คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

ลดความสูญเสียผู้ป่วยโรคหัวใจและสมอง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ยกระดับคัดกรองโรคหัวใจในพื้นที่

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 สมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ ผนึกกำลังฟิลิปส์ เดินหน้าโครงการ “หัวใจสัญจร” ยกระดับการตรวจคัดกรองโรคหัวใจในพื้นที่ห่างไกล ณ โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

วันนี้ (24 ต.ค.2568) นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประชุมวิชาการ “หัวใจสัญจร” ครั้งที่ 19 และการตรวจผู้ป่วยด้วยเครื่องคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง

โดยมีบุคลากรสาธารณสุข วิทยากร นักศึกษาแพทย์ และสื่อมวลชนเข้าร่วม ณ โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงการตรวจคัดกรองและการดูแลรักษาโรคหัวใจในพื้นที่ห่างไกล พร้อมพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ท้องถิ่นให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างยั่งยืน

พลตำรวจตรี นายแพทย์เกษม รัตนสุมาวงศ์ นายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ เปิดเผยว่า โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Diseases: CVDs) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นของโลก คร่าชีวิตประชาชนกว่า 17.9 ล้านคนต่อปี ทั้งที่ร้อยละ 80 ของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสามารถป้องกันได้

หากได้รับการตรวจคัดกรองและดูแลตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เพื่อเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านโรคหัวใจในพื้นที่ห่างไกล สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทยฯ, ชมรมคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจแห่งประเทศไทย, โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด

จัดโครงการ “หัวใจสัญจร” ขึ้น เพื่อขยายบริการตรวจคัดกรองโรคหัวใจให้ประชาชนเข้าถึงได้ทั่วถึง พร้อมจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้บุคลากรทางการแพทย์และนักศึกษาแพทย์ในพื้นที่ เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiography) ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการตรวจวินิจฉัยและการดูแลรักษาผู้ป่วยในระยะยาว

ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับระบบสาธารณสุขไทยให้เข้มแข็งและครอบคลุม โดยในปีนี้มีผู้ป่วยเข้ารับการตรวจคัดกรองกว่า 50 ราย พร้อมขยายองค์ความรู้ให้บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่สามารถดำเนินการตรวจคัดกรองได้ด้วยตนเองในอนาคต
โรคหัวใจและหลอดเลือดยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศ

โดยข้อมูลจากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) ปี 2568 ระบุว่ามีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 260,000 ราย ขณะที่แพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจมีเพียงประมาณ 500–600 คน และส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองใหญ่ ทำให้การเข้าถึงบริการยังมีข้อจำกัด โครงการ “หัวใจสัญจร” จึงมีบทบาทสำคัญในการกระจายโอกาสการตรวจและการรักษาไปยังภูมิภาคต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ซึ่งในปีนี้ได้มีการยกระดับเทคโนโลยีการตรวจโดยใช้อัลตราซาวด์หัวใจแบบ 3 มิติ

ซึ่งสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวของหัวใจแบบเรียลไทม์ เห็นโครงสร้างและการทำงานของหัวใจได้อย่างละเอียด ช่วยให้การวินิจฉัยมีความแม่นยำสูง ปลอดภัยต่อผู้ป่วยทุกกลุ่ม รวมถึงสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ IntelliSpace Cardiovascular (ISCV) มาช่วยจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลอย่างเป็นระบบ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งต่อและติดตามผลการรักษา สะท้อนเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วนในการผลักดันนวัตกรรมทางการแพทย์สู่ชุมชน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพหัวใจได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และร่วมสร้างระบบสาธารณสุขที่ยั่งยืนและเท่าเทียมสำหรับคนไทยทุกคน

แพทย์หญิงปัทมพันธ์ อนันตาพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ กล่าวว่า “ทางโรงพยาบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วย การพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล และส่งเสริมการพัฒนานักศึกษาแพทย์ในพื้นที่ และงานฯ

ในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของเราที่ต้องการยกระดับการดูแลรักษาโรคหัวใจ เนื่องจากเรามีบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทางจำกัด แต่มีผู้ป่วยต้องการเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคหัวใจกว่า 50 ราย เราต้องขอขอบคุณทางสมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ และพันธมิตรที่ได้ลงพื้นที่มาช่วยเราในครั้งนี้ นอกจากการตรวจคัดกรองผู้ป่วยแล้ว เรายังมีการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรและนักศึกษาแพทย์ในพื้นที่เพื่อให้สามารถตรวจคัดกรองผู้ป่วยได้เองในระยะยาว”

เนื่องนวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ร่วมทำความสะอาดเจดีย์ครอบเท้าเสือ บนยอดเขาพ่อตาหินช้าง

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เลขากิต ขึ้นเขา 219 ขั้น ร่วมทำความสะอาดเจดีย์ครอบเท้าเสือ บนยอดเขาพ่อตาหินช้างเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ต.ค.68 นายนพพร อุสิทธิ์ (นายกโต้ง) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรมอบหมายให้ นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ (เลขากิต) นาย สุชล สินสมบุญ (สจ ต้น) สจ ชุมพรเขต 3 อ.ท่าแซะ

เข้าร่วมกิจกรรมสลุยร่วมใจอาสาพัฒนาแผงกล้วย ให้เป็น“ลานค้าปลอดโรค”เนื่องนวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสลุย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านพรุตะเคียน ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ ในโอกาสคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(วันปิยมหาราช)

โดยจัดกิจกรรมจิตอาสารณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก การให้ความรู้สร้างความตะหนักและมีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรค การสำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย กิจกรรมแจกทรายกำจัดลูกน้ำ ณ ลานค้าชุมชนพ่อตาหินช้าง หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 6 หมูที่ 3 และหมู่ที่ 8 ตำบลสลุย ซึ่งเป็นแหล่งซื้อของฝากประมาณ 100 ร้าน

ตั้งเรียงรายอยู่รอบๆศาลพ่อตาหินช้าง เพื่อให้สถานที่จำหน่ายสินค้าที่สะอาดและเป็นตลาดค้าขายที่ปลอดโรค สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตำบลสลุยและจังหวัดชุมพร ซึ่งนายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ได้สนับสนุนผ้ากันเปื้อนให้กับพ่อค้า แม่ค้า เพื่อสุขลักษณะที่ดีอีกด้วย

นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล ด้วยการปรับภูมิทัศน์บนเส้นทางเดินขึ้นตามบันใด 219 ขั้น ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ชมตลอดเส้นทาง เพื่อไปสักการะเจดีย์สีทอง บริเวณยอดเขาหลังศาลพ่อตาหินช้าง ซึ่งเจดีย์ดังกล่าวมีประวัติการสร้างไว้เพื่อครอบรอยเท้าเสือขนาดใหญ่อยู่บนแผ่นหิน เพื่อให้เจดีย์ดังกล่าวสะอาด ปลอดภัย สามารถเป็นจุดชมวิวและเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจได้ในอนาคต

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “หัวหิน” จัดใหญ่งานลอยกระทง “นเรศดำริห์รำลึก…เคียงคลื่นคืนจันทร์เพ็ญ” เนรมิตกระทงยักษ์ขนาด 7 เมตร รับนักท่องเที่ยว

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.68 น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับตัวแทนชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมความพร้อมจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2568 ภายใต้ชื่อกิจกรรม “นเรศดำริห์รำลึก…เคียงคลื่น…คืนจันทร์เพ็ญ” ระหว่างวันที่ 4 -5 พ.ย.นี้ ที่ชุมชนชายทะเลหัวหิน

น.ส.บุษบา โชคสุชาติ กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีเก่าแก่ ที่ทางเทศบาลนครหัวหินได้ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์และจัดกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมโดยมุ่งเน้นและคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีของไทยให้คงอยู่สืบไป โดยในปีนี้เทศบาลนครหัวหิน จะปลุกมนต์เสน่ห์ชุมชนชายทะเล แลนมาร์กแห่งใหม่

บริเวณถนนนเรศดำริห์ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของนครหัวหิน เป็นสถานที่ลอยกระทงริมชายทะเล (บริเวณร้านมีกรุณาเดิม) ตกแต่งประดับไฟสวยงามสว่างไสวนับหมื่นดวงตลอดเส้นทางตั้งแต่บริเวณสะพานปลาหัวหิน-ร้านชาวเล รวม 10 วัน มีการประดิษฐ์กระทงยักษ์ขนาด 7 เมตร ตั้งโชว์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เซลฟี่เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก

สำหรับกิจกรรมวันที่ 4 พ.ย.68 มีการแข่งขันประกวดประดิษฐ์กระทงที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน, การแสดงจากศูนย์การเรียนรู้หัวหินถิ่นมนต์ขลัง, การแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักเรียน, และรำวงย้อนยุคสุดครึกครื้น / วันที่ 5 พ.ย. มีขบวนแห่กระทงใหญ่จากวัดหัวหินเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเดชานุชิตผ่านร้านชาวเลเข้าสู่บริเวณจัดงาน มีการประกวดนางนพมาศ ชิงเงินรางวัลกว่า 55,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Workshop สอนนักท่องเที่ยวประดิษฐ์กระทงสุดงดงาม ฟรี!

จากนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การออกร้านอาหารนานาชนิดนับสิบร้านและชมพลุสวยงามอลังการที่บริเวณสะพานปลาหัวหินทั้ง 2 วัน ตั้งแต่เวลา 20.30 น.เป็นต้นไป นอกจากนี้เทศบาลนครหัวหินยังจัดงานลอยกระทงตามชุมชนต่าง ๆ เช่นที่อ่างเก็บน้ำเขาเต่า, สวนหลวงราชินี 19 ไร่, เขาน้อย, หัวดอน, หนองแก, สะพานขี้เหล็ก, จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยร่วมลอยกระทงแบบรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ที่บริเวณจัดงานตามวันดังกล่าว.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ แบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยวันนี้ขออนุญาตนำเรื่องความเดือดร้อนหารือท่านประธานในเรื่องของความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ตอนนี้เดือดร้อนกันทั้งประเทศก็ว่าได้ เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรได้ตกต่ำ อยากจะบอกว่ารัฐบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ท่าน อย่ามองว่าเกษตรกรคือภาระของประเทศเลยครับ ประเทศไทยเปรียบเสมือนเป็นพิรามิด เกษตรกรทุกสาขาอาชีพเหมือนฐานราก ระดับบน
ก็คือนักการเมืองกลุ่มทุ่นและข้าราชการ ซึ่งใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชนทั้งนั้นนะครับ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเวลา ๑ ปี ๒ ปีที่ผ่านมาราคาสินค้าการเกษตรไม่ค่อยได้รับการแก้ไข แต่ยังโชคดี ที่มีอยู่โครงการหนึ่ง ก็คือโครงการสินเชื่อชะลอการขาย วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อรวบรวมข้าวที่ยังใช้ได้ ๑ ตัว แล้วก็เป็นนโยบายที่มีกำไรนะครับ เนื่องจากทั้ง ๒ โครงการเป็นได้กำไรทั้ง ๒ โครงการ ซึ่งอันนี้เป็นนโยบายที่ดีเป็นโครงการที่ดีของกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ทำร่วมกัน ปีนี้ต้องบอกชาวนาต้องแสดงความดีใจแทนชาวนาด้วยว่าที่ผ่านมาชาวนากว่าจะได้เงินจากโครงการนี้เป็นเดือน เพราะว่าข้าวนาปีกว่าจะออกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน สิ้นสุดเดือนธันวาคม ปีที่แล้วกว่าชาวบ้านจะได้เงินจากโครงการนี้ ประมาณเดือนธันวาคม และก็คือเงินยังไม่มา แต่ชาวบ้านต้องเอาข้าวไปขายฝากทางสหกรณ์ หรือฝากหน่วยงาน


ในโครงการนี้ ปีนี้ขอชมเชยรัฐบาลท่านอนุทินนะครับ ที่ได้ส่งขุนพล ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ท่านได้สั่งการและรีบทำทันที ปีนี้ได้เงินเร็วมาก ๑ พฤศจิกายน โครงการสินเชื่อชะลอการขาย โครงการรวบรวมข้าวจะเข้ามาดำเนินการในข้าวนาปีทันที ในข้าวหอมมะลิ ต้องฝากท่านประธานผ่านพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศ ข้าวหอมมะลิปีนี้ทั่วประเทศ ราคาข้าวสดเกี่ยวแล้วมาเลยราคา
จะอยู่ที่ ๑๑,๐๐๐-๑๒,๐๐๐ บาท แน่นอนไม่ถูกกว่านี้ แต่ก็ยังมีปัญหาในข้าวอย่างอื่นนะครับ
ผมฝากให้รัฐบาลเอาโครงการชะลอการขายของพรรคกล้าธรรมไปดำเนินการต่อ เพื่อจะได้แก้ปัญหาทั้งระบบไม่ว่าจะราคาสินค้าข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง โครงการชะลอการขายนี้สามารถใช้ได้เป็นอย่างดี เพราะเราขีดราคาขั้นต่ำไว้ให้เกษตรกรหมด เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็ฝากเรียนผ่านท่านประธานถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยครับ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มุกดาหาร 🌕🎆✨ ขอเชิญร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2568 ✨🎆🌕

แชร์เนื้อหานี้

ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568 📍ณ ชั่งทองฟาร์ม บ้านคำเม็ก ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดพิเศษ 💖พร้อม ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 42,000 บาท!!🏅ผู้ชนะการประกวดมี “สายสะพายและมงกุฎ” มอบให้ด้วยนะ 👑

👧 การประกวดหนูน้อยนพมาศ
✨ สำหรับน้อง ๆ อายุ 5–10 ปี
💵 ค่าสมัคร 400 บาท
🏆 รางวัลที่ 1 — 6,000 บาท
🥈 รางวัลที่ 2 — 4,000 บาท
🥉 รางวัลที่ 3 — 2,000 บาท
💰 รวมมูลค่ารางวัล 12,000 บาท

💃 การประกวดนางนพมาศ
👑 สำหรับสาวงามอายุ 15 ปีขึ้นไป (หญิง และสาวประเภทสอง)
💵 ค่าสมัคร 800 บาท
🏆 รางวัลที่ 1 — 10,000 บาท
🥈 รางวัลที่ 2 — 5,000 บาท
🥉 รางวัลที่ 3 — 3,000 บาท
💰 รวมมูลค่ารางวัล 18,000 บาท

🌸 การประกวดกระทงสวยงาม
🌿 ใช้วัสดุจากธรรมชาติ ย่อยสลายได้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
📏 กำหนดรัศมีรอบฐาน 50 เซนติเมตรขึ้นไป
💵 ค่าสมัคร 400 บาท
🏆 รางวัลที่ 1 — 6,000 บาท
🥈 รางวัลที่ 2 — 4,000 บาท
🥉 รางวัลที่ 3 — 2,000 บาท
💰 รวมมูลค่ารางวัล 12,000 บาท

📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2568
📣 ประกาศรายชื่อผู้เข้าประกวด วันที่ 29 ตุลาคม 2568
📲 สนใจสมัครหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ 👉 ชั่งทองฟาร์ม (Changthong Farm)

🌕 มาร่วมแต่งชุดไทยสุดงดงาม 💐
จุดเทียน ลอยกระทงกลางสระน้ำ 💦
พร้อมดนตรี แสงสี เสียงสุดอลังการ 🎶
มาร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยไปด้วยกันที่ “ชั่งทองฟาร์ม” 💛

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯจ.ร้อยเอ็ด เตรียมจัดงานสมโภชเมืองร้อยเอ็ด ครบ 250 ปี อย่างยิ่งใหญ่

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ นายพิชัยยา ตุระซอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อม

การจัดงาน “สมโภชเมืองร้อยเอ็ด ครบ 250 ปี” โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูมหาธรรมบาลมุรี รองเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าอาวาสวัดบ้านอ้น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน และพิจารณารายละเอียดรูปแบบงาน รวมถึงร่างกำหนดการจัดงาน ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 28 ธันวาคม 2568 ณ อนุสาวรีย์พระขัติยะวงษา ห้าแยกสายน้ำผึ้ง และ ลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดร้อยเอ็ด

การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมสำคัญ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 250 ปีแห่งการสถาปนาเมืองร้อยเอ็ด ตอกย้ำความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ วิถีวัฒนธรรม และความเจริญรุ่งเรืองของชาวร้อยเอ็ด ที่ร่วมกันสืบสานและพัฒนาเมืองให้มั่นคง ยั่งยืน และเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์แห่งอีสาน

ทั้งนี้ ในการประชุมได้พิจารณา 2 เรื่องสำคัญ คือ รูปแบบการจัดงานและร่างกำหนดการกิจกรรม และ จำนวนผู้ร่วมรำสมโภชเมืองร้อยเอ็ด ครบ 250 ปี ซึ่งเป็นกิจกรรมไฮไลต์สำคัญที่จะสะท้อนพลังความสามัคคีของชาวร้อยเอ็ด
!!!!!!
คมกฤช พวงศรีเคน ภาพ
คณิต ไชยจันทร์ รายงานจาก จ.ร้อยเอ็ด
โทร 093-458-9192

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ขอนุญาติพี่นักข่าว พัทลุงด้วยครับ ผู้การสมคิด นำขบวนทอดกฐินสามัคคี สืบสานศรัทธา ณ วัดอัมพวนาราม จ.พัทลุง

แชร์เนื้อหานี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 11.30 น. พันเอก สมคิด คงแข็ง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 นำขบวนกฐินสามัคคีประจำปี 2568

ณ วัดอัมพวนาราม (ส้มตรีด) อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อสืบสานประเพณีทางพระพุทธศาสนา และส่งเสริมความรัก ความสามัคคีในชุมชน

โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้น อย่างอบอุ่นและเปี่ยมด้วยพลังศรัทธา โดยมีผู้เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ กำลังพลจากหน่วยทหาร

เพื่อนกระต่ายโรงเรียนพัทลุง ส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนจากพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมกันถวายบริวารกฐินด้วยจิตใจอันเป็นกุศล

ยอดปัจจัยรวมจากการทอดกฐินในครั้งนี้อยู่ที่ 610,160 บาท ซึ่งจะนำไปสมทบทุนในการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรม เพื่อให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งธรรมะที่มั่นคงและเจริญรุ่งเรืองต่อไป

พันเอกสมคิดกล่าวว่า “การทอดกฐินไม่เพียงเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทย หากยังเป็นสะพานเชื่อมโยงความสามัคคีระหว่างหน่วยงานราชการ เยาวชน และประชาชนในพื้นที่ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมกันสร้างกุศลในวันนี้”

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ เสียงสาธุดังก้องทั่วศาลาวัด สะท้อนถึงพลังแห่งศรัทธาที่ยังคงงดงามและมั่นคงในหัวใจของชาวพัทลุง // ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน //

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าฯจ.ลพบุรี นางสุวจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดลพบุรี เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ ผู้ว่าลพบุรี คนที่ 51

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 1 ตุลาคม 2568 นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นางสุวจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี เดินทางสักการะพระเถระชั้นผู้ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดลพบุรี โดยได้กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี

ซึ่งประกอบด้วย พระพุทธรูปประจำจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ศาลพระภูมิ จากนั้นเดินทางไปกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี

พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ตั้งอยู่ใจกลางวงเวียนเทพสตรี และ กราบลาเจ้าพ่อพระกาฬ เทพอารักษ์ประจำเมืองลพบุรี ณ ศาลพระกาฬ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดลพบุรี

โดยในเวลาต่อมา ได้เดินทางไปกราบลา พระธรรมวชิรสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เจ้าอาวาสวัดกวิศรารามราชวรวิหาร และ พระภาวนาวชิรมงคล วิ. รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ โดยก่อนเดินทางออกจากจังหวัดลพบุรี มีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชนและนักเรียนโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ แห่งที่ 2 ร่วมมอบดอกกุหลาบแสดงมุทิตาจิต

นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ประวัติด้านการศึกษา เข้าศึกษาคณะรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจบการศึกษาได้รับ (เกียรตินิยมอันดับสอง) ประวัติการทำงาน เริ่มบรรจุเข้ารับราชการตำแหน่งปลัดอำเภอจังหวัดนครสวรรค์ ปี พ.ศ.2531 จากนั้นได้ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี

และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่ 2 โดยใน ปี พ.ศ. 2563 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก และย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565

จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี คนที่ 51 ที่ผ่านมานายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าฯ ที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนลิงรบกวนในเขตเมืองเก่าลพบุรี อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / มทร.รัตนโกสินทร์ สร้างฮีโร่ครั้งใหญ่จัดอบรมนักศึกษาช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานหากเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 24 ก.ย.68 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นภาพร นาคทิม รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตวังไกลกังวล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการ “BDMS

อบรมการช่วยชีวิต” Big Campaign รวมพลังสร้างฮีโร่ครั้งใหญ่ เนื่องในวันมหิดล โดยมี นางศศิเพ็ญ ปิยสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน และโรงพยาบาลกรุงเทพเพชรบุรี นายเชษฐพล มณีฉาย ผู้จัดการแผนกการตลาดและสื่อสารองค์กร

โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน พร้อมด้วย คณะครูอาจารย์มหาวิทยาลัยฯ นักศึกษาจากสโมสรโรทาแรคท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล จำนวน 2 รุ่น ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย กว่า 200 คน เข้ารับการอบรม ผศ.นภาพร นาคทิม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช

มงคลรัตนโกสินทร์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี จึงได้ร่วมกับทางโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหินจัดกิจกรรมนี้ เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ที่ถูกต้อง และมีความมั่นใจในการรับมือหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น หากพบเจอก็สามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง เพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้เพื่อนมนุษย์

นางศศิเพ็ญ ปิยสุทธิ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน จัดการอบรมนี้ตามนโยบายของของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จํากัด (มหาชน) หรือ BDMS มาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เข้าการอบรมจะมีความรู้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วยเบื้องต้น (Basic Life Support) เมื่อ

เกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนได้อย่างถูกวิธีก่อนส่งถึงมือแพทย์ การอบรมจะมีทั้งภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้ที่หัวใจหยุดเต้นด้วยการปั๊มหัวใจ (CPR) ที่ถูกวิธี การใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)

และการช่วยเหลือผู้ป่วยสำลักอุดกั้นทางเดินหายใจ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน และภาคีเครือข่าย อาทิ เทศบาลนครหัวหิน มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน และมูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน มาเป็นวิทยากรให้ความรู้

ตามแนวคิดที่ว่า แม้ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ หากเรามีองค์ความรู้และมีความมั่นใจ ผ่านการอบรมและฝึกปฏิบัติจริง โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้หลักการที่เป็นสากล.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781

ตร.ทท.ประจวบฯ จัดอบรมเครือข่ายอาสาสมัครฯ พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว “สะดวก-ปลอดภัย-เป็นธรรม”

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

เมื่อวันที่ 24 ก.ย.68 ตามศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว (ศปทท.ตร.) พ.ต.อ.ประภาวิน ฉายโฉมเลิศ รอง ผบก.ทท.3, พ.ต.ท.วรพรต ผลานิสงค์ รอง ผกก.1 ทท.3, พ.ต.ท.อาณัฐชัย ก้อนทอง สวญ.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 (ประจวบคีรีขันธ์), พ.ต.ต.ชโนวิทก์ สีเนหะ สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 และตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พร้อมผู้เข้ารับการอบรมอาสาสมัคร จำนวน 100 คน

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

ร่วมในพิธีเปิดการอบรม “โครงการอบรมอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแกนักท่องเที่ยว” ของศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี โดยมี พ.ต.อ.สุพมาส บัวลาด รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เป็นประธานเปิดการอบรม ระหว่างวันที่ 22-23 ก.ย.68 ณ ห้องประชุมบ้านพิงภูแพรว รีสอร์ท อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้กำหนดให้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์หลัก “สะดวก-ปลอดภัย-เป็นธรรม” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีมาตรฐานความปลอดภัยและการบริการระดับสากล โดยได้ดำเนินการจัดทำโครงการอบรมโครงการอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว เพื่อดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว พ.ศ.2568

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

เพื่อให้อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว มีความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ถูกต้อง เหมาะสมในการให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ โดยให้หน่วยในสังกัดจัดอบรมบรรยายเน้นบทบาทอาสาสมัครใน 3 มิติ ตามยุทธศาสตร์กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว คือ – สะดวก (Convenience) ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงตำรวจได้ง่ายและทันสมัย เช่น ศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 แปดภาษา, TTP Application,

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

และเครือข่ายสถานทูต – ปลอดภัย (Safety) ประเทศไทยต้องเป็น Safe Destination โดยอาสาสมัครคือ “หูตา” ของตำรวจ และ “เกราะใจ” ของสังคม ที่ช่วยป้องกันเหตุร้ายตั้งแต่ยังไม่เกิด – เป็นธรรม (Fairness) นักท่องเที่ยวได้รับความยุติธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เช่น การจัดการทัวร์เถื่อน, Taxi หลอกลวง และอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งคาดว่าหลังจบการอบรมในครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้ ความเข้าใจ เพื่อนำไปต่อยอดในการเป็นอาสาสมัครดำเนินงานเกี่ยวกับที่ได้รับอบรมมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี-ประจวบฯ ต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 0909944781

Upscaled with Gigapixel v1.0.2. 1477×1108 => 1477×1108 (1x) Model: Standard V2, denoise: 0.01, sharpen: 0.01, decompression: 0.01

ส.ส.ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับและถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหาร คณะครู และนักเรียน โรงเรียนเขากะลาวิทยาคม

วันพุธที่ 24 กันยายน 2568 นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับและถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหาร คณะครู และนักเรียน โรงเรียนเขากะลาวิทยาคม ตำบลเขากะลา 
อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมรัฐสภา  คณะฯ ได้เข้าชมห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร รับฟังข้อมูลความรู้เกี่ยวกับกระบวนการประชุมสภา และได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดีให้แก่นักเรียน 

สส.ทรงศักดิ์ ยังกล่าวชื่นชมคณะครูที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ใกล้ชิดการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร และขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ นักเรียนทุกคนเติบโตเป็นเยาวชนคุณภาพของจังหวัด

นครสวรรค์และของประเทศต่อไปแป๊ะยิ้มคอนหวัน #ทรงศักดิ์ส่งเสริมอุดมชัย #สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครสวรรค์เขต2พรรคเพื่อไทย #อําเภอเมืองนครสวรรค์ #พยุหะคีรี #โกรกพระ #นครสวรรค์บ้านเรา

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กองทัพอากาศได้จัดสร้าง เพื่อประดิษฐาน ณ บริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 5 ก.ย.68 เวลา 08.30 น.พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้ พ.ต.อ.สิโณทัย ลิลิตธรรม ผกก.สภ.จอมทอง

เข้าร่วมในพิธีประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่กองทัพอากาศได้จัดสร้าง เพื่อประดิษฐาน ณ บริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่

โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. เดินทางมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยข้าราชการในสังกัดกองทัพอากาศ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเชียงใหม่ และประชาชนในพื้นที่อำเภอจอมทอง

เข้าร่วมพิธี ณ พระมหาธาตุนภเมทนีพล นภพลภูมิสิริ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ///
..#สมจิตร แสงบันลังค์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ธนา นภาดล เปิดตัว “เดอะ ปาล์ม แกรนดิโอ้ พัทยา-มอเตอร์เวย์” ชูทำเลทองแห่งอนาคต

แชร์เนื้อหานี้

บริษัท ธนา นภาดล จำกัด โดย คุณภาค ธนาอัครชล ประธานกรรมการบริษัทฯ และคุณญดา จิรฉัตรบวรกุล กรรมการผู้จัดการ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ตลาดบ้านหรูพัทยา ด้วยการประกาศเปิดตัวโครงการ “เดอะ ปาล์ม แกรนดิโอ้” (The Palm Grandio’s Pattaya-Motorway) มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้าน เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับมาสเตอร์พีซ นิยามใหม่ของการอยู่อาศัยเหนือระดับ ท่ามกลางสังคมคุณภาพจำนวนเพียง 117 ครอบครัว บนทำเลที่ผสานความสงบเงียบและความสะดวกสบาย

เดอะ ปาล์ม แกรนดิโอ้ เป็นโครงการที่พักอาศัยที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันจากแนวคิด ” Modern Classic” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวียและสไตล์ยุโรป เพื่อให้บ้านทุกหลังสะท้อนถึงรสนิยมอันโดดเด่นของผู้อยู่อาศัย ภายในบ้านถูกออกแบบให้มีเพดานสูง (High Ceilings) ที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และเปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ด้วยหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเชื่อมต่อพื้นที่ภายในกับสวนสไตล์อังกฤษภายนอก ด้วยดีไซน์ “Inside Out – Outside In” เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และมีชีวิตชีวาเสมือนการพักผ่อนที่เหนือไปอีกระดับ

โครงการมีขนาดที่ดินประมาณ 40 ไร่ และนำเสนอแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้นถึง 3 แบบ (Type A – C) ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกขนาดครอบครัวอย่างแท้จริง ทั้งในด้านพื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชันที่ครบครัน เริ่มต้นพื้นที่ 221-352 ตร.ม. โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 7 – 14 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับบ้านระดับนี้ เกิดกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 50% และขณะนี้บริษัทกำลังเร่งดำเนินงานก่อสร้างเพื่อส่งมอบบ้านใน 2 เฟสแรก ให้แก่ลูกค้าโดยเร็ว
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบองค์รวม

นอกเหนือจากดีไซน์ที่โดดเด่น เดอะ ปาล์ม แกรนดิโอ้ ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่คลับเฮาส์หรู, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมจากุซซี่ และพื้นที่พักผ่อนแบบซันเคน สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ โครงการมีทั้งห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ห้องโยคะ และลู่วิ่งออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคนในครอบครัว เช่น สวนส่วนกลางและสวนหลังบ้าน สนามเด็กเล่นเพื่อการเรียนรู้ รวมถึงพื้นที่ Co-Working Space ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่ และที่สำคัญ โครงการยังติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charge Point) เพื่อรองรับเทรนด์พลังงานสะอาด

ในด้านความปลอดภัย โครงการยกระดับมาตรฐานด้วย “Premium Security System” ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, ระบบ Easy Pass และกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยทุกคนอุ่นใจได้อย่างสูงสุด
ทำเลทองแห่งการเชื่อมต่อและการลงทุน ทำเลที่ตั้งของโครงการถือเป็นจุดแข็งที่เหนือกว่า ด้วยศักยภาพการเดินทางที่เชื่อมต่อกับถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-พัทยาได้ภายใน 5 นาที

ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำอย่าง Terminal 21 และ Central Pattaya ที่ใช้เวลาเพียง 10 นาที รวมถึงใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ เช่น Regent’s International School, Rugby School Thailand และ Mooltripakdee International School ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่มองหาความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตในเมืองและธรรมชาติ รวมทั้งสนามบินนาชาติหัวใจของของ ECC

บริษัท ธนา นภาดล จำกัด ก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน และการเปิดตัวโครงการ เดอะ ปาล์ม แกรนดิโอ้ ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจสู่ตลาดไฮเอนด์ และตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์โครงการคุณภาพสูงสุด โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างบ้านหรูที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ระดับบน และขยายไปสู่การพัฒนาในมิติใหม่ ๆ ทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม และบริการอื่น ๆ ขึ้นมาเพื่อโฟกัสการเติบโตในอนาคต

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กิจกรรมเพื่อสังคม “Life Vaccine for Social” คณะนักศึกษา หลักสูตรวัคซีนชีวิต เพื่อสังคม สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 ได้จัดกิจกรรมดีๆ CSR ภาคเหนือ เป็นครั้งที่ 2

แชร์เนื้อหานี้

กิจกรรมเพื่อสังคม “Life Vaccine for Social” คณะนักศึกษา หลักสูตรวัคซีนชีวิต เพื่อสังคม สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 ได้จัดกิจกรรมดีๆ CSR ภาคเหนือ เป็นครั้งที่ 2 โดยมอบอุปกรณ์การศึกษาการกีฬาและทุนการศึกษาให้แก่ นักเรียน

โรงเรียน ตชด.พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนที่ขาดโอกาสในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีและเชียงใหม่ พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่ทหารอากาศกอง

บิน 41 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ ตำรวจตระเวนชายแดน กก.33 เชียงใหม่ และตำรวจภูธรสิงห์บุรีระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2568

เมื่อวันศุกร์ ที่ 22 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568 คณะผู้เข้ารับการศึกษาในหลักสูตร “วัคซีนชีวิตเพื่อสังคม (Life Vaccine for Social)” สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 นำโดย พล.ต.อ. สมพงษ์ ชิงดวง รองนายกสมาคมตำรวจ/ประธานหลักสูตรฯ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นางจุรีภรณ์ เมฆินไกรราช ในฐานะผู้แทนนักศึกษา วชส.1 ร่วมกับ สมาคมตำรวจ, และ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)ได้จัดกิจกรรมศึกษาดูงานในพื้นที่ภาคเหนือ ครั้งที่ 2 พร้อมทั้งดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) รุดเยี่ยมให้กำลังใจ บำรุงขวัญมอบถุงยังชีพ และ เครื่องตัดหญ้า เครื่องกีฬา ให้แก่ทหารอากาศ กองบิน 41 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และตำรวจภูธรสิงห์บุรี พร้อมจัดทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม  โดยการมอบถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้านที่ขาดโอกาส พร้อมมอบอุปกรณ์การศึกษา การกีฬา ให้แก่นักเรียนและพี่น้องประชาชนที่ขาดโอกาสในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี - จ.เชียงใหม่ รวม 500 ชุด อุปกรณ์การศึกษาการกีฬาทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนยากจน 150 ชุด โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะผู้เข้ารับการอบรมวัคซีนชีวิต เพื่อสังคม สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 (วชส.1)ทุกๆ ท่าน

ตำรวจภูธรภาค 1 เตือนภัย นักดื่มแอลกอกอฮออล์พึงระวัง พลาดถูกจับ นอนคุก ขึ้นศาล เสียเวลา เสียเงิน เสียประวัติ พร้อมกับแจงข้อกฎหมายและโทษ ที่จะเกิดขึ้น หลังจากเมาแล้วขับ…” ตำรวจภูธร ภาค 1

เตือนประชาชน ที่อยู่หรือเข้ามาทำภารกิจ ในเขตพื้นที่ 9 จังหวัดซึ่งตำรวจภูธรภาค 1 รับผิดชอบ เมาแลัวขับ โดนเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอลล์ เสี่ยงติดคุกและถูกปรับเงินพร้อมโทษทางอาญา ยังเช็คตัวอย่างที่กำลังเป็นข่าวดัง….”

พลตำรวจตรี ภัคพงศ์สายอุบล ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งควบคุมงานประชาสัมพันธ์ข่าวและแถลงข่าวเปิดเผยว่า

พลตำรวจโท สุรพลเปรมบุตร ผบช.ภ.1 ได้ มีความห่วงใย ในการขับรถ ของประชาชนซึ่งเดิมแอลกอฮอล์ซึ่งอาจ จะก่อให้เกิดอันตรายแก่ ตนเองและ ประชาชนที่ใช้ ท้องถนนและ พื้นที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกัน อาจก่อให้เกิด อันตรายและเสียชีวิตได้

จึงให้ งานประชาสัมพันธ์ ฝอ.5 บก.อก.ภ.1 ดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเพจ Facebook ของ ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 2 เรื่อง คือ1.) 🚨รู้หรือไม่ หากปฏิเสธการเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ กฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า “เมาแล้วขับ””เมาขับ“ อันตรายถึงชีวิต ผิดกฎหมาย อาจต้องโทษสูงสุด จำคุก 10 ปี 🚨

🌡️ เช็กเลย ปริมาณ ”แอลกอฮอล์“ แค่ไหน = เมาแล้วขับ
▪️ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัม % ( สำหรับบุคคลทั่วไป )
▪️ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัม % ( สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือ มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว ) 📍กฎหมายเกี่ยวกับเมาแล้วขับ ขับขี่ขณะดื่ม – เมาสุรา

เมาแล้วขับ – กระทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับ 5,000 – 20,000 บาทเมาแล้วขับ – หากทำผิดซ้ำ ภายใน 2 ปี นับแต่กระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 – 100,000 บาท ( ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ )

เมาแล้วขับ – หากทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต โทษสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ❗️ทั้งนี้หากต่อสู้ ขัดขวางเจ้าหน้าที่ ❗️

จะเข้าข่ายความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ( ป.อาญา ม.138 ) “เมาไม่ขับ“ ด้วยความห่วงใยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมาไม่ขับ #ขับขี่ปลอดภัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติRoyalthaipolice

2.) สภ.นครหลวง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา🚨⛑⛑ สวมหมวกนิรภัย ขับขี่ปลอดภัยในท้องถนน⛑⛑⛑ 👮🚨🪖 ตำรวจ สภ.นครหลวง ร่วมกับนายก อบต.แม่ลา รับมอบหมวกกันน็อก จำนวน 70 ใบ

จากบริษัทโรงผลิตไฟฟ้าเอกชน นิคมนครหลวง เพื่อสนับสนุนโครงการ “ขับขี่ปลอดภัยในท้องถนน” แจกจ่ายให้ประชาชน ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนน👮🚨🪖 Cr.#ตำรวจทำดี