คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เกษตรจังหวัดน่าน จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับอำเภอ (District Workshop : DW) ครั้งที่ 1/69

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 19 ธันวาคม 2568 นายศักดิ์สิทธิ์ ศรีวิชัย เกษตรจังหวัดน่าน จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับอำเภอ (District Workshop : DW) โครงการพัฒนาเครือข่ายงานส่งเสริมการเกษตร (ระบบส่งเสริมการเกษตร) ขับเคลื่อนการทำงานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมีหัวหน้ากลุ่ม เกษตรอำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัด และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ ห้องประชุมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดน่าน ตำบลบ่อ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประกอบด้วยหัวข้อ ดังนี้

1. การส่งเสริมระบบเกษตรที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : เกษตรไม่เผา 3R Model ผลักดันการทำการเกษตรแบบ Re-Habit, Replace with High value crops, Replace with Alternate crop ส่งเสริมปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ ลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมีที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง และจัดการฟางข้าวอย่างยั่งยืน
2. การจัดทำข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นรายอำเภอ
3. กระบวนการพัฒนานักวิชาการส่งเสริมการเกษตรสู่ MR.พืช น่าน/บุญยงค์ สดสอาด รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อบต.ทุ่งขวางได้จัดการประชุมประจำเดือนธันวาคม 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น.องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางได้จัดการประชุมประจำเดือนธันวาคม 2568
โดยมีนายสุนทร สมัยนิยมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางเป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารนายพุธิชัย หนุ่มกันนารองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางนางสาววรรณภา คำดีรองนายองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางนางสาวอำพร อินทร์คงเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางนายจอมใจ กองเกตุใหญ่ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวางนางแสงเทียน

เศรษฐวิทยารองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง
นายวิเชียร คำจุ้ย กำนันตำบลทุ่งขวางผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน, ตำรวจชุมชน, เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งขวาง, ตัวแทน อสม., ตัวเเทนสตรีแม่บ้าน, ตัวแทนคุณครู, ตัวแทนผู้สูงอายุ,กศน.ตำบลทุ่งขวาง,หัวหน้าส่วนราชการ
เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขวาง
สมคิด พรมมี ผู้สื่อข่าว นครปฐม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายเกียรติศักดิ์ ธนาวรรณโอภาส กราบสักการะและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ เนื่องในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่ง นายอำเภอกำแพงแสน คนที่ 44

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายเกียรติศักดิ์ ธนาวรรณโอภาส นายอำเภอกำแพงแสน กราบสักการะและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์​อำเภอกำแพงแสน โดยสักการะศาลพระภูมิหน้าที่ว่าการอำเภอกำแพงแสน

สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ค่ายลูกเสือเมืองเก๋ากำแพงแสน สักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในห้องปฏิบัติราชการ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ในตำแหน่งนายอำเภอกำแพงแสน คนที่ 44 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอกำแพงแสน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่อำเภอกำแพงแสน

เข้ามอบของที่ระลึกและดอกไม้แสดงความยินดี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ดังกล่าว สมคิด พรมมี ผู้สืื่อข่าว นครปฐม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ที่ อ.ละแม จ.ชุมพร จัดพิธีบวงสรวงและอัญเชิญพระรูป “เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ประดิษฐาน ศูนย์รวมจิตใจแห่งใหม่

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 9 ธันวาคม 2568 จังหวัดชุมพรจัดพิธีบวงสรวง อัญเชิญ และประดิษฐานพระรูปพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ

พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย) ณ มณฑลพิธีหน้าที่ว่าการอำเภอละแม โดยมีนายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธี

พร้อมด้วยนายสุพล จุลใส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร นางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร นายนพพร อุสิทธิ์

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร นายนรินทร์ พันธ์เจริญ กำนันตำบลละแม หัวหน้าส่วนราชการ และชาวอำเภอละแมที่

เดินทางมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความศรัทธาและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

พิธีการช่วงเช้าเริ่มด้วยการทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่นายสุพล จุลใส ประธานในพิธีช่วงเช้า จะจุดธูปเทียนบูชา

พระรัตนตรัย โดยมีพระครูปริยัติกิจวิธาน เจ้าคณะอำเภอละแม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ผู้มาร่วม

งานได้เขียนรายชื่อบนแผ่นทองเพื่อนำไปบรรจุใต้ฐานพระรูป
ต่อจากนั้น นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยนางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์

และนายสุพล จุลใส ร่วมประกอบพิธีวางแผ่นทอง ซึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้

ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ จังหวัดตรัง ลงในฐานพระรูป ท่ามกลางบรรยากาศอันสง่างามและเปี่ยมด้วยสิริมงคลช่วงบ่าย ข้าราชการและผู้มีเกียรติได้ตั้งแถวเกียรติยศรอรับขบวนอัญเชิญพระรูป โดยเจ้าหน้าที่ทหารเรือเป็นผู้ทำการอัญเชิญขึ้นสู่แท่นประดิษฐานในฤกษ์มงคล

ท่ามกลางเสียงสวดชยันโต เสียงฆ้อง และเสียงประทัดดังกึกก้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้คล้องมาลัยพระกร และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร ถวายช่อกุหลาบแดงสักการะ ก่อนที่

พระสงฆ์จะประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชน์อนุสาวรีย์ และประธานพิธีพร้อมผู้มีเกียรติถวายจตุปัจจัยไทยธรรม กรวดน้ำรับพร เป็นอันเสร็จพิธีอย่างสมบูรณ์

การประดิษฐานอนุสาวรีย์เสด็จเตี่ย ณ หน้าที่ว่าการอำเภอละแมครั้งนี้ ถือเป็นการยกย่องเชิดชูพระเกียรติของ “องค์บิดาของทหารเรือไทย” และเป็นศูนย์รวมศรัทธาแห่งใหม่ของชาวละแมและจังหวัดชุมพร

นายนรินทร์ พันธ์เจริญ กำนันตำบลละแม ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอละแม และประธานการจัดสร้างอนุสาวรีย์ฯ กล่าวว่าการสร้างอนุสาวรีย์ในครั้งนี้เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนในอำเภอละแมและพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่ใช้งบประมาณจากภาครัฐ

ทุกขั้นตอนเกิดจากการหารือร่วมกันของผู้นำท้องที่–ท้องถิ่น และการสนับสนุนจากประชาชนที่ต้องการมีสถานที่สักการะเสด็จเตี่ยอย่างเป็นทางการ เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจและสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนเขากล่าวเพิ่มเติมว่า “พี่

น้องชาวละแนมาทั้งแรงกายแรงใจร่วมกันสร้าง เพราะศูนย์รวมจิตใจจะสำเร็จได้ ต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนอย่างแท้จริง” การจัดสร้างอนุสาวรีย์เสด็จเตี่ยครั้งนี้จึงนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนพลังความศรัทธา ความสามัคคี และความรักต่อบ้านเกิดของชาวอำเภอละแมอย่างงดงาม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าว..งานวันพริก ของดี อ.ขามสะแกแสง พริกเผ็ดที่สุดในโลก ประกวดธิดาพริก แข่งขันส้มตำลีลา แข่งขันผัดหมี่

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ที่บริเวณหน้าอำเภอขามสะแกแสง ว่าที่ร้อยตรีพรสรร อุ่นบรรเทิง นายอำเภอขามสะแกแสง พร้อมด้วย นางสาวกนกอร รวมกลาง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขตอำเภอขามสะแกแสง, นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายจิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา และ พ.ต.อ.ดำรงศิลป์ ดวงกลาง นายกเทศมนตรีตำบลขามสะแกแสง นายบัญชา กันหาสินธุ์
ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมาร่วมแถลงข่าวจัดงาน “วันพริกและของดีอำเภอขามสะแกแสง ประจำปี 2568” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16–20 ธันวาคม 2568 รวม 5 วัน ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอขามสะแกแสง

นายอำเภอขามสะแกแสงเปิดเผยว่า พื้นที่แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกพริกสำคัญของจังหวัด มีเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจรวม 6,997 ครัวเรือน บนพื้นที่กว่า 197,680 ไร่ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกพริกกว่า 200 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูกรวม 418.50 ไร่ ให้ผลผลิตพริกสดเฉลี่ย 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อจำนวนมาก ทั้งเส้นหมี่ ข้าวแตน กล้วยน้ำว้า มะละกอ มะพร้าว มะขามเทศ ฝรั่ง ข้าวโพด อ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด

นางสาวกนกอร รวมกลาง สมาชิกสภา อบจ.นครราชสีมา ได้เปิดเผยว่า“งานวันพริกถือเป็นเวทีสำคัญในการผลักดันสินค้าเกษตรของชาวขามสะแกแสงให้ก้าวสู่ตลาดใหญ่ ทั้งระดับจังหวัดและภูมิภาค อบจ.นครราชสีมาพร้อมสนับสนุนทุกกิจกรรมที่ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร และยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ปีนี้เราตั้งใจทำให้เป็นงานเชิงเศรษฐกิจที่เห็นผลได้จริงในพื้นที่”

ภายในงานยังมีกิจกรรมหลากหลายดึงดูดนักท่องเที่ยว อาทิ การประกวดริ้วขบวน การประกวดรถธิดาพริก , การแข่งขันส้มตำลีลา , การแข่งขันผัดหมี่, การแข่งขันขนมจีนน้ำยาไก่ , การประกวดผลผลิตทางการเกษตร , การประกวดไก่พื้นเมือง , การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง , การประกวดเต้นไลน์แดนซ์ , การแข่งขันตำน้ำพริกแจ่วปลาร้าพริกสด , การประกวดบูธกิจกรรมงานวันพริกผู้จัดคาดการณ์ว่าตลอด 5 วันของการจัดงานจะมีผู้ร่วมงานไม่ต่ำกว่า 50,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนให้พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร และผู้ประกอบการท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยประชาสัมพันธ์ของดีอำเภอขามสะแกแสงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

“งานนี้เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งอำเภอ อปท. เกษตรกร และชุมชน เราตั้งใจให้เป็นเวทีแสดงอัตลักษณ์ของดีในพื้นที่ และกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีอย่างเต็มที่”งานวันพริกปีนี้จึงนับเป็นกิจกรรมใหญ่ที่มุ่งผลักดันสินค้าเกษตรและของดีท้องถิ่นสู่ตลาดระดับจังหวัดและภูมิภาค พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปลายปีที่กำลังมาถึงอย่างคึกคัก

ภาพ นายประสิทธิ์ วนะชกิจ/ข่าว นายกันตินันท์ เรืองประโคน จ.นครราชสีมา

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าวเตรียมจัดศึกตะกร้อ “Sepak akraw T20 Super Match” ชิงถ้วยผู้ว่าฯน่าน รางวัล 1 แสนบาท 12-13 ธันวาคม 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ- ห้องประชุมสุริยานุเคราะห์ โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน จังหวัดน่าน
โดยสมาคมกีฬาจังหวัดน่าน ร่วมกับ ร้าน T 20 น่าน แถลงข่าวเตรียมจัดศึกตะกร้อ “Sepak Takraw T20 Super Match” ชิง
ถ้วยผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท ระหว่างวันที่12-13 ธันวาคม 2568 ณ สนามแข่งขัน หน้าห้างไฮเปอร์มาร์ท จังหวัดน่าน

โดยมีนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการแถลงข่าวในครั้งนี้นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวถึงกิจกรรมครั้งนี้ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่จังหวัดให้ความสำคัญกับการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมสุขภาพ และเป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และเชิญชวนพี่น้องชาวน่าน

มาร่วมชม ร่วมเชียร์และเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักกีฬาที่เดินทางเข้ามาเยือนเมืองน่านนายสาธิต บุญทอง นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดน่าน กล่าวถึงการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนากีฬากีฬาเชปักตะกร้อโดยตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนานักกีฬาเซปักตะกร้อของจังหวัดน่านให้ก้าวสู่ระดับชาติ และเป็นการสร้างกระแสการตื่นตัวของการกีฬาในจังหวัดน่าน

“เต้ย”ธีระพล ปะโปตินัง อดีตนักตะกร้อโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจ T20 น่าน เปิดเผยว่า
วัตถุประสงค์ที่ทาง T20 น่าน และ สมาคมกีฬาจังหวัดน่าน เตรียมจัดการแข่งขันตะกร้อรายการนี้ เพื่อต้องช่วยปลุกกระแส
วงการตะกร้อในจังหวัดน่าน และอยาก-เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการตะกร้อเมืองไทยในทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ก็เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในการเปิดธุรกิจ “T20 น่าน สปอร์ตคอมเพล็กซ์” ซึ่งจะเป็นศูนย์ร่วมพื้นที่ในการออกกำลัง
กายของผู้ที่ชื่นชอบกีฬา และรักสุขภาพ ซึ่งจะมีทั้ง สนามมวย สนามตะกร้อ สนามเทคบอล สนามเทควันโด สนุกอร์คลับ
ยิมฟิตเนส

อยู่ในพื้นที่ “T20 น่าน สปอร์ดคอมเพล็กซ์” และจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในราวเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ด้วย โดยจะที่ม
ทีมตะกร้อ 16 ทีม เข้าร่วมการแข่งขัน ดังนี้ 1.โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี 2.โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา 3.โรงเรียนสวน
กุหลาบวิทยาลัย รังสิต 4.สปป ลาว 5.โรงเรียนพันดอนวิทยา 6.โรงเรีบนกีฬาเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด 7.โรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง

8.โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร 9.โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม 10.โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม 11.โรงเรียนกีฬานคร
นนท์วิทยา 6 12.โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 2 (สมาน สุเมโธ) 13.โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนม 14.โรงเรียนกีฬาเทศบาลนคร
นครราชสีมา 15.โรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี 16. ทีมจังหวัดน่าน

และยังมีนางสาวดารารัตน์ ภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน นายเสริฐ โชยยานันตา ท่องเที่ยว
และกีหาจังหวัดน่าน นายอนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานน่าน และนายพรเทพ เสนนันตา
ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน ร่วมขึ้นเวทีแถลงข่าวในการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ร.ต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ยกเครื่องระบบสุขภาพปฐมภูมิ “Korat Model”“นายกหน่อย” หัวเรือใหญ่ ตั้งโต๊ะ!! Brainstormเปิดเวที ถกทิศทางออกแบบงานด้านสาธารณสุขอย่างมีส่วนร่วม

แชร์เนื้อหานี้

อบจ.โคราช – หน่วยงานสาธารณสุข ร่วมเวทีถกทิศทางเดินหน้าระบบสุขภาพปฐมภูมิ ด้าน “นายกหน่อย – ยลดาฯ” นั่งหัวโต๊ะ เปิดประเด็นการมีส่วนร่วมแบบ “บัดดี้” ยก สสจ.โคราช เป็นพี่เลี้ยง พร้อม โรงพยาบาลอำเภอ ร่วมออกแบบงานด้านสาธารณสุข เพื่อขับเคลื่อนระบบสุขภาพปฐมภูมิ “Korat Model” ที่จะส่งผลให้ประชาชนคนโคราชมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ย้ำ!! อบจ. จะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะตรงนี้ถือเป็นงานใหม่ที่ท้าทาย!!

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ โรงแรมเดอะริช นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา, นพ.วิชาญ คิดเห็น นพ.สสจ.นครราชสีมา นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายก อบจ. นายวุฒิชัย วงค์ปัญโญ ปลัด อบจ. และ นพ.สุผล ตติยนันทพร ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข พร้อมด้วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำอำเภอ(รพช.) 32 แห่ง, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ หน่วยงานสาธารณสุข ใน จ.นครราชสีมา ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ “Korat Model”

เพื่อหารือการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนามาตรฐานบริการ การจัดบริการระบบสุขภาพ การจัดการทรัพยากรในระบบสุขภาพ ระดมแนวคิดออกแบบงานด้านสาธารณสุขอย่างมีส่วนร่วม โดยเฉพาะด้านงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) งานสุขภาพช่องปาก รวมถึงการพัฒนาและแลกเปลี่ยนระบบข้อมูลสารสนเทศด้านสาธารณสุข นำมาสู่การจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนในระดับจังหวัดและคณะกรรมการขับเคลื่อนในระดับอำเภอ เพื่อเกิดการขับเคลื่อนงานร่วมกันอย่างยั่งยืน

ซึ่งกว่า 3 ปี ที่ อบจ.นครราชสีมา ได้มีการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) จำนวน 182 แห่ง และต้องดูแลงานด้านสาธารณสุข พัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ในภาพรวมของจังหวัดทั้งหมด โดยที่ทุกภาคส่วนต้องดูแลและรับผิดชอบร่วมกัน ทำให้เกิด Model ความร่วมมือ ที่จะส่งผลให้ประชาชนคนโคราชมีสุขภาพกายและใจแข็งแรง ห่างไกลภาวะซึมเศร้าและโรคจิตเวช อบจ. จะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะตรงนี้ถือเป็นงานใหม่ที่ท้าทาย แต่เพื่อประชาชน เราจะตกผลึกและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิ่งสำคัญคือการร่วมมือกัน อบจ. เป็นท้องถิ่น สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางที่ดี ภายใต้การทำงานเป็นทีม เราจะนำเสียงสะท้อนของประชาชนมาขับเคลื่อนการทำงาน โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพที่ต้องทำร่วมกัน การป้องกันโรค การรักษาระดับปฐมภูมิ การฟื้นฟู และ End-of-Life Care

นอกจากนี้ อบจ.นครราชสีมา ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน ปัจจุบันมีทั้งหมด 44 แห่ง มีการทำงานเติมเต็มระบบฟื้นฟูสุขภาพประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลด้วยมาตรฐาน การจัดบริการดูแลในเขตบริการของ รพ.สต. ในสังกัด อบจ. การฟื้นฟูชุมชน นอกจากนี้ อบจ. ยังมีนโยบายที่จะจัดส่งรถโมบายเคลื่อนที่ให้บริการด้านสาธารณสุขในชุมชน ประชาชนได้เข้าถึงการบริการของรัฐ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดความแออัดในโรงพยาบาล ภายใต้การดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขแบบบูรณาการ เพราะ “สุขภาพคนโคราชต้องดีไปด้วยกัน”

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เทศบาลชุมแพ จัดแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาฟุตบอล”ชุมแพคัพ”ครั้งที่ 33 ชิงถ้วยพระราชทานฯ 9-29 ธค. 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 09.45 น. นายเสกสิทธิ์ สัธนะกุล นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองชุมแพ เป็นประธานพิธีจัดแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาฟุตบอลประจำปี ชิงถ้วยพระราชทานพร้อมเงินรางวัล ” ชุมแพคัพ,” ครั้งที่ 33

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทอายุไม่เกิน 12 ปีและประเภทประชาชนทั่วไป การแข่งขันเริ่มขึ้นระหว่าง 9-29 ธันวาคม 2568 ณ.สนามโรงเรียนเทศบาล 1(สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอุปถัมภ์)มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการกีฬา เพื่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชน

ได้ออกกำลังกายโดยใช้กีฬาเป็นสื่อการกีฬาทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เป็นการส่งเสริมพัฒนาการกีฬาและเศรษฐกิจให้เจริญยั่งยืน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันจึงมีการจับฉลากแบ่งสาย

โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวเป็นสักขีพยาน พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ ศิริแก้ว สวป.สภ.ชุมแพ นางสาวรติมา สิริวรพิทักษ์ รองนายกฯ นายราชันย์ ดาวังปา ประธานกรรมการตัดสิน นายอาทิตย์ ถนอมทุน รองนายกฯ ฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชุมแพ หัวหน้าส่วนราชการและคณะสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน เสร็จภาระกิจจึงได้ปิดการแถลงข่าว

ภาพ/ข่าว กบชุมแพ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปลัดกระทรวงคมนาคม พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคม 2568

แชร์เนื้อหานี้

ที่ ด่านตรวจพรมแดนบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2568 ร่วมกับอธิบดีกรมทางหลวง

และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ปลัดจังหวัดบึงกาฬ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ ก่อสร้างสมบูรณ์แล้ว 100 % ทั้ง 2 ฝั่งโขง ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำในเรื่องความพร้อมของพิธีเปิดงาน ไฟส่องสว่าง และจุดให้บริการประชาชนที่มาร่วมในพิธีเปิด

สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ มีจุดก่อสร้างฝั่งไทยตั้งอยู่ที่บ้านดอนยม หมู่ที่ 5 ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ และฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ที่บ้านกล้วย แขวงบอลิคำไซ มูลค่าการลงทุน 3,930,000,000 บาท

โดยแยกเป็นฝั่งประเทศไทยวงเงิน 2,630,000,000 บาท และฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วงเงิน 1,300,000,000 บาท โดยหากเปิดใช้งาน จะสามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เป็นอย่างด
ภาพ/ข่าว ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่สำรวจยุทธศาสตร์แก่งผาได-บ้านดอนที่ แนวชายแดนเชียงราย

แชร์เนื้อหานี้

สืบเนื่องจากวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด และ พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 5 ได้ลงพื้นที่ สปป.ลาว เพื่อประสานความร่วมมืิอกับคณะผู้แทนระดับสูงของ สปป.ลาว ในการร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติด และตรวจเยี่ยมด่านน้ำเกิ๋ง และด่านปากทา ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการสกัดกั้นยาเสพติดในเส้นทางคมนาคมของ สปป.ลาว.

ในวันนี้ (22 พฤศจิกายน 2568) เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ได้ลงพื้นที่ แก่งผาได ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านปากทา สปป.ลาว เพื่อสำรวจสภาพภูมิประเทศ และหารือกับหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น พล.ต.สาธิต ไวยนนท์ ผบ.กกล.ผาเมือง พ.อ.ธนพันธ์ ขำทวี รอง ผอ.รมน.ภาค3 สย.2 พ.อ.สุพรรณ ร้อยพุทธ ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี ผบ.ฉก.ทพ.31 และ พ.ต.ณรงค์เวทย์ รัศมี หน.ฝขว. ให้การต้อนรับ และร่วมให้ข้อมูล

สำหรับ แก่งผาได มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางน้ำ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลักที่เชื่อมโยงแหล่งผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเพื่อเข้าสู่ประเทศไทย โดยหากกลุ่มขบวนการสามารถขึ้นฝั่งไทยได้แล้วจะเชืี่อมต่อถนนสายหลักที่มุ่งสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้ ที่ผ่านจึงพบกลุ่มขบวนการพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดอย่างต่อเนื่องผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยอาศัยความเอื้ออำนวยของสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่ารกทึบริมฝั่ง และในลำน้ำมีเกาะแก่ง โขดหิน ที่สามารถซ่อนเร้นจากการเฝ้าตรวจของเจ้าหน้าที่

จากนั้น เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ได้ลงพื้นที่ บ้านดอนที่ ม.3 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านน้ำเกิ๋ง สปป.ลาว โดยได้สำรวจสภาพภูมิประเทศ และหารือร่วมกับ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอุดม ปกป้อง นายอำเภอเชียงของ พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 31 นายเกษม ปันทะยม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง และนายเดชดำรง แก้วดำ ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนที่

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปัจจุบัน สปป.ลาว ได้ดำเนินการตามข้อตกลงในความร่วมมือสกัดกั้นยาเสพติด โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดเรียบร้อยแล้ว และมีผลปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมาก จึงมีข้อกังวลว่ากลุ่มขบวนการจะหลบเลี่ยงโดยลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงแม่น้ำโขงก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดเพื่อข้ามมาฝั่งไทย จึงผลักดันการดำเนินการ ดังนี้

  1. ให้องค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุน ป.ป.ส. เพื่อทำการติดตั้งไฟส่องสว่างตามแนวลำน้ำโขงฝั่งตรงข้ามด่านน้ำเก๋ง เสริมประสิทธิภาพการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย
  2. ให้หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน ป.ป.ส. เพื่อก่อสร้างจุดตรวจจุดสกัดบริเวณดังกล่าว คู่ขนานกับ สปป.ลาว
  3. ให้ ปปส.ภาค 5 ร่วมกับจังหวัดเชียงรายและอำเภอเชียงของ สนับสนุนกิจกรรมการเดินเวรยามของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บริเวณริมแม่น้ำโขง เพื่อเสริมการดำเนินงานของหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน
    .
    ทั้งนี้ หากการดำเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จ การสกัดกั้นยาเสพติดตามลำน้ำโขงชายแดนภาคเหนือจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น