คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว PR

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / โครงการ “การพัฒนาเครือข่ายชุมชนการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละออง PM2.5 ในจังหวัดน่าน”

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 โครงการ “การพัฒนาเครือข่ายชุมชนการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละออง PM2.5 ในจังหวัดน่าน”

ได้จัดกิจกรรมลงพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อพัฒนาแนวทางการลด PM2.5 ผ่านการส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมักจากวัสดุเศษเหลือทางการเกษตร ณ บ้านท่าลี่ ตำบลขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 30 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรในพื้นที่

กิจกรรมในครั้งนี้นำโดย นายนคร สอนสมฤทธิ์ เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดน่าน และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกชัย ดวงใจ หัวหน้าโครงการวิจัย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

ทีมงานได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตปุ๋ยหมักโดยใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 พด.2 และ พด.3 ซึ่งเป็นนวัตกรรมชีวภาพที่ช่วยเร่งการย่อยสลายเศษพืช เศษฟาง และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ลดระยะเวลาการหมักและเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลาย
นอกจากนี้ยังมีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ

เพื่อหลีกเลี่ยงการเผาที่เป็นสาเหตุสำคัญของจุดความร้อน (Hot spot) และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษวัสดุเหล่านี้และส่งเสริมการพึ่งพาตนเองด้านปุ๋ยอินทรีย์ในระดับครัวเรือนและชุมชน โดยหลังสิ้นสุดการอบรม เกษตรกรผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริงในการผสมวัสดุ เศษฟาง ใบไม้แห้ง และเศษข้าวโพดร่วมกับสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 พด.2 และ พด.3 จนได้กองปุ๋ยหมักต้นแบบประจำหมู่บ้าน

การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายผลแนวทางการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรแบบ “Zero Burn” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่วิจัย เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับชุมชนในจังหวัดน่านอย่างยั่งยืน/ เครดิต/สรรเพชญ์ ปุละ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / วัดพรหมทินใต้ อ.โคกสำโรง จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีและวางศิลาฤกษ์สร้างมณฑปประดิษฐาน “พระพนัสบดี ศรีทวารวดี” อายุกว่า 1,400 ปี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 ณ วัดพรหมทินใต้ ตำบลหลุมข้าว อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ได้จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีและวางศิลาฤกษ์สร้างมณฑปจตุรมุข เพื่อประดิษฐาน “พระพนัสบดี ศรีทวารวดี” พระพุทธรูปศิลปะทวารวดี อายุเก่าแก่กว่า 1,400 ปี

ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดลพบุรีและมีคุณค่าทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง พิธีเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 08.09 น. มีพิธีบวงสรวงก่อสร้างมณฑป จากนั้น เวลา 10.09 น. เป็นพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนการก่อสร้าง และในเวลา 13.09 น. มีพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างมณฑปจตุรมุขอย่างเป็นทางการ

โดยพลโทชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.3 กอ.รมน.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมี พระอธิการสนทร โอกาโส เจ้าอาวาสวัดพรหมทินใต้ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

การก่อสร้างมณฑปในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์โบราณวัตถุสำคัญของชาติ ส่งเสริมพระพุทธศาสนา และสร้างศาสนสถานเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลพบุรีและผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้จัดงานได้เชิญชวนร่วมอนุโมทนาบุญ โดยอานิสงส์ของการร่วมบุญครั้งนี้ เชื่อกันว่าจะส่งผลให้ชีวิตมั่นคงดั่งฐานพระ เกิดสิริมงคล ปกป้องคุ้มภัย เสริมบารมี และนำพาความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิตและครอบครัว

“การสร้างศาสนสถาน คือ การวางรากฐานของความดี ความมั่นคง และสันติสุขให้บ้านเมือง”บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความศรัทธาและความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนในพื้นที่และผู้มีจิตศรัทธาที่เดินทางมาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

สนอง แท่นสูงเนินผอ.ศูนย์ข่าวฯ
และอนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี

นายปรัชญา เปปะตัง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีโชว์ลีลาผัดไทย พร้อมร่วมงานโครงการ “ถนนสายวัฒนธรรม ปันน้ำใจสู่ผู้ยากไร้” ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “โน้ต-ชิสนุ” แท็กมือ “เล้งแสตมป์” ร่วมพิธีพุทธาภิเษก “คุณแม่บุญเรือน” ณ วัดอาวุธวิกสิตาราม

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ณ ศาลาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร คุณโน๊ต-ชิสนุ เริงสังข์ ประธานกรรมการ บริษัท ไพศาลเจริญพฤกษาพรรณไทย จำกัด และเจ้าของ

แบรนด์ “CHISANU” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสกินแคร์ชื่อดัง ได้เดินทางมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเต็ม ชุด “เจริญพร ๑๖๘” ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในสายวัดปากน้ำสายตรง โดยมีเกจิชื่อดังร่วมปลุกเสกมากมาย

ภายในงาน คุณชิสนุ ได้ชวน “เล้ง – ณัฐพล นิลดอนหวาย” และ “แสตมป์ – พรวศิน เรืองนุกูล” สองนักแสดงนำจากซีรีส์วายย้อนยุคชื่อดัง “ลอยแก้ว First Love” เข้าร่วมกราบไหว้ขอพรคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ คุณโน๊ต เคยมากราบขอพรเมื่อหลายวันก่อน และได้รับผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ จึงกลับมาทำบุญ และขอร่วมบุญในพิธีใหญ่อีกครั้ง

"โน๊ตได้มาไหว้ขอพร คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม และสมหวังที่มาขอพร พอทางวัดมีพิธีใหญ่ โน๊ตก็เลยชวน เล้ง ณัฐพล นิลดอนหวาย และ แสตมป์ พรวศิน เรืองนุกูล นักแสดงนำ จากซีรีส์วาย ลอยแก้ว กลับมากราบท่านอีกครั้ง และบอกกล่าว สิ่งที่ขอพรไว้ว่า สำเร็จ สมปรารถนาแล้วนะ และในวันนี้ ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่ทางวัดจัดขึ้นด้วย แล้วโน๊ตก็จะนำเหรียญคุณแม่บุญเรือนที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว ไปแจกให้ลูกค้าของโน๊ตด้วยครับ" 

ร้านชิสนุ วัตถุมงคล ยังเปิดให้บริการทั้งจัดจำหน่ายวัตถุมงคล พระเครื่อง และเครื่องราง มงคลต่าง ๆ ทั้งปลีกและส่ง โดยมีจุดยืนในการคัดสรรวัตถุมงคลแท้ ศักดิ์สิทธิ์ และมีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมศรัทธาอย่างแท้จริง

งานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนของพลังศรัทธา ความเชื่อ และการสืบสานพุทธศิลป์และ Soft Power ของไทยผ่านมุมมองคนรุ่นใหม่

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / งาน LOVE PRIDE PARADE BANGKOK 2025 เฉลิมฉลองส่งท้ายเดือนแห่งความภาคภูมิใจ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (29 มิถุนายน 2568) ‘จิราพร สินธุไพร’ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “LOVE PRIDE ♡ PARADE 2025” ณ สนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย และร่วมเดินขบวนพาเหรด โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

นางศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานราชการ องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นด้วยความร่วมมือของภาคีภาครัฐและเอกชนกว่า 200 องค์กร ที่ร่วมกันจัดขบวนพาเหรดอย่างยิ่งใหญ่ สะท้อนพลังความหลากหลายและความเท่าเทียมในสังคมไทย

รมต.จิราพร กล่าวตอนหนึ่งว่า “ปีนี้ถือเป็นก้าวประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งได้ประกาศใช้ กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ โดยไทยนับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพในมิติอื่น ๆ ของประชาชนทุกกลุ่มในสังคม

โดยรัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร พร้อมสนับสนุนทุกกิจกรรมที่ส่งเสริมความเท่าเทียม โดยเฉพาะกิจกรรมในช่วงเดือน

มิถุนายน หรือ Pride Month ที่ถือเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองสิทธิเสรีภาพของความเสมอภาคเท่าเทียม และสิทธิเสรีภาพในการที่จะมีโอกาสได้เลือก ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ตลอดทั้งเดือน”

รมต.จิราพร ย้ำว่า “กิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วง Pride Month นั้น นอกจากจะเป็นการสนับสนุนความ เท่าเทียม และหลากหลายที่เป็นบริบทสำคัญในสังคมไทยแล้ว ยังเป็นการย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในการจัดงานเทศกาลระดับโลกของ

ประเทศไทยในภูมิภาค ที่นำเสนอซอฟต์พาวเวอร์ และอัตลักษณ์ความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก ช่วยส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย โดยการจัดงานต่าง ๆ ในเดือนนี้ ถือเป็นสิ่งสะท้อนความภาคภูมิใจของคนไทยในการก้าวเข้าสู่สังคมที่เปิดกว้างและเท่าเทียมอย่างแท้จริง“

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ”นายกป๊อก-วิทยา“ นายก อบจ.ชลบุรี ทำบุญแซยิดวันคล้ายวันเกิดครบ 60 ปี

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 27 มิ.ย.68 ที่วัดเมืองใหม่ จ.ชลบุรี ครอบครัวคุณปลื้ม โดย นายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี และ นางสิริลดา คุณปลื้ม ภรรยา ได้จัดพิธีทำบุญแซยิดวันคล้ายวันเกิดครบ 60 ปีบริบูรณ์ โดยพบว่ามีมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมแสดงความยินดีและร่วมอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดนายก อบจ.ชลบุรี กันเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีการออกร้านให้บริการอาหาร ทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มมาให้บริการแก่ผู้เข้าร่วมงานได้รับประทานกัน ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองเป็นอย่างมาก ทั้ง ตัวแทนภาครัฐ เอกชน ประชาชน นักการเมืองท้องถิ่น และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ทีวา เวนเจอร์ จับมือ นิฮอน เอ็มแอนด์เอ.แห่งญี่ปุ่นยกระดับศักยภาพเอสเอ็มอี.(SMEs)ไทยพร้อมแข่งขันในเวทีโลก

แชร์เนื้อหานี้

บริษัท ทีวา เวนเจอร์ จำกัด (TVA Venture) และบริษัท นิฮอน เอ็มแอนด์เอ เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Nihon M&A Center (Thailand)) ได้ลงนามใน MOU เพื่อร่วมมือกันสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีเป้าหมายในการขยายกิจการ ควบรวม หรือแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในประเทศและระดับสากล

ทีวา เวนเจอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการควบรวมกิจการ การระดมทุน การปรับโครงสร้างธุรกิจและการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด “Respect, Trust & Collaboration (RT&C) นาย ชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานบริษัท ทีวา เวนเจอร์ กล่าวว่า
“ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเชื่อมโยงระหว่างไทยกับญี่ปุ่น แต่คือการสร้างโครงสร้างสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการก้าวข้ามข้อจำกัดทางทุนและโอกาส ความเชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น ผสานกับความเข้าใจเชิงลึกของ ทีวา เวนเจอร์ ต่อบริบทธุรกิจไทย จะช่วยผลักดัน SMEs ให้กลายเป็นกิจการที่นักลงทุนต่างชาติพร้อมร่วมมือในระยะยาว”

ในโอกาสนี้ยังมีการเปิดตัวพันธมิตรด้านการลงทุนจากญี่ปุ่น “A to G Capital” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเข้าลงทุนในกิจการกลุ่มประเทศ ASEAN ที่มีศักยภาพ โดยจะเข้าถือหุ้น ปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างมีระบบ ก่อนส่งต่อให้กับนักลงทุนรายใหญ่ในระยะต่อไป ซึ่งถือเป็นเครื่องมือเร่งการเติบโตของกิจการไทยให้เข้าสู่ระดับสากลได้เร็วและมั่นคงยิ่งขึ้น

นางสาว รมนต์อร บุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวา เวนเจอร์ เเละเลขาธิการสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอีไทย) กล่าวว่า “ผู้ประกอบการ SMEs ไทยจำนวนมากมีสินค้าที่มีคุณภาพ เทคโนโลยีนวัตกรรมที่แข่งขันได้ และทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ แต่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนหรือการจับมือกับพันธมิตรระดับสากล ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูสำคัญให้กับธุรกิจเหล่านี้สามารถเติบโตในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้อย่างแท้จริง และจากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่กับภาคธุรกิจ SME มาโดยตลอด พบว่าหลายกิจการมีศักยภาพอย่างชัดเจน สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในวันนี้ คือเครื่องมือที่สามารถแปลงศักยภาพนั้นให้กลายเป็นความสำเร็จที่ยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มในจุดนั้นได้อย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรม”

นิฮอน เอ็มแอนด์เอ เซ็นเตอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการควบรวมและซื้อกิจการจากประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2534 และมีประสบการณ์ดำเนินธุรกรรม M&A มากกว่า 10,000 รายทั่วญี่ปุ่น โดยในช่วงปี 2564–2567 ยังได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการที่ปรึกษา M&A สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมากที่สุดในโลก นาย ทากะโนะซุเกะ คิกาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิฮอน เอ็มแอนด์เอ เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า
“การทำ M&A ไม่ใช่เพียงการจับคู่ธุรกิจ แต่คือการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งการเงิน กลยุทธ์ และวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้กิจการสามารถเติบโตได้จริง ความร่วมมือกับทีวา เวนเจอร์ จะทำให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงความเชี่ยวชาญและเครือข่ายจากนักลงทุนทั้งญี่ปุ่นและยุโรปได้อย่างเป็นระบบ”

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยงนักลงทุนกับกิจการไทย แต่ยังถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง และยกระดับศักยภาพของ SMEs ไทยให้พร้อมแข่งขันในเวทีโลกอย่างยั่งยืน”

นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีแผนจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การอบรมเชิงลึก และกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อร่วมยกระดับศักยภาพของ SMEs ไทยให้เตรียมความพร้อมสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

ทีวาเวนเจอร์ #รมนต์อร #MA&P #ที่ปรึกษาการลงทุน #เอสเอ็มอี #สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย #นิฮอนเอ็มแอนด์เอ #NihonM&A

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผวจ.ศรีสะเกษเปิดงานทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี 2568 เชิญชวนให้มา ลิ้มรส “ทุเรียนภูเขาไฟ หอมหวานละมุนลิ้นกลิ่นไม่ฉุน

แชร์เนื้อหานี้

เชิญเที่ยวชม ลิ้มรส “ทุเรียนภูเขาไฟ หวานมัน เนียนนุ่ม” ไม่เหมือนใคร กับเต็นท์ติดแอร์ขนาดใหญ่ บรรยากาศที่เย็นฉ่ำ กับเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน 2568 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
***เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน 2568 เพื่อประชาสัมพันธ์ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพ เพิ่มช่องทางการการตลาด อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษด้วย มี นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานฯ ในครั้งนี้

***นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษถือได้ว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของอีสานใต้ เพราะนอกจากเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ หอมแดง กระเทียม ที่มีคุณภาพมาตรฐานจนได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งปลูกผลไม้คุณภาพดี โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัด และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เนื่องจากปลูกในพื้นที่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์จากดินลาวา และความชุ่มชื้นแนวป่าเทือกเขาพนมดงรัก ในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ขุนหาญ และศรีรัตนะ ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุเรียนภูเขาไฟจึงเปรียบเสมือนหัวรถจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนภาคการเกษตร รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและการบริการ เช่น ที่พัก ร้านอาหาร และอื่นๆ ให้ได้รับประโยชน์ไปด้วย โดยในปี 2568 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 20,550 ตัน มูลค่าผลผลิต 2,856,450,000 ล้านบาท จังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดจัดงานเพื่อประชาสัมพันธ์ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพ เพิ่มช่องทางการการตลาด อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย

***นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้ขับเคลื่อนวาระจังหวัดเพื่อเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน บรรลุวิสัยทัศน์ “ดินแดนเกษตรปลอดภัย การค้า การท่องเที่ยวครบวงจร” ซึ่งจังหวัดได้ให้ความสำคัญกับสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะทุเรียนภูเขาไฟจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผลไม้ที่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่มีรสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมปานกลาง เนื้อละเอียด เนียนนุ่ม แห้ง สีเนื้อเหลืองสม่ำเสมอทั้งผล ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ให้กับเกษตรกร และทุกภาคส่วนในจังหวัดอย่างทั่วถึง

***สำหรับกิจกรรม ภายในงานประกอบด้วย การจำหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีคุณภาพและมาตรฐาน จากเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่ม OTOP วิสาหกิจชุมชน Young Smart Farmer และกลุ่มองค์กรเกษตรกร นำมาจำหน่ายโดยตรงให้กับผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการประกวดผลผลิตทางการเกษตร อาหารจากทุเรียน และสิ่งประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากทุเรียนและสิ่งเหลือใช้จากทุเรียน และจุดที่สำคัญคือ ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนจัดในปีนี้ ทางจังหวัดได้มีการจัดเต็นท์ขนาดใหญ่ ติดแอร์ ดั่งให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน ได้เที่ยว ชม ชิมทุเรียนภูเขาไฟ ในห้างสรรพสินค้า แอร์ที่เย็นฉ่ำ สัมผัสกลิ่นอายของชาวศรีสะเกษ ผ่านสินค้าโอท็อป งานนี้พลาดไม่ได้
/////////////////////////////////////////
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / นายกเทศมนตรีตำบลสามง่าม พร้อมคณะ นำพวงมาลัยสักการะ หลวงพ่อเต๋ คงทอง เพื่อเป็นสิริมงคล

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลา 09.09 น. เนื่องในโอกาส เข้ารับตำแหน่งวันแรก หลังจาก กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามง่าม นายสมรัก มีใจดี

นายกเทศมนตรีตำบลสามง่าม พร้อมด้วย นาย จิราวัฒน์ ปึงสุขสมบูรณ์ ประธานสภาเทศบาลสามง่ามพร้อม คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล นำพวงมาลัยมา

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บริเวณด้านหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลสามง่าม และมณฑปหลวงพ่อเต๋ คงทอง บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอดอนตูม เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันแรก
สมคิด พรมมี ผู้สื่อข่าว นครปฐม

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ /ผู้ว่าฯ แพร่ ลงพื้นที่ฝายแม่ยมติดตามสถานการณ์น้ำ สั่งการเข้มทุกหน่วยวางแผนจัดการป้องกันน้ำท่วม

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 #นายสมชัย #เลิศประสิทธิพันธุ์ #ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำยม ณ โครงการฝาย

แม่ยม ตำบลบ้านหนุน อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำจากพื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดที่มีแนวโน้มปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลำน้ำยมที่มีต้นน้ำมาจากจังหวัดพะเยา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดแพร่ในช่วงฤดูฝนนี้

นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่าได้มาติดตามสถานการณ์น้ำที่ฝายแม่ยม เพื่อประเมินศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดแพร่ โดยได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายชลประทาน ดำเนินการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัย และแผนเผชิญ

เหตุในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เช่น การขุดลอกลำเหมือง ลำคลอง และท่อระบายน้ำในชุมชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และลดความเสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่ม

“อย่างไรก็ตามในส่วนของโครงการระยะยาวที่เกี่ยวกับการแก้ไขสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ ก็จะมีการจัดทำโครงการเสนอของบประมาณจากหน่วยงานส่วนกลาง เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า โดยจะประสานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยใน

การใช้ระบบเตือนภัยผ่านเครือข่ายประชาสัมพันธ์ในระดับพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้จังหวัดแพร่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยมีแผนการรับมือในทุกระดับ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำยม

“สมจิตร แสงบัลลังก์ รายงาน ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่ ภาพ/ข่าว 061-595-5297

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผู้ว่าฯจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในการแผนปฏิบัติการเฉพาะกิจการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังจังหวัดศรีสะเกษ

แชร์เนื้อหานี้

***เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 มิ.ย. 68 ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการแผนปฏิบัติการเฉพาะกิจการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นการซักซ่อมการทำงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ส่วนหลัง เพื่อให้แต่ละส่วนมีความพร้อมในทุกๆด้านเมื่อเกิดเหตุการความไม่สงบในชายไทย-กัมพูชา ของจังหวัดศรีสะเกษ ขึ้นมา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี***หลังจบการประชุม นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ภาพรวมในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดศรีสะเกษยังคงปกติดี โดยมี 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกันทรลักษณ์ อำเภอภูสิงห์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอขุขันธ์ เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยกลุ่มที่ 1 ที่ใกล้พื้นที่ชายแดนมากที่สุด ซึ่งจากการลงพื้นที่ชายแดนพี่น้องประชาชนด้านชายแดนทุกคนยังมีขวัญและกำลังที่ดี ชาวบ้านทุกคนรู้หน้าที่ที่ดีว่าจะทำอะไรเมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น พี่น้องในพื้นที่ชายแดนต่างตื่นรู้ แต่ไม่ตื่นกลัวกับเหตุการ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางจังหวัดศรีสะเกษของเราพร้อมที่เข้าไปช่วย และสนับสนุนในสิ่งที่พี่น้องประชาชนขาดในทุกๆด้าน


***ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของหลุมหลบภัยในพื้นที่ตอนนี้ ได้มีการสั่งการให้นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ เข้าไปตรวจดู ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน จุดไหนยังไม่พร้อม ก็จะได้ส่งกำลัง เครื่องจักร เข้าไปช่วยเหลือ โดยตอนนี้มี อบจ.ศรีสะเกษ ได้ส่งชุดเครื่องจักรกลหนัก เข้าพื้นที่ชายแดนแล้ว เพื่อช่วยปรับปรุงพื้นที่ ซ้อมแซ่ม หลุ่มหลบภัยที่พัง ชำรุดเสียหาย แต่ยังไม่มีการสร้างหลุมหลบภัยเพิ่มเติม ทั้งนี้อย่างจะฝากถึงพี่น้องตามแนวชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ไม่ต้องห่วงเพราะทางจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมที่จะช่วยเหลือ สนับสนุน พี่น้องประชาชนทุกคน นอกจากนี้พี่น้องที่อยู่นอกพื้นที่ก็ห่วงใย และพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกเมื่อ ดังคำว่า พี่น้องศรีสะเกษ ไม่ทิ้งกัน
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์