คลังเก็บหมวดหมู่: ทหารบก (ทบ.)

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / มัสยิดถึงชุมชน จากผู้นำถึงประชาชน ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อพี่น้องชายแดนใต้ สร้างความสุขสู่ชุมชน รวมพลังใจสร้างสันติสุข

แชร์เนื้อหานี้

จากมัสยิดถึงชุมชน จากผู้นำถึงประชาชน ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อพี่น้องชายแดนใต้ สร้างความสุขสู่ชุมชน รวมพลังใจสร้างสันติสุขจ.ยะลา .-

ความเข้าใจคือสะพานเชื่อมใจ จากผู้นำถึงประชาชนจากมัสยิดถึงชุมชน จากผู้นำถึงประชาชน ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อพี่น้องชายแดนใต้ สร้างความสุขสู่ชุมชน รวมพลังใจสร้างสันติสุข

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายของ พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4

ที่เน้นการ “สานต่อพลัง เพื่อสันติสุข” ได้ย้ำว่า “ชายแดนใต้ไม่ใช่สมรภูมิรบ แต่คือบ้านของเรา ที่ต้องร่วมกันสร้างความเข้าใจ” ในการสร้างความเข้าใจและะการลงพื้นที่ในครั้งนี้

พ.อ. เอกธวุฒิ คงคาเขตร ผู้อำนวยการโรงเรียนการเมือง ศูนย์สันติวิธี (ศสว.) ได้ลงพื้นที่ ณ สำนักงานสมาคมผู้นำอิสลามชายแดนใต้ ถนนสุขยางค์ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา

สำหรับการพบปะและพูดคุยกับชาวบ้านและผู้นำศาสนา ได้พบกับ นายมะหามะ แสแลแม หัวหน้าหน่วยแพทย์ กลุ่มดะวะห์ตับ

ลีฆ และ นายฮัสบูเล๊าะ หิเล นายกสมาคมผู้นำอิสลามชายแดนใต้ พร้อมด้วยทีมงานแกนนำเครือข่ายในพื้นที่

โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างภาครัฐ กับ ผู้นำศาสนาและชุมชน โดยการถ่ายทอดนโยบายเพื่อเสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ และความร่วมมือ

จึงเชิญชวน ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อให้ชายแดนใต้นั้น กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง //ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน //

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กองทัพภาค2 ตอกหน้าสื่อเขมร ปั่น ‘ฮีโร่’ คืนสนามรบ ที่แท้ เชลยศึก ไทยปล่อยตัว เหตุป่วย ‘พิษสุราเรื้อรัง-เสียสติ’ ย้ำชัด ไร้มนุษยธรรม/ปค.ชุดสิงห์เมืองมุก บุกจับหนุ่มผึ่งแดดค้ายาบ้า ศป.ปส.อ.เมืองมุกดาหาร

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เฟซบุ๊กเพจ “กองทัพภาคที่ 2” โพสต์ข้อความระบุว่า “ตามที่ปรากฏภาพข่าว สำนักข่าว Fresh News Daily ว่า คุณยังจำฮีโร่ทหารของเราชื่อ “ซึม ซ็อมแอง” ได้หรือไม่??? เขาคือคนที่ถูกทหารไทยจับกุม และได้รับการปล่อยตัว และตอนนี้ได้ฟื้นตัวกลับมาอยู่แนวหน้าอีกครั้งแล้ว” “นี่คือจิตวิญญาณความกล้าหาญ ที่แข็งแกร่งที่สุดของฮีโร่ ทหารกัมพูชา ผู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ ภายใต้สถานการณ์ใดๆ”

“ความจริง คือ ร.ต.ซึม ซ็อมแอง คือ เชลยศึกที่ถูกฝ่ายไทยเราควบคุมตัวไว้ในช่วงการสู้รบ ห้วงวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 ในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนที่ทางการไทยจะปล่อยตัวกลับไปก่อน 2 รายเนื่องจากอาการป่วยหนัก และมีอาการทางระบบประสาท หรือ จิตเวช เราจึงได้ส่งตัวกลับไป เพื่อให้เข้ารับการรักษาต่อในประเทศกัมพูชา จึงมีเชลยศึกที่ถูกฝ่ายไทยควบคุมตัวเหลืออยู่ 18 ราย

ซึ่ง ร.ต.ซึม ซ็อมแอง เป็นบุคคลที่มีอาการพิษสุราเรื้อรัง และเสียสติ จากความเครียดในระหว่างการทำการรบ โดยก่อนส่งตัวกลับ ร.ต.ซึม ซ็อมแอง ได้ทำเอกสารสัญญาว่า… จะไม่เข้าทำการรบอีก ตามที่เขาลงนามเอาไว้”
“ ระหว่างการถูกควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ฯของไทย ได้จัดหารองเท้าให้ใส่อยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมใส่ จนฝ่ายกัมพูชามีการไปออกข่าวบิดเบือนว่าเรากลั่นแกล้งไม่ให้ใส่รองเท้าอีกด้วย”

“การที่ กัมพูชา มีการนำบุคคลที่มีอาการทาง จิตเวช เสียสติ หรือ สภาพจิตใจไม่ปกติ มาเข้าทำการรบ ถือว่า เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง และการกระทำเยี่ยงนี้ ยิ่งเป็นที่ย้ำชัดเลยว่า การปล่อยตัวเชลยศึกที่เหลืออีก 18 ราย ไม่สามารถกระทำได้ จนกว่า ความเป็นปรปักษ์จะสิ้นสุดต่อกัน”

ทั้งนี้ หลักการสากลที่เกี่ยวข้อง

  1. อดีตเชลยศึกไม่ควรถูกบังคับกลับเข้าสู่การรบโดยทันที หลังการปล่อยตัว ตามอนุสัญญาเจนีวา
  2. บุคคลที่มีภาวะปัญหาสุขภาพจิตหรือสงสัยว่ามีอาการ PTSD ถือว่าเป็นผู้เปราะบาง (Vulnerable person)
  1. การนำผู้ป่วยหรือผู้สงสัยว่าป่วยทางจิตเข้าสู่สนามรบโดยไม่ผ่านการรักษาและประเมินความพร้อม ถือเป็นการเสี่ยงต่อชีวิตและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
  2. การใช้งานทหารหรือบุคคลในสภาพ ไม่พร้อมรบทางกายหรือทางจิตใจ อาจเข้าข่าย การละเมิดหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ตามมาตรฐานสากลด้านความมั่นคงและมนุษยธรรม การนำบุคคลที่มีภาวะผิดปกติทางจิต หรือสงสัยว่า มีอาการ PTSD กลับไปปฏิบัติการรบ โดยไม่ได้รับการรักษา และประเมินความพร้อมอย่างเป็นทางการ ถือเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม และอาจเข้าข่ายไม่เป็นมนุษยธรรม
    ภาพ/ข่าว : กองทัพภาคที่ 2 เดวิท โชคชัย รายงาน

ปค.ชุดสิงห์เมืองมุก บุกจับหนุ่มผึ่งแดดค้ายาบ้า ศป.ปส.อ.เมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ขับเคลื่อนนโยบาย รวมพลัง รักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ “Quick Big Win”

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เวลา 11.30 น. นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร / ผอ.ศป.ปส.อ.เมืองมุกดาหาร สั่งการให้ นายหมวดเอกดนุภพ รองไชย ปลัดอำเภอ (หัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง) และนางสาวธัญญารัตน์ เหล่าบุตรศรี ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง

นำชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองมุกดาหาร (สิงห์เมืองมุก) พร้อมสมาชิก อส. ร้อย อส.อ.เมืองมุกดาหาร 2 และฝ่ายปกครองตำบลดงมอน ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังได้รับร้องเรียนว่ามีบุคคลเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ตำบลผึ่งแดด อำเภอเมืองมุกดาหาร

จากการตรวจสอบสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 6 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่าจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด อำเภอเมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ศปปส #QuickBigWin #ยาเสพติด #อำเภอเมืองมุกดาหาร #สิงห์เมืองมุก #ฝ่ายปกครอง #ผึ่งแดด #มุกดาหาร #รวมพลังต้านยาเสพติด #หยุดยานรก_///ภาพ/ข่าว เดวิท – ธวัชชัย โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผบ.ทบ. เยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิดที่ห้วยตามาเรีย ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ

แชร์เนื้อหานี้

ผบ.ทบ. เยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดที่ห้วยตามาเรีย กำชับดูแลสิทธิสวัสดิการอย่างเต็มที่ พร้อมตรวจหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 16 ที่บาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา

ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมี พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 /ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งปัจจุบันกำลังพลทั้ง 4 นาย ได้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วย

  1. จ่าสิบเอก เทอดศักดิ์ สมาพงษ์ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวาท่อนล่างขาด รวมถึงมีแผลฉีกขาดที่ขาซ้ายและมือขวา แพทย์ได้ทำการผ่าตัดแล้ว 3 ครั้ง และยังคงทำแผลเป็นประจำทุกวัน ควบคู่กับการให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อและยาแก้ปวดบรรเทาอาการอย่างต่อเนื่อง
  2. พลทหาร อภิรักษ์ ศรีชมไชย มีอาการบาดเจ็บจากแรงระเบิด แผลฉีกขาดที่ขาขวา ปัจจุบันได้รับการทำแผล ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อและยาบรรเทาอาการปวด
  1. พลทหาร วชิระ พันธะนา มีอาการบาดเจ็บจากแรงระเบิด แผลจากการถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย และที่ตาซ้าย ปัจจุบันได้รับการทำแผล ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อและยาบรรเทาอาการปวด
  2. พลทหาร อนุชา สุจารี มีอาการบาดเจ็บจากแรงระเบิด และมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาทั้งสองข้าง ปัจจุบันได้รับการล้างตา หยอดตาเป็นประจำ และยาบรรเทาอาการปวด

กำลังพลทั้ง 4 นายยังคงอยู่ในกระบวนการรักษาอย่างต่อเนื่อง และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยแพทย์ยังคงเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ในการเข้าเยี่ยมครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้กำลังใจและยกย่องในความเสียสละของทุกนายที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมให้ผู้บังคับหน่วยดูแลสิทธิสวัสดิการและครอบครัวของกำลังพลอย่างดีที่สุด

จากนั้น ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกพร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา ได้เข้าตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 22 มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งยังได้ตรวจสภาพความเป็นอยู่ในโรงนอน พื้นที่การฝึก ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ

ในหน่วยฝึก ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้พบปะพูดคุยพร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญกับทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/68 โดยมีแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะผู้บังคับบัญชาให้การต้อนรับ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงการปฏิบัติตามระเบียบการฝึกของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจตลอดห้วงระยะเวลาการฝึก

เดวิท โชคชัย รายงาน

ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ มทบ.22 ย้ำผู้บังคับบัญชาดูแลทหารใหม่ทุกมิติ ทั้งร่างกาย จิตใจ ครอบครัว พร้อมเร่งเสริมทักษะอาชีพ กำชับฝึกเข้มทหารใหม่ ปลอดภัย ไม่ละเมิดสิทธิ

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 22 โดยมีทหารใหม่ผลัดล่าสุดจำนวน 432 นาย พร้อมรับฟังการรายงานด้านการบริหารการฝึก การเตรียมกำลังป้องกันชายแดน และแผนเผชิญเหตุของกองทัพบกในพื้นที่ภาคอีสาน โดยมี พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 /ผู้

บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 พร้อมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงร่วมให้การต้อนรับ ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้รับฟังข้อมูลด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพทหารใหม่จากโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลทหารใหม่อย่างใกล้ชิด ทั้งด้านสภาพร่างกาย จิตใจ ความเป็นอยู่ และบริบทครอบครัว เพื่อให้ทหาร กองประจำการได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่

ต่อจากนั้น ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และคณะได้ลงพื้นที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 6 ตรวจการฝึกทฤษฎี การปฏิบัติในท่าอาวุธ รวมถึงตรวจโรงนอน อาคารสถานที่ที่ใช้ในการฝึก พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการฝึกตามหลักเกณฑ์ของกองทัพบกและกรมยุทธศึกษา

ทหารบกอย่างเคร่งครัด ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ย้ำชัดว่า การฝึกต้องมีมาตรฐาน มีความปลอดภัย และต้องไม่มีการลงโทษผิดระเบียบทุกรูปแบบ ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจเรื่องบทบาททหารอาชีพในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ต้องมีความอดทน เสียสละ มีวินัย และพร้อมทำงานเพื่อประชาชน

เดวิท โชคชัย รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จัดพิธีต้อนรับทหารใหม่สุดยิ่งใหญ่ จุดประกายความภาคภูมิใจชายชาติไทย รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 2

แชร์เนื้อหานี้

ข่าว ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ที่ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร พล.ต.สมคิด ชูเผือก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีต้อนรับและเปิดการฝึกทหารใหม่

รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 2 ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและเปี่ยมด้วยความฮึกเหิมของกำลังพล โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการ และทหารกองประจำการร่วมเป็นสักขีพยาน ในปีนี้มีทหารใหม่เข้ารับการฝึกจาก 3 หน่วยฝึก รวมทั้งสิ้น 299 นาย ประกอบด้วย มณฑลทหารบกที่ 44 จำนวน 116 นาย

กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 25 จำนวน 118 นาย
กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 25 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 จำนวน 65 นาย
การฝึกทหารใหม่เป็นไปตามหลักสูตรของกรมยุทธศึกษาทหารบก มุ่งพัฒนาทหารใหม่ให้มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ปลูกฝังวินัย ความเสียสละ และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงการเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกสถานการณ์

ภายในพิธี พลฯ อมตะ ทองเหลือง ตัวแทนทหารกองประจำการปีที่ 2 กล่าวต้อนรับน้องใหม่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สะท้อนความภูมิใจในหน้าที่ “การได้เข้ามาเป็นทหาร คือการได้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติ ปกป้องแผ่นดินที่บรรพบุรุษรักษาไว้ด้วยเลือดเนื้อ” เขากล่าว พร้อมให้กำลังใจทหารใหม่มุ่งมั่นรับการฝึกด้วยความอดทน

ด้านตัวแทนทหารใหม่ พลฯ จักรกฤษณ์ เหรัญญะ ได้กล่าวคำปฏิญาณ สะท้อนถึงความตั้งใจเต็มร้อยของชายไทยเลือดรักชาติ “ข้าพเจ้าจะตั้งใจรับการฝึก ปฏิบัติตามคำสั่ง และรักษาเกียรติศักดิ์ศรีแห่งทหารกองประจำการอย่างสุดกำลัง” เสียงปฏิญาณดังดุจประกาศก้องถึงความมุ่งมั่นพร้อมรับใช้ประเทศ

ปิดท้ายด้วยโอวาทจาก พล.ต.สมคิด ชูเผือก ซึ่งกล่าวชื่นชมความเสียสละของทหารใหม่ พร้อมย้ำว่ากองทัพบกจะเป็นบ้านหลังที่สองที่อยู่ด้วยความอบอุ่น สามัคคี และมุ่งพัฒนาทุกนายให้เป็นกำลังสำคัญของชาติ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ทหารใหม่ทุกนายปลอดภัย แข็งแรง และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสง่างาม

พิธีครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเริ่มต้นเส้นทางชีวิตทหารของชายไทยกว่า 200 ชีวิต แต่ยังเป็นภาพสะท้อนความรักชาติ ความเสียสละ และหัวใจที่มุ่งมั่นของเหล่าทหารใหม่ ผู้พร้อมยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินไทยตราบเท่าชีวิตจะหาไม่

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ชายแดน ตรวจเยี่ยมความพร้อมรบของกำลังพล ในพื้นที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา/ มือยิงเจาะกะโหลกหนุ่มมุกดาหารดับคาบ้าน หลังหนีข้ามน้ำโขง

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของกำลังพลในพื้นที่กองกำลังสุรนารี เพื่อประเมินสถานการณ์จริงในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เน้นย้ำให้

หน่วยในพื้นที่เสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกมิติ ทั้งการลาดตระเวน การเฝ้าตรวจ การวิเคราะห์ข่าวกรอง และการปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังภัยคุกคามทุกรูปแบบ พร้อมยกระดับความพร้อมรบของกำลังพล เพื่อป้องกันเหตุร้ายและรักษาเสถียรภาพพื้นที่ชายแดนอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญ ต่อการปกป้องชีวิตกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ โดยสั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และยึดมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุดโดยแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ได้เดินตรวจเยี่ยมการพัฒนาเส้นทางยุทธวิธีในพื้นที่ การปรับปรุงฐานที่มั่นให้มีความมั่นคงแข็งแรง และสอบถามสารทุกข์สุกดิบต่อกำลังพล ช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน

ในพื้นที่ชายแดนให้มีกำลังใจในการปฏิบัติงานเป็นอย่างมาก ทั้งยังได้ให้แนวทางการปฏิบัติ โดยเน้นย้ำให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ของทหาร ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสียสละ อดทน มีระเบียบวินัย และให้มีความพร้อมรบอยู่เสมอ สร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า เพื่อดำรงความพร้อมสูงสุดทุกสถานการณ์ ปกป้องอธิปไตยของชาติ และดูแลความปลอดภัย ของประชาชนให้มั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป

เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

รวบแล้ว! มือยิงเจาะกะโหลกหนุ่มมุกดาหารดับคาบ้าน หลังหนีข้ามน้ำโขง – ตำรวจคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร, พ.ต.ท.ฉัตรมงคล บุญกลาง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร สั่งการให้ พ.ต.ท.เจษฎากร ไชยศรีหา สว.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น

โดยสามารถจับกุมตัว นายเทพพิทักษ์ ทองเภา อายุไม่ระบุ อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 6 ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ผู้ต้องหาตาม หมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ จ.274/2568 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สืบสวนแกะรอยและกดดันผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถติดตามจับได้ภายหลังจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเทพพิทักษ์ไป ชี้จุดเกิดเหตุ จุดที่นำอาวุธปืนไปทิ้ง และจุดที่นำรถยนต์ที่ใช้ในการหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ เพื่อประกอบคำรับสารภาพ จากนั้น ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับแล้วมือยิงหนุ่มมุกดาหาร #ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา #สภเมืองมุกดาหาร #คดีฆ่ามุกดาหาร #ข่าวอาชญากรรม #ตำรวจมุกดาหาร #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้/////ภาพ/ข่าว เดวิท – ธวัชชัย โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / พลโท บุญสิน พาดกลาง บรรยาย “ทหารกล้า รักษาอธิปไตย” ที่พิชัยรัตนาคาร – ภาคเอกชนร่วม 2 ล้าน / จับแรงงานเมียนมาลอบเข้าเมือง 77 คน เตือนนายจ้างอย่าฝ่าฝืน

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ที่อาคารโรงคลุม โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร อำเภอเมืองระนอง ได้จัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจปลุกจิตสำนึกรักชาติให้แก่นักเรียนและเยาวชน ภายใต้แนวคิด “เรื่องเล่าทหารกล้า รักษาอธิปไตย เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน” โดยได้รับเกียรติจาก พลโท บุญสิน พาดกลาง ขึ้นบรรยายพิเศษ ถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตจริงของทหารผู้ปกป้องแผ่นดิน เพื่อปลูกฝังคุณธรรม ความเสียสละ และความภาคภูมิใจในความเป็นไทยก่อนเริ่มการบรรยาย นักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้พร้อมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย เวลา 08.00 น. บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบและภาคภูมิใจในความเป็นไทย

ในโอกาสนี้ ภาคเอกชนจังหวัดชุมพรได้ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดย คุณนายหน่อย ณัฐวรรณ ฉายะบุตร (ผู้มีอุปการคุณเลขที่ 209 สภากาชาดไทย) มอบ พระครูบาศรีวิชัย รุ่นสร้าง 9 ธ.ค. 2536 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแด่พลโท บุญสิน ขณะที่ ดร.สุรินทร์ เหล่าพัทรเกษม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร ได้กล่าวแสดงความชื่นชมในแนวทางการสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนสิ่งที่สร้างความประทับใจในงาน คือการที่ คุณนายหน่อย ณัฐวรรณ ฉายะบุตร ได้ประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนเมื่อมีการจัดตั้งมูลนิธิของพลโท บุญสิน พาดกลาง แล้วเสร็จ จะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 2 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเบื้องต้น 1 ล้านบาท และอีก 1 ล้านบาทเพิ่มเติม หากมีการดำเนินภารกิจสำคัญเพื่อการ “คืนผืนแผ่นดินไทย”

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ปลุกเจ็ดสำนึกเยาวชนรักชาติไทย” ซึ่งมุ่งสร้างความเข้าใจในหน้าที่พลเมือง ความเสียสละ ความสามัคคี และความภาคภูมิใจในสถาบันหลักของชาติ อันเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย“ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่ใช่เพียงคำขวัญ แต่คือชีวิตและหัวใจของคนไทยทุกคน” – พลโท บุญสิน พาดกลาง

สนธิกำลังบุกตรวจโรงงาน พบแรงงานเมียนมาลอบเข้าเมือง 77 คน เตือนนายจ้างอย่าฝ่าฝืนกฎหมายแรงงานต่างด้าว

ธนากรโกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568พ.อ.นิพนธ์ อินใหม่ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชุมพร (ฝ่ายทหาร) มอบหมายให้ พ.ต.กอบศักดิ์ นาคหาญ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ รมน.403 (ชุมพร) พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าว บูรณาการกำลังร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดชุมพร ฝ่ายปกครองจังหวัดชุมพร ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชุมพร เข้าตรวจสอบ บริษัท บีเอส เวิลด์ ฟูด จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 299 หมู่ 12 ตำบลนาขา อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร

สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงบริษัทฯ จนก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญผลการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 77 คน แบ่งเป็นชาย 35 คน หญิง 42 คน หลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และซ่อนอยู่ภายในพื้นที่ของบริษัทฯเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแรงงานทั้งหมดในความผิดฐาน“เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต การอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอน” ตามมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522

พร้อมกันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ บริษัท บีเอส เวิลด์ ฟูด จำกัด ในข้อหา “ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ในหูต อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ประเมินว่าการหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากความไม่สงบภายในประเทศต้นทาง ทำให้แรงงานจำนวนมากพยายามลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย

สำนักงานจัดหางานจังหวัดชุมพรขอเตือนนายจ้างและสถานประกอบการ ห้ามรับหรือให้ที่พักอาศัยแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน เพราะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหากพบการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อร่วมกันป้องกันปัญหาแรงงานผิดกฎหมายและรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชุมพร

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาคที่ 2 เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดชายแดน /”มุกดาหาร” แถลงยึดยาบ้า 3.23 ล้านเม็ด กลางป่าคำชะอี

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมอาการและให้กำลังใจกำลังพล

ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 4 นาย ได้แก่

จ่าสิบเอก เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ ได้รับบาดเจ็บ ข้อเท้าขวาท่อนล่างขาดพลทหาร วชิระ พันธนา ได้รับบาดเจ็บ จากแรงอัดจากระเบิด มีอาการแน่นหน้าอกพลทหาร อภิรักษ์ ศรีชมไชย ได้รับบาดเจ็บ โดนสะเก็ดระเบิด บริเวณขาขวาท่อนล่างพลทหาร อนุชา สุจารี ได้รับบาดเจ็บ โดนสะเก็ดระเบิด ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ถนัด

ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบเงินบำรุงขวัญจากกองทัพบก และมอบเงินบำรุงขวัญในนามกองทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจแก่กำลังพลและครัว

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมดูแลกำลังพลและครอบครัวอย่างดีที่สุด พร้อมย้ำชัดเจนว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้วิธีการที่ไร้มนุษยธรรม ไม่สนใจข้อตกลงที่ให้ไว้ และได้สั่งการกำชับให้ทุกหน่วยตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง และเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

ภาพ/ข่าว : กองทัพภาคที่ 2 เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

“มุกดาหาร” แถลงยึดยาบ้า 3.23 ล้านเม็ด กลางป่าคำชะอี เครือข่ายขนข้ามชาติทิ้งรถหนี — เร่งขยายผลล่าผู้ร่วมขบวนการ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 (ร้อย ตชด.234) จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานแถลงข่าวผลการตรวจยึดยาเสพติดครั้งใหญ่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ ไทยพุทรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร, พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์ถึง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 และ พ.ต.ท.วัฒนพล ดาแก้ว ผู้บังคับกองร้อย ตชด.234

โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 3,232,000 เม็ด พร้อมของกลางประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ขน 9608 อุดรธานี, แม็กกาซีนปืน 1 ชิ้น และเครื่องกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 13 นัด

สืบเนื่องจาก กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กองทัพภาคที่ 2 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวเชื่อถือได้ว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่รอยต่อจังหวัดมุกดาหารและอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เพื่อส่งต่อเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ

จากการตรวจสอบข้อมูลข่าวกรอง พบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าวใช้ รถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ขน 9608 อุดรธานี เป็นพาหนะลำเลียง โดยเจ้าของกรรมสิทธิ์รถไม่ใช่คนในพื้นที่และมีประวัติเคยต้องหาคดียาเสพติดมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวเคลื่อนเข้ามาในพื้นที่ บ้านตาเปอะ ตำบลบ้านค้อ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
พ.ต.ท.วัฒนพล ดาแก้ว ผบ.ร้อย ตชด.234 จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.วิชาญ ตนุมาตร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ (ชปข.) ร้อย ตชด.234 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนชุดด้านการข่าวและ มว.ตชด.2341 ออกลาดตระเวนพิสูจน์ทราบในพื้นที่

กระทั่งเวลา 12.00 น. ชุดปฏิบัติการพบรถกระบะต้องสงสัยจอดทิ้งอยู่บริเวณเชิงเขา ใกล้ แก่งกกขาม บ้านตาเปอะ จึงวางกำลังซุ่มเฝ้ารอผู้มาแสดงตนเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว แต่จนถึงเวลา 16.00 น. ก็ไม่พบผู้ใดมาปรากฏตัว

เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบกระสอบสีขาวจำนวน 8 กระสอบ วางเรียงอยู่ในห้องโดยสารด้านหลัง จากการเปิดตรวจสอบพบภายในบรรจุวัตถุก้อนสี่เหลี่ยมสีเหลือง มีตัวอักษร “Y1” ปรากฏอยู่ห่อ รวมเป็นยาบ้าทั้งสิ้นจำนวน 3,232,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดและนำส่งกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดนมุกดาหาร โดยนำมาพักไว้บริเวณป่าบ้านตาเปอะ เพื่อเตรียมส่งต่อเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องกับการลำเลียงยาเสพติดล็อตนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ยาบ้า3ล้านเม็ด #ตชด234 #มุกดาหาร #ข่าวมุกดาหาร #จับยาเสพติด #เครือข่ายข้ามชาติ #สุรศักดิ์มนตรี #ตำรวจตระเวนชายแดน #ข่าวอาชญากรรม #ปราบยาเสพติด #คำชะอี #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้/////ภาพ/ข่าว เดวิท-ธวัชชัย โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / กองทัพภาคที่ 2 เร่งสร้างหลุมบุคคลคู่–หลุมหลบภัยกว่า 250 แห่ง เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนแนวชายแดน

แชร์เนื้อหานี้

พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง “ที่มั่นกำบัง (หลุมบุคคลคู่)” ภายใต้โครงการ กองทุนหทัยทิพย์ ของมูลนิธิจุฬาภรณ์ ณ ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี หลังเกิดสถานการณ์การปะทะในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมา กำลังพลต้องปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีที่กำบังจากการโจมตีของโดรนจากฝั่งกัมพูชาโครงการดังกล่าวดำเนินการโดย กองทัพภาคที่ 2 ร่วมกับกองกำลังสุรนารี และกองพลพัฒนาที่ 2 มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่กำลังพลและประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน

โดยปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้าง หลุมบุคคลคู่ 256 แห่ง และหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน 7 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ แม่ทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำว่า การสร้างที่มั่นกำบังเป็นภารกิจสำคัญในการปกป้องชีวิตของกำลังพล และเป็นเครื่องยืนยันถึงความห่วงใยของทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนโครงการกองทุนหทัยทิพย์ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าทำงานได้อย่างปลอดภัย“ไทยนี้รักสงบ แต่หากจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย เราก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวตอนหนึ่งโครงการก่อสร้างที่มั่นกำบังและหลุมหลบภัยยังคงดำเนินต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพร้อมและความปลอดภัยสูงสุดให้กับทั้งกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตามพระดำริของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “รมว.กลาโหม” ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจความพร้อมฐานปฏิบัติการ และให้กำลังใจทหารแนวหน้า

แชร์เนื้อหานี้

พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยสวมชุดสนามและเสื้อกั๊ก MoD ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดน พร้อมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการสำคัญ ได้แก่ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ฐานปฏิบัติการพลาญยาว และฐานปฏิบัติการป้อมปูน ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี

การลงพื้นที่ครั้งนี้ พลเอก ณัฐพล ได้รับการรายงานสถานการณ์จาก พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 และ พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ซึ่งได้นำตรวจพื้นที่และสรุปภาพรวมการปฏิบัติการ รวมถึงแนวทางการเฝ้าระวังสถานการณ์บริเวณชายแดน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวสอบถามความเป็นอยู่ของกำลังพล พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับทหารประจำฐานปฏิบัติการ และมอบสิ่งของจำเป็นเพื่อใช้สนับสนุนภารกิจ

พลเอก ณัฐพล ได้เน้นย้ำให้หน่วยกำลังรบให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการ ขวัญ และกำลังใจของกำลังพลในทุกระดับ รวมถึงให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบและความมั่นคงตามแนวชายแดนต่อไป
ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / แม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพ เยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

แชร์เนื้อหานี้

แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 เยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประสานความร่วมมือกับกองทัพประชาชนลาว เพื่อสร้างความมั่นคง และการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย – ลาว

พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พลตรี มงคล หอทอง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว และหน่วยความมั่นคง (ฝ่ายไทย) เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ณ กระทรวงป้องกันประเทศ นครหลวงเวียงจันทน์ โดยได้เข้าเยี่ยมคำนับ/พบปะพัฒนาสัมพันธ์ (แบบเป็นทางการ) กับ พลตรี วันทอง บุดตะวง รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว, หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และได้ถือโอกาสหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร

การแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดน, ปัญหาภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะปัญหาด้านยาเสพติด, การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, สินค้าหนีภาษี และการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ตามแนวชายแดน รวมถึงมิจฉาชีพหรือสแกมเมอร์ (Scammer) เพื่อความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของทั้งสองประเทศ

โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสานต่อการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดน และขยายความร่วมมือในทุกมิติ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนการเยือน การหารืออย่างสม่ำเสมอ ยกระดับความร่วมมือในประเด็นสำคัญ เพื่อนำไปสู่มิตรภาพอันดี และการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศให้ มั่นคง ยั่งยืน สืบไป

เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน