คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวอาชญากรรม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จับกุม2ผัวเมียตกงานผันตัวมาเป็นเอเย่นต์ขายยาบ้า

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 วันที่ 6 สิงหาคม 2568 ในช่วงระดมกวาดล้างยาเสพติด ระยะตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.68-30 ก.ย.68 ภายใต้อำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.อนันท์ อนุตรเวสารัช ผกก.สภ.ละแม ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด No Drugs No Dealer

นายเอนกชำนาญนา นายอำเภอละแม พร้อมด้วย พ.ต.ต.โตษณ พันธุ์ทอง สว.สส.สภ.ละแม ร.ต.อ.ธนธัช ประเทียบอินทร์ รอง สว.สส.สภ.ละแม, ร.ต.ต.ธานินทร์ ทองแดง รอง สว.(สส.)สภ.ละแม, ด.ต.ทินกร ทองอ่อน และ ส.ต.ท.สุวพันธ์ ดำวรรณ ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายณัฐพงษ์หรือนัทสงวนนามสกุล อายุ 26 ปี ชาว ต.ละแม อ.ละแม จว.ชุมพร 2.น.ส.พรไพลินหรืออันปัน สงวนนามสกุล ชาว ต.ทุ่งคาวัด อ.ละแม จว.ชุมพร

ที่ บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 6 ต.ละแม อ.ละแม จว.ชุมพร เป็นที่พักอาศัย ของทั่ง 2 คน ได้พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาบ้า จำนวน 53 เม็ด 2.ไอซ์ หนัก 0.16 กรัม 3.กระดาษฟรอนด์ใชเสพ จำนวน 44 ชิ้น 4.ถุงแบ่ง ขนาด 4X6 จำนวน 53 ถุง 5.กระเป๋าซิปลายพรางทหาร จำนวน 1 ใบ 6.กระเป๋าลายการ์ตูนสีเขียว จำนวน 1 ใบ 7.พวงกุญแจสีน้ำเงิน ลักษณะเป็นแก้วเล็กๆ จำนวน 1 พวง 8.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่าเคยถูกจับกุมมาแล้วในคดีเสพยาเสพติดและได้พ้นโทษออกมาก็กลับมาเสพอีก และรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา หลังจากที่เสพยาแล้วไม่ได้ทำงานก็เลยหารายได้โดยนำยาเสพติดไปจำหน่ายเพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพติเพื่อจำหน่ายและเสพ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า

ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์)โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ก่อนได้นำตัวทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ละแม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ภ.จว.ชุมพร แถลงข่าว No Drugs No Dealers ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด / ชนกลางยูเทิร์น วัดใจขุนกระทิง จักรยานยนต์ติดในซอกล้อ รถกระบะ เสียชีวิตคาที่

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 1 สิงหาคม 2568 นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้เกียรติ มาเป็นประธานในการแถลงข่าวปฏิบัติการกวาดล้าง ยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ณ ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร พร้อมกับ พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร และแถลงแนวทางการปฏิบัติในพื้นที่

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ประกาศเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดระดับชาติเมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร 

โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการความร่วมมือในการปฏิบัติการ อย่างเข้มข้นภายในระยะเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2568)ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากหมู่บ้าน/ชุมชน พร้อมประกาศเป็น "หมู่บ้านชุมชนปลอดภัยยาเสพติด" อย่างชัดเจนและยั่งยืน ด้าน พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการของ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กำหนดให้มีการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วนและสำคัญระดับชาติโดยมุ่งเน้นการดำเนินการอย่างเป็นระบบและยั่งยืน จึงได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศดำเนินการ ปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ผู้ค้าและ ผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่อย่างเข้มงวด และสรุปผลรายงานต่อเนื่อง ซึ่งผลการปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชุมพร ระหว่างวันที่ 18 - 31 กรกฎาคม 2568 จับกุมคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 147 คดี ผู้ต้องหา รวม 154 คน ของกลางยาเสพติด ยาบ้า จำนวน 77,675 เม็ด ไอซ์ จำนวน 0.188 กรัม 

ของกลางอาวุธปืน ปืนสั้น จำนวน 2 กระบอก ปืนยาว จำนวน 4 กระบอก และจับกุมตามหมายจับ ผู้ต้องหาคดีสมคบฯ และฟอกเงิน จำนวน 8 หมาย 4 เครือข่ายตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรยังคงดำเนินการตามแผนอย่างต่อเนื่องพร้อมเชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส และร่วมเฝ้าระวังในชุมชน เพื่อร่วมสร้างสังคมปลอดภัยและปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน

ชนกลางยูเทิร์น วัดใจขุนกระทิง จักรยานยนต์ติดในซอกล้อ รถกระบะ เสียชีวิตคาที่

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 00.40 น. ว่าที่ พ.ต.ต.ปฐมพงษ์ ชุมมาก สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานสอบสวนเวรคดีอาญา-จราจร

ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองชุมพร ว่ามีเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตที่เกิดเหตุ จึงรายงาน พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมประสานไปยัง หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพร

เกิดเหตุ  ถนนเอเชีย 41 (ขาล่อง) บริเวณจุดกลับรถหน้าร้านเอสพี แทรคเตอร์ ม.8 ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพรพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กษย 672 ชุมพร สภาพได้รับความเสียหายตัวรถติดอยู่ที่บริเวณล้อหน้าซ้ายของรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า  สีเทา ทะเบียน บว 35 ชุมพร ซึ่งบริเวณด้านหน้าซ้ายของรถยนต์กระบะคันดังกล่าวสภาพมีร่องรอยเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย  จอดอยู่ในช่องทางเดินรถช่องทางซ้ายของถนนที่เกิดเหตุ  จากการสอบสวน นายวสันต์ สงวนนามสกุล อายุ 54 ปี ชาว ต.สลุย  อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าว และมี  นายสุนันท์ สงวนนามสกุล อายุ 55 ปี แสดงตนเป็นผู้ที่นั่งโดยสารที่เบาะนั่งข้างผู้ขับขี่ของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว กำลังกลับรถ และมีรถจักรยานยนต์วิ่งตรงเข้ามาชนเต็มที่  และในที่เกิดเหตุยังพบเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์ส่วนควบของรถคันเกิดเหตุทั้งสองคันตกอยู่   ห่างออกไป ระยะประมาณ 10 เมตร พบศพของ นายจักริน  มะลิทอง สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต  อยู่บนถนนบริเวณที่เกิดเหตุและติดกับศพของ นายจักรินฯพบกองคราบเลือดติดอยู่กับตัวศพฝั่งขวา และในที่เกิดเหตุยังพบเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์ส่วนควบของรถคันเกิดเหตุทั้งสองคันตกอยู่  ต่อมาได้ร่วมกับ แพทย์หญิง วิภาวรรณ  เสรีพิทักษ์กุล  แพทย์ประจำ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทำการชันสูตรพลิกศพและได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีชันสูตรพลิกศพที่ 347/2568สั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งศพ นายจักริน  มะลิทอง ผู้เสียชีวิต ไปเก็บรักษายัง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ต่อไป

จากนั้น ว่าที่ พ.ต.ต.ปฐมพงษ์ ชุมมาก สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร จึงได้จัดทำบันทึก แผนที่ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้ ต่อมาได้เดินทางกลับมายัง สภ.เมืองชุมพร และได้ลง ปจว. รับคำร้องทุกข์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นไว้เป็นคดีจราจรที่ 28/2568 ไว้แล้วและจะได้ดำเนินการสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จัดระเบียบสังคม ป้องกันเหตุอาชญากรรม การมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ใครมีครอบครองผิดกฎหมาย

แชร์เนื้อหานี้

ใครครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย เป็นภัยต่อเยาวชนจังหวัดลพบุรี ผู้จำหน่ายผิดกฎหมาย ภายใต้การอำนวยการของ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ ปลัดจังหวัดลพบุรี

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.00 น. ชุดปกครองจังหวัดลพบุรี (กลุ่มงานความมั่นคง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี นำกำลัง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลพบุรี บูรณาการร่วมกับอำเภอเมืองลพบุรี จัดระเบียบสังคม ป้องกันเหตุอาชญากรรม การมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน และอบายมุขต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี นำกำลังตรวจค้นในครั้งนี้


นำโดย นายยศวิน บำรุงเวช ป้องกันจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยผู้ช่วยป้องกันจังหวัดลพบุรี สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลพบุรี บูรณาการร่วมกับอำเภอเมืองลพบุรี จัดระเบียบสังคม ป้องกันเหตุอาชญากรรม การมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน และอบายมุขต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี ตามข้อร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า
ตรวจของในครั้งนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 ราย

เวลาต่อมา นายยศวิน บำรุงเวช ป้องกันจังหวัดลพบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในการนี้ ได้สืบทราบว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในลักษณะออนไลน์และหน้าร้าน จึงได้ทำการจับกุมร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 แห่ง ผู้ต้องหา 1 ราย พบของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 65 ชิ้น. พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองลพบุรี ดำเนินคดีต่อไป

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ /อนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จับแรงงานเพื่อนบ้านฝันตัวเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าร่วม 7,575 เม็ด พร้อมปืนยาว 5 กระบอก

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 นาย วิทยา สุวรรณสิทธิ์นายอำเภอปะทิว รายงาน โดยการอำนวยการ ของ นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน รอง ผวจ.ชุมพร นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร นายวิทยา สุวรรณสิทธิ์ นายอำเภอปะทิว นายกิติพงศ์ โสมณะ ปลัดอำเภอหน.กลุ่มงานบริหารงานปกครองมอบหมายให้

นายธีระวุฒิ นุชนงค์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมสมาชิก อส.อ.ปะทิวที่ 4 ลงพื้นที่ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านมาบอำมฤต กำนันต.เขาไชยราช กำนัน ต.ดอนยาง เจ้าหน้าที่ทหารชป.ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
การขับเคลื่อนปฏิบัติการ กวาดล้างยาเสพติด “No drugs No dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด โดยค้นหาและขยายผลจากผู้เสพสู่การจับกุมผู้ค้าสำคัญ ดังนี้ นำผู้เสพในพื้นที่ต.เขาไชยราช เข้ารับการบำบัดรักษาแบบ สมัครใจ รพ.สต.บ้านพละ จำนวน 6 ราย

ร่วมจับกุม นาย โทน สัญชาติเมียนมา ม.1 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)
พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุถุงพลาสติกชนิดกดปิด ดึงเปิด สีน้ำเงิน จำนวน 117 เม็ด (สีส้ม 115 เม็ด , สีเขียว 2 เม็ด) 2. เงินสด 2,000 บาท 3. อาวุธปืนยาว ชนิดไทยประดิษฐ์ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก 4. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 21 นัด 5. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Vivo รุ่น Y02T สีเทา

   ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่  “ มียาเสพติดให้โทษร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อการค้า , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติ(เมียนมาร์) อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม 1.Mr.ZAW PAING หมายเลขหนังสือเดินทาง CC7327160 สัญชาติเมียนมา  ม.1 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร  (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)    2.Mrs.SOE SOE MON หมายเลขหนังสือเดินทาง CC7327161 สัญชาติเมียนมา  ม.1 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร  (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)

พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) รวมทั้งหมด 1,409 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด) เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 22 นัด 4.ถุงพลาสติกใสชนิดกดปิด-ดึงเปิด (ถุงแบ่งบรรจุ) จำนวน 50 ใบ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi สีดำ หมายเลข 065-053-1700 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีน้ำเงินคราม หมายเลข 093-461-0377 จำนวน1เครื่อง

ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่า “ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยเป็นกระทำที่มีลักษณะการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กระทำการโดยมีอาวุธปืนฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม   1.Mr.SAN TUN (ซาน ทูน) สัญชาติเมียนมา 2/8 ม.6 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร  (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล) 2.Mrs.Khin Khin Htww หมายเลขบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย 00-8603-109185-2 สัญชาติเมียนมา  2/8 ม.6 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร (สามารถพูด-ฟังภาษาไทยได้โดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล)

พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) รวมทั้งหมด 6,409 เม็ด อาวุธปืนยาว ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด,ติดอยู่ข้างลำตัวปืน 6 นัด) อาวุธปืนยาว

ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด,ติดอยู่ข้างลำตัวปืน 4 นัด) อาวุธปืนยาว ชนิดประดิษฐ์ขึ้นเอง(ไม่มีหมายเลขทะเบียน) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (มีกระสุนบรรจุอยู่ในรางเพลิง 1 นัด) เครื่องชั่งดิจิตอล ขนาด 1000g โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ samsung สีดำ หมายเลข 064-976-5140 จำนวน 1 เครื่อง

ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่าร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยเป็นกระทำที่มีลักษณะการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป

โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กระทำการโดยมีอาวุธปืนฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สรุป ผู้เสพ 6 ราย ผู้ค้า จำนวน 3 คดี ผู้ต้องหา 5 ราย ของกลางยาบ้า 7,575 เม็ด อาวุธปืน 5 กระบอก โดยนำผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านมาบอำมฤต ดำเนินคดีตามกฏหมาย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ส.น.สมเด็จเจ้าพระยา ลงพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการ “ชุมชนสีขาวปลอดยาเสพติด ” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล NO Drugs NO Dealers

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2568 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์​ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา พ.ต.ท.ภัทรพงษ์ เสยกระโทกรองผกก.ป.สน.สมเด็จเจ้าพระยา พ.ต.ท.ศรายุทธ์​ พวงทอง​รอง​ผกก.สส.สน.สมเด็จเจ้าพระยา พ.ต.ต.วิคิด โอษคลังสวป (ชส.)สน.สมเด็จเจ้าพระยา

พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน,เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเขตคลองสาน,อาสาสมัครตำรวจบ้านชุมชน,ฝ่ายพัฒนาชุมชนเขตคลองสาน สำนักงานเขตคลองสาน ผู้นำชุมชน,คณะกรรมการชุมชนซอยวนาวรรณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 28 (กรุงธนบุรี) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ชุมชนวนาวรรณ

ร่วมบูรณาการ กำลัง ลงพื้นที่ ขับเคลื่อนโครงการ “ชุมชนสีขาวปลอดยาเสพติด ” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล NO Drugs NO Dealers
โดยได้ลงพื้นที่ X-ray ชุมชนเป้าหมาย เพื่อค้นหาผู้ป่วย , ผู้เสพ, ผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล 

และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในชุมชนแบบยั่งยืน แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน เพื่อลดจำนวนและทำให้ผู้ใช้ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดหมด

ไปจากชุมชน หมู่บ้านอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ซึ่งทาง สถานีตำรวจนครบาลสมเด็จเจ้าพระยา กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ได้ดำเนินการตามแนวทาง โดยในวันนี้ได้มาตรวจเยี่ยม การดำเนินการโครงการดังกล่าว ที่ชุมชนซอยวนาวรรณ เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนในพื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา ที่เข้าร่วมโครงการและผ่านการดำเนินการ ทั้งนี้ พร้อมกับมอบป้ายบ้านสีขาวปลอดยาเสพติดให้กับชาวบ้านในชุมชนนี้ด้วย

ภาพ/ข่าว โดย นาย วีระพล แซ่เล้า ผู้สื่อข่าว
เด​วิท​ โชคชัย​ ​มุกดาหาร​

​สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศุลกากรฝ่ายปราบปราม จับล็อตใหญ่! อโวคาโดเถื่อน 6.5 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้าน คาดลอบนำเข้าข้ามแม่น้ำโขงมุกดาหาร เตรียมกระจายขายทั่วไทย

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่​ 2568 นายสมชาย โชคเฉลิมวงศ์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ประจำฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 กองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-1808 มุกดาหาร ที่จอดอยู่ภายในสถานีบริการน้ำมัน PT ตำบลหนองผือ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์


โดยมีนายอภิชาติ ดาลัย แสดงตัวเป็นผู้ควบคุมรถและอำนวยความสะดวกในการตรวจค้นดังกล่าว ผลการตรวจพบผลไม้อโวคาโดน้ำหนักรวมประมาณ 6,500 กิโลกรัม บรรทุกเต็มคันรถ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่สามารถแสดง

เอกสารการผ่านพิธีการศุลกากรที่ถูกต้องได้ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดสินค้าไว้เป็นของกลาง พร้อมยานพาหนะ และนำส่งด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ทั้งนี้ อโวคาโดที่ตรวจยึดได้มีลักษณะคล้ายคลึงกับอโวคาโดสายพันธุ์เวียดนามที่มักพบจำหน่ายใน สปป.ลาว ซึ่งคาดว่าถูกลักลอบนำเข้าทางแม่น้ำโขงเข้าสู่จังหวัดมุกดาหาร ก่อนจะส่งกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย

กองสืบสวนและปราบปราม #ศุลกากรภาคที่2 #จับอโวคาโดเถื่อน #ลักลอบนำเข้า #กรมศุลกากร #จับของเถื่อน #อโวคาโดเวียดนาม #มุกดาหาร #กาฬสินธุ์ #ข่าวภาคอีสาน #ข่าวศุลกากร #แม่น้ำโขง #ลักลอบนำเข้าสินค้าข้ามแม่น้ำโขง #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้นี้

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อ.โคกสำโรง พิธีเปิดกิจกรรม “Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด”

แชร์เนื้อหานี้

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2568 เวลา 16.00 น. ณ ลานเสาธงหน้าที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ประธานพิธีปล่อยแถว นายเจตน์พงศ์ โชคสวัสดิ์วรกุล นายอำเภอโคกสำโรง นางสาวนงลักษณ์ อยู่พุ่ม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอโคกสำโรง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอโคกสำโรง นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ทุกท่าน 450 คน

ด้วยปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างองค์กรรวม ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม อย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่สามารถดำเนินการแก้ไข ได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และเป็นที่ทราบกันว่า ปัญหายาเสพติด ยังคงมีการแพร่ระบาด สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน สังคม อยู่เป็นจำนวนมาก รัฐบาลให้ความสำคัญ และมอบให้เป็น

นโยบายที่หน่วยงาน ภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงาน ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย” ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้า คือ ผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง รวมถึงการยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด
ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอโคกสำโรง (ศป.ปส.อ.โคกสำโรง)

จึงได้กำหนดเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด” โดยกำหนดปฏิบัติ Quick Win ในห้วง 3 เดือน ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมการ/ปฏิบัติการ สลายโครงสร้างปัญหาปราบปรามผู้ค้าค้นหาผู้เสพเข้าบำบัด ขั้นที่ 2 ขั้นปฏิบัติการต่อเนื่อง ปัญหาผู้ค้า ผู้เสพ ลดลง เสริมสร้าง หมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง ขยายพื้นที่ความสำเร็จ

ขั้นที่ 3 ขั้นพัฒนาสู่ความยั่งยืน ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ลดลงจนหมดไป ประชาชนมีความปลอดภัย ปัญหาเก่าหมดไปมีระบบเฝ้าระวังปัญหาต่อเนื่อง
ขั้นที่ 4 ประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน มีความปลอดภัย ปัญหาใหม่ไม่เกิด หมู่บ้าน/ชุมชนมีศักยภาพของตนเอง

สำหรับกิจกรรม Kick Off เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด” ของอำเภอโคกสำโรง ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการส่วนราชการต่างๆ ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธรโคกสำโรง สถานีตำรวจภูธรเพนียด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 13 ตำบล 137 หมู่บ้าน มูลนิธิโคกสำโรงสงเคราะห์ ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอโคกสำโรง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)

ด้วยปัจจุบันปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมอบให้เป็นนโยบายที่หน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงานของรัฐต้องร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน มอบหมายให้มีการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

การเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด” ของอำเภอโคกสำโรง เป็นมาตรการดำเนินงานหนึ่งที่สำคัญยิ่งของนโยบายรัฐบาล เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด นำมาตรการมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ หรือสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้

จะก่อให้เกิดความตระหนักของประชาชนชาวลพบุรี ต่อปัญหายาเสพติด ก่อให้เกิดความร่วมมือการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้มีการนำมาตรการทางกฎหมายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และมีคุณค่า ก่อให้เกิดประโยชน์ของสังคมจังหวัดลพบุรี อย่างจริงจัง และยั่งยืน ขณะเดียวกันฝ่ายป้องกันฯ ของอำเภอโคกสำโรง ได้จับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างต่อเนื่อง

สนอง แท่นสูงเนิน ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี และอนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี. ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่จัน ลูกเลี้ยงโหด!! ใช้มีดฟันคอพ่อน้าเสียชีวิตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.จ.เชียงราย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน พ.ต.ท.ศุภกรณ์ชัย เดชายิ้มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.แม่จัน และ พ.ต.ต.ผดุง ท้ายเรือคำ รรท.สว.สส.สภ.แม่จัน ร.ต.อ.วชิรพัตช์ วรรณสอน ร.ต.อ.อนันต์ โกเสนตอ และ ร.ต.อ.รพีพงศ์ พากเพียร รอง สว.สส.สภ.แม่จัน

พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่จัน รุดไปที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งเหตุว่ามีหนุ่มชาวเขาให้อาวุธมีดฟันพ่อเลี้ยงของตัวเองสร้างความตกใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก บริเวณบ้านเลขที่ 572 บ.สันติสุข หมู่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงรายได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกของมีคมหรือมีดฟันเข้าที่ลำคอจนเป็นแผลฉกรรจ์ ญาติๆ จึงนำตัว นายไอ่ลุง อายุ 55 ปี

ส่งโรงพยาบาลแม่จันในเวลาต่อมาผู้บาดเจ็บได้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและได้เสียชีวิตที่ รพ.แม่จัน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุภายหลังคือ นายเอกชัย จะแล อายุ 25 ปี ( ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของผู้ตายซึ่งมีอาการจิตเวชเนื่องจากมีประวัติเคยเสพยาเสพติดมาก่อน ) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแม่จันจึงได้ออกติดตามจับกุมตัว นายเอกชัยฯ ที่ได้หลบหนีไปอยู่ในบริเวณหมู่บ้านบ้านสันติสุข โดยไม่มียานพาหนะในช่วงเวลากลางดึกจนกระทั่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ก็พบตัวนายเอกชัยฯ เดินอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวเอาไว้และนำตัวส่ง ร.ต.อ. กิตติคุณ จูมคำมูล รอง สว. พนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นนายเอกชัยให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงเจ้าหน้าที่จึงจะนำตัวไปทำแผลประกอบคำรับสารภาพในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังก่อเหตุใช้มีดฟันคอพ่อน้าเสียชีวิต ในเวลา 09.30 น.วันที่ 21 ก.ค.นี้ต่อไป.

ภาพข่าว – สืบสวน สภ.แม่จัน
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ /// รายงาน ///

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ปค.หว้านใหญ่ ปูพรมรวบ 3 ผู้ต้องหา ค้ายา-เสพยาบ้า ยึดของกลางพร้อมกระสุน/จับแล้วสาวแสบ! ใช้กลอุบายหลอกเช่าเงิน 5.5 ล้าน/ขับรถสายไปมาพุ่งชนฟุตบาท ชนป้ายหลวงพังยับ!

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี เอกวัฒนา คงคาน้อย นายอำเภอหว้านใหญ่ มอบหมายให้นายหมวดเอก วิชัย ทาธร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อม อส.อ.หว้านใหญ่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หว้านใหญ่, ตชด.2342, กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ต.ดงหมู จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้าและเครื่องกระสุนปืน

ผู้ต้องหารายแรกคือ นายบุญหลาย หรือฮอล ผลคำ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 38 ม.3 ต.ดงหมู อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร พบยาบ้า 202 เม็ด และเครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด ถูกแจ้งข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดและมีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ต่อมาได้จับกุมตัวนายกิจติพล หรือเบียร์ เจริญราช อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 259 ม.1 ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 6 เม็ด โดยกล่าวหาว่า”มียาเสพติดให้โทษประเภท (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติด”

และจับกุมตัวนายเอกชัย หรือเอก เมืองโคตร อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 130 ม.1 ต.คำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร โดยกล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท1(ยาบ้า)โดยฝ่าฝืนต่อกฏหมาย”จากนั้น ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฝ่ายปกครองหว้านใหญ่ #จับยาเสพติด #มุกดาหาร #หว้านใหญ่ #ดงหมู #คำป่าหลาย #ยาบ้า #ตชด2342 #ข่าวอาชญากรรม #ข่าวด่วน #ยึดของกลาง #ยาเสพติด #ต้านภัยยาเสพติด #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้​ ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

จับแล้วสาวแสบ! ใช้กลอุบายหลอกเช่าเงิน 5.5 ล้าน อ้างสร้างเครดิตลงทุนธุรกิจ ก่อนเชิดเงินหนี

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร และ พ.ต.ท.ฉัตรมงคล บุญกลาง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เจษฎากร ไชยศรีหา สว.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร นำกำลังชุดสืบสวนออกปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รายสำคัญ

โดยสามารถจับกุมตัว นาวสาวพรทิพย์ หรือ แป้ง ไชยบัน อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 176 หมู่ 1 ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ จ.175/2568 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ลูกสาวของหญิงวัย 60 ปี เจ้าของธุรกิจปล่อยเช่าสินสอดรายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ว่ามารดาของตนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพชาย-หญิง ประกอบด้วย นาวสาวพรทิพย์ (ผู้ต้องหา), นายปั๊ก และ นางสาวหมวย กลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันวางแผน โดย นางสาวพรทิพย์ อ้างกับผู้เสียหายว่าต้องการเช่าเงินจำนวน 5,500,000 บาท ตกลงจะจ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 76,500 บาท เพื่อนำไปถ่ายภาพคู่กับเงินดังกล่าวเพื่อสร้างเครดิตให้ตนดูน่าเชื่อถือ เพื่อจะนำไปแสดงต่อนายทุนรายใหญ่ ก่อนร่วมลงทุนในธุรกิจเต็นท์รถ

แต่เมื่อได้รับเงินแล้ว ทั้ง 3 คน กลับกับไม่นำมาคืนตามที่ตกลงกันไว้ ในที่สุดไม่สามารถติดต่อกันได้​ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกและได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร กระทั่งมีการออกหมายจับ และสามารถติดตามจับกุมตัว นาวสาวพรทิพย์ ผู้ต้องหาร่วมขบวนการได้ 1 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย ที่ยังคงหลบหนีอยู่ต่อไป

ข่าวอาชญากรรม #หลอกเช่าเงิน #โกง5ล้าน #รวบสาวแสยมุกดาหาร #ตำรวจมุกดาหาร #เต็นท์รถลวงโลก #มิจฉาชีพ #อาชญากรรมการเงิน #จับผู้ต้องหา #ข่าวเด่นมุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้​ ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

ซิ่งนรกมุกดาหาร! ขับรถสายไปมาพุ่งชนฟุตบาท ชนป้ายหลวงพังยับ! รถตัวเองก็เยิน ทะเบียนหลุด แล้วยังขับหนีต่อ

      คลิปจากกล้องโทรศัพท์เมื่อถือที่ผู้ใช้เพสบุ๊ค ชื่อว่า Sonwadee Indie Move On พร้อมข้อความ มาจากทางไหนครับพี่น้อง ซิ่งขนาดนี้ ข้ามเกาะกลาง ย้อนสอน แถมชนคอสะพานอีก จะไปทางไหนน้อครับ ใครได้รับความเสียหายจากรถคันนี้นี่นะครับเลขทะเบียน  โดยภาพเป็นภาพที่ผู้โพสต์ได้ขับรถตามกระบะสีขาว ขับรถในลักษณะ ส่ายไป-มาบนถนนขาเข้าเมืองมุกดาหาร ก่อนพุ่งชนฟุตบาทสะพานข้ามห้วยบังอี่  บริเวณถนน ชยางกูร เขตเขตอำเภอนิคมคำสร้อย เมื่อช่วงเวลาประมาณ4โมงเย็นของวันที่19 ก ค  68 ที่ผ่านมา 
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกับได้สอบถามเรื่องดังกล่าวกับเจ้าของคลิป ชื่อว่า คุณบอย  เปิดเผยว่าก่อนเกินจะตัดสินใจขับรถตามถ่ายคลิปตนเองได้เสียงคล้ายรถชนกัน ต่อมาก็ได้เห็นรถคันดังกล่าวขับย้อนศร จึงขับรถตามเพื่อเรียกให้จอดแต่คนขับรถไม่ยอดจอดจึงตัดสินใจถ่ายคลิป เพื่อเป็นหลักฐานว่ารถคันดังกล่าวได้ขับแบบประมาทหวาดเสี่ยว ไม่รู้ว่าเขาจะเมา หรือป่วย ระหว่างนั้นก็พยามเรียกให้จอดก็ไม่จอดตนจึงตามไปประมาณ 3 กิโลเมตรเลยไม่ตามต่อ

ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารราบ กองกำลังสุรนารี ลงพื้นที่ตรวจสอบจนพบตัวคนขับและพบรถพังยับแต่ยังขับหนีกลับถึงบ้าน! โดยคนขับมีอาการเบลอคล้ายเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง บอกได้เพียงชื่อ “ดำ” และขับรถกลับมาหลบอยู่ที่บ้านเหล่าหลวง ต.หนองแวง อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “หัวโจกตระกูลดังมุกดาหารค้ายาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ไม่รอด! ตร.ทางหลวงรวบกลางถนน หลังทำพาสปอร์ตหวังหนีข้าม สปป ลาว”

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอำนาจเจริญ นำโดย ร.ต.อ.พรชัย พวงใส รอง สว.ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล. พร้อมด้วย ร.ต.ต.ธีร แก้วเนตร, ร.ต.ต.ธีระพงษ์ อ่อนเชียง, ร.ต.ต.มังกร ศิริโสม และ ด.ต.ชัชการ ผิวแก้วดี ร่วมกันจับกุมตัวนายชุษณะ วาปี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 หมู่ 1 ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ จ 172/2568 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ซึ่งเป็นคดีใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนยาบ้าจำนวน 1.6 ล้านเม็ด ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เมื่อปลายปี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ตำรวจ สภ.คำชะอี รับแจ้งพบรถต้องสงสัยโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ริมถนนที่บ้านดอนสวรรค์ ต.น้ำเที่ยง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เมื่อเข้าตรวจสอบพบยาบ้าประมาณ 1,600,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในจากการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่และผลตรวจดีเอ็นเอภายในรถพบว่าตรงกับนายชุษณะ จึงนำไปสู่การขอออกหมายจับนายชุษณะ ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายารายใหญ่ในภาคอีสาน ซึ่งมีพฤติกรรมนำยาบ้าส่งกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ

ต่อมา ตำรวจทางหลวงอำนาจเจริญ ได้รับการประสานให้ช่วยติดตามจับกุม กระทั่งพบเบาะแสว่านายชุษณะกำลังเดินทางออกจาก จ.อุบลราชธานี หลังเสร็จจากการทำหนังสือเดินทาง คาดว่าเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. พบรถอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ทะเบียน ขว 3593 ขอนแก่น ตรงตามที่ได้รับแจ้งข่าวขณะกำลังแล่นมุ่งหน้าเข้าอำเภอเมืองมุกดาหารที่บริเวณ กม. 442-443 ถนนชยางกูร ต.หนองแวง อ.นิคมคำสร้อย

จึงส่งสัญญาณให้หยุดและตรวจสอบพบนายขจรวิทย์ ซึ่งเป็นผู้ขับให้ความร่วมมือในการตรวจค้น และพบว่านายชุษณะ นั่งโดยสารมาด้วย เมื่อตรวจสอบพบเป็นบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับและทำจับกุมทันทีเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง กำลังเดินทางกลับจากทำพาสปอร์ตที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อเตรียมเดินทางข้ามไป สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งสิทธิ์และข้อหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คำชะอี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวจับกุมพ่อค้ายาบ้า #ยาเสพติด #คำชะอี #นิคมคำสร้อย #มุกดาหาร #ตำรวจทางหลวงอำนาจเจริญ #คดียาเสพติดรายใหญ่ #จับกุมผู้ต้องหา #ยาบ้า1600000ล้านเม็ด #ข่าวอีสาน #หนีไม่พ้นกฎหมาย #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้​ ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​