพล็กซ์” ซึ่งจะเป็นศูนย์ร่วมพื้นที่ในการออกกำลัง
กายของผู้ที่ชื่นชอบกีฬา และรักสุขภาพ ซึ่งจะมีทั้ง สนามมวย สนามตะกร้อ สนามเทคบอล สนามเทควันโด สนุกอร์คลับ
ยิมฟิตเนส

อยู่ในพื้นที่ “T20 น่าน สปอร์ดคอมเพล็กซ์” และจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในราวเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ด้วย โดยจะที่ม
ทีมตะกร้อ 16 ทีม เข้าร่วมการแข่งขัน ดังนี้ 1.โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี 2.โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา 3.โรงเรียนสวน
กุหลาบวิทยาลัย รังสิต 4.สปป ลาว 5.โรงเรียนพันดอนวิทยา 6.โรงเรีบนกีฬาเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด 7.โรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง

8.โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร 9.โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม 10.โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม 11.โรงเรียนกีฬานคร
นนท์วิทยา 6 12.โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 2 (สมาน สุเมโธ) 13.โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนม 14.โรงเรียนกีฬาเทศบาลนคร
นครราชสีมา 15.โรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี 16. ทีมจังหวัดน่าน

และยังมีนางสาวดารารัตน์ ภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน นายเสริฐ โชยยานันตา ท่องเที่ยว
และกีหาจังหวัดน่าน นายอนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานน่าน และนายพรเทพ เสนนันตา
ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน ร่วมขึ้นเวทีแถลงข่าวในการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ยกเครื่องระบบสุขภาพปฐมภูมิ “Korat Model”“นายกหน่อย” หัวเรือใหญ่ ตั้งโต๊ะ!! Brainstormเปิดเวที ถกทิศทางออกแบบงานด้านสาธารณสุขอย่างมีส่วนร่วม

แชร์เนื้อหานี้

อบจ.โคราช – หน่วยงานสาธารณสุข ร่วมเวทีถกทิศทางเดินหน้าระบบสุขภาพปฐมภูมิ ด้าน “นายกหน่อย – ยลดาฯ” นั่งหัวโต๊ะ เปิดประเด็นการมีส่วนร่วมแบบ “บัดดี้” ยก สสจ.โคราช เป็นพี่เลี้ยง พร้อม โรงพยาบาลอำเภอ ร่วมออกแบบงานด้านสาธารณสุข เพื่อขับเคลื่อนระบบสุขภาพปฐมภูมิ “Korat Model” ที่จะส่งผลให้ประชาชนคนโคราชมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ย้ำ!! อบจ. จะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะตรงนี้ถือเป็นงานใหม่ที่ท้าทาย!!

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ โรงแรมเดอะริช นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา, นพ.วิชาญ คิดเห็น นพ.สสจ.นครราชสีมา นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายก อบจ. นายวุฒิชัย วงค์ปัญโญ ปลัด อบจ. และ นพ.สุผล ตติยนันทพร ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข พร้อมด้วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำอำเภอ(รพช.) 32 แห่ง, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ หน่วยงานสาธารณสุข ใน จ.นครราชสีมา ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ “Korat Model”

เพื่อหารือการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนามาตรฐานบริการ การจัดบริการระบบสุขภาพ การจัดการทรัพยากรในระบบสุขภาพ ระดมแนวคิดออกแบบงานด้านสาธารณสุขอย่างมีส่วนร่วม โดยเฉพาะด้านงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) งานสุขภาพช่องปาก รวมถึงการพัฒนาและแลกเปลี่ยนระบบข้อมูลสารสนเทศด้านสาธารณสุข นำมาสู่การจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนในระดับจังหวัดและคณะกรรมการขับเคลื่อนในระดับอำเภอ เพื่อเกิดการขับเคลื่อนงานร่วมกันอย่างยั่งยืน

ซึ่งกว่า 3 ปี ที่ อบจ.นครราชสีมา ได้มีการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) จำนวน 182 แห่ง และต้องดูแลงานด้านสาธารณสุข พัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ในภาพรวมของจังหวัดทั้งหมด โดยที่ทุกภาคส่วนต้องดูแลและรับผิดชอบร่วมกัน ทำให้เกิด Model ความร่วมมือ ที่จะส่งผลให้ประชาชนคนโคราชมีสุขภาพกายและใจแข็งแรง ห่างไกลภาวะซึมเศร้าและโรคจิตเวช อบจ. จะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะตรงนี้ถือเป็นงานใหม่ที่ท้าทาย แต่เพื่อประชาชน เราจะตกผลึกและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิ่งสำคัญคือการร่วมมือกัน อบจ. เป็นท้องถิ่น สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางที่ดี ภายใต้การทำงานเป็นทีม เราจะนำเสียงสะท้อนของประชาชนมาขับเคลื่อนการทำงาน โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพที่ต้องทำร่วมกัน การป้องกันโรค การรักษาระดับปฐมภูมิ การฟื้นฟู และ End-of-Life Care

นอกจากนี้ อบจ.นครราชสีมา ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน ปัจจุบันมีทั้งหมด 44 แห่ง มีการทำงานเติมเต็มระบบฟื้นฟูสุขภาพประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลด้วยมาตรฐาน การจัดบริการดูแลในเขตบริการของ รพ.สต. ในสังกัด อบจ. การฟื้นฟูชุมชน นอกจากนี้ อบจ. ยังมีนโยบายที่จะจัดส่งรถโมบายเคลื่อนที่ให้บริการด้านสาธารณสุขในชุมชน ประชาชนได้เข้าถึงการบริการของรัฐ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดความแออัดในโรงพยาบาล ภายใต้การดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขแบบบูรณาการ เพราะ “สุขภาพคนโคราชต้องดีไปด้วยกัน”

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เทศบาลชุมแพ จัดแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาฟุตบอล”ชุมแพคัพ”ครั้งที่ 33 ชิงถ้วยพระราชทานฯ 9-29 ธค. 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 09.45 น. นายเสกสิทธิ์ สัธนะกุล นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองชุมแพ เป็นประธานพิธีจัดแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาฟุตบอลประจำปี ชิงถ้วยพระราชทานพร้อมเงินรางวัล ” ชุมแพคัพ,” ครั้งที่ 33

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทอายุไม่เกิน 12 ปีและประเภทประชาชนทั่วไป การแข่งขันเริ่มขึ้นระหว่าง 9-29 ธันวาคม 2568 ณ.สนามโรงเรียนเทศบาล 1(สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอุปถัมภ์)มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการกีฬา เพื่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชน

ได้ออกกำลังกายโดยใช้กีฬาเป็นสื่อการกีฬาทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เป็นการส่งเสริมพัฒนาการกีฬาและเศรษฐกิจให้เจริญยั่งยืน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันจึงมีการจับฉลากแบ่งสาย

โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวเป็นสักขีพยาน พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ ศิริแก้ว สวป.สภ.ชุมแพ นางสาวรติมา สิริวรพิทักษ์ รองนายกฯ นายราชันย์ ดาวังปา ประธานกรรมการตัดสิน นายอาทิตย์ ถนอมทุน รองนายกฯ ฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชุมแพ หัวหน้าส่วนราชการและคณะสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน เสร็จภาระกิจจึงได้ปิดการแถลงข่าว

ภาพ/ข่าว กบชุมแพ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปลัดกระทรวงคมนาคม พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคม 2568

แชร์เนื้อหานี้

ที่ ด่านตรวจพรมแดนบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2568 ร่วมกับอธิบดีกรมทางหลวง

และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ปลัดจังหวัดบึงกาฬ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ก่อสร้างสมบูรณ์แล้ว 100 % ทั้ง 2 ฝั่งโขง ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำในเรื่องความพร้อมของพิธีเปิดงาน ไฟส่องสว่าง และจุดให้บริการประชาชนที่มาร่วมในพิธีเปิด

สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ มีจุดก่อสร้างฝั่งไทยตั้งอยู่ที่บ้านดอนยม หมู่ที่ 5 ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ และฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ที่บ้านกล้วย แขวงบอลิคำไซ มูลค่าการลงทุน 3,930,000,000 บาท

โดยแยกเป็นฝั่งประเทศไทยวงเงิน 2,630,000,000 บาท และฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วงเงิน 1,300,000,000 บาท โดยหากเปิดใช้งาน จะสามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เป็นอย่างด
ภาพ/ข่าว ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่สำรวจยุทธศาสตร์แก่งผาได-บ้านดอนที่ แนวชายแดนเชียงราย

แชร์เนื้อหานี้

สืบเนื่องจากวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด และ พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 5 ได้ลงพื้นที่ สปป.ลาว เพื่อประสานความร่วมมืิอกับคณะผู้แทนระดับสูงของ สปป.ลาว ในการร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติด และตรวจเยี่ยมด่านน้ำเกิ๋ง และด่านปากทา ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการสกัดกั้นยาเสพติดในเส้นทางคมนาคมของ สปป.ลาว.

ในวันนี้ (22 พฤศจิกายน 2568) เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ได้ลงพื้นที่ แก่งผาได ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านปากทา สปป.ลาว เพื่อสำรวจสภาพภูมิประเทศ และหารือกับหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น พล.ต.สาธิต ไวยนนท์ ผบ.กกล.ผาเมือง พ.อ.ธนพันธ์ ขำทวี รอง ผอ.รมน.ภาค3 สย.2 พ.อ.สุพรรณ ร้อยพุทธ ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี ผบ.ฉก.ทพ.31 และ พ.ต.ณรงค์เวทย์ รัศมี หน.ฝขว. ให้การต้อนรับ และร่วมให้ข้อมูล

สำหรับ แก่งผาได มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางน้ำ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลักที่เชื่อมโยงแหล่งผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเพื่อเข้าสู่ประเทศไทย โดยหากกลุ่มขบวนการสามารถขึ้นฝั่งไทยได้แล้วจะเชืี่อมต่อถนนสายหลักที่มุ่งสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้ ที่ผ่านจึงพบกลุ่มขบวนการพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดอย่างต่อเนื่องผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยอาศัยความเอื้ออำนวยของสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่ารกทึบริมฝั่ง และในลำน้ำมีเกาะแก่ง โขดหิน ที่สามารถซ่อนเร้นจากการเฝ้าตรวจของเจ้าหน้าที่

จากนั้น เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ได้ลงพื้นที่ บ้านดอนที่ ม.3 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านน้ำเกิ๋ง สปป.ลาว โดยได้สำรวจสภาพภูมิประเทศ และหารือร่วมกับ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอุดม ปกป้อง นายอำเภอเชียงของ พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 31 นายเกษม ปันทะยม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง และนายเดชดำรง แก้วดำ ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนที่

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปัจจุบัน สปป.ลาว ได้ดำเนินการตามข้อตกลงในความร่วมมือสกัดกั้นยาเสพติด โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดเรียบร้อยแล้ว และมีผลปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมาก จึงมีข้อกังวลว่ากลุ่มขบวนการจะหลบเลี่ยงโดยลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงแม่น้ำโขงก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดเพื่อข้ามมาฝั่งไทย จึงผลักดันการดำเนินการ ดังนี้

  1. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุน ป.ป.ส. เพื่อทำการติดตั้งไฟส่องสว่างตามแนวลำน้ำโขงฝั่งตรงข้ามด่านน้ำเก๋ง เสริมประสิทธิภาพการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย
  2. ให้หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน ป.ป.ส. เพื่อก่อสร้างจุดตรวจจุดสกัดบริเวณดังกล่าว คู่ขนานกับ สปป.ลาว
  3. ให้ ปปส.ภาค 5 ร่วมกับจังหวัดเชียงรายและอำเภอเชียงของ สนับสนุนกิจกรรมการเดินเวรยามของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บริเวณริมแม่น้ำโขง เพื่อเสริมการดำเนินงานของหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน
    .
    ทั้งนี้ หากการดำเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จ การสกัดกั้นยาเสพติดตามลำน้ำโขงชายแดนภาคเหนือจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประจวบคีรีขันธ์ แถลงความพร้อมจัดงาน “ดินของพ่อ สานต่อของดีคีรีขันธ์” 29 พ.ย. – 8 ธ.ค. 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “ดินของพ่อ สานต่อของดีคีรีขันธ์” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้เป้าหมายเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงเผยแพร่ความสำคัญของวันดินโลก ซึ่งสหประชาชาติรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันดินโลกอย่างเป็นทางการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดงานครั้งนี้ว่า เป็นการร่วมเฉลิมฉลองวันดินโลกและเผยแพร่บทบาทของพระมหากษัตริย์ไทยด้านการพัฒนาดิน น้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนสนับสนุนอัตลักษณ์สินค้าของดีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้เกษตรกร โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2568 รวม 10 วัน ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติหน้าศาลากลางจังหวัดด้านนายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงภาพรวมของกิจกรรมภายในงานว่า จะมีการจัดนิทรรศการวันดินโลก น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเพื่อสืบสานพระราชดำริในรัชกาลที่ 10 พร้อมทั้งนิทรรศการความโดดเด่นของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรมผ้าไทย ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี และนิทรรศการด้านดิน น้ำ พันธุ์พืช นวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของจังหวัด ทั้งยังมีร้านค้าสินค้าเกษตรจากทั้ง 8 อำเภอ สินค้าราคาประหยัด ธงฟ้า การตักกุ้งหรรษา เวทีเสวนา การประกวด การแข่งขัน และการแสดงไฟล้านดวงพร้อมคาราวานร้านเด็ดร้านดัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

ขณะที่นางศันสนีย์ เกษตรสินสมบัติ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงกิจกรรมประกวดและกิจกรรมบนเวทีว่า จะมีการประกวดผลผลิตทางการเกษตร อาทิ สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย สับปะรดพันธุ์ MD2 มะพร้าวแกง มะพร้าวน้ำหอม และขนุนยักษ์ รวมถึงกิจกรรมออกกำลังกายวิถีคนประจวบฯ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พร้อมทั้งจัดเวทีเสวนาวิชาการหลากหลาย เช่น หัวข้อ “ดินของพ่อสู่วันดินโลก” โดยสำนักงานพัฒนาที่ดิน การท่องเที่ยวยั่งยืนบนฐานชีวภาพของ BEDO การเสวนา Coco Next Gen พลิกอนาคตมะพร้าวไทย ตลอดจนเสวนาพระมหากรุณาธิคุณด้านหัตถกรรมผ้าไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นอกจากนี้ยังมีการสาธิตผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว การเดินสายไฟภายในอาคาร การทำอาหารเพื่อสุขภาพ และกิจกรรมชวนชิมกุ้ง–กระพงดินดีวิถีพ่อ โดยสำนักงานประมงจังหวัด รวมถึงการแสดงดนตรีแจ๊สบทเพลงพระราชนิพนธ์จากกองบิน 5ผู้จัดงานเชิญชวนเกษตรกรและประชาชนร่วมส่งผลงานเข้าประกวด พร้อมร่วมชม ชิม ช้อป และสัมผัสองค์ความรู้ด้านดิน น้ำ เกษตรกรรม เทคโนโลยี นวัตกรรม และสินค้าอัตลักษณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสใหม่ให้กับคนในจังหวัดอย่างยั่งยืน
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ประชุมข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง เรือนจำกลางนครปฐม

แชร์เนื้อหานี้

นายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม เป็นประธานการประชุมข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง เรือนจำกลางนครปฐม ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2568 เพื่อแจ้งนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและนโยบายกรมราชทัณฑ์ในด้านต่างๆ รายงานผลการดำเนินงานตามภารกิจของแต่ละส่วนฝ่าย มอบนโยบาย ให้ความรู้ คำแนะนำ และกำชับการปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครปฐม พร้อมทั้งได้แนะนำข้าราชการที่ย้ายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดเรือนจำกลางนครปฐม และมอบสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่ ณ อาคารเยี่ยมญาติเรือนจำกลางนครปฐม
สมคิด พรมมี ผู้สืีอข่าว นครปฐม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บึงกาฬ เดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

แชร์เนื้อหานี้

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 จังหวัดบึงกาฬได้ดำเนินการปล่อยขบวนรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬกลุ่มแรก เดินทางไปเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร

การปล่อยขบวนรถจัดขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอปากคาด โดยมี นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และร่วมส่งประชาชนด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

จังหวัดบึงกาฬได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพได้อย่างปลอดภัยและสมพระเกียรติ
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / น่านแถลงผลการขับเคลื่อนนโยบาย ก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจ–สังคม–สิ่งแวดล้อม–การท่องเที่ยว/นายกสมาคมสื่อมวลชนจ.น่าน รับเข็มกิตติคุณจากสนง.ปปช.ครบรอบ 26 ปี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตรวรปัญโญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่านจัดการแถลงข่าวประจำเดือนพฤศจิกายน 2568 โดย นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานฯ

เพื่อสื่อสารผลการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในรอบเดือน รวมถึงรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาจังหวัดในหลากหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยว โดยมี นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เข้าร่วมการแถลงข่าวด้วย

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้นำเสนอประเด็นสำคัญที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อน ได้แก่โครงการขุดลอกแม่น้ำน่าน
ดำเนินการโดย ท้องถิ่นจังหวัดน่าน และ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ลด

ปัญหาน้ำท่วม และฟื้นฟูระบบนิเวศลุ่มน้ำให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นโครงการเลนจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวและการคมนาคมที่ปลอดภัยขับเคลื่อนโดย โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน ร่วมกับ แขวงทางหลวงน่านที่ 1 มุ่งพัฒนาพื้นที่จักรยานเชื่อมต่อชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัด

การจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดน่าน
โดย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน (ปภ.) ร่วมกับ ท้องถิ่นจังหวัดน่าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ผ่านมาโครงการ 1 อำเภอ 1 โรงฆ่าสัตว์ดำเนินงานโดย ท้องถิ่นจังหวัดน่าน และ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดน่าน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร สนับสนุนระบบปศุสัตว์ที่ได้มาตรฐานและยั่งยืน

กิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวจัดโดย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นสังคมให้ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอย่างจริงจังการแถลงข่าวครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดน่านในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมเดินหน้าสร้างความเจริญก้าวหน้าในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

ภาพ/ข่าว #ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รับมอบเข็มกิตติคุณจากสำงานป.ป.ช.ในโอกาสครบรอบ 26 ปี สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่18 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องนนทบุรี 2 สำนักงานป.ป.ช.จังหวัดนนทบุรี

นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รับมอบเข็มกิตติคุณจากนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในโอกาสครบรอบ 26 ปี

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจจริต โดยมีคุณกุ้ง ศิริลักษณ์ พรหมแสง ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยทีมงานเป็นผู้แทนนางสาวภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดน่าน

(สว.เจ)นำช่อดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีในวันนี้ด้วย ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ.2560 นายบุญยงค์ สดสอาด ก็เคยเข้ารับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติการทำคุณงามความดีด้านการส่งเสริมและป้องกันการทุจริตจากสำงานคณะกรรมการป.ป.ช.โดยเข้ารับเกียรติบัตรจากพลตำรวจเอกวัชรพล

ประสานราชกิจ ประธานกรรมการสำนักงานป.ป.ช.ในขณะนั้น นายบุญยงค์ สดสอาด ทำงานด้านปชส.ให้กับสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดน่านมาตั้งแต่สมัยนายสมปราชญ์ พลับแดง เป็น ผอ.สไนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดน่าน จนกระทั่งถึงผอ.คนปัจจุบันเป็นนับเป็น ผอ.ป.ป.ช.

ประจำจังหวัดน่าน ท่านที่ 4 นอกจากนั้นในการแถลงข่าวของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 5 นายบุญยงค์ จะนำสื่อมวลชนในสังกัดสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ร่วมงานแถลงข่าวทุกครั้ง ปัจจุบันนายบุญยงค์ ยังเป็นคณะกรรมการชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดน่านตั้งแต่เริ่มก่อตั้งชมรม

ปัจจุบันเป็นโค้ชชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดน่าน ด้านนายบุญยงค์ กล่าวว่าต้องขอขอบคุณท่านผอสำนักงานป.ป.ช.เจ้าหน้าที่ สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังจังหวัดน่าน มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างยิ่งครับ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายกฯ อนุทิน เป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่

แชร์เนื้อหานี้

ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ เข้าร่วมต้อนรับ นายกฯ อนุทิน เป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ระยะเร่งด่วน ให้จังหวัดเชียงใหม่สานต่อการบริหารจัดการน้ำ แก้ไขปัญหาอุทกภัย และภัยแล้งอย่างยั่งยืน พร้อมปล่อยปลาลงแม่น้ำปิงฟื้นฟูระบบนิเวศ

วันพฤหัสบดี ฟที่ 20 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ระยะเร่งด่วน โดยมีพลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการ สำนักงานชลประทานที่ 1 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ ผู้บริหารกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธี ณ บริเวณริมแม่น้ำปิง ด้านหลังโรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ประสบกับสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งในด้านชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ภาคการเกษตร รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสร้างความเสียหายรวมกว่า 5,000 ล้านบาท และยังต้องจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนอีกจำนวนมาก

ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเร่งด่วนจากรัฐบาล เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานสนับสนุนทุกภาคส่วน ดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงครอบคลุมระยะทางรวมกว่า 41 กิโลเมตร ตั้งแต่พื้นที่ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จนถึงพื้นที่ตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่

ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ครบถ้วนตามแผนแล้ว ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการดังกล่าว ทำให้ในช่วงฤดูฝนปี 2568 ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งได้รับอิทธิพลจากพายุหลายลูก มีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำปิง ส่งผลให้แม่น้ำปิงหลังจากที่ได้ดำเนินการขุดลอกแล้วมีศักยภาพในการรับน้ำเพิ่มขึ้น

จึงไม่ส่งผลกระทบที่จะสร้างความเสียหายต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจและบ้านเรือนประชาชน สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวได้ดำเนินวิถีชีวิตและใช้เวลาท่องเที่ยวอย่างมีความสุข รวมถึงนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุน เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในอนาคต อีกทั้งเพื่อสร้างความยั่งยืนในการบริหารจัดการน้ำในระยะยาวต่อไป

โครงการดังกล่าว ถือเป็นความร่วมมือสำคัญระหว่างรัฐบาล กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และจังหวัดเชียงใหม่ ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นคง ปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบโครงการดังกล่าวจากผู้บัญชาการทหารสูงสุด และส่งมอบโครงการฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบริหารจัดการน้ำ แก้ไขปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง ระบบนิเวศ และดำเนินการต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในทุกมิติกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนชาวเชียงใหม่ ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียนขาวและปลาสวาย รวมจำนวน 100,000 ตัว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเชียงใหม่ ลงสู่แม่น้ำปิงเพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และฟื้นฟูระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น…

สมจิตรแสงบันลังค์