คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว

น้ำล้น ระบายน้ำล้นฉุกเฉิน เขื่อนแม่งัดฯ ท่วมเมืองเชียงใหม่แล้ว ภาค 5

แชร์เนื้อหานี้


วันที่ 25 กันยายน 2567 นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล เปิดเผยว่า ตอนนี้เหลืออีก 54 เซนติเมตร น้ำจะล้นอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน หรือ Emergency Spillway จากการวิเคราะห์ปริมาณน้ำเข้าเขื่อน ชั่วโมงละ 6 เซนติเมตร คาดว่าจะอยู่ในช่วงเวลา 01:00 น. คืนนี้

นายเฉลิมเกียรติ ยืนยันว่า จนถึงตอนนี้เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ยังคงทำหน้าที่หน่วงน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อลดความเสียหายของพื้นที่ตัวเมือง ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจ โดยหลังจากน้ำล้นที่อาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน จะมีแค่ 3 ตำบล คือ ตำบลอินทขิล ตำบลช่อ และตำบลบ้านเป้า ที่จะได้รับผลกระทบ น้ำในแม่น้ำปิง จะสูงขึ้นอีกประมาณ 20-50 เซนติเมตร ซึ่งเวลานั้น ระดับน้ำที่ P.75 บ้านช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมาจากเชียงดาว จะลดลงแล้ว และคาดว่าน้ำก้อนที่ล้นจากอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉินคืนนี้ จะถึง P.1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ประมาณ 5 โมงเย็นพรุ่งนี้ ทั้งนี้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ได้มีการตั้งศูนย์วิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์.

สำนักงานชลประทานที่ 1 ฉบับที่ 5/2567 เรื่อง แจ้งเตือนระดับน้ำวิกฤติแม่น้ำปิง ที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ด้วยช่วงวันที่ 21-24 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับอิทธิพลจาก พายุ “ซูริก” และร่องความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้มีฝนตกกระจายทั่วทั้งจังหวัดในเกณฑ์หนักมาก ทำให้ปริมาณน้ำ ในแม่น้ำปิงและลำน้ำสาขาในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำมีปริมาณสูง และส่งผลกระทบให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิง

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิง ที่สถานี P.67 บ้านแม่แต อำเภอสันทราย ได้ผ่านจุดสูงสุดที่ระดับ 3.50 เมตร ปริมาณน้ำ 479.70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันที่ 24 กันยายน 2567 เวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา  และเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 เวลา 06.00น. วัดได้ระดับ +3.49 เมตร ปริมาณน้ำ 477.80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิงที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 เวลา 05.00 น. ได้ผ่านจุดสูงสุดที่ระดับ +4.45 เมตร ปริมาณน้ำ 530.50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะมี ระดับน้ำทรงตัวระยะหนึ่ง และจะมีระดับสูงขึ้นอีกจากมวลน้ำระลอกใหม่ (เกิดจากฝนที่ตกในพื้นที่ตอนบนของ ลุ่มน้ำเมื่อคืนที่ผ่านมา) ที่เคลื่อนตัวจากลุ่มน้ำแม่แตงและลุ่มน้ำปิง (ต้นน้ำจากอำเภอเชียงดาว) ลงมาสมทบกับ แม่น้ำปิง

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 จะติดตาม/เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ ทราบอย่างต่อเนื่อง และจากสถานการณ์ปริมาณน้ำหลากสูงสุดที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบให้บางพื้นที่ในเขต เทศบาลนครเชียงใหม่เกิดน้ำท่วมขัง สำนักงานชลประทานที่ 1 จะได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออก จากพื้นที่ประสบภัย และจัดส่งครื่องจักรเครื่องมือพร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมบูรณาการให้ความช่วยเหลือและบรรเทา ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนต่อไป

..สมจิตร แสงบันลังค์ ข่าวคาบ รายงาน.

สื่อรัฐทีวี นำเสนอ / ​สาธารณสุขชายแดนไทย-ลาว ร่วม MOU พัฒนางานภาวะฉุกเฉินด้านโรคติดต่อ และภัยสุขภาพชายแดน

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567​ นายไกร เอี่ยมจุฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ พัฒนางานสาธารณสุขชายแดน ในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านโรคติดต่อ และภัยสุขภาพชายแดนระหว่างประเทศ ประเทศไทย – สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปีงบประมาณ 2567 และการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องความร่วมมือด้านสาธารณสุขระดับท้องถิ่นระหว่างประเทศ 4 แขวง 4 จังหวัด ที่ โรงแรมมุกดาหาร แกรนด์ โดยมี นายปัฐม์ ปัทมจิตร กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต นายณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร และ ดร.เวียงสี สุพักดี หัวหน้าแผนกสาธารณสุขแขวงสะหวันนะเขต ร่วมด้วย

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และนครพนม เป็นจังหวัดชายแดนที่มีอาณาเขต ติดต่อกับแขวงสะหวันนะเขต จำปาสัก สาละวัน และคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนที่มีความสำคัญ โดยประชาชนทั้งสองฝ่ายมีวิถีชีวิตที่สัมพันธ์กันมายาวนาน มีการเดินทางไปมาระหว่างประเทศเพื่อติดต่อด้านการค้า การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพ รวมทั้งการเยี่ยมญาติพี่น้อง และมีการพัฒนางานด้านสาธารณสุขร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง การเตรียมความพร้อมการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านโรคติดต่อและ ภัยสุขภาพชายแดนระหว่างประเทศ รวมถึงการมีระบบและมีเครือข่ายที่เข้มแข็งร่วมกันเป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้น เพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายสาธารณสุขชายแดน ในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านโรคติดต่อและภัยสุขภาพชายแดนระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องความร่วมมือด้านสาธารณสุขระดับท้องถิ่นระหว่างประเทศ 4 จังหวัด 4 แขวง ขึ้น เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันพัฒนาระบบการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายในการเฝ้าระวังโรคติดต่อและภัยสุขภาพ ตลอดจนการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกัน ศูนย์ข่าวมุกดาหาร ภาพ/ข่าว พวงเพชร จันทร์ดี
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

แถลงข่าว จัดประชุม ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ครั้งที่ 61

แชร์เนื้อหานี้

สโมสรไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ร่วมกับเมืองพัทยา แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการจัดประชุม ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ครั้งที่ 61 คาดมีผู้เข้าร่วมประชุมทั่วโลกเดินทางเข้าเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีกว่า 8,000 คน

( 20 ก.ย.67 ) ณ ห้อง The Prosperity บ้านสุขาวดี พัทยา ไลออน รศ.ดร. วีระ ลาดหนองขุ่น ประธานจัดการประชุม OSEAL Forum Pattaya, นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา, นายชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้แทนสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคตะวันออก , นางสาวอุไร มุกประดับทอง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพัทยา ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมจัดการประชุม” ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ครั้งที่ 61 หรือ OSEAL Forum Pattaya (โอซีล ฟอรัม พัทยา) โดยมีคณะมวลหมู่สมาชิกสโมสรไลออนส์ ตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมงาน

สโมสรไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ร่วมกับเมืองพัทยา ได้ดำเนินประจำปี ไลออนส์ภาคพื้นบูรพา และเอเชียอาดเนย์ ครั้งที่ 61 (The 61″ ORIENT & SOUTHEAST ASIAN LIONS FORUM PATTAYA 2024 ) หรือ”OSEAL” เพื่อให้มวลสมาชิกสโมสรไลออนส์ได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สร้างความสัมพันธไมตรี มิตรภาพ เรียนรู้ แลกเปลี่ยนขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุม และผู้ติดตาม การประชุมโอซีล ฟอรั่ม พัทยา มากกว่า 8,000 คน จากสมาชิก 16 ประเทศ ที่จะเกิดขึ้นช่วง 15-17 พฤศจิกายน และได้จัดงานลอยกระทงในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ณ บ้านสุขาวดี ลาน 93 ปี ดร.ปัญญา โชติเววัญ ที่จะแขกร่วมงานกว่า 4,500 คน อีกด้วย

กองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจวบฯ ยกระดับศักยภาพ แกนนำเด็กและเยาวชนป้องกันภัยคุกคามยาเสพติด ยุคดิจิทัล

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 20 ก.ย.67 ที่ศาลาเอนกประสงค์ บ้านทางสาย หมู่ที่ 9 ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการยกระดับศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนป้องกันภัยคุกคามยาเสพติดในยุคดิจิทัลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะว่าที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา พร้อม นายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายทวีศักดิ์ จุลเนียม ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินอำเภอทับสะแก นางกิตติมา เย็นกาย รอง ผอ.สพป.ปข.1 และคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน คณะศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเก้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียนในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการ

นายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ยาเสพติดทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งในยุคดิจิทัลปัจจุบันเริ่มพบการแพร่ระบาดของยาเสพติดแบบผสมหลายชนิดและการแพร่ระบาดอย่างหนักของบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกระตุ้นให้เกิดการค้ายาเสพติดผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งการติดต่อสื่อสารและการขนส่งมีหลายช่องทาง ผู้เสพสามารถเข้าถึงยาเสพติดได้สะดวกมากยิ่งขึ้นและเด็กถูกล่อลวงได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ในการนี้เครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินอำเภอบางสะพานจึงจัดโครงการ ยกระดับศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนป้องกันภัยคุกคามจากยาเสพติดในยุคดิจิทัลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ให้สามารถยืนหยัดในสังคมปัจจุบันได้อย่างปลอดภัยและมีส่วนช่วยป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่

น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะว่าที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดี เป็นประโยชน์ต่อเด็ก และเยาวชนมาก ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ตรงจุดกับสถานการณ์ปัญหาของเด็กและเยาวชนในปัจจุบันนี้ และตอนนี้ยาเสพติดได้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว ผ่านการใช้มือถือผ่านหลายๆแอพพลิเคชั่น ที่คนใกล้ตัว ซึ่งบางทีคนในบ้านยังไม่ทันได้รู้เลยว่าลูกหลาน เข้าไปยุ่งเกี่ยวตอนไหน และในฐานะที่ในอนาคต จะได้เข้าไปทำงานในคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้หลากหลายทางสังคม ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการที่จะเข้ามาทำงานในด้านนี้โดยตรงด้วย เด็กและเยาวชนคือเป็นหลักที่อยากจะเข้าไปดูแลด้วย ที่ผ่านมาสมาชิกวุฒิสภาก็มีหลายท่านได้อภิปรายและพูดถึงในเรื่องตรงนี้บ้างแล้ว เดี๋ยวรอให้เป็นคณะกรรมาธิการอย่างเป็นทางการ ก็จะนำเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปสู่ชั้นกรรมาธิการเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเยาวชนกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งปัจจุบัน หาซื้อใช้กันได้ง่ายมาก น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภากล่าว
/////////////////////////////////
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ 0649646443

กลุ่มเหล็กสหวิริยาสร้างโอกาสวาดอนาคตเยาวชนหนุนระบบทวิภาคีว.การอาชีพบางสะพาน

แชร์เนื้อหานี้

กลุ่มเหล็กสหวิริยา (SSI-TCRSS-WCE-TCS-PPC-BSBM) เข้าร่วมโครงการ “การพัฒนาแผนฝึกอาชีพบูรณาการร่วมกับการทำงานสู่การมีงานทำ” ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งจัดโดยวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยได้รับเกียรติจาก นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน นายนิมิตร ศรียาภัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน ผู้แทนจากสถานประกอบการ รวมถึงครูฝึกในสถานประกอบการ จำนวน 80 คน ให้เกียรติเข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมสัมมนา บ้านกรูด อาร์คาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ในการนี้ นายผดุงศักดิ์ ปราณอุดมรัตน์ ผู้บริหารกลุ่มเหล็กสหวิริยา ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ระหว่างวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน และ กลุ่มเหล็กสหวิริยา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน โดยส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและพัฒนาบุคลากร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ ปวส. ให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 10 ปี (นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2568-2577) ภายใต้โครงการ“ทวิภาคีพัฒนาบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรมเหล็ก” ของกลุ่มเหล็กสหวิริยา

นอกจากนี้ ผู้แทนบริษัทในกลุ่มเหล็กสหวิริยา ประกอบด้วย บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI บริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TCRSS บริษัท เหล็กแผ่นเคลือบไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TCS และ บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ WCE ได้ร่วมรับมอบ “โล่ประกาศเกียรติคุณ” จากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีด้วยดีเสมอมา โดยมีครูฝึกจากบริษัทในกลุ่มเหล็กสหวิริยา เข้าร่วมรับมอบ “ใบรับรองการเป็นครูฝึกในสถานประกอบการ” ในครั้งนี้ด้วย
โครงการส่งเสริมการศึกษาระบบทวิภาคี เป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมการในพัฒนาชุมชนสังคม เพื่อพัฒนาศักยภาพ และสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพที่มั่นคงให้กับเยาวชนในพื้นที่บริษัทประกอบการในอนคต