คลังเก็บหมวดหมู่: ตำรวจ(ตร.)

สื่อรัฐทีวี – สื่อรัฐนิวส์ / รอง ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีปิด โครงการสัมมนาเพิ่มศักยภาพครูตำรวจ D.A.R.E. รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

แชร์เนื้อหานี้

30 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 มอบหมายให้ พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีปิด โครงการสัมมนาเพิ่มศักยภาพครูตำรวจ D.A.R.E. รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ในสังกัด ภ.5

โดยมี พ.ต.อ.พิทักษ์ ทำนุ รอง ผบก.อก.ภ.5,พ.ต.อ.สุริยงค์ วุฒิ รอง ผบก.ศฝร.ภ.5, พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง รอง ผบก.ฯ ช่วยราชกาภ.จว.เชียงใหม่,
พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง,พ.ต.อ.อัครภูมิ ชนะใหญ่ รอง ผบก.ภ.จว.พะเยา, พ.ต.อ.สิริมล วิสุทธิกุล รอง ผบก.ภ.จว.แพร่,พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.ภ.จว.น่าน,

พ.ต.อ.พชรพล วงศ์รจิต รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน, พ.ต.อ.สุนัน อ้นหนองปรง รอง ผบก.กค.ภ.5, พ.ต.อ.สมศักดิ์ ขันชัยทิศ ผกก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน,
พ.ต.ท.ธีรวีร์ แก้วฉีด รอง ผกก.3 บก.ปส.1 บช.ปส., นายอนุเทพ ธาระณะ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส.ภ.5 และผู้เข้ารับการสัมมนาเพิ่มศักยภาพครูตำรวจ D.A.R E. รวม 180 นาย ร่วมพิธีปิด ณ ห้องแกรนด์วิว 3 โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิลล์ จ.เชียงใหม่…

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผบก.ตม.6 ชมเปาะ ตม.นราฯผลงานเยี่ยมแถมมีมนุษย์สัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การแก้ปัญหาระหว่างประเทศราบรื่น

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ม.ค.68 พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผู้บังคับการตำตรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งตั้งอยู่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยให้การต้อนรับ ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ ได้มี mr. bakri sulaiman หัวหน้าตรวจคนเข้าเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และ พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จ.นราธิวาส

ได้ร่วมเดินทางมาให้การต้อนรับ พร้อมทั้งได้เชิญเดินทางไปยังสถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรันตูปันยัง และได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในส่วนของการแลกเปลี่ยนการปฏิบัติงาน เพื่อให้สอดคล้องกันโดยเฉพาะในส่วนของการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ รวมไปถึงข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ฟากฝั่ง ซึ่งการนี้ทาง พล.ต.ต.ทรงโปรด ผบก.ตม.6 กับ mr. bakri sulaiman หัวหน้าตรวจคนเข้าเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้ถือโอกาสมอบของที่ระลึกซึ่งกันและกัน

ต่อมา พล.ต.ต.ทรงโปรด ได้เดินทางไปยังไปเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่สถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนราธิวาส พร้อมทั้งของมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะเข้าห้องประชุมในการมอบนโยบาย ซึ่ง พล.ต.ต.ทรงโปรด ผบก.ตม.6 ได้กล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง

จนตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนราธิวาส ได้รับเลือกเป็นหน่วยงานที่มีผลงานดีเยียม และเป็นที่ยอมรับของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งการชื่นชมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศมาเลเซีย เป็นสิ่งที่การันตีผลงานได้ดีโดยไม่ต้องบรรยาย จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกนายรักษาคุณความดีนี้ไว้ เมื่อมีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมเยียนอีก

ด้าน พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ได้เผยถึงกรณี ตม.6 ออนไลน์ ว่า กำลังอยู่ในช่วงของการเขียนโปรแกรมและกำหนดรูปแบบคาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นเดือนนี้ โดยจะมีการทดลองระบบในต้นเดือนหน้า โดยในการที่จะนำมาใช้เมื่อไหร่นั้นจะต้องให้ ครม.ประกาศให้แบบ ตม.6 ออนไลน์ อยู่ท้ายกฎกระทรวง เพื่อให้มีสภาพบังคับใช้ทางกฎหมาย ซึ่งคาดว่าภายในเดือนเมษายนจะมีการประกาศให้ใช้ ตม.6 ออนไลน์ และเริ่มใช้ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม เนื่องจากประกาศกระทรวงมหาดไทยที่ยกเว้น ตม.6 ใน 8 ด่านใหญ่ของไทย ซึ่ง อ.สุไหงโกลก ก็เป็น 1 ในอำเภอใหญ่นั้น

จะหมดเขตวันที่ 30 เมษายน 68 และในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว ก็ไม่ต้องเสียเวลามากรอกข้อมูลในส่วนของ ตม.6 หน้าด่าน และในส่วนของมิติความมั่นคงเอง เราก็จะมีข้อมูลของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยที่ผ่านมาการยกเว้น ตม.6 ชั่วคราว จะทำให้ข้อมูลที่การที่เรารวบรวมนักท่องเที่ยวหรือบุคคลต่างด้าว ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยพักไป ก็จะมีผลดีในมิติของความมั่นคงและการท่องเที่ยว
//////////////////////////
ข่าว/กรียา/นราธิวาส

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการ แก้ไข ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย อาชญากรรมข้ามชาติ ต้องเห็นผลภายใน 7 วัน พบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยว บกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (25 มกราคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างเต็มกำลัง เพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็ว จึงได้มีหนังสือสั่งการเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้ 7 มาตรการ อย่างเข้มงวด ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้แก่

  1. มาตรการก่อนคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย : ประสาน เชื่อมโยงข้อมูล เพื่อทำการคัดกรองบุคคล
  2. มาตรการ ณ ท่าอากาศยาน และด่านตรวจคนเข้าเมือง (ชายแดน) : เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกนอกราชอาณาจักร โฟกัสกลุ่มเสี่ยง หากพบเห็นให้รีบดำเนินการซักถาม และประชาสัมพันธ์ มาตรการติดตั้งกล้อง License Plate และเชื่อมโยงกล้องวงจรปิด (ระบบ AI) ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ (แจ้งเตือน)
  3. มาตรการตั้งจุดตรวจตามเส้นทาง : ตั้งจุดตรวจครอบคลุม โดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวัง สุ่มเสี่ยง
  4. มาตรการตรวจสอบที่พัก พื้นที่ท่องเที่ยว และสกัดกั้นพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบที่พักคนต่างด้าว แหล่งท่องเที่ยว เน้นการสกัดเคลื่อนย้ายข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามแดนต่าง ๆ
  5. มาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเส้นทางและจุดพักคอย : ตรวจสอบปั๊มน้ำมัน จุดพักรถ สถานีขนส่ง จุดพักแรม และ
  6. มาตรการเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบพื้นที่และเอ็กซเรย์พื้นที่ชายแดนทุกแห่ง ลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติ และท่าข้าม พื้นที่จังหวัดชายแดนเข้มข้น
  7. มาตรการประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ และสืบสวนขยายผล : ดำเนินคดี สืบสวนขยายผลไปถึงตัวการ ผู้สนับสนุน

โดยเฉพาะข้าราชการที่ทุจริตจากการเข้มงวดตามมาตรการดังกล่าว ทำให้มีผลการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 20-24 มกราคม 2568 ในการปฏิเสธคนต่างด้าวที่มีความเสี่ยงเข้าประเทศ ณ ท่าอากาศยาน จำนวน 10 ราย , ปฏิเสธการขออยู่ต่อในพื้นที่ จ.ตาก จำนวน 47 ราย , จับกุมและปรับกรณีอยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) ในพื้นที่ จ.ตาก 92 ราย แบ่งเป็น ชาวจีน 3 ราย และอินโดนีเซีย 1 ราย , ผู้หลบหนีเข้าเมือง บริเวณริมแม่น้ำเมย เป็นชาวเมียนมา 14 ราย และบริเวณจุดตรวจร่วมห้วยหินฝน อ.แม่สอด จ.ตาก 6 ราย รวม 20 ราย , การปฏิบัติในพื้นที่ จ.ตาก ดำเนินการตรวจที่พักในพื้นที่ อ.แม่สอด 275 ครั้ง ตรวจบริเวณสนามบินแม่สอด 16 ครั้ง จุดตรวจร่วมห้วยหินฝน 170 ครั้ง

ตำรวจตระเวนชายแดนลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติ 25 ครั้ง ตรวจสอบท่าข้ามแดน 14 ครั้ง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด 36 ครั้ง พร้อมกันนี้ ยังได้มีการพูดคุย ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ถึงภัย จำนวน 461 ราย โดยพบว่ามีการผ่านด่านตรวจแม่ท้อ ด่านห้วยยะอุ ด่านห้วยหินฝน และบ้านเกาะราก และมีคนต่างด้าวสัญชาติจีน เกาหลี ลาว เอธิโอเปีย (ตามลำดับ) โดยคัดกรองขั้นต้นพบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติจีนและเวียดนาม มีความเสี่ยงที่อาจจะตกเป็นเหยื่อ จึงส่งต่อข้อมูลไปยังพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่เสี่ยง พร้อมได้พูดคุยและทำความเข้าใจกันด้วยดี นอกจากนี้ ยังได้ตรวจยึดและจับกุมยาเสพติดฯ ตามมาตรการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอีกด้วย

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าประเทศไทยมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทุกราย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยจะใช้กลไกการทำงานร่วมกับศูนย์อาชญากรรมพิเศษของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) ,

ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตคม.ตร.) , ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ในการติดตามเฝ้าฟัง อำนวยการปฏิบัติฯ ตลอด 24 ชั่วโมง และเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนและสังคมในวงกว้าง เพื่อเตือนภัยให้แก่คนต่างด้าว และประสานการปฏิบัติหน่วยงานต่างประเทศต่อไป

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำชัดให้เจ้าหน้าที่ทุกนายจะต้องปฏิบัติอย่างจริงจังและเด็ดขาด เห็นผลภายใน 7 วัน หากเจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพัน รู้เห็นเป็นใจ หรือแม้กระทั่งเพิกเฉย ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจในการทำหน้าที่ จะต้องถูกพิจารณาทางปกครอง วินัย และอาญา อย่างเด็ดขาดทุกราย..

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดลพบุรี จัดอบรมความรู้เบื้องต้นอาวุธปืน ที่เกี่ยวข้องและการเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 22 ม.ค. 2567 เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.สมศักดิ์ รัศมีจันทร์ นวท.(สบ 4) พฐ.จว.ลพบุรี ได้จัดการอบรมในหัวข้อ “ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่เกี่ยวข้องในงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ” เพื่อเพิ่มพูนทักษะและความมั่นใจในการตรวจสถานที่เกิดเหตุคดีที่เกี่ยวกับอาวุธปืนแก่เจ้าหน้าที่ พฐ.จว.ละบุรี

“โครงการอบรมฝึกทักษะใช้ปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจของ พฐ.จว.ลพบุรี มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เจ้าหน้ามีความเสี่ยงต่อการสูญเสีย ได้รับอันตรายถึงชีวิตน้อยที่สุด โครงการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มทักษะความชำนาญในการตรวจใช้อาวุธปืนให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน พฐ.จว.ลพบุรี

โดยเชื่อว่าหลังจากที่ได้มีการฝึกทบทวนแล้วจะทำให้ลดการสูญเสีย และระมัดระวังเกี่ยวกับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พัฒนาเพิ่มทักษะ ขีดความสามารถ ให้มีความรู้ ความชำนาญ รวมทั้งการใช้อาวุธปืนประจำกายทุกครั้งจะเป็นไปตามมาตรฐานสากลและพัฒนาสู่ความ “เป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐานมืออาชีพ”

นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักยุทธวิธีการเข้าตรวจพิสูจน์หลักฐาน และระงับเหตุตามแบบการใช้อาวุธและการยิงปืน นอกจากนี้ผู้ปฏิบัติเองยังสามารถตัดสินใจใช้อาวุธปืนในการเข้าระงับเหตุได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย และถูกต้องตามหลักยุทธวิธี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านการฝึกทบทวนจะได้รับความรู้และวิทยาการใหม่ๆ นำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการฝึกทบทวนในครั้งนี้อีกด้วย

สนอง แท่นสูงเนิน ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี และอนุกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดลพบุรี รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ขานรับ นโยบาย ผบ.ตร. ตม.นครนายก X-rays ตรวจสอบและสร้างความเชื่อมั่น คนต่างด้าวสัญชาติจีน ในพื้นที่ฯ

แชร์เนื้อหานี้

👮‍♂️ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เรื่องการคุมเข้ม
แก้ปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ

👮‍♂️พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์  อนุฤทธิ์ รรท.ผบก.ตม.3 มอบหมายให้  พ.ต.ท.พศิน หลาวทอง สว.ตม.จว.นครนายก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดฯ ตรวจสอบคนต่างด้าวโดยเฉพาะ สัญชาติจีน ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยตรวจสิทธิในการอยู่ในราชอาณาจักร การแจ้งที่พัก และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ อีกทั้งยังช่วยแจ้งให้ทราบถึงช่องทางการประสานกับเจ้าหน้าที่กรณีขอความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ หรือการเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ และยังเป็นการสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยใน จ.นครนายก

  ➡️ทั้งนี้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมทั้งขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน หากมีข้อมูลเบาะแสกระทำผิด หรือ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้แรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ฯ สามารถติดต่อ ตม.จว.นครนายก หรือ ☎️ สายด่วน โทร.1178

สระแก้ว – ชุมชนเมืองย่อยที่ 16 (ตลาดสระแก้ว) จัดกิจกรรม “รณรงค์ไม่ขายเสียง” ชุมชนต้นแบบ

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะครู ศกร.ระดับตำบลสระแก้ว สังกัด สกร.ระดับอำเภอเมืองสระแก้ว จัดกิจกรรม “รณรงค์ไม่ขายเสียง” หมู่บ้านต้นแบบไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ได้มี ร.ต.อ.สำราญ พรหมเกษร ประธานชุมชนเมืองย่อยที่ 16 (ตลาดสระแก้ว) พร้อมคณะกรรมการชุมชน ประชาชนในพื้นร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ณ ชุมชนเมืองย่อยที่ 16 (ตลาดสระแก้ว) อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

พร้อมบรรยายให้ความรู้เรื่องพลเมืองคุณภาพ และรณรงค์การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.อบจ.สระแก้ว ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 เวลา 08.00-17.00 น

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ /พิธีรับส่งมอบ ผู้บังคับการ ตร.ภูธรเชียงใหม่ พร้อมสานต่อเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการ ตำรวจ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา

แชร์เนื้อหานี้

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2568
เวลา 07.30 น. พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยคุณจารุณี แก่นจันทร์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจเชียงใหม่ ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระพุทธพิทักษ์บดีศรีล้านนา พระพุทธรูปประจำ ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการปฏิบัติหน้าที่

ต่อมาในเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รรท.รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ทำพิธีส่งมอบแฟ้มและธงประจำหน่วย จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมและทักทายกำลังพลในแถว

โดย พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตนจักปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ยกระดับหน่วยงานในสังกัด ให้มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ และพร้อมให้บริการประชาชน ควบคู่กับการ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี แก่กำลังพลทุกนาย

สร้างความยอมรับเชื่อถือ รวมทั้งดำเนินการบริหารงานอย่างเป็นธรรม โดย “เป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมาย ที่นำ สมัย ในระดับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา” ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนสานต่อแนวทางการดำเนินงาน ของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดแก่ทางราชการต่อไป.,.พิธีรับส่งมอบงานในหน้าที่ราชการ #ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ พร้อมสานต่อเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการ ตำรวจ ตามนโยบายผบ.ตร. เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา

สมจิตร แสงบัลลัง รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตำรวจไทยสุดยอด!!! เจอเด็กญี่ปุ่นแล้ว สถานทูตญี่ปุ่นมารับตัวกลับประเทศโดยปลอดภัย

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ (18 มกราคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า กรณีเยาวชนชายชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไป ญาติไม่สามารถติดต่อได้หลังจากเดินทางมาประเทศไทยนั้น ล่าสุดตำรวจพบตัวแล้ว และได้ประสานทางการญี่ปุ่นรับตัวกลับประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างความยินดีกับครอบครัวและชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าครอบครัวเยาวชนชายคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือกรณีเยาวชนดังกล่าวเดินทางมายังประเทศไทยแล้วไม่สามารถติดต่อได้ ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยช่วยตรวจสอบ ต่อมา พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. เร่งตรวจสอบจนพบเยาวชนชายดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนเกิดเหตุเยาวชนชายชาวญี่ปุ่นได้เล่นเกมออนไลน์เกมหนึ่ง ซึ่งสามารถเล่นได้กับผู้อื่นแบบสาธารณะ จนกระทั่งสนิทสนมกับบุคคลหนึ่งในเกม และถูกชักชวนมายังประเทศไทย เยาวชนชายคนดังกล่าวจึงเดินทางมายังประเทศไทยโดยไม่แจ้งให้ทางครอบครัวทราบ จากนั้นทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้ จึงขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น และตำรวจญี่ปุ่น ก่อนมีการประสานกับตำรวจไทยให้ช่วยติดตามตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร.ได้ติดตามจนพบตัวเยาวชนดังกล่าว โดยใช้เวลาเพียง 1 วัน หลังได้รับแจ้ง และได้ประสานสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยให้รับตัวกลับประเทศโดยปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยล่าสุดทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โดย พ.ต.อ.นาโอโตะ วาตานาเบะ ผู้ช่วยทูตตำรวจญี่ปุ่น , นายซาโต้ โทโมโนริ เลขานุการโท และกงสุล และ นายพิสิฏฐ์ ไม้ประเสริฐ ผู้ช่วยกงสุล ได้เข้าพบ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ เพื่อแสดงความขอบคุณในการให้ความช่วยเหลือติดตามตัวเยาวชนชายชาวญี่ปุ่น จนกระทั่งสามารถพากลับประเทศอย่างปลอดภัยในเวลาอันรวดเร็ว

ทั้งนี้ รัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลอย่างเข้มงวดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับข้าราชการตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด โดย พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. และตำรวจทุกพื้นที่ ทุกหน่วยงาน ใส่ใจในการช่วยเหลือทุกกรณีอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับเยาวชนไทยด้วย จึงขอฝากเตือนเด็กและเยาวชนให้ระมัดระวังการติดต่อพูดคุยกับบุคคลแปลกหน้าในเกมออนไลน์ หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อาจมีผู้ไม่หวังดีชักชวนให้ทำเรื่องที่ไม่สมควรได้ และขอฝากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้คอยดูแลบุตรหลานในการเล่นเกม หรือใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างระมัดระวัง และให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เหมาะสมแก่บุตรหลาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่เป็นอันตราย หรือเดือดร้อนเป็นภัยกับตัวเอง

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ภูธรจ.น่าน รวบแก๊งคนร้ายหลอกลงทุนทำงานสร้างรายได้

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ลานอาคารที่ทำการ ภ.จว.น่าน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศปอส.ตร. และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ ภ.5/ผอ.ศปอส.ภ.5

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสการกระทำผิดของกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นบริษัท R/GA ประเทศไทย สาขาน่าน มีพฤติการณ์ชักชวนประชาชนทั่วไปให้ลงทุนทำงานสร้างรายได้ ศปอส.ภ.จว.น่าน จึงได้ปฏิบัติการภายใต้ยุทธการ “ปราบซิมม้า ล่าบัญชีผี” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในครั้งนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศปอส.ตร. ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงได้สั่งการให้ ศปอส.ภ.จว.น่าน เร่งรัดดำเนินการเชิงรุกเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพื่อป้องกันไม่ให้ขยายความเดือดร้อนออกไปเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้น

หลังจากได้รับสั่งการ ผบก.ภ.จว.น่าน ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ภ.จว.น่าน รับผิดชอบทำการสืบสวนและสอบสวนคดีดังกล่าวทันที และเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ เมฆคะ ผกก.สืบสวน ภ.จว.น่าน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ภ.จว.น่าน บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน พฐ.จว.น่าน กอ.รมน.จว.นน. และฝ่ายปกครองในพื้นที่ นำหมายค้นศาลจังหวัดน่านเข้าทำการตรวจค้นที่ตั้งบริษัท R/GA ประเทศไทย สาขาน่าน ได้ทำการตรวจยึดพยานหลักฐานต่างๆ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน
จากการสืบสวนพบว่า บริษัทดังกล่าวมีการประกาศรับสมัครโฆษณาชักชวนทำงานผ่านแพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ต และแอบอ้างว่าเป็นการทำงานเพื่อเพิ่มยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน แต่เมื่อสมัครสมาชิก

เพื่อเริ่มทำงานจะต้องจ่ายเงินประกันการทำงานกำหนด 1 ปี ให้กับบริษัทกำหนดไว้ 9 ระดับ คือ J1-J9 ซึ่งหากอยากมีรายได้มากก็ต้องเลือก J ระดับสูง โดยมีรายได้รวมจาก 5 ช่องทาง นอกจากนี้ยังมีการแอบอ้างบริษัท R/GA ที่มีอยู่จริง และออกช่วยเหลือการกุศลต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสมาชิก ซึ่งในพื้นที่ จว.น่าน ได้มีผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเป็นระดับแม่ทีมในการร่วมกันชักชวนประชาชนตามช่องทางต่างๆ อันเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะได้ขยายผลดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องและกลุ่มบัญชีม้าต่อไป สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้นั้น เป็นมาตรการเชิงรุกในการเร่งรัดเข้าไปทลายบริษัทหรือขบวนการพวกนี้ สามารถขยายผลเจอผู้เสียหายกว่า 2,000 ราย และสามารถขยายผลต่อจนสามารถหยุดยั้งความเสียหายเฉพาะที่ตรวจพบในพื้นที่ จว.น่าน ไว้ที่ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้เสียหายจะหยุดอยู่ที่ระดับ J1-J3 ไม่บานปลายไปกว่านี้ ถ้าปล่อยไปถึงระดับ J4-J9 ก็อาจจะเสียหายมากจนเป็นคดีระดับประเทศขึ้นได้

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศปอส.ตร. ได้ฝากความห่วงใยแจ้งไปยังพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้เสียหายทั่วประเทศอีกจำนวนมาก ที่กำลังพยายามหาช่องทางช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ให้รีบเข้าไปแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ใกล้บ้านได้เลย เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์และคนร้ายในขบวนการนี้ ตลอดจนติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายในคดีนี้ต่อไป และขอเตือนให้ระวังการเข้าไปลงทุนในลักษณะนี้ที่จะนำไปสู่การถูกหลอกลวงสูญเสียทรัพย์สิน/ บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / สภ.บัวใหญ่ จับจุม นายชนาเทพ จันทร์หนองแวง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจ.สีคิ้ว ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้(วันศุกร์ ที่ 17 ม.ค.68) เวลา 13.30 น.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐพันธุ์เชร์ผบ.ตร.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์รอง ผบ.ตร.(สส)มอบหมายให้
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 1)พร้อมด้วย
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีนผบช.ภ.3พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์รอง ผบช.ภ.3
พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่นรรท.ผบก.ภ.จว.นครราชสีมาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจแก่ประชาชนและสื่อมวลชน ที่เกิดในพื้นที่ สภ.บัวใหญ่ คือ นายชนาเทพ จันทร์หนองแวง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ จ.10/2568 ลงวันที่ 13 มกราคม 2568

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ ใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้, พาผู้อื่นไปเพื่อกระทำอนาจาร โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย และลักทรัพย์โดยทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม”

ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายและรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ ผบ.ตร. ได้ฝากข้อห่วงใยซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน

ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ฝากถึงผู้เสียหายว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนอย่างตรงไปตรงมาปราศจากข้อสงสัยจากทุกฝ่าย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป ณ ภ.จว.นครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / ตร.ลำพูน เปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติด ในพื้นที่ จว.ลำพูน ตามนโยบายรัฐบาลเร่งรัดปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด

แชร์เนื้อหานี้

วันนี้ 17 ม.ค.68 เวลา 07.00 น. ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน โดย พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผบก.ภ.จว.ลำพูน พร้อมด้วย พ.ต.อ.พชรพล วงศ์รจิต รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน , นายโยธิน ประสงค์ความดี รอง ผวจ.จว.ลำพูน , พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผกก.สภ.เมืองลำพูน , พ.ต.อ.สมพงษ์ บุญมาประเสริฐ รรท.ผกก.สภ.เหมืองจี้ ,

พ.ต.อ.ดนัย ใจกล่ำ ผกก.สส.ภ.จว.ลำพูน , พ.อ.กฤติคุณ นิโลบล รอง ผอ.รมน.จว.ล.พ.(ท.) , นายอำเภอเมืองลำพูน , ขรก.ตำรวจในสังกัด ภ.จว.ลำพูน , จนท.ป.ป.ส.ภ.5 , พฐ.จว.ลำพูน , อส.จว.ลำพูน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการปฏิบัติการปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลเร่งรัดปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด กว่า 76 นาย ณ ลานด้านหน้า สภ.เมืองลำพูน

โดยมี นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผวจ.จว.ลำพูน เป็นประธาน กล่าวให้โอวาทและกล่าวเปิดปฏิบัติการปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ เนื่องด้วยรัฐบาลได้มีนโยบายเร่งรัดปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยออกนโยบายในการตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ กวาดล้างยาเสพติดในพื้นพื้นที่แพร่ระบาด และให้เพิ่มประสิทธิภาพมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินในคดียาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ ในทุกพื้นที่ เพื่อทำลายวงจรการค้าและลดการแพร่ระบาดในพื้นที่เสี่ยง

การปฏิบัติการมีเป้าหมายสำคัญคือการจับกุมผู้กระทำผิดรายสำคัญ ยึดยาเสพติด และทำลายโครงสร้างเครือข่ายที่ฝังตัวในพื้นที่ ซึ่งในการปล่อยแถวในครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่หลายฝ่ายใน จว.ลำพูน และประชุมติดตามการปฏิบัติเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด ณ ห้อง ศปก.สภ.เมืองลำพูน ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูนจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ทั้งในด้านการปราบปรามและป้องกัน การเพิ่มประสิทธิภาพการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และมุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินต่อไป..

สมจิตรแสงบันลังค์รายงาน