คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวศิลป และ วัฒนธรรม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /ปธ.กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา ทำบุญใหญ่ปี 68 จัดทอดกฐินวัดเก่าเมืองมะขาม ได้ยอดกฐิน 310,999 บาท

แชร์เนื้อหานี้

มีรายงานว่า ครอบครัวแสงแก้ว โดย คุณพ่อทา แก้วแสง คุณแม่พวง แก้วแสง และนางอำพร แก้วแสง ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา ได้จัดทำบุญทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2568 วัดอู่เรือ ซึ่งเป็นศาสนสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ตำบลหนองแจง อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์

กิจกรรมงานบุญใหญ่ในครั้งนี้ดำเนินการโดยครอบครัวแก้วแสง ทีมงานเทวาลัยมหากาลีอวตารจักรวาลชนนี พัทยา ร่วมกับสาธุชนและนักท่องเที่ยวผู้ใจบุญในเขตเมืองพัทยาร่วมกันทำบุญทอดกฐินดังกล่าวเป็นยอดเงินรวม 310,999 บาท (สามแสนหนึ่งหมื่นเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน พร้อมแจกเงินเด็กและผู้สูงอายุที่มาร่วมบุญคนละ 200 บาท ก่อนปล่อยพันธุ์ปลาอีกกว่า 4,000 ตัว

นางอำพร แก้วแสง ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา เล่าว่า วัดอู่เรือ ตั้งอยู่บ้านอู่เรือ หมู่ที่ 12 ตำบลหนองแจง อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.หนองแจง เป็นวัดเก่าแก่มาหลายชั่วอายุคน

ในวัดมีศาลา 1 หลัง หอระฆัง 1 หลัง กุฏิ 4 หลัง เมรุ 1 หลัง มีพระสมยศ ตปสีโล เป็นรักษาการเจ้าอาวาส ปัจจุบันมีพระจำพรรษาทั้งหมด 3 รูป ด้วยทางวัดอยู่ห่างไกลความเจริญและยังต้องการปัจจัยในการทำนุบำรุง ทางคณะจึงได้จัดกิจกรรมทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ขึ้น

อย่างไรก็ดี หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2568 ที่วัดอู่เรือ ทางคณะได้ไปสักการะศาลพ่อหลักเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ และหลวงพ่อภูทับเบิก จากนั้นจะแวะทำบุญที่วัดผาซ่อนแก้ว วัดชื่อดังของเมืองมะขาม ก่อนเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ณ วัดเซกาเจติยาราม จังหวัดบึงกาฬ

แชร์เนื้อหานี้

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568 เวลา 10.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน

เพื่อนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดเซกาเจติยาราม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

ตามที่ นางรัตนประภา ดิศวัฒน์ ประธานบริหารโรงแรมและรีสอร์ทในเครือสิบแสน ขอพระราชทานไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์

ในโอกาสนี้ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธี เชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปถวาย

พร้อมด้วย นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน เข้าร่วมในพิธีด้วยความพร้อมเพรียงและเปี่ยมด้วยความปลื้มปีติ

ภายในงาน มีการประกอบศาสนพิธีตามแบบแผนของคณะสงฆ์อย่างสมพระเกียรติ

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสืบสานพระราชปณิธานในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทย

การพระราชทานผ้าพระกฐินในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความเมตตาธรรมอันยิ่งใหญ่ ที่สะท้อนถึงพระราชปณิธานแห่งการสืบทอดพระพุทธศาสนา

และความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างพระมหากษัตริย์กับพสกนิกรชาวไทยทั่วทุกภูมิภาค
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “เบลล่า–ก้อง ห้วยไร่” ร่วมบวงสรวงพญาศรีมุกดามหามุนีนิลปาลนาคราช พร้อมทอดผ้าป่า ณ วัดรอยพระบาทภูมโนรมย์ มุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม บรรยากาศที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร เต็มไปด้วยพลังแห่งศรัทธา เมื่อสองดาราดัง “เบลล่า ราณี แคมเปน” และศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง “ก้อง ห้วยไร่”

(อัครเดช ยอดจำปา) พร้อมภรรยา ขนิษฐา ยอดจำปา และ “พลอย วีณา เมษกำเหนิดชัย” เดินทางมาร่วมเป็นประธานในพิธี บวงสรวงพญาศรีมุกดามหามุนีนิลปาลนาคราช (ปู่ศรีมุกดา)

พร้อมกันนี้ยังได้ร่วม ถวายผ้าป่าสามัคคีเพื่อบูรณะองค์พญานาคและปรับภูมิทัศน์และก่อสร้างลานพญานาค โดยมี พระวิฑูรวชิรโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าอาวาสวัดรอย

พระพุทธบาทภูมโนรมย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
และได้รับเกียรติจาก นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธียังคับคั่ง

ภายในงาน “เบลล่า” ปรากฏตัวในชุดผ้าไทยพื้นเมืองสีน้ำเงินเข้มปักลายงดงาม สวมเครื่องประดับเรียบหรูสมฐานะนางเอก

สายบุญ และเป็นประธานคล้องพวมาลัย ผูกผ้าเจ็ดสี จุดธูปเทียนเครื่องบวงสรวงถวายเครื่องสักการะองค์พญาศรีมุกดามหามุนีนิลปาลนาคราช

ท่ามกลางความชื่นชมของประชาชนและแฟนคลับที่มาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งต่างร่วมอนุโมทนาในความตั้งใจของทั้ง “เบลล่า” และ “ก้อง ห้วยไร่”

ในการสืบสานประเพณีความเชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพญานาค “ปู่ศรีมุกดา” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวมุกดาหาร

✨ งานนี้เรียกว่า “งดงามทั้งใจและกาย” สมกับเป็นดาราสายบุญตัวจริงแห่งวงการ! สายบุญตัวจริง #เบลล่าราณี #ก้องห้วยไร่ #พญาศรีมุกดามหามุนี

#วัดรอยพระบาทภูมโนรมย์ #มุกดาหาร #ข่าวบันเทิงสายบุญ #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้///ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กฐินพระราชทาน ทอดวัดณ วัดราชสิทธารามราชวรวิหารบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดย.มูลนิธิพุทธภูมิธรรม

แชร์เนื้อหานี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานให้ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม น้อมนำผ้าพระกฐินพระราชทาน ไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ จำพรรษาถ้วนไตรมาสณ วัดราชสิทธารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร วันอาทิตย์ ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2568 เวลา 09.59 น.

มูลนิธิพุทธภูมิธรรม นำโดย พลเอก เอกชัย หาญพูนวิทยา ประธานอำนวยการ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม, นางสาว เรณู มีผดุง
ที่ปรึกษามูลนิธิฯ (เจ้าภาพหลัก), มูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสำนักงานเขตบางกอกใหญ่

ร่วมจัดกิจกรรมพิธี ถวายผ้ากฐินพระราชทาน ที่ได้รับพระราชทานนำมาจัดทำขึ้นในปีนี้ โดยได้รับเมตตาจาก พระราชวิสุทธิโสภณ เจ้าอาวาสวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร พร้อมด้วยคณะสงฆ์ กระทำพิธีอปโลกน์และสวดญัตติทุติยกรรม พระสงฆ์รูปที่ได้รับฉันทานุมัติให้เป็นผู้ครองกฐิน
ณ พระอุโบสถ วัดราชสิทธารามราชวรวิหาร

โดยมี หน่วยงานข้าราชการ,ทหาร,ตำรวจ,
จิตอาสา ,พ่อค้า, แม่ค้า, ประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกันอย่างคับคั่ง

การจัดงานในปีนี้มีบรรยากาศ ที่เต็มไปด้วยความอิ่มบุญอิ่มใจ
และความศรัทธาในการสนับสนุนพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งมีการ
มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน โรงเรียนวัดราชสิทธาราม

มูลนิธิพุทธภูมิธรรม เป็นตัวแทนท่านถวายกฐิน 1,001,999 บาทนอกจากนี้ยังมีการออกบูธ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่
ตรวจสุขภาพ ,นวดเพื่อสุขภาพ,จิตอาสาตัดผม ,ของหน่วยงานราชการ , พร้อมทั้งโรงทานอาหาร คาวหวาน ,น้ำดื่มต่างๆ
เป็นจำนวนมาก ให้ผู้มาร่วมบุญในครั้งนี้ได้รับประทาน

ขอโมทนาสาธุการและขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดงานในครั้งนี้ รวมถึงผู้ที่ได้ถวายปัจจัยและแรงใจในการดำเนินกิจกรรมทำบุญที่มีความหมายอย่างยิ่งในครั้งนี้ ขอให้บุญกุศลที่ได้ทำร่วมกันส่งผลให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตต่อไป สาธุๆๆอนุโมทามิฯ

20 ตุลาคม 2568 : 13.00 น. สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ/นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล,นางเพ็ญศรี สุขเขียว ประธาน มพม.ภาค 18,นางสิริพร เรืองปาน ประธาน มพม.จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยคณะแม่ดีเด่นแห่งชาติ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ นายจรัญ ไชยฤทธิ์ รอง หส.ผศ.เขตนครศรีธรรมราช พร้อมคณะเจ้าหน้าที่,พล.ต.สรรเสริญ พุ่มเกิด

รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 4,จ.ส.อ.รุ่งวิทย์ มีภพ นายกสมาคมทหารผ่านศึก จ.นครศรีธรรมราช,เครือข่ายทหารผ่านศึก อ.ช้างกลาง/อ.เมือง/อ.ลานสะกา/อ.ร่อนพิบูลย์/อ.พระพรหม/อ.ปากพนัง/อ.เชียรใหญ่/อ.หัวไทร/อ.ท่าศาลา,ประธานเครือข่ายทหารผ่านศึก ต.นาเคียน,น.ส.นันทิยา เรืองจรูญ หัวหน้ากลุ่มนโยบายและวิชาการ

สนง.พมจ.นครศรีธรรมราช,ผญบ. ม.1 ต.ปากพูน : ลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ของคนพิการ พร้อมมอบชุดเยี่ยมให้กับทหารผ่านศึก คนพิการ ผู้ยากไร้ จำนวน 20 ราย ซึ่งมี นายจรัญ ไชยฤทธิ์ รอง หส.ผศ.เขตนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีมอบ ณ ห้องประชุมสโมสรวีรไทย ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

*** ขอขอบคุณ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล : บริจาคชุดเยี่ยมจำนวน 20 ชุด มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง ***

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาค 4 ถวายผ้าไตรกฐินพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พันปีหลวง ประจำปี 2568 ณ วัดหัวควน จ.ปัตตานี

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (12 ตุลาคม 2568) เวลา 13.30 น. ณ วัดหัวควน อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/

ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีถวายผ้าไตรกฐินพระราชทาน

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2568 โดยมี คณะผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วน

ราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ กำลังพล ตลอดจนพุทธศาสนิกชน จากหลายอำเภอเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

พิธีเริ่มด้วยการอัญเชิญผ้าไตรกฐินพระราชทานเข้าสู่พระอุโบสถ ตามด้วยการประกอบพิธีทางศาสนา การถวายสังฆทาน และการเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระสงฆ์จากคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี

ร่วมประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยและเปี่ยมไปด้วยศรัทธา

ซึ่งปัจจัยที่รวบรวมได้จากบริวารกฐินผู้มีจิตศรัทธาในครั้งนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 204,900 บาท

การถวายผ้าไตรกฐินพระราชทานในครั้งนี้ เป็นพระราชปณิธานอันงดงามในการบำรุงพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นการสืบสาน

ประเพณีทางพุทธศาสนาอันดีงาม เสริมสร้างความศรัทธา ความสามัคคี และความเข้มแข็งในชุมชน

ทั้งนี้ วัดหัวควนถือเป็นวัดสำคัญในอำเภอโคกโพธิ์ ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ การได้รับพระราชทานผ้าไตรกฐินในครั้งนี้

จึงนับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งแก่คณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน และประชาชนในจังหวัดปัตตานี
//ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน//

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / คนเชียงกลาง จังหวัดน่านร่วมใจถวายผ้าป่ามหากุศล”คนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน”ปีที่ 10

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 09.39 น. ณ หอประชุมอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน นายโชดก ทองหาร นายอำเภอเชียงกลาง เป็นประธานในการถวายผ้าป่ามหากุศล”คนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน”ปีที่ 10 โดยคณะกรรมการกองทุนคนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน นำโดยนายทัตพงศ์ นันทะน้อย ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเชียงกลาง,
,นายอนันต์ บุญเทอม ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้าน (อสม.) อำเภอเชียงกลาง,นายประทุม นิลคง กำนันตำบลเชียงคาน,นายสังวาล สุโรพันธ์

กำนันตำบลพระพุทธบาท,นายสมเดช สายน้ำน่าน กำนันตำบลพระธาตุ,นายพงษกร ค่าคาม กำนันตำบลพญาแก้ว,นางสาวชนสกานต์ สุโรพันธ์ กำนันตำบลเปือ ร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ ชมรม อสม. ภาคเอกชน ร้านค้า และประชาชน ผู้มีจิตศรัทธา กำหนดจัดผ้าป่ามหากุศล”คนเชียงกลางไม่ทิ้งกัน”ปีที่ 10 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อหาวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ สนับช่วยเหลือผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีฐานะยากจน ช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ ผู้ป่วยจิตเวช และผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัด และช่วยเหลืองานสุขภาพ ต่างๆที่พบว่าเป็นปัญหา โดยประชาชนพื้นที่อำเภอเชียงกลาง

ร่วมเป็นเจ้าภาพทุกหลังคาเรือน มีคณะสงฆ์ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานราชการต่างๆ ร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ , โดยได้ยอดรวมผ้าป่าทั้งหมด 731,729(เจ็ดแสนสามหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าบาทถ้วน) มีผู้เข้าร่วมถวายผ้าป่า อาทิ นายแพทย์อนุชิต สถาวรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงกลาง/นายกิตติเดช เกียรติมหาชัย เลขานุการ ส.ส.น่าน เขต 3/นายเมธี มะลิลม ผู้แทนเกษตรอำเภอ/นางพรมาลี ธาราทิพย์ พัฒนาการอำเภอเชียงกลาง/นางอุไร เปียงใจ

ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงกลาง/ผู้แทนนายก อปท.ทุกแห่ง/ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สารวัตร แพทย์ ทุกคน/อาสาสมัครรักษาดินแดน กองร้อยที่ 10 อำเภอเชียงกลาง/ ข้าราชการ ตำรวจ สภ.เชียงกลาง,กองร้อย ตชด.ที่ 325/ตัวแทน อสม.และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเชียงกลาง
ภาพข่าว ชาตรี ทำงาม สมาชิกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กเยาวชน ผู้สูงวัย และคนไทยพลัดถิ่น

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 ส.ค.68 ที่ห้องประชุมโรงเรียนศรียาภัย 2 นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร มอบหมายให้ ผศ.เสนีย์ นิลทจันทร์ ที่ปรึกษานายกฯ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการความร่วมมือสร้างหุ้นส่วนทางสังคมจังหวัดชุมพร พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยพลัดถิ่นและประชากรกลุ่มเปราะบาง โดยมี ผศ.ดร.
ชุมพล อังคณานนท์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชุมพร

นางสาวจีรดา ธรรมาภิมุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร คณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร สมาคมประชาสังคมชุมพร สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ทีมพลังชุมพร และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันจัด “เวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนสถานการณ์และวางแนวทางดำเนินงาน เพื่อยกระดับเครือข่ายการทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และครอบครัวกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น จังหวัดชุมพร”

สืบเนื่องจากจังหวัดชุมพรเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางประชากร และเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรกลุ่มเปราะบาง รวมถึงกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นที่ยังคงเผชิญกับปัญหาด้านสิทธิสถานะ ส่งผลให้การเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการพื้นฐานด้านการศึกษาและสุขภาพยังไม่ทั่วถึง การพัฒนาที่ยั่งยืนจึงจำเป็นต้องเริ่มจากรากฐานที่มั่นคง นั่นคือการคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในระยะยาว ทั้งนี้จึงเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม 
โดยมีวัตถุประสงค์หลัก  

1. เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้นำชุมชน และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และสวัสดิการที่ประชากรกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนพึงได้รับ 

2. เพื่อเป็นเวทีซักซ้อมและสร้างแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การช่วยเหลือและการส่งต่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น 

3. เพื่อยืนยันหลักการสำคัญว่า “เด็กทุกคนในแผ่นดินไทยต้องได้รับการคุ้มครอง ไม่ว่าจะมีสถานะทางทะเบียนเป็นอย่างไร” โดยเฉพาะสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการศึกษาและสุขภาพเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือและกลไกการทำงานเชิงบูรณาการที่เข้มแข็ง อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน และครอบครัวกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นอย่างยั่งยืน 
4.
การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหลายภาคส่วน ที่จะมาร่วมถ่ายทอดความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมกันวางแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาของพื้นที่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีเด็กหรือเยาวชนคนใดในจังหวัดชุมพรต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ลงพื้นที่น่าน ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัย มอบเงินและเครื่องมือช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย น้ำท่วม มอบเงินสมทบซื้อเครื่องมือทางการแพทย์แก่ รพ.น่าน

    แชร์เนื้อหานี้

    วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมคณะ เดินทางมายังจังหวัดน่าน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงมอบอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยกิจกรรมที่วัดพญาภู ประกอบด้วย การกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ, การถวายเครื่องสักการะ, การกล่าวถวายการต้อนรับโดยคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และการถวายรายงาน

    โดยพระสุมนฺฑมุนี เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน ซึ่งรายงานผลงานด้านสาธารณสงเคราะห์ เช่น การมอบพระกัณฑ์เทศน์, การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 13 ครัวเรือน และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยก่าว100 หลังคาเรือนในโอกาสนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค 6 พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้มอบเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อสมทบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลน่าน สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยัง

    ได้มอบถุงยังชีพและปัจจัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมกว่า 200 ชุด พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจถึงพื้นที่ประสบปัญหา โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดหวัดน่าน พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง คณะสงฆ์จังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน

    นายสุเมษ สายสูง ประธานมูลนิธิพระหลักเมืองน่าน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน พร้อมคณะ นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน พร้อมคณะสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ประธานชุมชนบ้านมิ่งเมืองให้การต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ ทั้งจากคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมต้อนรับและรับมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ /

    บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/พ.อ.พยอม บุญทร/รต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

    เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ลงพื้นที่น่าน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย น้ำท่วมมอบปิยภัณฑ์ให้คณะสงฆ์จังหวัดน่าน มอบเงินสมทบซื้อเครื่องมือทางการแพทย์แก่ รพ.น่าน พร้อมร่วมกิจกรรมคณะสงฆ์จังหวัดน่าน

    วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมคณะ เดินทางมายังจังหวัดน่าน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงมอบอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยกิจกรรมที่วัดพญาภู ประกอบด้วย การกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ, การถวายเครื่องสักการะ, การกล่าวถวายการต้อนรับโดยคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และการถวายรายงานโดยพระสุนทรมุนี เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน ซึ่งรายงานผลงานด้านสาธารณสงเคราะห์ เช่น

    การมอบปิยภัณฑ์ให้กับคณะสงฆ์จังหวัดน่าน การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 13 ครัวเรือน และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกว่า100 หลังคาเรือน
    ในโอกาสนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค 6 พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้มอบเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อสมทบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลน่าน สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยังได้มอบถุงยังชีพและปัจจัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมกว่า 200 ชุด

    พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจถึงพื้นที่ประสบปัญหา โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดหวัดน่าน พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง คณะสงฆ์จังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายสุเมษ สายสูง ประธานมูลนิธิพระหลักเมืองน่าน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน พร้อมคณะ นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน พร้อมคณะสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน

    ประธานชุมชนบ้านมิ่งเมืองให้การต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ ทั้งจากคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมต้อนรับและรับมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ /บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/พ.อ.พยอม บุญทร/รต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

    สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม มอบกองทุนสาธารณกุศลให้ กรมกิจการเด็กและเยาวชน พม. ร่วมส่งเสริมพัฒนาเด็ก-เยาวชน-ประชาชน-หน่วยงาน ส่งต่อพลังความปรารถนาดีสู่สังคม

    แชร์เนื้อหานี้

    10 ก.ค.68 ณ ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ , มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมกับ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำโดย นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เป็นประธานในพิธี

    1.งานจัดตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหน่วยงาน “พระประชาบดี” ที่ชำรุด หักโค่นไป เนื่องจากเหตุการณ์วาตภัย เพื่อเป็นสิริมงคลและศูนย์รวมใจในการทำดีของ เด็ก เยาวชน เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ประชาชน

    2.งานกิจกรรมพัฒนาเยาวชนสร้างสรรค์ ให้กับเด็กการบรรยาย กิจกรรมพัฒนาเยาวชนสร้างสรรค์ ในหัวข้อ “เด็กดี มีน้ำใจ ใคร ๆ ก็รัก” เพื่อเป็นการสร้างความ ตระหนักรู้ แนะนำแนวทางการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเหมาะสมแก่เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อมุ่งไปสู่ การเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคมและประเทศชาติต่อไป

    ในการนี้ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ได้สนับสนุนกองทุนสาธารณกุศลให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน จำนวน 54,950 บาท เพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม เด็ก-เยาวชน-หน่วยงาน-ประชาชน

    ขอส่งต่อพลังบุญนี้ ให้เป็นกำลังใจแห่งแผ่นดิน และให้พลังบุญนี้หนุนนำให้กัลยาณมิตรผู้ร่วมสนับสนุนทุกท่าน เจริญด้วยปัญญาบารมี สมบูรณ์พร้อมด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ เทอญ… สามารถติดตามข่าวสารธรรมทานงานบุญ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ได้อย่างต่อเนื่องสาธุๆๆอนุโมทามิฯมูลนิธิพุทธภูมิธรรมพุทธภูมิธรรมนำสุขทำบุญ #สุขใจที่ได้ทำบุญให้ทาน #ธรรมทาน

    สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /อัญเชิญผ้าพระราชทาน ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขึ้นห่มพระบรมธาตุสวี

    แชร์เนื้อหานี้

    ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 สำนักพระราชวังสวนจิตรลดากทม. 10303 ที่พ.ว. 0206. 1.4 / 1958 วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เรื่องพระราชทานพระมหากรุณา เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร อ้างถึงหนังสือจังหวัดชุมพรที่ ชพ. 0032 / 6282 ลงวันที่ 29 เมษายน 2568

    ตามที่มีหนังสือขอให้นำความกราบบางคนทูล สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอพระราชทานพระมหากรุณาในงานประเพณีแห่ผ้าพระราชทานขึ้นห่มพระบรมธาตุสวี ประจำปี 2568 ณ วัดพระบรมธาตุสวี ระหว่างวันที่ 9 ถึง 11 กรกฎาคม 2568

    ดังนี้ 1.ขอพระราชทานพระราชาอนุญาตจัดทำผ้าห่มพระบรมธาตุสวีประดับอักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. ขนาดกว้าง 45 นิ้วยาว 20 เมตร จำนวนหนึ่งผืนเพื่อถวายเป็นพุทธะบูชา 2.ขอพระราชทานผ้าไตร 15 ไตรถวายพระสงฆ์จัดถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ความแจ้งอยู่แล้วนั้น

    ได้นำความกราบบังคมทูลทรงทราบกว่าละอองพระบาทแล้วพระราชทานมหากรุณาตามที่ขอจึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือคุณหญิงอารยา พิบูลนครินทร์ เลขานุกาลในพระองค์ สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

    วันนี้ (11 ก.ค. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร, ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ

    รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ข้าราชการ อัยการ ศาล ทหาร ตำรวจ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ร่วมในพิธีอัญเชิญผ้าพระราชทาน ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

    กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขึ้นห่มพระบรมธาตุสวี ณ วัดพระบรมธาตุสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ พิธีสมโภช

    ผ้า และแห้ผ้าพระราชทาน ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, การรำถวายสักการะพระบรมธาตุสวี, และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน

    สำหรับพระบรมธาตุสวี เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของจังหวัดชุมพร มีลักษณะรูปแบบพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุง

    ศรีอยุธยา และได้บูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง โดยกรมศิลปากร มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมสองชั้น

    มีตำนานเล่าถึงประวัติการสร้างพระบรมธาตุสวี ว่าเมื่อครั้งที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช แห่งนครศรีธรรมราช เสด็จยกทัพนำรี้พลมาที่วัดแห่งนี้ (ในเขตอำเภอสวีใน

    ปัจจุบัน) ได้พบกาเผือกและกาฝูงหนึ่งเกาะอยู่บนกองอิฐ กระพือปีกและส่งเสียงร้อง พระองค์จึงทรงให้รื้อกองอิฐที่กองทับกันออกจากฐานเจดีย์ใหญ่เมื่อขุดลึกลงไป

    ได้พบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจึงให้แม่ทัพนายกอง ไพร่พลช่วยกันสร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่แทนที่เดิม แล้วจัดงานสมโภชเป็นการใหญ่ เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน จากนั้นพระราชทานชื่อว่า

    พระบรมธาตุกาวีปีก (วีปีก แปลว่า กระพือปีก) ต่อมาเรียกกันว่าพระบรมธาตุกาวี และคำว่า กาวี ได้เพี้ยนจนกลายเป็น สวี ในปัจจุบัน โดยบริเวณใกล้เคียงกัน มีศาลพระเสื้อเมืองตั้งอยู่

    ซึ่งมีความเป็นมาว่าก่อนที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช จะเสด็จยกทัพกลับ ทรงห่วงใยพระบรมธาตุว่าจะไม่มีผู้ดูแลรักษา จึงสั่งเรียกบรรดาทหารในกองทัพที่

    กำลังนอนหลับสนิท ในขณะนั้นมีทหารคนหนึ่งชื่อเมืองขานรับ พระองค์จึงมีรับสั่งให้ทหารตัดศีรษะนายเมือง เซ่นสรวงบูชาไว้ในศาลเพียงตา ศาลนี้จึงได้ขนานนามว่า ศาลพระเสื้อเมือง อยู่คู่พระบรมธาตุสวีสืบมาในปัจจุบัน