คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวสังคม

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /กิจกรรมออกหน่วยบริการ “อำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่” ประจำปีงบประมาณ 2568

แชร์เนื้อหานี้

สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียง นางธนพร ดีอุด เกษตรอำเภอภูเพียง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียง เข้าร่วมกิจกรรมออกหน่วยบริการ “อำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่” ประจำปีงบประมาณ 2568 กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่

โดยมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ ร่วมให้บริการด้านข้อมูล ข่าวสาร และการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียงได้ให้บริการ ให้คำปรึกษาด้านการเกษตร การส่งเสริมอาชีพเกษตรกร แจกจ่ายเอกสารความรู้ทางการเกษตรและ

แจกจ่ายน้ำหมักชีวภาพและสาร พด. สูตรต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถพัฒนาและปรับปรุงการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนายอำเภอภูเพียง นายพงษ์ศิลป์ ผาลา เป็นประธานในงาน ณ หอประชุมบ้านดงป่าสัก ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

เรื่องและเรียบเรียง /นายวิศิษฐ์ คงขำ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ
ภาพ/ข่าว/เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอภูเพียง
/บุญยงค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / จัดงาน “หอมกลิ่น ถิ่นน่าน Season 2” ธีม “สีสันน่านนคร”อ.วังผา จัดกิจกรรม Kick Off เคาะประตูบ้าน “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา ชาวน่าน“

แชร์เนื้อหานี้

น่าน จัดงาน “หอมกลิ่น ถิ่นน่าน Season 2” ธีม “สีสันน่านนคร” นำเสนอความสนุก ผ่านเทศกาลอาหารส่งท้ายฤดูหนาวเพื่อต้อนรับความสนุกของสีสันการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน

ที่ข่วงน้อย อ.เมืองน่าน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวน่าน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดน่าน ชมรมร้านอาหารจังหวัดน่าน ชมรมที่พักจังหวัดน่าน และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวจังหวัดน่าน ทั้งภาครัฐและเอกชน

จัดอีเว้นท์ “หอมกลิ่น ถิ่นน่าน Season 2” โดยมีนางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งมีนายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานน่าน ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยศาล ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดน่านในช่วงวันธรรมดาห้วงปลายฤดูหนาว (High Season) ที่จะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน (Summer) ให้คึกคักผ่านการจัดกิจกรรมอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการที่มาร่วมจำหน่ายอาหารเป็นอย่างดี และ

ในปีนี้ทาง ททท.สำนักงานน่าน ได้กำหนดจัดงานดังกล่าวในระหว่างวันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ข่วงน้อย อ.เมือง จ.น่าน ตั้งแต่เวลา 15.00 – 21.00 น. ซึ่งมาในธีม “สีสันน่านนคร” นำเสนอความสนุก ผ่านเทศกาลอาหารส่งท้ายฤดูหนาวเพื่อต้อนรับความสนุกของสีสันการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน

อ่านเพิ่มเติมในคอมเม้นต์/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน จัดกิจกรรม Kick Off ลุยเคาะประตูบ้าน รณรงค์ไม่เผาในพื้นที่การเกษตร “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา ชาวน่าน“

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน นำโดย นายสุทัศน์ จินตเวชศาสตร์ นายอำเภอท่าวังผา นายสันติ มณีอ่อน เกษตรอำเภอท่าวังผา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอท่าวังผา ภาคีเครือข่าย ผู้นำชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลจอมพระ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

ลงพื้นที่รณรงค์สร้างการรับรู้การหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่โล่งแจ้ง ผ่านกิจกรรม Kick Off “เคาะประตูบ้าน หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา ชาวน่าน” ณ บ้านนาฝ่า หมู่ที่ 2 บ้านใหม่ หมู่ที่ 3 บ้านนาเผือก หมู่ที่ 4 และบ้านสลี หมู่ที่ 6 ตำบลจอมพระ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการห้ามเผาในพื้นที่การเกษตร และกระตุ้นให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบจากการเผา ซึ่งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน การเผายังส่งผลทำให้สภาพดินเสื่อมโทรม พื้นที่เพาะปลูกขาดความอุดมสมบูรณ์ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ผลผลิตลดลง

นอกจากนี้ยังได้แนะนำแนวทางการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรแบบปลอดการเผาให้แก่เกษตรกร ภายใต้ 9 ทางเลือกจัดการเศษวัสดุทางการเกษตร ได้แก่ การไถกลบทดแทนการเผา การผลิตปุ๋ยหมัก การนำเศษวัสดุมาทำอาหารเลี้ยงสัตว์ ผลิตพลังงานทดแทนเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งหรืออัดก้อน ผลิตฟางอัดก้อนเพื่อจำหน่าย การใช้เป็นวัสดุคลุมดิน เป็นต้น/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พุทธศาสนิกชนคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแห่ร่วมเวียนเทียนคืนมาฆบูชา ปี 68 แน่นวัดชัยมงคลพัทยา

แชร์เนื้อหานี้

ค่ำวันที่ 12 ก.พ.68 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ประจำปี 2568 ตามวัดต่างๆ ในเขตเมืองพัทยา มีพุทธศาสนิกชน รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากทยอยเข้าร่วมพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3

บริเวณวัดชัยมงคล (พระอารามหลวง) พัทยาใต้ พบว่า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ทางวัดจัดขึ้นตลอดทั้งคืน ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

อนึ่ง วันมาฆบูชา ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่มีพระภิกษุ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย และพระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ จึงมีครบทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เดิมเรียกว่า “วันมาฆปุณณมี” หมายถึง วันที่พระจันทร์เพ็ญเต็มดวงในเดือนมาฆะ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งานกาชาดของดี เมืองน่าน จัดหารายได้สมทบทุนเหล่ากาชาดจ.น่าน เพื่อสาธารณกุศล ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 20.00 น. ที่ร้านกาชาดน่าน ในงานประจำปีและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568 นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดร้านกาชาดน่าน โดยมีนางนางเหมือนใจ วงศ์ใหญ่ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน โดยมีสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธีเปิดร้านกาชาดน่าน ในงานประจำปีและของดีเมืองน่าน ประจำปี 2568

สำหรับการเปิดร้าน “ร้านกาชาดน่าน” ประจำปี 2568 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหารายได้สมทบทุนเหล่ากาชาดจังหวัดนาน ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดน่านเป็นองค์กรการกุศล ทำหน้าที่เป็นตัวแทนสภากาชาดไทยในส่วนภูมิภาค มีภารกิจหลัก 8 ด้าน ได้แก่ การช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์ภัย การจัดหาและบริการโลหิต ดวงตาและอวัยวะ ให้การสังคมสงเคราะห์ การส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ผู้ด้อยโอกาส การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในพื้นที่จังหวัดน่าน

โดยในปีนี้เหล่ากาชาดจังหวัดน่าน จัดจำหน่ายสลากกาชาดการกุศลฯ เพื่อนำรายได้ เพื่อใช้ประโยชน์สาธารณกุศลตามพันธกิจของเหล่ากาขาดต่อไป โดยจัดจำหน่ายสลาก ราคา 50 บาท จำนวน 200,000 ฉบับ โดยมีรางวัล ดังนี้ รางวัลที่ 1 รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 รถยนต์กระบะแค๊ป โตโยต้า รีโว่ จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 3 รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า Fazzio จำนวน 10 รางวัล รางวัลที่ 4 ตู้เย็น 2 ประตู จำนวน 15 รางวัล รางวัลที่ 5

ทีวีจอแบน สมาร์ททีวี 43 นิ้ว จำนวน 15 รางวัล รางวันที่ 6 เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ 10 กิโลกรัม จำนวน 15 รางวัล และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว พัดลมสไลตด์ 18 นิ้ว จำนวน 200 รางวัล โดยในทุกวันที่เวทีร้านกาชาดจังหวัดน่านจะได้จัดให้มีการจับรางวัลนาทีทอง มินินาทีทอง และรางวัลชุดพิเศษ เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานสามารถร่วมลุ้นรางวัลต่างๆมากมายกับกาชาดอีกด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “ชัชชาติ”ผู้ว่า กทม.ลงพื้นที่สวนสาน เขตคลองสาน สำรวจวางแผนพัฒนาเพื่อประชาชน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยสำนักงานเขตคลองสาน โดยนายสรสิช เหลืองรุ่งเกียรติ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน

มอบหมายให้ นางปาณิสรา เนตรธารธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ และคณะกรรมการชุมชนช่างนาค – สะพานยาว ร่วมลงพื้นที่สวนสาน บริเวณซอยโรงเกลือ เพื่อวางแผนแนวทางในการพัฒนาสวนสาน ให้เป็นสวนสาธารณะและลานกีฬาอเนกประสงค์ให้ประชาชนได้ใช้สวนสาธารณะในการผ่อนคลายและได้ใช้ในการทำกิจกรรมร่วมกันในชุมชน

แนวความคิดในการออกแบบเป็นการเชื่อมโยงคนในชุมชนให้เข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกัน ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบโจทย์โดนใจคนในพื้นที่ และยังทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ของย่านเชื่อมต่อประวัติศาสตร์ในอดีตสู่ปัจจุบัน จากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ โดย ภายใต้แนวคิดสวนชุมชนขนาดเล็ก เพื่อใช้จัดกิจกรรมในชุมชน พื้นที่ภายในสวน ประกอบด้วยทางเดินวิ่ง สนามเด็กเล่น พื้นที่ออกกำลังกาย สวนสุขภาพ ลานกีฬา รวมถึงอนุรักษ์ต้นไม้ขนาดใหญ่ภายในสวน อาทิ ต้นไทร ต้นจามจุรี

ซึ่งเดิมเป็นที่ดินรกร้างและมีการลักลอบทิ้งขยะ สำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตคลองสาน จึงมีแผนดำเนินการปรับปรุงที่ดินรกร้างริมแม่น้ำเจ้าพระยาข้างโกดังโรงเกลือแหลมทอง ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 5 พลิกฟื้นคืนสู่พื้นที่สาธารณะ โดยได้แนวคิดจากการดึงข้อดีของพื้นที่ย่านคลองสาน

ซึ่งในอดีตพื้นที่ฝั่งธนบุรีจะมีคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาหลายคลองสานต่อกัน มีเรือสินค้ามาจอดเทียบท่าขนถ่ายสินค้าเข้าโกดังในบริเวณนี้ นับว่าเป็นการเปลี่ยนจากพื้นที่รกร้างเดิม ซึ่งชุมชนขาดปฏิสัมพันธ์กัน ให้กลายเป็นพื้นที่สวนสาธารณะสำหรับทุกคน

ภาพ/ข่าว โดย นาย วีระพล แซ่เล้า ผู้สื่อข่าว
เด​วิท​ ​โชคชัย​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /คณะแพทย์ฯ เข้าเยี่ยม “พระสมคิด” ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐมคณะแพทย์โรงพยาบาลนครปฐม/พร้อมคณะครูโรงเรียนกำแพงแสนวิทยา

แชร์เนื้อหานี้

คณะแพทย์ฯ เข้าเยี่ยม “พระสมคิด” ผู้สื่อข่าว จังหวัดนครปฐมคณะแพทย์โรงพยาบาลนครปฐม และโรงพยาบาลกำแพงแสนนำเช้ากระเช้าเยี่ยมพระสมคิด สุจิตโต ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐม

 วันนี้ (22 มกราคม 2568) ที่ตึกใหม่  ห้องพิเศษ  ชั้น 7  โรงพยาบาลกำแพงแสน  จังหวัดนครปฐม นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม มอบหมายให้คณะแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลนครปฐม  นำกระเช้าเดินทางมาเข้าเยี่ยมอาการอาพาธของ พระสมคิด สุจิตโต ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐม ที่ได้บวชถวายพ่อหลวง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีนายณัฏฐ์คเณศ คงคาเพชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกำแพงแสน พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมสอบถามอาการอาพาธของพระร่วมด้วย
นอกจากนี้  ในช่วงเช้า ยังมี นายธีระ วรรณเกตุศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนกำแพงแสนวิทยา พร้อมคณะครูโรงเรียนกำแพงแสนวิทยา นำกระเช้ามาเข้าเยี่ยมอีกด้วยคณะผู้บริหาร บ.หนองพงนก เบเกอรี่ แอนด์ ฟูด จำกัด จัดกิจกรรมไหว้เจ้าตรุษจีน พร้อมแจกโบนัสพนักงานกว่า 300 คน

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ตรงกับวันตรุษจีน โดยมีนายสมัชชา  ศรีทันดร  เจ้าของโรงงานเค้กหนองพงนก  พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท หนองพงนก เบเกอรี่ แอนด์ ฟู้ด จำกัด จัดกิจกรรมพิธีไหว้เจ้าตรุษจีน และจับฉลากของขวัญปีใหม่พร้อมด้วยโบนัสให้พนักงานกว่า300 คน

ขอให้ทุกคนพบเจอแต่ความสุข "สมหวัง"  เราเหนื่อยมาด้วยกัน  โตมาด้วยกัน มีความสุขไปด้วยกัน เริ่มต้นจากมีพนักงานไม่ถึง 10 คน จากเค้กโบราณ ขนมเค้กที่ขายในชุมชน ในอำเภอกำแพงแสน จนวันนี้ ขายไปทั่วประเทศ โด่งดังไปทั่วประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นมากมาย

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษาโรงเรียนบ้านหลวง อ.บ้านหลวง จ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 29 มกราคม 2568 นางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน พร้อมด้วย นางพัทธนันท์ พิพิธนวงค์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน ผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัด หัวหน้าส่วนราชการด้านการศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษาของโรงเรียนบ้านหลวง อ.บ้านหลวง จ.น่าน เพื่อติดตามผลการพัฒนาทางการศึกษา การจัดการศึกษาตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ ตลอดจนปัญหาข้อขัดข้องอื่นๆ ของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษาพื้นที่จังหวัดน่าน

เรียนดีมีความสุข #สพฐ #สพม #น่าน #สพมน่าน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผญบ.สาวหล่อหนองปลาไหล จับมือคู่รักเข้าที่ว่าการฯ ประเดิมสมรสเท่าเทียมคู่แรก อ.บางละมุง/ชีวิตไม่ท้อ! คู่รักวีลแชร์เปิดหมวกหารายได้ยังชีพประทังชีวิตพร้อมแมวน้อย “มาร์แชลและอลิซ”/บริษัทในเครือโชคชัยกรุ๊ป จัดพิธีบวงสรวงท้าวมหาพรหมโชคชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล

แชร์เนื้อหานี้

ตามที่กรมปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ขับเคลื่อนการดำเนินการกฎหมายสมรสเท่าเทียมหรือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มกราคม 2568 เพื่อมอบสิทธิให้กับบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศไม่ว่าเพศใดสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียมภายใต้กฎหมายนั้น

วันที่ 23 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศห้องทะเบียนราษฎร์ ที่ว่าการอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก คู่รัก LGBTQ ในพื้นที่ต่างพากันควงแขนออกมาจดทะเบียนสมรสกันตั้งแต่ไก่โห่ ด้านอำเภอบางละมุงก็ได้จัดเตรียมความพร้อมของสถานที่และเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้เพียงพอ สะดวกและรวดเร็วด้วยเช่นกัน

นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง เผยว่า ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับที่ 24 พ.ศ 2561 ให้มีการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียม ด้วยการจดทะเบียนคู่รัก LGBTQ พร้อมกันทั้ง 878 อำเภอทั่วราชอาณาจักร ในวันที่ 23 มกราคม 2568 นั้น

วันนี้เป็นวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมเริ่มใช้เป็นวันแรก ซึ่งสามารถทำให้บุคคลไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายมีความเท่าเทียมกัน โดยผู้ที่ประสงค์จะจดทะเบียนสมรส สามารถเดินทางไปจดทะเบียนสมรสได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วไทย สำนักงานเขต 50 เขตในกรุงเทพมหานคร รวมถึงสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ

มีรายงานด้วยว่า สำหรับคู่รักที่มาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมเป็นคู่แรกของอำเภอบางละมุงได้แก่คู่ของนางวิลาวัลย์ เทียบทัน ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองปลาไหล ที่จูงมือคนรัก น.ส.วรินธร บุญเสมอ มาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมพร้อมรอยยิ้มและความปิติยินดี ก่อนเผยว่า

“ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมากว่า 6 ปีแล้ว เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านใช้อย่างเป็นทางการ จึงชวนกันมาจดทะเบียนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กันและกัน รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเพราะรอเวลานี้มานาน หลังจากนี้จะคุยกันว่าจะจัดงานแต่งงานอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่ามีการจัดงานแต่งอย่างแน่นอน” ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองปลาไหล กล่าว

ชีวิตไม่ท้อ! คู่รักวีลแชร์เปิดหมวกหารายได้ยังชีพประทังชีวิตพร้อมแมวน้อย “มาร์แชลและอลิซ”

ผู้สื่อข่าวผ่านไปยังถนนเลียบชายหาดพัทยาพัทยา บริเวณฟุตปาธริมทะเล ตรงข้าม สภ.เมืองพัทยา ได้พบกับคู่รักคนพิการนั่งรถวีลแชร์เปิดหมวดร้องเพลงหารายได้ โดยมีเจ้าแมวน้อย 2 ตัวนอนอยู่บนที่นอนใกล้กันเพื่อดึงดูดความสนใจ

จากการพูดคุยสอบทราบทราบชื่องทั้งสอง คือ นายธนวัฒน์ แก่นแดง อายุ 47 ปี และอลิสา พุ่มศิลป์ 21 ปี ทั้งสองเป็นคู่รักที่จะพากันลากรถวีลแชร์มาเปิดแสดงความสามารถร้องเพลงเปิดหมวก พร้อมแสดงหลักฐานบัตรวณิพกสามารถหากินในพื้นที่สาธารณะได้มายืนยัน ก่อนนายธนวัฒน์ จะให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาเคยใช้รถเข็นสามล้อจำหน่ายผลไม้ให้กับนักท่องเที่ยวบริเวณริมชายหาดพัทยา

ก่อนภาครัฐจะกวดขันจับกุมเลยเปลี่ยนเป็นการแสดงเปิดหมวกร้องเพลงแสดงความสามารถแทนเนื่องจากตนเองมีบัตรวณิพกอยู่แล้ว โดยแต่ละวันจะใช้รถหัวลากรถวีลแชร์จากบ้านมาที่ชายหาดพัทยาเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 19.00-00.00 น. แล้วจึงกลับบ้าน เพื่อหารายได้มาใช้จ่ายประจำวันสำหรับตนเองและแฟนสาวรวมทั้งค่าใช้จ่ายของแมวที่เลี้ยงไว้จำนวน 2 ตัว

โดยตัวหนึ่งเป็นแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย สีส้ม เพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี ชื่อ “มาร์แชล” และอีกตัวเป็นแมวสายพันธุ์เปอร์เซียเช่นกัน สีขาว เพศเมีย ชื่อ “อลิซ” อายุประมาณ 3 เดือน โดยต้องพาออกมาเปิดหมวกด้วยทุกครั้งที่ออกทำการแสดงร้องเพลงมาหารายได้ ซึ่งสร้างความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี

บริษัทในเครือโชคชัยกรุ๊ป จัดพิธีบวงสรวงท้าวมหาพรหมโชคชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล

เวลา 09.19 น.วันที่ 22 ม.ค.68 ที่บริเวณหน้าโครงการ เดอะชิลด์ พัทยา นายไพศาล แซ่โซว และคุณสุมาลี โล่ห์ชัยสกุล ผู้บริหารบริษัทในเครือโชคชัยกรุ๊ป พร้อมด้วย นายพีระโรจน์ โล่ห์ชัยสกุล ผู้บริหารห้าง The Chilled (เดอะ ชิลด์) ซอยเขาน้อย ได้จัดพิธีบวงสรวงท้าวมหาพรหมโชคชัย โดยได้รับเกียรติจากนายสุวัจชัย อัญชลีวิวัฒน์ และคุณวันดี อัญชลีวิวัฒน์ ผู้บริหารโรงแรมในเครืออัญชลีวิวัฒน์ กรุ๊ป ร่วมเป็นประธานในพิธี

ทั้งนี้ ในพิธีได้ทำการบวงสรวงโดยคณะผู้บริหารได้จุดธปเทียนบูชาเทพยดาฟ้าดิน ก่อนคณะนางรำจะรำถวายเบิกฤกษ์เบิกชัย จากนั้นคณะโหรา นำโดย โหราจารย์ เอกณัฏฐ์ เรืองเดชธนาวุฒิ (พญาแสนเมือง ศรีสัตตนาคราช) ได้ประกอบพิธีไหว้ครูบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เปิดธรณีอัญเชิญเทพเทวาตามลำดับพิธี ก่อนเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์จำนวน 9 รูป จากวัดบุญสัมพันธ์

สำหรับ ท้าวมหาพรหมโชคชัย ที่ทำพิธีบวงสรวงในวันนี้ ขนาดหน้าตักกว้าง 25 นิ้ว ความสูง 1 เมตร จัดสร้างและสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อการดำเนินธุรกิจและครอบครัว ตลอดจนพนักงานและบุคคลากรในเครือ รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้สักการะ

ภายในงานยังได้รับเกียรติจากแขกเหรื่อเข้าร่วม อาทิ นายวิชัย รอดเปีย อดีตรองประธานสภาเมืองพัทยา นายไพรัตน์ ไตรศุภโชค นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยใหญ่ นายวินัย อินทร์พิทักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ คณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มทร.อีสาน ร่วม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิด “ศูนย์วิจัยชุมชนโคเนื้อแห่งภาคอีสาน”

แชร์เนื้อหานี้

มุ่งสร้างความเข้มแข็งในทุกมิติและเพิ่มคุณภาพชีวิตแก่ชุมชน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยใช้ฐานความรู้จากการวิจัยและนวัตกรรมเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดย คณะนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดพิธีเปิด “ศูนย์วิจัยชุมชนโคเนื้อแห่งภาคอีสาน” ณ คณะนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวต้อนรับดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, พลตรี นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2, พลตรี กิตติศักดิ์ ถาวร เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2, พันเอก พงศ์กฤษฏ์ รุจิโยธิน รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21, นายสัตวแพทย์พศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา, ผู้แทนประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณปิยวรรณ ดาษสกุล ผู้แทนพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา, ศาสตราจารย์ ดร.ไชยณรงค์ นาวานุเคราะห์ รองประธานเครือข่ายวิจัยภูมิภาค:ภาคตะวันออกฉียงเหนือ หัวหน้าส่วนราชการและแขกที่เข้าร่วมงาน จากนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมพล เยื้องกลาง คณบดีคณะนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร กล่าวรายงานที่มาและความสำคัญของโครงการ และได้รับเกียรติจาก ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวเปิดงานและมอบป้ายศูนย์วิจัยชุมชน

สำหรับที่มาของการจัดตั้ง “ศูนย์วิจัยชุมชนโคเนื้อแห่งภาคอีสาน” เกิดขึ้นจากคณะนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มีภารกิจในการสนับสนุนการจัดตั้ง “ศูนย์วิจัยชุมชน” ผ่านเครือข่ายวิจัยภูมิภาค ในพื้นที่หนองระเวียง คณะนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร ที่มีความพร้อมขององค์ความรู้จากผลงานวิจัย และมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่คณาจารย์ในด้านการเรียนการสอนให้กับนักศึกษา ชุมชนและสังคม จึงรับเป็นผู้ประสานงานการจัดตั้งศูนย์วิจัยชุมชน โดยใช้ฐานความรู้จากการวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้ครอบคลุมอย่างเป็นรูปธรรมในรูปแบบศูนย์วิจัยชุมชน

โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า “สำหรับการจัดตั้งศูนย์วิจัยชุมชนโคเนื้อแห่งภาคอีสาน นับเป็นศูนย์วิจัยชุมชนฯ แห่งที่ 15 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทาง วช. มุ่งหวังว่าจะเป็นศูนย์วิจัยชุมชนฯ ที่สามารถสร้างความเข้มแข็งและแก้ปัญหาของชุมชนได้ เป็นที่ทราบกันดีว่า “โคเนื้อ” เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและภาคอีสาน ปัจจุบันมีจำนวนโคเนื้อกว่า 10 ล้านตัว (ร้อยละ 55 เลี้ยงในภาคอีสาน) และมีเกษตรกรไม่น้อยกว่า 1.4 ล้านครัวเรือน ที่ยึดเป็นอาชีพหลัก ช่วงปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า ราคาโคเนื้อขยับเพิ่มขึ้น แต่ยังพบว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ ได้กำไรน้อยมาก ทั้งนี้เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ดังนั้น ความรู้จากงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ที่สำคัญๆ ได้แก่ เทคโนโลยีการผสมพันธุ์เพื่อผลิตลูกโค/ฟิคไทม์ เอไอ อาหารโคขุนต้นทุนต่ำ เทคนิคการแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโค และอื่นๆ ซึ่งได้ถูกรวบรวมขึ้นโดย ศูนย์วิจัยชุมชนฯ แห่งนี้จะก่อให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ และวิถีผลกระทบและความสำเร็จ หรือ impact pathway ขึ้น

ในนามของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ขอชื่นชมพลังแห่งความร่วมมือของเครือข่ายวิจัยภูมิภาค: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ คณาจารย์ นักวิจัย วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานโคเนื้อทุกๆ ท่าน ในการจัดตั้งศูนย์วิจัยชุมชนโคเนื้อแห่งภาคอีสานในวันนี้ เพื่อเป็นศูนย์กลางของการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม นำไปแก้ไขปัญหาการผลิตโคเนื้อ และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อไป” ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์วิจัยชุมชนโคเนื้อแห่งภาคอีสาน มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นศูนย์กลางและเผยแพร่องค์ความรู้ จากงานวิจัยและนวัตกรรม อีกทั้งยังเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ฝึกประสบการณ์ และเสริมสร้างทักษะจากงานวิจัยสู่นวัตกรรมที่ยั่งยืนในอนาคต ตลอดจนเป็นการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ในการต่อยอด สู่เชิงพาณิชย์ช่วยให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต อย่างมีเสถียรภาพ ยั่งยืน และกระจายรายได้สู่สังคม และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายภาครัฐในการจัดตั้ง ศูนย์วิจัยชุมชน ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / บรรยากาศซื้อขายชุดแดงตรุษจีนพัทยายังไม่คึก ผู้ประกอบการชี้ปีนี้เงียบ/คนพัทยาซื้อทอง เก็บ หลังปีใหม่ราคาพุ่งกว่า 1,000 บาทรับตรุษจีน

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 20 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดลานโพธิ์ นาเกลือ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รายงานบรรยากาศจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่ออกมาเลือกซื้อชุดแดงเพื่อสวมใส่ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 ในเมืองพัทยา พบว่าช่วงก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้มีประชาชนออกมาเลือกซื้อชุดแดงตรุษจีนไม่คึกคักเท่าไรนัก

สอบถามเจ้าของร้านปู บูติค นาเกลือ เล่าว่า บรรยากาศซื้อขายชุดแดงตรุษจีนปีนี้ถ้าเทียบกับปีที่แล้วถือว่าเงียบกว่ามาก คาดว่าหยุดยาวปีใหม่หลายวันทำให้คนยังไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่เชื่อว่าเมื่อใกล้วันจ่ายจะมีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากกว่านี้ เพราะแต่ละปีวันจ่ายจะมีลูกค้ามาเลือกซื้อชุดเพื่อสวมใส่ในเทศกาลเป็นจำนวนมาก

เมืองพัทยาได้กำหนดจัดงานเทศกาลตรุษจีนเมืองพัทยา ในวันเสาร์ที่ 25 และวันพุธที่ 29 มกราคม 2568 โดยในวันที่ 25 มกราคม 2568 มีการประกวด ตี๋-หมวย ไชนีส ชิงทุนการศึกษารวม 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศและสายสะพาย พัทยาที่ลานกิจกรรมสวนสาธารณะลานโพธิ์ (นาเกลือ) การแสดงมังกรและสิงโต การแสดงวงดนตรีจากวงเซฟแพลนเน็ต วันที่ 29 มกราคม 2568 มีพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษเทศกาลตรุษจีนเมืองพัทยา ที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ศาลาว่าการเมืองพัทยา อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (พัทยา) เขา ส.ทร.5 (พัทยา) และมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน นาเกลือ

คนพัทยายังซื้อเก็บหลังปีใหม่ราคาพุ่งกว่า 1,000 บาทรับตรุษจีน ปธ.ชมรมร้านทองพัทยาชี้สถานการณ์โลกยังคงทำราคาทองผันผวน

ด้วยใกล้เข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 คนไทยเชื้อสายจีนมีกนิยมซื้อทองคำและทองรูปพรรณให้บุตรหลาน ตลอดจนเจ้าของกิจการซื้อให้ลูกน้องเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ของชาวจีน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่รายงานบรรยากาศร้านทองพัทยา

ทั้งนี้ จากการสอบถามนายบรรจง บัณฑูรประยุกต์ ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านทอฃเทืองพัทยา ในฐานะเจ้าของห้างทองทองดีเยาวราช ปากซอย 9 ถนนพัทยากลง เปิดเผยว่า ราคาทองมีความผันผวนในช่วงก่อนปีใหม่จะอยู่ที่ประมาณบาทละ 43,000 กว่าบาท แต่พอเลยปีใหม่แล้วมีการปรับขึ้นถึง 44,000 กว่าบาท คือราคาขึ้นถึงพันบาท ทำให้ช่วงนี้ราคาทองแพง

แต่ด้วยเศรษฐกิจต่างๆ ที่กระเตื้องขึ้น ทำให้คนนิยมซื้อเพื่อออมทองเก็บไว้ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ประชาชนซื้อทองและสะสมทองกันมากขึ้น เป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ประชาชนรู้จักใช้จ่าย และหันมาเก็บเงินเก็บทองมากขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าสถานการณ์ราคาทองคำจะยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่องด้วยสถานการณ์โลก ทั้งมีการเปลี่ยนแปลงประธานาธิบดีคนใหม่ผู้นำสหรัฐฯ ทั้งสถานการณ์ความไม่สงบปัญหาในประเทศตะวันออกกลาง สงครามรัสเซียและยูเครน ทั้งหมดนี้มีผลต่อราคาทองคำด้วยเช่นกัน