คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว PR

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รพ.ในเครือ BDMS ภาคตะวันออก จัดประชุมวิชาการ BDMS Eastern Trauma Network’25 ภายใต้หัวข้อ “The Trauma Code: Mass Casualty Incident and Disaster”

แชร์เนื้อหานี้

ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ภาคตะวันออก โดยโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้จัดการประชุมวิชาการ “BDMS Eastern Trauma Network’25” ในหัวข้อ “The Trauma Code: Mass Casualty Incident and Disaster” เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์ภัยพิบัติและอุบัติเหตุหมู่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และทีมฉุกเฉินในภาคตะวันออก การประชุมจะจัดขึ้นในวันที่ 7 – 8 สิงหาคม 2568 เวลา 08.00 – 16.00 น. ณ ห้องประชุม Space 1-2 โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ จังหวัดชลบุรี

โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงและภาครัฐร่วมเป็นประธานในพิธี ได้แก่ นพ.สุทร บวรรัตนเวช ผู้อำนวยการใหญ่ศูนย์อุบัติเหตุและออร์โธปิดิกส์ในเครือบริษัท และผู้อำนวยการอาวุโสศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพ นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 3 และกลุ่ม 6 นางสุภัทรา ชลพนารักษ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานภายในสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และ นพ.รชติ ทองประยูร ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลผู้บาดเจ็บ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เข้าร่วม

การประชุมวิชาการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับศักยภาพของบุคลากรในเครือข่าย BDMS ภาคตะวันออก ให้มีความพร้อมสูงสุดในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่รุนแรงและซับซ้อน เช่น ภัยพิบัติธรรมชาติ อุบัติเหตุหมู่ และสถานการณ์ Mass Casualty Incident โดยมีการบรรยาย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา พร้อมทั้งการเน้น

การทำงานร่วมกันในเครือข่ายโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี โรงพยาบาลกรุงเทพตราด โรงพยาบาลศรีระยอง โรงพยาบาลจอมเทียน โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา โรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี และโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เป็นต้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินในภูมิภาค

การบรรยายครอบคลุมหัวข้อสำคัญ อาทิ การจัดการผู้ป่วยอุบัติเหตุทางกระดูกและข้อ การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้และสารพิษ การสนับสนุนทางด้านสุขภาพจิตสำหรับผู้ประสบภัย การเตรียมความพร้อมของชุมชน การช่วยชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการจัดการและดูแลผู้ป่วยในเหตุการณ์ฉุกเฉิน

ทั้งนี้ ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ถือเป็นศูนย์กลางหลักของเครือข่าย BDMS Eastern Trauma Network และได้รับการรับรองมาตรฐาน CAMTS และ CAMTS EU ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่เน้นความปลอดภัยสูงสุด ในการเคลื่อนย้ายและดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินที่พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 38-259 999

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “สงวนวงษ์อุตสาหกรรม” โชว์ศักยภาพมันสำปะหลังไทยในเวทีโลก ในงาน WTC 2025

แชร์เนื้อหานี้

เดินหน้าขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากกลุ่มบริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของประเทศไทย บนเวทีระดับนานาชาติ ด้วยการเข้าร่วมงาน World Tapioca Conference 2025 (WTC 2025) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29–31 กรกฎาคม 2568 ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “Thailand Tapioca Next: Go Global Go Together”

งานประชุมในครั้งนี้จัดโดย กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การกำกับดูแลของ นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และได้รับเกียรติจาก นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน จาก 16 ประเทศและเขตเศรษฐกิจทั่วโลก

กลุ่มบริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม โดย คุณธิดารัตน์ รอดอนันต์ และ คุณโชติมา ลีอังกูร กรรมการผู้จัดการ ได้นำเสนอศักยภาพและเทคโนโลยีการแปรรูปมันสำปะหลังของบริษัท ผ่านนิทรรศการสุดล้ำ พร้อมลงนาม สัญญาซื้อขายและบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติ รวมมูลค่าการค้ากว่า 10,900 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณมันสำปะหลังกว่า 1.48 ล้านตัน และสามารถใช้หัวมันสดในประเทศได้สูงถึง 3.57 ล้านตัน

ไฮไลต์สำคัญของงาน คือ การลงนามความร่วมมือระหว่าง บริษัท สงวนวงษ์สตาร์ช จำกัด โดย คุณธิดารัตน์ รอดอนันต์ กับคู่ค้าต่างชาติ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดของผลิตภัณฑ์แปรรูปมันสำปะหลังไทยสู่ระดับสากล

การเข้าร่วม WTC 2025 ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัทสงวนวงษ์ ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมผลักดันเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็ง และยกระดับเกษตรกรไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานการบริหารงานกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติและศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จ.นครราชสีมา

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. นางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานการบริหารงานกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) จังหวัดนครราชสีมา ณ ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดนครราชสีมา โดยมี
นางสาวนงลักษณ์ ยะสูงเนิน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ4 พร้อมด้วยนางกันตา ดีเติม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาร่วมรับฟังข้อราชการในการตรวจเยี่ยมดังกล่าว

นางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า”พม.นครราชสีมา” ขานรับนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายวราวุธ ศิลปอาชา) โดยเปิดศูนย์ประสานการบริหารงานกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) ดูแลช่วยเหลือ กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ณ ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อประสานการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ที่เข้าพักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวของจังหวัดนครราชสีมาโดยทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดนครราชสีมาได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลกลุ่มเปราะบาง

เพื่อประสานส่งต่อข้อมูลให้กับส่วนกลางและจังหวัดต้นทาง พิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิสวัสดิการตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งในระหว่างที่เข้าพักอาศัยในศูนย์พักพิงได้มีการจัดกิจกรรมสันทนาการ เพื่อผ่อนคลายและลดความวิตกกังวลของกลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ พร้อมทั้งช่วยจัดหาสิ่งของที่จำเป็น และให้คำแนะนำปรึกษาในเรื่องสิทธิสวัสดิการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

จากนั้นนางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พร้อมคณะเดินทางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราววัดเกราพัฒนาราม ต.ใหม่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมาเพื่อพบปะและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน โดยประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวทุกคนยังมีกำลังใจที่ดีและไม่มีความวิตกกังวลใดๆพร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานทุกคนที่ดูแลความเป็นอยู่อย่างดี

นางสาวนภาพร กล่าวอีกว่า กระทรวง พม. ขอเป็นสื่อกลางในการประสานเชิญชวนพี่น้อง ประชาชน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลส่งความห่วงใยแก่พี่น้องผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถบริจาคสิ่งของหรือเงินผ่านบัญชี “ศูนย์รับบริจาค กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” ธนาคารกรุงไทย บัญชีกระแสรายวัน เลขบัญชี 021-6-05940-2 (ผู้บริจาคมีสิทธินำเงินบริจาคลดหย่อนภาษีได้) หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-659 6418-9

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯโปรดเกล้าให้ผู้ว่าฯนครราชสีมา เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานและกระเช้าดอกไม้พระราชทานให้ทหารชายแดนไทยกัมพูชา จำนวน 5 นาย ณ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 ณ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากกรณี เหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ส่งผลให้มี นายทหาร จากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์จาก จ.ลพบุรี จำนวน 1 นาย กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 จ.บุรีรัมย์ จำนวน 4 นาย ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 5 นาย

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานและกระเช้าดอกไม้พระราชทานให้ทหาร ด้าน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่าย สุรนารี พลตรีณรงค์ ภักดีศุภผล กล่าวว่า นายทหารทั้ง 5 นาย

เข้ารับการรักษาตัว ณ หอผู้ป่วยราชการสนาม ชั้น 8 รพ.ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในระดับสีเขียวจาก สะเก็ดระเบิด ในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้แสดงความขอบคุณ ในความเสียสละของทหารไทย เพื่อ ปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภูธร จ.นครราชสีมา แถลงการจับกุมผู้ต้องหา 13 คน พร้อมของกลางน้ำกระท่อม เกือบ 1000 ลิตร

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อ วันที่ 23 ก.ค.2568 ณ สภ.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โดย พ.ต.อ.คเชนทร์ เสตะปุตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา แถลงการจับกุมผู้ต้องหา 13 คน พร้อมของกลาง น้ำกระท่อม 840 ลิตร

สภ.โชคชัย บูรณาการร่วม อำเภอโชคชัย โดย นายพิชาญ ตราผักแว่น นายอำเภอโชคชัย พ.ต.อ.คเชนทร์ เสตะปุตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ชวาลย์ วงษ์รอด ผกก.สภ.โชคชัยได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 13 คน พร้อมของกลาง

1.น้ำกระท่อมบรรจุขวดพลาสติกขนาด 1 ลิตรจำนวน 840 ขวด
2.ยาแก้ไอ จำนวน 17 ลัง (50ขวด)
3.น้ำอัดลม 48 ขวด
4.น้ำตาลสด 30 ขวด
5.ใบกระท่อมสด 7 กก.
6.หม้อต้มสแตนเลส 8 ใบ
7.เตาแก๊ส 4 ใบ
8.ถังแก๊ส 2 ใบ
9.กะละมังพลาสติก 4 ใบ
10.ตะแกรง 6 อัน
11.ขวดพลาสติกเปล่า 200 ขวด

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2568 สภ.โชคชัยได้บูรณาการร่วมกับ อำเภอโชคชัย และ สาธารณสุขโชคชัย เข้าปิดล้อม ตรวจค้นบ้านเลขที่ 267 บ้านหนองสำโรง หมู่ 11 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นคนราชสีมา ได้มีนายตระการ ชื่นกระโทก อายุ 39 ปี ผู้เช่าแสดงตนเป็นเจ้าของ และผู้ดูแล

จากการตรวจค้นพบว่ากำลังผลิตน้ำกระท่อมกันอยู่ สอบถามนายตระการ ฯ แจ้งว่าตนเป็นผู้ว่าจ้างลูกจ้างทั้งหมด 10 คน โดยจ่ายค่าจ้างคนละ 400 บ. ต่อวัน ต่อคน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมของกลางทั้งหมด ส่ง พงส.สภ.โชคชัย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เหตุเกิด บ้านเลขที่ 267 บ้านหนองสำโรง หมู่ 11 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

ภาพ/ข่าว : กันตินันท์ เรืองประโคน ผู้สื่อข่าว จ.นครราชสีมา

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ภารกิจดำน้ำเก็บขยะตามแนวปะการัง 30 กิโลกรัม คืนความสะอาดให้ทะเลไทย ที่เกาะง่ามน้อย จ.ชุมพร / หวั่นโรคร้ายเร่งตรวจสอบซากสุนัขจรจัดตายหลายตัว

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ร่วมกับศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 1 ชุมพร

ลงพื้นที่ทำความสะอาดเก็บขยะตามแนวปะการัง ตรวจสอบการวางลอบ อวน และอุปกรณ์ทำการประมงอื่นๆ ที่ทำลายทรัพยากรในทะเล บริเวณเกาะง่ามน้อย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร

ซึ่งการดำน้ำเก็บขยะในครั้งนี้ สามารถจำแนกขยะได้เป็น เศษเชือก เศษอวนจำนวน 20 กิโลกรัม และขวดพลาสติก จำนวน 10 กิโลกรัม โดยสามารถเก็บขยะได้ทั้งสิ้น 30 กิโลกรัม

ขยะในท้องทะเลยังคงเป็นตัวการสำคัญ ที่ทำร้ายทั้งสัตว์และทรัพยากรใต้ท้องทะเล ถึงเวลาที่เราทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจ ไม่ทิ้ง หรือทิ้งขยะให้ถูกที่ เพื่อให้ท้องทะเลไทยยังคงสดใสและงดงามเหมือนเดิม

ที่มา : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จ.ชุมพร #ขยะทะเล #ดำน้ำเก็บขยะ #อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร #ทะเล #ทรัพยากรธรรมชาติ #ชุมพร

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ยายอายุ 71 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรม!! สมาคม อสมช.ภาคประชาชน หลานยื้มรถคนอื่นไปซื้อยา โดนผู้ใหญ่บ้าน ดักซ้อมกลางทาง

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (14 ก.ค.68) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางทองมา แกว่นไกร อายุ 71 เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม นายสมชาย แก้วสุทธิ นายกสมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) เนื่องจาก นายเจริญชัย อาทิตย์วงศ์ อายุ 33 ปี เป็นผู้บาดเจ็บ จากการโดน ผู้ช่วยและผู้ใหญ่บ้าน ได้รุมซ้อมตีในพื้นที่ บ้านหนองไผ่ หมู่ 5 ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

สืบเนื่องมาจากวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 12.00 น. นายเจริญชัย อาทิตย์วงศ์ (นายเข้ม) ได้ยืมรถ..นายจวน ได้ขับรถไปซื้อยาเสพติด จำนวน 14 เม็ด โดยไม่บอกว่าจะยืมรถไปใช้อะไร ทางเจ้าของรถได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้าน ว่านายเจริญชัย หรือ เข้ม ได้ขับรถออกไปซื้อยา เสร็จแล้วได้เอารถไปคืนยังบ้าน ออกมาจากบ้านนายจวน ถึงสามแยก ทางผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วย จึงดักจับรุมซ้อมตี จนบาดเจ็บที่หลังช้ำตามร่างกาย นายจวน ได้เอาไม้ตีพลาดไปโดน แขนข้างซ้ายของผู้ช่วย ทางผู้เป็นย่าบอกว่า ถ้าผู้ช่วยไม่เอาแขนรับไว้อาจจะบาดเจ็บสาหัสมากกว่านี้.ยายเล่าว่า หลานได้ยอมรับสารภาพผิดจริง ว่าได้ยืมรถเขาไปไม่ได้บอก เพื่อขับไปซื้อยาจำนวน 14 เม็ด แล้วตอนนี้ หลานตนก็ได้ถูกฝากขังเพื่อรอสืบสวนสอบสวนที่เรือนจำสระแก้วแล้ว จึงอยากมาร้องขอความเป็นธรรมกับสมาคมฯ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าว

ทางนายกสมาคมฯ ได้เปิดเผยว่า ทางเราได้จะทำเอกสารส่งถึงสำนักนายกรัฐมนตรี และถึงผู้ว่าฯจังหวัดสระแก้ว เพื่อได้สืบหาข้อเท็จจริงต่อไป เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว ข้าราชการทางการเมือง ไม่มีสิทธิ์ที่จะซ้อมตีหรือลงมือทำร้ายร่างกายกับประชาชน จึงส่งผลเกิดการเจ็บตัวและช้ำตามร่างกาย ทางสมาคมฯเราจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย อย่างแน่นอนสมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) “ศูนย์ช่วยเหลือ เป็นสื่อกลาง ให้คำปรึกษา ปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน” โทร.087-054-9954

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปปส.ภาค7 นำสื่อมวลชน ภาคตะวันตก 8 จังหวัด ศึกษาดูงาน การแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยกลไกร ชรบ. ณ เทศบาลตำบลหนองตากยา ท่าม่วง

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่เทศบาลตำบลหนองตากยา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 ( ป.ป.ส.ภาค 7 ) มอบหมายให้ นางมนัญญา ไวอัมภา ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์และอำนวยการ ป.ป.ส.ภาค 7

นำคณะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 7 และคณะสื่อมวลชนทั้ง สื่อโทรทัศน์ท้องถิ่น สื่อวิทยุ สื่อหนังสือพิมพ์ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 8 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด เจ้าหน้าที่จาก ศอ.ปส.ทั้ง 8 จังหวัดภาคตะวันตก มี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ ศึกษาดูงาน การแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยกลไกร ชรบ. เทศบาลตำบลหนองตากยา

โดยมี พ.ต.อ.ฐิติกร วันเจริญพันธ์ ผกก.สภ.สำรอง อำเภอท่าม่วง นายธาราพงษ์ ทองจรัส ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอท่าม่วง นายต้อง ว่องไวกริยา นายกเทศมนตรีตำบลหนองตายา นายสายชล ตันมันทอง กำนันตำบลหนองตากยา พร้อม ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และ ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยหมู่บ้าน ( ชรบ.) ให้การต้อนรับ

สำหรับการก่อตั้ง ชรบ.ตำบลหนองตากยา เนื่องจากตำบลหนองตากยาเป็นเขตติดต่อกับจังหวัดราชบุรี และยังเป็นทางผ่านไปยังหลายพื้นที่ได้ จึงทำให้มียาเสพติดผ่านเข้ามาในพื้นที่ตำบลหนองตากยา รวมทั้งการกระทำผิดตามกฎหมาย เช่น ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ตำบลหนองตากยา

จึงได้มีการฝึกอบรม ชุดรักษาความปลอดภัยขึ้น ในปี พ.ศ.2558 โดยมีนายอำเภอท่าม่วง ปลัดอำเภอ ทหาร ตำรวจ เข้ามาฝึกอบรมให้กับชุดรักษาความปลอดภัยตำบลหนองตากยา ตำบลหนองตากยาได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากภาครัฐ ภาคเอกชน และกองทุนหมู่บ้านในการฝึกอบรม และตัดชุดให้กับ ชรบ..ทั้ง 16 หมู่บ้าน

สำหรับอำนาจหน้าที่ของ ชรบ.ตำบลหนองตากยา 1.อยู่เวรยามรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน 2.ตรวจตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อย 3.สืบสวนหาข่าว 4.เฝ้าระวังสถานการณ์สำคัญ 5.รายงานการเกิดเหตุ 6.ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา 7.จับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้า ตามป.วิอาญา 8.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 9.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
///////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โครงการ “การพัฒนาเครือข่ายชุมชนการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละออง PM2.5 ในจังหวัดน่าน”

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 โครงการ “การพัฒนาเครือข่ายชุมชนการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละออง PM2.5 ในจังหวัดน่าน”

ได้จัดกิจกรรมลงพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อพัฒนาแนวทางการลด PM2.5 ผ่านการส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมักจากวัสดุเศษเหลือทางการเกษตร ณ บ้านท่าลี่ ตำบลขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 30 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรในพื้นที่

กิจกรรมในครั้งนี้นำโดย นายนคร สอนสมฤทธิ์ เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดน่าน และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกชัย ดวงใจ หัวหน้าโครงการวิจัย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

ทีมงานได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตปุ๋ยหมักโดยใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 พด.2 และ พด.3 ซึ่งเป็นนวัตกรรมชีวภาพที่ช่วยเร่งการย่อยสลายเศษพืช เศษฟาง และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ลดระยะเวลาการหมักและเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลาย
นอกจากนี้ยังมีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ

เพื่อหลีกเลี่ยงการเผาที่เป็นสาเหตุสำคัญของจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษวัสดุเหล่านี้และส่งเสริมการพึ่งพาตนเองด้านปุ๋ยอินทรีย์ในระดับครัวเรือนและชุมชน โดยหลังสิ้นสุดการอบรม เกษตรกรผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริงในการผสมวัสดุ เศษฟาง ใบไม้แห้ง และเศษข้าวโพดร่วมกับสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 พด.2 และ พด.3 จนได้กองปุ๋ยหมักต้นแบบประจำหมู่บ้าน

การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายผลแนวทางการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรแบบ “Zero Burn” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่วิจัย เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับชุมชนในจังหวัดน่านอย่างยั่งยืน/ เครดิต/สรรเพชญ์ ปุละ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วัดพรหมทินใต้ อ.โคกสำโรง จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีและวางศิลาฤกษ์สร้างมณฑปประดิษฐาน “พระพนัสบดี ศรีทวารวดี” อายุกว่า 1,400 ปี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 ณ วัดพรหมทินใต้ ตำบลหลุมข้าว อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ได้จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีและวางศิลาฤกษ์สร้างมณฑปจตุรมุข เพื่อประดิษฐาน “พระพนัสบดี ศรีทวารวดี” พระพุทธรูปศิลปะทวารวดี อายุเก่าแก่กว่า 1,400 ปี

ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดลพบุรีและมีคุณค่าทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง พิธีเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 08.09 น. มีพิธีบวงสรวงก่อสร้างมณฑป จากนั้น เวลา 10.09 น. เป็นพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนการก่อสร้าง และในเวลา 13.09 น. มีพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างมณฑปจตุรมุขอย่างเป็นทางการ

โดยพลโทชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.3 กอ.รมน.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมี พระอธิการสนทร โอกาโส เจ้าอาวาสวัดพรหมทินใต้ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

การก่อสร้างมณฑปในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์โบราณวัตถุสำคัญของชาติ ส่งเสริมพระพุทธศาสนา และสร้างศาสนสถานเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลพบุรีและผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้จัดงานได้เชิญชวนร่วมอนุโมทนาบุญ โดยอานิสงส์ของการร่วมบุญครั้งนี้ เชื่อกันว่าจะส่งผลให้ชีวิตมั่นคงดั่งฐานพระ เกิดสิริมงคล ปกป้องคุ้มภัย เสริมบารมี และนำพาความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิตและครอบครัว

“การสร้างศาสนสถาน คือ การวางรากฐานของความดี ความมั่นคง และสันติสุขให้บ้านเมือง”บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความศรัทธาและความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนในพื้นที่และผู้มีจิตศรัทธาที่เดินทางมาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

สนอง แท่นสูงเนินผอ.ศูนย์ข่าวฯ
และอนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี

นายปรัชญา เปปะตัง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีโชว์ลีลาผัดไทย พร้อมร่วมงานโครงการ “ถนนสายวัฒนธรรม ปันน้ำใจสู่ผู้ยากไร้” ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี