คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เบนซ์ไพรม์มัส” ลุยงาน Mercedes-Benz SUV Driving Events

แชร์เนื้อหานี้

นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด และบริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป เปิดเผยว่า “เบนซ์ไพรม์มัส” ได้ร่วมกับบริษัทแม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” จัดกิจกรรมให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบความตื่นเต้นท้าทาย ในงาน Mercedes-Benz SUV Driving Events ที่สนาม Spirit Adventure Ground จ.นครนายก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัดกับสมรรถนะและความหรูหราของยนตรกรรมระดับโลก Mercedes-Benz ในตระกูล SUV ที่มีให้เลือกสัมผัสและทดลองขับมากกว่า 11 รุ่น พร้อมรุ่นเรือธง Mercedes-AMG G 63 ราชันแห่งออฟโรด พร้อมเสริมทักษะการขับขี่ เพื่อการใช้รถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นและมอบความไว้วางใจให้ “เบนซ์ไพรม์มัส” ได้มีโอกาสบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง

นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด และบริษัทในเครือ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรม Mercedes-Benz SUV Driving Events ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากลูกค้า Mercedes-Benz ที่ชื่นชอบการขับขี่รถยนต์สไตล์ออฟโรดเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 30 ราย โดยวันแรก ได้นัดพบลูกค้าคนสำคัญ ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” สาขาเลียบด่วน-เอกมัยรามอินทรา โดย “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” กับ “จิระพล รุจิวิพัฒน์” กล่าวต้อนรับพร้อมแจงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ก่อนเดินทางมุ่งหน้าสู่โรงแรมสยามดาษดา เขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อเช็คอินน์เข้าสู่ที่พัก และร่วมกิจกรรมงานเลี้ยงต้อนรับ ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยมิตรภาพ ด้วยอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศ เคล้าคลอกับเสียงเพลงที่มอบความสนุกสนานเพลิดเพลินตลอดค่ำคืน

วันที่ 2 เป็นกิจกรรมการขับขี่รถยนต์ Mercedes-Benz ในแบบออฟโรด โดยทุกท่านจะได้สัมผัสสมรรถนะที่ทรงพลังของรถยนต์ ในตระกูล SUV อย่างเต็มพิกัด โดยมีรถยนต์รุ่นต่างๆ ให้เลือกทดลองขับมากมาย ทั้งระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล รวมกว่า 11 รุ่น อาทิ รุ่น EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic, EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic, GLC 220 d 4 MATIC Avantgarde, GLC 350 e 4MATIC Coupe AMG Dynamic, GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic และ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic เป็นต้น พร้อมรุ่นเรือธง “Mercedes-AMG G 63” ราชันแห่งรถออฟโรด สุดยอดนวัตกรรมแห่งความแข็งแกร่ง ทรงพลังอย่างไร้ขีดจำกัด ที่ทาง “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” จัดมาให้พิเศษสำหรับทริปนี้โดยเฉพาะก่อนลงสนามจริง

ทางผู้บริหาร และทีม Instructor ของ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ได้นำเสนอข้อมูลของรถยนต์ในแต่ละรุ่น และเทคนิคการขับขี่รถยนต์ในสภาพถนนที่มีความหลากหลายของแต่ละสถานี เพื่อให้ได้สัมผัสประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ หากมุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดด้วยเช่นกัน

ด้านสนาม Spirit Adventure Ground ถือเป็นสนามออฟโรดมาตรฐานและเป็นสถานที่สำหรับพัฒนาทักษะการขับขี่รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ “สื่อสากล” โดยมีการออกแบบพื้นที่สำหรับการขับขี่ในสภาพถนนและสถานการณ์ต่างๆ แบ่งออกเป็น 7 สถานี คือ การขับขึ้น-ลงเนินชันยาว เนินสลับ เนินเฉียงขวาหักศอก เนินทรงแหลมเฉียงขวา และทางเฉียงขวายาว บนเส้นทางที่เป็นทางทราย ทางขรุขระ ทางโคลนที่ลื่นไถล รวมถึงการขับขี่ข้ามร่องน้ำยาว ทำให้เห็นสมรรถนะการขับขี่ของรถยนต์ Mercedes-Benz ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบ ทั้งความแม่นยำในการควบคุม การทรงตัว และเกาะถนน ที่สำคัญ คือ ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ Mercedes-Benz ที่ทำให้สถานการณ์การขับขี่ต่างๆ ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย นับเป็นการเปิดมุมมองและประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /พิธีมอบเงินอุดหนุนกองทุนร่วมใจสงเคราะห์ชุมชน ประจำปี 2568 สภาสังคมเคราะห์ฯ ถ.ราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

แชร์เนื้อหานี้

23 พฤษภาคม 2568 : 10.00-14.30 น. สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โดย พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมฯ/กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ :

เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

พิธีมอบเงินอุดหนุนกองทุนร่วมใจสงเคราะห์ชุมชน ประจำปี 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 3 ตึกนวมหาราช สภาสังคมเคราะห์ฯ ถ.ราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ส่วนภูมิภาค ภาค 1

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่1

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กธจ.สุโขทัยลงสอดส่องโครงการก่อสร้างถนน คสล.ที่อ.ทุ่งเสลี่ยม

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา09.30น.ของวันที่20พฤษภาคม2568ณ.ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลไทยชนะศึก อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย คณะกรรมการธรรมาภิบาล จังหวัดสุโขทัย

ได้จัดระเบียบวาระการประชุมอย่างไม่ป็นทางการครั้งที่6/2568 และการลงพื้นที่สอดส่องโครงการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ทั้งนี้ นาย ชัยคม ศกุนรักษ์ รองประธานกรรมการธรรมาภิบาล

ได้เป็นประธานการประชุมโดยมีระบียบวาระการประชุมทั้งหมด5วาระการประชุมพร้อมมีคณะกรรมการธรรมาภิบาลและท้องถิ่นจังหวัดนายก อบต.หัวหน้าส่วน ราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก รหัส

ทางหลวงท้องถิ่น สท.ถ.39-028 สายประปาทุ่งนอก บ้านคลองสำราญ หมู่ที่3ตำบลไทยชนะศึก อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย โดยทางเจ้าหน้าที่ อบต.ไทยชนะศึกได้ฉายสไลด์เพาเวอร์พ้อย อธิบาย

โครงการการก่อสร้างฯทั้งนี้ทางคณะกรรมการธรรมาภิบาลสุโขทัยได้ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่อบต.ไทยชนะศึก ลงสอดส่องพื้นที่การก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กด้วย.
กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย .

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / อภิมหาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ก้าวสำคัญสู่ศูนย์กลางการบินระดับโลก

แชร์เนื้อหานี้

​โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Eastern Aviation City) ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยมีเป้าหมายในการยกระดับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติหลักแห่งที่ 3 ของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางการบินหรือ Aviation Hub ที่สำคัญในภูมิภาค

​สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนั้นพบว่าจะมีการเซ็นสัญญาก่อสร้างและการลงทุนอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ ซึ่งเป็นกานรลงนามระหว่างบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ที่เตรียมจะเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 โดยไม่รอการเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และอยู่ระหว่างการเจรจาสิทธิประโยชน์พื้นที่ปลอดอากรเมืองการบินอู่ตะเภา

​ขณะที่แผนการพัฒนาโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภามีแผนดำเนินการครอบคลุมในพื้นที่กว่า 6,500 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีการวางแผนพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกให้เป็นศูนย์กลางการบินและธุรกิจต่อเนื่อง รวมถึงการเชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางรางแบบไร้รอยต่อ

​มีรายงานเพิ่มเติมว่าโครงการนี้มีการสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือกับเอกชน โดยรัฐบาลได้อนุมัติการแก้ไขสัญญาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยเพิ่มเงินลงทุนเป็น 40,000 ล้านบาท และจัดหาแหล่งเงินกู้เงื่อนไขพิเศษ . นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติให้สถานบริการในเขตเมืองการบินภาคตะวันออกสามารถเปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย

ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ ที่จะให้มีการเปิดบริการโครงการได้ในเฟสแรกภายในในปี 2571 โดยมีการวางแผนขยายขีดความสามารถสนามบินและพื้นที่เชิงพาณิชย์สู่ “มหานครการบินอู่ตะเภา” . ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย

​สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก และส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกเป็นอย่างดี

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สุดซาบซึ้ง! อาจารย์เมย์ ส่งทีมงานอบรม AI ช่วยชาวน้ำหนาว หนุ่มพิการใจสู้ถ่ายทอดความรู้ด้วยหัวใจเต็มร้อย

แชร์เนื้อหานี้

มีรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตร อำเภอน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เกิดเหตุการณ์แสนประทับใจเมื่อ อาจารย์เมย์ ดร.จินต์วยา เบญญจินดาพิศุทธ์ ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดัง จากบริษัท แฮปปี้ฮวงจุ้ย จำกัด ได้ส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI นำโดย นายวรากุล ภัคธัญญานนท์ ชายหนุ่มผู้พิการทางร่างกายแต่ใจแกร่ง มาถ่ายทอดความรู้ AI ChatGPT ถวายความรู้พระสงฆ์ และให้ความรู้ ข้าราชการ, เกษตรกร, กลุ่มวิสาหกิจชุมชน, ผู้สูงวัย และชาวบ้านกว่า 30 คน

งานนี้ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก พระครูพัชรคณาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอน้ำหนาว และเจ้าอาวาสวัดโคกมน ที่เมตตามาร่วมเรียนรู้ สร้างบรรยากาศอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม และความสุข

หลังจบกิจกรรม ผู้เข้าร่วม และทีมงานได้ร่วม ถ่ายภาพหมู่ เก็บความทรงจำแสนอบอุ่น โดยทาง สำนักงานเกษตร อำเภอน้ำหนาว และ กลุ่มเดินตามธรรม ได้บริการ บ๊ะจ่าง และจัดเลี้ยง ขนมจีนสุดอร่อย ให้ทุกคนได้อิ่มท้อง อิ่มใจ พูดคุยแบ่งปันความประทับใจและหัวเราะร่วมกันอย่างชื่นมื่น

นายวรากุล กล่าวด้วยน้ำเสียงปลื้มใจว่า ขอบพระคุณอาจารย์เมย์ ซินแสฮวงจุ้ย ที่มอบโอกาสดีๆ นี้ แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ แต่หัวใจเต็มร้อยความรู้ดีๆ ไม่มีขอบเขต และผว่หวังทุกท่านที่นี่จะสามารถนำไปต่อยอดชีวิตต่อไปได้แน่นอน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /“หมอกี้ มาดามพลังงาน” ขอปั้น “MUT SMART QUEEN”เปิดตัวแคมเปญการประกวด มิสยูนิเวิร์สระยอง 2025

แชร์เนื้อหานี้

“มาดามพลังงาน” หมอกี้ ดร. อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ หัวเรือใหญ่แห่ง บริษัท รีเจน สมาร์ทซิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ REGEN SMART CITY (THAILAND) CO.,LTD ทุ่มงบจัดงานแถลงข่าวครั้งใหญ่ในฐานะผู้ถือสิทธิ์การประกวด MISS UNIVERSE RAYONG 2025 (มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025) เพื่อเฟ้นหาสาวงาม ตัวแทนจังหวัดระยอง เข้าร่วมประชันความงามอันทรงคุณค่าบนเวทีการประกวด MISS UNIVERSE THAILAND 2025 (มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025) ภายใต้แนวคิด ส่งเสริมความงามผ่านนิยามคำว่า “SMART QUEEN (สมาร์ท ควีน)” สะท้อนภาพลักษณ์ผู้หญิงยุคใหม่ที่มีพร้อมทั้งความงาม ความฉลาด และ ใส่ใจต่อสังคม โดยได้รับแรงสนับสนุนจากทางภาครัฐ และ เอกชนในจังหวัดระยอง ร่วมผลักดันแคมเปญการประกวด เพื่อยกระดับจังหวัดระยองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ส่งเสริมประเทศไทยในระดับสากล อย่างจริงจัง ณ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) อ.วังจันทร์ จ.ระยอง

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางสาวสลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ ความสำคัญและศักยภาพของจังหวัดระยอง , การสนับสนุนพลังผู้หญิง ในการขับเคลื่อนสังคม , การขับเคลื่อนสินค้า Otop ผ่านการประกวดนางงาม ,ทางด้าน ดร.วุฒิ ด่านกิตติกุล ผู้อำนวยการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) กล่าวถึง ภารกิจของหน่วยงาน EECi ความสำคัญและทิศทางของนวัตกรรมไทย ,การเข้าถึงนวัตกรรมของประชาชนทั่วไป จากการส่งเสริมของภาครัฐ ปิดท้ายด้วย ดร.อภิชาติบุตร รอดยัง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ( Depa ) เขตพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ผู้เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน และ อนาคตของประเทศไทย กล่าวถึงการพัฒนาไทยให้เป็น smart city ส่งผลดีอะไรบ้าง อุปสรรคที่เจอในปัจจุบัน ในการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ พร้อมเชิญชวนคนไทยเรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน นอกจากนี้ ทีมบริหารหอการค้าจังหวัดระยอง ให้เกียรติร่วมงานและแสดงความยินดีกับ PD คนเก่ง

จากนั้นพิธีกร แชมป์ สกุล ลิมปภานนท์ นำชมแฟชั่นโชว์ ผ้าหมักโคลนทะเล (eco)…ความงามจากธรรมชาติสู่แฟชั่น สินค้าพื้นถิ่น อำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง ก่อนเปิดตัว มาดามพลังงาน ดร. อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ ผู้อำนวยการกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025 เผยแคมปญเพื่อค้น “SMART QUEEN” ในปีนี้ ได้ริเริ่มโครงการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับจังหวัดระยองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) พร้อมผลักดัน การสร้างภาพลักษณ์ของไทยในระดับสากล ผ่านการใช้ เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Smart Health) มาดูแลผู้เข้าร่วมประกวด ทั้งเก็บข้อมูลสุขภาพ ความปลอดภัย และระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) นอกจากนี้ ผู้จัดฯยังให้ความสำคัญกับการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ผลักดัน Soft Power ของระยอง ผ่านวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวสู่สายตาชาวโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดระยองในฐานะแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพระดับสากล

จากนั้นวินาทีที่แฟนนางงามรอคอย ทั้งที่เดินทางมาเชียร์ภายในงาน และ ที่กำลังรับชมผ่านทาง Live Streaming on FACEBOOK : MISS UNIVERSE THAILAND เปิดตัวผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025 อย่างเป็นทางการ เดินอวดโฉมแนะนำตัวเอง ต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติ และ สื่อมวลชน ก่อนจะได้ชมความงามของมงกุฎ MUT Rayong 2025 “The Crown of Lumina” (ลูมิน่า) สื่อความหมาย ราชินีที่เป็นแสงนำทาง มีวิสัยทัศน์ชาญฉลาด เปล่งประกายทั้งภายในและภายนอก จากนั้นต้อนรับการมาเยือนเวทีนางงามอย่างเป็นทางการของ นางเอก-นักธุรกิจสาวสวย ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ CEO UZI Cosmetic ร่วมเป็น Beauty Coach เสริมเติมแต่งให้ผู้เข้าประกวดเป็นผู้หญิงสวยที่สมบูรณ์แบบ และอีกบทบาทสำคัญครั้งใหม่ของ เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ รองอันดับ1 มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025 ร่วมเทรนด์การพูดและการตอบคำถาม (Public Speaking Coach) ให้กับผู้เข้าประกวดตลอดการเก็บตัวในครั้งนี้ ที่สำคัญนอกจากโอกาสในการเป็นตัวแทน มิสยูนิเวิร์ส ระยอง 2025 และโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตแล้ว มาดามพลังงาน ยังทุ่มรางวัลสำหรับผู้ชนะกว่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียว จัดหนักกับ 2 แคมเปญใหญ่

  1. Building the Future ,A Journey to Dubai รางวัลสำหรับผู้ที่ทำยอดขายครบ 100,000 บาท เตรียมบิดลัดฟ้าไปร่วมงาน Event ที่ประเทศดูไบ และสัมผัสเมืองต้นแบบ Smart City ของโลก
  2. Beyond Beauty,Beyond Luxury ผู้ที่ทำยอดขายครบ 50,000 บาท จะได้ร่วมถ่ายแบบเครื่องเพชรโดย Beauty Gems ลงบนปกนิตยสาร HOWE

สำหรับกิจกรรมสำคัญของการประกวด มิสยูเวิร์สระยอง 2025 จะเก็บตัวระหว่างวันที่ 4-7 มิถุนายน ก่อนจะประกวดรอบตัดสินในคืนวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ณ Passione Shopping Destination อ.เมือง จ.ระยอง
หมายเหตุ ภาพ-ข่าว อยู่ใน Link นี้ : https://drive.google.com/drive/folders/117OP1mdJCjNjwdAQHhgbGc8OIpdKZFNt?usp=sharing

ติดตามทุกกิจกรรมได้จากทุกช่องทาง
Facebook : มิสยูนิเวิร์สระยอง – Miss Universe Rayong

MissUniverseRayong #MissUniverseRayong2025 #MissUniverseThailand #MissUniverseThailland2025 #MUTRayong #MUTRayong2025 #MUT #MUT2025 #TheNewEraOfMUT#MGIxMUT #The74thMissUniverse #MissUniverse #มิสยูนิเวิร์สระยอง2025

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2025 #RegenSmartCity #Shakira #หมอกี้ชากีร่า #BeyondBeautyBuildingTheFuture #SmartQueen #SmartCity #SmartCityThailand #RayongSmartCity

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เฉพาะกิจ มิสยูนิเวิร์สระยอง 2025 Tel:0623955642

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /อ.เมย์ เดินหน้าจัดโครงการ “ทำดีให้คนมองเห็น ปีที่ 4” แจกแว่นสายตาผู้สูงอายุกว่า 1,500 คน

แชร์เนื้อหานี้

มีรายงานว่า ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีการจัดกิจกรรมอย่างเป็นทางการในโครงการ “ทำดีให้คนมองเห็น ปีที่ 4” ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท แฮปปี้ฮวงจุ้ย จำกัดโดยมี อาจารย์เมย์ ดร.จินต์วยา เบญญจินดาพิศุทธ์ ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดังของประเทศไทย เป็นประธานโครงการ และขับเคลื่อนโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุในพื้นที่ห่างไกลที่มีปัญหาทางสายตา แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยภายในพิธีเปิด ได้รับเกียรติจาก นายปัญญา ปานแสง นายอำเภอน้ำหนาว เป็นประธานในพิธี

โครงการในปีนี้ตั้งเป้ามอบแว่นสายตาคุณภาพให้กับ ผู้สูงอายุจำนวน 1,500 คน จาก 30 หมู่บ้าน ครอบคลุม 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลน้ำหนาว, ตำบลโคกมน, ตำบลวังกวาง และตำบลหลักด่าน โดยคุณสมบัติของผู้รับบริการในโครงการนี้ ได้แก่:อายุ 50 ปีขึ้นไปมีรายได้น้อย ไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือนมีปัญหาสายตา เช่น สั้น ยาว เอียง และยังไม่เคยได้รับแว่นจากโครงการนี้มาก่อน​ ซึ่งแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 วัน คือ วันที่ 30 เมษายน 2568 ณ หอประชุมอำเภอน้ำหนาว, วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ณ อาคารอเนกประสงค์​ หมู่ 1 ตำบลวังกวาง และวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหลักด่าน

ทั้งนี้ ในช่วงเช้า ทางคณะผู้จัดงานยังได้รับความเมตตาจาก พระครูพัชรคณาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอน้ำหนาว และเจ้าอาวาสวัดโคกมน กล่าวสัมโมทนียกถา แก่ผู้สูงอายุ และจิตอาสาที่มาร่วมงาน ถึงแม้ร่างกายจะร่วงโรย แต่ถ้าใจยังศรัทธา ยังเห็นค่าความดี ก็ถือว่าเรายังมีพลังอยู่ วันนี้ไม่ใช่แค่ได้แว่น แต่คือได้เห็นธรรมะ ได้แสงสว่าง ได้เห็นคุณค่าชีวิตอีกครั้ง

กิจกรรมในงานประกอบด้วยการวัดสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์​ วัดด้วยเลนส์เซ็ท และมอบแว่นตาที่ประกอบใหม่จากเลนส์คุณภาพ CR39 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ให้พ่อโซ้น แม่โซ้น ได้รับแว่นสายตาคุณภาพ ตรงกับค่าสายตาจริง นอกจากอิ่มใจ ยังอิ่มท้องด้วยโรงทาน อาหารคาวหวาน อาหารเจ น้ำดื่ม และจิตอาสาคอยดูแลผู้สูงอายุตลอดงาน สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปิติใจ และเปี่ยมด้วยน้ำใจ

หนึ่งในช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดของวัน คือการได้พบกับคุณลุงวัย 84 ปี ที่แม้จะอายุมาก แต่ยังแข็งแรงและเดินทางมาด้วยตนเอง โดยคุณลุงเล่าว่า รอคอยโครงการนี้มานาน เพราะที่ผ่านมาใส่แว่นตลาดที่ไม่ตรงค่าสายตา มองเห็นไม่ชัด และอ่านหนังสือธรรมะไม่ได้ รู้สึกดีใจมากที่อาจารย์เมย์ยังมาทุกปี ปีนี้ก็ไม่พลาด จะได้อ่านหนังสือได้อีกครั้ง

โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งปกครอง, หน่วยงานท้องถิ่น ข้าราชการ, อบต., สาธารณสุขอำเภอ, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสามากมาย ที่มาร่วมทำงานเพื่อส่วนรวมด้วยจิตสาธารณะ ที่สำคัญ​และขาดไม่ได้ คือคณะเจ้าภาพร่วม โดยเจ้าภาพหลักได้แก่ บริษัท​ แฮป​ปี้ฮวงจุ้ย​ จำกัด, คุณวีรวิชญ์ อัศวภิญโญภาคย์ และครอบครัว, คุณวิชัย อรุณสิริตระกูล บริษัท ซีเอ็นเอส เอ็นจิเนียริ่งเซอร์วิส จำกัด, คุณธัญกมล เมืองฮาม และครอบครัว, Alpha Trading and Service Co.,Ltd., ครอบครัวดารกมาศ, บริษัท ที.เอ็น.ซีเมนต์บล็อค จำกัด, ลูกศิษย์​และกัลยาณมิตร​ร่วมบุญกันมาอีกมากมาย

อาจารย์เมย์ กล่าวถึงหัวใจของโครงการว่า หลายคนมองไม่เห็นชัดมานาน ไม่ใช่เพราะโรคร้ายแรง แต่เพราะไม่มีโอกาสได้มีแว่นตาดีๆเป็นของตนเอง การมอบแว่นให้เขาเห็นชัด คือการมอบชีวิตใหม่ มอบโอกาสทางการศึกษา ให้โอกาสในการสร้างรายได้ ให้ความสุขในการทำสิ่งที่รัก พลิกชีวิตเขาได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจอีกครั้ง

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อแอนแทรกซ์ เสียชีวิตรายแรก.มุกดาหาร / สสจ.มุกดาหาร ออกประกาศให้ประชาชนงดกินเนื้อวัว ควาย แพะและแกะดิบ / สสจ.มุกดาหาร พบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์3 ราย และผู้สัมผัส 377 ราย

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 30 เมษายน นายชาคริต ชุมจันทร์ นายอําเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ได้ออกประกาศอำเภอดอนตาล เรื่องมาตรการควบคุมโรค (ฉบับที่ 1) สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา มีประชาชนในตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล ได้สัมผัสและรับประทานเนื้อวัว

ต่อมาได้ป่วยเป็นไข้และมีตุ่มที่บริเวณผิวหนังถูกนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลดอนตาล แต่ทางโรงพยาบาลเห็นว่ามีอาการหนักจึงได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมุกดาหาร และได้เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันนี้ (30 เมษายน 2568) จากการตรวจในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเสียชีวิตเพราะติดเซื้อโรคแอนแทรกซ์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยองค์การบริหารส่วนตำบลเหล่าหมีได้ไปรับศพมาฌาปนกิจในวันเดียวกัน

อําเภอดอนตาลจึงได้แจ้งหัวหน้าส่วนราชการ และกํานัน – ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่อําเภอตอนตาล ดำเนินการควบคุมโรคและเฝ้าระวังการแพร่ระบาคโรคแอนแทรกซ์ และได้ประกาศก่าหนดมาตรการควบคุมโรค คือ

  1. ห้ามฆ่าสัตว์ โดยเฉพาะ โค กระบือ ในห้วงงานบุญประเพณีบุญเตือนหก (บุญบั้งไฟ) ทุกกรณี
  2. โรงพยาบาลตอนตาล สาธารณสุขอําเภอดอนตาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลเหล่าหมี ได้เปิดศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค เพื่อบริการประชาชนในการตรวจเชื้อโรคแอนแทรกข์ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลเหล่าหมี และศาลาประชาคม หมู่ที่ ๑ บ้านเหล่าหมี
  1. ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจ๋าหมู่บ้าน (อสม.) สํารวจประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และให้บันทึกข้อมูลลงใน ระบบของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการเฝ้าระวังในการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์
  2. การเฝ้าระวังการติดเชื้อของโค กระบือและแพะ มอบหมายให้ปศุสัตว์อําเภอดอนตาลดําเนินการ
  3. ให้กํานัน – ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ไห้ประชาชนในพื้นที่ทราบ ลักษณะอาการของการติดเชื้อโรคแอบ แทรกซ์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค หากประชาชนท่านใดมีอาการตังกล่าว ให้มาตรวจหาเซื้อได้ที่ ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค
  1. ให้กํานัน -ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์หากพบโค กระบือและแพะ ที่มีอาการไข้สูง ไม่กินหญ้าแต่ยืน เคี้ยวเอื้อง มีน้ำลายปนเลือดไหลออกมา หายใจลําบาก ยืนโซเซ กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ให้กักขังสัตว์ดังกล่าว เละแจ้งปสุสัตว์อ่าเภอดอนตาลเข้ามาตรวจสอบโดยทันที่
  2. ให้มีการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ในการลักลอบขนโค กระบือและแพะ ออกจากพื้นที่ที่มีการระบาดของ โรคแอนแทรกซ์
  3. ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ปศุสัตว์อําเภอตอนตาล จะทําการจีดวัคซีนโค กระบือ และแพะ ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาตโรคแอนแทรกซ์ จึงห้ามไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ ที่มีการฉีดวัคซีนทํา การฆ่าหรือซําแหละโค กระบือ และแพะ ในเวลา 21 วัน นับตั้งแต่มีการฉีดวัคซีน
  1. หากมีปัญหาข้อสงสัยในการระบาดของโรค และโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงพื้นที่ตำบลเหล่านี้ ขอให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเอง หากพบว่ามีอาการผิดปกติสามารถติดต่อหน่วยงานราชการ เพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่ ที่ทําการปกครองอําเภอดอนตาล (ฝ่ายความมั่นคง) โรงพยาบาลดอนตาล สำนักงานสาธารณสุขอําเภอดอนตาล ปศุสัตว์อําเภอดอนตาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลเหล่าหมี

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สสจ.มุกดาหาร ออกประกาศให้ประชาชนงดกินเนื้อวัว ควาย แพะและแกะดิบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม กลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนจังหวัดมุกดาหาร งดกินเนื้อวัว ควาย แพะ และแกะดิบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ เพราะเป็นแล้วอาจถึงตายได้ โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา มีประชาชนในตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล

ได้สัมผัสและรับประทานเนื้อวัว ต่อมาได้ป่วยเป็นไข้และมีตุ่มที่บริเวณผิวหนังถูกนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลดอนตาล แต่ทางโรงพยาบาลเห็นว่ามีอาการหนักจึงได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมุกดาหาร และได้เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันนี้ (30 เมษายน 2568) โดยแพทย์ตรวจแล้วพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคติดเชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและติดต่อจากสัตว์สู่คน มีพาหะนำโรคคือ วัว ควาย แพะ และแกะ โดยผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เสียชีวิตเป็นรายแรกของจังหวัดมุกดาหาร

ขณะที่แผงขายเนื้อวัวสดในตลาดเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงาโดยมีประชาชนมาซื้อเนื้อวัวไปบริโภคน้อยลงอย่างผิดสังเกต เนื่องจากส่วนใหญ่ได้รับทราบข้อมูลว่ามีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ จึงทำให้เกิดความกลัวจึงไม่กล้าซื้อเนื้อวัวไปบริโภคแต่โดยเปลี่ยนไปซื้อเนื้อสัตว์ประเภทบริโภคอื่นแทน

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สสจ.มุกดาหาร พบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 ราย และผู้สัมผัส 377 ราย เตือนประชาชนงดกินก้อย ซอยจุ๊

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ว่า เป็นโรคแอนแทรกซ์เสียชีวิต 1 ราย พบผู้ป่วยเข้าข่ายเป็นโรคแอนแทรกซ์ 3 ราย ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และยังพบ

ผู้สัมผัสอีกจำนวน 377 ราย ประกอบด้วยผู้ชำแหละเนื้อวัว 28 ราย ผู้รับประทานเนื้อดิบ 232 ราย ผู้สัมผัสโดยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับผู้ชำแหละ 117 ราย โดยทั้งหมดทุกคนได้รับการตรวจคัดกรอง และได้รับยาป้องกันเรียบร้อยแล้ว จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนจังหวัดมุกดาหารงดกินลาบเนื้อดิบ ก้อยดิบ และซอยจุ๊ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ ก็อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้

ขณะที่ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ตรวจพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ นายชาคริตชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล ได้ออกประกาศอำเภอดอนตาล เรื่องมาตรการควบคุมโรค ฉบับที่ 2 มีข้อความว่าเพื่อให้การตวบคุมโรคและเผ้าระวังการแพร่ระบาดโรคแอนแทรกซ์ อ่าเกอตอนตาลจึงให้ดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เพื่อปัองกันการเคลื่อนซ้ายโค กระบือ เข้าและออกในเขตพื้นที่อำเภอดอนตาล รวม 4 จุด ประกอบด้วย จุดตรวจบ้านป่าพะยอม จุตตรวจบ้านนาห้วยกอก จุดตรวจบ้วนภูวง และจุดตรวจหน้าสถานีต้ารวจภูธรปาไร่

สำหรับพื้นที่บ้านโคกสว่าง ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล ได้มีการเข้าตรวจสอบจุดชำแหละวัวทีมีการแพร่เชื้อ โดยเจ้าหน้าที่จากด่านกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ และทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณโดยรอบเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค และได้มีการวางแผนการควบคุมโรคสัตว์โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสํารวจ/วางแผนฉีดวัคซีนวัวในรัศมี 5 กม. จํานวน 1,222 ตัว ฉีดยาปฏิชีวนะในวัวบริเวณพื้นที่เสี่ยงจำนวน 124 ตัว อีกด้วย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีกสามราย ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / คุณยาย อายุ 86 ปี คนจังหวัดนครราชสีมา ออกตลาดขายขนม ช่วยเบาภาระครอบครัว

แชร์เนื้อหานี้

คุณยายมีชื่อว่า นางฝ่าย หลุนกระโทก อายุ 86 ปีอีกสี่เดือนจะครบ 87 ปี มีสัมโนครัวที่ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ปัจจุบัน คุณยายไม่มีบ้าน ได้ เช่าห้องอยู่ที่ ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา อยู่กับ ลูกสาว 2 คน หลานชาย 1 คน ลูกสาวอายุ 40 กว่าชื่อนาง(ก)นามสมมุติ และอีกคนอายุ 50 กว่าชื่อนาง(ข)นามสมมุติ ส่วนหลานชาย อีก 1 คน อายุ 26 ปี ไม่มีวุฒิการศึกษา ไม่มีอาชีพติดตัว จึงหาเงินได้น้อย คุณยายเล่าว่า ลูกสาวทำงานเป็นแม่บ้านที่ รพ.มหาราช ลูกสาวอีกคน ช่วยทำขนมที่บ้าน ลูกสาวทั้งสองคนเลิกกับสามีนานแล้ว และลูกสาวทั้งสองคนป่วยด้วยโรคกระดูกทับเส้น ทำงานได้ไม่เต็มร้อย รายได้จึงไม่เพียงพอ

คุณยาย หู ไม่ค่อยได้ยิน และ จะปวดขาบ่อยๆ เพราะเดินมาก บางวันปวดมากทนไม่ไหว ก็นอนลงไปตรงที่นั่งขายของ คุณยายเล่าต่อไปว่า ตัวเองนั้น สมัยยังสาว ทำงานเป็นลูกจ้างที่ กทม. หลังจากนั้น กลับมาอยู่ โคราช เมื่ออายุได้ 30กว่า จากนั้นจึงขายขนมเรื่อยมา จนถึงวันนี้ คุณยายได้ขายขนมมาเป็นเวลา 50 กว่าปีแล้ว ขนมที่คุณยายขายคือ ขนมไทย ใส่ไส้ห่อใบตอง ขนมกล้วย ขนม ตาล สมัยนั้นคุณยายจะเอาขนมใส่ตะกร้าใบใหญ่และหิ้วสองมือ ปัจจุบันใส่ตะกร้าใบเล็กขาย ขนมที่คุณยายขาย จะเป็นขนมที่ทำสำเร็จมาแล้ว เช่น บ๊วย ท๊อฟฟี่ ขนมปังกรอบสอดไส้ ขนมเหล่านี้ หลานสาวคุณยายซึ่งเป็นลูกของนาง(ก)จัดหามาให้ คุณยายได้ขายทุกวันนี้

สถานที่คุณยายขายมีสองที่ คือ ตลาดไนท์กระโทก อ.โชคชัย (ที่อยู่ปัจจุบัน)และในตัวอำเภอเมืองนครราชสีมา คุณยายเล่าต่อไปว่า ได้นั่งรถประทาง สาย โชคชัย – นครราชสีมา เข้าไปขายในเมือง บริเวณ กรมที่ดิน เดินต่อไป ธ.ออมสิน เดินต่อไป ศาลากลางจังหวัด และ รพ.มหาราช อาจจะนั่งรถเมย์บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเดิน เพราะได้ขายไปด้วย หากวันไหนขายที่ตลาดไนท์กระโทก อ.โชคชัย(ที่อยู่ปัจจุบัน) คุณยายจะนั่งวินไปขาย บางวันก็เดินไป ระยะทางประมาณ เกือบครึ่งกิโลเมตร จากที่พัก ไปยัง ตลาดไนท์กระโทก ขายขนมเสร็จ เวลา 20.00 น.หากคุณยายไม่มีรถกลับบ้าน หาวินมอไซค์ไม่ได้ ก็จะมีแม่ค้าใจบุญที่ตลาดไนท์กระโทก อ.โชคชัย ขับรถมอไซค์พ่วงมาส่งยังที่พัก

ส่วนรายได้จากการขายขนม คุณยายเล่าว่า ขายในเมืองนครราชสีมาโดยเฉลี่ย ได้วันละ 1000 บาท หักค่ารถ และต้นทุน เหลือกำไรวันละ ร้อยกว่า ถึง สองร้อยกว่าบาท หากขายที่ตลาดไนท์กระโทก อ.โชคชัย รายได้โดยเฉลี่ย วันละ 200 บ.รวมต้นทุน

กันตินันท์ เรืองประโคน/ รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / แขวงทางหลวงน่านที่ 1 จัดการประชุมการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการก่อสร้างทางจักรยาน ทางหลวง 1168 ตอน น่าน – น้ำใส

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (22 เมษายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุมการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการก่อสร้างทางจักรยาน ในทางหลวงหมายเลข 1168 ตอน น่าน – น้ำใส

โดยมี พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง และ นายพงษ์ศิลป์ ผาลา นายอำเภอภูเพียง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ท่านผู้แทนภาคเอกชน

ท่านผู้นำท้องถิ่น สื่อมวลชน และประชาชน เข้าร่วมการประชุมฯ โดยมี นายมงคปิ่นสกุล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงน่านที่ 1 เป็นผู้กล่าวรายงาน

การประชุมการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับ การท่องเที่ยว น่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง ในโครงการก่อสร้างทางจักรยาน

ในทางหลวงหมายเลข 1168 ตอน น่าน – น้ำใส รวมระยะทาง 1.5 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนสองข้างทาง นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ สามารถมาออกกำลังกาย

ทั้งการปั่นจักรยานและการวิ่งที่ปลอดภัยและใกล้บ้าน ใกล้ที่พัก เป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพของคนน่าน และส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำในเขตเมืองน่าน โดยผู้เข้าร่วมการประชุมการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในวันนี้ จะช่วยให้ทุกภาคส่วนในท้องถิ่น

ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้มีส่วนร่วมในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการฯ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการดำเนินการโครงการฯ และลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น/บุญยงค์ สดสอาด ยายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน