คลังเก็บหมวดหมู่: ตำรวจ(ตร.)

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตชด.ไร้รอยต่อ ส่งมอบหน้าที่ “ช้างศึก 1”

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มีพิธีรับ – ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

โดย พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด.ให้แก่ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. ซึ่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็น ผบช.ตชด.คนใหม่

โดยมีพิธีตรวจแถวกองเกียรติยศ ส่งมอบธงประจำตำแหน่ง และแสดงมุทิตาจิตแก่ พล.ต.ท.นิตินัย และ คุณสุวรรณยา หลังยา

หน่าย ประธานชมรมแม่บ้าน ตชด. โดยมี รอง ผบช.ตชด., ผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ แม่บ้าน ตชด. และข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมพิธี

ตํารวจตระเวนชายแดน///ภาพ/ข่าว ร.ต.ท.พุทธกาล ไชยบุบผา ////เดวิท โชคชัย รายงาน

สื่อรัฐนิวส์*สื่อรัฐทีวี / สภ.เมืองชุมพร และ ภ.จว.ชุมพร ทำพิธีรับ-ส่งมอบงาน ผบก.ภ.จว.ชุมพร จัดงานแด่ข้าราชการตำรวจ ที่เกษียณ สายสัมพันธ์ไม่สิ้นสุด สุภาพบุรุษ เมืองชุมพร ปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514 วันที่ 30 กันยายน 2568 พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธานร่วมแสดงมุทิตาจิตแด่ ข้าราชการตำรวจ สภ.เมือง

ชุมพร ที่เกษียณอายุราชการ และเข้าโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นายจรินทร์ ก๋งม้า ประธานสภาทนายความจังหวัดชุมพร กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร

นายธนากร โกศลเมธี กต.ตร.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.ปราโมทย์ กุ้งทอง

สว.อก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.นฤพล นิลพันธ์ สว.ฝอ.ภ.จว.ชุมพร/ปฏิบัติหน้าที่สวป.ฯ พ.ต.ต.ปิยพล ฉัตรภูมิ สวป.สภ.เมืองชุมพร/ปฏิบัติหน้าที่ด้านงานสืบสวน พ.ต.ต.ประคอง แก้วประสม สวป.(ชส.)สภ.เมืองชุมพร

และข้าราชการตำรวจในสังกัด เข้าร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมชั้น 4 และบริเวณลานหน้าอาคารที่ทำการสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร รายชื่อข้าราชการตำรวจเกษียน ที่ร่วมงาน 1 ร.ต.อ. สุไลมานง มะยี่แต นางกัลยา มะยีแต 2

ร.ต.อ..เพิ่มยศ มังคละเสถียร นางสุภาจรรณ 3 ร.ต.อ. ภิญโญ พรหมเรือง 4 ร.ต.อ .มโน นาควิเธียร 5 ร.ต.อ. สุเมธ สุพรรณธนพงษ์ 6 ร.ต.อ ทนงศักดิ์ ภู่ขันเงิน นางลักษพร 7 ร.ต.ท.ศุภภณ แสงสุริย์ 8 ร.ต.อ. มาโนช กาลพัฒน์ นาง สุชาดา

กำลังพลร่วมพิธีไหว้พระภูมิเจ้าที่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ หน้าศาลภูมิ และอนุสาวรีย์ ส.ต.ท.เต็ม ศรีสุวรรณ หลังจากนั้น ร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป ณ หน้า สภ.เมืองชุมพร ร่วมกันรับฟังพระธรรมเทศนา และรับพร พร้อมวัตถุมงคล จากเจ้าอาวาสวัดดอนทรายแก้ว ณ ห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองชุมพร

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี มอบรางวัล และของที่ระลึก แก่ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการประจำปี 2568 และมอบประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจดีเด่นประจำปี 2568 หลังจาดเสร็จพิธีอำลาเกษียณอายุราชการตำรวจ เข้าร่วมกันรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน

ภ.จว.ชุมพร ทำพิธีรับ-ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร และพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน จาก พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ทำพิธีรับ-ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร และพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ของ ภ.จว.ชุมพร ในวันที่ 29 ก.ย.68 เวลา 14.30 น. พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร และคุณดรุณี โพธิ์ศรี ประธานแม่บ้านตำรวจ เดินทางมาทำพิธีรับ-ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร

และพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยได้สักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ส่งมอบธงนายพลตำรวจ และธงราชเดช ให้กับ พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร

ตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงวันที่ 21 มีนาคมพ.ศ. 2568 แจ้งรายชื่อข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรที่มีมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์และพ้นจากราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณพุทธศักราช 2568 จำนวน 43 นาย

และโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลรุ่นที่ 27 มีข้าราชการตำรวจเข้าร่วมโครงการ 11 นายมีผลทั้งนี้ตั้งแต่วันที่หนึ่งตุลาคมพ.ศ. 2568 รวมมีข้าราชการตำรวจที่จะต้องพ้นจากราชการ 54 นายโดยมีข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการและผู้เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลมาร่วม

ในวันนี้ 28 นายและคู่สมรส 17 ราย รวมทั้งหมด 45 รายจากกันจัดงานให้แก่ผู้เกษียณอายุราชการและผู้เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลของตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร

มีการดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปีวัดวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อเป็นการขอบคุณทุกๆท่านที่ได้ปฏิบัติงานมาเป็นระยะเวลานานจนกระทั่งครบเกษียณอายุราชการนับเป็นผู้มีความ

แข็งแกร่งมีความมานะบากบั่นและปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยซึ่งสมควรได้รับการยกย่องและถือเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับราชการตำรวจที่ยังรับราชการอยู่สืบไป

จากนั้น พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้ส่งมอบงานในหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ชุมพร ให้กับ พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร และเริ่มพิธีเทิดเกียรติข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

และมอบธงพิทักษ์สันติราษฎร์ ให้กับ พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ร่วมร้องเพลงมาร์ช ตำรวจและร่วมถ่ายรูปที่ระลึก โดยมี พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร,

พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, หน.สภ.ในสังกัด, ข้าราชการตำรวจผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และข้าราชการตำรวจในสังกัด เข้าร่วมพิธี ณ ลานที่ทำการ ภ.จว.ชุมพร

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แถลงข่าวผลจับกุมผู้ต้องหา 15 คน (รวมผู้ก่อเหตุ) อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 1 ราย เหตุทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีด ฟันหญิงวัยรุ่นพื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่

แชร์เนื้อหานี้

วันศุกร์ที่ 19 #กันยายน 2568 เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในการแถลงข่าวผลจับกุมผู้ต้องหา 15 คน (รวมผู้ก่อเหตุ) อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 1 ราย เหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด ฟันหญิงวัยรุ่นใน พื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ กรณีเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 มีเหตุวัยรุ่น

ทำร้ายร่างกายกันที่บริเวณภายในร้าน “สะดวกซัก 24 ชม.” ถ.เชียงใหม่ – สันกำแพง ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย

โดยมี พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา

แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, รอง ผบก.ฯ, ผกก.สส. และ ผกก.สภ.พื้นที่ เข้าร่วมแถลงข่าว

ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 5 (ศปก.ภ.5) ชั้น 2 อาคารที่ทำการ ตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่////

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจบึงกาฬทลายแก๊งค้ายา ยึดยาบ้า 8 แสนเม็ด ผู้ต้องหาพยายามหนีแต่ไม่รอด

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ (17 กันยายน 68) ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรปากคาด ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังเข้าติดตามขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ หลังสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่านพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมีพ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ แก้วสมนึก รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.อ.กฤศกร เชื้อสิงห์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากคาด นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี อส.จ.บึงกาฬ และฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว

โดยเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหาร ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย(พื้นที่จังหวัดบึงกาฬ-นครพนม) ได้เข้ามาพบ ร.ต.อ.ชัยธวัช ชมภูราช รอง สว.สส.สภ.ปากคาด เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หมายเลข 6706561 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ที่ สภ.ปากคาด แจ้งว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว(สายลับขอปิดนาม) ว่าช่วงตั้งแต่วันที่ 13-15 กันยายน 2568 จะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว เข้าสู่จังหวัดตอนในของประเทศไทย ในพื้นที่ตามแนวชายแดนระหว่าง ต.นากั้ง อ.ปากคาด ไปจนถึง ต.ไคสี อ.เมือง จ.บึงกาฬ ประมาณ 9-10 กระสอบ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นยาเสพติดชนิดใด โดยจะใช้พื้นที่ อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ หรือ อ.เมือง จ.บึงกาฬ เป็นเส้นทางที่ใช้ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงนำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้น พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผกก.สภ.ปากคาด จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ชัยธวัช ชมภูราช รอง สว.สส.สภ.ปากคาด

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคาด บูรณาการสนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหาร ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย(พื้นที่จังหวัดบึงกาฬ-นครพนม) เจ้าหน้าที่ทหาร มว.สกัดกั้นที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ร่วมกันประชุมวางแผนเพื่อติดตาม สังเกตการณ์ และวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามจุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังต่างๆ คาดว่ารถทั้ง 2 คัน จะวิ่งผ่าน จากนั้นเวลา 22.33 น. เจ้าหน้าที่ตรวจพบ รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Yaris สีดำ หมายเลขทะเบียน กย 1715 สกลนคร ขับขี่ผ่านกล้อง LCP ด่านตรวจ/จุดตรวจ 4_บก_ปากคาด ฝั่งขาเข้า เจ้าหน้าที่จึงน่าเชื่อและยืนยันได้ว่า รถเป้าหมายที่จะมาลักลอบลำเลียงยาเสพติดอยู่ในพื้นที่ทั้ง 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจุดซุ่มสังเกตุการณ์ตามจุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังตามเส้นทางต่างๆ โดยใช้รถยนต์ในการวางตัวสังเกตการณ์ โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 9 ชุด ใช้รถยนต์จำนวน 9 คัน

กระทั่งกลางดึกวันที่ 13 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้า 7 กระสอบ รวมประมาณ 2,590,000 เม็ด บริเวณบ้านไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ ต่อมาในวันที่ 14 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ขยายผลและติดตามรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน คือ NISSAN อัลเมร่า สีเทา ทะเบียน กจ 9247 ร้อยเอ็ด และ TOYOTA Yaris สีดำ ทะเบียน กย 1715 สกลนคร ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการลำเลียงและนำขบวนการปฏิบัติการนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายธนะเมศฐ์(สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี น.ส.วัชราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี นายสาธิต(สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี และนายสุเมธี (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้าเพิ่มอีก 3 กระสอบ ที่ซุกซ่อนภายในรถยนต์อัลเมร่า รวมของกลางทั้งหมดเกือบ 3 ล้านเม็ด ผลตรวจปัสสาวะพบว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีสารเสพติดในร่างกาย ยกเว้นนายสุเมธี (สงวนนามสกุล) ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดรถยนต์และยาเสพติดพร้อมวัตถุพยานไว้เป็นหลักฐาน ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือ ความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป พร้อมจัดทำบันทึกตรวจยึด จากนั้นนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เหล่าหลวง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการสกัดกั้นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญตามแนวชายแดนไทย-ลาว จังหวัดบึงกาฬ

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ ภ.จว.ลำปาง

แชร์เนื้อหานี้

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน 2568 เวลา 11.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติคดีรายสำคัญ ของ สภ.สบปราบ จว.ลำปางกรณีเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 16.40 น. ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จับผู้ต้องหา 1 คน รถบรรทุกพ่วง 1 คัน ยาเสพติดของกลาง ยาไอซ์ ประมาณ 100 กิโลกรัม

โดยมี นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผบ.มทบ.32, นายฉัตรชัย วงศ์ปริยากร นายอำเภอสบปราบ, ผู้แทน กอ.รมน. จังหวัดลำปาง, ศพฐ.5, ปส.ภาค 5, ผกก.สภ.สบปราบ ร่วมแถลงผลการจับกุม

ณ ลานแถลงข่าวตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ถ.ลำปาง – แจ้ห่ม ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จว.ลำปางสรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจฎธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – 10 ก.ย.68

จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 25,695
คดีรายสำคัญ 249 คดี
ยึดของกลางยาเสพติด

  • ยาบ้า 260 ล้านเม็ดเศษ
  • ไอซ์ 11,900 กิโลกรัมเศษ
  • เฮโรอีน 211 กิโลกรัมเศษ
  • เคตามีน 1,840 กิโลกรัมเศษ
  • ฝิ่น 160 กิโลกรัมเศษ

ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด
ประมาณ 1,246 ล้านบาทเศษ…
//สมจิตรแสงบัลลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภาค5 แถลงการณ์จับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญพร้อมของกลางยาบ้า 8 ล้านกว่าเม็ด ไอซ์ 4 ร้อยกว่ากิโลกรัม

แชร์เนื้อหานี้

วันจันทร์ที่1 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น.ตามนโยบายรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง, พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์, พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ท.กิตติพงษ์แจ่มสุวรรณ มทภ.3 ได้รับบัญชาและข้อสั่งการนำไปสู่การปฏิบัติตำรวจภูธรภาค 5

โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร, พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ชุ่มสวัสดิ์, พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.มานพเสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล ผบก.ภ.จว.พะเยา และ พล.ต.ต.ภูมิปัญญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 โดย พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ฝ่ายปกครอง โดย นายชรินทร์ ทองสุข นายรัฐพล นราดิศร นายชุติเดช มีจันทร์ สำนักงาน ปปส.ภาค 5 โดย นายธันวา ผุดผ่อง มทน.3/ผบ.นบ.ยส.35 ผวจ.เชียงราย ผวจ.พะเยา ผวจ.ลำปาง ผอ.ปปส.ภาค 5 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 4 คดี รวมของกลางยาบ้า จำนวน 8,600,000 เม็ด และ ไอซ์ จำนวน 450 กก.
1.สภ.แม่กา จว.พะเยา บูรณาการร่วมหน่วยเกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4,000,000 เม็ด

  1. สภ.แม่สาย จว.เชียงราย บูรณาการร่วมหน่วยเกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,600,000 เม็ด
  2. สภ.สบปราบ จว.ลำปาง บูรณาการร่วมหน่วยเกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 3,000,000 เม็ด
  3. สภ.แม่พริก จว.ลำปาง บูรณาการร่วมหน่วยเกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางไอซ์จำนวน 450 กก.
    คดีที่ 1 วันที่ 27 ก.ค.2568 เวลาประมาณ 01.00 น. สถานที่จับกุม ด่านตรวจยาเสพติดแม่กา สภ.แม่กา ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา จว.พะเยา ต่อเนื่อง บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านห้วยเคียนม.2 ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา จว.พะเยา ผู้ต้องหา 3 คน (1.นายก้องกังวาลฯ อายุ 60 ปี อ.สอง จว.แพร่, 2.นายนาถจักษ์ฯ อายุ 47 ปี อ.สอง จว.แพร่, 3.นายเหรียญทอง อายุ 40 ปีอ.เวียงแก่น จว.เชียงราย
    พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 เวลาประมาณ 23.00 น. ภ.จว.พะเยา ได้รับการประสานจากส่วนสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ศอ.ปส.ภ.5 ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนพื้นที่ จว.เชียงราย เข้ามายังพื้นที่ จว.พะเยา และจะส่งต่อยาเสพติดไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ โดยขบวนการลักลอบใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีเทา ทะเบียน กฉ 1142 มหาสารคาม เป็นพาหนะในการลักลอบขนลำเลียงยาเสพติด โดยมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีขาว ทะเบียน กน 616 แพร่ ทำหน้าที่เป็นรถนำสำรวจเส้นทาง จึงวางแผนจับกุม โดยมีพล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล ผบก.ภ.จว.พะเยา ควบคุมการปฏิบัติ ต่อมาวันที่ 27 ก.ค.68 เวลาประมาณ 00.50 น. พบรถยนต์เก๋ง ทะเบียน กน 616 แพร่ และ รถยนต์กระบะ ทะเบียน กฉ 1142 มหาสารคาม ขับติดตามกันไปผ่านพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ อ.เมืองพะเยา จึงสะกดรอยติดตามไปจนถึงด่านตรวจแม่กา จึงได้แสดงตัวและแสดงสัญญาณให้รถยนต์เก๋ง ทะเบียน กน 616 แพร่ หยุดรถและขอทำการตรวจค้นพบนายก้องกังวาน เป็นผู้ขับขี่ และมีนายนาถจักษ์ เป็นผู้โดยสาร จึงควบคุมตัวไว้ส่วนรถยนต์กระบะ ทะเบียน กฉ 1142 มหาสารคาม ได้หยุดจอดรถห่างจากด่านตรวจประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ที่ติดตามจึงได้เข้าแสดงตัวและขอตรวจค้นแต่คนขับรถยนต์คันดังกล่าว ได้พยายามขับขี่รถหลบหนีจึงได้ติดตามไปจนถึงบริเวณถนนพหลโยธิน สายพะเยา-ลำปาง รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้หยุดรถและคนขับได้วิ่งหลบหนีจึงได้วิ่งติดตามไปและสามารถควบคุมตัวนายเหรียญทอง จึงได้ควบคุมตัวไปตรวจค้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 16 กระสอบ จำนวนประมาณ 4,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์บริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง จากนั้นจึงทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่กา จว.พะเยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 2 วันที่ 27 ส.ค.2568 เวลาประมาณ 21.00 น. สถานที่จับกุม ผู้ต้องหา ถนนพหลโยธิน (สายบ้านโป่ง-บ้านห้วยไคร้) พื้นที่บ้านสันต้นปุย หมู่ที่ 5 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จว.เชียงราย1 คน (นายลีซัง อายุ 33 ปี อ.แม่จัน จว.เชียงราย
พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.แม่สาย ไปส่งต่อให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่จะลำเลียงยาเสพติดไปสู่พื้นที่ตอนใน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นและได้สั่งการให้จับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. พบรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน สีเทา ทะเบียน บษ – 9680 เชียงราย ใช้หน้ากากอนามัยสีดำปิดอำพรางป้ายทะเบียนรถขับขี่รถมาตามถนนพหลโยธินสาย แม่จัน–แม่สาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำพรางอยู่ตามเส้นทางจึงได้สะกดรอยติดตาม จากนั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้หยุดรถและจอดอยู่ข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงได้ใช้รถยนต์ปิดด้านหน้า-ท้ายรถและด้านข้างป้องกันการหลบหนีและแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว ในรถพบนายลีซัง เป็นผู้ขับขี่ ผลการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 8 กระสอบ รวมประมาณ 1,600,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารหลังผู้ขับขี่ จากนั้นจึงทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย จว.เชียงราย ดำเนินการตามกฎหมาย

คดีที่ 3 วันที่ 27 ส.ค.68 เวลาประมาณ 06.00 น. สถานที่จับกุม ด่านสบปราบ ต.สบปราบ อ.สบปราบ จว.ลำปางผู้ต้องหา 5 คน (1.นายธราดล อายุ 34 ปี อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ, 2. นายดนัย อายุ 24 ปี เขตราษฎรบูรณะกรุงเทพมหานคร, 3.นายถนอมศักดิ์ อายุ 26 ปี อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ, 4.นายอดิศร อายุ 30 ปีอ.นายูง จว.อุดรธานี, 5. นางสาวดุษณี อายุ 31 ปี เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ ศอ.ปส.ภ.5 ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมรถยนต์ 2 คัน ยาบ้า 4 ล้านเม็ด เหตุเกิดพื้นที่สภ.แม่กา จว.พะเยา เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2568 พบว่าไปรับยาเสพติดจากลุ่มลำเลียงยาเสพติดพื้นที่แนวชายแดนด้าน อ.เชียงแสน จว.เชียงราย จากการสืบสวนพบว่ามีนาย ป.(นามสมมุติ) เป็นคนสั่งการส่งมอบยาเสพติด และมีอีกหลายกลุ่มติดต่อรับมอบยาเสพติดจากนาย ป. จึงทำการสืบสวนติดตามเรื่อยมาต่อมาในห้วงวันที่ 24 – 25 ส.ค.68 พบรถยนต์กลุ่มลำเลียงยาเสพติดเคลื่อนตัวจากพื้นที่ตอนในขึ้นมายังพื้นที่ จว.เชียงรายโดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อตู้ทึบและรถยนต์เก๋ง เป็นพาหนะ เชื่อว่าจะมารับยาเสพติดจาก นาย ป. ศอ.ปส.ภ.5 จึงบูรณาการร่วมกับ บก.สส.ภ.5และ ภ.จว.ในสังกัด ออกสืบสวนจับกุม โดยมี พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 ความคุมการปฏิบัติ ต่อมาวันที่ 27 ส.ค.68 เวลากลางคืน พบรถบรรทุก 6 ล้อ ตู้ทึบ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 700-8484 กทม. ออกจากพื้นที่ จว.เชียงรายมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ จว.พะเยา – ลำปาง จึงสะกดรอยติดตามจนพบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีบรอนทอง ทะเบียน กจ 5534 ชัยนาท และ รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเทา ทะเบียน กน 3628 เชียงราย ผลัดกันนำ / ตามรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จึงได้ประสาน ด่านตรวจสบปราบ จว.ลำปาง เพื่อสกัดตรวจค้นจับกุมต่อมาวันที่ 27 ส.ค.68 เวลาประมาณ 06.00 น. สามารถสกัดจับกุมนายธราดล อายุ 34 ปี อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ และนายดนัย อายุ 24 ปี เขตราษฎรบูรณะ กรุงเทพมหานคร พร้อมรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 700-8484 กทม. ตรวจค้นภายในกระบะตู้ทึบ พบยาเสพติดใหโทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบา) จำนวน 30 แพ็ค รวมประมาณ 3,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถบรรทุกคันดังกล่าวซึ่งทำการดัดแปลงทำเป็นช่องลับบริเวณด้านหน้าของตู้ ส่วนรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สึบรอนทอง ทะเบียน กจ 5534 ชัยนาทและรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเทา ทะเบียน กน 3628 เชียงราย ได้กลับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปยัง อ.เมืองลำปาง จึงออกสืบสวนติดตามจับกุมต่อมาวันที่ 27 ส.ค.68 เวลาประมาณ 12.30 น. พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีบรอนทอง ทะเบียน กจ 5534 ชัยนาท และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเทา ทะเบียน กน 3628 เชียงรายจอดทิ้งไว้บริเวณสถานีรถไฟลำปาง จึงตรวจสอบข้อมูลผู้โดยสารจำนวน 3 คน คือนายถนอมศักดิ์อายุ 26 ปี อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ, นายอดิศร อายุ 30 ปี อ.นายูง จว.อุดรธานีและนางสาวดุษณี อายุ 31 ปี เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานครหลบหนีขึ้นรถไฟเที่ยว 102 ออกจากสถานีรถไฟลำปาง เวลาประมาณ 08.50 น. เพื่อไปลงสถานีปลายทางที่ กทม. และรถไฟขบวนดังกล่าว อยู่ระหว่างการเดินทางระหว่างพื้นที่ จว.อุตรดิตถ์ – พิษณุโลก จึงได้ประสาน บก.สส.ภ.6, สภ.เมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ก. ที่อยู่บนขบวนรถไฟออกสืบสวนจับกุมต่อมาวันที่ 27 ส.ค.68 เวลาประมาณ 13.30 น.สามารถควบคุมตัว นายถนอมศักดิ์, นายอดิศรและนางสาวดุษณี บนขบวนรถไฟ 102 นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สบปราบ จว.ลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 4 วันที่ 28 ก.ค.68 เวลาประมาณ 15.30 น. สถานที่จับกุม อุโมงค์ X-ray ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จว.ลําปาง ผู้ต้องหา 1 คน (นายสิทธิพล อายุ 25 ปี อ.พบพระ จว.ตาก)พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนวันเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลําเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในโดยจะใช้รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่สีขาว ทะเบียน ผร 6263 กทม. และรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุรุ่นมิวเอ็กซ์สีขาวทะเบียน กต 103 เพชรบูรณ์จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้สั่งการให้จับกุมตัว ต่อมาวันที่ 25 ส.ค.68 เวลา ประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจฯ ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณถนนสายรองบ้านแม่เชียงรายลุ่มอ.แม่พริก จว.ลําปาง พบรถต้องสงสัยลักษณะตรงกับที่สายลับแจ้งและสังเกตเห็นว่าภายในรถมีกระสอบจํานวนหลายใบอยู่ภายในรถ จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่รถทั้งสองคันไม่หยุด และได้เร่งเครื่องขับฝ่าจุดตรวจจุสกัดหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตํารวจฯ จึงติดตามรถคันดังกล่าวไปจนสามารถสกัดรถยนต์ ทะเบียน กต 103 เพชรบูรณ์ ได้พบนายสิทธิพล เป็นผู้ขับขี่ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ สอบถามนายสิทธิพล ได้แสดงอาการพิรุธ หน้าซีด ตัวสั่น จึงได้เชิญตัวนายสิทธิพล และนํารถยนต์คันดังกล่าวมาที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริกฯ เพื่อตรวจสอบโดยอุโมงค์ X-ray ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก อ.แม่พริก จว.ลําปาง พบเป็นถุงพลาสติกสีดํา จํานวน 15 ใบ และได้ทำการตรวจสอบภายในถุงพลาสติกโดยละเอียดอีกครั้งพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไอโดรคลอไรหรือไอซ์) จำนวนถุงละ 30 ก้อน อยู่ภายในถุงพลาสติดสีดำ น้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 450 กก. จากนั้นจึงได้ทําการจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนําส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก จว.ลำปาง ดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

สรุปผลการจบั กุมยาเสพติด ของ ตํารวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – 31 ส.ค.68
จับกุมคดียาเสพติด

  • จํานวน 24,292 คดี – คดียาเสพติดรายสำคัญ 241 คดี

ตรวจยึดของกลางยาเสพติด

  • ยาบา้ 257 ล้านเม็ด
  • ไอซ์ 11,800 กิโลกรัม
  • เฮโรอีน 209 กิโลกรัม
  • เคตามีน 1,840 กิโลกรัม
  • ฝิ่น 155 กิโลกรัม

สมจิตรแสงบันลังค์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รอง.ผบ.ตร.แถลงข่าวการจัดแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทย – มาเลเซีย ชิงถ้วยรุจิรวงศ์ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (29 สิงหาคม 2568) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานการจัดการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย

พร้อมด้วย มูฮัมหมัด ฮาฟิซ อาบู บาการ์ เลขานุการเอก/ผู้ช่วยทูตตำรวจ ประจำสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย และ พล.ต.ต.เทอดศักดิ์ รุจิรวงศ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ แถลงข่าวการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ชิงถ้วยรุจิรวงศ์ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2568 ณ ห้องสารสิน อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำหรับการแข่งขันกีฬารักบี้ประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีระหว่างตำรวจไทยกับตำรวจมาเลเซียอย่างแน่นแฟ้น ในการบูรณาการทำงานร่วมกัน ตลอดจนเพิ่มศักยภาพการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่จะมา

คุกคามประชาชนระหว่างสองประเทศ โดยการจัดการแข่งขันครั้งแรก เมื่อปีพุทธศักราช 2504 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในยุคสมัยของ พล.ต.อ.ประเสริฐ รุจิรวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ ได้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลานานกว่า 64 ปี มีการจัดการแข่งขันมาแล้ว 32 ครั้ง โดยหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

การแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลชิงถ้วย “รุจิรวงศ์” ครั้งที่ 36 สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 3 – 6 กันยายน 2568 และจะมีการแข่งขันจริงในวันที่ 4 กันยายน 2568 ณ สนามกีฬารักบี้ฟุตบอล โรงเรียนปริ้นส์รอยแยลส์วิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. การแข่งขันชิงถ้วย “รุจิรวงศ์” ประเภทอายุไม่เกิน 45 ปี
  2. การแข่งขันชิงถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภทอาวุโส อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า การแข่งขันในครั้งนี้มุ่งเน้นความสัมพันธ์ มิตรภาพของหน่วยงานระหว่างประเทศ โดยทีมสโมสรรักบี้ฟุตบอลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย มีความพร้อมร่วมการแข่งขัน นักกีฬารักบี้ฟุตบอลทุกคนได้ฝึกซ้อมและมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการแข่งขันแพ้ชนะ ไม่ได้เป็นการบ่งชี้มากไปกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจทั้งสองประเทศที่จะยั่งยืนตลอดไป

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนและข้าราชการตำรวจ ร่วมรับชมและส่งกำลังใจแก่นักกีฬาตำรวจไทย ในการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ชิงถ้วย “รุจิรวงศ์” ครั้งที่ 36 ในวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬารักบี้ฟุตบอล โรงเรียนปริ้นส์รอยแยลส์วิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หรือผ่านช่องทาง Facebook : Royal Thai Police Rugby Club

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภูธรภาค 5 แถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ ภ.จว.ลำปาง และ ภ.จว.น่าน

แชร์เนื้อหานี้

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติคดีรายสำคัญ ของ สภ.แม่พริก จว.ลำปาง และ สภ.เวียงสา จว.น่าน ดังนี้

  1. วันที่ 23 ส.ค.68 – สภ.แม่พริก จว.ลำปาง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหา 2 คน, รถยนต์บรรทุก 1 คัน พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 8,000,000 เม็ด
  2. วันที่ 24 ส.ค.68 – สภ.เวียงสา จว.น่าน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คน, รถยนต์กระบะ 1 คัน พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด

โดยมี พล.ต.ต.ภูมิปัญญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 , น.ส.นิตยา พงษ์พาณิช รอง ผวจ.ลำปาง, พ.อ.กวิน ยาวิชัย รอง ผบ.มทบ.32, พ.อ.สันทัด ภัทรกิตตินนท์ ผู้แทน กอ.รมน.ลำปาง, ผู้แทน ผอ.ปปส.ภาค 5, รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง, รอง ผบก.ภ.จว.น่าน, ผกก.สภ.แม่พริก, ผกก.สภ.เวียงสา ร่วมแถลงผลการจับกุม

ณ ลานแถลงข่าวตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ถ.ลำปาง – แจ้ห่ม ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จว.ลำปางสรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจฎธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – 24 ส.ค.68จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 22,734คดีรายสำคัญ 232 คดี
ยึดของกลางยาเสพติด

ยาบ้า 240 ล้านเม็ดเศษ ไอซ์ 11,400 กิโลกรัมเศษ เฮโรอีน 197 กิโลกรัมเศษเคตามีน 1,840 กิโลกรัมเศษ ฝิ่น 155 กิโลกรัมเศษ ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด ประมาณ 1,130 ล้านบาทเศษ….

สมจิตร แสงบันลังค์ รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / รอง ผบ.ตร.เปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากร กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (14 สิงหาคม 2568) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากร กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา ประจำปี พ.ศ.2568 ณ ห้องแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โครงการฝึกอบรมฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 สิงหาคม 2568 ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ที่บัญญัติให้จัดตั้งกองทุนขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกว่า “กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายในงานสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของกองทุน จึงได้อนุมัติให้สำนักงานงบประมาณและการเงิน

โดยกองการเงิน ดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาบุคลากรของกองทุน ให้มีความรู้ความเข้าใจในระเบียบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการรับ เก็บรักษา การจ่ายเงินกองทุน รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการเบิกจ่ายเงินกองทุนได้อย่างถูกต้อง และลดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน โดยในระหว่างเดือนมีนาคม 2568 ถึงปัจจุบัน กองทุนได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรของกองทุนในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 – 9 ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 7,458 คน

โดยในวันนี้เป็นการจัดอบรมให้กับหน่วยงานในส่วนกลาง จำนวน 383 คน จากหน่วยงานกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผู้สังเกตการณ์จากสำนักงานตรวจสอบภายใน

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ถือว่าเป็นทุนหมุนเวียนในกำกับดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ช่วยสนับสนุนงานด้านการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแท้จริง

ขอให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกท่านซึ่งเป็นกำลังหลักขับเคลื่อนการเบิกจ่ายเงินกองทุน นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการฝึกอบรม และให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของหน่วยบริหารกองทุน ให้ความสำคัญในการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อลดข้อผิดพลาดจากการเบิกจ่ายเงิน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะช่วยเสริมการปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน สอบสวน ปราบปราม ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร. สั่งการผู้บัญชาการศึกษาดูแลการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจ คุมเข้มทุกหน่วยสอบโปร่งใส ไร้ทุจริต

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (10 สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการไปยัง พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ให้ดูแลตรวจสอบการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2568

ที่จัดขึ้นในวันนี้ เวลา 13.30 น. ให้คุมเข้มทุกหน่วยสอบทั่วประเทศไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เน้นย้ำต้องเป็นการสอบคัดเลือกที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน หากพบการทุจริตให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย

พล.ต.ท.นิธิธรฯ ขานรับนโยบาย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและกำกับดูแลการเตรียมความพร้อมการสอบคัดเลือก ฯ ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี พร้อมประชุมมอบนโยบาย ข้อห่วงใย และกำชับการปฏิบัติแก่ทุกหน่วยสอบ มติดตามสถานการณ์การสอบผ่านระบบ Zoom Meeting จากกองอำนวยการร่วมฯ

ณ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ย้ำมาตรการเข้มป้องกันการทุจริตทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้เข้าสอบและสังคม และได้กำชับไปยังทุกหน่วยสอบให้จัดจุดปฐมพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อดูแลอย่างทันท่วงทีกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากแต่ละหน่วยสอบมีผู้เข้าร่วมสอบจำนวนมาก โดยการสอบครั้งนี้จัดโดยกองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.)

ครอบคลุมหน่วยสอบ บช.ศ., ตำรวจภูธรภาค 1-9 และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) รวมทั้งสิ้น 11 หน่วยสอบ เพื่อคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี หรือวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ทั้งในชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน รวมจำนวน 155 อัตรา โดยมีผู้สนใจสมัครสอบในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 65,203 คน

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้กำชับเข้มงวดให้ บช.ศ.กำกับดูแลการจัดการสอบคัดเลือกในทุกหน่วยสอบต้องโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และคุณธรรม เข้าสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพ ซึ่ง บช.ศ.รับนโยบายมาขับเคลื่อนอย่างเคร่งครัด จะไม่ยอมให้มีการทุจริตหรือการเอื้อประโยชน์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงยืนยันมาตรการเข้มข้นในการคัดเลือกบุคลากร พร้อมพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการสอบแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้าราชการตำรวจที่มีคุณภาพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และอุทิศตนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

สมจิตร แสงบัลลังลค์ ภาพ/ข่าว