เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2103 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี บ้านเหล่าหนาด ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พันเอก กัญญณัต ไชยโอชะ รองผู้อำนวยการส่วนอำนวยการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (รอง ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 (2) )
เป็นผู้แทน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24) แถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติด ร่วมกับนายปรีชา สอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน นาวาโทจักรกฤษ วังกรานต์ หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม ร้อยเอก ธนากร นาเหล็ก ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2103 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน
โดยเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 09.50 น. กองบังคับการควบคุมที่ 1(ร.3) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับการประสานจากกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2103 ว่าได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบวัตถุต้องสงสัยคาดว่าจะเป็นยาบ้า วางอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ บ้านตาลปากน้ำ หมู่ที่ 2 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จึงได้จัดกำลังเข้าทำการพิสูจน์ทราบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงจุดที่ได้รับแจ้ง พบกระสอบสีเหลือง จำนวน 2 กระสอบวางอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบภายในกระสอบ พบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 170,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่น) น้ำหนัก 3.2 กิโลกรัม จากนั้นจึงประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ร่วมทำการเข้าตรวจสอบและนำของกลางทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยการแจ้งเบาะแสนำมาซึ่งการตรวจยึดยาเสพติดในครั้งนี้เกิดจากการที่ประชาชน พบเห็นสิ่งผิดปกติแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารพรานและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งถือว่าประชาชนในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในการป้องกันสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่บ้านตาลปากน้ำ หมู่ที่ 2 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
ศูนย์ข่าวมุกดาหาร กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กองทัพภาคที่2 กองทัพบกroyalthaiarmyภาพ/ข่าว : นายพรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร
เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259777
หน่วยงานเมินหนังสือ จ.มุกดาหาร ปล่อยรถบรรทุกหนักไม่คลุมผ้าใบวิ่งเกลื่อนเมือง
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่า สืบเนื่องจากนายไกร เอี่ยมจุฬา ผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้มีหนังสือลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ถึงนายอำเภอทุกอำเภอและนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร ว่า ได้รับแจ้งจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นว่า สภาผู้แทนราษฎร ในคราวประชุมผู้แทนราษฎร วันที่ 11 กันยายน 2467 ได้มีสมาชิกผู้แทนราษฎรให้แก้ไขปัญหารถบรรทุกที่บรรทุกวัสดุ เช่น ดิน หิน ทราย หรือวัสดุอื่น ๆ ที่อาจจะฟุ้งกระจายระหว่างการขนส่งไม่มีวัสดุปกคลุมสิ่งของระหว่างการขนส่ง ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายในการบังคับใช้กับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดในการบรรทุกสิ่งของโดยไม่ปกคลุมและก่อให้เกิดอันตรายต่อใช้รถ ใช้ถนน เช่น พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102(4) ประกอบกับมาตรา 127 ฐานการขับรถโดยไม่ปฏิบัติและคำนึงถึงความปลอดภัยในการขนส่ง นอกจากนี้ยังมีพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 13 ที่กำหนดให้รถที่บรรทุกสิ่งของนั้นต้อง มีการป้องกันไม่ให้เกิดการตกหล่น รั่วไหล ฟุ้งกระจาย ลงบนถนนในระหว่างที่ใช้ และให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่มีอำนาจสามารถยึดรถนั้นไว้จนกว่าเจ้าของจะชำระค่าปรับ แต่ปัจจุบันมีรถบรรทุกไม่มีวัสดุปกคลุมสิ่งของ ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายหรือตกหล่นบนถนนจำนวนมาก
จังหวัดมุกดาหารพิจารณาแล้ว เพื่อให้การแก้ไขปัญหาตามประเด็นข้อหารือของสภาผู้แทนราษฎร ดังกล่าวฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุผลสัมฤทธิ์ จึงขอความร่วมมืออำเภอแจ้งองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ พิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวฯ ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป สำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบและดำเนินการด้วย
แต่ปรากฏว่าภายหลังจากที่จังหวัดมุกดาหารออกหนังสือฉบับดังกล่าว ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองมุกดาหารก็ยังคงมีรถบรรทุกไม่มีวัสดุปกคลุมสิ่งของ ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายหรือตกหล่นบนถนนจำนวนมากอยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดิม และนับวันแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่หลายแห่งโดยเฉพาะการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ทำให้มีรถบรรทุกทรายและหินใหญ่ซึ่งคาดว่าจะบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและไม่คลุมผ้าใบกันวัสดุตกหล่นจำนวนมากวิ่งผ่านในพื้นที่เทศบาลตำบลนาสีนวน เทศบาลเมืองมุกดาหาร ทางหลวงแผ่นดิน 2034 ทางเลี่ยงเมือง 238 และทางหลวงชนบท โดยรถบรรทุกดังกล่าวใช้เส้นทางวิ่งซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งของสำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร แขวงทางหลวงมุกดาหาร แขวงทางหลวงชนบทมุกดาหาร เทศบาลตำบลนาสีนวน และเทศบาลเมืองมุกดาหาร เพียงไม่กี่กิโลเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ใช้เส้นทางในการสัญจรอยู่ทุกวัน โดยไม่ปรากฏให้เห็นว่ามีหน่วยงานรับผิดชอบใดส่งเจ้าหน้าที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายและหนังสือจังหวัดมุกดาหารแต่อย่างใดกรมการขนส่ง
#กรมทางหลวง #กรมทางหลวงชนบท #จังหวัดมุกดาหาร #เทศบาลตำบลนาสีนวน #เทศบาลเมืองมุกดาหาร #กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259777
เหิม! ขบวนการค้าของเถื่อนลักลอบส่งบุหรี่ไฟฟ้าข้ามแม่น้ำโขง สะพานมิตรภาพ 2
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ร้อยโท วัชรสรณ์ เชื้อไพบูลย์ ผบ.ร้อย.ทพ.2105 ฉก.ทพ.21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีขบวนการค้าของเถื่อนข้ามชาติลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าจากแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงมาส่งให้กับนายทุนค้าของเถื่อนในจังหวัดมุกดาหารที่บริเวณท่าน้ำบ้านบางทรายใหญ่ ม.13 ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานบูรณาการกับชุดสืบสวนและปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมศุลกากร รุดไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง พบเรือหางยาวบรรทุกกล่องกระดาษขนาดใหญ่แล่นจากฝั่งแขวงสะหวันนะเขต เข้ามาจอดที่บริเวณท่าน้ำบ้านบางทรายใหญ่ ใกล้กับสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต)
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อที่จะขอตรวจสอบ แต่คนขับเรือเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้อาศัยความมืดวิ่งขึ้นฝั่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบกล่องกระดาษบรรจุสิ่งของขนาดใหญ่จำนวน 5 กล่องอยู่ในลำเรือ จึงได้เปิดกล่องกระดาษตรวจสอบพบว่าภายในบรรจุบุหรี่ไฟฟ้า 1 กล่อง ส่วนอีก 4 กล่อง พบว่าเป็นบุหรี่ผลิตใน สปป.ลาว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางและนำส่งด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกroyalthaiarmy
ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259777