คลังเก็บหมวดหมู่: กิจกรรมเพื่อสังคม

ดร.ฉวีวรรณ คำพา นำผ้าพระกฐินพระราชทาน ร.10 ทอดถวาย ณ วัดใหญ่อินทาราม อ.เมือง จ.ชลบุรี

แชร์เนื้อหานี้

นำผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายพระสงฆ์ จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดใหญ่อินทาราม เป็นอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย โดยมีพระราชวัชรสิทธิสุนทร เจ้าอาวาส เป็นประธานสงฆ์รับผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ด้วย

โดยมีนางสาวฐิติลักษณ์ คำพา รอง ผวจ.ชลบุรี ร่วมเชิญผ้าไตรพระราชทานในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ โดยเสด็จเป็นพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ มีผู้จิตศรัทธาและพุทธศาสนิกชนชาวพุทธ ร่วมทำบุญสมทบ เป็นจำนวนเงิน 5 ล้าน กว่าบาท

ซึ่งการนำผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ซึ่งผู้ที่จะขอพระอนุญาตไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นหน่วยงานราชการ ขอให้เป็นผู้ที่ตั้งมั่นในบวรพระพุทธศาสนาและเป็นสุจริตชน ไม่ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติพระองค์ท่านก็จะพระราชทานให้นำผ้ากฐินพระราชทาน

ไปทอดถวายพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ ได้ ซึ่งได้มีข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ของ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ในพระบรมราชูปถัมป์ และ พนักงาน บริษัท ฉวีวรรณกรุ๊ป ตลอดจนประชาชนทั่วไปจำนวนมาก ได้มาร่วมกันทอดผ้ากฐินพระราชทานเพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

การทอดกฐิน คือ การถวายผ้ากฐินแก่พระสงฆ์ผู้จำพรรษาอยู่วัดใดวัดหนึ่งหรือสถานที่ใดที่หนึ่งครบ 3 เดือน เพื่อให้พระได้มีผ้าเปลี่ยนใหม่ โดยใน 1 ปี แต่ละวัดจะมีการรับกฐินเพียง 1 ครั้ง และจะต้องทำภายในเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันออกพรรษา

ผู้ทอดกฐินมีความเชื่อว่า การทอดกฐินเป็นพิธีบุญที่อานิสงส์แรง ได้บุญมาก เชื่อ่วาจะทำให้เกิดความมั่งคั่ง มั่นคงในโภคทรัพย์สมบัติและหน้าที่การงาน เป็นคนรูปงาม ผิวพรรณงาม เป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป และเป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส

สำหรับ กฐินพระราชทาน เป็นผ้าพระกฐินพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน และเครื่องกฐินแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ส่วนราชการ หน่วยงาน สมาคม หรือเอกชน ให้ไปทอดยังพระอารามหลวงต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งในปัจจุบันกรมการศาสนารับผิดชอบจัดผ้าพระกฐินและเครื่องกฐินถวาย

สื่อรัฐทีวี สื่อรัฐนิวส์ / สสจ.จัดงานมหกรรมสุขภาพ ครั้งที่ 2 “Buengkan Health Fair II : Herbs for Health & Well-being 2024” ตรวจสุขภาพให้ประชาชนฟรี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 1 พ.ย. เวลา 10.30 น. ที่บริเวณถนนข้าวเม่าริมโขง บึงกาฬ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ จัดงานมหกรรมสุขภาพ ครั้งที่ 2 “วันภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” ปี 2567 “Buengkan Health Fair II : Herbs for Health & Well-being 2024 พร้อมเปิดเวทีเสวนาวิชาการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้การแพทย์แผนไทยการแพทย์พื้นบ้าน โดยมี ดร.นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดงาน และประธานกล่าวราชสดุดี เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ ๓ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย”

มีนางไกรษร จุลโยธา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายแพทย์สุรพงษ์ ลักษวุธ นายแพทย์เชี่ยวชาญ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ นายประเสริฐ บินตะคุ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (ด้านส่งเสริมพัฒนา) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ นายแพทย์กฤษณพงษ์ ชุมพล นายแพทย์เชี่ยวชาญ ปฏิบัติหน้าที่รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ดร. คำไฝ พลสงคราม นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงสาธารสุข เจ้าหน้าที่ และประชาชน ร่วมพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมรูป พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย และพิธีเปิด

ดร.นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 เห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา“พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า และกําหนดให้วันที่ 29 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” นอกจากนี้ พระองค์ได้ปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร มีการจารึกตำราการแพทย์แผนไทยติดประดับไว้ตามศาลกราย และจัดสร้างรูปฤษีดีดัดตน ตั้งไว้ศาลาละ 4-5 รูป รวม 36 หลัง และยัง

จารึกตำรายาต่างๆ ติดประดับไว้ในศาลา ทั้ง 16 หลัง ซึ่งองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศรับรองให้ ศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2555 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทำให้การแพทย์แพทย์แผนไทยมีความเจริญ รุ่งเรือง เกิดคุณปการแก่ประชาชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายงานด้านการแพทย์แผนไทยแพทย์พื้นบ้าน จัดงานมหกรรมสุขภาพ ครั้งที่ 2 “Buengkan Health Fair II : Herbs for Health & Well-being 2024”

ระหว่างวันที่ 1 – 2 พฤศจิกายน 2567 เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬและคนไทยได้ร่วมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ที่มีต่อการคุ้มครองรักษาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย รวมถึงการสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมั่น ยกระดับ และนำไปใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรไทย

นอกจากกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ปีนี้ยังมีเวทีเสวนาวิชาการ อาทิ เสวนาวิชาการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้การแพทย์แผนไทยการแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้านด้วยตนเอง ภูมิปัญญาไทยสู่ผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ การยกระดับมาตรฐานการนวดไทย การแพทย์แผนไทยกับสถานการณ์ประเทศไทยในปัจจุบัน การผลิตยาสมุนไพรให้ได้มาตรฐาน GMP การนำภูมิปัญญาสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมชิม ชอป ใช้ สมุนไพรและภูมิปัญญาล้ำค่ามากมาย

ปีนี้งานจัดขึ้นภายใต้รูปแบบภายใต้แนวคิดการจัดงาน “ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย นวดไทย มรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรม” มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ตลอดทั้ง 2 วัน ได้แก่ ให้บริการตรวจสุขภาพฟรี ชมบูธนิทรรศการแพทย์แผนไทย นำเสนองานวิจัย จาก 8 อำเภอ การสาธิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร กิจกรรม Work Shop จากโรงพยาบาลบึงกาฬ และเครือข่ายวิชาชีพการแพทย์แผนไทยแพทย์พื้นบ้าน จึงขอเชิญชวนชาวบึงกาฬทุกท่าน อย่ารอช้า! มาร่วมสร้างสุขภาพดีไปด้วยกัน เพื่อหลีกหนีจากความเสี่ยงของโรคและการเจ็บป่วย พร้อมรับความรู้และบริการทางการแพทย์ครบวงจร
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดยิ่งใหญ่! Pattaya International Tattoo Festival 2024 รับไฮซีซั่น / งานวิ่งได้บุญ SVT RUN 2024 หารายได้ช่วยผ่าตัดเด็กป่วยโรคหัวใจ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 1 พ.ย.67 นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้ทรงคุณวุฒิเมืองพัทยา ในฐานะผู้แทนนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดงาน Pattaya International Tattoo Festival 2024 ที่ปาร์ตี้เฮ้าส์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมารีน่า พัทยา จ.ชลบุรี โดยมี นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมงาน

นายชาตรี สุขสวัสดิ์ ประธานกลุ่มช่างสักระหว่างประเทศประจำประเทศไทย World Tattoo Event เผยว่า สำหรับงาน Pattaya International Tattoo Festival 2024 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย.67 นี้ โดยจัดเป็นเทศกาลงานสักที่รวบรวมช่างสักชื่อดังจากทั่วโลกกว่า 1,000 ชีวิต ในหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส เซอร์เบีย ไอแลนด์ เกาหลีใต้ เวียดนามและไทย

ทั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือกันจัดขึ้นของกลุ่มช่างสักระหว่างประเทศและผู้ชื่นชอบศิลปะการสักลายบนเรือนร่าง ที่มีเมืองพัทยาและ ททท.ร่วมสนับสนุน โดยในงานจะมีการประกวดรอยสักกว่า 22 รายการ ฟรีคอนเสิร์ตจาก Bulletguyz และครั้งแรกกับการจัดประกวด Miss Bikini Tattoo ที่จะมีขึ้นในวันสุดท้ายของการจัดงาน ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกหนึ่งงานที่จะสร้างสีสันรับไฮซีซั่นของปี

ผลักดันให้สังคมน่าอยู่..สายวิ่งเตรียมระเบิดความมันส์ งานวิ่งได้บุญ SVT RUN 2024 หารายได้ช่วยผ่าตัดเด็กป่วยโรคหัวใจ

วันที่ 1 พ.ย.67 โรงเรียนศรีสุวิช จ.ชลบุรี โดย ดร.ประถมาภรณ์ ฟักฤกษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสุวิช ได้จัดงานแถลงข่าวงานวิ่งการกุศลครั้งที่ 7 ของโรงเรียน ภายใต้ชื่องาน SVT RUN 2024 CHARITY FOR KIDS STEPPING TO THE HEARTS.

โดยในพิธีการได้รับเกียรติจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีแถลงข่าว ประกอบด้วย เทศบาลตำบลบางละมุง เทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย สภ.บางละมุง คลังก๊าซบ้านโรงโป๊ะ ท่าเรือแหลมฉบัง รพ.กรุงเทพพัทยา รพ.วิภาราม แหลมฉบัง สถานตากอากาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ The Cop Resort ท่ามกลางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ

สำหรับงาน SVT RUN 2024 CHARITY FOR KIDS เป็นการวิ่งระยะ 8 กิโลเมตร ในปีนี้กำหนดจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 15 ธ.ค.67 โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 รุ่น คือ รุ่น KIDS SPIRIT อายุไม่เกิน 6 ปี, รุ่น ALPHA อายุ 7-15 ปี, รุ่น Z-RUN อายุ 16-29 ปี, รุ่น Y-RUN อายุ 30-39 ปี, รุ่น X-RUN อายุ 40-49 ปี และรุ่น XL-RUN อายุ 50 ปีขึ้นไป

โดยรายได้จาการจัดงานหลังหักค่าใช้จ่ายจะได้ร่วมสมทบทุนบริจาคให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิธีช่วยเหลือในการผ่าตัดหัวใจดวงเล็กๆ ให้เด็กๆ ที่เป็นโรคหัวใจได้มีโอกาสมีชีวิตต่อไปได้ โดยทางโรงเรียนศรีสุวิชหวังว่าจะเป็นแรงผลักดันเล็กๆ เพื่อให้สังคมนี้น่าอยู่ต่อไป สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อร่วมกิจกรรมได้ที่โรงเรียนศรีสุวิช หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ SrisuvitNewsletter

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เปิดตัวอย่างเป็นทางการ “น้องวันวาฬ” มาสคอตสุดน่ารักประจำจังหวัดบึงกาฬ!

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 จังหวัดบึงกาฬได้มีการเปิดตัวมาสคอตประจำจังหวัดในชื่อ “วันวาฬ” อย่างเป็นทางการ มาสคอตสุดน่ารักที่จะมาเป็นตัวแทนเผยแพร่เสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ของบึงกาฬให้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ


น้องวันวาฬ ถูกออกแบบมาให้สื่อถึงความเป็นตัวแทนของชาวบึงกาฬ มีดีไซน์ที่โดดเด่นและความหมายซ่อนอยู่มากมาย โดยน้องวันวาฬได้แรงบันดาลใจจากหินสามวาฬ สัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด สีม่วงขาวที่เป็นสีประจำจังหวัด หรือลวดลายบนมือและเท้าที่สื่อถึงแม่น้ำโขง สายน้ำแห่งชีวิตของชาวบึงกาฬ


นอกจากนี้ น้องวันวาฬยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของชาวบึงกาฬ เช่น กระติ๊บข้าวเหนียว ผ้าคาดเอวลายพื้นเมือง กระเป๋าที่เป็นรูปภูทอก ดอกสรินทรวัลลี และหูฟังที่สื่อถึงความทันสมัย


น้องวันวาฬเป็นตัวแทนที่สะท้อนความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของจังหวัดบึงกาฬ ทั้งด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและนักท่องเที่ยวในอนาคต

เราหวังว่าน้องวันวาฬจะได้รับความรักและเป็นที่ชื่นชอบจากทุกคนตลอดจนช่วยสร้างการจดจำและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความงดงามของจังหวัดบึงกาฬมากขึ้น
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สส.อุตรดิตถ์เป็นประธานเปิดงานสืบสานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะสัญจร

แชร์เนื้อหานี้


.วันที่ 18 ตค.67 นายรวี เล็กอุทัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานสืบสานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะสัญจร ประจำปี 2567 หรือ “งานแห่เปรต” ที่วัดดอยสวรรค์ (วัดเขาไก่เขี่ย) อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ โดยเริ่มขบวนแห่ ณ ตลาดกลางผลไม้สินค้าโอทอปเทศบาลหัวดง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ มีพระครูประจักษ์กิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดดอยสวรรค์ (เขาไก่เขี่ย) ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์

เป็นประธานฝ่ายสงฆ์นำพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ออกรับบิณฑบาตไปตามถนนสายวังกะพี้ – ตรอน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร และมีขบวนแห่พระพุทธรูปจำลอง เทวดา นางฟ้า เปรต กระหัง อสูรกาย และขบวนมหรสพ เช่น ลิเก มวยการกุศล ซึ่งตลอด 2 ข้างทางมีประชาชนมารอใส่บาตรข้าวสาร อาหารแห้ง และปัจจัยเป็นจำนวนมาก เมื่อขบวนแห่เปรต ไปมาถึงยังวัดดอยสวรรค์ เป็นที่เรียบร้อยได้มีการนำจตุปัจจัยถวายแด่พระสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

พระครูประจักษ์กิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดดอยสวรรค์ กล่าวว่า การจัดงานสืบสานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะสัญจร เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีการทำบุญเนื่องในวันเทโวโรหณะให้คงอยู่ต่อไป และเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสสร้างบุญกุศลในการนำข้าวสาร อาหารแห้ง มาทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในการจัดงานประเพณีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ ประจำปี 2567พระครูประจักษ์กิตติคุณ กล่าวอีกว่า วัดดอยสวรรค์ (วัดเขาไก่เขี่ย)

จัดงานประเพณีสารทเดือนสิบ หรืองานแห่เปรต เป็นประจำทุกปีต่อเนื่องมากว่า 20 ปี เพื่อรักษาประเพณีสืบทอดพระพุทธศาสนา มีการจำลองนรก สวรรค์ และเมืองมนุษย์เพื่อสอนให้คนเกรงกลัวต่อบาป หันมาทำความดีตามหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาและให้ชาวพุทธได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ ซึ่งจากการจัดงานมาอย่างต่อเนื่องได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็จะได้อนุรักษ์สืบสานประเพณีนึ้ไว้ต่อไป


.
นาคา คะเลิศรัมย์ /รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด เลี้ยงต้อนรับเยาวชน จชต.โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43

แชร์เนื้อหานี้

มีรายงานว่า ร้านซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด ในเครือโบว่ากรุ๊ป พัทยา โดย นายสงบ โซ๊ะเฮง ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ฮัจยีอาลี (ราชัย) ปาทาน ผู้บริหารโบว่ากรุ๊ป พัทยา และนางวิภารัตน์ ปาทาน ผู้บริหารร้านซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด

ร่วมให้การตอนรับและจัดเลี้ยงอาหารให้กับเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 ที่มาพักอาศัยในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ระหว่าง 2-16 ตุลาคม 2567 รวม 15 วัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรมในภาคตะวันออกสู่การพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งมี 8 ครอบครัวอุปถัมภ์ นำคณะเยาวชนภาคใต้ จำนวน 20 คน ร่วมรับประทานอาหารในครั้งนี้

ทั้งนี้ทางร้านซีน่า พิซซ่า เบอร์เกอร์ เเอนด์ ฮาลาล ฟู๊ด ได้จัดทำเมนูอาหารฮาลาลหลากหลายมาต้อนรับเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ ปลาทอด ซุปเนื้อ พิซซ่าฮาลาล สเต็ก ต้มยำกุ้ง ขนมจีบ เป็นต้น สร้างความอิ่มเอมและร้อยยิ้มให้กับน้องๆ เยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 เป็นอย่างมาก

สำหรับการดำเนินการโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เกิดขึ้นโดยดำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ โดยการสนับสนุนจากคณะกรรมการของมูลนิธิรัฐบุรุษ นำเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์

ในกรุงเทพมหานครฯ และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์ และชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความรู้ ความเข้าใจต่อบริบทของสังคมไทยมากยิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ฉก.ตร.นราธิวาส 93 ร่วมทำบุญถวายสังฆทาน เนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ / รองผอ.ศรชล.นราธิวาส เยี่ยมลูกเรือประมง สัญชาติเมียนมา “เรือเพชรมงคล 15” ประสบอุบัติเหตุ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.ทศม ม่วงเกษม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในการประกอบพิธีทำบุญเนื่องในวันตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2566 และร่วมกันประกอบพิธีสงฆ์

โดยได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดพรหมนิวาสจำนวน 5 รูป นำโดยพระครูวิสิฐพรหมคุณ (สมชาย โชติวโร) เจ้าอาวาสวัดพรหมนิวาส มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเพล ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลให้แก่หน่วยงานรวมถึงผู้เกี่ยวข้อง และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

รวมถึงเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้แห่งนี้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ เนื่องในงานวันตำรวจแห่งชาติ โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัด ไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

สำหรับวันตำรวจ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2458 โดยเป็นวันประกาศรวม กรมพลตระเวนกับกรมตำรวจภูธเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า กรมตำรวจซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตำรวจจึงได้ยึดถือเอาวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็น วันตำรวจ และได้มีการประกอบพิธี วันตำรวจ อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2492 ซึ่งในขณะนั้น พล.ต.อ. หลวงชาติ ตระการโกศล เป็นอธิบดีกรมตำรวจและ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีกระทั่งเมื่อปี 2560 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ให้เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม

ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์ จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงวันตำรวจเป็นวันที่ 17 ตุลาคมของทุกปี โดยยึดตามวันที่มีการเปลี่ยนแปลงจากกรมตำรวจเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

//////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดนราธิวาส เยี่ยมให้กำลังใจลูกเรือประมง สัญชาติเมียนมา “เรือเพชรมงคล 15” หลังประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ 16 ต.ค.67 นาวาเอก กาจ บุญวิทยา รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดนราธิวาส พร้อมผู้เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปเยี่ยมนายมิน มิน อู อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา ลูกเรือประมง “เรือเพชรมงคล 15” ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขาเข้าเครื่องโม้น้ำแข็ง ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส

โดยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจประมงปัตตานีได้รับแจ้งจากเจ้าของเรือเพชรมงคล 15 (ทบ. 220918673) ประเภทเครื่องมืออวนลากคู่ ว่า มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ ขาเข้าเครื่องโม้น้ำแข็ง ขณะเกิดอุบัติเหตุเรือกำลังทำการประมง ห่างจาก ศรชล.จังหวัดนราธิวาส ประมาณ 10 ไมล์ทะเล ทาง ศรชล.จังหวัดนราธิวาส จึงได้ประสานขอสนับสนุนเรือตรวจประมง 226 จากหน่วยปราบปรามประมงทะเลจังหวัดนราธิวาส

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเมตตาธรรมนราธิวาส ได้ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลฯ นายชาติชาย ลิ้มกุล ผู้จัดการ บริษัทเรือเพชรมงคล กล่าวว่า ในนามตัวแทนบริษัทฯ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมจะเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ นายมิน มิน อู อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา หมายเลขประจำตัว 009401 128172 7 ไปรักษาต่อที่จังหวัดปัตตานี

เนื่องจากมีเพื่อนแรงงานสัญชาติเมียนให้การดูแล และสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ จะสะดวกกับการดูแลรักษา ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้ใช้สิทธิประกันสังคม และทางบริษัทฯ พร้อมดูแลในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
//////////////////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / เต้ มงคลกิตติ์ ฮีโร่ พรรคสีฟ้า ลงพื้นที่มอบข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำดื่มให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.ลำปาง

แชร์เนื้อหานี้

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายให้
เต้ มงคลกิตติ์ ฮีโร่ พรรคสีฟ้า ลงพื้นที่มอบข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำดื่มให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาลงพื้นที่จังหวัดลำปาง หลังน้ำลดโดยมอบ ข้าวสาร น้ำดื่ม ไข่ไก่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม
ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้มี ทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ จากหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ

ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย อาทินางสาวภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะ ประธานคณะทำงานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคคณะทำงานฯนายสรกฤช จันทรคณานายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตนางสาวกฤษยากร สรชัยนายประสิทธิ์ คลังสีดา อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ.อุตรดิตถ์ เขต 2

นายสุรกิจ ศิริวาท อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ.แพร่ เขต 1นายธนิตศักดิ์ ทวีพรจิรภาคย์ อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ. ลำปาง เขต 1นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จ.พะเยา เขต 1น.ส.ถนอมจิต แสงงาม จ.ตาก เขต 2
น.ส.อรทัย ฮงประยูร อดีต นายกเทศมนตรีตำบลเวียง จ.เชียงรายนายสว่าง เปรมประสิทธิ์ นายก อบต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่านโดยจุดที่ 1 นำไปมอบที่บ้านนาแก้ว อำเภอเกาะคา จำนวน 35 ครัวเรือน จุดที่ 2 ตลาดท่าหลวง อำเภอเถิน จำนวน 40 ครัวเรือน จุดที่ 3 อำเภอแม่พริก จำนวน 82 ครัวเรือน

จากการลงพื้นในครั้งชาวบ้านต่างชื่นชมเต้ พร้อมคณะที่มามอบข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำดื่มในวันนี้ นับเป็นนักการเมืองหนุ่ม สายเลือดใหม่และเป็นฮีโร่ ของพรรคสีฟ้า ประชาธิปัตย์/บุญยงค์ สดสอาด รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / SSI สนับสนุนเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน / วิ่งฅนเหล็ก 2024 ช่วยเหลือสังคม กว่า 40 ล้าน

แชร์เนื้อหานี้

อบก.มอบโล่องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก
นายมนินทร์ อินทร์พรหม (ขวาสุด) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการผลิต บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) รับโล่ประกาศเกียรติคุณ “องค์กรผู้นำด้านการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก” ประจำปี 2567 (Climate Action Leading Organization : CALO) ระดับยอดเยี่ยม สาขาสินค้าอุตสาหกรรมจาก นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรภาคเอกชนในไทยที่เดินสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆนี้ ทั้งนี้ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ “องค์กรผู้นำด้านการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก” (Climate Action Leading Organization : CALO) แสดงเจตนารมณ์ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระดับองค์กร โดยมีเป้าหมายและแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน สอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์และเป้าหมายของความตกลงปารีส อีกทั้งได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพรินท์ขององค์กรและมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือมาตรฐานสากลที่เทียบเท่า รวมถึงได้ร่วมขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กรภาคส่วนต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแถลงผลสำเร็จการดำเนินงาน ประจำปี 2567 โดยประธานเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย รวมถึงแนะนำ “แนวทางการรับรองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์” (Net Zero GHG Emissions) และเปิดตัวเกณฑ์ใหม่ “การรับรององค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก” (Climate Action Leading Organization: CALO) อีกด้วย
ปัจจุบัน เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทยมีสมาชิกเครือข่ายประเภท “องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก” แล้วทั้งสิ้น 125 องค์กร (ข้อมูล ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2567)

////////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

ประจวบคีรีขันธ์ _ วิ่งฅนเหล็ก 2024 ระดมได้กว่า 3.3 ล้าน มอบช่วยเหลือสังคมสะสมแล้วกว่า 40 ล้าน วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 7 พันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ประกอบด้วย บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ (SSI) บริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย จำกัด (มหาชน) (TCRSS) บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด (NS BlueScope) บริษัท เอ็นเอส-สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด (NS-SUS) บริษัท เจเอฟอี สตีล กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (JSGT) บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) (G Steel) และบริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) (GJS)

มอบรายได้จากการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอน 2024 (ครั้งที่ 16) จำนวน 3.3 ล้านบาทให้แก่องค์กรที่ช่วยเหลือดูแลผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานช่วยเหลือ และยกระดับคุณภาพชีวิต ความสามารถของผู้ด้อยโอกาสให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างแข่งแกร่ง ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1,400 คน ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา จากการดำเนินกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ฅนเหล็กมินิมาราธอนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 รวมจำนวน 16 ครั้ง สามารถนำรายได้จากการจัดงานช่วยเหลือองค์กรการกุศลที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสแล้ว 40.5 ล้านบาท

/////////////////////////

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.38 รพ.น่าน จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ปล่อยพันธุ์ปลา วันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2567

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. พล.ต.วรเทพ บุญญะ ผบ.มทบ.38/ผอ.ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.38 พร้อมประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา มทบ.38, คณะผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ ให้การต้อนรับ พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาและภริยา, นพ.วสันต์ แก้ววี ผอ.รพ.น่าน

ร่วมกับชุมชนรอบค่ายสุริยพงษ์ จิตอาสา904 จิตอาสาพระราชทานทุกภาคส่วน และประชาชนจิตอาสา ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลา เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2567

โดยมี ผบ.มทบ.38 เป็นประธานในกิจกรรมการปล่อยพันธุ์ปลานิลจิตรลดา จำนวน 8,900 ตัว ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิชัยพัฒนา ลงสู่แม่น้ำน่าน เพื่อสร้างแหล่งอาหาร ร่วมอนุรักษ์ระบบนิเวศน์ และปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำความสะอาด ถนนหน้าค่ายสุริยพงษ์ และบริเวณริมฝั่งแม่น้ำน่าน ,ลานจอดรถ รพ.น่าน ,ลานออกกำลังกายชุมชน

บริเวณพระอนุสาวรีย์พระเจ้าสุริยพงษ์ฯ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ผู้ร่วมกิจกรรมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเสริมสร้างจิตสาธารณะในการช่วยเหลือสังคม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสภาพแวดล้อมสถานที่สาธารณประโยชน์ให้สะอาดสวยงามต่อไป

/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ร.อ.ธนกฤต นันทชัยศรี รายง