คลังเก็บหมวดหมู่: กิจกรรมเพื่อสังคม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯแพร่ “ขอบคุณ” หน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจแก้ไขสถานการณ์ในภาวะวิกฤตน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนชาวแพร่อย่างเต็มกำลังความสามารถ

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดแพร่ ร่วมเชิญสิ่งของพระราชทานใส่ในถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี

ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้แทนมอบให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตจังหวัดแพร่ ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ป่าแมต อ.เมืองแพร่ วันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.68) เวลา 08.30 น.

นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวในนาม ผู้บัญชาการณ์เหตุ การณ์ กรณีเกิดอุทกภัยอันเนื่องมาจากพายุโซนร้อน “วิภา” ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดแพร่ มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวนหนึ่ง

แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน อาสาสมัครกู้ภัย ทหาร ตำรวจ พลเรือน พระภิกษุสงฆ์ และประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อทรัพย์สิน บ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในจำนวนไม่มากนัก จึงใคร่ขอ
กราบขอบพระคุณทุกท่านทุกหน่วยงานมา ณ โอกาสนี้

ด้วยจิตคารวะ

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297

เชียงใหม่ ศปอส.ภาค 5 บุกจับแก๊งคอลเซนเตอร์จีนราย ใหญ่คาบ้านหรู 40 ล้าน ที่แม่ริม

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ,พลตำรวจตรีธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจค้นบ้านหรูในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลห้วยทราย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตามหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่

บ้านหลังดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มชาวจีน 18 คน เปิดเป็นคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงลูกค้าชาวจีนผ่านแอปพลิเคชันและเพจออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม ซึ่งภายในบ้านพบกำลังนั่งทำงานผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ

ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจู่โจมตรวจค้น ผู้ต้องหาทั้งหมดพยายามหลบหนี บางรายกระโดดลงมาจากชั้นสองของบ้านที่มีความสูงกว่า 8 เมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 8 คน หนึ่งในนั้นขาหัก ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการหกล้มและบาดแผลถลอก จากการตรวจค้น พบคอมพิวเตอร์กว่า 20 เครื่อง โทรศัพท์มือถือมากกว่า 100 เครื่อง ซิมการ์ดประเทศจีน ซึ่งถูกใช้ในการติดต่อกับเหยื่อชาวจีนกว่า 10 ราย

พลตำรวจตรีธวัชชัย เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวจีน เดินทางเข้าประเทศไทยและเช่าบ้านหลังนี้มาแล้วประมาณ 3 เดือน โดยมีหัวหน้าชาวจีนเป็นผู้จัดการเช่าให้กลุ่มลูกน้องที่ทำงานภายในบ้าน พฤติกรรมของกลุ่มนี้คือทำงานตลอด 24 ชั่วโมง กินอยู่หลับนอนภายในบ้านหรูแห่งนี้ทั้งหมด

เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาได้รับค่าจ้างหัวละประมาณ 10,000 ถึง 20,000 หยวน หรือราว 50,000 ถึง 100,000 บาทต่อเดือน โดยภารกิจหลักคือการหลอกลวงชาวจีนในรูปแบบต่างๆ ทั้งการหลอกขายสินค้าออนไลน์ หลอกให้โอนเงินเพื่อแก้ปัญหาสายการบิน ปัญหาธนาคาร รวมถึงการข่มขู่เรียกเงินในลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้ว่าจ้างตัวจริง รวมถึงตรวจสอบเครือข่ายที่อาจโยงใยข้ามชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีความเชื่อมโยงกับขบวนการอาชญากรรมทางไซเบอร์รายใหญ่จากต่างประเทศด้วย..

สมจิตร แสงบันลังค์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯโคราช เปิดจวนผู้ว่าฯ เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพชายแดน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดจวนผู้ว่าฯ เป็นศูนย์ช่วยเหลือชั่วคราว รองรับผู้อพยพจากเหตุสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

จวนผู้ว่าฯ แห่งนี้เปิดให้ประชาชนจากหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเข้าพักชั่วคราว โดยมีการจัดเตรียมที่พัก อาหาร และน้ำดื่มอย่างเพียงพอ พร้อมทั้งเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมประชาสัมพันธ์สถานการณ์ เพื่อส่งต่อกำลังใจไปยังผู้ประสบภัยและมีการรับบริจาคทั้งอาหารสดและอาหารแห้งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย กัมพูชา ณ อำเภอเสิงสาง

นอกจากนี้ โรงแรมในพื้นที่ 5 แห่ง ได้ร่วมสนับสนุนเปิดห้องพักรวมกว่า 200 ห้อง เพื่อรองรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ศูนย์พักพิงในอำเภอเสิงสางมีผู้อพยพเข้าพักแล้วกว่า 4,000 คนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมารับมอบสิ่งของจากภาคประชาชนและหน่วยงานต่างๆที่นำมาบริจาค เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา

สามารถบริจาคได้ที่ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ทุกวัน ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. จนกว่าจะประกาศปิดรับการบริจาค สิ่งของที่รับบริจาคอาทิ น้ำดื่ม เสื่อปูพื้น ผ้าห่ม มุ้ง ยากันยุง แปรงสีพัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพูสระผม ขันอาบน้ำ ผ้าอ้อม ผ้าอนามัย ปลั๊กไฟ ข้าวสาร อาหารแห้ง.จังหวัดนครราชสีมายังคงประสานทุกภาคส่วน เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา28กค. 2568 ณอ.หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

แชร์เนื้อหานี้

พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. มอบหมายให้ ดร.นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)

เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ อาคารหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ดังนี้

๑. เวลา ๐๗.๐๐ น. : พิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล
๒. เวลา ๐๘.๐๐ น. : พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน
๓.เวลา ๐๙.๐๐ น. ได้เข้าร่วมพิธีทางศาสนามหามงคลถวายพระราชกุศล ณ หอ

ประชุมสิริสวัสดิธร สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำ จังหวัดยะลา ตำบลท่าสาป อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
๔.เวลา ๑๗.๓๐ น. : พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม
๕.เวลา ๑๙.๒๙ น. : พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พม.ตั้งศูนย์ประสานงานบริการกลุ่มเปาะบาง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

แชร์เนื้อหานี้

***เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 68 ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษณ์จังหวัดศรีสะเกษ นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ประชุมติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ พร้อมตั้งศูนย์ประสานงานบริการกลุ่มเปราะบางในจังหวัดศรีสะเกษเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือดูแลผู้ประสบภัยพิบัติตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา ซึ่งพบว่าปัจจุบันจังหวัดศรีสะเกษ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ รวม 9 ราย บาดเจ็บ 19 ราย มีคนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงกว่า 8 หมื่นคน คิดเป็นกลุ่มเปราะเบางร้อยละ 80

***นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้มาจัดตั้งศูนย์ประสานงานบริการกลุ่มเปราะบางในจังหวัดศรีสะเกษเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือดูแลผู้ประสบภัยพิบัติตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา หน้าที่ของศูนย์ประสานงาน ศนปภ.ได้ทำหน้าที่บูรณาการการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยผ่านที่เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆในเขตจังหวัดศรีสะเกษ ทางจังหวัดได้มอบหมายให้ทาง พม.หนึ่งเดียวเป็นหัวหน้าทีมในการดำเนินงานให้การช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ

***สำหรับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบรุนแรงหรือเสียชีวิตมีจำนวน 9 ราย ตอนนี้ทางหน่วยงานได้ดำเนินการในเรื่องเอกสารเพื่อส่งมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดส่งต่อขอรับการช่วยเหลือที่สำนักนายก ในส่วนของผู้บาดเจ็บอีก 19 ราย ทาง พ.ม.ได้ประสานการช่วยเหลือเยียวยาให้ครบถ้วน ส่วนกลุ่มเปราะบางที่อยู่ในศูนย์พักพิงทางหน่วยงาน พ.ม. ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพฤติกรรมและจัดทำกิจกรรมเพื่อให้กลุ่มเปราะบางได้ลดความเครียด เนื่องจากศูนย์พักพิงในเขตพื้นที่บริการมีจำนวนมากเราจึงมีการวางแผนและสลับในการดำเนินการและการลงปฏิบัติหน้าที่อย่างไร ถ้าการดำเนินการมีข้อจำกัดหรือมีปัญหาอะไรทาง พม. ก็จะนำเสนอไปที่กระทรวงเพื่อขอรับการสนับสนุน และให้เจ้าหน้าที่ลงมาช่วยเหลือในพื้นที่ต่อไป

***ส่วนสิ่งของที่จำเป็นที่จะใช้ในศูนย์พักพิง ศูนย์ประสานงานบริการกลุ่มเปราะบาง หรือว่า ศูนย์ศนปภ. จังหวัดศรีสะเกษในส่วนของคนพิการทางศูนย์ก็จะส่งมอบของที่ได้รับบริจาคจากทางส่วนกลางเพื่อมาจัดส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชนและตอนนี้กำลังเดินทางคาดว่าจะมาถึงภายในเย็นนี้เพื่อที่จะกระจายและส่งมอบไปยังศูนย์ต่างๆให้ทั่วถึง ในส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบหญาติสามารถเดินทางมาติดต่อได้ที่ศูนย์ ศนปภ.จังหวัดศรีสะเกษตั้งอยู่ที่สำนักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ

***ถ้าเป็นกรณีที่เร่งด่วนสามารถโทร 1300 สำหรับคนที่แจ้งเข้าไปข้อมูลก็จะส่งไปที่ส่วนกลาง ส่วนกลางจะส่งกลับมายังจังหวัดศรีสะเกษเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไปโดยเร็ว โดยการช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส จะได้ครอบครัวละไม่เกิน 9,000-16,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จะได้ครอบครัวละไม่เกิน 3,000-12,000 บาท ตามระเบียบของ พม.
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พระครูสุวัชรยาภิวงศ์ ให้พรผู้อพยพ ทหารกล้า ปาดน้ำตา สงสารทหารไทย เพื่อปกป้องประชาชนและแผ่นดินไทย

แชร์เนื้อหานี้

***เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจศูนย์พักพิง ผู้อพยพแห่งหนึ่งในอำเภออุทุมพรพิสัย ซึ่งเป็นวัดในเขตอำเภออุทุมพรนพิสัย พบว่าจุดนี้มีผู้อพยพเข้ามาขอพักอาศัยเกือบ 2 ร้อยราย ซึ่งแต่ละคนมีทั้งมาจากในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ และในอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยสภาพความเป็นอยู่ถือว่าดีมาก มีเจ้าหน้าที่ ที่วัด และชาวบ้าน ในพื้นที่ ค่อยมาบริการ ช่วยกันทำอาหารให้ผู้อพยพได้รับประทานถึงวันละ 3 มื้อ มีน้ำ มีขนมให้เด็ก ที่ทางผู้ใจบุญ และทางวัดได้ใช้เงินซื้อมาจัดเตรียมให้บริการ

***โดย พระครูสุวัชรชยาภิวงศ์ เลขานุการ หลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ รตนญาโณ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารเปิดเผยว่า วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภออุทุมพรพิสัยจังหวัด ตั้งเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้อพยพมาจากอำเภอกันทรลักษ์ และอำเภออื่นๆที่อยู่ในตะเข็บชายแดนไทย -กัมพูชา ศูนย์อพยพจัดตั้งขึ้นโดย เจ้าคุณสมบูรณ์ รตนญาโณ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ในปัจจุบันนี้มีผู้เข้ามาพักพิงอยู่ประมาณร้อยกว่าชีวิต และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการบริหารจัดการในครั้งนี้จะใช้งบประมาณทางวัดดูแลเรื่องอาหาร 3 มื้อ เช้า เที่ยง และเย็น มีเครื่องนอนสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และตอนนี้ก็มีประชาชนผู้ใจบุญและผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาร่วมบริจาคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

***พระครูสุวัชรชยาภิวงศ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากบริการผู้อพยพายในวัดแล้ว ถ้าทางศูนย์อพยพอื่นมีความประสงค์อยากจะได้สิ่งของยังขาดแคลนให้ติดต่อมาได้เพราะทางวัดจะมีคนนำส่งให้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หรือประชาชนท่านไหนที่พร้อมจะใาบริจาคสมทบก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ทุกเมื่อ หรือประชาชนท่านไหนที่จะเข้ามาร่วมทำโรงทานอาหารต่างๆก็สามารถที่จะเข้ามาทำได้ ทางวัดก็จะอำนวยความสะดวกให้ทุกเมื่อ

***นอกจากนี้ พระครูสุวัชรชยาภิวงศ์ ยังฝากให้ผู้อพยพ และประชาชนทุกท่าน ให้มีสติ การดูข่าวหรือติดตามข่าว ให้ดูข่าวหรือเสพข่าวอย่างมีสติ อย่าวิตกกังวลมากเกินไป ให้ดูข่าวจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และเป็นจริง ต้องมีศรัทธาตั้งมั่นเชื่อมั่น ให้กำลังใจทหารกล้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประชาชนและปกป้องผืนแผ่นดินไทยอยู่ในขณะนี้ ว่าจะสร้างความสงบสุขให้กับทุกท่านได้โดยเร็วไว สุดท้ายแล้วเราจะต้องมี “ขันติ” ความอดทนอดกลั้นต่อวันเวลาและการใช้ชีวิตให้อยู่ได้และเชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ในเร็ววัน

***ด้าน ผู้อพยพ รายหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกับลูกหลานอพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักคอยแห่งนี้ได้ 2 คืนแล้ว มานอนที่นี่รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่สามีตนไม่ได้มาด้วย เพราะห่วงบ้านและต้องหุงข้าวทำกับข้าวไปถวายพระที่วัดตอนนี้ เนื่องจากชาวบ้านในหมู่บ้านก็อพยพมาจนเกือบหมดไม่มีใครหุงข้าวหาอาหารให้พระสงฆ์ที่วัดฉัน สามีตนเลยต้องอยู่คอยดูแล ตอนนี้ตนคิดถึงและเป็นห่วงบ้านมาก แต่ก็กลับไปไม่ได้เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย

***เมื่อเช้าตนโทรหาสามีสามีเล่าให้ตนฟังว่า ตอนนอนได้ยินแต่เสียงระเบิดดังตุ้มๆเสียงดังแรงมาก จนแน่นหน้าอกไปหมดเลยก่อนอพยพมาลูกสาวตนได้ยินเสียงระเบิดดังจนอ้วกแตกในฐานะที่ตนมีบ้านติดชายแดนรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการที่เกิดขึ้น เกิดมาอายุ 55ปี ไม่เคยเจอสถานการณ์ที่รุนแรงขนาดนี้ ต้องอพยพหนีจากบ้านจากเมืองมาอยู่ที่อื่น ตนรับไม่ได้และขอประนามการกระทำของทหารเขมร แต่ตนก็ยังสงสารประชาชนชาวกัมพูชาที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยต้องมารับเดือดร้อนไปด้วย ตนขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้ทหารไทยทุกคนสู้ๆ (พร้อมปาดน้ำตา)เพราะความสงสารทหารไทยที่อยู่แนวหน้าต้องตากแดดตากฝนลำบากเพื่อปกป้องประชาชนและแผ่นดินไทย
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายก.อบจ.นครศรีฯ เปิดกิจกรรม “เต้นรับโอโซน สุขกาย สบายปอด” โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำโลน festival @คีรีวง ครั้งที่ 3 ( สรรค์ศิลป์ ถิ่นใต้ ) บ้านคีรีวง

แชร์เนื้อหานี้

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
ที่หมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดหวัดนศรศรีธรรมราช นางสาววาริน ชินวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (อบจ.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “เต้นรับโอโซน สุขกาย สบายปอด” โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำโลน festival @ คีรีวง ครั้งที่ 3 (สรรค์ศิลป์ ถิ่นใต้)

โดยมี นายสมโชค เสนา นายอำเภอลานสกา นายไพโรจน์ รัตนธน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำโลน พร้อม คณะผู้บริหาร อบจ.นครศรีธรรมราช สมาชิกสภา อบจ.คณะผู้บริหารอบต.กำโลน สมาชิกสภาอบต.กำโลนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านคีรีวง และใกล้เคียง พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมงานและให้การต้อนรับ

นายไพโรจน์ รัตนธน นายกอบต.กำโลน กล่าวว่า เพื่อสืบสานโครงการ
การท่องเที่ยวให้เป็นงานประจำปีของตำบลกำโลน ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของ ตำบลกำโลน และจังหวัดนครศรีธรรมราช ในปีนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช องค์การบริหารส่วนตำบลกำโลน และประชาชนตำบลกำโลน จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว แบบบูรณาการ โดยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนสืบสานการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำโลน Festival @คีรีวง ครั้งที่ 3 (สรรค์ศิลป์ ถิ่นใต้) ประจำปี ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2568

และในการจัดงานครั้งนี้อบต.กำโลน ได้จัดให้มีกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แก่ กิจกรรมไลน์แดนซ์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายสร้างสุขภาพให้ แข็งแรง ภายใต้ชื่อกิจรรม “เต้นรับโอโซน สุขกายสบายปอด”โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์มานพ แนวกลาง ซึ่งเป็นผู้นำเต้นที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมานำเต้นในกิจกรรม ครั้งนี้ เพื่อสร้างความตื่นตัวให้คนหันมารักษ์สุขภาพโดยมีประชาชนผู้รักสุขภาพทั่วสารทิศเข้ามาร่วมเต้น เสริมสร้างความสนุกสนาน รื่นเริง และความบันเทิงผ่าน กิจกรรมภายในงาน นับเป็นการเสริมสร้างสุขภาพจิตเชิงบวกให้กับประชาชน รวมไปถึง การส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักรักษ์สุขภาพโดยมีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

กิจกรรมแสดงภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สร้างบทเพลง “รำวงกำโลน” อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของตำบลกำโลน โดยดึงเอาความโดดเด่นของแต่ละหมู่บ้าน มาแต่งเป็นบทเพลงเพื่อสร้างเป็นมรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของตำบลกำโลน ให้ลูกหลานคนรุ่นหลังให้เห็นถึงความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของตำบลกำโลน การแสดงแสงสีเสียงมโนราห์ “ชุดผันหลังแลโนรา เทิดจักราพระวชิเกล้า” เป็นการย้อนตำนานอดีตมโนราห์สู่ยุคปัจจุบัน และไท้องค์ราชันที่หาชมยาก จัดแสดงในวันที่ 26 ก.ค.68


กิจกรรมไลน์แดนซ์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายสร้าง
สุขภาพให้แข็งแรง ภายใต้ชื่อกิจรรม “เต้นรับโอโซน สุขกายสบายปอด”โดยมีประชาชนผู้รักสุขภาพทั่วสารทิศเข้ามาร่วมเต้น พร้อมทั้ง ทีม TK แดนซ์ จาก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมงาน ณ ริมฝั่งคลองคีรีวง จัดในวันที่ 27
ก.ค.68 กิจกรรมวิ่งมินิมาราธอน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย
สร้างสุขภาพให้แข็งแรงดำเนินการโดยกลุ่มผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 นายพิทักษ์ สุขันทอง เช้าวันที่ 27 ก.ค.68 การแสดง ชุดบูรณะภูมิปัญญาศิลป์ ถิ่นได้ (Soft Power) ซึ่งรวมเอาศิลปะวัฒนธรรมประเพณีของภาคใต้มาสร้างสรรค์เป็นชุดการแสดง วันที่ 29 ก.ค.68

การแสดงเพลงบอก การแสดงหนังตะลุง และอีกหลายหลาก โดย
เยาวชนคนรุ่นใหม่บริเวณสะพานแขวนหน้าวัดคีรีวง เพื่อรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของภาคใต้ การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนตำบลกำโลน โดยกลุ่ม OTOP และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจากที่ต่างๆที่มาร่วมในงาน และสร้างบูธกิจกรรมสิ่งประดิษฐ์จากขยะเพื่อสร้างรายได้ โดยร่วมกับ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภาคใต้ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช มีจุดมุ่งเน้นเพื่อให้ประชาชนได้เห็นถึงประโยชน์จากขยะ และเป็นการต่อยอดการสร้างอาชีพให้คนในตำบลกำโลนต่อไป

/////////////////////

ผู้สื่อข่าวพิเศษ. ณัฐธภพ พันสาย. / 0649646443

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สมาคมสื่อมวลชนน่าน ร่วมกับชมรมนักจัดรายการวิทยุ พ่อบ้านแม่บ้าน เยาวชนบ้านทุ่งขาม ร่วมกันจัดตั้งโรงครัวทำอาหารมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 1421 กล่อง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ร่วมกับชมรมนักจัดรายการวิทยุจังหวัดน่าน พ่อบ้านแม่บ้าน เยาวชน บ้านทุ่งขาม ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน ได้ตั้งโรงครัวจัดทำอาหารมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม โดยนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลน่าน จำนวน135 กล่อง

บ้านศรีบุญเรือง จำนวน15 กล่อง บ้านภูมินทร์ จำนวน 25 กล่อง โรงเรียนน่านคร จำนวน50 กล่อง ผู้ประสานงานให้ญาตินำไปส่ง บ้านดอนมูล เจดีย์ ทุ่งน้อย บ้านอภัย 130 กล่อง ตำบลนาปัง 110 กล่อง สำนักงานปภ.น่าน 60 กล่อง รวม689 กล่อง ก่อนหน้านันวันที่ 26 กรกฎาคมมอบไป จำนวน 732 กล่อง

โดยนำไปมอบให้วัดดอนมูล 100 กล่อง มอบให้ สจ.เอกชัย กับเจ้าอาวาสวัดพวงพยอม ไปแจก 100 มอบให้สนง.ปภ.น่าน 47 กล่อง พวงพยอม 25 พันต้น 21 กล้อง บ้านน้ำครก10 กล่อง ช่วงเย็นจะนำไปมอบให้โรงพยาบาลน่าน 164 กล่อง บ้านเจดีย์10 กล่อง ดู่เหนือ 25 กล่อง บ้านท่าลี่ 25 กล่อง หัวเวียงใต้ 5 กล่อง รวมทั้งหมด 1421 กล่อง

งานนี้ขอขอบคุณ ผู้บริจากเงินจัดซื้อวัตถุดิบประกอยอาหารประกอบด้วย 1สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน 10,000 บาท ชมรมนักจัดรายการวิทยุจังหวัดน่าน 5.000 บาท สว.เจ ภิญญาพัชญ์ ศันยชนีชีวิน 2,000 ซีพี มอบเนื้อหมูบด จำนวน 50 กีโล บาท ผู้ไม่ประสงค์ ออกนาม 1.000 บาท

ที่มอบผ่านแม่บ้านรวมทั้งผู้บริจาคน้ำดื่มวัสดุ ประกอบอาหาร ขอขอบคุณผญ.ปรานอม สิทธิรัตน์ ผช.ตุ๋ย สุภัตรา แก้วก๋าคำ พ่อบ้าน แม่บ้านแม่บ้านทุ่งขาม และเยาวชนที่มาช่วยกันทำกับข้าว

ตลอดสองวัน ขอบคุณผู้ใจบุญ ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุก ๆท่าน มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมช่วยพี่น้องไทยในภาคตะวันตก กาญจนบุรี มอบถุงยังชีพให้กับ ผู้ยากไร้, ผู้ด้อยโอกาส และมอบอุปกรณ์กีฬาให้รร.บ้านไร่เจริญ จ.กาญจนบุรี

แชร์เนื้อหานี้

24 ก.ค.68 , มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมพลังบุญ กองทัพน้อยที่ 1 และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.68

ช่วยพี่น้องไทยในภาคตะวันตก กาญจนบุรี มอบถุงยังชีพให้กับ ผู้ยากไร้, ผู้ด้อยโอกาส และมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนบ้านไร่เจริญ จ.กาญจนบุรี
และร่วมกิจกรรมจิตอาสา

ขอส่งผลบุญและความปรารถนาดีจากกัลยาณมิตรทั้งปวง ให้ถึงแด่ทุกท่าน มีความสุขความเจริญ ปรารถนามงคลใด ให้สำเร็จผลทุกประการ เทอญ…สามารถติดตามข่าวสารธรรมทานงานบุญ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ได้ที่Line Official Account กด : https://lin.ee/AlxR8XfLine ID : @bbdf

Page #Facebook : มูลนิธิพุทธภูมิธรรม
https://web.facebook.com/bbdf.orgสาธุๆๆอนุโมทามิฯมูลนิธิพุทธภูมิธรรมพุทธภูมิธรรมนำสุขทำบุญ #สุขใจที่ได้ทำบุ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯบึงกาฬ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ริมโขงป้องกันน้ำล้นตลิ่ง รับมือมวลน้ำเหนือ จากพายุ “วิพา”

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์พายุ “วิภา” และระดับน้ำโขงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง

โดยมีนายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์ตามประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ฉบับที่ 14/2568 ที่ระบุถึงผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” ซึ่งทำให้ฝนตกหนักในแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย

ระดับน้ำโขงที่อำเภอเมืองบึงกาฬมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.50–3.00 เมตร คาดว่าจะสูงกว่าตลิ่งราว 0.50–1.00 เมตร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เสี่ยงในจังหวัด ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวัน จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ จุมพฏ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวตลิ่งริมแม่น้ำโขง คลองบ้านหนองแวง จุดวัดระดับน้ำโขงบ้านพันลำ บริเวณริมเขื่อนป้องกันและรักษาดินแดน และประตูระบายน้ำห้วยกำแพง

พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเครื่องจักรกล ศูนย์อพยพ แผนการแจ้งเตือนล่วงหน้า และแผนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเน้นย้ำการบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุด

จังหวัดบึงกาฬยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเต็มที่ ฝากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ริมโขง เฝ้าระวังระดับน้ำ ติดตามประกาศเตือนจากทางการอย่างใกล้ชิด

พายุวิภา #น้ำโขง #บึงกาฬ #ผู้ว่าบึงกาฬ #ข่าวด่วนบึงกาฬ #เตือนภัยน้ำท่วม

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “รมว.อรรถกร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมน่าน สั่งปูพรมสำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตร พร้อมเร่งเข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

แชร์เนื้อหานี้

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานสังกัดเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดน่าน ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน จากอิทธิพลของพายุวิภา ที่ส่งผลให้ฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่พักอาศัย และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายหลายจุด

โดยมี นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย ดร.เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม พร้อมด้วยส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมต้อนและให้ข้อมูล พร้อมประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ และกำหนดแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน

นายอรรถกร กล่าวว่า จากการรายงานคาดการณ์พื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับผลกระทบ พบว่า พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทั้งหมด 11 อำเภอ เนื้อที่รวม 56,749.22 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 39,602.15 ไร่ พืชไร่/พืชผัก 8,455.04 ไร่ ไม้ผล/ไม้ยืนต้น 8,654.26 ไร่ และอื่น ๆ 37.77 ไร่ จึงได้กำชับทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปูพรมสำรวจความเสียหายทางการเกษตรเพิ่ม

เติม เน้นการเข้าถึงเกษตรกร และวางแผนช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งสนับสนุนถุงยังชีพ, รถบรรทุก 6 ล้อ และรถบรรทุกน้ำจุ 6,000 ลิตร เข้าช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น อีกทั้งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในหลายพื้นที่เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่

      จากนั้น นายอรรถกร ได้เดินทางตรวจเยี่ยมสถานการณ์และพบปะให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกรผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน อีกทั้งมอบถุงยังชีพกว่า 1,000 ชุด พร้อมสนับสนุนหญ้าอาหารสัตว์ และสารชีวภัณฑ์สำหรับการฟื้นฟูสภาพพื้นที่หลังน้ำลด  นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ปฏิบัติงานเชิงรุก โดยประสานงานร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว บนพื้นฐานความปลอดภัยของทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเกษตรกรผู้ประสบภัย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 38 และกองพันทหารม้าที่ 10 ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนบ้านน้ำล้อม จ.น่าน


เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณมณฑลทหารบกที่ 38 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย และจิตอาสาภัยพิบัติ จาก กองพันทหารม้าที่ 10 กรมทหารม้าที่ 2 เร่งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนบ้านน้ำล้อม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

ภารกิจในครั้งนี้ มุ่งเน้นการเคลื่อนย้ายประชาชนกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เด็กเล็ก และคณะสงฆ์ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้งดำเนินการตรวจสอบค้นหาผู้ที่ยังคงติดค้างอยู่ภายในบ้านเรือน เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีและครอบคลุมทุกครัวเรือนในพื้นที่ประสบภัย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน