คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว

สื่อรัฐทีวี/งานฌาปณกิจศพนายกฤษฎา รัสดาดาล

แชร์เนื้อหานี้

วันเสาร์ ที่ 28 ธ.ค.65 เวลา 13.00 น.นายสิงหภณ ดีนาง ส.ส.เขต 6 จังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เดินทางเป็นประธานในพิธีฌาปณกิจศพนายกฤษฎา รัสดาดาล ณ วัดศรีบุญเรือง บ้านหนองกุง-โนนรัง ตำบลหนองเขียด อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จากกรณีลูกชายเสียชีวิตถูกยิงด้วยกระสุนปืน

ตามที่เป็นข่าว มีแขกผู้มีเกียรติร่วมงานจำนวนมาก เช่น นายกิจทวี มาเพ็ชร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเขียด นายกิตติศักดิ์ นามนัย รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเขียด นายปรีชา อุ่นสวัสดิ์ กำนันตำบลหนองเขียด ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และเพื่อนๆ

นางกองแก้ว รัสดาดาล มารดา ได้ร้องเรียนผ่าน นายสิงหภณ ดีนาง ส.ส.ขอนแก่น เขต 6 พรรคเพื่อไทย จากกรณีคนร้ายยิงลูกชายตนเสียชีวิต

win สื่อรัฐทีวี ภาพ/ข่าว

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “นายกรัฐมนตรี” เปิดกล่อง 5 ของขวัญปีใหม่จาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ประชาชน

แชร์เนื้อหานี้

นายกรัฐมนตรีเปิดนิทรรศการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2568 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5 โครงการเพื่อความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้การต้อนรับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดนิทรรศการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2568 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มอบให้แก่ประชาชน ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีจเรตำรวจแห่งชาติ , รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร. และข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมต้อนรับ

ของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2568 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มอบให้แก่ประชาชน จำนวน 5 โครงการ ได้แก่

1. โครงการ Cyber Check : เป็นแอปพลิเคชันที่จะช่วยคัดกรองมิจฉาชีพจากเบอร์โทรปริศนาที่โทรเข้ามา รวมทั้งใช้ตรวจสอบเลขบัญชีธนาคารก่อนจะโอนเงิน โดยใช้ฐานข้อมูลโดยตรงจากระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

2. โครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน นักท่องเที่ยว ผ่านแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police : แอปพลิเคชันแนะนำข้อมูลข่าวสารแก่นักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างปลอดภัย ให้นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อตำรวจท่องเที่ยว แจ้งเหตุฉุกเฉิน และแชร์โลเคชันแบบออนไลน์ เพื่อรับความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที

3. โครงการบูรณาการระบบบริหารรับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยว 1155 และศูนย์ประสานงานการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวแบบรวมศูนย์ : เมื่อนักท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน สามารถประสานผ่านตำรวจท่องเที่ยว หมายเลข 1155 พร้อมกับนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว การปฏิบัติการฉุกเฉิน

4. โครงการส่วนลดพิเศษสำหรับที่พัก The Cop Hotel and Villa Pattaya : สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีที่พักติดทะเล ริมถนนใหญ่ในพื้นที่ ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเปิดให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าพักได้ ในราคาพิเศษ

5. โครงการห้องพักทั่วไทย จากใจตำรวจทางหลวง 205 แห่ง ทั่วประเทศ : ตำรวจทางหลวงมีการให้บริการสำหรับผู้เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ สามารถพักผ่อนระหว่างการเดินทางไกลอย่างปลอดภัย ณ 205 หน่วยบริการตำรวจทางหลวง เข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2567 ถึง 10 มกราคม 2568 รวมทั้งมีจุดกางเต็นท์สำหรับสายแคมป์ปิ้ง โดยบริการฟรีทั่วประเทศ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน และขอบคุณเจ้าหน้าที่และตำรวจทุกนายที่ได้ร่วมกันทำงานขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา ขอให้ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ ตรวจตรา ดูแลรักษาความปลอดภัยและการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ต่อไป

#ของขวัญปีใหม่2568

#ปีใหม่2568

#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ชาวคริสต์คาทอลิกบึงกาฬ จัดขบวนแห่ดาวคึกคักกว่า50คัน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อค่ำวันที่ 25 ธ.ค. บาทหลวงเปาโล ประเสริฐ คุณโดน เจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟกรรมกร ที่เป็นวัดคริสต์ศาสนนิกชนนิกายโรมันคาทอลิก บ้านชัยพร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้ร่วมกันจัดงานแห่ดาว เพื่อเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า ซึ่งดาวเป็นสัญลักษณ์ของการบังเกิด ตามตำนานในช่วงเวลาที่พระเยซูประสูตินั้น เหล่าโหราจารย์ได้มองเห็นดาวลักษณะพิเศษ ที่มีความสุกสว่างกว่าดาวทั่วไปปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

จึงออกเดินทางตามแสงของดาวดวงนั้น จนได้ไปพบกับสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้า ที่เมืองเบธเลเฮม ประเทศปาเลสไตน์ นับแต่นั้นมาชาวคริสต์จึงถือว่า “ดาว” คือ สัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซูเจ้า จึงมีการริเริ่มประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาสเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นั้น และแสดงถึงความเชื่อความศรัทธา การส่งมอบความสุขความรื่นเริง ความรักความสามัคคี และถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวคริสต์ด้วย

การแห่ดาวในวันนี้เป็นการรวมเอาผู้ที่นับถือศรัทธาในพระเยซุหรือคริสต์ศาสนาตามวัดต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดบึงกาฬ มาร่วมแห่ขบวนด้วย มีการตกแต่งประดับประดาวและคมไฟติดตั้งบนรถ มีทั้งรถมอไซค์พ่วงข้าง รถอีแต๊ก รถไถนา รถปิกอัพและรถบรรทุก 6 ล้อร่วม 100 คันแห่ไปตามชุมชนต่างๆ ในตำบลชัยพร สิ้นสุดที่วัดนักบุญอักแนส บ้านห้วยเซือมใต้ วัดนักบุญมัทธิว บ้านกลาง ก่อนจะกลับเข้าไปในวัดนักบุญยอแซฟ เพื่อเฉลิมฉลอง

นอกจากนี้ในงานยังมีโรงทานนำอาหารไปแจกจ่ายผู้มาร่วมกัน มีทั้งส้มตำ ผัดหมี่ ข้าวราดแกงและทีขาดไม่ได้คือข้าวจี่ทาไข่คนปิ้งแทบทำไม่ทัน บนเวทีมีกิจกรรมการแสดงของน้องๆ หนูๆ หลายโรงเรียน ทั้งการแสดงประวัติการกำเนิดของพระเยชู และเต้นประกอบเพลง ทำเอาผู้ปกครองต้องคักเงินจ่ายเป็นกำลังใจจำนวนไม่น้อย

ด้านบาทหลวงเปาโล ประเสริฐ คุณโดน เจ้าอาวาสกล่าวว่า ที่เลือกจัดงานวันนี้ก็เนื่องจากวันที่ 24- 25 ธ.ค. ปล่อยให้วัดในชุมชนต่างๆ จัดงานแห่ดาวกันเองในชุมชนตนเองก่อน พอวันนี้จึงมาร่วมกันจัดงานแห่ดาวในภาพรวมของจังหวัดอีกครั้ง เพื่อแสดงออกถึงความรักความสามัคคีของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / มักง่ายจุดไฟเผาขยะข้างกองยาง​ ลุกลามไหม้เป็นกองเพลิง / ตะลึง! ขุดเจอพระพุทธรูปเงินโบราณ ฝังอยู่ใต้ดินที่นาบ้านท่าไคร้

แชร์เนื้อหานี้

พนักงานร้านยางจุดไฟเผาขยะกองเล็กๆก่อนจะลามไปไหม้กองยางรถยนต์ที่กองรวมกันไว้หน้าร้านจนกลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องช่วยกันระดมฉีดน้ำ ระงับเหตุ โชคดีเหตุนี้ไม่มีใครเป็นอะไรมีเพียงเสาไฟฟ้าส่องสว่างถนนของทางหลวงได้รับความเสียหาย

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 12.00 น . เจ้าหน้าที่ดับเพลงเทศบาลเมืองมุกดาหารได้รับแจ้งเหตุเกิดไฟไหม้บริเวณริมถนนบายพาสเมืองมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร เป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ควันดำปกคลุมไปทั่วบริเวณดังกล่าวทำให้รถที่วิ่งผ่านไปมาต้องจอดก่อนเพราะมองไม่เห็นทางเนื่องเกิดควันดำปกคลุม หลังจากได้รับการแจ้งเหตุทางเทศบาลได้นำรถดับเพลิง4คันเข้าระงับเหตุโดยใช้เวลาประมาณ​ 30นาทีจึงสามารถดับไฟได้ซึ่งจาการตรวจสอบไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและพบว่าเสาไฟฟ้าส่องสว่าง ของแขวงทางหลวง บริเวณริมทางได้รับความเสียหาย

นายอดุลย์ ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองมุกดาหาร เปิดเผยว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากสายเหตุความมักง่าย​ โดยทางพนักงานได้เผาขยะใกล้กับกองยางพอเผาแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ในขณะที่มีลมกรรโชกแรง ต่อมาเลยเกิดไฟลามไปถึงกองยางรถยนต์เก่าที่ทิ้งไว้หน้าร้านก็เลยเกิดเหตุดังกล่าวซึ่งการเผาขยะแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆก่อนหน้านี้ ลามไปไหม้หญ้าแห้งริมถนน แต่คราวนี้หวิดเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่โชคดีมากที่ดับทันไม่งั้นน่าจะลามไปหลายจุด​ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีทรัพสินย์ของทางราชการเสียหายคือเสาไฟฟ้าส่องสว่างซึ่งโชคดีมากไม่มีใครบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้

​มุกดาหาร​ -​ตะลึง! ขุดเจอพระพุทธรูปเงินโบราณ ฝังอยู่ใต้ดินที่นาบ้านท่าไคร้

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหาร ว่า ได้มีชาวบ้านท่าไคร้ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ขุดพบพระโบราณบรรจุอยู่ในไหฝังอยู่ใต้ดินบริเวณที่นาของนายบุญนำ พิกุลศรี อายุ 55ปี บ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 7 ตำบลนาสีนวน เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น ของวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยระหว่างที่ได้มีการนำรถไถเข้ามาปรับที่นา ขณะได้มีการขุดดินลึกลงไปต่ำกว่าพื้นที่เดิม ผานไถได้ไปกระทบกับของแข็งบางอย่างคล้ายหินจึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบพบว่าเป็นไหขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 40 เซนติเมตร สูง 60 เซนติเมตร มีดินโบกปิดทับปากไหไว้ เมื่อนำแกะดินออกพบมีพระพุทธรูปบรรจุอยู่ด้านในจึงได้แจ้งเจ้าอธิการสมนึก เจ้าอาวาสวัดศรีไคร้ทุ่ง และชาวบ้านมาร่วมกันตรวจดู

เจ้าอธิการสมนึก กล่าวว่า พระพุทธรูปที่ขุดพบเรียกว่า พระบุเงินโดยเป็นพระโบราณ ซึ่งทำขึ้นจากการนำไม้มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปแล้วนำไปชุบเงิน พระพุทธรูปไม้แกะสลัก และสัมฤทธิ์ โดยการขุดพบครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่าบริเวณหมู่บ้านท่าไคร้ เป็นชุมชนเก่าแก่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ได้มีชาวบ้านขุดพบเจอถ้วยชามโบราณบริเวณดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้พระพุทธรูปโบราณที่ขุดพบ ได้นำส่งให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรดำเนินการตรวจสอบให้ทราบถึงอายุ และจะได้นำกลับมาตั้งประดิษฐานไว้ที่วัดเพื่อให้ประชาชนได้มาสักการะบูชาต่อไป

ขุดพบพระโบราณ #พระบุเงิน #บ้านท่าไคร้ #มุกดาหาร

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / “สวนสวรรค์ฟาร์ม”รับมอบใบรับรองมาตรฐานพื้นที่เกษตรอินทรีย์ SCE PGS  / ชาวบ้านลุกฮือ ค้านคณะสงฆ์ปลดเจ้าอาวาสวัดดัง “โบสถ์เหรียญบาท” ที่ทับสะแก

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 22 ธ.ค. 67 ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สวนสวรรค์ฟาร์ม หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของ คุณแก้วตา จันทร์วีระชัย นักธุรกิจเจ้าของกิจการมีชื่อในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผันตัวเองลงมาทำสวนเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่กว่า 80 ไร่ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการจัดการอย่างเป็นระบบในการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและชาวเกษตรกร หวังให้ชาวบ้านในพื้นที่บางราย มีพื้นที่ทำกินทางการเกษตร ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อนำกลับไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวอยู่อย่างพอเพียง โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรคอยแนะนำให้ความรู้ ในการทำเกษตรผสมในพื้นที่แปลงน้อยโดยไม่ใช้สารเคมี และได้มีโอกาสร่วมเป็นสมาชิก

รับมอบใบรับรองแบบมีส่วนร่วม ความเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการรับประทานผลิตผลที่ปลอดสารพิษ ซึ่งทางศูนย์การเรียนรู้ฯ สวนสวรรค์ฟาร์ม จะมีการจัดกิจกรรมและพิธีมอบหนังสือรับรองพื้นที่เกษตรอินทรีย์ แบบมีส่วนร่วมความเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SCE PGS ให้กลุ่มสมาชิกในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประจำทุกปี โดยมีนายณรงค์พงษ์ โพธิสมบัติ ประธานบริษัทประชารัฐรักษ์สามัคคี นายณรงค์ คงมาก กรรมการบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม นายนันทปรีชา คำทอง ประธานเครือข่ายสามอ่าวเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติ และนางสาว นิชาภา สุวรรณนาค  สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันเป็นประธานมอบหนังสือรับรองมาตรฐานพื้นที่เกษตรอินทรีย์ SCE PGS ให้กลุ่มสมาชิกที่ได้รับการรับรอง ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สวนสวรรค์ฟาร์ม  หมู่ 2  ต.อ่าวน้อย จ.ประจวบฯ

น.ส.แก้วตา จันทร์วีระชัย หรือเจ๊แก้วตา เจ้าของสวนสวรรค์ฟาร์มเล่าว่า  ตนเห็นว่าพื้นที่ในที่ดิน กว่า 80 ไร่ เป็นที่ว่างเปล่าปล่อยรกร้างไว้ไม่เกิดประโยชน์อะไร หลังรัฐบาลปลดล๊อคกัญชา คิดว่าจะใช้เป็นพื้นที่ปลูกกัญชา แต่ก็ยังติดปัญหาหลายอย่างในทางกฎหมาย หลังจากได้รู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่งทำเกี่ยวกับเรื่องเกษตรอินทรี จึงลองไปศึกษาหาความรู้ บางส่วนก็ศึกษาเรียนรู้จาก YouTube บ้าง นำไปลองปฏิบัติตามจนเกิดผลผลิต หวังแค่เพียงเพื่อไว้รับประทานกันเองในครอบครัว ทั้ง ๆ ที่ตนไม่เคยมีความรู้ทางการเกษตรแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อตนได้เห็นชาวบ้านในพื้นที่บางรายขาดโอกาสการทำอาชีพเกษตรกร เนื่องจากไม่มีที่ดิน จึงมีแนวคิดที่จะให้เขาได้ใช้พื้นที่เพาะปลูกและเรียนรู้การทำเกษตรแนวใหม่แบบผสมผสานปลอดสารพิษ และด้วยที่ตนเองเป็นคนรักสุขภาพอยู่แล้ว อยากเห็นทุกคนมีสุขภาพที่ดี

ได้รับประทานอาหาร พืชผัก ผลไม้ ที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ แนวคิดนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ตนเองเปลี่ยนที่ดินว่างเปล่าให้เป็นสวนเกษตร ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐตั้งเป็น “ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สวนสวรรค์ฟาร์ม ต่อมามีการรวมตัวก่อตั้งกลุ่มรักสุขภาพ โดยการรวบรวมชาวบ้านและกลุ่มคนที่สนใจเข้าร่วมได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ศึกษาวิธีการทำสวนเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร และนำกลับไปต่อยอด หรือเพราะปลูกไว้รับประทานเอง หรือจะนำกลับมาส่งขายที่ศูนย์การเรียนรู้ สวนสวรรค์ฟาร์มได้อีก

เนื่องจากผลผลิตปลอดสารพิษเกษตรอินทรีย์มีความต้องการทางการตลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งทางกลุ่มเรามีการจัดการแบบครบวงจร โดยเอาผลิตผลที่ได้บางส่วนมาแปลรูป เป็นผลิตภัณฑ์ บรรจุหีบห่อเป็นสินค้าส่งออกไปจำหน่ายต่อ ตามศูนย์โอทอปพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งตลาดรับซื้ออีกหลายแห่ง เนื่องจากผลผลิตมีคุณภาพได้รับการรับรองให้เป็นเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษไม่ใช้สารเคมี โดยทางเรามีกระบวนการตรวจสอบผลิตผลที่กลุ่มสมาชิกนำมาส่งที่ศูนย์ มีคณะกรรมการ มีประทาน และมีการจัดการอย่างเป็นระบบ  ตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 

ชาวบ้านลุกฮือ ค้านคณะสงฆ์ปลดเจ้าอาวาสวัดดัง “โบสถ์เหรียญบาท” ที่ทับสะแก

วันที่ 23 ธ.ค.67 ที่วัดบ้านทุ่งเคล็ด ( วัดโบสถ์เหรียญบาท ) ตำบลนาหูกวาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านนับร้อยคนได้มารวมตัวคัดค้าน จากกรณีคณะสงฆ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีมติปลด พระครูปลัดอาทิตย์ อิสสรญาโณ (ทัพประเสริฐ) อายุ 49 พรรษา เจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งเคล็ด อำเภอทับสะแก หรือที่ชาวงบ้านรู้จัก “วัดอุโบสถ์เหรียญบาท” วัดชื่อดังของอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยมี คำสั่ง เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรื่อง ถอดถอนพระสังฆาธิการออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ที่ ๒๘ / ๒๕๖๗ ตามที่เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีคำสั่งที่ ๒๔ / ๒๕๖๗ เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและสอบสวนเจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งเคล็ด ฐานละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง ลงวันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗ คณะกรรมการได้ตรวจสอบและสอบสวนหาข้อเท็จริงแล้ว และมีมติให้ถอดถอน พระสมุห์อาทิตย์ อิสฺสรญาโณ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งเคล็ด ฐานละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง และได้รายงานผลการสอบสวนและมตินั้น เสนอเจ้าคณะตำบล และเจ้าคณะอำเภอพิจารณาวินิจฉัย เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบลพิจารณาวินิจฉัยแล้ว

เห็นชอบให้เสนอถอดถอน พระสมุห์อาทิตย์ อิสสรญาโณ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาวาส วัดบ้านทุ่งเคล็ด ตามข้อเสนอของคณะกรรมการ บัดนี้ เจ้าคณะอำเภอได้รายงานเสนอพร้อมด้วยเอกสารผลการสอบสวน ขอให้เจ้าคณะจังหวัดพิจารณาถอดถอน พระสมุห์อาทิตย์ อิสสรญาโณ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านทุ่งเคล็ด เจ้าคณะจังหวัดพิจารณาแล้วเห็นชอบตามที่เสนอ อาศัยอำนาจตามความใน ข้อ ๕๕ แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ.)๒๕๔๑ ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ( ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ.๒๕๓๕ จึงถอดถอน พระสมุห์อาทิตย์ อิสสรญาโณ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่งเคล็ด ตำบล นาหูกวาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

น.ส.อมรทิพย์ ภู่ระย้า แกนนำชาวบ้าน ชาว กทม.และเป็นโยมอุปถัมป์วัดบ้านทุ่งเคล็ด กล่าวว่า ตนเองและเพื่อนๆ ได้เป็นประธานทอดกฐินเมื่อออกพรรษาที่ผ่านมา วันนี้พวกตนเองได้มาคัดค้านการปลดเจ้าอาวาสองค์เก่า (พระครูปลัดอาทิตย์ อิสสรญาโณ )และคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสองค์ใหม่ จากการที่พระครูปลัดอาทิตย์ ถูกกล่าวหา ว่าชักปืนยิง / ไม่นำเงินวัดเข้าบัญชีวัด / และการถูกชาวบ้านร้องเรียนเรื่องยืมเงินญาติโยม /โดยเฉพาะเรื่องยืมเงินโยมในการก่อสร้างอุโบสถเหรียญบาท ซึ่งตามที่เคยตกลงกันทางวัดจะมีงานปิดทองฝังลูกนิมิต ถึงคืนเงินให้ โดยชาวบ้านคิดว่าการถูกปลดครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องผลประโยชย์ภายในวัด ซึ่งหลังจากสร้างโบสถ์เหรียญบาท ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก

///////////////////////////////

ทีมข่าวเฉพาะกิจ / จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ศึกเลือกตั้งอบจ.เชียงรายเดือด เพื่อไทยคว้าเบอร์2 “นก”อธิตาธร คว้าเบอร์1 พาขุนพล สองขั้วหาเสียงเลือกตั้งทุกเขต

แชร์เนื้อหานี้

ศึกเลือกตั้งอบจ.เชียงรายเดือดบ้านใหญ่ชนกัน กองเชียร์กระหึ่ม!! สองฝั่งหน้าสถานที่รับสมัคร สลักจฤฎดิ์ เพื่อไทยคว้าเบอร์2 “นก”อธิตาธร คว้าเบอร์1 พาขุนพล สองขั้วหาเสียงเลือกตั้งทุกเขต ส่วนผู้สมัครไปไม่สังกัดพรรค สู้ไม่ถอย กลุ่มชาติพันธุ์แห่ให้กำลังใจผู้สมัคร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งองค์บริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เปิดรับสมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ณห้องคชสาร ศูนย์การเรียนรู้และนันทนาการ อบจ.เชียงราย

ระหว่างวันที่23-27ธันวาคม67 ในวันดังกล่าวมีผู้สังเกตการรับสมัคร อาทิผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย นายชริทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายใจฯลฯบรรยากาศการรับสมัครเลือตั้งมีบรรดาผู้สมัคร สองขั้วการเมืองใหญ่ เดินทางมารอการรับสมัครเลือกตั้งทั้งส่วนของนายกอบจ.และส.อบจ และมีกองเชียร์ผู้สนับสนุนเตรียมป้ายชูเบอร์หาเสียงและพวงมาลัยดอกดาวเรืองเพื่อสวมอวยพรขัยให้กับผู้สมัครที่ตนเองสนับสนุนมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า
หลังจากนั้นเวลา8โมงตรง

ทางกองการรับสมัครไดเรียกให้ผู้สมัครทั้งหมดเข้าห้องและอธิบายหลักเกณฑ์การรับสมัครให้ผู้สมัครทั่งในส่วนของนายกอบจ.และส.อบจ การตรวจความพร้อมเอกสารการสมัคร โดยคณะกรรมการผู้รับสมัครได้เรียงลำดับการสมัครนายก อบจ.เป็นอันดับแรก ที่มีเข้าไปสมัคร วันแรกคือนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช สังกัดพรรคเพื่อไทย และนางอธิตาธร วันไชยธนะวงศ์ ไม่สังกัดพรรคการเมือง ใส่เสื้อสีขาว คอชมพูประทับตรานก ทำได้ นั่งเตรียมความพร้อมเพื่อจะทำการจับฉลากหมายเลขประจำตัว เนื่องจากทั่งคู่มาพร้อมกันและไม่สารถตกลงกันได้จึงใช้วิธีจับฉลาก ผลของการจับฉลากปรากกว่านางอธิตาธร ได้เบอร์ นางสลักจฤฎดิ์ได้เบอร์ 2 จากนั้นทั้งคู่ได้เดินลงมายื่นใบสมัครตรวจหลักฐานการสมัครจนเสร็จสิ้นกระบวนการสมัคร

ในส่วนของส.อบจจำนวน36เขตเลือกตั้งมีสังกัดทีมเพื่อไทยครบ36เขต ส่วนสังกัดทีม นกทำได้ส่งครบ36เขตเช่นกัน นอกเหนือนั้นเป็นผู้สมัครอิสระไม่สังกัดพรรคการเมืองใด มีทั้งพี่น้องชนเผ่าชาติพันธ์ุ ในบางเขตก็สามารถตกกันได้ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถตกลงกันได้ คณะกรรมการรับสมัครใช้วิธีจับฉลาก2ครั้งเพื่อได้เบอร์และให้ยื่นหลักฐานการสมัครมีการเซ็นยินยอมตรวจประวัติคุณสมบัติผู้สมัครตามประกาศ ไม่ต้องเดินทางไปยังตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แต่หากกรอกเอกสารให้การเท็จก็จะมีโทษตามกฎหมายทันที มีอัตราโทษปรับสูง โดยทางคณะกรรมการรับสมัครจะประกาศรับรองหรือไม่รับรองผ่านเวปไซด์ ภายใน7วันหลังการรับสมัคร

บรรยากาศบริเวณภายนอกอาคารมีกองเชียร์ทั้งสองฝั่ง ทั้งพรรคเพื่อไทยและ และฝั่งนก อธิตาธร ถือป้ายและพวงมาลัยรอสวมคอผู้สมัครนายกอบจ. และส.อบจ เสียงกึกก้องสนั่น ท่ามกลางการรักษาความสงบของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ดารรับสมัครใช้เวลานานเรื่องจากกรรมการรับสมัครต้องตรวจหลักฐานฐานการรับสมัครอย่างละเอียดก่อนที่จะออกใบเสร็จรับเงิน จนทำให้ผู้สมัครบางที่มีโรคประตัวอาทิเช่นเบาหวานมีอาการกำเริบต้องมีการเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

ส่วนผูัสมัครนายกอบจ.นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไฟรัช หลังยื่นใบสมัครเสร็จสิ้นกระบวนการได้เดินทางออกจากสถานที่รับสมัคร โดยมีมวลชนกลุ่มเสื้อแดงและประชาชนที่ให้กำลังใจชูป้ายเบอร์ 2 ดังสนั่น สนับสนุนส่งแรงเชียร์เป็นนายกอบจ.คนใหม่ จากนั้นได้เดินทางกลับเพื่อไปตั้งขบวนแห่ป้ายหาเสียงจากที่ตั้งศูนย์อำนวยการพรรคเพื่อไทยสนามกีฬาฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด หน้าสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวงเชียงราย

ในส่วนนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์หลังยื่นและตรวจหลักฐานการสมัครเสร็จสิ้นกระบวนการได้พาผู้สมัครทั้งหมดออกจากห้องคชสารสถานที่รับสมัคร มีมวลชนยื่นถือป้ายและพวงมาลัยสวมคอ ยืนรอเรียงแถวยาวเหยียดส่งเสียง คำว่า”นกทำได้ “เบอร์ 1 ลั่นหน้าอาคารจากนั้นเดินทักทายกองเชียร์ที่มารอให้กำลังใจอย่างล้นหลาม

ส่วนสมาชิกว่าที่ส.อบจได้เดินตามออกไปทักทายมวลชนและกองเชียร์แต่ละเขตต่างสวมมาลัยดอกดาวเรืองถ่ายรูปจากนั้นได้ขึ้นรถแห่ป้ายออกจากสถานที่รับสมัครเข้าทักทายประชาชนในตัวเมืองเชียงรายไปสิ้นสุดที่ทำการศูนย์ประสานงานเลือกตั้งตำบลบ้านดู่หน้าปั้มปตท.ถนนเบี่ยง้หมืองเชียงราย

ผู้สื่ข่าวรายงานว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการต่อสู้อย่างรุนแรงเนื่องจากพรรคเพื่อไทยโดยพ่อใหญ่ทักษิณ ชินวัตรฝ่ายรัฐบาลจะลงไปปราศัยใหญ่ในพื้นที่เชียงราย ช่วยหาเสียงให้นางสลักจฎดิ์ซึ่งคาดว่าจะเป็นพื้นที่เขตอำเภอเทิง ซึ่งเป็นฐานที่มั่น นางอธิตาธร วันไชยธนะวงศ์ เบอร์1ท่ามกลางผู้คนนับหมื่น ส่วนฝั่งนางอธิตาธร ผู้สมัครเบอร์1 จะมีแผนแก้เกมส์ และกลยุทธหาเสียงเพื่อรักษาฐานที่มั่นในฐานะอดีตนายกอบจ.เชียงรายหมาดๆ

ส่วนทีมชุดสืบสวนสอบสวนสำนักคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดเชียงรายได้เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบการกระผิดกฎหมายเลือกตั้งครั้งนี้แล้วและนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้เข้าสังเกตุการณ์การรับสมัคร ได้กำชับให้ผู้อำนวยการ คณะกรรมการผู้รับสมัครเข้มงวด ผู้สมัครปฏิบัติตามกติกาเลือกตั้ง การเลือกตั้งต้องมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมข่าวความคืบหน้าการเลือกตั้งครั้งนี้ก่อนที่จะมีการลงคะแนน ในวันที่1ก.พ.2568 ใครจะชนะเลือกตั้งเป็นนายก และส.อบจ. ชี้ชะตาจังหวัดเชียงราย จะนำเสนอให้ทราบต่อไป.

ธนกฤต วรรมณี ข่าวเชียงรายรายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /“เฉลิมชัย” ติดตามการทำหมันลิงเขาช่องกระจก/บลูพอร์ต หัวหิน” ชวนตักบาตรส่งท้ายปีรับโชคดีปีใหม่ 2568/บลูพอร์ต หัวหิน” ชวนตักบาตรส่งท้ายปีรับโชคดีปีใหม่ 2568/ผู้การภาค 7 สั่งระดมทีมสืบสวนควานหาตัวผัวเก่ายิงผัวใหม่ดับ 2 เจ็บ 1/หาชมยาก ช้างป่ากุยบุรีพลอดรักกลางธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.67 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม โครงการการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าในเมืองโดยการควบคุมประชากรลิง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่บริเวณพื้นที่เขาช่องกระจก อ.เมือง จ.ประจวบฯ มี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม ให้การต้อนรับ

โดย รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งประกอบด้วยจุดตรวจคัดกรองสุขภาพลิง จัดทำประวัติ ก่อนดำเนินการทำหมันลิงทั้งเพศผู้และเพศเมีย จากนั้นจะมีการสักทำสัญลักษณ์ที่แขนของลิงที่ทำหมันแล้ว บางตัวหากตรวจพบเป็นโรคสัตวแพทย์จะให้ยารักษา ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 – 30 ธ.ค.67 มีเป้าหมายทำหมันลิงจำนวน 300 ตัว พร้อมกันนี้ ดร.เฉลิมชัยได้มอบถุงยังชีพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมระบุว่า จะมีการเคลื่อนย้ายลิงแสมเขาช่องกระจกบางส่วนไปไว้ที่กรงพักพิงลิงที่ทางกรมอุทยานฯ ได้จัดเตรียมไว้ที่หัวหินเพื่อลดจำนวนลิงลง โดยโครงการการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าในเมืองโดยการควบคุมประชากรลิง เป็นไปตามนโยบายแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อควบคุมประชากรลิงไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้นจนสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว.

นายภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์สัตว์ป่า ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กระบวนการทำหมันลิงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาลิงแสมเขาช่องกระจก ซึ่งจะเขื่อมโยงไปถึงการดูแลคนและสิ่งแวดล้อมด้วย โดยขณะนี้สามารถจับลิงมาทำหมันได้แล้วกว่า 100 ตัว จากเป้าหมาย 300 ตัว ซึ่งที่โรงพยาบาลสนาม จะมีการคัดกรอง จัดทำประวัติ ทำหมัน ทำบัตรประชาชนลิง จากประสบการณ์ที่ทำหมันลิงมา ลิงจะเป็นหมัน 100% ไม่มีการตั้งท้องอีก ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญของปัญหาลิงคือการที่คนให้อาหารลิงอย่างไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่คนกินซึ่งมีรสชาติหวาน หอม มีพลังงานสูง ทำให้ลิงร่างกายแข็งแรง มีโอกาสขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นทำให้จำนวนประชากรลิงมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่วนการเคลื่อนย้ายลิงบางส่วนไปยังสถานที่ที่มีความเหมาะสมกว่า ทางกรมอุทยานฯ มีโมเดลที่ทำแล้ว

ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อชุมชน รวมทั้งลิงเองก็จะปลอดภัย เพราะจากการตรวจสุขภาพลิงที่ รพ.สนาม พบว่าบางตัวมีลูกแก้วในคอ มีบาดแผลจากการโดนกัด ขนร่วงเป็นขี้เรื้อน บางตัวพบเป็นโรคไต สาเหตุจากอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมโดยเฉพาะด้านโภชนาการ ถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องดูแลสุขภาพ ปรับพฤติกรรม และหาพื้นที่เหมาะสมให้อยู่ หากมีการบริหารจัดการลิง คน สิ่งแวดล้อม เชื่อว่าเขาช่องกระจกจะเป็นแลนมาร์กสำคัญของ จ.ประจวบฯ โดยควรจะเหลือลิงไว้ในจำนวนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปริมาณอาหารในพื้นที่.

บลูพอร์ต หัวหิน” ชวนตักบาตรส่งท้ายปีรับโชคดีปีใหม่ 2568

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.67 ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ เตรียมจัดงานทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระภิกษุสงฆ์จำนวน 99 รูป เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2568 ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ณ ลานเดอะ สแควร์ หน้าศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน โดยงานนี้ถือเป็นงานที่ทางบลูพอร์ต หัวหิน จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี เพื่อให้บุคลากรในองค์กร ร้านค้า ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งร่วมกัน เพื่อเสริมสิริมงคลให้ตนเองและครอบครัว เสริมโชคลาภ และความราบรื่นในชีวิตการงาน ต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึงและร่วมกันส่งเสริมอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป

ในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จ.ประจวบฯ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 99 รูป ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ณ ลาน เดอะสแควร์ บลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ต หัวหิน โทร.032-905111, Facebook: Bluport Hua Hin Official หรือ Line: @Blupor

ผู้การภาค 7 สั่งระดมทีมสืบสวนควานหาตัวผัวเก่ายิงผัวใหม่ดับ 2 เจ็บ 1 ราย ให้ได้โดยเร็วที่สุด คืบหน้าผัวเก่ายิงผัวใหม่ดับ 2 เจ็บ 1 ราย ล่าสุดผู้การภาค 7 สั่งระดมทีมสืบสวนควานหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้ คาดว่าหนีกบดานในป่าชายแดนไทย-เมียนมาร์**

วันที่ 20 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดประจวบรายงานความคืบหน้ากรณีเหตุอดีตผัวเก่าใช้อาวุธปืนดักยิงผัวใหม่ และญาติบาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ในที่เกิดเหตุ คืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ดูแลฝ่ายงานสืบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนทั้งภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรอ่าวน้อย เจ้าหน้าที่ชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปภ.) ประชุมร่วมหารือกับชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรอ่าวน้อย เพื่อวางแผนเร่งติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะหนีกบดานหลบซ่อนตัวอยู่ตามบ้านญาติหรือคนรู้จัก

ในป่าสวนยาง และตามช่องทางธรรมชาติแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ เนื่องจากช่องทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ขบวนการขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติ และโจรกรรมรถจักรยานยนต์ รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายอื่นส่งขายข้ามประเทศพร้อมกันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณที่พบรถจักรยานยนต์ล้มและจุดพบศพผู้เสียชีวิตถูกยิง เพื่อหาพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม ก่อนสืบสวนหาพยานบุคคลจากญาติพี่น้อง และคนรู้จักใกล้ชิดในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว โดยผู้ก่อเหตุชื่อ นายไพศาล คณา หรือเขื่อน อายุ 30 ปี มีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัวอยู่ในพื้นที่บ้านย่านซื่อ หมู่ 12 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น , พยายามฆ่า , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดูแลฝ่ายงานสืบสวน เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับคำสั่งจากรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กำชับให้มาเร่งรัดสอบสวนติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้วซึ่งอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับติดตามจับกุมตัวต่อไป ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นคนที่อื่นแต่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มานาน มีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว และเป็นคนไทย เคยถูกจำคุกมาก่อนและพึ่งพ้นโทษออกมา ซึ่งมูลของการก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวแต่ทางตำรวจยังไม่ได้มีการตัดประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องออกไป ซึ่งอยู่ในสำนวนของการสอบสวน ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้สืบภาค สืบจังหวัด และสืบสวน สภ.อ่าวน้อย สนธิกำลังระดมไล่ล่าจับกุมหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งถ้าหากผู้ก่อเหตุหนีข้ามแดนทางตำรวจได้มีการประสานหน่วยงานความมั่นคงชายแดนในพื้นที่ไว้แล้ว ซึ่งในเบื้องต้นผู้ก่อเหตุกระทำคนเดียวคาดว่าอาจมีปัญหาความแค้นส่วนตัว และเรื่องของชู้สาว

หาชมยาก ช้างป่ากุยบุรีพลอดรักกลางธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว


เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.67 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า มีการบันทึกภาพช้างป่าวัยเจริญพันธุ์ขณะกำลังเกี้ยวพาราสีและผสมพันธุ์กันภายในผืนป่ากุยบุรี จ.ประจวบฯ ซึ่งถือเป็นภาพที่หาชมได้ยาก การเกี้ยวพาราสีช้างเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสามสัปดาห์ของการปรับตัวให้เข้ากับการสืบพันธุ์ของช้างเพศเมีย ซึ่งเรียกว่าวงจรการเป็นสัด และเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการขยายประชากรตามธรรมชาติของช้างป่าในผืนป่ากุยบุรี และสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศของผืนป่ากุยบุรี

การผสมพันธุ์ของช้างป่าจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูหนาว โดยช้างเพศเมียจะเริ่มพร้อมผสมพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 18-20 ปี และจะสิ้นสุดวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุราว 40-50 ปี ทั้งนี้ ช้างเพศเมียจะตั้งท้องนานประมาณ 19-21 เดือน และมักให้กำเนิดลูกครั้งละ 1 ตัว โดยจะมีระยะห่างระหว่างการตั้งท้องแต่ละครั้งประมาณ 3 ปี ตลอดช่วงชีวิตของช้างเพศเมีย 1 ตัว จะสามารถให้กำเนิดลูกได้เฉลี่ย 3-4 ตัว ซึ่งภาพความประทับใจในครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการขยายประชากรตามธรรมชาติของช้างป่าในผืนป่ากุยบุรี และสะท้อนถึงความสำเร็จใน

การอนุรักษ์พื้นที่ป่าที่เป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าและสัตว์ป่านานาชนิด
ผืนป่ากุยบุรีถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของการอนุรักษ์ช้างป่าในประเทศไทย ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าจำนวนมาก การพบเห็นพฤติกรรมการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติเช่นนี้ จึงเป็นความหวังของการดำรงอยู่และการสืบทอดเผ่าพันธุ์ของช้างป่าไทยต่อไป.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781



สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / งาน “ OTOP CITY 2024 Happy Market ” มอบความสุข ด้วยของขวัญล้ำค่า จากภูมิปัญญาไทย”

แชร์เนื้อหานี้

🎈จังหวัดน่าน นำของดีจังหวัดน่านร่วมงาน “ OTOP CITY 2024 Happy Market ” มอบความสุข ด้วยของขวัญล้ำค่า จากภูมิปัญญาไทย” ระหว่างวันที่ 14 – 22 ธันวาคมนี้ ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
🎈กรมการพัฒนาชุมชน จัดงานOTOP CITY 2024 ในระหว่างวันที่ 14 -22 ธันวาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP)

เพิ่มช่องทางการตลาด ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้ชุมชน ตลอดจนเป็นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์โครงการผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สร้างโอกาสกรเรียนรู้และเพิ่มทักษะในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และ OTOP ชวนชิม ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้ให้ชุมชน และในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล

🎈จังหวัดน่าน มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าในงานจำนวน 24 ราย 24 บูท สรุปยอดจำหน่ายงาน “ OTOP CITY 2024 ”
ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ดังนี้

  1. บูท OTOP 3-5 ดาว จำนวน 12 ราย ยอดจำหน่าย จำนวน 169,263 บาท
  2. บูท OTOP ชวนชิม จำนวน 3 ราย ยอดจำหน่าย จำนวน 47,000 บาท
  3. บูทอื่นๆ จำนวน 9 รายได้แก่ OTOP Premium First Lady กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี Rest Area OTOP ขึ้นเครื่อง ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ศิลปิน OTOP กระทรวงอุดมศึกษาฯ และแพทย์แผนไทย ยอดจำหน่าย จำนวน 391,400 บาท
    รวมยอดจำหน่ายประจำวันที่ 18 ธ.ค. 67 👍 รวมทั้งสิ้น จำนวน 607,663 บาท
    ผู้มียอดจำหน่ายสูงสุดประจำวัน 3 อันดับแรก ได้แก่
  4. บริษัท ดอยซิลเวอร์แฟคตอรี จำกัด (บูทศิลปิน OTOP ) ยอดจำหน่ายจำนวน 190,000 บาท
  5. กลุ่มสตรีอนุรักษ์ผ้าน่าน (บูทFirst Lady) ยอดจำหน่ายจำนวน 77,000 บาท
  6. กลุ่มสัมมาชีพบ้านนาทะนุง (บูทกระทรวงอุดมศึกษาฯ) ยอดจำหน่ายจำนวน 30,000 บาท

“OTOP City 2024 Happy Market ” มอบความสุข ด้วยของขวัญล้ำค่าจากภูมิปัญญาไทยOTOPCity2024 #OTOP #OTOPCity2024Happy Marketกรมการพัฒนาชุมชน #CDDกระทรวงมหาดไทย #MOI#CDDNAN #Promotion Group

/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / พลอ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ติดตาม อนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำคลองแม่ข่า ณ น้ำตกมนฑาธาร อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะ

ได้เดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำคลองแม่ข่า ณ น้ำตกมนฑาธาร อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยมีนายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ข้าราชการสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ฝ่ายปกครอง ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

โดยในการนี้ ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำคลองแม่ข่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16

และร่วมจัดทำฝายต้นน้ำ(แบบคอกหมูหินทิ้ง) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ประชาชนและเยาวชน ในพื้นที่จำนวน 3 จุด และเยี่ยมชมน้ำตกมณฑาธาร อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในลำดับถัดมา……

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน.

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / งานรางวัล Siam International Awards 2024 ครั้งที่2 มาดามบิว ขึ้นแท่น ประธานจัดเวทีรางวัลอวอร์ดระดับสากล

แชร์เนื้อหานี้

สุดปัง มาดามบิว Rainbow Entertainment ขึ้นแท่น ประธาน ผู้จัดงานเวทีรางวัลอวอร์ดระดับสากลที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยงานรางวัล Siam International Awards 2024 เป็น ครั้งที่2

เรียกว่างานนี้ แจ้งเกิด สำหรับงานรางวัล ระดับ อินเตอร์เนชั่นแนล กันเลยทีเดียว สำหรับ งานรางวัล Siam International Awards 2024 จัดงานมาได้อย่างยิ่งใหญ่ อลังการ ตั้งแต่ การเดินเปิดตัวพรมแดง มีดารา ศิลปิน นักร้อง นักแสดง อินฟู มากมาย ที่มาร่วม เดินพรมแดง เพื่อเข้ารับรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้ง ดาราศิลปิน ทั้งไทยและต่างประเทศ

งานนี้จะเกิดไม่ได้ ถ้าไม่ได้ ประธานผู้จัดงานอย่าง คุณเบญญาดา โชใต้หยิน (มาดามบิว) Rainbow Entertainment นำทีม และ ยังมีผู้บริหาร สุดเก่ง มาร่วมจับมือกันจัดงานในครั้งนี้ นำโดย คุณภัทรวดี ภัทรวดีวัฒนกุล , ดร.รัชดาภรณ์ เกตุเทศ , คุณพรทิพย์ ลิมปภาส , นายสุรเดช พันธุรัตน์ เป็นต้น และ งานนี้ จะมี ครั้งที่3 อีกในปีหน้า 2025 ฝากติดตามได้ที่ เพจ siam international awards