คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวศิลป และ วัฒนธรรม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ลงพื้นที่น่าน ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัย มอบเงินและเครื่องมือช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย น้ำท่วม มอบเงินสมทบซื้อเครื่องมือทางการแพทย์แก่ รพ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมคณะ เดินทางมายังจังหวัดน่าน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงมอบอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยกิจกรรมที่วัดพญาภู ประกอบด้วย การกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ, การถวายเครื่องสักการะ, การกล่าวถวายการต้อนรับโดยคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และการถวายรายงาน

โดยพระสุมนฺฑมุนี เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน ซึ่งรายงานผลงานด้านสาธารณสงเคราะห์ เช่น การมอบพระกัณฑ์เทศน์, การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 13 ครัวเรือน และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยก่าว100 หลังคาเรือนในโอกาสนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค 6 พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้มอบเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อสมทบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลน่าน สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยัง

ได้มอบถุงยังชีพและปัจจัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมกว่า 200 ชุด พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจถึงพื้นที่ประสบปัญหา โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดหวัดน่าน พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง คณะสงฆ์จังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน

นายสุเมษ สายสูง ประธานมูลนิธิพระหลักเมืองน่าน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน พร้อมคณะ นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน พร้อมคณะสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน ประธานชุมชนบ้านมิ่งเมืองให้การต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ ทั้งจากคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมต้อนรับและรับมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ /

บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/พ.อ.พยอม บุญทร/รต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ลงพื้นที่น่าน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย น้ำท่วมมอบปิยภัณฑ์ให้คณะสงฆ์จังหวัดน่าน มอบเงินสมทบซื้อเครื่องมือทางการแพทย์แก่ รพ.น่าน พร้อมร่วมกิจกรรมคณะสงฆ์จังหวัดน่าน

วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมคณะ เดินทางมายังจังหวัดน่าน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงมอบอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยกิจกรรมที่วัดพญาภู ประกอบด้วย การกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ, การถวายเครื่องสักการะ, การกล่าวถวายการต้อนรับโดยคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และการถวายรายงานโดยพระสุนทรมุนี เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน ซึ่งรายงานผลงานด้านสาธารณสงเคราะห์ เช่น

การมอบปิยภัณฑ์ให้กับคณะสงฆ์จังหวัดน่าน การช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 13 ครัวเรือน และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกว่า100 หลังคาเรือน
ในโอกาสนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค 6 พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้มอบเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อสมทบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลน่าน สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ยังได้มอบถุงยังชีพและปัจจัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัย รวมกว่า 200 ชุด

พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจถึงพื้นที่ประสบปัญหา โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดหวัดน่าน พระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง คณะสงฆ์จังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายสุเมษ สายสูง ประธานมูลนิธิพระหลักเมืองน่าน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน พร้อมคณะ นายบุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน พร้อมคณะสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน

ประธานชุมชนบ้านมิ่งเมืองให้การต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ ทั้งจากคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมต้อนรับและรับมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ /บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/พ.อ.พยอม บุญทร/รต.อ.สถิตย์ ศรีประสม รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มูลนิธิพุทธภูมิธรรม มอบกองทุนสาธารณกุศลให้ กรมกิจการเด็กและเยาวชน พม. ร่วมส่งเสริมพัฒนาเด็ก-เยาวชน-ประชาชน-หน่วยงาน ส่งต่อพลังความปรารถนาดีสู่สังคม

แชร์เนื้อหานี้

10 ก.ค.68 ณ ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ , มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมกับ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำโดย นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เป็นประธานในพิธี

1.งานจัดตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหน่วยงาน “พระประชาบดี” ที่ชำรุด หักโค่นไป เนื่องจากเหตุการณ์วาตภัย เพื่อเป็นสิริมงคลและศูนย์รวมใจในการทำดีของ เด็ก เยาวชน เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ประชาชน

2.งานกิจกรรมพัฒนาเยาวชนสร้างสรรค์ ให้กับเด็กการบรรยาย กิจกรรมพัฒนาเยาวชนสร้างสรรค์ ในหัวข้อ “เด็กดี มีน้ำใจ ใคร ๆ ก็รัก” เพื่อเป็นการสร้างความ ตระหนักรู้ แนะนำแนวทางการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเหมาะสมแก่เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อมุ่งไปสู่ การเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคมและประเทศชาติต่อไป

ในการนี้ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ได้สนับสนุนกองทุนสาธารณกุศลให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน จำนวน 54,950 บาท เพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม เด็ก-เยาวชน-หน่วยงาน-ประชาชน

ขอส่งต่อพลังบุญนี้ ให้เป็นกำลังใจแห่งแผ่นดิน และให้พลังบุญนี้หนุนนำให้กัลยาณมิตรผู้ร่วมสนับสนุนทุกท่าน เจริญด้วยปัญญาบารมี สมบูรณ์พร้อมด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ เทอญ… สามารถติดตามข่าวสารธรรมทานงานบุญ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ได้อย่างต่อเนื่องสาธุๆๆอนุโมทามิฯมูลนิธิพุทธภูมิธรรมพุทธภูมิธรรมนำสุขทำบุญ #สุขใจที่ได้ทำบุญให้ทาน #ธรรมทาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /อัญเชิญผ้าพระราชทาน ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขึ้นห่มพระบรมธาตุสวี

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 สำนักพระราชวังสวนจิตรลดากทม. 10303 ที่พ.ว. 0206. 1.4 / 1958 วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เรื่องพระราชทานพระมหากรุณา เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร อ้างถึงหนังสือจังหวัดชุมพรที่ ชพ. 0032 / 6282 ลงวันที่ 29 เมษายน 2568

ตามที่มีหนังสือขอให้นำความกราบบางคนทูล สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอพระราชทานพระมหากรุณาในงานประเพณีแห่ผ้าพระราชทานขึ้นห่มพระบรมธาตุสวี ประจำปี 2568 ณ วัดพระบรมธาตุสวี ระหว่างวันที่ 9 ถึง 11 กรกฎาคม 2568

ดังนี้ 1.ขอพระราชทานพระราชาอนุญาตจัดทำผ้าห่มพระบรมธาตุสวีประดับอักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. ขนาดกว้าง 45 นิ้วยาว 20 เมตร จำนวนหนึ่งผืนเพื่อถวายเป็นพุทธะบูชา 2.ขอพระราชทานผ้าไตร 15 ไตรถวายพระสงฆ์จัดถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ความแจ้งอยู่แล้วนั้น

ได้นำความกราบบังคมทูลทรงทราบกว่าละอองพระบาทแล้วพระราชทานมหากรุณาตามที่ขอจึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือคุณหญิงอารยา พิบูลนครินทร์ เลขานุกาลในพระองค์ สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

วันนี้ (11 ก.ค. 68) นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางพณณกร ชูกิตติวิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร, ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ

รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ข้าราชการ อัยการ ศาล ทหาร ตำรวจ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ร่วมในพิธีอัญเชิญผ้าพระราชทาน ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขึ้นห่มพระบรมธาตุสวี ณ วัดพระบรมธาตุสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ พิธีสมโภช

ผ้า และแห้ผ้าพระราชทาน ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, การรำถวายสักการะพระบรมธาตุสวี, และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน

สำหรับพระบรมธาตุสวี เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของจังหวัดชุมพร มีลักษณะรูปแบบพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุง

ศรีอยุธยา และได้บูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง โดยกรมศิลปากร มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมสองชั้น

มีตำนานเล่าถึงประวัติการสร้างพระบรมธาตุสวี ว่าเมื่อครั้งที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช แห่งนครศรีธรรมราช เสด็จยกทัพนำรี้พลมาที่วัดแห่งนี้ (ในเขตอำเภอสวีใน

ปัจจุบัน) ได้พบกาเผือกและกาฝูงหนึ่งเกาะอยู่บนกองอิฐ กระพือปีกและส่งเสียงร้อง พระองค์จึงทรงให้รื้อกองอิฐที่กองทับกันออกจากฐานเจดีย์ใหญ่เมื่อขุดลึกลงไป

ได้พบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจึงให้แม่ทัพนายกอง ไพร่พลช่วยกันสร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่แทนที่เดิม แล้วจัดงานสมโภชเป็นการใหญ่ เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน จากนั้นพระราชทานชื่อว่า

พระบรมธาตุกาวีปีก (วีปีก แปลว่า กระพือปีก) ต่อมาเรียกกันว่าพระบรมธาตุกาวี และคำว่า กาวี ได้เพี้ยนจนกลายเป็น สวี ในปัจจุบัน โดยบริเวณใกล้เคียงกัน มีศาลพระเสื้อเมืองตั้งอยู่

ซึ่งมีความเป็นมาว่าก่อนที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช จะเสด็จยกทัพกลับ ทรงห่วงใยพระบรมธาตุว่าจะไม่มีผู้ดูแลรักษา จึงสั่งเรียกบรรดาทหารในกองทัพที่

กำลังนอนหลับสนิท ในขณะนั้นมีทหารคนหนึ่งชื่อเมืองขานรับ พระองค์จึงมีรับสั่งให้ทหารตัดศีรษะนายเมือง เซ่นสรวงบูชาไว้ในศาลเพียงตา ศาลนี้จึงได้ขนานนามว่า ศาลพระเสื้อเมือง อยู่คู่พระบรมธาตุสวีสืบมาในปัจจุบัน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วันอาสาฬบูชา ทำบุญใส่บาตรพระ ที่วัดอ่วมอ่องประชานฤมิต อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ตรงกับวันอาสาฬบูชา ชาวบ้านได้มาร่วมทำบุญใส่บาตรพระที่วัดอ่วมอ่องประชานฤมิต และช่วงเย็นจะมีการเวียนเทียน 18:00 น

โดยมีพระครูนนทกิจ โกศล ( ศิริชัย สิริโย ) เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิต เจ้าคณะอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ได้เทศนาธรรมให้กับชาวบ้านมาร่วมบุญ

ในครั้งนี้ และช่วงเย็นจะมีเวียนเทียนที่โบสถ์ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆแถวนี้หรือที่อื่นอยากจะมาเวียนเทียนที่วัดเชิญได้นะครับช่วงเวลา 18:00 น

( ช่วงเย็นมีโรงทานก๋วยเตี๋ยวราดหน้า และน้ำเครื่องดื่มรับรองให้กับประชาชนที่มาร่วมงานเวียนเทียนในครั้งนี้
ณ.วัดอ่วมอ่องประชานฤมิต อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ททท.อุดรธานี เปิดเส้นทางท่องเที่ยว คาราวาน “พืชสวนโลก สบายดี อุดร หนองคาย บึงกาฬ”

แชร์เนื้อหานี้

นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้ นายณรงค์ศักดิ์ คุรุพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.บึงกาฬ ให้การต้อนรับและรับมอบธง “งานมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี พ.ศ.2569” โดยมี นายสหรัถ พิศาลเศรษฐพงศ์ ประธานหอการค้า จ.บึงกาฬ นายปรีชา ศิริผลา ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.บึงกาฬ นายบุญทวี สาลี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.บึงกาฬ พร้อมหน่วยงานภาค ภาคเอกชนร่วมให้การต้อนรับในครั้งนี้

คาราวานพืชสวนโลก โดยจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานีและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานอุดรธานี จัดกิจกรรม Udon Thani “คาราวาน พืชสวนโลก สบายดี” ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 5-6 กรกฎาคม 2568 เส้นทางอุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ โดยภาคเอกชนจัดเป็น Package เสนอขาย

เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจและเป็นการประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี พ.ศ.2569 ตามเส้นทางการท่องเที่ยวกลุ่มสบายดี 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 จัดเป็นครั้งแรกโดยใช้เส้นทาง Naga Route : อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ แสดงถึงความพร้อมในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวช่วงงานมหกรรมพืชสวนโลก มีผู้ร่วมกิจกรรม 70 ท่าน รถ 16 คัน มาจากจังหวัดร้อยเอ็ด สกลนคร ชลบุรี หนองคายและอุดรธานี

แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.หนองคาย คณะคาราวานฯได้เข้ากราบสักการะขอพร “หลวงพ่อพระใส” ณ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมือง จ.หนองคายแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.บึงกาฬ คณะคาราวานฯสักการะขอพรพระพุทธชินราช ชมวิวของแม่น้ำโขงและขอพรพญานาคในถ้ำพญานิลกาฬนาคราช ณ วัดอาฮงศิลาวาส อ.เมือง จ.บึงกาฬ

ชมความสวยงามของธรรมชาติ ถ่ายภาพกับวิวอันเขียวขจีของป่าเขาบนหินสามวาฬ ณ ภูสิงห์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ร่วมกิจกรรม CSR ชุมชนส่งเสริมการศึกษาและอาหารกลางวันสามเณร ผ่านการสร้างสรรค์ Art Toy นาคกี้ ณ วัดสามัคคีธรรม อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เรียนรู้วิถีชุมชนผ่านเรื่องราวความผูกพันของคนในชุมชนและ Street Art พญานาค รับประทานอาหารชุมชนที่รังสรรค์โดยฟู้ดสไตลิสต์ระดับโลก ณ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ

นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่าการจัดกิจกรรมคาราวานฯ ในครั้งนี้ถือเป็นความพร้อมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ประชาชนชาว จ.อุดรธานี และการเชื่อมโยงการเดินทางไปยัง กลุ่มยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวจังหวัด “สบายดี” อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลยและหนองบัวลำภู

ทั้งนี้ยังเป็นการกระตุ้นและสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวท่ามกลางสายฝนที่ซุ่มฉ่ำเต็มไปด้วยความเขียวขจีของธรรมชาติในพื้นที่แห่งความศรัทธา จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางมาเปิดประสบการณ์ช่วงเวลาที่ธรรมชาติเบ่งบานที่สุด ทุ่งนาเขียวสด ภูเขาห่มหมอกบาง ๆ เสียงฝนตกกระทบใบไม้เบา ๆ อิ่มอร่อยกับร้านอาหารทมิชลิน

เลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ้าพื้นเมืองจากชุมชน แล้วพบกันกับพื้นที่ “สบายดี” อุดรธานี หนองคายและบึงกาฬ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานอุดรธานี โทร. 042 325 407 และ Facebook Fanpage ททท.สำนักงานอุดรธานี TAT Udon Thani Office
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วัดป่ากุดสมิง วัดดังแห่งวังพญานาค 5 ตระกูล มอบวัตถุมงคล มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์ ทหาร อ.เบ็ญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

แชร์เนื้อหานี้

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 6; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 7864320;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 38;

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 คณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ วัดป่ากุดสมิง อำเภอเบ็ญจลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ วัดดังแห่งวังพญานาค 5 ตระกูล ที่ญาติโยมศรัทธา มาขอพรและทำพิธีบวงสรวงอยู่ตลอด ในวันนี้พระปลัดสมนึก ปิยสีโล เจ้าอาวาสวัดป่ากุดสมิง พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 6; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 7864320;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 37;

ได้เดินทางออกจากวัด มุ่งหน้าไปที่ช่องบก เพื่อนำน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และมีสิ่งพิเศษมอบให้ทหารเพื่อปกปักรักษาป้องกันภัยคือ“มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์” โดยมี พันเอก สุรกิจ กาฬเนตร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่1 พร้อมด้วยมีนายทหาร ออกมาให้การต้อนรับ รับมอบ

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 6; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 7864320;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 43;

ซึ่งก่อนที่จะรับมอบวัตถุมงคล มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์ คณะสงฆ์ได้ประกอบพิธีสวดมนต์ เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย สวดมนต์เกราะกำบังกาย สวดขอพรจากเทพเทวาอารักษ์ เทพดาให้ปกปักรักษาทหารทุุกนาย วัตถุมงคล

หรือตะกรุดที่มอบให้ทหารนำติดตัวไว้เพื่อจะช่วยดูแล รักษา ให้ทหารทุกคนได้รับความปลอดภัย จากทุกสิ่งอย่าง หากจะเป็นต้องเกิดการสู้รบกัน จริงก็ขอให้ทหารทุกนาย แคล้วคลาดจากทั้งลูกปืน กระสุนปืน ระเบิด ให้ข้าศึกมองไม่เห็น และสามารถรักษาอธิปไตย รักษาผืนแผ่นดินไทย เอาไว้ให้ลูกหลานได้อย่างปลอดภัย ตลอดไป

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0; hdrForward: 0; highlight: true; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:null; brp_del_sen:null; delta:null; bokeh:0; module: photo;hw-remosaic: false;touch: (0.9602384, 0.34941974);sceneMode: 2621440;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;HdrStatus: auto;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: null;temperature: 42;

จากนั้นคณะพระสงฆ์ และลูกศิษย์พระอาจารย์ พระปลัด ได้ร่วมกันมอบน้ำดื่ม ข้าวของ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับนายทหาร โดยเฉพาะ “มหาตะกรุดนวคต รุ่น รวมใจปตุภูมิพิทักษ์” และผ้ายันต์วัดป่ากุดสมิง โดยวันนี้มอบให้ไปก่อน 2,000 ชิ้นอัน ที่พึ่งปลุกเสกแล้วเสร็จเมื่อคืน โดยบอกว่าหากยังไม่เพียงพอ ขอให้แจ้งไปที่วัดป่ากุดสมิง เพราะจากนั้น จะได้นั่งปรก

ประกอบพิธีปลุกเสกให้เพิ่มในทุกคืน ที่ลานหน้าองค์พญานาค ทั้ง 5 ตระกูล ทั้งองค์เพชรนาคราช, องค์ภุชงค์นาคราช, องค์ปู่ศรีสุโธ องค์แม่ย่า ปทุมมา, องค์แม่ย่าศรีกัลยานาคเทวี, องค์ปู่ใหญ่นาคา เทพประสิทธิ์ และองค์แม่ย่านาคี เทพประสิทธิ์ เป็นต้น

โดยในการเดินทางมาของ พระปลัดสมนึก ปิยสีโล เจ้าอาวาสวัดป่ากุดสมิง พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ ในช่วงเช้าของวันนี้ ได้สร้างขวัญ กำลังใจ ให้แก่เหล่าบรรดาทหารที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนได้เป็นอย่างดี
//////////////////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / กองทัพภาค 2 จัดพิธีพุทธาภิเษก สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี ณ ค่ายสุรนารี

แชร์เนื้อหานี้

กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบุญอันยิ่งใหญ่ จัดสร้างสมเด็จพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคุณสุพางค์พรรณ พาดกลาง

ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมผู้มีจิตศรัทธา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ณ สโมสรร่วมเริงชัย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

ได้รับพระเมตตา จาก “4 ดอกบัวบานแดนอีสาน” หลวงปู่ศิลา วัดพระธาตุหมื่นหิน หลวงพ่อสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง พระอาจารย์สุริ

ยัณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี ในพิธีมหาพุทธาภิเษก และทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนสร้าง “สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ”

หรือ “หลวงพ่อใหญ่โชคดี” เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธปฏิมา

สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) มีขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร ความสูง 9 เมตร ซึ่งจะประดิษฐาน ณ วัดป่าศรีคุณาราม อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี

วัดป่าศรีคุณารามเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม

การสร้างพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ ณ วัดแห่งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา ปฏิบัติธรรม และเป็นที่พักพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนสืบไป​

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สะเทือนฟ้าดิน! บารมีแผ่ไพศาล! มหาพิธียกฉัตรพระประธาน มงคลสูงส่ง บวงสรวงพระแม่ธรณี เบิกเนตรพระพิฆเนศ หนุนนำชีวิต! เปิดขุมทรัพย์แห่งความสำเร็จ!

แชร์เนื้อหานี้

เครื่องบวงสรวงยิ่งใหญ่อลังการตั้งตระหง่านในวันดีศรีพญาวัน 10 พฤษภาคม 2568 ณ วัดชมภูเวก นนทบุรี มูลนิธิพุทฑภูมิธรรม นำมหาชนผู้มีจิตศรัทธาหลั่งไหลหลายพันคน หลายๆท่านตั้งใจเดินทางมาจากภาคต่างๆ เพื่รวมพลังร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ #ยกฉัตรพระประธาน #สมโภชพระแม่ธรณี #เบิกเนตรพระพิฆเนศ #ถวายเครื่องไทยธรรมและสังฆทาน ราวเทพประทานพร เมฆมงคลบดบังสุริยา ให้บรรยากาศร่มเย็น ผู้ร่วมงานดื่มด่ำความสงบในการประกอบพิธี เสียงสวดมนต์และอธิษฐานจิตทรงพลังก้องกังวาน สะเทือนทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุ

🙏ภาพฉัตรสง่างามในพระอุโบาถสูงสง่างามเหนือองค์พระประธาน เพื่อเป็นพุทธบูชา เปล่งประกาย ตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ก่อให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอมในบุญกุศลอย่างลึกซึ้ง 🙏การสมโภชพระแม่ธรณีสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ และมั่นคงแห่งแผ่นดิน 🙏และเบิกเนตรพระพิฆเนศเทพขจัดอุปสรรค เสริมสิริมงคล

ท่ามกลางศรัทธา ทุกการกระทำคือ “ทำบุญถวายแผ่นดินสยาม” อานิสงส์นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง สุข สิริมงคล พลังสามัคคีและความเลื่อมใส เป็นเกราะแก้วคุ้มครอง นำสู่ความสงบสุข ความสำเร็จอันงดงาม มิได้วัดเพียงจำนวน แต่จากปีติสุขในใจ เป็นพลังศรัทธาเชื่อมโยง สร้างสิ่งดีงามแก่พระศาสนาและแผ่นดิน ขออนุโมทนาบุญในความสำเร็จอันน่าซาบซึ้งใจ

อานิสงส์การถวายฉัตรพระประธาน เป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระพุทธเจ้าและพระธรรมคำสอน เชื่อกันว่าจะได้รับอานิสงส์มากมาย อาทิ

  • ความร่มเย็นเป็นสุข: ดุจดั่งฉัตรที่กางกั้นความร้อนจากแสงอาทิตย์ ผู้ถวายจะได้รับความร่มเย็นในจิตใจ ปราศจากความทุกข์ร้อน
  • ความสง่างามและความเป็นผู้นำ: การถวายสิ่งที่สูงค่าเป็นการเสริมบารมี ให้เป็นผู้มีสง่าราศี เป็นที่เคารพยำเกรง และอาจส่งผลให้มีความเป็นผู้นำ
  • ความเจริญรุ่งเรือง: เหมือนฉัตรที่ยกสูงขึ้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและหน้าที่การงาน
  • การคุ้มครอง: เสมือนฉัตรที่ปกป้องพระพุทธรูป จะส่งผลให้ผู้ถวายแคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ

อานิสงส์การถวายเครื่องไทยธรรมและสังฆทาน

  • ความอุดมสมบูรณ์: การถวายปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็นแก่พระสงฆ์ จะส่งผลให้ผู้ถวายมีความอุดมสมบูรณ์ในทรัพย์สินและสิ่งของต่างๆ
  • สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว: การให้ทานด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์จะส่งผลให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
  • สติปัญญาเฉลียวฉลาด: การถวายสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและการปฏิบัติธรรม จะส่งผลให้มีสติปัญญาผ่องใส
  • ความสุขและความเจริญ: การให้ทานเป็นเหตุแห่งความสุขทั้งในปัจจุบันและอนาคต และนำมาซึ่งความเจริญในชีวิต
  • การสืบทอดพระพุทธศาสนา: การบำรุงพระสงฆ์เป็นการช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่สืบไป
  • #บวงสรวงสมโภชพระแม่ธรณี: อุดมสมบูรณ์ มั่นคง ร่มเย็น ปลอดภัยดุจแม่ธรณีดูแล
  • #เบิกเนตรพระพิฆเนศ: เจริญก้าวหน้า สำเร็จ ขจัดอุปสรรค มีสติปัญญา

ที่สำคัญ รายชื่อร่วมห้าพันชื่อ ได้พริ้นท์และนำขึ้นสู่โต๊ะบวงสรวง อัดพลังบุญเปิดทางชีวิตให้บริบูรณ์ด้วย มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ อริยสมบัติ และนิพพานสมบัติ จงทุกประการเทอญ
สาธุๆๆอนุโมทามิฯ🙏😊

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รร.วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม วิทยา (นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อุปถัมภ์) เปิดแล้วให้เรียนฟรี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสัวโร อรัญวาสีภิกขุ พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 พร้อมด้วย โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและภริยา เป็นประธาน

ในพิธีคุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ คุณสมฤทัย ปราสาททองโอสถ คุณอาริญา ปราสาททองโอสถ คุณสุมิตร คุณรุ่งนภา เพชราภิรัชต์ รองประธานมูลนิธิดอยเวียงแก้ว และภริยา และ คุณพัชระภรณ์ ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษามูลนิธิดอยเวียงแก้ว ได้ร่วมพิธีเปิดโรงเรียน

โดยโรงเรียนแห่งนี้จัดขึ้นตามดำริของพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ เพื่อ เป็นสถานศึกษาในพระพุทธศาสนา สำหรับภิกษุ สามเณร และเยาวชนผู้สนใจในธรรมะ โดยนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้มีจิตศรัทธาเป็นผู้อุปถัมภ์สนับสนุนการก่อสร้างถวาย

และร่วมฟังธรรมเทศนา โดย พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุได้ร่วมพิธี เปิดโรงเรียนวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสัวโร อรัญวาสีภิกษุ วิทยา ณ วัดพระครูบาบุญชุ่ม(วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว) ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และมีผู้เข้าร่วมพิธีเปิดครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

โรงเรียนวัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม วิทยา (นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อุปถัมภ์) แห่งนี้ เป็นอาคารเรียน 3 ชั้น ประกอบด้วย
1.ห้องสมุดจำนวน 1 ห้อง 2.ห้องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 ห้อง 3.ห้องไหว้พระสวดมนต์ จำนวน 1 ห้อง 4.ห้องจัดนิทรรศการ จำนวน 2 ห้อง

5.ห้องจัดการเรียนการสอน จำนวน 5 ห้อง 6.ห้องบุคลากรจำนวน 2 ห้อง
7.ห้องน้ำ จำนวน 6 ห้อง และมีภิกษุสามเณร จำนวน 69 รูป ในช่วง ปีแรก อนาคตวันข้างหน้าจะมีภิกษุสสมเณรแห่มาเรียนกันเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญเรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

พงศกร ตันสุวรรณ ภาพ-ข่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “อนุทิน” ลงพื้นที่ บึงกาฬ ติดตามการพัฒนาผังเมืองรวม เสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ชุมชน

แชร์เนื้อหานี้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (20 เม.ย. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทางลงพื้นที่ จ.นครพนม และ จ.บึงกาฬ ตลอดทั้งวัน

โดยในช่วงเช้า ได้ติดตามมาตรการป้องกันไฟป่าหมอกควันในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บ้านแพง จ.นครพนม จากนั้นได้ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน ณ ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

ในการนี้ นายอนุทิน ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และนายอำเภอบึงโขงหลง ให้ความสำคัญกับการต่อยอดเส้นทางการท่องเที่ยวให้ดึงดูดความสนใจทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ

ที่แสวงหาสถานที่ท่องเที่ยวลักษณะ trekking คือการเที่ยวที่ต้องเดินเท้าไปในสถานที่ธรรมชาติไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ควบคู่การส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

ในช่วงบ่าย นายอนุทิน ได้เดินทางติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย บริเวณพื้นที่โครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ (Landmark) นายอนุทิน

ได้กล่าวแสดงความชื่นชมประชาชนชาว จ.บึงกาฬ ที่ได้ร่วมกันพัฒนาจังหวัดมาตลอดเวลา 15 ปี นับแต่ได้มีการตั้ง จ.บึงกาฬ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของภาคอีสานตอนบนให้มีมูลค่าการค้าชายแดนได้ถึง 4 แสน – 5 แสนล้านบาท

“ภาครัฐยังคงเดินหน้าพัฒนาความเจริญ ความสะดวก และรายได้ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น ทั้งด้านคุณภาพชีวิต การคมนาคมขนส่ง ควบคู่การเป็นเมืองวัฒนธรรมที่มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการพัฒนาผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง และ Landmark แห่งใหม่ นั่นคือ อุทยานพระพุทธโลกนาถนาคาไชยบุรี ที่จะทำให้ จ.บึงกาฬ

เป็นจุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวดินแดนอีสานเหนือในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ภูทอก เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ธรรมะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ

ซึ่งมี วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) เป็นจุดเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูทอก อันจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่เพิ่มพูนมากขึ้นต่อไป”นายอนุทิน

สำนักความมั่นคง ภาพ/ข่าว