คลังเก็บหมวดหมู่: ท่องเที่ยว

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ศูนย์วิจัยฯ ทางทะเลติดตามอนุบาลปะการังเกาะง่ามใหญ่ พบปะการังรอดกว่า 90% เตรียมต่อยอดฟื้นฟูแนวปะการังสร้างสมดุลระบบนิเวศ

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมรกต โจวรรณถะ หัวหน้าศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 1 (ชุมพร) พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ลงพื้นที่ดำเนินโครงการสำรวจ ติดตาม และประเมินสถานภาพทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล ประจำปี 2568

โดยมีกิจกรรมสำรวจสถานภาพพะยูนและแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพรสำหรับศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 1 (ชุมพร)

มีภารกิจสำรวจ ศึกษา วิจัย และอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ครอบคลุมพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล 7 แห่ง ได้แก่

อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
อุทยานแห่งชาติหาดวนกร
อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (อยู่ระหว่างเตรียมการจัดตั้ง)
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง
อุทยานแห่งชาติแหลมสน
อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี

โดยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ได้ลงพื้นที่เกาะง่ามใหญ่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เพื่อติดตามวัดขนาดการเจริญเติบโตของปะการังในแปลงอนุบาลปะการัง (Coral Nurseries)

ภายใต้โครงการศึกษาวิจัยการฟื้นฟูระบบนิเวศแนวปะการัง ผลการติดตามเบื้องต้นพบว่า แปลงอนุบาลปะการังยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดี ปะการังมีอัตราการรอดสูงถึงร้อยละ 90 และมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1–2 เซนติเมตร
นายมรกตกล่าวว่า

ปรากฏการณ์น้ำทะเลอุณหภูมิสูงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้แนวปะการังหลายแห่งเกิดภาวะฟอกขาวและได้รับความเสียหาย การดำเนินโครงการอนุบาลปะการังจึงเป็นแนวทางสำคัญในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรแนวปะการังให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง เพื่อคงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืนของระบบนิเวศทางทะเลในระยะยาว

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ตอนบน นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของแนวปะการัง ปลาทะเลสีสันสวยงาม และธรรมชาติทางทะเลที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี
คำแนะนำประชาชน:

นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปดำน้ำหรือท่องเที่ยวทางทะเล ควรช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเหยียบปะการัง ไม่ทิ้งขยะลงทะเล และใช้ครีมกันแดดที่เป็นมิตรต่อปะการัง เพื่อร่วมรักษาความงดงามของท้องทะเลชุมพรให้คงอยู่คู่กับชุมชนและคนรุ่นต่อไป

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / ผุดแคมเปญ “วิ่งไป เที่ยวไป เชิญชวนปชช.ทุกทิศทั่วไทยมาท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ – ล่องเรืออุโมงค์ป่าโกงกาง ที่ ต.บางปู อ.ยะหริ่ง

แชร์เนื้อหานี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่ แหล่งชุมชนท่องเที่ยวตำบลบางปู (จุดลงเรือAmazing Bangpu) หมู่ที่ 3 ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี นายอภินันท์ หมวดแก้ว นายอำเภอยะหริ่ง เป็นประธานเปิด กิจกรรม “วิ่งไป เที่ยวไป กับแม่บ้านมหาดไทย” ประจำปี พ.ศ. 2568

โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ลุกมาน สะอะ นายกเทศมนตรีตำบลบางปู, นายซาพีอีย์ กอเนาะ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง, ปลัดอำเภอยะหริ่ง, ปลัดเทศบาลตำบลบางปู, เจ้าหน้าที่ปกครอง, พัฒนากรตำบลบางปู, กำนันผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ตำบลบางปู, และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง

สำหรับบรรยากาศในกิจกรรม START เริ่มต้นจาก นายอภินันท์ หมวดแก้ว นายอำเภอยะหริ่ง ได้วิ่งเปิดนำผู้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งผ่านเส้นทางชุมชนท่องเที่ยว และถ่ายรูป ณ จุดเช็คอิน พร้อมทั้งล่องเรือไปตามเส้นทางเพื่อชมความสวยงามของอุโมงค์ป่าโกงกางบางปู

ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและสนุกสนาน ผู้ร่วมกิจกรรมร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันงดงามของชุมชนท่องเที่ยวบางปู ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างพลังบวกและความสามัคคีในชุมชนได้เป็นอย่างดี

นายอภินันท์ หมวดแก้ว นายอำเภอยะหริ่ง กล่าวว่า การจัดกิจกรรม “วิ่งไป เที่ยวไป กับแม่บ้านมหาดไทย” ในวันนี้ เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยและประชาชนได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติของอำเภอยะหริ่ง กระตุ้นให้ประชาชนรู้จักแหล่งท่องเที่ยว

อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีความสวยงาม และเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ตลอดจนสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดปัตตานีในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่น่าประทับใจ อันจะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนและชุมชน ส่งเสริมรายได้อย่างยั่งยืน

ตอริก สหสันติวรกุล
รายงานจาก จังหวัดปัตาานี

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / บึงกาฬ เปิดการท่องเที่ยวฤดูหนาว นำขบวนรถคาราวานท่องเที่ยว พิชิต 7 น้ำตก ล่าตราประทับ “Waterfalls Buengkan Car Rally”

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 10.30 น. นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และนางนิตยา อารีย์เอื้อ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ นำขบวนรถคาราวานท่องเที่ยว เปิดเทศกาลการท่องเที่ยวฤดูหนาว ภายใต้กิจกรรม “วันวาฬพาเที่ยวล่าตราประทับ พิชิต 7 น้ำตกบึงกาฬ – Waterfalls Buengkan Car Rally” เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่จังหวัดบึงกาฬให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

จัดโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, หอการค้าจังหวัดบึงกาฬ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีขบวนรถคาราวานเข้าร่วมกว่า 50 คัน ร่วมเดินทางไปที่น้ำตกตาดนกเขียน และน้ำตกเจ็ดสี ส่วนน้ำตกอื่น ๆ นักท่องเที่ยวสามารถไปเช็กอินรับตราประทับ และแลกรับรางวัลได้ ถึง 19 ธันวาคม 2568 นี้

นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า กิจกรรม “วันวาฬพาเที่ยวล่าตราประทับ พิชิต 7 น้ำตกบึงกาฬ” หรือทริป 7 น้ำตก มีวัตถุประสงค์ต้องการที่จะประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนในจังหวัดบึงกาฬมาท่องเที่ยวในพื้นที่ตัวเอง ซึ่งจุดแรกที่มาคือ น้ำตกตาดนกเขียน เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม ได้พบอะไรหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติที่มีความสวยงาม ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของจังหวัดบึงกาฬ เราไม่ต้องการแข่งความเจริญกับจังหวัดอื่น ๆ แต่เราต้องการแข่งเรื่องธรรมชาติที่มีความกรีน ความเขียว จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว ที่ยังไม่ได้มาในวันนี้ ขอให้ได้มาเที่ยวในวันหลัง หรือวันต่อ ๆ ไป ที่จังหวัดบึงกาฬของเรา

สำหรับกิจกรรม “วันวาฬพาเที่ยวล่าตราประทับ พิชิต 7 น้ำตกบึงกาฬ – Waterfalls Buengkan Car Rally” เป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยมาสคอตประจำจังหวัดบึงกาฬ “น้องวันวาฬ” (เป็นวาฬ) เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาพิชิต 7 น้ำตกของจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของไทย ได้แก่ น้ำตกถ้ำพระ, น้ำตกเจ็ดสี, น้ำตกตาดวิมานทิพย์, น้ำตกกินรี, น้ำตกถ้วยถ้ำน้อย, น้ำตกถ้ำฝุ่น และน้ำตกตาดนกเขียน

โดยนักท่องเที่ยวจะได้รับตราประทับลงบนหนังสือเดินทางของกิจกรรมทุกครั้งที่ไปน้ำตก 7 แห่งดังกล่าว โดยหากสะสมครบตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป จะมีรางวัลมอบให้นักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถรับหนังสือเดินทาง 7 Waterfalls ได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่น้ำตกทั้ง 7 แห่ง โดยมีระยะเวลาของกิจกรรม ตั้งแต่บัดนี้ – 19 ธันวาคม 2568 นี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 042-492-471

นางสาวปิยอร ทับทอง นักท่องเที่ยว กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าจะมีน้ำตกที่สวยขนาดนี้ ระหว่างเดินเข้ามาก็ได้ยินเสียงน้ำตกตลอดทาง พอถึงน้ำตกแล้วก็รู้สึกอะเมซิงมาก นอกจากนี้การเดินทางเข้ามาก็ไม่ไกล และค่อนข้างสะดวก รถเล็ก รถเก๋ง สามารถเข้ามาได้ บรรยากาศก็ร่มรื่นด้วย

นางสาวบุณยวีร์ อุเทศพรรัตนกุล นักท่องเที่ยว กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่มีกิจกรรมพาเที่ยว ที่สำคัญคือมีพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ประทับตรา ว่า เราได้มาถึงที่น้ำตกแห่งนี้แล้ว พร้อมกับสะสมตราประทับเพื่อแลกของรางวัล วันนี้ได้มาน้ำตกตาดนกเขียน บรรยากาศดีมาก ส่วนตัวเป็นคนบึงกาฬจึงมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าน้ำตกสวยงามทุกฤดูกาลจริง ๆ

ขณะที่ นักท่องเที่ยวอีกราย ระบุว่า ดีใจมากที่มีกิจกรรมนี้ ตนมาครั้งแรก ก่อนหน้านี้ไม่เคยมาเลย ตอนแรกยังสงสัยอยู่ว่า จะสวยไหม แต่พอมาถึงแล้วรู้สึกประทับใจมาก สุดยอด น่าเที่ยว ใครว่างก็เดินทางมาได้เลยที่นี่ สวยมาก น้ำตกตาดนกเขียน ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก สะสมตราประทับครบ 7 แห่ง จะได้ที่พักฟรีด้วย

สำหรับการรับรางวัลสะสมตราประทับครบ 2 แห่ง แลกรับของที่ระลึก กล่องจุ่ม จำนวน 1 ขึ้น ที่จุดบริการนักท่องเที่ยว ณ น้ำตกที่ร่วมแคมเปญแห่งใดแห่งหนึ่ง จ้านวน 77 รางวัล/แห่งสะสมครบ 4 แห่ง แลกรับของที่ระลึก ณ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ เช่น แก้วเก็บความเย็น, ตุ๊กตา, หมอน, ผ้าห่ม, หรือผ้าเช็ดตัว จำนวน 77 รางวัล

สะสมครบ 6 แห่ง แลกรับของที่ระลึก ณ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ ได้แก่ WAN WAL Premium set (วันวาฬพรีเมียมเซ็ต) จ๋านวน 7 รางวัล/ UDRU Premium set (ม.ราชภัฏอุดรธานี) จำนวน 7 รางวัล/ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก จำนวน 7 รางวัล/ ชุดเครื่องนอน จำนวน 7 รางวัล

สะสมครบ 7 แห่ง แลกรับของที่ระลึก กระเป๋าเดินทาง จำนวน 7 รางวัล ณ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขึงกาฬ หรือ แลกรับสิทธิ์ที่พักฟรี 1 คืน (1 ห้อง) จำนวน 7 สิทธิ์ (จำกัดสิทธิ์แลกรับของที่ระลึกเพียง 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น และขอสงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่มาติดต่อรับของรางวัลก่อน จนกว่าของรางวัลจะหมด)

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ 0961464326

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / จ.สุโขทัยขอเชิญชวนเที่ยวงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2568

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อ เวลา 18.00 น. ของวันที่9ตุลาคม.2568ณ บริเวณหน้าวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานการแถลงข่าวงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2568 โดยมีนางฐิติพร ศิริโกศล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย นางสาวสรินรัตน์ เกิดสกุลรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายธีรยุทธ สำราญทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พ.อ.พงศธร นิพภยะ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ท. (ท.) หัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชนและผู้มีเกียรติร่วมในพิธี

การแถลงข่าวในครั้งนี้มีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พล.ต.ต.สถาพร ศรีภิรมย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย นายวสันต์ เทพสุริยานนท์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ดร.เกษร เอมโอด ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย ว่าที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุโขทัย ว่าที่ร้อยเอก

ดร.เทียนชัย ทองวินิชศิลป รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย นางฐิติญา จั่นเอี่ยม วัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย พ.อ.นาวิน ปรีชาพณิชยกุล ผู้จัดการ อพท.สุโขทัย นายศักดิ์เกษม ตันติยวรงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สุโขทัยพัฒนาเมือง จำกัด โดยหลังจากการแถลงข่าวได้แสดงการจุดพลุ บริเวณหลังวัดมหาธาตุอย่างสวยงามสร้างประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน

จังหวัดสุโขทัย กำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี พ.ศ.2568 ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2568 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยสำนักงานจังหวัดสุโขทัย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวและบริการ กิจกรรมหลักเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในด้านการท่องเที่ยวมรดกโลก กิจกรรมย่อย จ้างเหมาประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี พ.ศ.2568 ซึ่งได้ว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี ดี ดีไซน์ 189 เป็นผู้ดำเนินงานจัดกิจกรรมแถลงข่าวงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี พ.ศ.2568

นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่าจังหวัดสุโขทัยจัดงานอย่างยิ่งใหญ่จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยปีนี้เน้นเรื่องการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการคัดแยกขยะ กำหนดสัดส่วนการใช้พื้นที่ไม่ให้แออัดจนเกินไป การจัดการเรื่องฝุ่น รวมทั้งโทนสีที่ใช้ในบริเวณงานสวยงามเข้ากับโบราณสถาน จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกท่านร่วมสัมผัสบรรยากาศแห่งความประทับใจดังคำกล่าว “สุโข สุขี ที่สุโขทัย” ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี พ.ศ.2568 ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2568 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
กิตติ พรดวงจันทร์สุโขทัย

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / สานสัมพันธ์สองฝั่งโขง 🇹🇭🤝🇱🇦 ผู้ว่าฯมุกดาหาร นำคณะร่วมงานบุญประเพณีออกพรรษา–ซ่วงเฮือ ณ สะหวันนะเขต สปป.ลาว

แชร์เนื้อหานี้

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดมุกดาหาร เดินทางไปร่วมงาน บุญประเพณีออกพรรษา–ส่วงเฮือประเพณี ณ นครไกสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

โดยมี นายบุนโจม อุบนปะเสิด เจ้าแขวงสะหวันนะเขต พร้อมผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างแขวงสะหวันนะเขตกับจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งมีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน

ภายในงาน มีการจัดกิจกรรมหลากหลาย ทั้งขบวนแห่บุญออกพรรษา การจัดแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการออกร้าน จำหน่ายสินค้า “หนึ่งเมือง หนึ่งผลิตภัณฑ์” (ODOP) ของแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีการจัด การแข่งขันเรือยาวในแม่น้ำโขง เพื่อสืบสานประเพณีส่วงเฮือของชาวลาว สร้างสีสันและความคึกคักให้กับงาน โดยมีทีมเรือจากจังหวัดมุกดาหารเข้าร่วมแข่งขันประชันฝีพายกับทีมเรือแขวงสะหวันนะเขตด้วย

ผู้ว่ามุกดาหาร #เจ้าแขวงสะหวันนะเขต #ออกพรรษาสะหวันนะเขต #ส่วงเฮือสองฝั่งโขง #แข่งเรือยาวแม่น้ำโขง #นะคอนไกสอ

นพมวิหาน #มุกดาหาร #สะหวันนะเขต #สปปลาว #ODOP #สายใยไทยลาว #ข่าวด่วน #ข่าววันนี้///ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / อบจ. ส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนขยายธุรกิจสู่ท้องถิ่น ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคีเครือข่าย

แชร์เนื้อหานี้

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 เมื่อเวลา 18.00 น วันที่ 30 ส.ค 68 นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ เลขานุการนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)ชุมพร เป็นประธานเปิดงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ณ พรผู้สร้าง ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โดยมีนายพิศิษฐ์ ฤทธิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดระดับอำเภอ ฝ่ายปกครองท้องที่ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน และพี่น้องประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

นายชนะ นาคภู่ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนอำเภอท่าแซะ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ที่ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม
การท่องเที่ยวเชิงการเกษตร และผลักดันให้เกิดการจัดงาน”โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร”

ขึ้นเพราะ อำเภอท่าแซะพรั่งพร้อมด้วยทรัพยากรท่องเที่ยวหลักที่มีความโดดเด่นด้านการเกษตรเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ผลผลิตทางการเกษตร ปัจจุบันมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่เป็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน การท่องเที่ยว ชนบท การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จึงเล็งเห็นถึงจุดเด่นจากภาคการเกษตรนำมาผสมผสานให้เกิดการท่องเที่ยวเที่ยวเชิงเกษตร

จึงร่วมกันจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอท่าแชะ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวชุมชน กระจายรายได้ทางการท่องเที่ยวสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย เพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการ

เกษตร เพิ่มกิจกรรมการมีส่วนร่วมให้ประชาชนได้รู้จักการ ท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการเรียนรู้ การทำการเกษตรที่หลากหลาย การทำการเกษตรที่ปลอดภัย และสร้างความเข้มแข็ง ให้กับท้องถิ่นชุมชน กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 30-31 สิงหาคม

โดยจัดให้มีกิจกรรมทั้งหมด 10 กิจกรรม ประกอบด้วย บูธ ร้าน อาหารจากเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 2. กิจกรรมพาชมสวนเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน 3. กิจกรรมสาธิตการดำนา 4. กิจกรรมการติดตาทุเรียน 5. กิจกรรมสาธิตการทำขนมไทย 6. กิจกรรมสาธิตการคั่วกาแฟ

7. กิจกรรมสาธิตกางเต็นท์ 8. การแสดงศิลปวัฒนธรรมชุมชน และการแสดงดนตรี 9. กิจกรรมเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยว 10. กิจกรรมประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการขยายตัวของการท่องเที่ยวโดยชุมชน นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ได้ติดภารกิจสำคัญ

จึงได้มอบหมายให้ ตนเองมาเป็นประธานพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอท่าแซะ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเป็นประธานซึ่งขอชื่นชม เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรท่าแซะ หม่อนไหมชุมพร

ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรชุมพร อำเภอท่าแซะ
สำนักงานพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอท่าแชะ ภาคีเครือข่าย และผู้นำชมชนในอำเภอท่าแซะ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ในการผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ

เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ของอำเภอท่าแซะ สำหรับการจัดงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอท่าแซะครั้งนี้โดยคาดหวังว่า จะสามารถสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป ได้รู้จักการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ของอำเภอท่าแชะ และจังหวัดชุมพร เพิ่มมากยิ่งขึ้น

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / “นากรักมาก” เพลงประกอบภาพยนตร์ “นากรักมาก ม๊ากมาก”จาก “ญดา นริลญา”

แชร์เนื้อหานี้

“นากรักมาก” เพลงประกอบภาพยนตร์ “นากรักมาก ม๊ากมาก” จาก “ญดา นริลญา” ที่อยากบอกว่ารักม๊ากมาก แต่กลัวจะเสียเธอไปนี่คือเพลงที่เป็นตัวแทนของความรักม๊ากมาก แต่ไม่อาจพูดออกมาให้เธอได้ยิน “นากรักมาก” เพลงประกอบภาพยนตร์ “นากรักมาก ม๊ากมาก” ที่ได้นางเอกสาวมากฝีมืออย่าง ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร

นอกจากจะมาเป็นแม่นากเวอร์ชันใหม่และยังมารับหน้าที่เป็นคนขับร้องด้วยตนเอง ถ่ายทอดความรู้สึกของนากที่มีต่ออ้ายมาก ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรักนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนไป ซึ่งญดาได้ให้สัมภาษณ์ถึงเพลงนี้ไว้ว่า “จริง ๆ เรื่องราวและเนื้อหาเพลงนี้ค่อนข้างเศร้า แต่ญดาอยากตีความให้น้ำเสียงร้องเพลงนี้ออกมาไม่เศร้ามาก อยากให้ยังฟังและรับรู้ได้ถึงความรักที่สวยงามและมีความผูกพันอยู่”

“นากรักมาก ม๊ากมาก” ภาพยนตร์รวมตัวในรอบ 15 ปี ของแก๊งตลกตัวพ่อ “หม่ำ, เท่ง, โหน่ง” ฝีมือการกำกับครั้งแรกของ โหน่ง ชะชะช่า เมื่อผู้กำกับหน้าเก่าไฟแร๊ง (โหน่ง ชะชะช่า) ร่วมมือกับผู้ช่วยผู้กำกับคู่มือคู่เท้า (เท่ง เถิดเทิง) ลุยสร้างหนังรีเมคจากตำนานรักอมตะ นางนาก

หวังเขย่าวงการให้สะเทือน! แต่เรื่องกลับหลุดบทไปไกล เมื่อ นางนากตัวจริง (ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร) โผล่มาเล่นเอง! พร้อมภารกิจตามหารักแท้ ที่กลับชาติมาเกิดเป็นซุปตาร์ขวัญใจมหาชน! (คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์) มื่อกองถ่ายมีผีจริงร่วมจอ โปรเจกต์นี้จะปังจนเป็นตำนาน หรือพังจนเป็นตำนานกันแน่!?

แฟน ๆ เตรียมตัวไปพิสูจน์ความโรแมนติกม๊ากมากและคอมเมดี้ม๊ากมาก ใน “นากรักมาก ม๊ากมาก” เข้าฉายวันที่ 24 กรกฏาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ นากรักมาก เพลงประกอบภาพยนตร์ นากรักมาก ม๊ากมาก

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐนิวส์ / เกษตรนาน้อย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรผู้ปลูกมะขาม ในพื้นที่ต.เชียงของ อ.นาน้อย จ.น่าน

แชร์เนื้อหานี้

สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรผู้ปลูกมะขาม ในพื้นที่ตำบลเชียงของ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เพื่อให้คำแนะนำตามหลักการทางวิชาการ เกี่ยวกับการดูแลรักษาไม้ผล

เช่น มะขาม เนื่องด้วยสถานการณ์สภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ อาจส่งผลต่อการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชในมะขาม ทั้งนี้ผลผลิต มะขามส่วนใหญ่อยู่ในระยะสำคัญคือช่วง

กำลังออกดอกและเริ่มติดฝักอ่อน (ระยะฝักดาบ) จึงได้เน้นย้ำให้เกษตรกรหมั่นสำรวจแปลง และเฝ้าระวังการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชที่อาจเข้าทำลายผลผลิตในระยะนี้อย่างใกล้ชิด

เรื่องและเรียบเรียง /นางสาวบัณฑิตา เผือทะนา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ภาพ/ข่าว/เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอนาน้อย
/บุญยงค์ สดสอาดนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน

สื่อรัฐทีวี*สื่อรัฐทีวี /สกทม. จัดกิจกรรมเสวนาการค้า “ทิศทางการส่งเสริมท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงและแขวงสะหวันนะเขต”

แชร์เนื้อหานี้

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น.​ นายนิกูล ธนวรเมธ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร​ เป็นประธานพิธีเปิดและร่วมเสวนาการค้า “ทิศทางด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหารอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงและแขวงสะหวันนะเขต” ณ​ ห้องประชุมโรงแรมเคียงโขง เรสซิเดนซ์

โดยมีนางสาวอรกัญญา สะภา นายกสมาคมการค้าท่องเที่ยวมุกดาหาร กล่าวรายงาน และมีนายปัฐม์ ปัทมจิตร​ กงสุลใหญ่​ ณ​ แขวงสะหวันนะเขต, นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อํานวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานนครพนม, ท่านมงกุดเพด วงพะจัน​ รองหัวหน้าแผนก

แถลงข่าว ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเสวนา โดยภายในงานมีสมาชิกสมาคมการค้าท่องเที่ยวมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าร่วมงาน

โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อกำหนด แผนปฏิบัติการกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง วิเคราะห์ศักยภาพและโอกาสการค้า ยกระดับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ ผ่านมุมมอง ผู้บริหาร

องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มจังหวัดลุ่มน้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือสร้างความสัมพันธ์ไมตรีอันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ส่งเสริมความร่วมมือสร้างความสัมพันธ์ไมตรีอันดีด้านวัฒนธรรมเมืองคู่แฝดสองฝั่งโขง

นายนิกูล ธนวรเมธ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ย้ำว่าทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวมุกดาหาร มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมมุมมอง แนวคิดจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่บริบทสำคัญจัดทำแผนปฏิบัติการ จัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง วิเคราะห์ศักยภาพและโอกาสการค้า ยกระดับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนา

บุคลากรด้านการท่องเที่ยวอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนด้านการท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มจังหวัดอนุภาคลุ่มน้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยภาคเอกชน เตรียมความพร้อมตั้งรับ การขยายการรองรับ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูการท่องเที่ยวชีวิตลุ่มน้ำโขง พื้นที่ส่งเสริมภาคการค้า ภาคการลงทุน และภาคบริการ ด้านอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว ทั้งด้านศิลปะวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร เชื่อมโยงมิตรภาพเครือข่ายจังหวัดท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

นางสาวอรกัญญา สะภา ได้เข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมการค้าท่องเที่ยวมุกดาหาร(คนใหม่)​ พร้อมกล่าวถึงวิสัยทัศน์ในฐานะนายกสมาคมการค้า คือ“ร่วมมือ ร่วมใจ ยกระดับการท่องเที่ยวมุกดาหารสู่ความยั่งยืน ด้วยการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ เชื่อมโยงภูมิภาค

สร้างมาตรฐาน และส่งเสริมการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ”โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สร้างกิจกรรมใหม่ๆ รองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้พร้อมแข่งขันในเวทีที่กว้างขึ้น

ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

สื่อรัฐทีวี-สื่อรัฐนิวส์ / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดงาน สืบสานวัฒนธรรมไตลื้อโลก ประจำปี 2568 ณ จังหวัดน่าน

แชร์เนื้อหานี้

ที่สนามที่ว่าการอำเภอปัว จังหวัดน่าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน เปิดงานสืบสานวัฒนธรรมไตลื้อโลก ประจำปี 2568 โดยมีนายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายกสมาคมไตลื้อต่างประเทศทั้ง 3 ประเทศ นายกสมาคมไตลื้อจาก 7 จังหวัดภาคเหนือ และจาก 7 อำเภอของจังหวัดน่าน

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ให้การต้อนรับ โดยมี ร้อยเอกอดุลย์ อานุภาพบรรเจิด ประธานชมรมไตลื้ออำเภอปัว รักษาการประธานชมรมไตลื้อจังหวัดน่าน กล่าวรายงาน

งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชนศึกษาประวัติชาติพันธุ์ไตลื้อ อนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมไตลื้อ ให้คงไว้กับสังคมหมู่บ้านอย่างเข้มแข็ง ส่งเสริมพัฒนาความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของคนไตลื้อให้ดีขึ้น สานสัมพันธ์ชาติพันธุ์ไตลื้อ ระหว่าง ตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอปัว จังหวัดน่าน ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

กลุ่มชาติพันธุ์ไตลื้อกระจายอยู่ใน 7 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดน่าน มีชาติพันธุ์ ชาวไตลื้อกระจายอยู่ ทั้งหมด 33 หมู่บ้าน นับเป็นกลุ่มที่เข้มแข็ง มีความหลากหลายของวัฒนธรรมประเพณีไตลื้อ โดยในปีนี้ ได้มีการสืบสานสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องไตลื้อ จากต่างประเทศ ต่างจังหวัด และต่างอำเภอ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อสืบสานให้เข้มแข็งคู่กับจังหวัด และประเทศไทยต่อไป

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปีนี้ รัฐบาลได้มีนโยบาย “ปีทองแห่งการท่องเที่ยว” ปรับรูปแบบเมืองรองการท่องเที่ยวเป็น “เมืองน่าเที่ยว” ทั่วไทย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเป็นเรือใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และการจัดงานไตลื้อโลก ในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี

ในการนี้ได้มีการเชื่อมสายสัมพันธ์กับพี่น้องไตลื้อจากสิบสองปันนา ประเทศจีน, ประเทศเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมทั้งพี่น้องไตลื้อจาก 7 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง, แพร่ และน่าน ได้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่นในรูปแบบขบวนแห่วิถีชีวิต การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมของประเพณีไตลื้อ

สำหรับการจัดงานไตลื้อโลก ได้รับสนับสนุนงบประมาณจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน และภาคีเครือข่าย จัดขึ้นระหว่าง 16-18 พ.ค.นี้/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน